คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : Chapter 22 My highness
/////
“พี่ไปทำงานก่อนนะแบมแบม อยู่บ้านเป็นเด็กดีนะ มีอะไรก็ปรึกษาแจ๊คสันเข้าใจมั้ย” แอปเปิ้ลบอกแบมแบมที่ออกมายืนส่งที่หน้าประตูบ้าน แบมแบมแสนจะอึดอัดใจแต่ก็ต้องจำใจพยักหน้ารับคำ แจ๊คสันแม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่แอปเปิ้ลพูด เพราะสองพี่น้องคุยกันด้วยภาษาที่เขาไม่คุ้นเคย แต่ท่าทางของแบมแบมที่แอบเหล่มาทางเขาอย่างไม่พอใจ ทำให้เดาได้ไม่ยากว่ามันจะต้องมีอะไรเกี่ยวกับเขาอย่างแน่นอน
“งั้นพี่ไปก่อนนะ มาให้พี่หอมก่อน ฮื้มมมม” พี่สาวตัวเล็กเขย่งตัวหอมแก้มของเจ้าน้องชายฟอดใหญ่ แบมแบมกอดตอบพี่สาวและรอจนเธอขึ้นรถจนเรียบร้อย พ่อบ้านเล้งเป็นคนจัดการให้คนขับรถไปส่งแอปเปิ้ลที่สนามบิน แบมแบมมองรถเคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตาก่อนที่รถอีกคันจะเข้ามาจอดแทนที่
แจ๊คสันเปิดประตูรถและมองแบมแบมเป็นเชิงว่าให้เข้าไปนั่งในรถ เจ้าหนูเข้าไปนั่งเรียบร้อยอย่างดี คุณชายหวังปิดประตูรถและมองแบมแบมนิ่งๆ ไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามานั่งในรถด้วย
‘อย่าเข้าใกล้ฉันนะ’
แบมแบมสั่งแจ๊คสันไว้หลังจากที่เจอหน้ากันเช้านี้ ท่าทีของเด็กหนุ่มที่ดูเย็นชามากทำให้แจ๊คสันไม่กล้าแตะความรู้สึกของอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ คนที่ผิดก็คือเขานี่นา ใจก็นึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
‘จูบกับผู้ชายด้วยกันมันก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่หรอก ว่ามั๊ย’
แจ๊คสันเอ่ยเบาๆหลังจากที่จูบแบมแบมจนพอใจแล้ว ความรู้สึกต้องห้ามบางอย่างสั่งเขาว่า ขืนมากกว่านี้มันอาจจะเลยเถิดจนเกินที่จะควบคุมได้ แบมแบมไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เอาแต่หันหน้าไปมองทางอื่นแม้ว่าจะถูกคร่อมตัวอยู่บนโซฟา
แจ๊คสันเรียกชื่อของเด็กหนุ่ม แต่อีกฝ่ายก็ตอบรับเขาด้วยอาการนิ่ง นั่นทำให้แจ๊คสันรู้สึกหงุดหงิด เขาผละออกมาและเดินกลับห้องอย่างทันที ปล่อยให้แบมแบมนอนอยู่ที่เดิม แจ๊คสันคงจะไม่รู้ว่า แบมแบมนอนอยู่ตรงนั้นและหลับไปจนถึงเช้า
“ไปได้แล้ว” แจ๊คสันสั่งคนขับรถโดยที่เขาก็ยังยืนอยู่ข้างนอกรถ แบมแบมไม่แม้แต่จะหันมามองเขาเลย รถเคลื่อนตัวจากสายตาของแจ๊คสันไปอีกคัน เขาได้แต่ถามตัวเองว่า
...นายกำลังคิดอะไรอยู่อย่างนั้นเหรอแบมแบม...
บนรถคันนั้นแบมแบมเริ่มกระวนกระวายใจบางอย่าง
แบมแบม.....
อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!!! ทำไมมันน่าอึดอัดแบบนี้ให้ตายสิ ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงดี ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว อันที่จริงผมช๊อคมากที่ถูกทำแบบนั้น ผมไม่ได้ตกใจที่ถูกจูบมากเท่ากับการที่สงสัยว่าทำไมตัวเองถึงยอมให้หมอนั่นทำแบบนั้นได้ ทำไมต้องเออออไปกับเขาด้วย ผมโกรธตัวเองจริงๆ
เจอหน้าแจ๊คสันเช้านี้ใจก็เอาแต่เต้นไม่เป็นจังหวะ ผมมองหน้าเขาไม่ได้เลย นั่นทำให้ผมต้องทำตัวให้ปกติที่สุดเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น แต่ก็นั่นแหละ ผมยังทำใจให้อยู่ใกล้ๆหมอนั่นไม่ได้ โอ๊ยยยย นี่ผมควรทำยังไงดี นี่มันไม่ใช่การล้อเล่นแบบที่ผ่านมาแล้วแน่ๆ ไม่นะๆๆๆๆ ทำยังไงดี ทำไมผมกลายเป็นพวกอารมณ์เคลิ้มพาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ด้วยอารมณ์ตกใจตอนที่เจอหน้ากันเช้านี้ ผมสั่งให้เขาอย่ามายุ่งกับผมก็จริง แต่ไม่เห็นต้องทำท่าทางเย็นชาแบบนั้นก็ได้ ปกติชอบบังคับให้ผมไปด้วยกันไม่ใช่เหรอไง วันนี้มาแปลกปล่อยให้ผมไปโรงเรียนคนเดียว เออ ก็ได้ นายไม่ต้องมายุ่งกับฉันให้มันได้ตลอดนะ เจ้าพี่เขยบ้า!
