คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : [งานแปล] สรุปหนังสือนอกเวลา The Pearl
[งานแปล] สรุปหนังสือนอกเวลา
The Pearl ไข่มุกอาถรรพ์มหัศจรรย์พันระดึก
Biw TigerPisces สรุป
ตัวละคร
สัญชาติของทุกตัว : Mexican – Indian (ยกเว้นอิหมอ กับลูกน้องของหมอ ที่เป็น European Spanish)
Kino
พระเอกของเรื่อง เป็นคุณพ่อมือใหม่ และเป็นสามีที่ดี ปราดเปรียว ไหวพริบดี ขยันทำมาหากิน แต่เป็นประเภททะเยอะทะยานชนิดหน้ามืดตามัว ก็...ตั้งแต่เจออีไข่มุกนั่นเนี่ยแหละนะ
Juana
ภรรเมียของ Kino เป็นคุณแม่มือใหม่ที่รักลูกสุดสวาทยิ่งชีพ เป็นโคตรมหาศรีภรรยาที่ดี สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของนางคือ ครอบครัว สังเกตได้ว่า นางมีน้ำอดน้ำทนมาก ขนาดโดนผัวตบคางแตกยังทนได้ ไม่ว่าอะไร ต่อให้สามีจะขึ้นเหนือล่องใต้ขนาดไหน ก็จะตามไปไม่ทิ้งกัน นิสัยที่เด่นอีกอย่างคือ เป็นคนที่สันโดษ คือ พอใจในสิ่งที่ตนมีสุดๆ เรียกได้ว่า นังวาสิฏฐีจากกามนิตด้อยค่าไปเลย บร๊ะ เอาไปเลย รางวัลศรีภรรเมียดีเด่น
Coyotito
ลูกชายสุดที่รักของทั้งสองตัวละครข้างต้น เป็นเบบี้ทารก และเป็นหนึ่งในตัวที่ทำให้เรื่องเกิดขึ้นด้วย
Juan Tomas
พี่ชายของ Kino เป็นพี่ที่ดี ถึงความรู้จะไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่ถ้ามีอะไรก็จะช่วยน้องชายของตนอย่างสุดความสามารถเสมอ (ชั้นขอล่ะ อย่าอ่านประโยคเมื่อกี้เป็นความหมายโดยนัย)
Apolonia
ภรรเมียของ Tomas ชื่ออย่างกับดันเจี้ยนของเกมอะไรสักอย่าง ไม่มีบทบาทอะไรมาก ผัวว่าไง อิฉันว่าตามนั้น
Doctor
หมอแก่รูปร่างอ้วน ที่เป็นภาคตรงข้ามกับหมอแสง ตระหนี่ เหยียดชนชั้น ตอแหล สับปลับ อิหมอดอก แต่สุดท้ายตัวละครนี้ได้รับกรรมทางอ้อม คือ คนเขียนลืมบทมันไปเลย ลืมแบบลืมใส่จริงๆ อย่างเห็นได้ชัด (ถ้าได้อ่านจริงๆ แล้ว ทุกคนอาจจะเดาว่าหมอน่าจะตามล้างตามเช็ดเป็นศัตรูตั้งแต่ต้นยันจบ แต่กลายเป็นว่า นับจากบท5 ก็ไม่มีบทบาทอะไรอีกเลย)
The servant
คนรับใช้ของหมอ ไม่มีบทอะไรเท่าไหร่นัก
Pearl Buyer
นักซื้อไข่มุก ในเรื่องมีทั้งหมด 3 คนด้วยกัน แต่คนที่เด่นสุดคือคนแรก ที่หัวล้านสะท้อนแสง
Tracker
คณะตามล่าตามเชือด ไล่ล่าKinoสุดขอบฟ้าเพื่อจะชิงไข่มุกมา เป็นบอยแบนด์ 3 คน ที่น่าจะถูกใครซักคนบอกข่าวมาให้ตามล่า
Stranger
แก๊งคนแปลกหน้าที่พยายามจะเข้ามาขโมยไข่มุก ระบุจำนวนไม่ได้ว่ามีเท่าไหร่ แต่มีฉากสู้รบปรบมือจริงจังกับ Stranger ถึงสามครั้ง และในครั้งที่สาม Kinoสามารถฆ่าได้ 1 คน แต่พวกที่เหลือก็เอาคืนด้วยการเผากระท่อมของครอบครัวKinoทิ้ง
The beggars / Neighbours / Crowd
