ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [CU] รีวิว(สปอยล์)บรรดาวิชาเลือก by. BPisces

    ลำดับตอนที่ #6 : KR LIST/SPK I : การฟังและพูดภาษาเกาหลี 1

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 630
      2
      13 ธ.ค. 61

    KR LIST/SPK I : ภาษาเกาหลี-ฟังพูด 1

    รหัส 2225211

    **ข้อมูลจาก เทอม1 ปีการศึกษา 2560 ผู้สอน: ARO**



    ชื่อเล่น: เกาฟังพูด 1


    จำนวนเซค
    ที่มักเปิด

    1 เซค
    เซคละ
    40 โดยประมาณ

    ความยากในการลง

    Normal
    (
    รอบเทอม 1 ปี 60 นี้มีเด้งประมาณ 10 คน)

    เทอมที่เปิด

    เทอม 1

    เทอม 2

    Summer

    เปิด

    -
    (มักจะไม่เปิด)

    -

    เวลาที่มักจะได้

    อาจจะ บ่าย (13.00 - 16.00) หรือ ค่ำ (16.00 - 19.00)

    สถานที่เรียน

    คณะอักษรศาสตร์

    มักจะเป็นตึก MCS (มหาจักรีสิรินธร)

    อาจารย์ที่สอน

    ครูชาวเกาหลี 3 ชั่วโมงเต็ม

    เงื่อนไขวิชา
    ที่ต้องเรียนมาก่อน

    ภาษาเกาหลี 1 2225101 (หรือแล้วแต่อาจารย์พิจารณา)

    เงื่อนไขคุณสมบัติผู้เรียน

    ไม่มี จะปีไหน จะคณะไหนก็ลงได้ค่ะ ตามสบายจ้า

    ประเภทกลุ่มวิชา

    เมื่อลงทะเบียนวิชานี้แล้วจะนับเป็น

    “วิชาโทภาษาเกาหลี / Gen-lang / เสรี” อย่างใดอย่างหนึ่งจ้ะ

    การตัดเกรด

    (น่าจะ)อิงเกณฑ์และกลุ่ม

    การสอบ

    Midterm

    Final

    Presentation

    มี

    มี

    มี

     

    เนื้อหา

    ประเด็น

    การทักทาย/การแนะนำตัว

    การสนทนาเกี่ยวกับชื่อสิ่งของ

    การสั่งอาหาร

    การสนทนาเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้ง

    การสนทนาเกี่ยวกับสถานที่

    สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

    การสนทนาเกี่ยวกับการปฏิเสธ

    การสนทนาเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้ง

    การสนทนาเกี่ยวกับการไปยังจุดหมายปลายทาง

    การสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำในอนาคต

    การสนทนาโดยใช้คำยกย่อง

    การสนทนาเกี่ยวกับความสามารถ

    การเสนอแนะ

    การสนทนาเกี่ยวกับการบอกสาเหตุ/ที่ไม่สามารถทำได้

    การสนทนาเกี่ยวกับประสบการณ์

    การสนทนาโดยใช้การเปรียบเทียบขั้นกว่าและขั้นสุด

                                    
    และที่เน้นอีกอย่างตลอดคอร์สจะเป็น “การออกเสียงที่ถูกต้อง” คำนี้เขียนแบบนี้ แต่ความจริงแล้วคนเกาหลีเขาออกเสียงอีกแบบนะ คำนี้เชื่อมเสียงกันแล้วการออกเสียงจะเปลี่ยนนะ ฯลฯ 

     

    Q1: ควรมีความรู้เกาหลีอยู่ที่ระดับไหน ถึงจะเหมาะ พอดี

    A: ควรกำลังเรียน Korean II หรือ Korean III ซึ่งส่วนตัวคิดว่า 'กำลังเรียนเกาหลี3' เป็นสถานะที่เหมาะกับวิชานี้ที่สุด สบาย เพราะจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทำความเข้าใจว่า ประโยคสนทนานี้มันแปลว่าอะไรวะ ทำไมเขียนแบบนี้ ใช้แบบนี้ ส่วนพวกที่กำลังเรียนเกาหลี2 จะมีแกรมม่าร์ที่ไม่เคยเจอ หรือว่าตรงฝ่ายเกาหลี2ยังสอนไปไม่ถึงอยู่ราวๆ 30-40% แต่ก็ยังไหวนะ ไม่ช็อคมากขนาดนั้น และถ้ามองในแง่ดี บางทีเนื้อหาวิชานี้ อาจจะไปล้อกับเกาหลี2 ที่เรียนอยู่ เป็นการเสริมความรู้กันเองด้วย แบบนี้ก็เริ่ดอยู่เหมือนกันนะแกร

