ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic-exo: krisyeol และอื่น ๆ.

    ลำดับตอนที่ #2 : ฟิคสั้นขนาดยาว: krischanyeol - you are my sunshine - 01.

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 57


    .
    .
    .



    you are my sunshine

    kris x chanyeol

    hopeless romantic

    story by กาแฟ

     

     

     

     

    01.


     

    นานมากแล้วเมื่อย้อนกลับไปมอง วันแรกที่เราพบเจอกันมันผ่านมานานจนจดจำวันจดจำเวลาไม่ได้ สิ่งที่ชัดเจนมีเพียงรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าเขา และเนื้อเพลงที่เขาร้องขึ้นมาเบา ๆ ตอนที่เรานั่งอยู่ข้างกัน

     

     

     

    you are my sunshine, my only sunshine.
    you make me happy when skies are gray.

     

     

     

    มันเป็นอีกเพลงที่ผมชอบฟัง แต่นับจากวินาทีนั้น ผมลืมทำนองและเสียงร้องเดิมไปจนหมด ในหูวนซ้ำเฉพาะท่วงทำนองที่เขาร้อง เฉพาะเสียงทุ้มต่ำของเขา เฉพาะเขาเพียงคนเดียวอย่างไร้เหตุไร้ผลและไร้ที่มาที่ไป

     

    ตลกอย่างไรพิกลที่ต้องบอกว่า ผมตกลงไปในหลุมลึกไร้ก้นตั้งแต่วันนั้น ไม่มีวิธีปีนป่ายผ่านพ้น และผมเองก็ค้อมยอมจำนนต่อการร่วงหล่น

     

    “You are my sunshine, my only sunshine”

     

    ผมหลงรักเด็กนี่อย่างถอนตัวไม่ขึ้น เด็กผู้ชายที่กำลังฮัมเพลงที่ผมจดจำขึ้นใจซ้ำไปซ้ำมา เด็กผู้ชายที่สูงเกือบจะเท่า ๆ ผม ตื่นเต้นไปกับทุก ๆ เรื่องที่พบเจอ และมีรอยยิ้มเสียสติแตะแต้มที่หน้าตลอดเวลา

     

    และนั่นก็ทำให้ผมตกหลุมรักเขาอีกครั้ง และอีกครั้ง ครั้งที่นับไม่ถ้วน

     

     

     

    “คริสฮยอง” ตาโตๆจ้องผมตาแป๋ว ผมเลิกคิ้วถาม “คำนี้แปลว่าอะไรอ่า”

    เด็กบ้านั่นยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ข้อความจากแฟนคลับจีนยาวเป็นพรืด เขาจิ้มลงไปตรงคำที่ไม่เข้าใจความหมาย

    “เนี่ย ๆ ฮยอง มันเป็นสำนวนใช่ไหม แปลให้หน่อยดิ”

    “ปู๋เจี้ยนปู๋ซ่าน แปลว่ารอจนกว่าจะมา”

    “เซี่ยเซี่ยตุ้ยจ่างงงงงง”

     

     ชานยอลตบมือดีใจที่รู้ความหมาย ยิ้มให้ผมทั้งปากทั้งตา สว่างไสวจนผมคิดไปว่าไม่มีใครอีกแล้วในโลกที่เหมาะกับเพลงเพลงนั้นเท่าเขา

     

     

     

    you are my sunshine

     

     

     

    ได้แต่หวังว่าเขาจะเป็นแสงสว่างให้ผมตลอดไป

    คำว่าตลอดไป ที่ผมเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีจริง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมไม่เคยคิดว่าเขาจะรักผม

     

    สำหรับเขาแล้ว ผมเป็นเพียงพี่ชายในวงที่อายุมากกว่าสามปี เป็นพี่ชายที่เขาสนิทใจจะพูดคุยและเปิดเผยหลายสิ่งหลายอย่างให้รับรู้ ทว่าไม่มีอะไรอยู่ภายใต้การจับมือ โอบกอด สบตา เบื้องหลังการกระทำทั้งหมดเป็นเพียงความผูกพันระหว่างพี่น้อง และผมเองก็พอใจที่เราต่างเป็นไปแบบนั้น

     

    สำหรับความรักที่รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นไปไม่ได้ การตั้งความหวังรังแต่จะสร้างความเจ็บปวด