ตัวประกอบฝูงชนกรุ๊ปใหญ่ พบเจอได้เกือบตลอดเรื่อง คอยซุบซิบนินทาเกี่ยวกับ Kino ทุกอิริยาบถ ประมาณว่า เหยแกร Kinoเจอไข่มุกด้วยแหละ เหยแกร Kinoจะขายไข่มุกด้วยแหละ เหยแกร Kinoสู้กับคนร้าย เหยแกร ไปดูกันๆ (แถวบ้านเรียก ว่าง)
ไอเทม / สิ่งก่อสร้าง สำคัญที่พบบ่อยในเนื้อเรื่อง
Pearl : คงไม่ต้องบอกมั้งว่ามันคืออะไร
Church : โบสถ์ มีไว้ให้Kinoมโนว่า ถ้ารวยเมื่อไหร่ จะจัดงานแต่งงานให้กับตัวเอง และJuana อีกรอบ
Canoe : เรือแคนนู หรือ เรือแจว (แจวมาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว เอ้า) สมบัติชิ้นสำคัญของ Kino เป็นอุปกรณ์ทำมาหากินที่Kino ขาดไม่ได้
Plaster : ปูนฉาบ จะเห็นได้ตาม Canoe ของKino ทำให้เรือทนทานยิ่งขึ้น
Shawl : ผ้าคลุมไหล่ ที่เอะอะJuanaก็จะเอามามัดตัวลูกบ้าง คลุมหน้าลูกบ้าง เช็ดบ้าง ใช้แมร่งตลอดค่ะ
Blanket : ผ้าห่ม บางทีจะเรียกสลับกันไปมากับ shawl
Wound : อันนี้ก็ไม่ใช่ไอเทมหรอก แต่มันแปลว่า บาดแผล(ที่เกิดจากการถูกพิษ)
Bush : พุ่มไม้ แมกไม้
Track : รอยเท้า
Cave : ถ้ำ มีบทบาทตรงที่ Kino ให้ Juana กับลูก ใช้ซ่อนตัว
แบบฝึกหัดVocab แหล่งข้อมูลby.Nicha Roj
http://www.vocabtest.com/vocabulary_word_test.php?tid=209471
*วิธีการใช้ เข้าไปตรง Learning Definitions ไม่ก็ Reverse Definitions
บทที่1 Kino , Juana and Coyotito
ตามสเต็ปบทเกริ่นนำ บทนี้จะเล่าถึงวิถีของครอบครัวชาวอินเดียนเม็กซิกัน ที่ประกอบด้วย พ่อKino(นักหาไข่มุกไปขาย) แม่Juana ลูกCoyotito ซึ่งเป็นครอบครัวที่ยากจน แต่ว่า ก็ประทังชีวิตต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ได้เดือดร้อนตลอดเวลาขนาดนั้น ทุกอย่างดำเนินไปตามกิจวัตรปกติ แต่เช้าวันนี้ก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อมีแมงป่องมาต่อยเข้าที่ตัวทารกน้อย Coyotito พ่อแม่แทบจะสิ้นสติไม่สมประดี รีบพาลูกมุ่งหน้าไปหาหมอในตัวเมืองทันที
บทที่2 The Doctor
ว่าด้วยฉากเปิดตัวของหมอสุดตระหนี่ ภาคตรงข้ามกับหมอแสง พอได้ยินว่ามีชาวอินเดียนยากจนมาขอให้ช่วยรักษา ฮีถึงกับเบะปากแคะขี้ฟันพร้อมกล่าวว่า ‘Have I notting better to do than make little Indians well?’ ซึ่งก็เพราะ “Indians never have any money” ลงเอยส่งคนรับใช้ไปบอกปฏิเสธ ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกKinoไม่มีเงินเพียงพอ
บทที่3 Kino Finds a Pearl
ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันต่อไป ในเมื่อเขาต้องการเงิน Kinoก็ต้องรีบหา จึงรีบออกทำมาหากิน แจวเรือแคนนูงมหาไข่มุกมาทำเงิน ระหว่างนั้น Juanaก็ใช้ความรู้พื้นบ้านเท่าที่มีเก็บสาหร่ายสีน้ำตาลมาพอกแผลให้กับลูก ในไม่กี่อึดใจต่อมา ก็ได้เห็นสามีของตนงมเอาไข่มุกเม็ดงาม อันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความชิบหัยส์ขึ้นมาได้ในที่สุด...
