คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ฉันจะไม่ยอมให้นายตายนะ ตื่นซิ !
ทำไม ไฟห้องถึงเป็นรูปเค้ก แล้วพัดลมเป็นรูปหมวก ส่วนแอร์กลายเป็นสร้อยคอ ฉันถูกใครดักตีหัวก่อนกลับบ้านรึไงเนี่ย โอ้ ที่แท้ก็แค่ตาฝาดขนานหนัก
"ลา ลา ลันลา"
"น้องชาย เมื่อคืนไปฉลองกับแฟนมารึไง หน้าบานซะยังกะกระด้ง" ฉึก ! ปักกลางใจจริง ทำไมพี่ไม่ไปทำหน้าที่คนทรงซะเลยล่ะ
"เปล่านะ" ฉันคว้ากระเป๋านักเรียนวิ่งแจ้นออกจากห้องไป
"มีเรื่องอะไรดีๆรึเปล่านะ" พี่บ่นพึมพำไล่หลังมา ยัยมิโกะกลับมาเกิด ฮึ่ย
ฉันขึ้นรถเมล์มาถึงโรงเรียนอย่างสบายใจเอามากๆ มันรู้สึกดีมากๆจนแปลกๆ
บางครั้งเรื่องดีๆก็ตามมาด้วยเรื่องเลวร้าย.... ฉันคิดอะไรเนี่ย ไม่จริงหรอก บ้าสิ ฟุ้งซ่านเกินไปแล้วเรา
"อัยย์ๆ ยู้ฮู ฉันอยู่นี่ มาดิๆ จะออดแล้วน้า" มินตะโกนเรียกฉัน ฉันรีบโบกมือตอบไปอย่างร่าเริง โอ้ เช้านี้สดใส ฮึๆ ในอ้อมกอดของมินมีสาวน้อยหน้าแดงอยู่ ใครกันน้า อืม เบลเองเหรอ ฉันรีบวิ่งข้ามไปอย่างรวดเร็วพลางคิดอะไรไปเรื่อยๆ แต่ว่าภาพที่รถบรรทุกแล่นเข้ามาด้วยความเร็วสูงผ่านเข้าในสายตาของฉันทำให้ฉันตัวแข็งด้วยความตกใจ ฉันกำลังจะตายเหรอ... แล้วฉันก็รู้สึกถูกผลักอย่างแรงจนกระเด็นไปอยู่บนเกาะกลางจนหัวชนต้นเข็มที่ปลูกเอาไว้ เลือดไหลออกจากหน้าผากฉันจนย้อยเข้าตา ฉันเหมือนได้ยินเสียงที่คุ้นเคยพึมพำเบาๆ
"ยัยงี่เง่า..." เสียงอะไรน่ะ เสียงเทวดาเหรอ ใครเป็นคนผลักฉัน ฉันได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อยิ่งกว่าตอนที่เห็นรถบรรทุกพุ่งเข้ามาซะอีก
ร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนถนนตอนนี้คือคิวที่เข้ามาช่วยฉันไว้...
"คิววววววววววววว" เสียงคนที่ผ่านไปมากรีดร้องเมื่อเห็นเลือด แต่ฉันกรีดร้องดังยิ่งกว่าเมื่อเห็นใบหน้าซีดขาวของเขา ฉันรีบจับตัวเขาไว้ เลือดซึมจากสีข้างของเขาผ่านเสื้อนักเรียนสีขาวเป็นรอยเปื้อนวงกว้าง เมื่อได้สติฉันก็รีบลากเขาขึ้นมาบนเกาะกลาง
"ยะ ยัยโง่"คิวพึมพำอย่างอ่อนแรงผ่านริมฝีปากที่ซีดลงเรื่อยๆ
"ด่าฉันอีกสิ อย่าหลับนะ ฉันมันโง่เอง ถ้านายตื่นฉันจะแต่งงานกับนาย ตื่นสิ ตื่นเดี๋ยวนี้ อย่าหลับ ถ้านายหลับฉันจะฆ่านาย บอกว่าอย่าหลับไง เชื่อฉันสิ" ฉันได้แต่เขย่าคิวอย่างคนบ้าพลางตบแก้มเขาไปมาให้ตื่นเมื่อเห็นขอบตาที่เริ่มปรี่ลงเรื่อยๆของคิว
"รักนะ..... รักมากๆ...รัก..."
