คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter XIV
วันนี้ทั้งวันริทได้พักผ่อนอย่างที่อยากทำเต็มที่เริ่มต้นนอนตื่นสายก่อนจะสั่ง KFC มากินเป็นมื้อเที่ยงแล้วก็กลับไปนอนคลุกตัวบนที่นอนอีกครั้งทั้งที่ยังไม่เปลี่ยนชุดแล้วดูทีวีเช็คข่าวสารต่าง ๆ ให้ทันเหตุการณ์บ้างเพราะช่วงที่เร่งถ่ายละครเวลาจะพักผ่อนแทบจะไม่มีเลย...แล้วยิ่งมีเรื่องที่ชวนให้ปั่นป่วนหัวใจอย่างเมื่อคืนด้วยก็ยิ่งทำให้รู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก
“แล้วตกลงหมอนั้นจะมาหรือเปล่าเนี่ย” พอหลุดปากพูดถึงคนในห้วงความคิดร่างบางก็รู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวจนต้องรีบลุกไปอาบน้ำไล่ความวุ่นวายใจที่มี...ไม่มาก็ดี...ใครสนกันเล่า
เสียงกริ่งหน้าประตูห้องดังขึ้นก็ทำให้ใจใครบางคนเต้นแรงขึ้นมาด้วย...มันมาจริง ๆ ด้วยว่ะ...
“แกร๊ก...” ร่างบางที่เตรียมใจไว้แล้วว่าจะเจอหน้าคนที่ทำให้คิดมากแต่ผิดคาดเพราะดันเจอดอกไม้ช่อใหญ่แทน
“อะไรเนี่ย” ริทบ่นแก้เขิน...ก่อนคนที่เป็นเจ้าของช่อดอกไม้สวยจะโผล่หน้าหล่อออกมาให้เห็น...ดอกไม้อีกแล้วเหรอ
“สวยมั้ย” นภัทรเอ่ยปากถามยิ้ม ๆ เมื่อเห็นใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสี
“ก็ดี...จะเอาไปให้เจ้าของงานเหรอ” ตอบเสร็จก็หันหลังเดินเข้าห้องไป
“ไอ้เซนมันเป็นผู้ชาย...นายลืมไปแล้วรึไง” ร่างสูงตอบไปแบบกวน ๆ คนฟังแค่ชะงักแต่ก็ไม่หันหน้ากลับมา...ริทเดินเข้าไปหยิบของใช้ส่วนตัวแล้วก็ออกมา
“อ่ะ...สำหรับนาย” ในที่สุดดอกไม้เจ้าปัญหาก็ถูกยื่นให้อย่างเป็นทางการพร้อมรอยยิ้มที่จริงใจจากคนให้
“ห๊ะ...ให้ชั้น”�นภัทรไม่พูดซ้ำนอกจากส่งสายตาหวานให้แทนริทดูจะงง ๆ กับการกระทำนั้นแต่ก็รับมันเอาไว้
“ขะ...ขอบใจ” ร่างบางตอบเบา ๆ ก่อนจะก้มมองช่อดอกไม้ในมือเพราะไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า...ทั้งสองยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเพียงแต่สายตาต่างคนต่างมองไปคนละที่นภัทรที่จ้องคนตัวเล็กที่กำลังเขินเลยเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
“นายหิวไหม...ชั้นจองโต๊ะเอาไว้ด้วย” นภัทรเอ่ยถาม