‘อย่าเถียง ตั้งแต่นี้ต่อไปฉันคือผู้ปกครองของนาย นายต้องทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง’
‘ฟังนะ ตอนนี้ ที่นี่ นายสำคัญที่สุดสำหรับฉันนะ รู้มั๊ย ฉันต้องปกป้องนาย แบมแบม’
‘ก็ฉันหึงนายนี่นา’
‘ก็พูดถึงฉันดีๆไม่ได้รึไง อย่าลืมสินายเป็นของฉันนะ นายต้องให้ความเคารพฉันสิ’
‘นี่แบมแบม ฉันไม่ได้ล้อนายเล่นนะ’
‘ฟังนะแบมแบม ฉันน่ะเกิดมาก็เพิ่งจะเคยชอบผู้ชายเป็นครั้งแรกนี่ล่ะ’
‘ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า กำลังเสพติดนาย อยากจูบนายอีก รู้มั๊ย?’
คำพูดพวกนี้คอยวนเวียนอยู่ในหัวของผมซ้ำไปซ้ำมา มันทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหว จริงอยู่ว่าผมไม่ได้รังเกียจที่ผู้ชายจะชอบกัน แต่ว่าสำหรับหมอนั่น มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย เขาก็แค่หยอกผมเล่น เพราะยังไงเขาก็เป็นคนรักของพี่สาวของผม และท่าทางเขาก็คงจะชอบผู้หญิงสวยๆมากกว่า
‘คุณหมอแจ๊คสันน่ะเหรอ เขาดีกับฉันมากเลยล่ะ บางทีก็อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ หลังจากที่เจอกันวันนั้น พี่สาวของฉันท่าทางเขม่นเขามากเลยนะ บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่ยอมเชื่ออีก ไม่รู้ว่าพี่ไปได้ยินอะไรมาบ้าง คุณหมอจะมาชอบฉันได้ยังไงเนอะ’
ซูจีเล่าให้ผมฟังวันก่อน ท่าทางเธอเหมือนไม่ได้คิดอะไร เธอเป็นเด็กดีที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ น่ารักเกินไปแล้วนะ
‘แบมแบมว่าเรื่องของพี่จีอึนกับคุณหมอแจ๊คสันจะเป็นไปได้ไหม ฉันมองไม่เห็นทางเลย’
‘อย่าเพิ่งตัดใจถ้ายังไม่ได้ลองทำอะไรสิ ถ้าเราช่วยกันอาจจะมีโอกาสนะ’ เห็นซูจีกังวล ผมก็เลยให้กำลังใจเธอ เรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มจากความคิดที่ว่า อยากปัดหมอนั่นออกไปจากเจ๊แอปเปิ้ล ผมก็เลยอยากช่วยซูจีให้พี่สาวของเธอคบกับแจ๊คสัน
‘งั้นเรามาพยายามด้วยกันนะ แบมแบม’
‘อื้ม ต้องให้ได้อย่างนี้สิ’
ทั้งๆที่ผมก็พูดไปอย่างนั้น แต่ว่าตอนนี้กลับรู้สึกสับสนอย่างไรชอบกล ความรู้สึกผิดบางอย่างเอ่อล้นออกมา รู้สึกเหมือนกำลังทรยศต่อซูจี รู้สึกไม่อยากช่วยให้ความพยายามของเธอได้เป็นจริง รู้สึกเหมือนผม..........
กำลังคาดหวัง!
ถึงอะไรบางอย่างรึไง!
...................... แล้วผมควรจะทำยังไงดีนะ..................................
