คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ลาจาก
แสงแดดลอดหน้าต่างที่มีผ้าม่านสีฟ้าอ่อนเผยิบผยาบเบาๆด้วยแรงลมทำให้ดูราวกับแสงไฟริมถนนที่กำลังติดๆดับๆผ่านเข้ามายังในตัวบ้าน ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกตัวพลางขยร้ตาอย่างง่วงงุน นี่เรานอนท่านี้อยู่ทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย ? ฉันคิดงงๆเมื่อเห็นรอยสีแดงที่แขนเพราะโดนนอนทับมานาน ตอนหลับฉันเอากระเป๋าคิวต่างหมอน แล้วดันทำน้ำลายยืดหกใส่อีกต่างหาก ฉันได้แต่แอบหัวเราะเบาๆ
"ถ้าเธอจะอยู่กับฉัน เธอจะเอาขากับแขนฉันไปก็ได้ แต่เธอต้องอยู่กับฉันนะ ค่าปรับ ค่าตั๋วเครื่องบิน เดี๋ยวฉันจะออกให้หมดเลย ถึงตังค์ฉันอาจจะไม่พอแต่ฉันจะพยายามเอามาใช้ให้เธอ แต่เธอห้ามไปไหนนะ"
ฉันคิดถึงประโยคที่คิวพูดเมื่อวานตอนล้ม ที่จริงเรื่องค่าปรับน่ะฉันแค่ยกมาอ้างเท่านั้นแหละ แค่ทำงานพิเศษหัวโตก็ใช้ได้หมดหรอก
ถ้าเจ้าของกระเป๋ารู้ว่าหน้าหวานๆของตัวเองเปื้อนน้ำลายจะว่ายังไงกันนะ
เอ่อ ถ้าแขนขายังยกให้แค่นี้คงไม่เป็นไรหรอก
ให้ตาย น้ำตาจะไหลอีกแล้ว ขี้แยจังเลยเรา ต่อจากนี้จะไม่มีใครมาคอยเช็ดน้ำตาให้อีกแล้วนะ ฉันเตือนตัวเองเบาๆพลางปาดน้ำตาทิ้งแล้วเดินออกจากบ้านของคิวไป ก่อนฉันจะปิดงับประตู ฉันรีบหันไปดูบ้านของคิวเป็นครั้งสุดท้าย ผ้าห่มลายหมีพูร์ เครื่องเรือนสีฟ้า เหมือนกับใครยกท้องฟ้ามาไว้ติดกับผืนแผ่นดิน ฉันลูบวอลเปเปอร์สีฟ้าอ่อนอย่างเหม่อลอย
"ฉันจะไปแล้วนะ อีก 2 ปี ฉันจะกลับมา ที่นี่จะยังเหมือนเดิมมั้ย แล้วคิวจะโกรธรึเปล่า นายนั่น ถ้ากลับมาจะกอดฉันก่อนหรือจะฆ่าฉันก่อนก็ไม่รู้" ฉันได้แต่หัวเราะกับตัวเองอย่างเศร้าๆแล้วตัดใจเดินออกมาในที่สุด เหมือนมีแรงปรารถนาที่ไม่ทราบสาเหตุทำให้ฉันไม่อยากเดินออกไปจากบ้านของคิว สิ่งนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าความผูกพันก็ได้ สายใยบางๆที่มองไม่เห็นผูกคนสองคนไว้ด้วยความรัก แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะไปยังที่ไกลแสนไกลที่แม้แต่สายใยบางๆอาจจะทอข้ามโลกไปไม่ถึงด้วยซ้ำ มันอาจจะขาดลงกลางทางที่ไหนสักที่หนึ่ง แต่ฉันเชื่อว่า คงจะมีใครสักคนทอมันขึ้นมาใหม่แล้วส่งไปถึงฉัน จากใจถึงใจด้วยความคิดถึง....