“กินได้...โรงแรมเพื่อนนายอยู่ไกลมั้ยหล่ะ” ริทตอบแล้วก็เอาดอกไม้ไปวางก่อนทำท่าจะเดินนำไป
“เราแวะกินข้าวกันก่อนล่ะกัน” ร่างสูงตอบแล้วก็เดินตามออกมา...คนฟังทำท่าจะหันมาถามนภัทรเลยอธิบายให้ริทเข้าใจ
“งานตอนนี้มีพวกนักข่าวมาด้วย...ไว้เราค่อยไปตอนงานเลี้ยงวันเกิดไอ้เซนมันล่ะกัน...ปาร์ตี้ส่วนตัว” ร่างบางพยักหน้าเข้าใจแต่ก็ยังสงสัยไม่หาย
“แล้ว...ร้านที่นายจองคนไม่เยอะเหรอ” ริทถามเพราะกังวลเล็กน้อย
“รับรองร้านนี้พิเศษสุด ๆ” นภัทรยิ้มแล้วก็ดึงริทที่ทำหน้าไม่เชื่อใจให้เดินตามไป
และร้านพิเศษสุด ๆ ก็ไม่ใช่ที่ไหนร้านประจำของพวกเขาทั้งสองคน...ดาดฟ้าคอนโดริทนั้นเองเพียงแต่คราวนี้พิเศษกว่าทุกครั้งเพราะคนเจ้าแผนการตั้งใจเตรียมไว้ให้ซุปตาร์ร่างเล็กเต็มที่� บรรยากาศสวนยามค่ำคืนที่ถูกเนรมิตให้สวยงามด้วยดวงไฟและดอกไม้มากมายด้วยฝีมือการตกแต่งจากทีมตกแต่งงานเลี้ยงประจำโรงแรมของเพื่อนเซน
“เยอะไปมั้ย” ร่างบางที่อึ้งกับภาพตรงหน้าตั้งแต่แรกเห็นเอ่ยปากกัดคนข้าง ๆ
“แล้วชอบมั้ยหล่ะ” นภัทรยิ้มหวานให้แทน
ริทไม่ตอบแต่ก็เดินตามบริกรส่วนตัวที่จ้างมาเป็นพิเศษสำหรับดินเนอร์มื้อพิเศษมื้อนี้...โต๊ะอาหารแสนโรแมนติคสำหรับสองที่ถูกจัดวางไว้ใต้ซุ่มดอกไม้ที่สวยงามแถมยังจุดเทียนไว้รอบ ๆ อีก...คราวนี้ริทรู้สึกแล้วจริง ๆ ว่า...
“เยอะ!!!” ร่างบางบ่นก่อนจะนั่งลง
“555...พาซุปตาร์มาเดททั้งที...น้อยกว่านี้ได้ไงจริงมั้ย ^^” นภัทรหัวเราะอย่างชอบใจกับอาการเหวี่ยงแก้เขินของคนตรงหน้า...แก้มใสถูกแสงเทียนส่องกระทบทำให้ใบหน้าหวานดูน่าหลงใหลมากจนนภัทรยากจะละสายตาออกมาได้
“กินไปซิ...มองอยู่ได้” ริทแยกเขี้ยวใส่คนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องอยู่ได้...นี่เรากำลังยอมให้หมอนี่จีบอยู่ใช่มั้ยเนี่ย... >_<
“อิ่มแล้ว” นภัทรพูดจากใจจริง
“ประสาท!” คนที่เขินจนทำอะไรไม่ถูกเลยก้มหน้าก้มตากินให้เร็วที่สุด...ไม่นานนักอาหารทุกอย่างก็ได้เสิร์ฟจนครบแต่ทั้งสองก็ยังนั่งคุยกันอยู่อีกสักพัก
“ไปกันเลยมั้ย...จะได้กลับไม่ดึกมากด้วย” นภัทรบอกเมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้วก่อนจะลุกขึ้น
�
“ก็ไปดิ...”
