[CU] รีวิว(สปอยล์)บรรดาวิชาเลือก by. BPisces

ลำดับตอนที่ #9 : Korean Writing I : การเขียนภาษาเกาหลี 1

KOREAN WRITING I
รหัส 2225204

**ข้อมูลจาก เทอม 2 ปีการศึกษา 2560**

[คำเตือน: ไม่ได้เปิดให้เรียนสำหรับเสรีหรือโทเกาหลีมา 1 ปีแล้ว]

จำนวนเซค ที่มักเปิด	1 เซค เซคละ 30 คนโดยประมาณ
ความยากในการลง	Normal
เทอมที่เปิด	เทอม 1	เทอม 2	Summer
	แล้วแต่ภาระงานอาจารย์ชาวเกาหลี (แต่มักจะเปิดเทอม 2 มากกว่า)		-
เวลาที่มักจะได้	อาจจะเช้า (9.30 - 12.30) หรือ บ่าย (13.00 - 16.00)
สถานที่เรียน	คณะอักษรศาสตร์ มักจะเป็นตึก MCS (มหาจักรีสิรินธร)
อาจารย์ที่สอน	ครูชาวเกาหลี อ.โอ อาริม
เงื่อนไขวิชา ที่ต้องเรียนมาก่อน	Korean II ภาษาเกาหลี 2 (2225102) (หรือแล้วแต่อาจารย์พิจารณา) ระดับเทียบเท่าที่แนะนำ: จบภาษาเกาหลี 3 มาแล้ว
เงื่อนไขคุณสมบัติผู้เรียน	ไม่มี จะปีไหน จะคณะไหนก็ลงได้ค่ะ ตามสบายจ้า
ประเภทกลุ่มวิชา	เมื่อลงทะเบียนวิชานี้แล้วจะนับเป็น “วิชาโทภาษาเกาหลี / Gen-lang / เสรี” อย่างใดอย่างหนึ่งจ้ะ
การตัดเกรด	(น่าจะ)อิงเกณฑ์และกลุ่ม
การสอบ	Midterm	Final	Quiz ทั่วไป
	-	มี	-

ย้ำอีกครั้งนะคะ ทั้งหมดนี้เป็น **ข้อมูลจาก เทอม 2 ปีการศึกษา 2560** ครูผู้สอน: โอ อาริม

เทอมต่อไปอาจมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหา ระบบ และเงื่อนไขต่างๆ ตามความเหมาะสมค่ะ

Q: เขียนอะไรกันบ้าง?

A: บรรยายครอบครัว, กิจวัตร, งานอดิเรก, เล่าประสบการณ์, บรรยายฤดูกาล, เขียนจดหมายหาเพื่อน, เขียนจดหมายหาผู้อาวุโส, สเป็ค, สูตรทำอาหาร, แจ้งของหาย ฯลฯ

….ทุกเรื่องสามารถโกหกได้ค่ะ ขอแค่เขียนให้ได้ก็พอ

Q: ควรมีความรู้เทียบเท่าระดับไหนถึงจะมาเรียนแล้วรอด ไม่ตายคาคลาส

A: ถึงแม้ในเงื่อนไขจะบอกว่า แค่จบเกาหลีสองก็มาเรียนได้ แต่เอาจริงแล้วดิชั้นแนะนำว่าควรจะจบเกาหลีสาม แล้วค่อยมาเรียนจะปลอดภัยกว่า แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าใครอยากท้าทาย กระโดดออกจากเซฟโซน มันก็ยังไม่ถือว่าเสี่ยงขนาดนั้น เพราะไวยากรณ์ตัวไหนที่จำเป็น อาจารย์ก็จะสอนให้ก่อนเริ่มเขียนตลอดอยู่แล้ว แต่นั่นก็หมายความว่า คุณจะต้องพยายามรับเรื่องใหม่ๆ ให้ไวกว่าชาวบ้านเช่นกัน

(จังหวะที่ดีที่สุดคือ จบเกาหลี3 + เทอมนี้กำลังเรียนเกาหลี 4 แล้วมาลงตัวนี้)

Q: ระบบการเรียน?

