คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter XII
- XII -
“ขึ้นมาเหอะน่า” ร่างสูงที่ฉวยเอาจักรยานที่ริททิ้งไว้ขี่ตามร่างบางมาห่าง ๆ เอ่ยปากเรียกริทเป็นครั้งที่ 38 เพราะริทยังคงเดินไม่ยอมหยุด...เดี๋ยวก็ได้เจ็บขาขึ้นมาจริง ๆหรอก
“นายจะไปไหนก็ไปสิ...ชั้นยังไม่อยากกลับ” ริทตะโกนตอบกลับมาแต่ก็ยังเดินต่อไปโดยไม่สนทิศทาง
“งั้นก็ขึ้นมา...เดี๋ยวชั้นพาไปเองก็ได้...แล้วถ้าเท้านายระบมขึ้นมา...อย่ามาบ่นนะ” เหตุผลที่ทำให้ริทหยุดเพราะรู้ว่ากลับกรุงเทพไปก็ยังมีคิวงานรออีกตั้งเยอะแล้วถ้าร่างกายไม่หายดีก็จะกระทบงานอีก...เมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังตัดสินใจอยู่นภัทรก็รีบขี่ไปจอดข้าง ๆ ทันที
“ขึ้นมาเถอะน่า...ไม่เสียฟอร์มหรอก” ทีแรกคนฟังก็ทำท่าว่าจะขึ้นแต่พอได้ยินประโยคสุดท้ายริทก็ออกเดินต่อทันที...แต่นภัทรก็คว้าแขนอีกฝ่ายไว้ได้ทัน
“ล้อเล่น...มาเร็วชั้นก็อยากไปดูด้านโน้นบ้างเห็นป้าบอกว่าสวยดี” พอเห็นอีกฝ่ายหยุดกวนประสาทริทก็เลยยอมขึ้นไปนั่งแต่โดยดี...และก็สมกับเป็นซุปตาร์ริทจริง ๆ เพราะจะให้นั่งอย่างคนอื่นคงจะธรรมดาเกินไปร่างบางยอมขึ้นไปนั่งก็จริงแต่ดันนั่งหันหลังชนกับหลังของร่างสูงแทนซะงั้น...ไอ้แผนที่จะแกล้งเบรคให้อีกฝ่ายเสียเปรียบเลยต้องพับเก็บไป
“เฮ้...นั่งดี ๆ สิเดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก” นภัทรบอกด้วยความเสียดาย...เอ๊ย...ความเป็นห่วง
“ถ้านายไม่แกล้ง...ชั้นก็ไม่ตกลงไปหรอก” ริทเองก็ตอบกลับอย่างรู้ทันเช่นกัน...นั่งแบบนี้ดีกว่าตั้งเยอะ...คิดแล้วร่างบางก็เองกายพิงกับแผ่นหลังกว้างของใครอีกคนแล้วชื่นชมธรรมชาติรอบด้านในขณะที่คนที่ถูกใช้เป็นที่พักพิงก็รู้สึกดีเช่นกัน...น่ารักอย่างนี้จะไม่ให้เขาหลงรักได้ยังไงไหว
ดูเหมือนคืนสุดท้ายของการพักผ่อนจะอบอุ่นกว่าเมื่อวานเพราะวันนี้เบียร์จัดการกำชับให้คุณป้าที่คอยดูแลเก็บของมึนเมาซะเรียบ...แถมยังกำชับห้ามทุกคนแอบไปเอาจากป้ามากินอีกโดยเฉพาะสามีตัวดีที่ออกอาการเซ็งที่สุดแต่ก็เก๊กได้แค่แป๊บเดียวเพราะเมื่อเห็นอาหารเย็นส่งท้ายที่เบียร์และคุณป้าใจดีของริทจัดให้ก็ตาวาวทันที
“โอ้โหหหห...” เสียงร้องประสานดังลั่นอย่างไม่ได้นัดกันดังขึ้นเมื่อสามหนุ่มเดินเข้ามาเห็น...คนที่เพิ่งปรับความเข้าใจกันมาหมาด ๆ แอบหันมองหน้ากันเล็กน้อยเมื่อต่างฝ่ายต่างอุทานออกมาพร้อมกัน
“ที่รักจ๋า...อย่าลืมเอาน้ำปลาพริกมาให้สามีด้วยนะ...เพราะสามีกลัวว่าอาหารมื้อนี้มันจะหวานเกินไปอ่ะ” หนึ่งที่สังเกตอาการน้องรักทั้งสองมาตลอดรีบออกปากชงขืนปล่อยให้ไอ้เสือมันจัดการฝ่ายเดียวคงจะไม่ทันใจ...เป็นหนึ่งหน่อยไม่ได้ป่านนี้...