ปาร์ตี้วันเกิดเจ้าของโรงแรมหรูถูกจัดที่ห้องอาหารที่สูงที่สุดของโรงแรมซึ่งเป็นพาโนรามาวิวทั้งหมดแม้กระทั่งครัว...แขกที่มาล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนสนิทไม่ก็ลูกค้าคนสำคัญของทั้งเซนและตองทั้งนั้นสองตระกลูใหญ่จะดองกันทั้งทีเพื่อนฝูงที่จะมาร่วมยินดีก็มากเป็นธรรมดา
“เป็นไงบ้างค่ะ” อินทุกรในชุดราตรีสีแดงตัดกับผิวขาวราวน้ำนมของเธอเดินมาหาคู่หมั้น
“เยี่ยมไปเลยครับ...ขอบคุณมาก” เซนตอบก่อนจะหอมแก้มใสนั้นแทนการขอบคุณสำหรับงานเลี้ยงวันเกิดที่เธอเป็นธุระจัดการให้และมันก็ออกมาเยี่ยมทีเดียว
“ไม่เป็นไรค่ะ...สำหรับที่รักของตอง” หญิงสาวยกมือขึ้นคล้องรอบคอคนรักอย่างไม่แคร์สายตาใคร
“อะแฮ่ม...สุขสันต์วันเกิดนะเว่ย” เก่งหนุ่มหล่อที่ผิวขาวไม่แพ้สาวสวยตรงหน้าทักขึ้น
“อ้าว...ไอ้เก่งมานานยัง” เซนหันมาทักเพื่อนรักพร้อมกับตอง...ทั้งคู่พอคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างแล้ว
“แล้วไอ้กันมายังวะ...เห็นมึงบอกว่ามันจะพามาเปิดตัวด้วยนี่หว่า” เก่งถามหาเพื่อนรักอีกคนที่เจอหน้ากันจนนับครั้งได้เลยเพราะมันอ้างลูกเดียวว่าทำงาน...แต่มีเหรอที่เพื่อนทั้งสองจะเชื่อเรื่องเดียวที่ทำให้มันหายหน้าไม่มาซ่าก็คงเป็นเพราะไอ้เพื่อนคนนี้คงเจอคนที่ใช่เข้าแล้ว
“มันบอกว่าอยู่ข้างล่างแล้ว...กูแทบรอไม่ไหวเลยว่ะ...ยิ่งเห็นมันจริงจังขนาดนี้ยิ่งอยากรู้” เพื่อนรักทั้งสองคุยกันไปเรื่อย...แต่คนที่รู้สึกอยากเจอหน้าบุคคลที่กำลังถูกพูดถึงอยู่นั้นมากที่สุดกลับทำเป็นยืนยิ้มอย่างไม่สนใจ
ภายในใจของหญิงสาวกับเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ เพราะเธออยากเจอคนที่ทำให้เธอถูกปฎิเสธเป็นครั้งแรกได้...เธอเพียงแค่อยากรู้เท่านั้นคนนั้นจะเหนือกว่าเธอมากแค่ไหนเพราะตองเองก็มั่นใจว่าเธอเพรียบพร้อมไม่ด้อยไปกว่าใคร...
ส่วนเรื่องนภัทรนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเธออีกต่อไปเพราะความรักที่เซนมีให้เธอตลอดมาทำให้เธอลืมผู้ชายคนอื่นไปหมดแล้วแต่เรื่องความสวยใครจะไปยอมได้...และไม่นานนักคนที่กำลังถูกเพื่อนรักนินทาก็เดินเข้ามาพร้อมกับ...
“เฮ้ย...นั้นมันดารานี่หว่า...แล้วไหนสาวคนที่มึงว่าว่ะ” เก่งทักเป็นคนแรกเพราะหนุ่มสังคมอย่างเขาจำหน้าดาราดัง ๆ ได้แน่นอน
“ดาราที่ไหนว่ะ...นั้นมันหลานไอ้กันไม่เหรอ...ตองจำได้ใช่มั้ย” เซนที่มองเพื่อนรักที่กำลังเดินมาถามแฟนสาว
“ตองว่าไม่ใช่หลานแล้วหล่ะค่ะ...นั้นน่ะ ริท ไงค่ะ...คนดังเลยหล่ะค่ะ” หญิงสาวนึกออกทันทีที่เก่งเอ่ยปาก...ว่าแล้วเชียวทำไมถึงรู้สึกคุ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูกมิน่าวันนั้นเด็กนั้นดูดีชะมัด
“สุขสันต์วันเกิดนะ...” นภัทรตบบ่าเพื่อนรักเจ้าของงานก่อนจะยักคิ้วให้อีกคนที่พยายามส่งคำถามผ่านทางสายตาถึงคนที่เขาพามาด้วย
“ตอง...ไอ้เก่ง” นภัทรทักอีกสองคนที่เหลือก่อนจะสังเกตเห็นอาการแปลก ๆ ของเก่ง
“อ้อ...นี่ริท� ริทนี่เซนกับตองที่เราเจอกันวันนั้นและนี่ไอ้เก่งหัวงูประจำรุ่น” ร่างบางที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งสามพยักหน้าให้ก่อนจะเอ่ยทักตามมารยาท
“สวัสดีครับ” ริทยิ้มทักทายเจ้าของงานแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าไม่มีของขวัญมาให้เจ้าภาพด้วยนี่หน่า...น่าขายหน้าที่สุด!
