ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~~ Perhaps...Love ~~

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter XI

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 54


    = XI =


    พอถึงเวลาช่วงบ่ายคนที่ขึ้นมาตามกลับกลายเป็นหนึ่งแทนซึ่งนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีทีเดียวเพราะริทเองก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงถ้าได้เจอกับนภัทรอีกครั้ง...ช่วงเวลาตั้งแต่ที่ร่างสูงออกจากห้องไปริทก็แทบไม่ได้หลับเลยสิ่งที่ทำได้เพียงสิ่งเดียวก็คือการคิดหาคำตอบให้กับสิ่งที่เขาทั้งสองคนเพิ่งทำลงไป...จะว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็คงจะไม่ใช่หรือว่ามันเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น...

     

    พอคิดได้ถึงตรงนี้ก็อยากจะเข็กหัวตัวเองแรง ๆ เพราะคนที่จะเจ็บก็คงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากตัวเองและที่คิดได้แบบนี้ก็เพราะริทรู้ดีน่ะสิว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไง...และจะให้คนอย่างหมอนั้นมาคิดจริงจังเหรอไม่น่าเป็นไปได้อยู่แล้วทางออกที่ดีที่สุดคือต้องหยุดความรู้สึกบ้า ๆ นี่เดี๋ยวนี้!!!

     

    ริท...ยังเจ็บขาอยู่เลย...พวกพี่ไปกันเถอะ ร่างบางตอบเมื่อหนึ่งขึ้นมาบอกให้รู้ว่าพร้อมออกเดินทางกันแล้ว

     

    งั้นเหรอ...เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอดีกว่าเผื่อจะเป็นอะไรมากกว่าขาแพลงนะ หนึ่งบอกแล้วก็ทำท่าจะกลับลงไปบอกข่าวกับสมาชิกที่เหลือทันที

     

    ไม่ต้องฮะ...ริทไม่ได้เจ็บอะไรมากแล้วแค่ไม่อยากเดินมากน่ะ...เดี๋ยวมันจะไม่หายขึ้นมาจริง ๆ ริทแกล้งยิ้มอย่างที่เคยทำเป็นประจำให้หนึ่งสบายใจ

     

    แล้วพี่หนึ่งก็ไม่ต้องบอกพี่เบียร์นะ...บอกว่าริทยังง่วงอยู่เพราะยาเมื่อเช้าก็ได้นะ...นะพี่หนึ่งนะ เจอลูกอ้อนเข้าไปชุดใหญ่ขนาดนี้หนึ่งก็เลยต้องยอมตามใจคนขอ

     

    แต่ริทไม่ได้ปวดขาแน่นะ แต่หนึ่งก็ยังเป็นห่วงเรื่องขาอยู่ดีจนอดถามย้ำไม่ได้

     

    แน่สิฮะ...นี่ไง พูดจบริทก็ลุกขึ้นเดินโชว์ให้ดูทันทีว่าอาการไม่ได้น่าเป็นห่วงมาก

     

    ก็ได้ๆๆ...แต่เดี๋ยว...ที่น้องริทไม่ไปเนี่ยเป็นเพราะไอ้กันมันทำอะไรให้เราไม่พอใจหรือเปล่า สุดท้ายคำถามก็วกเข้ามาถึงคนที่เป็นต้นเหตุอย่างแท้จริง...