"ฉันก็รักนะ ฉันจะบอกรักนายทุกวันเลยนะ แต่อย่าหลับนะ เราจะตัดเค้กกันจนแก่ไงล่ะ ฉัน ฉันจะมีลูกกับนายสิบคนเลย จะ เจ็บมากมั้ย" ฉันร้องไห้จนน้ำตาไหลลงมาโดนหน้าที่เปื้อนเลือดของเขา
"ฉันดีใจที่เธอไม่เป็นไร ดีใจ...มากๆเลย" รถพยาบาลรับตัวคิวขึ้นเตียงพยาบาล ฉันรีบตามขึ้นไปด้วย
"อย่าตายนะ ถ้านายตาย ฉันจะร้องไห้นะ อย่าตายนะ"
ภาพสุดท้ายในสติสัมปชัญญะของฉันคือรอยยิ้มของเขา รอยยิ้มที่บอกว่าดีใจที่ฉันไม่เป็นอะไร รอยยิ้มอ่อนโยนอันงดงาม
คนโง่ ถ้านายไม่อยู่ แล้วฉันจะอยู่กับใครล่ะ....
ในโรงพยาบาลฉันนั่งรออยู่หน้าห้องไอซียู เอาแต่ร้องไห้ ถ้าเขาไม่ตายฉันจะไม่ดื้อ จะไม่ว่าเขา จะไม่ทำอะไรที่คิวไม่ชอบอีกแล้วแต่ขอให้เขาฟื้นเถอะ
มือที่ถูกกำแน่นจนขาวซีดของฉันคลายลงเล็กน้อยเมื่อคุณหมอเดินออกมา
"คุณหมอคะ เขาเป็นอะไรมั้ยคะ เขาไม่ตายใช่มั้ยคะ ฉํนเข้าไปเยี่ยมได้มั้ย" คุณหมอหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำถามรัวเร็วของฉัน ตอบซิวะ ตอบไอ้หมอบ้า ก่อนที่ฉํนจะกลายเป็นปีศาจถล่มโรงพยาบาลเข้าไปหาคิว
"คนไข้ไม่เป็นไรมากแต่ว่า เลือดกรุ๊ป AB เป็นกรุ๊ปพิเศษจะหายากซักหน่อย ทางโรงพยาบาลไม่มีเลือดกรุ๊ปนี้พอดี เพราะไม่มีใครมาบริจาค ไม่ทราบว่าคุณรู้จักใครที่เป็นญาติของคนไข้มั้ยครับ เพราะถ้าเป็นญาติกันมักจะมีเลือดแบบเดียวกัน" คุณหมอสาธายยายให้ฉันฟัง ประมวลผลออกมาสรุปได้ง่ายๆว่า โทรหามินด่วน
"ได้ค่ะ สักครู่นะคะ" ฉันหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ แล้วรอสาย รับสิฟะ ไอ้บ้าไปม้อสาวอยู่ไหน รับเดี๋ยวนี้ ถ้าแกไม่รับฉันจะไปบึ้มบ้านแก ว้ากกกกกกกก
"ฮัลโหล อัยย์ ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง ฉันตกใจแทบตายแน่ะ แล้วแกอยู่ไหนเนี่ย" เสียงปลายสายร้อนรนจนฉันอยากจะถีบหัว แล้วทำไมไม่นั่งแท๊กซี่ตามมาฟะ ไอ้สมองฟาย
"ผู้หญิงคนนั้นน่ะ พี่แก หยุดอย่าพึ่งถาม ไม่งั้นแกตาย มาที่นี่ด่วนเลย บึ่งขึ้นแท๊กซี่มา ถ้าแกมาเร็วฉันจะเลี้ยงอะไรก็ได้" ฉันบอกสรุปความ หึๆ แกคงสงสัยว่าอยู่ๆทำไมถึงมีผู้หญิงเป็นพี่งอกออกมาใช่มั้ย ก็แค่เป็นผู้ชายแต่งหญิงแล้วสวยกว่าฉันแค่นั้นเอง ฟังแล้วรู้สึกเจ็บกระดองใจจี๊ดๆนิดหน่อย แต่ตอนนี้ต้องห่วงคิวก่อนสินะ