    ผมไม่ชอบฝันลมแล้ง การคิดว่าเขาไม่มีวันรัก สำหรับผม มันเศร้าน้อยกว่าการรอให้เขารักอย่างเลื่อนลอย

     

     

     

    แล้วถ้าอย่างนั้น ผมต้องการอะไร...?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันนี้เรามีคิวถ่ายรายการกันแต่เช้า และต้องตื่นให้เช้ากว่าเพื่อมาแต่งหน้าแต่งตัว ฝั่งเคเพิ่งบินมาถึงเมื่อคืน เที่ยวบินสุดท้าย ดึกจนชานยอลแทบหลับตาเดินเข้าห้อง แต่ผมรู้ว่าเมื่อคืนเขาแทบไม่ได้หลับ เด็กนี่มักนอนไม่หลับในที่ที่ไม่คุ้นชิน แล้วยังต้องตื่นแต่เช้ามืด ขอบตาภายใต้รองพื้นจึงโทรมคล้ำ 

     

    แต่ชานยอลก็คือชานยอล แฮปปี้ไวรัสยังยึดมั่นในหน้าที่เสมอ แม้จะง่วงและเหนื่อย แต่ก็ยังเค้นพลังวิ่งไปวิ่งมา แกล้งคนนั้นทีคนนี้ที และยิ้มกว้างเรี่ยราดเหมือนปกติ ซึ่งสำหรับผมแล้วนั่นคือปัญหา

     

    ผมคว้าข้อมือเขาเอาไว้เมื่อเด็กผู้ชายที่โตแต่ตัวทำท่าจะวิ่งข้ามห้องแต่งตัวรอบที่สาม เป้าหมายไม่ใช่ใครอื่น โดนดึงหูก็แล้ว โดนตีก็แล้ว ก็ยังไม่วายจะแกล้งคยองซูให้ตัวเองได้เจ็บตัวซ้ำ   และยังดูชอบอกชอบใจที่ไปแกล้งเขาแล้วก็โดนทำร้ายร่างกายกลับ เป็นผมซะเองที่ทนมองรอยช้ำเป็นปื้นที่แขนขาว ๆ นั่นไม่ได้

     

    “หยุดวิ่งได้แล้วชานยอล”

    เขาคงคิดว่าผมกำลังดุ ถึงได้เม้มปากแน่นแล้วยืนก้มหน้านิ่ง ดูหางลู่หูตกจนต้องรีบอธิบายเพิ่ม

    “คนอื่นยังแต่งหน้าไม่เสร็จเลย เหนื่อยก็นั่งพักเฉย ๆ บ้าง”

    พอเสียงอ่อนลงจนอีกฝ่ายจับความเป็นห่วงได้ หน้าจ๋อย ๆ ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง

    “ผมไม่เหนื่อยซะหน่อย เห็นมะ”

    “เหรอ...”

    แต่พอดึงมานั่งนิ่ง ๆ ข้างกันได้สำเร็จ พักเดียวเท่านั้น คนที่บอกว่าตัวเองไม่เหนื่อยและมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือก็คอหักพับคาพนักโซฟา ดูเมื่อยแทนจนอยากจับมาพิงไหล่หรือให้หนุนตักสบาย ๆ แต่ก็ทำไม่ได้

     

    ใช่ ทำไม่ได้

    ทำอะไรไม่ได้นอกจากมอง และแม้แต่มองบางครั้งก็ต้องระมัดระวัง 

     

    แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่เป็นอะไรเลย

     

    ผมมองเขาเพียงครู่เดียวก็ละสายตาออกมา มองไปที่ปลายเท้าตัวเองซึ่งอยู่ห่างจากปลายเท้าเขาแค่ไม่กี่นิ้ว เรานั่งอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ระยะแสนแคบที่ทำให้รู้สึกได้ถึงทุกการขยับตัวของเขา แต่แค่นั้น ในอกก็อุ่นรื้น ผมบังคับตัวเองไม่ให้ยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจดังแผ่วอยู่ข้าง ๆ

     

     

     

    หากถามว่าผมต้องการอะไร...?

     

     

     

    ผมแค่อยากมีเขาอยู่ในชีวิต และไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้เลย










    you are my sunshine, my only sunshine.
    you make me happy when skies are gray.
    you'll never know dear, how much I love you.
    Please don't take my sunshine away.

     


     

     

    To be continued.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×