“แล้วไหนวะ...คนที่มึงจะพามาเปิดตัว” คำถามตรงประเด็นดังขึ้นจากเก่ง
“....” ฉ่า...เสียงหน้าหวานที่ร้อนผ่าวถ้ามันดังได้อ่ะนะ...สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือนิ่งไว้ริทนิ่งไว้...ร่างบางได้แต่ท่องในใจ...ส่วนคนถูกถามอึ้งไปเล็กน้อยที่เพื่อนเปิดประเด็นไม่ทันให้ได้ตั้งตัวรอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฎบนใบหน้าคมเข้มก่อนที่เจ้าตัวจะเอื้อมมือมากุมมือเรียวของคนข้าง ๆ เอาไว้
“มึงพูดอะไรของมึง...วันนี้งานวันเกิดไอ้เซนนะโว้ย...ต้องสนใจเจ้าภาพสิวะ” คำพูดเปลี่ยนประเด็นของร่างสูงทำให้ทุกคนเงียบแต่นั้นก็เพราะการกระทำที่แทนคำตอบของคำถามที่เก่งถามนั้นแหละเป็นต้นเหตุ...ไหนจะอาการเขินของร่างบางข้าง ๆ ที่ตกใจไม่แพ้ทุกคนในวงสนทนาที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกฉวยมือไปกุมต่อหน้าเพื่อนสนิทของอีกฝ่าย
“จริงมั้ย ^^” แค่นั้นเหมือนจะยังตอบคำถามเก่งไม่พอนภัทรดันหันมายิ้มหวานถามคนข้าง ๆ อีก...รู้อยู่เต็มอกว่าที่เขาทำน่ะไอ้เพื่อนทั้งสองคงรู้นานแล้วแต่เขาแค่อยากแกล้งริทเท่านั้นเอง
“อะ...เอ่อ...นั้นสิ” ริทตอบแล้วก็พยายามดึงมือออกแต่ก็ไม่มีผลเพราะมือใหญ่กระชับแน่น
“ใช่ ๆ ...งั้นเชิญคุณริทตามสบายนะครับ...ขาดเหลืออะไรก็ใช้ไอ้กันได้เต็มที่ครับ” เซนรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะเริ่มเห็นใจคนน่ารักที่ถูกไอ้เพื่อนตัวดีประกาศความเป็นเจ้าของต่อหน้าต่อตาเพื่อนสนิท
“ใช่ค่ะ...สนุกให้เต็มที่นะคะ...” ตองรู้สึกหน้าชาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้ว่าคนที่เหนือกว่าเธอคือ...ผู้ชาย!!! แถมไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอีกต่างหากเป็นถึงดาราดังยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกจนเธอต้องละสายตาจากวงสนทนาก่อนดวงตาคู่สวยจะมองเห็นอะไรบางอย่าง...
“เดี๋ยวตองมานะคะ” จู่ ๆ สายตาของเธอก็หันไปเจอใบหน้าที่คุ้นเคยเข้าให้จนต้องรีบขอตัวเข้าไปจัดการก่อน
ชายหนุ่มรูปหล่อที่กำลังจ้องร่างบางไม่วางตามาตั้งแต่เข้างานแล้วจนในที่สุดเธอก็รู้ตัวสักทีว่าเขากำลังรอคอยเธออยู่...