"เอาขาหมูเยอรมันทอด อีก 5 นาทีเจอกัน"
TT^TT ใครก็ได้ ช่วงย้อนเวลาไปให้ฉันบอกจำนวนวงเงินก่อนที่จะต้องควักเลี้ยงขาหมูเยอรมัน แล้วเราจะมีทางเบี้ยวได้มั้ยเนี่ย เก็บกับคนป่วยในห้องดีกว่า แต่เอาเหอะ ถ้าคิวรอด แค่ขาหมูแลกแฟน คุ้มล่ะวะ
อีกห้านาทีต่อมา มินวิ่งมาเร็วขนาดลมพายุ โอ้ อำนาจของขาหมูช่างมากล้นยิ่งนัก
"มาแล้ว ฉันมีแต่พี่ผู้ชายนะ แล้วแกจะเรียกฉันมาทำไม แล้วพี่น่ะหมายความว่าไง เดี๋ยว เฮ้ย จะลากฉันไปไหน" ฉันลากมินลิ่วๆไปหาคุณหมอพร้อมยิ้มอย่างดีใจสุดซึ้งให้คุณหมอ
"พัสดุบรรจุเลือดเดินทางมาถึงแล้วค่ะ"
"แกว่าไงนะ"
"โอ้ ดีครับ คุณเลือดกรุ๊ป AB ใช่มั้ยครับ ไม่ทราบว่าจะบริจาคให้โรงพยาบาลเยอะกว่าที่ให้คนไข้ด้วยมั้ยครับ"
"อัยย์ ฉันไม่เอาขาหมูแล้ว ฉันกลัวเข็ม ปล่อยฉันกลับ ปล่อยครับ ผมจะกลับนะครับ คุณหมอ ได้โปรดสงสารผมเถอะ ขาหมูไม่คุ้มแล้ว ม่ายยยยยยย" คุณหมอกวัวกมือเรียกบุรุษพยาบาลถึกมาสองคนแล้วก็ลากมีนเข้าห้อง"รีดเลือด"ไป.....
ในเวลาไม่นานต่อมา ได้ยินเสียงโหยหวนจากมินออกมาจากห้องนั้น เราทำบาปรึเปล่านะ เอาเหอะ ทำบาปกับน้อง เอาบุญให้พี่ก็แล้วกัน
มินเดินออกมาด้วยสีหย้าซีดเซียว อันที่จริงเรียกว่าซีดไปทั้งตัวน่าจะถูกกว่า
สงสัยหมอแกคงจะเอาเลือดไปให้คิวแล้วสำรองไว้อีกสักแกลลอนหนึ่งล่ะมั้ง เกิดมามเลือดกรุ๊ปพิเศ้ษ พิเศษโชคดีมั้ยเนี่ย
ใบหน้าขาวเนียนซีดเผือดกว่าที่เคย มือของเขาห้อยตกข้างตัว แต่กราฟหัวใจที่อยู่ในเครื่องข้างๆขยับไปมาทำให้ฉันใจชื้นขึ้น สายระโยงระยางติดเต็มตัวคิวเห็นแล้วรำคาญอยากจะดึงออกให้หมด และที่สำคัญคนที่ควรจะมานอนตรงนี้ไม่ใช่คิวแต่เป็นฉันต่างหาก
"ตื่นเถอะนะ ถ้านายตื่นฉันจะทำทุกๆอย่างเลย ตื่นเถอะ อย่าหลับอยู่อย่างนี้เลย" ฉันยกมือเย็นเฉียบของคิวมาแนบไว้กับหน้าให้ความอบอุ่นกับมือของเขาบ้าง
"ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ" น้ำตาไหลอีกครั้งฉันยื่นหน้าไปบนเตียงของเขา น้ำตาหยดใส่แก้มใสๆของคิวเป็นรอยหยดน้ำเล็กๆ คราบเลือดบนใบหน้าหายไปหมดแล้ว ฉันบรรจงลูบใบหน้านั่นเบาๆ แล้วยื่นจมูกเข้าไปสูดกลิ่นหอมหวานๆบนใบหน้าคิว ผู้ชายอะไรฟะ หอมเป็นบ้า
"เธอคิดจะกินฉันรึไงฮะ" ขนตายาวเป็แพกระพือน้อยๆก่อนลืมตามายิ้มเผล่ให้ฉันอีกครั้ง
"........"