บทที่4 Kino’s Dream
เป็นบทที่ไม่มีอะไร ให้เรานั่งอ่านความโนของKino และความอิจฉีน้ำลายหกของเหล่าเพื่อนบ้านที่รู้ข่าวกันไป พอได้ไข่มุกเม็ดงามที่น่าจะกลายเป็นเงินก้อนโตได้ขนาดนี้ Kinoก็เริ่มวาดฝัน อยากจะมีปืนไรเฟิลราคางามมาครอบครองซักกระบอก อยากจะจัดงานแต่งงานอีกครั้งในโบสถ์หรูๆ ใส่เสื้อดีๆ ลูกได้เข้าเรียนอ่านออกเขียนได้ให้พ่อแม่ชื่นใจ แต่ในความหวังย่อมมีความหวั่นกลัวว่า ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คิดขึ้นมา เขาจะเจ็บขนาดไหนกันหนอ
แน่นอนว่า Kino ยิ่ง Panic ขึ้นหลายเท่า เพราะอิตอนวาดฝัน ดันไปโฟ่เม้าท์แตกใส่อิพวกเพื่อนบ้านตัวดีด้วยสิ...
อ้อ ข่าวดี สาหร่ายทะเลมันช่วยได้ ตอนนี้ Coyotito อาการดีขึ้นมาก ชนิดหมอไม่ต้องมาหาเลยทีเดียว
บทที่5 The doctor’s come
ไม่น่าพูดแบบบรรทัดที่แล้วเลย พออิหมอจอมตระหนี่ได้ข่าวว่าKinoเจอไข่มุกเม็ดงาม ก็ทำทีรีบแจ้นมาจะรักษาทารกน้อยที่ตัวเองเพิ่งจะปฏิเสธไปหมาดๆ ซึ่งพอเห็นว่า Coyotito หายป่วยแล้ว ก็ทำให้เบบี้กลับมาป่วยอีกรอบนึง (โดยอ้างกับพ่อแม่ว่า เห็นมั้ย พิษของแมงป่องตีกลับมาแล้ว) แล้วก็รักษาอาการป่วยที่ตัวเองเป็นคนก่อนั่นแหละ จะได้ดูเป็นหมอผู้แสนจะชำนาญการ แต่สายตาก็แอบเหลือบสอดส่องว่าไข่มุกอยู่ตรงไหนตลอดเวลา พอไม่เจอก็อวยพรกึ่งจิกกัดประมาณว่า
ถ้าไข่มุกหายไป คงจะน่าเสียดายมิใช่น้อยเลยเนอะเธอว์
กระทั่งหมอกลับไปแล้ว ความระแวงของKinoก็x10 กลางดึกคืนนั้น ความระแวงของKinoเป็นจริง มีคนบุกรุกจะเข้ามาหาไข่มุก แต่Kinoดันตื่นเข้ามาขวางพอดี เลยถูกฟาดเข้าให้เต็มกบาล ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป นั่นทำให้ Juana เริ่มตระหนักแล้วว่า สามีเก็บของอันตรายมาสู่ตัวเข้าให้แล้ว นางเริ่มดีเบตกับสามีที่รักว่า ทิ้งไข่มุกนี่ไปเถอะ ก่อนที่มันจะทำร้ายเรา
Kino ฟังมั้ย
...ทิ้งก็โง่สิอิดรอก
บทที่6 Kino Tries to Sell The Pearl
เช้าวันรุ่งขึ้น Kino รีบคว้าชุดที่ดีที่สุดมาใส่ พกความฝันเต็มเปี่ยม มุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมืองเตรียมตัวจะขายไข่มุกให้กับนักซื้อทั้งหลาย โดยมีพี่ชาย Tomas คอยให้คำปรึกษาเท่าที่จะช่วยได้ Kinoเองได้วาดไว้ในหัวว่า อย่างน้อยวันนี้ต้องได้กลับไปซัก 50,000 pesos กลับไปก็ยังดี เหตุการณ์เริ่มไม่เป็นอย่างที่ Kino คิดไว้ นักซื้อแต่ละผู้ต่างอ้างไปต่างๆ นานา
คนที่1 : มันใหญ่ไปนะ มันใหญ่เกินคำว่าไข่มุก ซึ่งนั่นทำให้มันลดคุณค่าในตัวเอง เอางี้ ผมให้ 1,000 pesos พอมั้ย?