“ระ...ริทไปช่วยพี่เบียร์ยกดีกว่า” คนน่ารักรีบขอตัวไปช่วยในครัวทิ้งให้นภัทรมองตามไปพร้อมรอยยิ้มกริ่มบนใบหน้า
“เอ้า ๆๆ...เขาไปโน้นแล้ว” หนึ่งเดินมากอดคอน้องรัก
“พี่ก็แซวไปเรื่อย...เดี๋ยวซุปตาร์ของกันเขินจัดแล้วเปลี่ยนใจทำไงหล่ะ” ร่างสูงตอบกลับอย่างอารมณ์ดีแล้วก็เดินไปนั่งที่โต๊ะรอทานอาหารพร้อมอีกสองคนที่เหลือ
“ให้มันน้อย ๆ หน่อยไอ้เสือ...น้องริทเขาไปเป็นซุปตาร์ของเอ็งตั้งแต่เมื่อไหร่ห๊ะ” หนึ่งเดินตามนั่งตรงกันข้ามกับน้องชาย
“...วันนี้ยัง...แต่วันหน้าไม่...555” พูดจบทั้งสองคนก็หัวเราะพร้อม ๆ กันอย่างคนที่เข้าใจความหมาย...
“น้องริท...ไม่ร้องสักเพลงเหรอ” เบียร์แกล้งถามริทเมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังนั่งมองสามีตัวเองแหกปากร้องเพลงอยู่เพราะหลังมื้ออาหารที่ทุกคนกินกันอย่างเต็มคราบทั้งหมดก็มานั่งฟังหนึ่งร้องเพลง (อีกแล้ว)
“ไม่ดีกว่าฮะ...ริทว่าให้พี่หนึ่งร้องแหละดีแล้ว” ริทตอบอย่างอาย ๆ เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน...ทำไปได้ไงอ่ะ >_<
ส่วนอีกหนึ่งหนุ่มก็ได้แต่นั่งหัวเราะกับลีลาขั้นเทพของพี่เขย...ถ้าไม่รู้จักกันเขาเองยังคงคิดเลยว่าพี่หนึ่งน่าจะเป็นพี่แท้ ๆ มากกว่าพี่เบียร์เพราะกากได้ใจมาก...นอกจากนภัทรจะนั่งขำกับพี่ชายตัวเองแล้วชายหนุ่มก็มักจะลอบมองคนที่เลือกไปนั่งเบาะเดี่ยวริมสุดแทนที่จะมานั่งข้าง ๆ พี่เบียร์ที่เว้นว่างไว้แล้วแต่ก็ดีนั่งตรงนั้นก็มองสะดวกดี
“เอ้า...ไม่คิดจะทำคะแนนแข่งกะไอ้พี่หนึ่งของแกรึไง” เบียร์ขยับตัวมากระซิบกระซาบกับน้องชายที่อารมณ์ดีขึ้นมากหลังจากไปเคลียร์เรื่องที่คาใจกับอีกฝ่ายได้...แต่เจ้าน้องชายตัวแสบก็ยังไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังแม้เธอจะรบเร้าเท่าไหร่...ได้แต่ยิ้มทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่เท่านั้น
“ไม่ดีกว่าครับ...เพราะแค่เมื่อเย็น...พี่หนึ่งก็ตามกันไม่ทันแล้ว” ตอบเสร็จก็ยักคิ้วกวนประสาทให้พี่สาวอีกครั้งก่อนจะหันไปส่งสายตาเชื่อมไปให้ริทที่ดูเหมือนจะไม่สนใจ...แต่จะไม่รู้ตัวเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ก็เพราะไอ้เจ้ากากตัวลูกมันเล่นจ้องซะขนาดนี้
หนึ่งที่สังเกตว่าคนดูเริ่มเงียบไปก็เลยตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง...ทริปนี้ปล่อยน้องชายเก็บคะแนนนำโด่งไปเยอะแระ...เดี๋ยวเสียชื่ออดีตคาสโนว่าตัวพ่ออย่างหนึ่งหมด ทันทีที่จบเพลงหนึ่งก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบแผ่นเพลงที่เจ้าตัวเตรียมมาเซอร์ไพรส์ศรีภรรยาคนดี...ทุกคนในห้องได้แต่มองตามพลางคิดว่าหนึ่งจะมีมุขอะไรมาโชว์ให้ได้ฮาก่อนนอนกันอีก
เสียงดนตรีเพราะ ๆ จากทวงทำนองของเปียโนที่ดังขึ้นทำเอาทุกคนมองหน้ากันทันที...จะเล่นมุขอะไรอีกเนี่ย...ทุกทีเห็นแต่ร้องเพลงร็อคไม่ก็คาราบาว...
