คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter I
ท่ามกลางผู้คนมากมายในสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังเดินไปหาคนที่มารอรับกลับบ้าน
หนึ่งในนั้นก็คือ ชายหนุ่มร่างสูงที่พ่วงปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาลัยชื่อดังจากอเมริกา ใบหน้าคมเข้มที่หล่อเล่าในแบบฉบับชายไทยแต่การแต่งตัวและบุคคลิกที่มั่นใจของเจ้าตัวเพราะไปเรียนที่เมืองนอกตั้งแต่ยังเด็กนั้นกลับยิ่งทำให้ชายหนุ่มคนนี้ดูมีเสน่ห์และทันสมัยจนสาว ๆ แทบทุกคนต้องเลี่ยวหลังมองตามกันเป็นแถวเลยทีเดียว...นภัทรคิดและก็กวาดตามองไปรอบ ๆ เปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยนะ...บ้านที่เขาจากไปนานเหลือเกินแต่ตอนนี้เขากลับมาแล้วหวังว่าคราวนี้คงได้อยู่ที่นี่นาน ๆ ให้หายคิดถึงสักที
“อยู่ไหนน้า” ร่างสูงของชายหนุ่มหยุดยืนมองหาคนที่นัดกันไว้ว่าจะมารับ...ก็คุยกันแล้วนี่หน่าว่าเครื่องจะมาถึงเวลานี้ยิ่งหิว ๆ อยู่ด้วยพอรอไม่ไหวร่างสูงก็กดโทรศัพท์หาพี่สาวทันที
“พี่เบียร์...อยู่ไหนแล้ว...กันมาถึงนานแล้วนะครับ” นภัทรรีบบ่นกับปลายสายทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย
“หยุดเลย...ชั้นเห็นแกเพิ่งจะเดินออกมาจากเกท...อย่ามาทำพูดดีนะ” เบียร์ลูกพี่ลูกน้องคนเดียวของเขารีบตัดบทก่อนที่พ่อตัวดีจะโวยวายเกินจริง
“555...มาแล้วก็รีบเลยครับ...กันหิวข้าวแล้ว” พอโดนจับได้นภัทรก็รีบแก้ตัวทันที...
เป็นเด็กไม่ยอมโตสักทีนะเบียร์ได้แต่คิดในใจกับความกะล่อนของน้องชายคนเดียวที่เขารักมากราวกับน้องในไส้ก็ไม่ปาน...เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนนึงที่เสียพ่อและแม่ไปพร้อมกันเบียร์ยังจำได้ดีว่าวันสุดท้ายของงานศพเจ้าตัวร้องไห้จนหลับไปเลยจนแม่ของเธอต้องเป็นคนอุ้มเจ้าตัวกลับไปนอนทั้งที่ไม่ได้เปลี่ยนชุด...แม่ของเธอเป็นพี่สาวคนเดียวของแม่นภัทรซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นแม่คนที่สองของพ่อตัวดีไปแล้ว
“หวัดดีคร้าบบบ...คิดถึงพี่เบียร์จัง” นภัทรกอดพี่สาวสุดที่รักจนตัวลอยด้วยความคิดถึง...ไม่เจอกันตั้งนาน
“พอๆๆ...ไม่ต้องมาอ้อน...ไหนขอพี่ดูให้ชัด ๆ สิ” หญิงสาวมองชายหนุ่มตรงหน้าให้เต็มตาอีกครั้ง...เปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวที่ดูเนี้ยบทันสมัยผิดกับตอนเด็กลิบลับ...หน้าตาก็ดีจัดได้ว่าหล่อทีเดียวหล่ะแต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ...ไอ้รอยบุ๋มเจ้าเสน่ห์บนแก้มของมันนี่แหละ
“ดีใจจังที่กันกลับมาซะที..คราวนี้มาอยู่นาน ๆ เลยนะ” เบียร์พูดแล้วก็สวมกอดน้องชายสุดที่รักอีกครั้ง
“ครับผม...คราวนี้จะมาอยู่นานจนให้พี่เบียร์เบื่อเลยหล่ะ” กันยิ้มแล้วก็เก็บข้าวของเดินไปที่รถ...พอเห็นคนขับนภัทรก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม
“หวัดดีครับพี่หนึ่ง...ยังหล่อเหมือนเดิมนะครับ” คำทักทายส่งไปให้พี่เขยสุดหล่อที่ติดเครื่องรออยู่ก่อนเจ้าตัวจะช่วยมาขนกระเป๋าอีกแรง
“เออ...หวัดดี แกก็ไม่เบานะไอ้เสือ” ชายหนุ่มวัยกลางสามสิบปลาย ๆ ยิ้มรับ
“อันนั้นมันแน่อยู่แล้วครับพี่” กากกันไปกากกันมาจนคนที่ยืนมองดูอยู่ทนไม่ได้ต้องปราบไว้บ้างไม่ได้เลยไอ้คู่นี้...