ฉันเดินจากบ้านคิวมาถึงบ้านตัวเองด้วยสภาพสะโหลสะเหลแบบสุดๆ พลางผลักประตูร้านรับจัดแต่งงานเข้าไปอย่างเนือยๆ มีคนเดินสวนฉันออกไป แต่ดันทิ้งกลิ่นเหล้ากับบุหรี่ไว้แถวหน้าบ้าน ฉันหันตามไปจะต่อว่าแต่พอเห็นหลังไวๆฉันก็ได้แต่นิ่งอึ้ง
ก็คนที่ยอมผมสีเงินสะดุดตาแบบนั้นน่ะ มีสักกี่คนกันล่ะ แล้วแบบนี้จะได้ไปง่ายๆมั้ยเนี่ย
ฉันถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปในร้านรับจัดแต่งงานของพ่อกับแม่ ป้ายโฆษณาที่พ่อกับแม่ถ่ายยังคงอยู่เหมือนเดิม ซึ่งมันเหมือนกับเครื่องรางดึงดูดลูกค้าเลยแหละ โดยเฉพาะ ลูกค้าสาวๆที่บ้าผู้ชายมีอายุ จะใครน่ะเหรอ ก็พ่อสุดหล่อของฉันไง ส่วนพวกที่ชอบหนุ่มเอ๊าะๆก็มาหาฉัน (อยากร้องไห้) ชอบสาวๆก็มาหาพี่ เม้าท์เก่งก็มาหาแม่ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ร้านรายได้ดีได้ไงล่ะ
"อ้าวว อัยย์ หายไปไหนมาทั้งคืนฮึ ไม่ใช่ว่าไปแอบค้างบ้านหนุ่มๆมานะ อีกสองสามวันก็ต้องไปแล้วไม่ใช่เหรอ รีบเก็บของเถอะ" แม่หันมาทักฉันหลังจากที่กำลังขะมักเขม้นกับงานในมือ ชุดแต่งงานชุดใหม่ที่มีคนมาจอง ฉันมองแม่ พ่อ และบ้านของฉันด้วยความคิดถึง นี่ก็คืออีกอย่างที่ฉันจะต้องจากไปอีกแล้วสินะ
"คิดอะไรก็ไม่รู้ อยู่ๆจะไปก็ไป ถึงจะติดต่อไว้นานแล้วก็เถอะ แต่ทำไมเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้ล่ะ เจ้าลูกจอมยุ่ง" พ่อสุดหล่อของฉันบ่นแล้วยีหัวที่มีผมสั้นๆปกคลุมอยู่จนฟู จะว่าไปมันก็ยาวขึ้นเหมือนกันนะ ฉันม้วนผมเล่นอย่างเหม่อๆ ผมที่เคยยาวของฉันส้นลงจนชินตั้งนานแล้ว ก่อนจะไปนี่ตัดดีมั้ย อืม ไม่ดีกว่า ไปนู่นปล่อยให้ยาวดีกว่า เดี๋ยวใครจะมาเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชาย แต่จะว่าไปผมยาวๆก็สวยดีนะ เหมือนผมของคิว..... รอยยิ้มของฉันหุบลงในทันใด ใบหน้าใสกระจ่างเริ่มหม่นหมองลงเรื่อยๆ
"ขอตัวก่อนนะคะ พ่อ แม่" ฉันเดินหงอยๆขึ้นบันไดไปชั้นบน เจ้าลูกแมวที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานจากการ์ฟิลด์ซึ่งเป็นช่วงอายุที่กำลังซนอย่างร้ายกาจซะด้วยมาโรมรันพันตูขาฉันอย่างเมามัน
"เจ้าเหมียว พี่จะไม่อยู่แล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ อย่าซนนักนะรู้มั้ย" ฉันชี้นิ้วใส่หน้าเจ้าเหมียวพลางส่ายไปมาเป็นการสั่งลา แต่เจ้าเหมียวสีเหลืองขาวลูกโทนดันมองตามเป็นจอเรดาร์ พอฉันหยุดนิ้วส่ายไปส่ายมามันก็ตะปบเล่นในทันที ฉันเล่นกับมันอยู่นานพอดูจึงปล่อยมันลงที่บันไดชั้นล่างแล้วเดินขึ้นไปใหม่เพื่อเข้าห้องของฉันที่พี่ซาโยกำลังอยู่ข้างในตอนนี้ ไม่อยากเข้าไปเลย แต่ถ้าไม่เข้า จะให้ใส่เสื้อชุดเดียวไปก็ไม่ไหว หรือคืนนี้จะไปนอนโซฟาดี พ่อกับแม่จะผิดสังเกตรึเปล่ายิ่งเซ้นส์ดีอยู่ด้วยทั้งคู่เลย พอฉันกำลังจะยกมือเคาะก็มีเสียงออกมาก่อน
"เข้ามาสิ" ฉันเดินเข้าไปพี่นั่งอยู่บนเตียงหันหน้าไปมองท้องฟ้า พี่ชอบมองท้องฟ้าเสมอเวลาที่คิดถึงเด็กผู้ชายคนนั้น คิว.... ฉันไม่ได้มองท้องฟ้า เพราะเขาไม่ได้อยู่แสนไกล แต่ตอนนี้กลายเป็นฉันเองที่คิดจะหนีเขาไปสุดขอบฟ้า ฉันกับพี่ต่างไม่พูดอะไร ทำให้ห้องตกอยู่ในความเงียบแล้วพี่ก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน
"ที่อัยย์จะไปน่ะ เป็นเพราะพี่รึเปล่า"
"เปล่านี่พี่ ไม่เห็นมีอะไรเลย" ฉันยกมือขึ้นมาเกาหัว ครอบครัวนี้เซ้นส์ดีทั้งครอบครัวยกเว้นน้องคนสุดท้องซื่อบื้อ -*- ฉันไง
"ถ้าคิดจะโกหกพี่ล่ะก็ ฝันไปเถอะ เวลาโกหกจะยกมือขึ้นมาเกาหัว คิดว่าพี่ไม่รู้เหรอ ตอบมาซิ ทำไมถึงไปกะทันหันแบบนี้"
ฉันพยายามจะบอกพี่ด้วยประโยคที่เรียบเรียงมาให้ดูเป็นจริงที่สุด แต่พอสบสายตาดุๆของพี่ก็เป็นอันต้องยกเลิก พี่สาวฉัน....ดุกว่าเสือ ฉันถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งข้างๆพี่แล้วมองท้องฟ้าอีกด้วยอีกคน
"ถ้าพี่ต้องเลือกระหว่างความถูกต้องความผิดชอบชั่วดีพี่จะเลือกอะไร" ฉันแทบกลั้นหายใจรอคำตอบ พี่ทำหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบออกมาเบาๆ
"ความรักมีถูกผิดด้วยเหรอ ?"