     

    อะไร!!!พี่หนึ่ง...นายนั้นน่ะรึจะกล้าทำไรริท ริทตอบได้แนบเนียนที่สุดทั้งที่ภายในใจนั้นกลับรู้สึกตรงกันข้ามเลย

     

    โอเค...งั้นนอนพักนะ...เดี๋ยวพวกพี่รีบไปรีบกลับแล้วพี่จะย้ำให้แม่บ้านมาอยู่หน้าห้องเผื่อริทอยากได้อะไร ชายหนุ่มยิ้มแล้วก็เดินออกจากห้องไปทิ้งให้ร่างบางได้อยู่คนเดียวตามที่ต้องการ

     

    ริทหล่ะพี่ นภัทรรีบถามเมื่อเห็นพี่ชายเดินออกมาเพียงคนเดียว

     

    ไม่ไป หนึ่งตอบสั้น ๆ ได้ใจความแต่ทำเอาคนฟังงงกันไปหมด

     

    ทำไมอ่ะ...เดี๋ยวกันขอขึ้นไปดูริทก่อน คนที่ร้อนใจเพราะเป็นห่วงริทมากทำท่าจะขึ้นไปตามคนเจ็บ

     

    ไม่ต้อง...ริทแค่ยังง่วงเพราะกินยาเข้าไป...แล้วก็อยากนอนพักผ่อนด้วย ท่าทางร้อนรนของน้องชายทำให้หนึ่งต้องรีบเอ่ยปากห้ามไว้

     

    กันขึ้นไปดูริทดีกว่า ร่างสูงยังยืนยันที่จะไปให้ได้

     

    กัน...พี่ว่าให้ริทนอนพักอยากที่ริทต้องการเถอะ เบียร์เสริมขึ้นมาอีกแรง

     

    พีเบียร์!!!” นภัทรร้องด้วยความงงที่พี่สาวไม่เข้าข้างเหมือนเคย

     

    เราชวนริทมาพักผ่อนนะ...และถ้าริทอยากนอนเล่นแกจะไปลากริทมาทำไมหล่ะ คนฟังได้คิดตามคำพูดที่พี่สาวบอกก็เข้าใจแต่ก็อดรู้สึกอะไรบางอย่างอยู่ในใจไม่ได้...ก็เมื่อเช้าคุยกันแล้วนี่หน่าว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน...ริทก็ไม่เห็นว่าอะไรเลย

     

    ไปเถอะน่า...สายแล้วจะร้อนไปกว่านี้...ถ้าห่วงมากเดี๋ยวเรารีบไปแล้วก็รีบกลับมาดูริทตอนบ่าย ๆ ก็ได้ หนึ่งเตือนสติน้องชายที่กำลังคิดถึงคนน่ารักอยู่ซึ่งนภัทรก็เข้าใจและขับรถออกไป

     

    เสียงรถที่แล่นออกไปทำให้ริทรู้สึกเบาใจได้ขึ้นมาบ้างทั้งที่จริงแล้วก็อยากจะไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเหมือนกันแต่ก็ไอ้เรื่องเมื่อเช้านี้สิที่ทำให้ต้องกลับมาทบทวนอะไรบางอย่าง...สุดท้ายร่างบางได้แต่นอนเล่นอยู่บนห้องอย่างนั้นแต่มันก็ให้ความรู้สึกที่สบายกว่านอนอยู่คอนโดหรูของตัวเอง

     

    เพราะด้านนอกของหน้าต่างบานใหญ่นั้นมีต้นไม้สีเขียวขจีอยู่ให้เห็นเต็มไปหมด...แถมยังมีลมเย็น ๆ ที่พัดพาเอาความสดชื่นมาให้ได้รู้สึกถึงในห้องด้วยนี่สิยิ่งทำให้บรรยากาศสบายจนทำให้ริทลืมเรื่องวุ่น ๆ ภายในใจไปบ้างจนเผลอหลับไปได้จริง ๆ หลังจากที่ไม่ได้หลับเลยตั้งแต่เหตุการณ์ชวนหวั่นไหวเมื่อช่วงเช้า

     

    เอ่อ...คุณริทจะออกไปไหนค่ะ เสียงแม่บ้านที่หนึ่งกำชับให้คอยดูแลร่างบางทักขึ้นเมื่อเห็นว่าริทกำลังเดินออกจากไป

     