“เอ้า...จะอวยกันอีกมั้ยพ่อคู๊ณณ” เบียร์ดักคอก่อนที่รับกับความกากไม่ไหว
“ไปแล้วจ้า...” เสียงตอบรับพร้อมเพรียงกันจนน่าหมั่นไส้
มื้อใหญ่เลี้ยงต้อนรับนภัทรจัดอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยของโปรดของเจ้าตัวทั้งนั้นเลยซึ่งนภัทรเองก็ไม่ปฎิเสธยิ่งได้มาเฮฮากับหนึ่งแล้วด้วยก็ดูเหมือนว่าคืนนี้จะยาวแน่นอน...บ้านหลังเล็กแต่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของทั้งสามพี่น้องทำให้บรรยากาศตอนนี้ดูจะอบอุ่นและเป็นสุขที่สุดจนกระทั่ง
“ก็ใช่สิ...ชั้นมันไม่เท่าเขา ไม่ค่อยน่าแคร์เท่าไรได้แต่น้อยใจเบา ๆ อย่างนี้” เสียงริงโทนที่ทำให้เบียร์และหนึ่งมองหน้ากันทันที...ได้โปรดอย่ามีเรื่องอีกเลยขนาดว่าเคลียร์ทุกอย่างล่วงหน้าแล้วนะ
“ค่ะ...น้อง” เสียงรับของเบียร์ยังไม่ทันจบก็ต้องตกใจขึ้นมาก่อน
“ปรี๊นนนน...ปรี๊นนนน” เสียงบีบแตรอันเป็นเอกลักษณ์ที่บอกว่าพายุกำลังมาอีกแล้ว
“เปิดประตูให้ด้วยครับ” ปลายสายตอบมาหลังจากที่เจ้าตัวลงมายืนรออยู่หน้าบ้านเมื่อรถแท็กซี่รีบซิ่งออกไปทันทีที่ได้รับค่ารถเกินราคามากจากผู้โดยสารที่เจ้าอารมณ์มากที่สุด
“ใครวะ...บีบแตรไม่เกรงใจชาวบ้านเนี่ย” นภัทรบ่นทันทีที่เสียงแตรหยุด
“มีคนเดียวนะแหละ...วิ้ววววว” หนึ่งบอกแล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดีจนนภัทรสงสัยแทนที่จะด่าดันมานั่งผิวปากไอ้พี่บ้า
“เดี๋ยวพี่มานะกัน...นี่แล้วก็เลิกทำหน้าหื่นได้แล้วนะไอ้แก่” เบียร์ขอตัวแล้วไปเปิดประตูโดยไม่ลืมเพ่นกบาลสามีตัวแสบไปอีกทีโทษฐานหื่นออกหน้าออกตาจนนภัทรขำกลิ้งกับท่าทางของพี่เขย...ส่วนหนึ่งก็เช็ดเสื้อผ้าหน้าผมทันทีที่แม่บังเกิดเกล้าออกไปคนมองอยู่เลยอดถามไม่ได้
“เอ้าๆๆ...หล่อแล้วครับพี่...ว่าแต่ใครมาเหรอดึกขนาดนี้แล้ว” นภัทรถามด้วยความสงสัย
“ซุปตาร์คนล่าสุดของเมืองไทยโว้ยย...น่ารักสุด ๆ ไปเลยหล่ะ” ตอบเสร็จก็ยักคิ้วให้น้องชายอีกที...นภัทรได้แต่ส่ายหัวแต่ก็อดที่จะตั้งใจรอดูไม่ได้คงสวยหล่ะสิไอ้พี่หนึ่งถึงลายออกขนาดนี้
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะน้องริท” เสียงของเบียร์ที่ดังเข้ามาก่อนทำให้หนึ่งลุกขึ้นยืนยิ้มรับทันที...ไม่นานนักคนที่ถูกพูดถึงก็เดินเข้ามาให้ห้อง
“เย็นเหรอ...พี่เบียร์เห็นข่าวรึยัง...มันมีสมองบ้างมั้ยเขียนข่าวแบบนี้เนี่ย!!!” ร่างบางบ่นเสียงดังลั่นก่อนที่เจ้าตัวจะเขวี้ยงหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่งลงกับพื้น...