คนที่2 : ไข่มุกปลอมชัดๆ! ไข่มุกอะไรจะใหญ่เท่าไข่ห่านขนาดนี้ ไม่มีทางซื้อหรอก!!
คนที่3 : อืม น่าสนดีนะ แต่ผมให้คุณได้แค่ 1,000 - 1,500(fifteen hundred) pesos ประมาณนี้ เอามั้ย?
ม่ายยยยยยยยยยย พวกแกมันขี้โกงงงงงงงงงง พวกแกกดราคา ต้องมีคนที่ให้ราคาดีกว่านี้เสะ ไม่มีทางที่ฉันจะขายให้พวกแกหรอก!!
Kino หวีดร้องออกมา ฉวยไข่มุกกลับไป ในสภาพหวังน้ำบ่อหน้าสุดๆ
บทที่7 The Trouble Begins
เย็นนั้น Kino กลับไปปรับทุกข์กับขุ่นพี่ Tomas โดยตัวKinoมีความคิดว่า ถ้าสามารถเข้าไปถึงเมืองหลวงได้ เขาจะให้ในราคายุติธรรมกว่านี้ แพงกว่านี้ น่าจะเป็นไปได้แหละขุ่นพี่ เพื่อนๆ มีมากมาย น่าจะช่วยๆ กันได้
Tomasไม่รู้จะแนะยังไง ได้บอกแต่ว่า ถึงเวลาจริง มันจะลำบากมาก ด้วยหลักการ ‘Your friends will only help you if they aren’t in danger too’ สุดท้ายก็ได้อวยพรแต่ว่า ‘Go with God’ คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะ
คืนนั้น เป็นแบบคืนก่อนหน้าไม่มีต่างจากกัน รอบนี้ต่างกันแค่Kinoโดนฟันเข้าตรงคางเลือดไหลอาบ เหตุการณ์ประดุจเดจาวู Juana หวีดร้องและบอกให้เอาไข่มุกไปทิ้งเป็นรอบที่สอง
แล้วKinoว่าไง
ทิ้งก็โง่สิอิดรอกกก (รอบสอง)
...ทั้งสองนอนหลับต่ออย่างปลงๆ
บทที่8 Fire and Death
ในช่วงกลางคืน Juanaคิดอุกอาจ นางใช้จังหวะที่สามีหลับฉวยเอาไข่มุกไป เตรียมตัวจะปาลงทะเล แต่Kinoผู้สัญชาตญาณดีรู้ตัวทันวิ่งตามมาห้ามศรีภรรเมีย และสนองของสมนาคุณด้วย หนึ่งหมัดจนคางแตก หนึ่งตีนเอวช้ำ ด้วยความเกรี้ยวกราด
‘กรุจะฟ้องปวีณ* หง*กุล’ Juana ไม่ได้กล่าวไว้
Kino พอได้ไข่มุกเรียบร้อย เดินกลับไปจะนอนต่อ จังหวะเดียวกับที่ The stranger แวะมา say hello ประทุษร้าย รอบที่สามติดต่อกัน รอบนี้ Kino คว้ามีดขึ้นมาจ้วงแลกหมัด Kino สลบ ส่วนอิคนแปลกหน้าตายHaเรียบร้อย Juana ค่อยๆ คลานเข้ามาเก็บไข่มุกที่กลิ้งหลุนๆ อยู่กับพื้น ชั่งใจอยู่นิดหนึ่งว่าควรจะทำยังไง
ด้วยความเป็นศรีภรรเมียที่ดีเกินไป พอKinoตื่น ก็เอาไข่มุกคืนให้ตามปกติ พร้อมบอกว่า ตอนนี้พวกเรากลายเป็นฆาตกรไปแล้ว เราคงจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้
KinoกับJuanaรีบไปเก็บข้าวของเตรียมผจญภัย แล้วไปหลบอยู่ในมุมลับตา ตามที่คาด มีคนเข้าเผาบ้านของKinoให้วอด เรือแคนนูก็โดนเจาะรูจนพังไปเลย