"ฉันตื่นแล้วนะ เธอจะทำตามที่ฉันขอทุกอย่างจริงรึเปล่า"
"คนบ้าปล่อยให้คนอื่นเขาเป็นห่วงอยู่แล้วถ้าตื่นก็รีบๆลืมตาซิ บ้าเอ้ย นายนี่แย่ๆจริงๆเลยรู้มั้ย" ทั้งๆที่กำลังโกรธแต่หัวใจกลับพองโต ทั้งๆที่พยายามทำหน้าดุแต่ปากก็ยังยิ้ม
"แต่ว่า.... ฉันดีใจนะ ที่นายตื่นขึ้นมา ดีใจมากๆเลย ดีใจจริงๆ" คิวเอื้อมมือยาวๆมาเช็ดคราบน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
"คนดีของผม บอกแล้วไงว่าอย่าร้องไห้"
"ฉันจะร้อง ! นายรู้มั้ย ตอนเห็นนายเลือดโชกเต็มตัวน่ะ ฉันกลัวว่านายจะไม่กลับมาอีกแล้ว รู้รึเปล่า โฮ" ฉันปล่อยโฮอย่างเต็มกลั้นพร้อมกระโจนเข้าสู่อ้อมกอดที่อ้ากว้างไว้ของคิว
"ก็กลับมาแล้วนี่ไง ตัวเป็นๆเลย จับดูก็รู้ แต่เธอนี่ตัวหนักจังนะ" คิวบ่นเบาๆแล้วลูบหลังไปมา
"งั้นก็ปล่อยอย่ามากอดฉันสิ" ฉันพยายามแกะมือของคิวออก
"เรื่องอะไรนานๆทีถึงจะได้กอดซักที" คิวยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้นอีก ถ้าไม่ติดว่าป่วยแม่จะซัดให้แหลกเลยคอยดู
"เชอะ ถ้าไม่ปล่อยฉันจะกอดแรงๆให้นายเจ็บแผลตายไปเลย" ถึงจะขู่อย่างนั้นแต่ตีนตุ๊กแกเหนียวหนึบก็ไม่ยอมปล่อยเอวฉันซักที ให้ตายสิ ยังกะหลุดลงไปในดงตุ๊กแกเลย
"ยินดีอย่างยิ่งด้วยความเต็มใจครับ"
"คนบ๊อง !"