“อ้าว...ผู้ชายเหรอวะแล้วไอ้พี่หนึ่งจะตื่นเต้นทำไมเนี่ย” นภัทรบ่นก่อนจะหันกลับไปสนใจอาหารและทีวีอีกครั้งแต่เสียงที่ดังขึ้นทำให้นภัทรหันมามองต้นเหตุอีกที...
ใครคนนึงที่กำลังหงุดหงิดเต็มที่ยืนกอดอกอย่างไม่พอใจกลางห้องโดยมีพี่ทั้งสองของเขากำลังพูดจาหว่านล้อมอยู่...ไรวะมาบ้านคนอื่นกลางดึกแล้วยังจะมาเรื่องมากอีก
นภัทรยกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้งแต่สายตาของเขายังคงไม่ได้ละจากร่างบางตรงหน้า...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผิวขาวจนรู้สึกได้ว่ามันมีออร่าแผ่ออกมาสมกับเป็นซุปตาร์อย่างที่ไอ้พี่หนึ่งมันว่า...หรือจะเป็นใบหน้าที่ดูน่ารักทั้งที่ยังบึ้งตึงอยู่...เฮ้ย...นี่กูกำลังนั่งมองผู้ชายอยู่นะเนี่ย!! พลันสายตาอีกคู่หันกลับมาสบกับสายตาของเขาพอดีเพียงแค่นั้นก็ทำให้ใจของนภัทรเต้นแรงขึ้นมาทันที
“มองอะไรวะ” คำถามหาเรื่องพุ่งเข้าใส่นภัทรทันที...จนเบียร์ต้องรีบชี้แจงก่อนคืนนี้จะวุ่นวายมากกว่านี้
“ริท ๆๆ ...คนนี้น้องของพี่เองเพิ่งกลับมาจากเมกา” เบียร์รีบชี้แจงแล้วก็หันไปแยกเขี้ยวใส่อีกคนที่ยังจ้องไม่เลิก
“......” ไม่มีเสียงตอบจากร่างบางแต่ก็หันกลับมาคุยกับพี่เบียร์ต่อแทน
“แล้วเรื่องข่าวเนี้ย...จะเอายังไงดี” ริทบ่นแล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟาแทน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยแถลงข่าวที่กองถ่ายหล่ะกัน...เรื่องมันไม่จริง...ริทไม่ต้องคิดมากหรอกนะ” เบียร์หยิบหนังสือนั้นมาก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวโกรธเรื่องอะไร...ก็ข่าวเรื่องกิ๊กกับนักแสดงชายร่วมค่ายนี้แหละที่ทำให้เจ้าตัวโกรธเป็นที่สุดและยิ่งคนนั้นเป็นพี่ชายคนที่ริทรักเหมือนกับพี่ชายแท้ ๆ อีกต่างหาก
“แล้วนี่ยังไม่ชินอีกเหรอ...พี่เห็นเราก็โดนเม้าท์เรื่องนี้ออกบ่อย” เสียงปลอบใจให้ริทเย็นลงบ้าง
“ชิน...แต่ไม่ชอบ” คำตอบห้วนและสั้นทำเอาเบียร์เหนื่อยใจ...บทจะเหวี่ยงก็รับมือยากเหมือนกันแฮะ...พลันสายตามองไปเห็นอีกคนที่เนียนมานั่งขนาบด้วยอีกข้างก็ทำเอาเหนื่อยใจหนัก
“น้องริทคนดีของพี่...ไปดื่มกับพี่แก้เซ็งดีกว่ามั้ยครับ” เสียงออดอ้อนก่อนจะเอื้อมมือไปดึงโดนไม่ขออนุญาตทำให้ริทกระตุกยิ้มขึ้นมากับความบ๊องของพี่ชายอีกคน...