    คือ...ผมจะออกไปเดินเล่นฮะ ริทตอบกลับอย่างอารมณ์ดีหลังจากได้งีบหลับเอาแรงไปได้เกือบสองชั่วโมงและเมื่อเห็นว่าสามพี่น้องยังไม่กลับร่างบางก็เลยขอถือโอกาสไปเที่ยวเล่นบ้างเหมือนกัน

     

    แล้ว...ไม่เจ็บขาแล้วเหรอค่ะ...คุณหนึ่งบอกว่าคุณริทขาแพลง คุณป้าใจดียังคงเป็นห่วง

     

    ไม่แล้วฮะ...นี่ไง ไม่บอกเปล่าร่างบางยังกระโดดให้ดูด้วยเพราะอาการเจ็บหายไปแล้วจริง ๆ

     

    แน่นะคะ...แต่ป้าว่าเอาจักรยานไปแทนดีกว่ามั้ยค่ะ...คุณริทจะได้ไม่เหนื่อยด้วย ป้าแม่บ้านเสนอให้ร่างบางเอาจักรยานไปแทนแถมยังแนะนำที่เที่ยวใกล้ ๆ กับบ้านพักให้ริทอีกด้วย...

     

    ขอบคุณฮะ ริทยิ้มกลับไปอย่างจริงใจเพราะนอกจากคุณป้าจะหารถจักรยานมาให้แล้วก็ยังใส่เสบียงไว้เต็มตระกร้าหน้ารถจักรยานให้อีกด้วย...อยากให้กลับไปดูแลที่คอนโดจัง ^^

     

    บริเวณบ้านพักนี้มันกว้างใหญ่จริง ๆ เพราะเจ้าของบ้านแบ่งโซนต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นสัดส่วนแถมยังถูกตกแต่งอย่างสวยงามทำให้ริทเพลิดเพลินกับการขี่จักรยานเที่ยวเล่นไปเรื่อยแถมยังไม่มืดเหมือนเมื่อวานและไม่ต้องเหนื่อยเดินด้วยทำให้ริทรู้สึกสบายใจขึ้นมากก่อนจะมาหยุดที่บริเวณลำธารเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวมานั่งเล่นจนมืดเมื่อวาน...นั่งเล่นไปสักพักริทก็หยิบเสบียงที่ป้าแม่บ้านเตรียมไว้ให้มาจัดการซะเรียบก่อนจะนึกสนุกอยากลงไปเล่นน้ำดูบ้าง

     

    น้ำใสขนาดนี้...ไม่เล่นคงจะน่าเสียดาย...ลองดูหน่อยดีกว่า ว่าแล้วเจ้าตัวก็ค่อย ๆ เดินลงไปในลำธาร

     

    ว้าว...น้ำเย็นชะมัด เมื่อได้มาทำอะไรอย่างที่ไม่ได้ทำมานานแล้วตั้งแต่เข้าวงการก็ทำให้ริทได้นึกถึงความหลังเมื่อตอนที่ครอบครัวเขายังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา...หลายครั้งที่ครอบครัวเล็ก ๆ จะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันเสมอความอบอุ่นในครั้งก่อนทำให้ริทจมอยู่กับความหลังเงียบ ๆ ท่ามกลางความสงบเงียบของธรรมชาติ

     

    ริท...ริท เสียงเรียกคนที่ทำให้เป็นห่วงดังลั่นเมื่อนภัทรก้าวเท้ากลับเข้ามาในบ้านอีกครั้งก่อนจะรีบเดินขึ้นไปบนห้องด้วยความเป็นห่วงจนต้องรีบเร่งให้พี่ ๆ ทั้งสองกลับบ้าน

     

    คุณริท...ออกไปข้างนอกค่ะ ป้าแม่บ้านที่ได้ยินเสียงร่างสูงก็รีบเดินมาบอกพร้อมกับรับข้าวของจากหนึ่งมาถือไว้เอง

     