อยู่กันคนละภพ เหตุใดหนอจึงได้พบสบตา...หรือบุญเก่า เราเคยสร้างมา
คล้ายดังว่า จิตใจสองดวงเคยผูกพัน
ถ้ามีใครบนฟ้า ขีดดวงชะตาเราสองต้องกัน
ขออย่าเปลี่ยนให้เจอเป็นฝัน อย่าจากพรากกัน...ฉันและเธอไม่คลาดคลา
เสียงนุ่มไพเราะกว่าทุกครั้งเพราะว่าคนร้องตั้งใจร้องทุกถ้อยคำออกมาจากใจจริงบวกกับแววตาที่เปลี่ยนไปของหนึ่งจากกะล่อนเหมือนเคยกลายเป็นแววตาที่ทำให้ผู้ชมทั้งสามคนต้องแปลกใจโดยเฉพาะเบียร์...แววตาที่ครั้งนึงที่เธอยังจำได้ดีและก็เป็นเพราะแววตานี้และเพลง ๆ นี้แหละที่ทำให้เธอเปิดใจและยอมรับอีกฝ่ายเข้ามาเต็มหัวใจ
ขวัญเอย อย่าร้างไป
อยู่ในหัวใจ อยู่เป็นจอมขวัญ
ขวัญของใจ อย่าต้องไกลห่างกัน...ขอจงอยู่คู่ฉันดั่งลมหายใจ
ก่อนจะร้องถึงท่อนนี้หนึ่งก็ค่อย ๆ เดินมาหยุดแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าภรรยาสุดที่รักก่อนจะประคองมือเรียวขึ้นมาเหมือนที่เคยทำเมื่อตอนที่ทั้งสองแสดงละครเวทีของคณะ...ละครเวทีที่ทำให้ทั้งสองตกลงเป็นแฟนกัน ^^ ...เซอร์ไพรส์จากหนึ่งที่แสดงความรักแสนโรแมนติคให้เบียร์ภายในห้องนั้นกำลังส่งไปถึงหัวใจของใครอีกสองคนด้วยเช่นกัน
อยู่กันคนละฟ้า...หวั่นใจ สักวันเธอต้องกลับไป
แล้วฉันจะอยู่ต่อไปเช่นไร ถ้าขาดขวัญใจ...ยามเมื่อไกลห่างกัน
ขวัญเอย อย่าร้างไป...อยู่ในหัวใจ อยู่เป็นจอมขวัญ
ขวัญของใจ...อย่าต้องไกลห่างกัน...ขอจงอยู่คู่ฉันดั่งลมหายใจ
... อยู่กันคนละฟ้า...หวั่นใจ สักวันเธอต้องกลับไป
แล้วฉันจะอยู่ต่อไปเช่นไร ถ้าขาดขวัญใจ...ยามเมื่อไกลห่างกัน
ถ้าเราจากกัน...ฉันก็คงขาดใจ
เสียงดนตรีจบไปได้สักพักแล้วแต่คู่รักทรหดยังคงอยู่ในอารมณ์ที่อบอวนไปด้วยความหลังที่หวานชื่นของกันและกัน...ทิ้งให้อีกสองคนได้แต่มองตากันอยู่อย่างนั้นโดยที่ริทเองก็ไม่สามารถละสายตาออกจากใบหน้าคมเข้มที่น่าหลงใหลของอีกฝ่ายได้และนภัทรเองก็เช่นกันที่ยังจ้องใบหน้าหวานของคนตัวเล็กที่นั่งกอดเข่ามองกลับมา
ดูเหมือนว่าริทจะเป็นฝ่ายที่รู้สึกตัวได้ก่อนจึงละสายตาจากร่างสูงที่นั่งตรงกันข้ามหันมามองพี่ทั้งสองซึ่งตอนนี้เหมือนว่าทั้งคู่จะตกอยู่ในภวังค์เมื่อครั้งสมัยก่อนไปซะแล้ว...ริทจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเพื่อให้หนึ่งและเบียร์ได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง