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ...คุณกลับมาเมืองไทยนานแล้วเหรอ” ตองเดินเข้ามาทักทายชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตัวเองอยู่ด้านในสุดของเคาน์เตอร์บาร์หรู
“ก็นานพอที่จะรู้ว่า...คุณหมั้นแล้ว” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับเอื้อมไปจับมือเรียวที่ประดับด้วยแหวนเพชรเม็ดงามขึ้นมาจูบเบา ๆ อย่างคุ้นเคย
“วีค่ะ...เราอย่ามาพูดถึงอดีตเลยค่ะ...ตองว่าเรามาฉลองให้กับอนาคตที่ดีกว่าของตองดีมั้ยค่ะ” หญิงสาวดึงมือออกก่อนที่จะมีคนเห็นแล้วก็ส่งสัญญาณให้บาร์เทนเดอร์
“อดีตที่เต็มไปด้วยความทรงจำดี ๆ น่ะเหรอ...ผมลืมไม่ได้หรอก” ปฐวีตอบพลางนึกถึงเรื่องราวตื่นเต้นที่ทั้งสองคนเคยมีร่วมกัน...เครื่องดื่มสีสวยสองแก้วถูกนำมาเสิร์ฟตรงหน้าทั้งคู่ก่อนที่ปฐวีจะหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้หญิงสาว
“งั้นเรามาสนุกกันเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ย...ถือซะว่าเห็นแก่ความหลังของเรา” พูดจบชายหนุ่มก็ปล่อยให้สิ่งนั้นค่อย ๆ จมลงไปในแก้วทั้งสองใบ
“อย่าดีกว่าค่ะ...ลืมไปแล้วเหรอค่ะว่าตองหมั้นแล้ว” เธอตอบก่อนจะลูบแขนอีกฝ่ายเบา ๆ
“คุณสนใจหมอนั้นมากขนาดนั้นเลยเหรอ” นิ้วเรียวไล้ไปตามมือของอีกฝ่าย...ความรู้สึกที่แสนจะคุ้นเคยหวนมาให้เธอนึกถึงถ้าคนตรงหน้าไม่รู้ใจเธอจริงทั้งคู่คงไม่สนุกด้วยกันมาตลอดสามปีที่เธอเรียนอยู่เมืองนอกหรอก
อินทุกรครุ่นคิดก่อนจะได้ยินเสียงนุ่มของนภัทรที่เดินมาสั่งเครื่องดื่มให้ใครบางคนที่เธอแพ้...รอยยิ้มหวานฉายบนใบหน้าสวยก่อนที่เธอจะดึงมือกลับแล้วก็เสนอทางเลือกที่สนุกและสะใจกว่า
“ตองว่าเราเก็บมันไว้เป็นอดีตเหมือนเดิมแหละดีแล้ว...แต่ตองมีเรื่องสนุกกว่านั้นให้คุณอีกค่ะ” หญิงหันมาสบตาคู่สนทนาอีกครั้งก่อนจะกระซิบสักพักแล้วก็ยิ้มให้อีกฝ่ายที่ทำหน้าแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน...ก่อนที่ปฐวีจะยิ้มออกมา
“เต็มที่นะคะ...ไม่ต้องเกรงใจ” อินทุกรยิ้มให้เป็นการบอกลาแต่ก็ไม่วายแอบรู้สึกหวั่น ๆ กับสิ่งที่เธอบอกกับปฐวีไป...ช่วยไม่ได้คุณทำชั้นก่อนนะกัน...
“เบื่อยัง” เสียงนุ่มเอ่ยถามขณะเดินเอาเครื่องดื่มที่คู่เดทสั่งมาให้
“นิดหน่อย...แต่ก็โอเค” ริทตอบไปตามตรงเพราะเจ้าตัวรู้สึกเพลิดเพลินอยู่กับบรรยากาศที่ครึกครื้นและวิวสวยตรงหน้า
“อีกเดี๋ยวก็คงตัดเค้กแล้วหล่ะ...ตอนนั้นเราค่อยไปอวยพรไอ้เซนแล้วค่อยกลับดีมั้ย” นภัทรถามอย่างอ่อนโยนเพราะเขารู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นนี้ที่เขาจับมืออีกฝ่ายต่อหน้าเพื่อนสนิทแถมริทเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะปฎิเสธอะไร...หมอนี่มันจะเข้าใจมั้ยว่ะว่าที่เขาทำอย่างนั้นมันหมายถึงอะไร
ทั้งสองคุยอะไรกันอยู่สักพักนึงก่อนที่เก่งจะเดินเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน
“แอบมาหวานกันอยู่ตรงนี้เอง...ขอยืมตัวไอ้กันแป๊บนะครับริท” คนมาใหม่เดินมากอดคอเพื่อนรักแล้วก็เอ่ยปากขึ้น