“ถามพี่เบียร์ก่อนมั้ยครับ...” รอยยิ้มแรกตั้งแต่เข้ามาในบ้านปรากฎบนในหน้าของเจ้าตัวก่อนที่จะหัวเราะกับบทบู๊ที่ตามมา...รอยยิ้มที่ทำให้ใบหน้าน่ารักยิ่งดูสดใสและน่ารักกว่าที่เห็นเมื่อครู่เป็นไหน ๆ คนที่มองอยู่ตั้งแต่แรกก็เผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัวจนกระทั่งร่างบางหันมาสบตานั้นแหละทำให้นภัทรรู้ตัวว่ากำลังยิ้มอยู่
พอริทเห็นรอยยิ้มจากใครอีกคนที่จ้องเขาตั้งแต่เมื่อครู่ก็หุบยิ้มทันทีแทนที่ด้วยใบหน้ากวนตีนที่สุดในสายตาของคนมองเลยหล่ะ...เล่นเอานภัทรสงสัยว่ามองไอ้เตี้ยนี้น่ารักได้ยังไงก่อนจะหันกลับไปสนใจทีวีตรงหน้าต่อ
“ไปเลยนะไอ้หนึ่ง...ชวนน้องกินเหล้าเหรอทั้งที่รู้ว่าริทคออ่อน...เดี๊ยะ ๆ ๆ” เบียร์ไล่หนึ่งให้กลับไปนั่งกลับต่อ
“ริทกลับก่อนนะ” ร่างบางขอตัวกลับเพราะอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งนะ” เบียร์บอกแล้วก็ลุกไปหยิบกุญแจรถ
“ไม่เป็นไรครับ...ดึกแล้วอีกอย่างวันนี้พี่เบียร์ก็ลางานด้วยนะ” ริทยิ้มแล้วก็ห้ามเบียร์ไว้ก่อน
“ไม่ได้ๆๆๆ...มันเป็นหน้าที่ของพี่นะจ๊ะ” คนฟังได้แต่ก่อนที่เบียร์จะเดินไปบอกพ่อตัวดีทั้งสองคนว่าจะออกไปข้างนอกซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นภัทรดูเวลาว่าตอนนี้มันได้เวลาที่เขานัดกับเพื่อนซี้สมัยเด็กไว้แล้ว
“กันขอตัวก่อนนะครับ...พอดีนัดกับเก่ง เซน เอาไว้น่ะ” ร่างสูงบอกก่อนจะกระดกเหล้าในแก้วรวดเดียวหมด
“นี่มันดึกแล้วนะ” เบียร์บ่นเมื่อเดินมาร่วมวงอีกคน
“ที่เมกายังไม่ค่ำเลยนะ...กันยังไม่ง่วงอ่ะ...แล้วพวกมันก็นัดกันล่วงหน้านานแล้วด้วย” นภัทรบอกพร้อมกับกอดแขนเบียร์อย่างเอาใจ
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย...งั้นก็ออกไปพร้อมกับพี่เลยเดี๋ยวไปส่งริทเสร็จแล้วจะได้เลยไปส่งกันด้วย” เบียร์ตัดบทก่อนจะสั่งให้สามีเก็บของให้เรียบร้อยด้วย
“ไม่ดีอ่ะ...ดึกแล้วนะพี่เบียร์ขับรถไปมาอันตราย...แล้วทำไมต้องไปส่งไอ้เตี้ยนั้นด้วยหล่ะ” นภัทรบ่นแล้วก็มองไปที่ตัวต้นเหตุ...มาเองได้ก็กลับเองสิวะ
“นี่แน่ะ...อย่าให้น้องริทได้ยินว่าแกเรียกเขาว่า เตี้ย เด็ดขาด...อีกอย่างมันเป็นงานของพี่ด้วย” เบียร์ตีที่แขนน้องชายอย่างลืมตัว...ไรวะต้องเอาใจไอ้นี่ขนาดนี้เลยเหรอ
“งานมันก็ต้องมีเวลาสิครับ...ดึกขนาดนี้ยังต้องบริการมันอีกเหรอ” ร่างสูงบ่นเพราะรู้ว่าไอ้งานผู้จัดการส่วนตัวเนี่ยมันเป็นยังไงแต่นี้มันจะเกินไปมั้ย!
