คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter X
- X -
รุ่งเช้าคนที่สามารถตื่นไหวก็เห็นจะมีแต่เบียร์และน้องชายเท่านั้นทั้งสองนั่งกินอาหารเช้าที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้เบียร์เตือนตัวเองว่าต้องไม่ลืมขอบคุณเจ้าของบ้านพักอีกครั้งเพราะนอกจากจะให้พักในบ้านแล้วยังจัดหาคนมาคอยบริการอีกด้วยเธอเลยไม่ต้องเหนื่อยกับการเก็บกวาดซากของความสนุกสนานเมื่อคืน
“พี่หนึ่งยังไม่ฟื้นอีกเหรอครับ” นภัทรเอ่ยทักขึ้นมาหลังจากจัดการอาหารเช้าไปเรียบร้อยแล้วเหลือแต่กาแฟที่ส่งกลิ่นหอม ๆ ท่ามกลางวิวต้นไม้เขียวชอุ่ม
“ตื่นไหวได้ยังไงหล่ะ...เล่นกินซะเกลี้ยงขนาดนั้นน่ะ” เบียร์ตอบ
“หึๆๆ...กันก็ว่างั้นแหละ” น้องชายเห็นด้วยอีกแรงโดยเฉพาะคนที่ก่อเรื่องกับเขาไว้เมื่อคืน
“เออ...แล้วนี่กันไปดูริทรึยัง...ไม่รู้จะแฮงค์หรือเปล่านะ” เบียร์นึกได้ว่ายังมีอีกคนที่อาการหนักพอ ๆ กัน
“เดี๋ยวว่าจะขึ้นไปดูอยู่นี่แหละ...แล้วถ้าแฮงค์นะกันจะสมน้ำหน้าให้...คออ่อนแต่ยังจะมาอวดเก่ง” ร่างสูงแอบกัดคนที่เป็นทำให้เขานอนไม่เต็มอิ่มเล็กน้อย...อยากรู้นักถ้าเจ้าตัวรู้ว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไปบ้างจะทำหน้ายังไง...แล้วคิดอะไรอยู่ถึงกล้าทำแบบนั้น
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปให้แม่บ้านจัดอาหารเพิ่มดีกว่า...วานกันไปเรียกหนึ่งให้พี่ด้วยนะ” พูดจบว่าที่คุณแม่ก็ลุกเข้าไปจัดการในครัวทันที
ร่างสูงเดินไปเรียกพี่ชายก่อนซึ่งดูเหมือนคนในห้องจะตื่นเรียบร้อยแล้วเพราะไม่เห็นหนึ่งนอนอยู่บนเตียงได้ยินแต่เสียงเพลงดังมาจากห้องน้ำ �นภัทรจึงเดินออกมาหยุดอยู่หน้าห้องนอนอีกห้องที่ติดกับห้องของเขา...นายจะรู้มั้ยว่าที่นายทำลงไปเมื่อคืนเนี่ยทำชั้นนอนไม่หลับเลยนะ...พอเปิดประตูเข้ามาความรู้สึกที่ตีกันอยู่ก็จางลงไปเพราะความน่ารักของคนตรงหน้า
สภาพเตียงที่ดูไม่ได้และตอนนี้ผ้าห่มหนาก็ถูกดึงมาคลุมจนท่วมหัวแทบจะไม่เห็นเจ้าของเตียงเลยบอกให้นภัทรรู้ได้ทันทีว่าซุปตาร์ริทเนี่ยนอนดิ้นไม่เบา...ร่างสูงยืนมองสักพักโดยไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บเอาไว้แล้วก็เดินมานั่งข้างริทที่ถูกผ้าห่มปิดไว้จนมิดหัวจะมีเพียงก็แต่เท้าขาว ๆ ของเจ้าตัวนั้นแหละที่โผล่พ้นออกมา
“เป็นไงหล่ะ...อยากกินซะเยอะทำไมหล่ะ” นภัทรบ่นกับคนที่ยังหลับก่อนจะเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มออกมาแต่กลับกลายเป็นได้สบตากับคนที่กำลังอยู่ในอาการเมาค้างอย่างนักแถมยังทำหน้ามุ่ยสุด ๆ กับอาการปวดหัวอยู่เป็นแน่...