“ตามสบาย” ร่างบางตอบด้วยทีท่าไม่ใส่ใจ...เล่นเอานภัทรหมั่นไส้...เดี๋ยวเหอะทีเมื่อกี้ยังพูดกันดี ๆ อยู่เลยนะส่วนคนฟังอย่างเก่งก็ออกอาการงง ๆ กับความเย็นชาของริทแต่สายตาที่มองมานี่สิ...นี่ตกลงมันเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ยเนี่ย
เก่งกอดคอเพื่อนรักออกไปโดยที่นภัทรยังไม่ได้พูดอะไรทำแค่เพียงขยับปากบอกอีกฝ่ายที่เริ่มหน้าบึ้งนิด ๆ ว่า... ‘เดี๋ยวมานะ’ ริทที่กำลังรู้สึกเหมือนจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวกลับรู้สึกดีขึ้นมาทันที...แต่ร่างบางก็อยู่คนเดียวได้ไม่นาน
“ริทคะ...ได้เวลาแล้วค่ะ” อินทุกรยิ้มหวานให้ก่อนจะฉวยข้อมือบางให้เดินตาม
“เวลาอะไรครับ” ริทถามขณะเดินตามอีกฝ่ายไปด้วย...เพราะยังไงผู้หญิงคนนี้ก็คือคู่หมั้นเจ้าของงานร่างบางเลยเดินตามไปโดยไม่คิดอะไร
“ก็เวลาเซอร์ไพรส์ไงค่ะ...อย่าบอกใครนะคะ” ตองบอกแค่นั้นแล้วก็พาร่างบางเดินออกไปจากงานเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกตนอกจากปฐวี
ทั้งสองคนมาหยุดในห้องพักสุดหรูของโรงแรมซึ่งริทเองก็เข้าใจว่าหญิงสาวจะเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่มเลยพามาแอบที่นี่และอีกเดี๋ยวคนอื่น ๆ รวมทั้งหมอนั้นก็คงจะตามมา
“แล้วคนอื่นหล่ะครับ” ริทเอ่ยปากถามเมื่อเห็นว่าทุกคนยังไม่ตามมา
“กำลังตามมาค่ะ...ริทเป็นแขกพิเศษของกันจะให้รอมาพร้อมคนอื่นได้ยังไงค่ะ...งั้นเเดี๋ยวตองไปบอกให้กันตามมารวมกันที่นี่นะคะ...รอแป๊บนึงค่ะ” รอยยิ้มหวานที่ดูจริงใจจากตองทำให้ริทรู้สึกว่าอิจฉานภัทรขึ้นมาเพราะมีเพื่อนดี ๆ หลายคนไม่เหมือนเขา...ที่มีแค่พี่หนึ่งและก็พี่เบียร์เท่านั้น
“โอเคครับ...เอ่อ...แล้วมีอะไรให้ริทช่วยมั้ยบ้างครับ” ร่างบางรู้สึกเกรงใจเลยออกปากบ้าง
“แค่ริทมา...ตองกับเซนก็ดีใจมากแล้วค่ะ...ทำตัวตามสบายนะคะ” พูดจบอินทุกรก็เดินออกไปทิ้งให้ร่างบางเดินเล่นอย่างสบายใจ
“เต็มที่นะคะ...และก็หวังว่าเราคงเจอกันเป็นครั้งสุดท้ายค่ะวี” พูดจบเธอก็ค่อย ๆ ใส่คีย์การ์ดห้องเพนท์เฮ้าส์ที่เธอเตรียมไว้สำหรับฉลองหลังปาร์ตี้ในกระเป๋าสูทให้ปฐวี
“คืนนี้มึงก็อย่าหักโหมมากนะเว้ยยย” สามหนุ่มเดินคุยกันอย่างออกรสออกชาติกลับเข้ามาในงานเพราะเมื่อครู่ทั้งเซนและเก่งต่างทนไม่ไหวเลยลากตัวเพื่อนรักไปสอบปากคำซะหน่อย...กว่าจะง้างปากมันออกมาได้ก็หมดไปหลายแก้วเหมือนกัน
“มึงก็อย่าแซวให้มากนัก...คราวนี้กูจริงจัง” นภัทรตอบด้วยสีหน้าที่มั่นคงอย่างที่เก่งและเซนไม่เคยเห็นมาก่อน
“แล้วเค้าตกลงกับมึงแล้วรึยังหล่ะ” เก่งถามขึ้น
“กูว่า...ไอ้กันมันต้องทำได้แน่” แต่เซนเป็นคนตอบแทนให้ซึ่งนภัทรเองก็รู้สึกขอบใจเพื่อนทั้งสองคนมากที่เข้าใจแถมยังให้กำลังใจก่อนที่สายคมจะมองหาคนน่ารัก
“ไปไหนของเขาวะ” นภัทรบ่นเบา ๆ แต่เพื่อนทั้งสองก็ได้ยินอยู่ดีก่อนจะช่วยมองหาด้วยอีกแรง
“ห้องน้ำมั้ง...หรือไม่ก็โดนสอยไปแล้ว” เก่งแกล้งแซวแต่คนถูกแซวกลับเลือดร้อนขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวมึงจะโดน...ไอ้เก่ง...เดี๋ยวกูขอตัวไปหาริทก่อนนะ” พูดจบนภัทรก็รีบเดินไปตามหาริททันที...เผลอไม่ได้เลยนะ!!