.......Kinoกรี๊ดหวีดร้องอาลัยกับเรือแคนนูมากกว่า ชนิดอุทานในใจว่า ‘The killing of a man not so bad as the killing of a boat.’ ประมาณว่า ถ้าจะทำกับเรือสุดที่รักขนาดนี้ ฆ่ากรุเลยดีกว่า
บทที่9 Kino and Juana Run Away
เพื่อนบ้านที่ดี รวมถึง Tomus และ Apolonia ก็มาช่วยดับไฟ Apolonia ร่ำไห้ออกมาเพราะคิดว่าพวกสามพ่อแม่ลูกติดอยู่ในนั้นและคงตายไปแล้ว แต่พอKinoแอบมาจ๊ะเอ๋ ขอกบดาน ทั้งสองผัวเมียก็รีบพาทั้งคู่มาหลบในบ้านสักไม่กี่ชม. พอKinoยืนยันความมั่นใจว่าจะไปทางเมืองหลวงตอนเหนือเพื่อขายไข่มุกให้ได้ Tomasก็จัดหาข้าวของที่จำเป็นต่อการเดินทางให้
สามพ่อแม่ลูกออกเดินทาง เป็นการเดินทางที่ยากลำบากมาก เพราะรู้ตัวว่าถูกไล่ล่าอยู่ การย่างก้าวแต่ละก้าว จะต้องมีการกลบเกลื่อนรอยเท้าอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะจังหวะนึงถึงกับต้องรีบไปแอบซ่อนตัวในพุ่มไม้เมื่อมีเกวียนเทียมม้าวิ่งผ่านไป เรียกได้ว่า Kino หวาดระแวงทุกสิ่งอันรอบข้าง แต่มิวายจะยังเฝ้าฝันถึงวันที่ขายไข่มุกได้อยู่ดี
บทที่10 The Trackers
Kinoฝันร้ายเป็นระยะ พอเมียถามด้วยความห่วง ก็ตะคอกตอบด้วยความรัก แต่ยังไม่ทันจะตบจูบอะไรกัน เสียงคนเดินทางก็กระทบโสตประสาทอีกรอบ ทั้งสามรีบพากันไปหลบใต้พุ่มไม้ต้นไม้อีกหน รอบนี้คนที่มาตามล่าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ นานกว่ารอบก่อนหลายเท่า จนKino รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้โคตรจะไม่ปลอดภัย เริ่มจะหมดความหวังที่จะรอด เจ้าตัวจึงบอกว่า
Kino : ไข่มุกอยู่กับฉัน ยอมออกไปล่อหน่อยก็ดี โดนจับก็ช่างมัน
Juana ด่ากลับไปว่า อิผัวห่าน คิดว่าเขาจะแค่เอาไข่มุกเหรอ เดี๋ยวก็ได้โดนเชือดตายHa Tripple Kill หรอกไม่วาย
พอ พลิกความคิดได้ เขาก็ฮึดจะเอาตัวรอดมากขึ้น ทีนี้จึงรีบเสนอว่า เดี๋ยวผัวจะเป็นตัวล่อ วิ่งหนีนำคนเดียวนะเบบี๋ เบบี๋หนีไปทางอื่นนะ
ฝ่ายภรรเมียยังดวลวาทะอีก ใจความว่า ถ้าเราจะหนีไปอีก ก็ต้องหนีไปด้วยกัน
Kinoด่ากลับไปอีกว่า อิหอยหลอด ฉันไปคนเดียวจะไวกว่านี้ ปลอดภัยกับตัวเธอและลูกมากกว่า
Juanaไม่ยอม... กรูจะไปกับมรึง มีไรปะคะคุณผัว
ทั้งสองจึงตัดสินใจหนีกันต่อ ด้วยการขึ้นเขาให้สูงกว่านี้...