ที่เจ้าตัวหน้าเป็นอย่างนี้เพราะว่าริทเองก็รู้สึกตัวตื่นได้สักพักแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะพาตัวเองออกจากที่นอนไปได้เพราะฤทธิ์ของแอลกอลฮอลล์ที่เจ้าตัวซัดไปเมื่อคืนและยิ่งมาเจอหน้าโจทย์ที่ตัวเองไปก่อเรื่องไว้ด้วยเมื่อคืนอีกหน้าที่ยุ่งอยู่แล้วก็เพิ่มดีกรีความหงิกเข้าไปอีกไหนจะปวดหัวไหนจะอายเพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องเมื่อคืนว่ายังไงได้แต่แกล้งนิ่งจ้องหน้าอีกฝ่ายกลับไปอย่างนั้น
“ไปอาบน้ำก่อนไป...แล้วก็มากินข้าวกินยา...หลังจากนั้นนายจะนอนต่ออีกก็ได้” ร่างสูงบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนคนฟังรู้สึกแปลก ๆ อีกแล้ว
“กินยาก่อน” หลังจากสบตากับอีกฝ่ายเพื่อรอดูว่าจะมีคำพูดจากคนตรงหน้าเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนหรือไม่...แต่พอเห็นว่าคนตรงหน้าไม่พูดถึงริทก็โล่งใจเปลี่ยนมาเป็นเอาแต่ใจแทน
“ก็ไปอาบน้ำก่อนสิ...แล้วก็ต้องกินข้าวก่อนด้วย...ถึงค่อยมากินยา” สีหน้าและท่าทางเอาแต่ใจของร่างบางเกือบทำให้นภัทรหลุดยิ้มออกมาแล้วแต่ต้องใจแข็งเอาไว้ก่อนจะย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง
“ไม่เอา!!” ตอบเสร็จก็คลุมโปงหนีเพราะสู้สายตาที่มองมาไม่ได้เลย...ถ้าไม่ให้กินก็จะไม่ลุกไปอาบน้ำหรอกนะคอยดูดิ...คราวนี้คนสั่งยิ้มออกมาทันทีเพราะทนความน่ารักของริทไว้ไม่ไหวพลางคิดหาวิธีจัดการกับเด็กดื้อไปด้วย
“บอกให้ไปอาบน้ำไง” แกล้งขู่ด้วยเสียงที่เข้มขึ้นอีกนิดแต่หน้านี่ยิ้มจนแก้มบุ๋มเลย
“ไม่!!!” ริทก็ตอบกลับมาทันควันเหมือนกัน...หมอนี่มีสิทธิ์ไรมาสั่งเขากันห๊ะ...สุดท้ายนภัทรจึงตัดสินใจใช้แผนสุดท้ายกระชากผ้าห่มออกมาแต่ริทเองก็ไหวทันตัวทันเช่นกันพอผ้าห่มเปิดขึ้นเจ้าตัวก็เอื้อมมือมาดึงเอาไว้ทันที
“ปล่อยเซ่...” เสียงโวยจากริทขณะกำลังยื้อผ้าห่มกลับมาแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมเช่นกันออกแรงดึงให้มากขึ้นอีกนิด...พอนภัทรดึงกลับไปอีกครั้งริทเลยใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงผ้ากลับมาซึ่งทำให้คนที่ไม่ได้ระวังตัวพลาดล้มตามผ้าไปด้วยจนมานอนทับบนร่างบางพอดี...
“เฮ้ยยย/โอ๊ยยย...” สองเสียงร้องประสานกันเพราะต่างคนต่างตกใจแต่พอลืมตาดูก็เห็นใบหน้าของกันและกันในระยะประชิด(อีกแล้ว)...ความเงียบก็เข้ามาปกคลุมภายในห้องนอนอีกครั้งมีเพียงสายตาที่ทั้งคู่มองจ้องกันอยู่อย่างนั้นราวกับจะพยายามค้นหาอะไรบางอย่างที่ทั้งสองต่างอยากรู้เพียงแต่ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามออกไป...ก่อนที่จะเป็นริทเองค่อย ๆ หลับตาลงเพื่อหลบสายตาของคนตรงหน้า...อะไรจะเกิดก็ช่างหัวมัน...คิดอะไรไม่ออกแล้ว!!!�
“ตัวเหม็นหึ่งขนาดนี้...ชั้นจูบไม่ลงหรอกนะ” เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นเหนือริมฝีปากบางหลังจากที่นภัทรตัดสินใจยับยั้งความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ก่อน...แต่นั้นก็ทำเอาริทแทบจะหายปวดหัวเลยทีเดียว
“นะ...นายว่าไงนะ!!!” ร่างบางลืมตาขึ้นทันทีก่อนจะโวยลั่นด้วยความอาย...นี่ตกลงเขาคิดไปเองหรือว่าหมอนี่ก็...ก็...ไอ้บ้า!!!