แต่ร่างบางก็ไม่ได้เดินตรงกลับไปที่ห้องนอนเพราะคืนนี้มีเรื่องดี ๆ ที่น่าประทับใจมากซะจนเกินกว่าจะข่มตาให้หลับได้ริทจึงเดินออกมาที่ระเบียงกว้างของห้องนั่งเล่นชั้นบนและดูเหมือนว่าบรรยากาศทุกอย่างก็ดูจะเป็นใจให้กับพี่หนึ่งและพี่เบียร์เหลือเกินเพราะตอนนี้ฟ้าที่ดำสนิทกำลังประดับประดาไปด้วยดวงดาวนับหมื่นนับพันที่ไม่มีทางเห็นได้แน่นอนถ้าอยู่ในกรุงเทพ
“ยังไม่ง่วงเหรอ” เสียงของคนที่แอบเดินตามร่างบางมาตั้งแต่ออกจากห้องข้างล่างแล้วดังขึ้น
“อือ...ยังไม่ง่วงเลย” ริทหันมาตอบไปตามตรง...ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่หนึ่งจะมีมุมนี้กับเขาด้วย
ระหว่างที่ทั้งสองยืนดูดาวและธรรมชาติยามค่ำคืนอยู่นั้นริทก็เอ่ยปากขึ้นมา
“พี่เบียร์เนี่ยโชคดีจังนะ...ที่ได้เจอกับพี่หนึ่ง” ริทพูดด้วยสีหน้าที่มีความสุข
“อืม...” นภัทรที่ตอนนี้เลิกมองดาวแล้วแต่เปลี่ยนมายืนพิงขอบระเบียงแล้วมองหน้าริทแทนตอบรับเบา ๆ
“นายรู้ไหม...พ่อของชั้นก็ชอบร้องเพลงให้แม่ฟังอยู่บ่อย ๆ” ริทพูดถึงความทรงจำอันสวยงามเมื่อครั้งสมัยเด็กที่ย้อนกลับมาให้ริทได้เห็นอีกครั้งแต่คราวนี้ผ่านคนอื่นที่ริทรักไม่ต่างจากพ่อแม่...นึกถึงตรงนี้ดวงตาหวานก็เริ่มมีน้ำใส ๆ คลอให้เห็นอีกฝ่ายเห็น
“ชั้นก็คิดถึงพวกท่านทุกวัน” ประโยคที่ริทไม่เคยแม้แต่จะพูดให้ใครได้ยินแต่คน ๆ นี้กลับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่...ทำไมหมอนี่ถึง
นภัทยยืนยืนเงียบ ๆ อยู่ตรงนั้นอยู่พักใหญ่จนกระทั่งริทสบายใจแล้วร่างสูงจึงเดินไปส่งอีกฝ่ายที่ห้องนอนและเขาก็ทำแค่เพียงบอกราตรีสวัสดิ์กับริทเท่านั้น
“ฝันดีนะ”
สั้นและกาก...อยากทำให้ดีกว่านี้...แต่ไม่สามารถแล้วค่ะ T__T
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
ห้องลับฉลองห้อง 308 แล้ว...ยังไงก็อยู่ฉลองด้วยกันที่ห้อง 803 อีกต่อไปนะคะ
~ จะรักกันสุดริท และรักริทเหมือนกันตลอดไป ~
ความคิดเห็น