“เพี๊ยะ...หยุดพูดไปเลย...หรือแกจะช่วยพี่หล่ะ” เบียร์ตบปากน้องชายเบา ๆ อีกทีฐานปากเสียเรียกน้องชายคนเล็กสุดที่รักไม่เพราะ
“อู๊ยยย...แตะไม่ได้เลยนะคนนี้” นภัทรแกล้งทำเป็นเจ็บซะเหลือเกิน
“แกขับรถไปส่งน้องริทให้พี่ก่อน...แล้วแกจะไปเที่ยวไหนก็ไป...โอเคมั้ยหล่ะ” เบียร์บอก
“จะดีเหรอพี่...” คนพูดบ่นอย่างลังเล...มาถึงก็ใช้งานน้องเลยนะ
“ที่รักจ้า..เดี๋ยวเค้าไปส่งน้องริทเอง...แล้วก็จะเลยไปต่อกับไอ้กันมันด้วยได้มั้ยยยย” คนที่รอโอกาสนี้มานานรีบเสนอตัวทันที
“ไม่ต้องเลย!!...ลืมรึไงพรุ่งนี้แกมีนัดเซ็นต์สัญญากับลูกค้ารายใหญ่น่ะ” เบียร์แหวใส่สามีตัวดีก่อนจะตัดบทไปบอกร่างบางที่นั่งรออยู่
“ริทเดี๋ยวพี่ให้น้องพี่ไปส่งแทนนะจ๊ะ...เพราะพี่จะเตรียมนัดนักข่าววันพรุ่งนี้ให้จะได้ไม่เสียเวลานะ” คนฟังทำหน้างงเมื่อฟังคำบอกกล่าวจากผู้จัดการคนสวย
“ริทกลับเองดีกว่า...ไปนะครับ...พี่หนึ่งริทไปนะ” บอกจบเจ้าตัวก็รีบเดินออกไปทันที...เมื่อบังคับอีกคนไม่ได้เบียร์หันไปจัดการกับอีกคนแทน
“กัน...ไปทำตามที่พี่สั่งเดี๋ยวนี้!!!” คำขาดสายฟ้าแลบเร่งให้นภัทรก็รีบลุกตามออกไปทันที...มาวันแรกก็โดยใช้งานเลยวุ้ย...เรื่องมากสมกับเป็นพวกดาราจริง ๆ เลยนะไอ้เตี้ย...แน่ะทำเป็นรีบเดินมันดึกขนาดนี้จะมีรถมารับมั้ยล่ะนั้น
นภัทรบ่นเมื่อเห็นร่างบางเดินจ้ำออกไปอย่างไม่ได้คิดอะไรเลย...ถ้าเกิดปล่อยมันเดินไปจนกว่าจะมีรถมีหวังไอ้เตี้ยโดนลากไปก่อนแน่เลยต่อให้มันเป็นผู้ชายก็เถอะ...
“ปรี๊นนๆๆ” นภัทรบีบแตรเรียกคนเอาแต่ใจที่เดินอยู่ข้างหน้า
“เฮ้ยยย...ไรวะ” เสียงแตรดัง ๆ ทำให้ร่างบางสะดุ้งก่อนจะหันมาเห็นรถที่คุ้นตาทำให้โล่งใจขึ้นมาหน่อย...ในที่สุดพี่เบียร์ก็ยอมตามมาส่งเขาจนได้ริทคิดแล้วก็เดินไปเปิดประตูรถแต่ด้วยแสงไปสูงของรถฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงคันที่เขาเพิ่งให้เป็นของขวัญผู้จัดการส่วนตัวคนสวยทำให้ริทไม่ทันได้เห็นคนขับ
“นายเองเหรอ..พี่เบียร์หล่ะ” เสียงหงุดหงิดดังลั่นเมื่อเห็นว่าคนขับรถนั้นเป็นใคร
“ก็เตรียมงานแถลงข่าวให้คุณไง...ขึ้นมาเร็ว ๆ ผมรีบ” นภัทรตอบอย่างไม่เกรงใจทั้งที่เบียร์กำชับเขาไว้ให้พูดดี ๆ อย่ากวนประสาทพ่อซุปตาร์ใหญ่คนนี้...แต่มีเหรอที่คนอย่างนภัทรจะเชื่อ
คนฟังนิ่งกับคำต่อว่าจากคนตรงหน้าแล้วก็คิดหาทางเลือกของตัวเองที่เหลือน้อยเหลือเกินสุดท้ายก็เลยต้องยอมจำใจไปกับไอ้คนปากเสียแต่จะไปทั้งทีก็ขอเอาคืนไอ้บ้านี่สักหน่อย...