ยิ่งเห็นสายตากะล่อนที่ส่งมาให้ด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้ริทไม่อยากจะอยู่ใกล้กับคนนิสัยแย่อีกต่อไป...ร่างบางผลักอีกฝ่ายด้วยแรงที่มีทั้งหมดจนนภัทรที่ไม่ได้ตั้งตัวหงายไปอีกฟากหนึ่งของเตียงแล้วริทก็รีบลุกเข้าห้องน้ำไปทันที...พอกันที...ไอ้คนหลงตัวเอง!!!
“เอาแล้วไง...งานนี้ยาว” นภัทรบ่นเบา ๆ เมื่อรู้ตัวว่าตัดสินใจผิดมหันต์ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแผ่แล้วก็หาทางแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง...ลืมไปได้ยังไงนะว่าริทเป็นถึงซุปตาร์แล้วดันมาปล่อยให้ร่างบางเก้ออย่างเมื่อกี้โทษนี้มีหวังตายสถานเดียว...หลังจากผ่านไปเกือบ ๆ ชั่วโมงที่ริทหายเข้าไปทำธุระในห้องน้ำก็เล่นเอานภัทรเกือบจะเผลอหลับไปแล้วจนกระทั่งได้ยินเสียงลูกบิดประตูห้องน้ำดังขึ้น
“แกร๊ก..” ริทที่อาบน้ำสระผมเพื่อให้ลืมเรื่องน่าอายทั้งหลายและอาการแฮ้งค์ที่มีเป็นเวลานานจนเจ้าตัวพอใจแต่พอเปิดประตูมาก็ยังเจอตัวต้นเหตุที่เด้งจากเตียงมาอยู่ตรงหน้าทันทีก็ยิ่งทำให้อาการปวดหัวตุ๊บ ๆ กลับมาอีกครั้ง
“ถ้าเมื่อกี้ชั้นไม่พูดแบบนั้น...นายจะยอมลุกขึ้นไปอาบน้ำมั้ย” คำพูดจากใจจริงดังมาจากร่างสูงที่ยืนขวางประตูไว้เต็มที่
“หลีก...” คำเดียวสั้น ๆ แล้วก็ริทก็เบือนหน้าหนีคนตรงหน้าทันที...สีหน้าที่ได้รับจากริททำให้นภัทรรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเลย
“ไม่...จนกว่านายจะเข้าใจ” นภัทรเองก็ไม่ยอมถอยง่าย ๆ แถมยังเอาแขนยันขอบประตูทั้งสองไว้อีก...คนถูกขัดใจหันกลับมาแต่ก็ไม่ยอมเงยหน้าไปสบตาอีกฝ่ายได้แต่ยืนนิ่งและต่อสู้กับอาการปวดหัวที่หนักขึ้นทุกที
“แล้วอีกอย่างนึง...ชั้นกลัวว่า...จะห้ามใจตัวเองให้ทำแค่จูบนายเท่านั้นไม่ได้ด้วย” ความจริงสุดท้ายที่นภัทรตัดสินใจบอกไปทำให้คนที่กำลังจ้องพื้นอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองคนพูดและทันทีร่างบางยอมเงยหน้ามาสบตานภัทรก็ไม่ทิ้งโอกาสไปเช่นกัน...