บทที่11 The Cry of Death
จุดสิ้นสุดของมหากาพย์การผจญภัยของKino อยู่ที่บทนี้
Kino พาเมียและลูกไปซ่อนตัวในถ้ำที่อยู่ส่วนด้านบนของหุบเขา จังหวะเดียวกันก็เห็นฝ่าย บอยแบนด์ The Tracker ทั้งสามตามล่ามาถึงแถวๆ ตีนเขาจนได้ ดูก็รู้ว่าถ้าหนีต่อไป สุดท้ายก็คงจะถูกจับได้อยู่ดี จึงวางแผนดุจดั่ง Assassin Creed จะต้องลอบสังหารไอ้พวกนี้ และชิงอาวุธ(ปืนไรเฟิล)ของพวกมันมาไว้ในครอบครองให้ได้
ในตอนที่Kinoกำลังซุ่มอยู่เตรียมตัวจะจัดการ อิCoyotitoเจือกร้องส่งเสียงออกมา..
The Tracker รำคาญทันใด คิดว่าน่าจะเป็นเสียงลูกหมาที่ไหนซักตัวมาร้องเอ๋งๆ แถวนี้ จึงเงื้อปืนขึ้นกดยิงไปตรงปากถ้ำ
วินาทีนั้น Kino กระโจนออกมาใส่ฉากบู๊ต้มยำกุ้งกระจุยกระจาย จนสามารถฆ่าสองคนแรกได้ในที่สุด และชิงปืนไรเฟิลมา
คนสุดท้ายที่ยังเหลือรอดรีบคลานหนีไปตรงแอ่งน้ำ พร้อมร้องขอชีวิต แต่ความอำมหิตในใจKinoมีมากกว่า ลั่นไกดังเปรี้ยงใส่ชายตรงหน้า นอนจมกองเลือดในน้ำไป ซึ่งนั่นทำให้Kinoได้สติว่า ตัวเองกำลังจะบ้าอะไรอยู่...
มีเสียงร้องแบบ The Cry of Death ดังออกมาจากปากถ้ำ
และเจ้าของเสียงร้องนั่นก็คือ Juana...
Coyotito
โดนไรเฟิลเฮ้ดช็อต..
บทที่12 Kino and Juana Return Home
เหล่าผู้คนจะเห็นสองสามีภรรยากำลังเดินกลับมาผ่านเมืองไปสู่หมู่บ้าน ในสภาพที่ฝ่ายภรรยาอุ้มร่างของเด็กทารกไว้แนบชิดตัว ใบหน้าทั้งสองดูเหมือนคนไร้วิญญาณ ไร้หลักยึดในจิตใจก็ว่าได้
Kino และ Juana เดินผ่านซากบ้านที่ถูกเผา เดินผ่านเรือแคนนูที่โดนเจาะทำลาย มาถึงชายฝั่งทะเลตรงจุดเดิมที่ Juanaเคยจะเอาไข่มุกไปปาทิ้ง
รอบนี้ Kinoยอมเอาไข่มุกออกมาให้ฝ่ายศรีภรรเมียกระทำการดังนั้นแต่โดยดุษณี
หากJuanaส่ายหน้า กอดร่างไร้วิญญาณของลูกไว้แน่น พร้อมกล่าวว่า ‘คุณทำเถอะ’
Kino โยนไข่มุกแห่งความหายนะลงสู่ทะเลดุจดั่งขว้างจักรในกีฬาโอลิมปิก ในวินาทีนั้นเอง ที่Kinoได้รู้สึกว่าไข่มุกมันสวยขึ้นมาอีกครั้ง มันสวยเพราะมันได้อยู่ในที่ที่มันควรอยู่ นั่นคือผืนทะเลเบื้องลึกแห่งนี้นั่นเอง.
ความคิดเห็น