"ถ้ารู้จะถามเหรอ พี่นี่ก็"
"พี่คิดว่า...." เสียงของพี่ถูกขัดจังหวะด้วยประตูที่เปิดผางและเงาดำที่พุ่งมาชนท้องจนจุก พี่มองอันริที่กอดฉันที่กองอยู่ที่พื้นด้วยสายตาว่างเปล่าแล้วเปิดประตูออกไปเงียบๆ
"พ่อกลับมาแล้ว หายไปไหนตั้งนาน แล้วแม่ล่ะ คิดถึงจัง" จะ จะ จุกจัง ท้องฉัน อันริถูไถหน้าไปมากับท้องฉัน น่ารักน่าฟัดดีจัง
"พ่อจะไปเมืองนอกแล้วนะ" ฉันลูบหัวซันริเบาๆแต่อันริจ้องตาฉันแป๋วแหวว
"แล้วแม่ล่ะ พ่อจะทิ้งผมไว้กับแม่สองคนจริงๆเหรอ พ่อจะทิ้งเราได้ลงคอเหรอ" อันริกอดฉันแน่นพลางทำน้ำตาคลอ ด่านหนึ่งปลิงติดหนึบหนับผ่านไปแล้ว ต้องมาผ่านด่านสองลูกแมวเหมียวขี้อ้อนอีกเหรอเนี่ย
"พ่อต้องไปนะ ป้า เอ่อ หมายถึงพี่ซาโย หรือป้าซาโย ช่างเถอะ หมายถึงเขาชอบแม่น่ะ เข้าใจมั้ย พ่อเลยต้องไป" ฉันเป็นพ่อพี่ก็ต้องเป็นป้า ลำดับญาติมันเพี้ยนไปหมดเลยแฮะ
"ทำไมต้องไปด้วย ก็พ่อรักแม่นี่ หรือพ่อไม่รักแม่ พ่อใจร้ายที่สุด"
"ก็ป้าเขาชอบแม่ก่อนนี่นา" ฉันเถียงเสียงอ่อยๆ ฟังแล้วเหมือนพี่ซาโยเป็นเลสเบียนเลย ฮิๆ
"ถ้าป้าเขาจองอมยิ้มทิ้งไว้ แล้วอมยิ้มมันกระดืบมาเข้าปากพ่อเอง มันก็ต้องเป็นของพ่อสิ"
= =" เด็กน้อยช่างมีจินตนาการเลิศล้ำว่าแต่....คิวเคยกระดืบมาเข้าปากเราด้วยเหรอ ?