ลมหายใจอุ่นปะทะใบหน้าของริทเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงริมฝีปากนุ่มของอีกฝ่ายที่ทาบทับลงมาบนริมฝีปากของตัวเองก็ทำให้ความรู้สึกทั้งหลายที่กำลังตีกันจนวุ่นวายไปหมดของริทหายไปทันทีเหลือเพียงแต่สมองที่ว่างเปล่าและเสียงของหัวใจที่จู่ ๆ ก็เต้นแรงจนควบคุมไม่ได้
จูบที่แสนอ่อนหวานบวกกับความมากประสบการณ์ของร่างสูงทำเอาริทแทบจะทรงตัวไว้ไม่ไหวดีนะที่ได้วงแขนแข็งแรงอีกฝ่ายประคองกอดเอาไว้ไม่งั้นมีหวังเขาได้ลงไปกองอยู่กับพื้นแน่นอน...แล้วนี่มันจะหยุดได้รึยังเนี่ย >_<�
นภัทรเองที่ได้ลิ้มรสความหอมหวานจากคนตรงหน้าอย่างที่ใจต้องการแล้วก็รู้สึกเคลิ้มจนห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ไปกับความหวานละมุนที่ได้รับจากริมฝีปากบางคู่นี้จนเผลอทำตามใจตัวเองอยู่นานจนรู้สึกว่าร่างบางเริ่มหมดแรงแล้วนั้นแหละเจ้าตัวถึงยอมละริมฝีปากออกมาได้
“เมื่อคืน...ชั้นไม่นับว่าจูบนะ...อย่างนี้สิ...เค้าถึงเรียกว่าจูบ” เสียงนุ่นกระซิบแกมหยอกกับร่างบางในอ้อมกอดที่ตอนนี้หน้าแดงไปหมดแล้วแต่ที่น่ารักไปกว่านั้นก็คือปากบางที่เจ่อแดงกว่าทุกครั้ง...อีกสักทีดีมั้ยเนี่ย
“อะ...ไอ้บ้านี่!!” เพราะถูกแซวให้เสียเซลฟ์ถึงสองรอบแล้วนะในเช้านี้คนที่เขินจัดเลยต้องสั่งสอนคนปากดีซะบ้าง...
“ผลั๊ก..../โอ๊ยยยย...นี่นาย” หมัดขวาตรงพุ่งชนเป้าหมายพอดีไม่พลาดแม้แต่น้อย...คนที่ชะล่าใจเลยต้องลงไปกองกับพื้นแทนที่แต่ริทเองก็แย่เหมือนกันเพราะพออาการตื่นเต้นที่มีเมื่อครู่หมดไปอาการแฮ้งค์ที่เคยมีก็กลับมาหนักกว่าเดิมอีกจนทรงตัวยืนอยู่ต่อไปไม่ไหวเลยเดินเซไปทิ้งตัวลงบนที่นอนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เบียร์และหนึ่งเปิดประตูเข้ามาทันทีเพราะทั้งคู่แอบฟังอยู่นานแล้วจนกระทั่งได้ยินเสียงน้องชายตัวดีร้องโวยวายดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น...กันลงไปทำที่พื้นหล่ะ...แล้วน้องริทเป็นยังไงบ้าง...” เบียร์ที่พุ่งเข้ามาในห้องร้องลั่นเมื่อเห็นสภาพน้องรักทั้งสองที่คนนึงก็นั่งกุมหน้าตัวเองอยู่กับพื้นส่วนอีกคนก็นอนทำหน้านิ่วอยู่บนเตียง
“ริทปวดหัวฮะ...พี่เบียร์” ร่างบางรีบอ้อนพี่สาวทันทีเพราะไม่อยากจะตอบเรื่องที่เกิดขึ้น
“ได้ๆๆ เดี๋ยวพี่ให้พี่หนึ่งเอาข้าวกับยาขึ้นมาให้นะจ๊ะ” พูดจบเธอก็รีบหันไปสั่งสามีให้จัดการให้ซึ่งอีกฝ่ายก็รีบลากน้องชายตัวแสบลงไปด้วยเพื่อซักถามเรื่องที่เกิดให้หายข้องใจ
“แล้วพี่จะลากกันลงมาด้วยทำไมเนี่ย...” นภัทรบ่นเมื่อถูกลากออกจากจุดเกิดเหตุ...หมัดหนักชะมัดยาดเลย
“อยู่นี่...” หนึ่งสั่งก่อนจะเดินไปสมทบกับเบียร์ที่กำลังเตรียมอาหารหลังจากเดินตามลงมาด้วยอีกคน...ไม่นานนักทั้งสองก็เดินกลับมาตรงที่ร่างสูงนั่งเอามือปิดหน้าอยู่
“ไง...ทำอีท่าไหนหล่ะถึงได้อยู่ในสภาพนั้นน่ะ” เบียร์เปิดประเด็นขึ้นเมื่อนั่งข้างหนึ่งเรียบร้อยแล้วและพอร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาจะตอบเท่านั้นแหละ
“ฮะฮ่าฮ้า...โอ๊ยยย...นะ...หน้าแกไปโดนไรมาวะ...นี่อย่าบอกนะ” เสียงหัวเราะลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่ดังขึ้นจากทั้งหนึ่งและพี่สาวแท้ ๆ ของเจ้าตัวเมื่อทั้งสองคนสังเกตเห็นเบ้าตาที่เริ่มบวมและเปลี่ยนสีของร่างสูง
“ดี...หัวเราะกันเข้าไป...กันไปหล่ะ” เมื่อโดนเยาะเย้ยขนาดนี้นภัทรก็ทนนั่งต่อไปไม่ไหวแล้วเลยต้องเดินไปหาอะไรเย็น ๆ มาโปะตาไว้ก่อนที่จะแย่ไปกว่านี้ขนาดรู้ตัวว่าผิวออกจะเข้มขนาดนี้แต่ก็กันไว้ดีกว่าเพราะมือเจ้าตัวเล็กก็หนักไม่ใช่ย่อย...