              แต่ถ้าใครเกิดเปรี้ยวใจอยากลงตั้งแต่ตัวเองยังกำลังเรียนเกาหลี 1 อยู่ (ในที่นี้หมายถึง ประเภทที่เคยเรียนด้วยตัวเองมาก่อนแล้วนิดหน่อยแล้วเลือกลงเกาหลี 1) ก็อาจจะต้องดิ้นรนกว่าเพื่อน ด้วยการโฟกัสตอนที่อาจารย์อธิบายแกรมม่าร์ให้มากๆๆๆๆๆๆ เข้าไว้ (ย้ำไปอีก) 

              เอ่อ แต่ถ้าหากเธอยังอยู่ในสภาพที่ยังแกะอักขระตัวอักษรเกาหลีไม่ค่อยได้ อ่านออกเสียงยังไม่คล่องเลยด้วยซ้ำ ก็ต้องพูดกันตามตรงว่า ไม่รอดแน่นอนค่ะ อย่าลงเลยจะดีกว่านะเธอ เก็บไปลงเทอมต่อๆ ไปเถอะนะ 

    ในทางกลับกัน!! ใครที่ความรู้สูงมากๆ ระดับแบบ เกาหลี4 ขึ้นไปแล้ว อาจจะรู้สึกเบื่อมากๆ ตอนที่อาจารย์แจงแกรมม่าร์ แจงวิธีผัน อ่านให้ฟังช้าๆ ขนาดต้นคาบอาจารย์ยังเคยเตือนก่อนเริ่มคลาสเลยด้วยซ้ำว่า "มันอาจจะง่ายเกินไปนะคะ" แต่ถ้ามาเพื่ออยากฝึกพูดฝึกฟังจริงๆ ก็ไม่เป็นไรค่ะ โฟกัสแค่ตอนที่เขาให้ฝึกพูดฝึกฟัง แล้วก็ตอนสอบอะไรงี้ก็พอค่ะ


    Q2 : Presentation โหดป่าว

    ไม่โหดค่ะ อย่างปีนี้ให้เลือกหัวข้อระหว่าง “แนะนำตัวเอง(เชิงอวดทักษะส่วนตัว แพชชั่น) / แนะนำเกี่ยวกับครอบครัว” สคริปต์ต้องเขียนเอง อาจจะกรีดร้องละว่าจะทำยังไงดี แกรมม่าร์ในบทเกาหลีที่ตัวเองเขียนมันจะถูกเหรอ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ อาอาจารย์จะนัดตรวจสคริปต์ทุกคนก่อนวันพรีเซ้นท์จริงค่ะ และในส่วนวันจริงนั้น ทุกคนจะถูกจัดเวลาเข้าไปพรีเซนท์หน้าชั้นรอบละ 10 คน นั่นหมายความว่า ถ้าไม่ใช่ช่วงของตัวเอง ก็ไม่ต้องอยู่นั่งฟังตลอดก็ได้ คนที่จะฟังเราในแต่ละรอบก็จะมีแต่เพื่อนที่ได้คิวเวลาเดียวกันกับตัวอาจารย์ที่จะคอยประเมินค่ะ

     

    Q3 : ระบบการสอบเป็นยังไงคะ

    A : ขอแบ่งเป็น 2 ส่วนนะคะ

              มิดเทอม : สอบข้อเขียน ครึ่งนึงคือเปิดเทปให้ฟังแล้วเราก็ตอบคำถามตามแต่ที่โจทย์จะกำหนดโดยใช้ข้อมูลจากที่ได้ฟังในเทปนั่นแหละมาตอบ กับอีกครึ่งคือไม่ต้องฟังเทป แค่เติมประโยคการสนทนาให้สมบูรณ์ตามแพทเทิร์นที่สอนกันในคาบก็เรียบร้อย