    อ้าว...แล้วน้องริทไปไหนได้บอกรึเปล่าค่ะ เบียร์เอ่ยปากถามด้วยอีกคน

     

    เห็นคุณริทบอกจะไปเดินเล่นแต่ป้าแนะนำให้ขี่จักรยานเล่นในบริเวณรอบ ๆ บ้านค่ะ ป้าแม่บ้านบอกแล้วก้ขอตัวเอาของไปเก็บและก็เตรียมอาหารเย็นให้แขกทั้งสี่คน

     

    แล้วนั้นจะไปไหนหล่ะ เบียร์ร้องทักเมื่อน้องชายเดินออกไปแต่เจ้าตัวก็ไม่ตอบอะไรทิ้งให้คนเป็นพี่ทั้งสองได้แต่มองกันด้วยความขำเพราะตั้งแต่ขับรถออกไปเที่ยวก็บ่นถึงริทตลอด...เป็นห่วงสารพัดแถมไปที่น้ำตกก็เอาแต่เร่งให้กลับบ้านได้แล้วจนคนที่ตั้งใจจะมาเที่ยวเลยต้องยอมเพราะเห็นว่าน้องคนนี้กระวนกระจายใจจนกว่าจะเอ็นจอยธรรมชาติรอบตัวได้...และคนเดียวที่จะทำให้อาการเพ้อของน้องชายคนนี้หายได้ก็มีเพียงคนเดียว

     

    ทำไมนายต้องหลบหน้าชั้นด้วย นภัทรบ่นเมื่อเดินออกมาจากนอกบ้านเขาค่อนข้างแน่ใจที่เดียวว่าจะหาริทเจอได้ที่ไหนเพราะฉะนั้นนภัทรจึงใช้เดินมาทางลัดแทนที่จะใช้รถ...

     

    จะเป็นเพราะเรื่องเมื่อเช้าหรือเปล่าที่ทำให้เจ้าเตี้ยคิดมากแต่ถ้าจะไม่คิดอะไรก็คงไม่ถูกเพราะขนาดคาสโนว่าอย่างเขาผ่านเรื่องพวกนี้มาก็ตั้งเยอะแต่ก็ยังไม่เคยใจเต้นแรงมากมายโดยเฉพาะแค่จูบกับใครคนไหนเลย...และถ้าเจ้าเตี้ยจะคิดมากก็คงไม่แปลกอะไร...ขอให้อยู่ที่นั้นด้วยเถอะ

     

    และก็เป็นจริงอย่างที่ร่างสูงคาดเอาไว้ว่าจะเจอริทได้ที่ไหน...ภาพร่างบางที่กำลังนั่งจมอยู่ในความคิดของตัวเองบนโขดหินใหญ่ที่ริมลำธารใสโดยที่เอาเท้าจุ่มน้ำไว้ด้วยทำให้คนมองเหมือนตกอยู่ในภวังค์อย่างบอกไม่ถูกได้แต่จ้องอยู่อย่างนั้นก่อนจะหยิบกล้องที่ติดตัวมาเพราะความเป็นห่วงคนตรงหน้านี้จนลืมวางไว้ที่บ้าน...

     

    และเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นใจอยู่ดี ๆ ก็มีนกตัวหนึ่งบินมาเกาะหินเล็ก ๆ ที่กลางลำธารทำให้ร่างบางหลุดจากความคิดของตัวเองมายิ้มให้กับภาพน่ารักดังกล่าวและก็เป็นโอกาสที่ดีของนภัทรที่ได้เก็บรูปน่ารักเป็นธรรมชาติของอีกฝ่ายไว้อย่างเต็มที่ด้วยและในจังหวะที่เจ้านกบินออกไปนั้นริทเองก็หันมองตามมันไปด้วยแต่บังเอิญที่ว่าเจ้านกนั้นดันบินไปทางตำแหน่งที่ใครบางคนที่เป็นต้นเหตุความวุ่นวายในใจของริทยืนอยู่ด้วย...