“จะเอาขึ้นไปให้เอง...หรือจะให้พี่หนึ่งของแกเอาขึ้นไปให้” สักพักเบียร์ก็ตามมาดูอาการน้องชายสักหน่อยก่อนจะถามขึ้น...น้องริทนี่เยี่ยมไปเลย
“............................” ร่างสูงได้แต่ยืนนิ่งมองพี่สาวด้วยตาเพียงข้างเดียว...แล้วก็ชั่งใจคิดว่าจะขึ้นไปดีไม่ดี
“ขึ้นไปเถอะ...ไปง้อ...และจะได้ถือโอกาสเอาคืนด้วยไง” คนฟังยิ้มแล้วก็ส่ายหัวให้กับข้อเสนอของพี่ตัวเอง...แล้วนี่เจ้าเตี้ยนั้นจะรู้มั้ยว่าสองคนนี้สนับสนุนเขาขนาดนี้เนี่ย
“ก็ได้...แต่พี่สองคนห้ามขึ้นไปแอบฟังอีกนะ” ร่างสูงรับถาดอาหารมาถือไว้เองแล้วก็เดินขึ้นไปแต่ไม่วายหันมาชี้นิ้วกำชับพ่อสื่อแม่สื่อทั้งคู่อีก
“ก๊อก...ก๊อก” เสียงเคาะประตูทำเอาริทที่กำลังนอนคลุมโปงโผล่หน้าออกมาแล้วเอ่ยปากอนุญาตให้พี่เบียร์ที่บอกจะถือข้าวเช้ามาให้ได้เข้ามา...อ้อนพี่เบียร์ขอนอนบนนี้ทั้งวันเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องเจอหน้าไอ้คนฉวยโอกาส
“พี่เบียร์วันนี้ริทขอนอนเล่นบนนี้ทั้งวันเลยได้มั้ยฮะ” พอรู้สึกว่าคนที่เพิ่งเข้าห้องมานั่งลงบนเตียงข้าง ๆ คนขี้อ้อนที่นอนตะแคงหันหน้าอยู่อีกด้านก็พลิกตัวกลับมากอดเอวพี่เบียร์ให้ทันที...แต่ทว่า
“เฮ้ยยย...นะ...นายเข้ามาทำไม” ร่างบางร้องเมื่อรู้สึกได้ว่าคนที่เจ้าตัวกำลังกอดอยู่น่ะไม่ใช่คนที่เขาคิด...เวรหล่ะ
“เอาข้าวมาให้” นภัทรตอบพร้อมกับพยายามเก็บอาการให้นิ่งที่สุดขณะมองคนที่นอนอยู่หน้าเริ่มแดงอีกแล้ว...อยากรู้จังว่าเป็นเพราะเขาหรือเปล่า
“เสร็จแล้วก็ออกไปสิ” ริทที่ขยับมานั่งอีกฟากของเตียงรีบตอบเพื่อให้อีกฝ่ายออกไปจากห้องให้เร็วที่สุดก่อนจะเหลือบไปเห็นผลงานของตัวเองที่ฝากทิ้งไว้บนใบหน้าอีกฝ่ายก็รู้สึกผิดขึ้นมานิด ๆ
“ออกแน่...หลังจากที่นายกินข้าวและยาเรียบร้อยแล้ว” ร่างสูงตอบแต่ก็ยังจ้องหน้าอีกฝ่ายไม่วางตา...ตกลงหายโกรธยังเนี่ย...นภัทรคิดเมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปในตอนท้ายของริท
“ก็...เอามาสิ” ริทตอบอย่างว่าง่ายเพราะอยากให้ช่วงเวลาแปลก ๆ นี้ผ่านไปเร็ว ๆ
“มา...ชั้นป้อน” คำตอบที่ได้รับทำเอาคนฟังตาโต...อารมณ์ไหนอีกหล่ะเนี่ย...