"เอ่อ เอาเป็นว่าพ่อตัดสินใจที่จะปล่อยแม่ไปละกัน" ฉันพูดแบบหงอยๆ
"พ่อต้องไปเอาแม่คืนมานะ พ่อห้ามไปด้วยนะ พ่อใจร้าย ผมจะโกรธพ่อตลอดไปเลย คอยดูสิ"
"อ่ะ จ้ะๆๆๆ" ฉันอุ้มอันริขึ้นมาเล่นแต่สายตาของหนูน้อยกลับจ้องเป๋งอยู่ที่หน้าต่างข้างล่าง
"แม่มาตามพ่อแล้ว แม่มาแล้ว เย้ เย้" อันริดิ้นจนฉันต้องปล่อยแล้ววิ่งลงไปข้างล่างในทันที
ภาพที่ฉันเห็นนอกหน้าต่างคือ แม่ลูก...เอ่อ....พ่อผู้ถอดเฝือกแขนออกเรียบร้อยแล้วกับลูกกระซิบกันอย่างไม่น่าไว้ใจ แล้วซันริก็วิ่งเข้ามาในบ้านแล้วออกไปอีกรอบพร้อมกับปากกาและกระดาษให้คิวเขียนอะไรยุกยิกลงไป ซึ่งฉันได้แต่บอกกับตัวเองว่า น่าสงสัยแบบสุดๆ
อันริวิ่งขึ้นมา ในกระดาษมีใจความว่า
ยัยเด็กดื้อ ฉันไม่ให้เธอไปนะ เธอจะท้งฉันไว้จริงเหรอ แล้วลูกของเราล่ะ
คิววาดรูปผู้หญิงอุ้มท้องโบกผ้าเช็ดหน้าให้เครื่องบินที่กำลังบินไป
ฉันกุมหน้าผาก ถ้าพ่อแม่มาเห็นมีหวังเข้าใจผิดตาย อีกอย่าง ถ้าจะวาดควรจะวาดเป็นผู้หญิงวิ่งไล่ตามทึ้งเครื่องบินจะเหมาะกว่านะ
ฉันนึกอยู่พักหนึ่งพลางเขียนตอบลงไป
บอกแต่ไม่ให้ไป ไม่ให้ไป แต่ฉันจะไปอ่ะ แล้วฉันไปมีลูกกับนายตอนไหนไม่ทราบยะ ?
ยัยงั่ง ดื้อด้าน จะหนีฉันไปถึงไหนกันห๊า
คิวเขียนตอบกลับมา
อีกสองปีก็เจอกันแล้วจะอะไรนักหนา
ฉันเขียนยุกยิกแล้วส่งให้อันริเอาลงไปให้คิวอีกรอบ
ถามหน่อยเหอะ ถ้ามนุษย์ถูกควักหัวใจไปสองปีจะรอดมั้ย
= / / / = ฉันรู้นะยะว่านายแอบแฝงความหมายเอาไว้
ฉันรีบเขียนตอบไปอย่างรวดเร็ว
ถึกอย่างนายคงไม่ตายง่ายๆหรอกน่า
ฉันไม่ถึกสักหน่อย เธอหนักกว่าฉันด้วยซ้ำ
ไม่จริง ฉันไม่หนักนะ
เธอหนักจะตาย ว่าแต่จะไปเมื่อไหร่วันไหนล่ะ
ไปอังกฤษ พรุ่งนี้ แขนหายแล้วเหรอ แล้วขาเป็นไงบ้าง
ฉันหลอกนายน่ะ อีกสองสามวันฉันถึงจะไปอเมริกาเพราะฉันรู้ว่านายต้องแหกโรงพยาบาลไปดักฉันทีสนามบิน
อือ แขนหายแล้วยังเจ็บนิดหน่อย ขายังไม่หายเลย รอให้หายก่อนค่อยไปไม่ได้เหรอ
แม่น้ำปิง วัง ยม น่าน เจ้าพระยาแล้วต่อด้วยแม่น้ำโขงมั้ย มีแม่น้ำอะไรจะชักมาหว่านล้อมอีกล่ะ
แม่น้ำไนล์
=__= นายเหมือนฟาโรห์ตายแหละ
ฉันไม่เหมือนฟาโรห์เพราะฉันหล่อกว่าฟาโรห์
แหวะ !
แหวะอะไรห๊า ยัยบ้า จะลงมาดีๆหรือจะให้ขึ้นไป
ไม่นะ !
จะมาไม่อะไร ฉันจะจับเธอล่ามเอาไว้จะได้ไม่หนีไปไหนอีก
ฝันไปเถอะ
อันริวิ่งรอกขึ้นลงบันไดจนหมดแรงมานั่งพักหอบแฮ่กๆอยู่บนเตียงฉัน เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาถึงข้างบน ฉันยื่นหน้าไปดูก็เห็นคิวถูกบุรุษพยาบาลหิ้วขึ้นรถพยาบาลไปพลางโวยวายไปด้วย
"จะมาจับผมทำไม ปล่อยเถอะนะครับ นะครับ ผมจะเป็นเด็กดีไม่หนีอีกแล้ว บอกว่าปล่อย ก็ปล่อยสิวะ ปล่อยโว้ย ปล่อย ผมต้องไปรั้งเธอเดี๋ยวเธอหนีผมไป"
นี่แหละ......สามีฉันตัวจริงเสียงจริง
เสียงรถพยาบาลค่อยๆแล่นจากไป ลาก่อนนะ คิว.....
ความคิดเห็น