              ไฟนอล : สอบปฏิบัติค่ะ ให้จับคู่จองเวลาไปสอบ ส่วนที่ต้อง Co-op กับคู่จริงๆ จะเป็นส่วนง่าย ก็คืออาจารย์จะให้สคริปต์บทสนทนาที่มีแต่ V.dict คำๆ เป็นปล้องๆ เราต้องเอามาประมวลร้อยเรียงให้เป็นประโยค แล้วสนทนากับคู่ของเรา (ง่ายเว่อร์) แต่อีกส่วนจะเป็นสอบเดี่ยว เราจะได้รับกระดาษคำถาม unseen (มีหลายชุด)มาให้เราเตรียมตัวตอบแบบสดๆ ไม่ถึง 3 นาที หลังจากนั้นอาจารย์ก็จะเก็บกระดาษไปแล้วสุ่มถามคำถามจากในกระดาษคำถามที่เราเพิ่งจะเห็นนี่แหละ เอาล่ะ ถามมาก็ตอบไป แล้วอาจารย์จะประเมินความลื่นไหลในการพูด สื่อความได้มั้ย และออกเสียง(พวกคำที่เชื่อมเสียงต่างๆ ตามที่เขาสอน)ถูกมั้ย เช่น 따뜻하다 ใครออกว่า /ตาตึส - ฮาดา/ เขาก็จะผิดหวังนิดหน่อย เพราะมันควรออกว่า /ตาตึส - ทาดา/ ต่างหากล่ะ เพราะงั้นก็ฝึกให้ดีๆ ละกันเน้อ

         ตัวอย่างคำถาม unseen Final (แปลเป็นไทยนะคะ)

    1.            แนะนำพ่อแม่ให้ฟังหน่อยค่ะ เช่น อายุ อาชีพ งานอดิเรก (ต้องใช้ภาษาระดับยกย่อง) / มีพี่น้องมั้ย? แนะนำให้ฟังหน่อยค่ะ เช่น อายุ อาชีพ ที่เรียน งานอดิเรก

    2.            ทำไมถึงเรียนเลือกมาภาษาเกาหลีเหรอ บอกเหตุผลให้ฟังหน่อยสิ

    3.            รีวิว หนัง / เพลง / อาหาร / ที่เที่ยว หน่อยค่ะ

    4.            นิสิตถนัดอะไรคะ มีทักษะด้านไหนบ้าง ขายตรงตัวเองให้ฟังหน่อยค่ะ

    5.            ปิดเทอมนี้มีแพลนจะทำอะไรมั้ยเอ่ย

    6.            (ให้ภาพ) คนไหนสูงกว่ากันคะ

     

    Q4 : เรียนแล้วจะฟัง/พูดเกาหลีได้มากขึ้นจริงๆ มั้ย

    A : เอาแบบตรงๆ นะ ส่วนฟังนี่ไม่ค่อยได้พัฒนาอะไรเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายก็ไม่ได้ เข้าใจ เพราะฟังออกปุ๊บปั๊บ แต่เข้าใจ เพราะฟังหลายๆ รอบแล้วจำบทได้มากกว่า ส่วนทักษะพูด อันนี้ขึ้นอยู่กับความแอคทีฟของแต่ละคนค่ะ เพราะในคลาสอาจารย์จะให้หันไปลองคุยกับเพื่อนข้างๆ ตามที่สอนบ่อยมาก ประเด็นคือ..ถ้าหากว่าพูดตามตัวอย่างแบบเป๊ะๆ ตลอด เขาให้พูดแค่ไหนก็พูดวนอยู่แค่นั้น ก็จะไม่ได้อะไรเท่าไหร่ ถ้าอยากจะพัฒนาทักษะพูดจริงๆ ก็ต้องรู้จักดิ้นเอง พลิกแพลงบทบ้าง แถสดพอเป็นกระสัย มันถึงจะเวิร์ค แต่โดยรวมแล้ว ในสภาวะที่รอบตัวไม่ได้มีเพื่อนเป็นชาวเกาหลีให้มาฝึกฟังฝึกพูดเลย คอร์สนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ฝึกทักษะทั้งสองส่วนนี้ค่ะ (ถือคติที่ว่า ได้บ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×