“มะ...ไม่เป็นไร...ชั้นกินเองได้” ร่างบางตอบแล้วก็ยื่นมือไปคว้าจานแต่คนที่เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไวกว่าเหมือนทุกที...นภัทรยิ้มมุมปากแล้วก็ลงมือตักข้าวก่อนจะยื่นไปที่คนป่วยการเมือง
“.......................” พอแย่งจานมาไม่สำเร็จริทก็นั่งกอดอกแถมยังเม้มปากแน่นแทน...ให้มันรู้ไปว่าจะป้อนได้ก็ถ้าเขาไม่ยอมสักอย่าง...นภัทรได้นึกขำกับอาการเอาแต่ใจของร่างบางตรงหน้าก็เพราะน่ารักอย่างนี้สิเขาถึงอดใจแกล้งไม่ไหว
“อ้ำ...อ้าปากสิ...เอ๊ะ...หรือนายอยากจะให้ชั้นป้อนถึงปากนายแบบเมื่อเช้า” ร่างสูงแกล้งแซวถึงเหตุการณ์ชวนหวั่นไหวเมื่อเช้าแถมยังทำท่าตักข้าวเข้าปากตัวเองอีก...คนที่นั่งมองอยู่ถึงกับร้องลั่น
“ไอ้บ้า...อุ๊บส์” ริทยังไม่ทันด่าได้จบประโยคก็ต้องรีบหุบปากเพราะเกือบจะสำลักข้าวเมื่อโดนถูกยัดเยียดมื้อเช้าเข้าให้เต็มปาก
“นี่นาย...” พอตั้งตัวทันซุปตาร์ริทก็เริ่มโวยอีกฝ่ายทันที
“เคี้ยวให้หมดก่อนแล้วค่อยพูด...ไม่มีมารยาทเลย” เกือบสำลักแถมยังถูกต่อว่าอีกริทจึงได้แต่ถลึงตาใส่คนที่บังอาจมาว่าเขามือก็ชี้หน้าปากก็เคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ ไปด้วยตามคำสั่งอย่างว่าง่าย...จนนภัทรอดยิ้มออกมาไม่ได้
“นายว่า...คะ...ใคร...อื้อออ” ข้าวคำที่สองถูกป้อนเข้าปากทันทีเมื่อร่างบางเริ่มโวยแถมคนป้อนยังชี้นิ้วเป็นการเตือนคำพูดเมื่อครู่ที่ให้กินข้าวให้หมดก่อนแล้วค่อยพูดอีก...
จะเถียงก็ไม่ได้ร่างบางเลยได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาเคี้ยวข้าวให้หมดปากเพื่อจะได้จัดการคนตรงหน้าสักที...แต่ว่าพออ้าปากปุ๊บไอ้คนเจ้าเล่ห์ก็ยัดข้าวเข้าปากปั๊บคนน่ารักเลยยังไม่มีโอกาสได้ต่อว่าเลยเป็นอย่างนี้จนข้าวเช้าที่คนป้อนเตรียมมาเกือบหมดจานแล้ว
“เอ้า...กินน้ำแล้วก็กินยาซะ” เมื่อเห็นว่าร่างบางกินได้จนเป็นที่พอใจนภัทรก็ยกแก้วน้ำให้อีกฝ่ายแทนซึ่งริทเองก็รับไปทันทีเพราะตั้งแต่คำแรกยันคำสุดท้ายยังไม่ได้กินน้ำเลย...นี่เราปล่อยให้มันป้อนข้าวจนหมดได้ไงเนี่ย!!!