“ปัง...” ริทปิดประตูทำเอาคนที่รออยู่เริ่มฉุนกับความเรื่องมากของร่างบางและฉุนหนักเป็นสองเท่าเมื่อร่างนั้นเปิดมานั่งที่เบาะหลังแทนอย่างหน้าตาเฉย...เฮ้ยยย...มันจะมากไปแล้วนะแต่นภัทรยังไม่ทันจะได้ต่อว่าร่างบางก็เอ่ยขึ้นมาก่อน
“ออกรถสักทีสิ...” สั่งเสร็จก็นั่งหันมองไปทางอื่นชนิดที่คนฟังต้องนับ 1-10 ในใจ...ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละไอ้เตี้ย...สุดท้ายนภัทรก็ขับรถออกไป
.........................................................................
“กัน...กัน ทางนี้โว้ย” เสียงหนุ่มรูปหล่อเรียกนภัทรที่เพิ่งเดินเข้ามาในคลับสุดหรูของโรงแรมแห่งหนึ่งที่ซึ่งหนึ่งในเพื่อนสนิทของเขาเป็นเจ้าของอยู่
“โหยย...คิดถึงมึงวะ” เซนกอดคนที่เพิ่งมาถึงเพราะว่าเขาต้องกลับมาบริหารโรงแรมหลังจากจบปริญญาตรีทันทีเลยคิดถึงเพื่อนสนิทที่เรียนไฮสคูลด้วยกันมาเป็นพิเศษ
“เอาชนหน่อย...แล้วนี่เป็นห่าไรวะทำหน้าเซ็ง ๆ มาเจอพวกกูทั้งทีแทนที่จะดีใจ” เก่งบ่นก่อนจะยื่นแก้วเหล้าให้อีกฝ่ายที่กำลังปรับอารมณ์อยู่เพราะนอกจะนั่งทำตัวเป็นคุณชายแล้วไอ้ซุปตาร์ตัวกะเปี๊ยกยังเรื่องมากสุด ๆ ทั้งสั่งให้เปิดเพลงโน้นนี่กว่าจะเจอเพลงที่ถูกใจไหนจะบ่นเรื่องการขับรถของเขาอีกนี่ถ้าไม่เพราะพี่เบียร์โทรมาย้ำอีกรอบหล่ะก็
“เอ้า...พี่เบียร์จะพูดกับนาย” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้นภัทรหันมาก่อนจะพบมือเล็กที่ยื่นโทรศัพท์แทบจะทิ่มหน้าเขาแล้วเพราะไอ้คนยื่นมันไม่ยอมมองยื่นส่ง ๆ มาอย่างไม่ใส่ใจ
“ครับพี่...มีอะไรจะให้ผมรับใช้อีกครับ” คำพูดสุดท้ายเจ้าตัวตั้งใจประชดอีกคน
“กันพี่ขอร้องนะ...ถือว่าเห็นแก่พี่สักครั้ง...อย่าทำตัวกวนประสาทกับริทนะพี่ไม่อยากให้งานพรุ่งนี้มีปัญหาอีก” คนฟังรับรู้ได้ถึงความหนักใจของพี่สาว...อะไรจะขนาดนั้นวะ...สุดท้ายเขาก็ต้องจำใจยอมรับปากเพื่อให้พี่เบียร์ได้สบายใจ
“ครับ...แต่พี่ติดผมมื้อใหญ่เลยนะ” นภัทรตอบก่อนจะคืนโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายและเหมือนไอ้ตัวดีจะรู้แกวมันเลยสั่งโน้นสั่งนี่เต็มไปหมดและที่มาช้าทั้งที่คอนโดมันกับโรงแรมใกล้กันแค่นี้ก็เพราะเจ้าตัวหิวเขาเลยต้องขับรถไปแวะร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงแค่นั้นยังไม่พอต้องลงไปซื้อให้ด้วยเพราะข้ออ้างว่า... ‘เดี๋ยวจะเป็นข่าว’...แค่ซื้อของเนี่ยนะ!!!