A: อาจารย์จะเริ่มคลาสด้วยการสอนไวยากรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ในการเขียนหัวข้อประจำวันนี้ก่อน ใครที่รู้แล้วก็อาจจะเซ็งๆ หน่อย แต่ถ้าไม่รู้มาก่อนก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนไวยากรณ์แบบเชิงลึก เพราะรอบนี้เราจะต้องเป็นคนถ่ายทอดเนื้อความเอง หากไม่เข้าใจฟังก์ชั่นของไวยากรณ์แบบละเอียด ก็อาจจะทำให้เขียนออกมาเพี้ยนได้ ดังนั้นก็ตั้งใจตรงนี้กันด้วยนะคะ

หลังจากที่เรียนไวยากรณ์เสร็จ ก็จะเข้าส่วนเขียน paragraph ประจำวัน แต่ละคลาสก็จะเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่อยๆ โดยจะเริ่มจากดูตัวอย่างก่อน ต่อด้วยการฝึกเติมส่วนที่ขาดไป แล้วก็ค่อยเริ่มเขียน paragraph ของตัวเอง ใครที่เสร็จก่อน ก็เอาไปให้อาจารย์ตรวจแก้ได้ ตรวจเสร็จก็กลับบ้านได้ค่ะ (แนะนำให้รีบๆ เขียนให้เสร็จก่อนชาวบ้าน จะได้ตรวจก่อน กลับก่อนเลย เริ่ดเว่อร์)

Q: การบ้านล่ะ?

A: การบ้านก็คือ การเอา paragraph ที่เขียนเองในคลาส(แล้วโดนแก้ด้วยหมึกแดงเต็มหน้ากระดาษ) ไปเขียนรีไรท์ใหม่ให้เป็น paragraph ที่สมบูรณ์ หรือถ้าพูดแบบบ้านๆ ก็คือ ก็ลอกเวอร์ชั่นที่ถูกต้องใส่อีกแผ่นนั่นแหละ แล้วก็ค่อยรอเอามาส่งในคลาสถัดไปได้เลย

*สัดส่วนคะแนนจากการบ้านเยอะกว่าสอบอีกนะขอบอก อย่าดอง อย่าลืมส่งล่ะ*

Q: แล้วตอนสอบ Final นี่เขาจะให้เขียนอะไรเหรอ?

A: อาจารย์จะประกาศในคาบสุดท้ายเลยค่ะว่า ตอนสอบจะต้องเขียน 2 หัวข้อ แต่ 2 หัวข้อนี้จะสุ่มมาออกจาก 4 หัวข้อที่ประกาศในวันนี้

          เช่น ประกาศว่า 4 หัวข้อมี สเป็คของฉัน / สูตรทำอาหาร / ประสบการณ์เที่ยว / งานอดิเรก

          พอถึงวันสอบจริง อาจารย์ก็จะเลือกมาออกแค่ 2 จาก 4 นี้เท่านั้น (จำได้ว่านี่เจอ สเป็ค กับ ประสบการณ์เที่ยวล่ะมั้ง)

Q: ในเมื่อมันไม่ใช่ unseen สามารถเขียนสตอรี่แบบเดียวกับที่เคยฝึกเขียนในคาบเป๊ะๆ ลงในข้อสอบได้มั้ย?

A: ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ถ้าจำได้ก็จำไป อาจารย์ไม่ว่า (แต่ก็ไม่มีใครจำได้หมดหรอกเอาจริง ถึงเวลาก็มีส่วนที่ต้องด้นสดเพิ่มกันทั้งนั้น)

Q: เช็คชื่อมั้ย?

A: เช็คค่ะ เช็คยันคนมาสายด้วยซ้ำ (จะเริ่มนับว่าสายก็ต่อเมื่อตอนที่สอนส่วนไวยากรณ์เสร็จแล้วยังไม่โผล่หัวมาสักที) แน่นอนว่ามีคะแนนส่วนนี้ด้วย แนะนำว่าอย่าขาดอย่าสายกันเลยจะดีกว่านะคะ

Q: เรียนจบตัวนี้แล้ว สามารถไปสอบ TOPIK II พาร์ท writing (ข้อ 54) ได้ฉลุยเลยรึเปล่าจ๊ะ?

A: กรี๊ดดดดด ยังไม่พอค่ะ! ไม่พอสุดๆ !!

เพราะ TOPIK II พาร์ทเขียนข้อ 54 นี่ระดับเขียนอภิปรายตอบคำถามชิงมงกุฎ Miss Universe เช่น ทักษะภาษาต่างประเทศคืออะไร สถานการณ์ใดที่จำเป็นจะต้องใช้ทักษะนี้ และเราสามารถพัฒนาทักษะดังกล่าวได้ด้วยวิธีการใดบ้าง …ตัดภาพมาที่ตัวนี้ สเป็คผู้ชายเธอเป็นยังไง… เอิ่ม ห่างชั้นโคตรๆ

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นพื้นฐานของการเขียนภาษาเกาหลีจริงๆ เพราะงั้น ถ้าใครยังไม่มีพื้นฐานการเขียนภาษานี้เลย วิชานี้ก็ถือว่าเป็นจุดที่เริ่มต้นที่ดีมากๆ เลยทีเดียว