     

    ทำไมนายไม่ไป นภัทรเอ่ยถามขึ้นหลังจากทั้งสองสบตากันอยู่สักพักจนริทเป็นฝ่ายหันกลับไปสนใจกับการนั่งจ้องสายน้ำใส ๆ ที่ไหลอยู่ต่อ...นภัทรก็เลยเป็นฝ่ายที่เดินเข้ามาใกล้อีกฝ่ายที่ทำเป็นไม่สนใจเขาซะงั้น

     

    ชั้นก็บอกพี่หนึ่งไปแล้ว ริทตอบทั้งที่ไม่หันหน้ามาคุยกับคนถามแต่ก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นอยู่ไม่ไกลนัก

     

    ไม่ใช่เพราะว่า...นายตั้งใจจะหลบหน้าชั้นเหรอ เสียงทุ้มเอ่ยถามสิ่งที่คาใจออกไป...

     

    วะ...ว่าไงนะ ร่างบางชะงักกับคำถามที่พูดเรื่องจริง...หมอนี่มันจะมากไปแล้วนะ...ริทพูดแล้วก็ลุกขึ้นเตรียมจะเดินกลับขึ้นที่รถจักรยานทันทีเพราะยังไม่พร้อมจะเถียงกับคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องหน้าเขาไม่วางตา

     

    เดี๋ยวสิ...นายยังไม่ตอบคำถามของชั้นเลยนะ นภัทรเอื้อมมือไปจับแขนเล็ก ๆ ของริทเอาไว้เมื่อเจ้าตัวกำลังจะเดินผ่านเขาไปโดยที่ยังไม่ตอบคำถามแถมยังทำท่าทางแปลก ๆ ไปอีกด้วย

     

    ก็ไม่มีอะไรต้องตอบนี่...ชั้นเปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว...ก็แค่นั้น ริทตัดสินใจหันมาพูดกับคนชอบวางอำนาจให้รู้เรื่อง

     

    แต่นายรับปากชั้นแล้ว ร่างสูงยังไม่ยอมรามือง่าย ๆ เพราะถึงตอนนี้เขาเองก็ถอยไม่ได้แล้วเพราะความรู้สึกที่มีกับร่างบางตรงหน้าเนี่ยมันไกลเกินกว่าจะห้ามใจตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว

     

    ก็บอกว่าเปลี่ยนใจแล้วไง...พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!” คงเป็นเพราะสายตาที่ไอ้คนตรงหน้าส่งมาให้ทำให้ความรู้สึกหวั่นไหวภายในกลับมาชัดเจนอีกครั้งทั้งที่ตั้งใจจะหยุด...แต่พอเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้จึงหลุดอาการโมโหใส่คนตรงหน้าแทน...

     

    นภัทรได้แต่ตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของริทที่อยู่ดี ๆ ก็อารมณ์เสียขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นอาการหงุดหงิดอย่างนี้จากร่างบางอีกเลยนับตั้งแต่เรื่องที่ริทลืมของไว้ที่กองถ่าย...แต่นี่เขาแค่ถามดี ๆ

     

    ชั้นทำอะไรให้นายไม่พอใจอีก น้ำเสียงตัดพ้อจากความรู้สึกน้อยใจทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิตกับคนอย่างนภัทรยิ่งทำให้ริทยิ่งหงุดหงิดไปกันใหญ่...สุดท้ายร่างบางก็ฟิวส์ขาดเหมือนนิสัยเดิมที่เคยทำ

     

    ใช่...ชั้นไม่พอใจนายกับเรื่องที่นายทำ...ทุกอย่างเลย...ชั้นไม่ชอบ!!!” ริทตอบด้วยเสียงจนเกือบจะกลายเป็นการตะโกนใส่คนถามทั้งที่นภัทรยืนอยู่ตรงหน้า

     