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหจนเกือบจะกระชากคอแล้วถามว่าอะไรหนักหนาเพียงแต่ว่าเขาดันไปเห็นรอยยิ้มมุมปากอย่างสะใจที่แกล้งเขาได้สำเร็จของไอ้เตี้ยนี่เสียก่อนน่ะสิ...ไอ้ความโกรธที่พุ่งปรี้ดเมื่อกี้ดันกลายเป็นอาการใจกระตุกวูบไปกับรอยยิ้มที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น...สองครั้งแล้วนะที่ใจเต้นแรงกับคน ๆ นี้อะไรของกูวะเนี่ย
“เฮ้ยๆๆ...ใจลอยไปไหนวะ...หรือคิดถึงสาวที่ไหน” เก่งแซวเมื่อเห็นคนข้าง ๆ เหม่อจนลืมมองไปว่าตั้งแต่มันเดินเข้ามาเนี่ยสาว ๆ แทบทุกโต๊ะจ้องไอ้นี่ตาไม่กระพริบเลย...ทั้งที่ก่อนนี้พวกเธอก็ส่งยิ้มมาทางเขากับเซนเท่านั้น
“สาวที่ไหนวะ...กินเหล้าดีกว่า” นภัทรว่าแล้วก็กลับมาเฮฮากลับบรรยากาศสนุกสนานตรงหน้าต่อ...คืนนี้ยังอีกยาวไกลอย่าทำให้มันหมดมู้ดตอนนี้เลย
ภายในห้องนอนกว้างสุดหรูของคอนโดย่านกลางเมืองแห่งหนึ่งมีสองร่างที่กำลังกอดก่ายกันอย่างเร่าร้อนในอากาศที่เย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศราคาแพงลิ่ว
“อืมมม...ดีค่ะ...อ๊า...” เสียงร้องครวญครางอย่างพึงพอใจกับบทรักจากชายหนุ่มตรงหน้า
“อะ...อ๊า...” ก่อนที่เสียงหวานของหญิงสาวจะเงียบลงไปเพราะเมื่อบทรักที่ร้อนแรงจบลงแต่กลายเป็นว่าไม่มีเสียงจากนภัทรออกมาเลยแม้แต่น้อยมีเพียงแค่ลมหายใจถี่ ๆ เท่านั้นกับความสุขสุดยอดส่งท้ายของคืนแรกที่เมืองไทย
“เฮ้อออ...” นภัทรทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ ก่อนที่ร่างบอบบางนั้นจะแทรกตัวเข้ามาในอ้อมแขนของเขา
“คุณนี่สุดยอดไปเลยนะคะ...กู๊ดไนท์ค่ะ” คำพูดชื่นชมมาพร้อมจูบเบา ๆ ที่แก้มก่อนที่เธอจะหลับไปบนแผ่นอกแกร่งนั้น...
คนฟังยิ้มรับแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไปเพราะนภัทรกลับกำลังคิดถึงสิ่งเดียวที่รบกวนจิตใจของเขาจนทำให้เขาลืมดื่มด่ำความสุขจากสาวสวยในอ้อมกอดนี่ไป...ทำไมถึงลืมรอยยิ้มบนรถนั้นไม่ได้เลยวะ!!!...พอเห็นว่าร่างบางหลับสนิทนภัทรก็ลุกออกจากเตียงไปทันทีแล้วก็ขับรถกลับบ้านทั้งที่ยังคงคิดถึงใบหน้าของใครบางคนไปตลอดทาง
.............................................................................................
ลงแบบกาก ๆ เรียกน้ำย่อยกันก่อน...ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องสั้นแต่ดูท่าจะเกิน 3 ตอน
ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น