"ถ้าฉันไม่เถียงแล้วจะให้กอดนานขึ้นรึเปล่า"
"= \\\\ = พูดอะไรน่ะ"
"ยังไม่ตอบเลยนะ"
"ใครจะกล้าตอบล่ะยะ ประสาท"
"ฮะๆๆๆๆ ไม่ตอบแปลว่าไม่ปฏิเสธ"
"คิวนายจะโกรธ ฉันรึเปล่า ฉันมีอะไรจะบอกนาย คือว่า...." ฉันมองตาคิวอย่างไม่มั่นใจนัก แล้วอะไรที่ฉันกำลังจะบอกก็เปิดประตูผัวะเข้ามาพอดี
"อัยย์ ฉันว่าจะชวนแกไปกินข้าว จะได้เลี้ยงฉันด้วย ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นตื่นรึยัง หืม" มินมองพวกเราตาค้างพอเห็นฉันกับคิวกำลังกอดกันกลม
"เอ่อ นี่ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะคือ เขาเป็น" ฉันกำลังจะบอกว่าเขาเป็นพี่ชายนาย
"เป็นแฟนฉัน" ซวยแล้วมั้ยล่ะ อีตาบ้านี่หึงไม่ได้ดูเวล่ำเวลาเล้ย เดี๋ยวฉันก็โดนเข้าใจผิดหรอก
"งั้น แปลว่าที่แกบอกว่ามีแฟนแล้วคือคนนี้เหรอ"
"ใช่ เราคบกันมานานแล้วด้วย ใช่มั้ยจ้ะ ที่รัก" คิวเชยคาง(ฉันด้วยอาการชวนเข้าใจผิดเป็นที่สุด ใครก็ได้ลากตานี่ไปทิ้งที
"อัยย์ แกชอบผะ ผะ ผู้หญิงเหรอ"
"ว่าใครเป็นผู้หญิงวะ" = =" ตัวเองทำให้เขาเข้าใจผิดแล้วยังจะไปหาเรื่องเขาอีก สุดยอดเลยแฮะ
"เอ่อ เปล่าครับ คุณทอม"
"ว่าใครเป็นทอมวะ ไอ้ปัญญาอ่อน"
"ก็คุณไม่ใช่เหรอครับ" มินทำหน้าเหรอหราพร้อมจ้องฉัน อย่ามามองแบบถามคำถามสิ
"เชิญซักไซ้ไล่เรียงกันตามสบายเลยนะ ฉันจะไปซื้ออาหารมาให้" ฉันเปิดประตูซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่มีคนเปิดเข้ามาข้างในพอดี
"ฉันเป็นผู้ชายทั้งแท่งโว้ย ไอ้น้องเวรนี่ จำพี่ตัวเองไม่ได้รึไง" คิวลุกขึ้นจากเตียงมายืนทำหน้าถมึงทึงใส่มินที่ยังทำหน้าเหวอไม่เลิกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพี่ชายตัวเองไปได้ยังไง เอาเหอะ มินฉันยังไม่ค่อยอยากเชื่อเลย แต่ที่ยืนอยู่ข้างๆฉันนี่สิเป็นปัญหาที่น่าหนักใจกว่า
"เอ่อ พอดีมินโทรบอกพี่ว่าเพื่อนอัยย์โดนรถชน ท่าทางจะแข็งแรงดีแล้วนะคะ" พี่ซายะยิ้มหวานแบบธรรมดาแต่เมื่อเห็นคิวพี่อายะรีบไปจับหน้าคิวหันซ้ายหันขวาพิจราณาพร้อมกับคิวที่มองหน้าพี่ฉันแบบอึ้งๆ พักหนึ่งต่อมาทั้งสองคนก็พูดพร้อมกันด้วยคำที่ฉันใจหายมาก
"เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า / เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า"
ในบางครั้งที่เราเจอเหตุการณ์ร้ายๆอาจจะมีคำวิงวอนแปลกๆผุดขึ้นในใจ อย่างเช่นในตอนนี้ หัวสมองฉันมีความคิดเดียวล่องลอยไปมาซ้ำๆว่า
"ถ้าฉันกำลังฝันอยู่ ได้โปรดปลุกฉันให้ตื่นขึ้นจากความฝันที่โหดร้ายนี้ด้วยเถอะ
แต่ถ้าฉันกำลังตื่นอยู่ ได้โปรดทำให้ฉันหลับเพื่อให้ฉันหนีจากความเป็นจริงอันแสนโหดร้ายนี้ไปให้ไกลได้ไหม ? ได้โปรดเถอะ "
บางทีถึงแม้เราจะมีขา แต่เราก็ไม่อาจหนีไปจากความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าได้ ถึงแม้เราจะออกวิ่งอย่างสุดแรงเพื่อไปให้พ้นมัน ก็ไม่อาจหนีพ้น เพราะความเป็นจริงจะตามหลอกหลอนอยู่ในใจเราไปจนวันตาย....
ความคิดเห็น