    เพราะถ้านายไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ริทหันหน้าหนีอีกฝ่ายก่อนจะพูดประโยคสุดท้ายออกมาอย่างแผ่วเบาเพราะอีกฝ่ายได้ปล่อยมือจากเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้...คนที่ชอบเอาแต่ใจตัวเองอย่างเขาใครจะมาทนไหวเท่าที่เห็นก็คงจะมีแค่พี่เบียร์เท่านั้นแหละ...และที่ทนคนอย่างริทได้ก็คงเพราะสงสารเด็กขาดความอบอุ่นอย่างเขาก็เป็นได้พี่เบียร์ถึงได้รักและดูแลเขามาเป็นอย่างดี...และริทเองก็รักพี่เบียร์เช่นกันแต่ถ้าหากจะมีใครเข้ามาอีกสักคนริทก็ขอเลือกใครก็ได้ที่ไม่ได้เข้ามาเพราะความสงสาร

     

    ร่างบางตัดสินใจเดินกลับไปที่จักรยานที่จอดอยู่ด้านบนในเมื่อทุกอย่างที่ตั้งใจจะทำก็ได้ทำไปหมดแล้ว...ต่อจากนี้ถ้าอีกฝ่ายยังอยากจะทำหน้าที่เดิมต่อริทก็จะไม่ว่าอะไรเพราะริทเองก็โตแล้วแยกแยะได้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน...ขอแค่อีกฝ่ายไม่ก้าวข้ามหน้าที่ผู้จัดการส่วนเท่านั้น

     

    แต่ไม่ทันทีร่างบางจะเดินถึงที่หมายอ้อมแขนของคนที่ริทระเบิดอารมณ์ใส่ก็มาคว้าตัวริทไปกอดซะแล้ว...หลังจากที่นภัทรประมวลผลสิ่งที่ได้ฟังจากริทแล้วความรู้สึกน้อยใจทั้งหลายก็หายเป็นปริดทิ้งเพราะเขาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ทำให้เจ้านายจอมป่วนของเขาโมโหคืออะไรและที่สำคัญไปกว่านั้นใครต่างหากที่ทำให้ริทเป็นแบบนี้...พอคิดได้นภัทรก็ไม่รอช้าที่จัดการเคลียร์ทุกอย่างระหว่างเขาและริทให้ชัดเจนมากขึ้น

     

    เฮ้ยย...นะ...นาย ริทร้องออกมาอย่างตกใจกับการกระทำของร่างสูงแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรคนชอบวางอำนาจก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน

     

    แล้วถ้าชั้นบอกว่า...ทุกอย่างที่ชั้นทำไปเพราะชั้นรู้สึกอย่างนั้นกับนายจริง ๆ หล่ะ...นายจะว่ายังไง เสียงนุ่มกระซิบเบา ๆ กับร่างบางในอ้อมกอด

     

    ธรรมชาติที่เงียบสงบกำลังปล่อยให้ใครบางคนได้ตัดสินใจอยู่เช่นเดียวกับคนที่เอ่ยปากถามที่กำลังลุ้นรอคำตอบจากคนในอ้อมกอดพร้อมกับใจที่เต้นแรงกว่าที่เคย...แต่ดูเหมือนกับว่าคำถามที่ได้ฟังนั้นมันยากเกินกว่าที่ริทจะตอบกลับไปได้ในตอนนี้สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือ...คิด...คิดให้มากกับคำตอบที่จะตอบออกไปและสงสัยร่างบางจะคิดนานจนเกินไปคนใจร้อนเลยรอไม่ไหวจึงเอ่ยปากขึ้นมาเสียก่อน

     