พอได้ยินเสียงประตูที่ดังขึ้นริทที่ตั้งใจจะบ่นคนที่ทิ้งให้รอคนเดียวตั้งนานรีบเดินออกมากลับเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นเหมือนเดิมก่อนจะแปลกใจว่าคนที่ยืนตรงหน้าไม่ใช่นภัทร...
“อ้าว...” ร่างบางพูดแค่นั้นเพราะไม่ใช่คนที่อยากคุยด้วย...แต่อีกฝ่ายกลับส่งยิ้มมาให้แล้วก็เดินเข้ามาหาช้า ๆ
“หวัดดีครับ...คุณริท” เสียงที่ฟังดูแล้วเยือกเย็นจนริทรู้สึกไม่ค่อยดีเลยคิดว่าจะออกไปรวมตัวกับคนอื่นดีกว่าหรือไม่ก็กลับคอนโดเลย...รมณ์เสียให้รออยู่ได้
“ขอโทษครับ...หลีกทางหน่อย” ริทเอ่ยเสียงแข็งเพราะอีกฝ่ายกลับไม่ยอมหลบ
“เดี๋ยวสิครับ...ปาร์ตี้ยังไม่เริ่มเลย” ใบหน้าหล่อฉายรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจและริทก็รู้สึกไม่ชอบหน้าหมอนี่เอาซะเลย
“หลีก...ผมรีบ!!!” เมื่อพูดกันดี ๆ แล้วไม่รู้เรื่องร่างบางก็ไม่คิดที่จะเกรงใจอยู่แล้ว...พูดจบริทก็ตั้งใจจะเดินชนอีกฝ่ายทันทีอยากไม่หลบเองนะ...แต่ไม่ทันได้ชนอีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าใสทันที
“เฮ้ยยย...” ริทร้องอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอคนแบบนี้...แต่ไม่ทันได้ชกหน้าแก้แค้นก็รู้สึกเย็น ๆ บนแก้มตรงที่ไอ้เลวนั้นจับ
“อะ...อะไรน่ะ...สกปรก!!!” ร่างบางรีบเช็ดหน้าอย่างรวดเร็วเพราะความรังเกียจ
“หึหึ...อีกเดี๋ยวเราสองคนได้สกปรกจริง ๆ แน่” ปฐวีพูดก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายช้า ๆ และในขณะที่ริทก็เตรียมพร้อมจะจัดการอีกฝ่ายที่พูดจาทุเรศแต่ว่ากลับรู้สึกถึงความผิดปกติขึ้นมาทันที
ร่างกายที่เคยมีเรี่ยวแรงและพร้อมจะป้องกันตัวเต็มที่กลับร่วงกองอยู่กับพื้นทั้งที่สติสัมปะชัญญะทุกอย่างของเจ้าตัวยังครบถ้วนดีอยู่
“จุ๊ ๆ...เก็บแรงไว้ดีกว่านะครับ” พูดจบชายหนุ่มก็อุ้มร่างบางขึ้นแล้วเดินเข้าไปด้านในสุดของห้องหรูทันที...สิ่งเดียวที่ริทพอจะทำได้คือส่งเสียงร้อง...ร้องให้ดังที่สุดเผื่อใครบางคนจะได้ยิน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาอัพอีกตอนแล้วนะคะ... (อัพทั้งที่ยังไม่ได้กินเตี๋ยวเรือสักชาม...555^^ )
ขอบคุณรูปงานสุดสัปดาห์ที่ทำให้ห้องลับครึกครื้นอีกครั้ง...
รูปน่ารักเพราะใจเกือบตรงกันแล้วเชียว...ใกล้กันได้อีกนิดน่า...
�
ความคิดเห็น