“ยังปวดหัวอยู่อีกหรือเปล่า” นภัทรถามเมื่อริททำตามคำสั่งจนครบแล้ว...ว่าง่ายอย่างนี้ก็เป็นนี่หน่า
“ถามไม” เสียงตอบห้วนเพราะรู้ตัวว่าเสียทีให้คนข้าง ๆ อีกแล้ว
“ก็...บ่ายนี้ชั้นกับพวกพี่ ๆ เราจะไปน้ำตกกัน” รอยยิ้มที่ส่งมาพร้อมกับคำพูดนั้นทำให้หัวใจคนฟังเริ่มออกอาการอีกแล้ว...
“แล้ว...นายจะมาบอกชั้นทำไม” ริทย้อนถามเสียงเบาแล้วก็ค่อย ๆ ขยับตัวนอนลง
“นายก็รู้...ว่าชั้นมาบอกนายทำไม” ร่างสูงไม่เพียงไม่ตอบคำถามแต่กลับใช้แขนข้ามมายันที่นอนค่อมตัวคนน่ารักเอาไว้อีกด้วยจนริทไม่ทันได้ตะแคงตัวหลบสายตาได้ทัน...สายตาที่ถูกบังคับให้ต้องหันกลับมามองสบตากันอีกครั้งนั้นกระตุ้นให้ความรู้สึกอ่อนไหวอย่างเมื่อเช้ากลับมาสู่หัวใจทั้งสองดวงอีกครั้งและดูเหมือนคราวหน้านี้นภัทรเองก็ไม่มีข้ออ้างอะไรที่จะไม่ทำตามความรู้สึกจากหัวใจที่กำลังเรียกร้องให้สัมผัสคนตรงหน้าอีกครั้ง...
ความรู้สึกบางอย่างที่เก็บอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของริทนั้นเริ่มกระจ่างชัดขึ้นมาทุกที ๆ ก็เพราะไอ้การกระทำที่แสนจะชอบวางอำนาจและเอาแต่ใจของคนตรงหน้าในตอนนี้น่ะสิ...จูบที่แสนจะอ่อนโยนจากร่างสูงนั้นทำให้ริทเองหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านหรือห้ามปรามแต่อย่างใดและยิ่งไปกว่านั้นในเมื่อตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่อยากให้ริมฝีปากนุ่มนั้นหยุดด้วยเหมือนกัน...เอาเปรียบที่สุด...คนอื่นที่เขาตื้อมากกว่านี้ริทยังไม่เคยชายตามองเลยด้วยซ้ำ...แล้วไอ้หมอนี่แค่มาบังคับป้อนข้าวให้ถึงที่แค่เนี้ย...เขาต้องเสียจูบเลยเหรอเนี่ย!!!
�
การเอาคืนที่นภัทรยังไม่เชื่อว่าตัวเองจะกล้าทำลงไปและที่น่าแปลกใจกว่านั้นก็คงเป็นร่างบางในอ้อมกอดเขาที่ไม่ได้ขัดขืนแต่กลับกลายเป็นตอบสนองทุกการกระทำของเขากลับมาด้วยนี่สิ...อย่างนี้เขาจะดีใจได้มั้ยว่าริทเองก็มีใจให้เขาเช่นกันหรือว่าเป็นแค่เพียงการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายเมื่อได้รับการกระตุ้น...นภัทรจ้องมองใบหน้าหวานที่กลับแดงระเรื่อและเจ้าตัวเองก็ยังมองจ้องคางเขาอย่างเอาเป็นเอาตายแทนที่จะเงยหน้ามาสบตาเขา
“ตอนบ่ายชั้นจะขึ้นมาเรียกนะ...นายก็นอนพักซะ” เสียงนุ่นกระซิบเบา ๆ ก่อนที่นภัทรจะยันตัวขึ้นนั่งเหมือนเดิม
“อือ....” ร่างบางตอบแค่นั้นแล้วก็หันหน้าหนีไปอีกทางทันที...ใครจะไปหลับลง...ออกไปสักทีสิโว้ยยยย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาอัพอีกตอนแล้วค่ะ...อัพเป็นค่าก๋วยเตี๋ยวเรือฯ ให้รีดเดอร์คนใกล้ชิดด้วย
ยังไม่ได้กลับกรุงเทพซะทีคู่นี้...แล้วเมื่อไหร่จะจบสักทีหล่ะ 555+
ความคิดเห็น