    ถ้านายยังตอบชั้นตอนนี้ไม่ได้...ก็ไม่เป็นไร...ชั้นรอได้ นภัทรบอกออกไปตามตรงเพราะแค่ริทยอมให้เขากอดนิ่ง ๆ อย่างนี้ก็พอจะเดาคำตอบจากคนปากแข็งได้ไม่ยากแล้วที่เหลือก็ให้เวลาและความจริงใจของเขาที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ริทได้เห็น...สักพักร่างสูงค่อย ๆ คลายอ้อมกอดแล้วดึงอีกฝ่ายให้หันหน้ามาสบตากับเขา...นภัทรได้แต่มองใบหน้าหวานที่ทำหน้าตาบอกไม่ถูกไม่รู้ว่าเขินดีหรือว่าจะเหวี่ยงใส่เพื่อรักษาฟอร์มดีกันแน่

     

    ปล่อยมือของนายได้แล้ว ริทเอ่ยปากขึ้นในที่สุด...เพราะเริ่มรู้สึกว่าไอ้คนบ้าอำนาจจะเอาเปรียบเขามากเกินไปหล่ะอีกอย่างใครมาเห็นเขารับรองขึ้นหน้าหนึ่งแน่

     

    เขินอ่ะดิ คำพูดพร้อมกับหน้าตากวนประสาทเหมือนเดิมกลับมาให้ร่างบางได้เห็นอีกแล้ว

     

    พูดแบบนี้...อยากตาเขียวอีกข้างใช่ป่ะ ร่างบางไม่พูดเปล่าพลางง้างมือกำหมัดขู่อีกด้วย

     

    เฮ้ย... นภัทรร้องลั่นแล้วก็ปล่อยมือจากเอวบางนั้นทันที...ไว้ใจไม่ได้เพราะหมอนี่ยิ่งบ้าบิ่นอยู่ด้วย

     

    “555+  นึกว่าจะแน่ ริทพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะไปขี่จักรยานกลับบ้านไปสมทบกับพี่เบียร์พี่หนึ่งดีกว่าเพราะไม่อยากอยู่กับหมอนี่นาน ๆ

     

    ฟ้อดดดด... เสียงขโมยหอมจากแก้มใสดังซะจนริทเองสะดุ้งก่อนที่คนต้นเหตุจะยืนยิ้มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้าง ๆ เขาอีกด้วย

     

    นะ...นาย!!!” ร่างบางทั้งอึ้งทั้งอายแถมยังพูดไม่ออกอีกต่างหากกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น...เฮ้ย...ไอ้นี่มันเล่นแบบนี้เลยเหรอวะ

     

    ถือเราหายกันแล้วนะ...ที่นายต่อยชั้นเมื่อเช้านภัทรยิ้มจนแก้มบุ๋มเมื่อเห็นหน้าใสเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ...น่ารักที่สุด

     

    ละ...แล้ว...ที่นายทำเมื่อเช้าหล่ะ เพราะเขินจนทำอะไรไม่ถูกซุปตาร์ริทจึงหลุดโวยถึงเรื่องเมื่อเช้า...ก็เขานึกว่าเมื่อเช้าหมอนั้นเอาคืนไปแล้วนี่หน่า...

     

    อันนั้นน่ะ...นายสมยอมเองต่างหาก คนพูดยิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเล่นเอาตาหยีเลยทีนี้ ^_^

     

    ไอ้บ้า!!!” ริทโวยลั่นพร้อมกับทิ้งจักรยานไว้แล้วก็เดินลิ่วไปทันที...เพราะให้ขี่ไปคงได้ล้มต่อหน้าหมอนี่อีกเป็นแน่เพราะตอนนี้ขามันสั่นไปหมดแล้ว

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ขอโทษนะคะที่ไม่ได้อัพซะนาน...(นานมั้ยหว่า)

    จะพยายามอัพบ่อย ๆ นะคะ...ว่าแต่เมื่อไหร่จะกลับกันสักทีล่ะเนี่ย 555

    อยู่เขาใหญ่กันนานแล้วน๊าาา...เหมือนไรท์เตอร์เลยเพราะริทเดินทางมากันที่โบนันซ่าแน่นอน ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×