///////////////////////////////////////
วันนี้เป็นวันแรกที่ซูจีจะได้มานอนห้องของจีอึน เธอรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะมันจะเป็นการนอนบนเตียงที่ไม่ใช่เตียงผู้ป่วยเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน นับจากที่อาการของเธอทรุดลงเป็นอย่างมาก ซูจีได้รับการดูแลจากหมอและพยาบาลที่โรงพยาบาลมาตลอด แม้ว่าจีอึนจะพยายามโต้แย้งให้เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้านกับพ่อและแม่ ที่เป็นบ้านหลังใหญ่มีบริเวณกว้างขวางก็ตาม แต่ในเมื่อน้องสาวของเธออ้อนขอว่าอยากอยู่กับพี่สาวให้มากที่สุด จีอึนจะไปปฏิเสธได้อย่างไร
‘พี่นั่นแหละ ทำไมไม่อยู่ที่บ้านล่ะ แยกตัวออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้ ฉันเป็นห่วงพี่นะ’ จีอึนมองน้องสาวที่พยายามกอดเอวเธออย่างหลวมๆ จีอึนได้แต่ยิ้มแหยๆให้พ่อกับแม่ นั่นเพราะว่าเธอก็รู้สึกไม่อยากจะตอบคำถามนี้เหมือนกัน
...........เวลาที่ศิลปินจะสร้างสรรค์ผลงานจำเป็นที่จะต้องมีความสันโดษเป็นแรงผลักดันสิ....................
“พี่จีอึน กินแต่ของพวกนี้อย่างงั้นเหรอ” ห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกยื่นเข้ามาให้เห็นก่อนตัวซูจีเสียอีก จีอึนที่กำลังง่วงกับงานบนโต๊ะ เงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ขึ้นมามองใบหน้าดุๆของน้องสาวของเธอ
“เธอหิวแล้วเหรอ ขอโทษนะ พี่กำลังปั่นงานอยู่เลยล่ะ” จีอึนแก้ตัว มือของเธอรีบหดจากแป้นคีย์บอร์ดโดยเร็ว ความจริงสมองก็เริ่มตื้อคิดอะไรไม่ออกมาสักพักได้แล้ว เธอเอาแต่พิมพ์ประโยคไป บ่นพึมพัม จากนั้นก็ลบประโยคนั้น ทำซ้ำไปมาจนน่าหงุดหงิด
“พักบ้างเถอะค่ะ” ซูจีเดินเข้ามาใกล้ มือค่อยๆบรรจงถอดแว่นตาอันหนาเตอะของจีอึนออก พี่สาวของเธอตอนนี้ดูเหมือนเด็กตัวเล็กๆหัวยุ่งๆ ผิดกับซูจีที่เหมือนพี่สาวอ่อนโยนผู้ใจดีแทน
“ก็ได้ ตอนนี้พี่ก็รู้สึกหัวมึนตึบ สมองไม่แล่นเลย งั้นเราออกไปหาอะไรกินข้างนอกนะ” จีอึนบอกให้ซูจีรอในขณะที่เธอสวมคอนแท็คเลนส์จนเรียบร้อย
“พี่จีอึน เห็นพี่ตั้งใจเรียนแบบนี้ฉันก็มีความสุขไปด้วยนะ” ซูจีบอกยิ้มๆ ในขณะที่สองสาวกำลังเปิดประตูออกมาข้างนอกห้อง
“พี่ต้องเร่งทำธีสิทจบด้วยน่ะ ทำยังไงถึงจะคิดบทภาพยนตร์เจ๋งๆได้น้า โอ๊ย ปวดหัวจัง” จีอึนโอดครวญ ซูจียิ้มขำพี่สาวตัวเล็ก ที่ตอนนี้กำลังเรียนเกี่ยวกับการทำหนังอะไรพวกนี้อยู่ ดูเหมือนว่าพี่สาวจะมีความฝันอยากเป็นคนเขียนบทภาพยตร์ ซูจีรู้สึกดีใจที่ได้เห็นจีอึนได้ทำตามความฝันของเธอ
“นี่ไงครับ ห้องของพี่มาร์ค” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นจากทางเดิน จีอึนเงยหน้ามองตาม ทันใดนั้น ดวงตากลมของเธอก็เบิกกว้างขึ้น
“นายสัญญากับพี่แล้วนะว่านายจะมาหาพี่ทุกวันน่ะ จูเนียร์” เสียงผู้ชายอีกคนหนึ่งดังขึ้นอีกหนึ่งเสียง
“ได้สิครับ ผมจะดูแลพี่เป็นอย่างดีเลย ช่วงนี้พี่ต้องพักผ่อนเยอะๆนะ จะได้หายเร็วๆ” ทำไมนะเสียงของเขาช่างเพราะเหลือเกิน มันเหมือนจะเป็นเสียงที่เคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง และแล้วจีอึนก็ได้รับคำตอบเมื่อเจ้าของเสียงนั้นกำลังเดินเข้ามาใกล้ๆเธอ
“ฝ่าบาท!”
“เอ๋?” ซูจีมองจีอึนด้วยความงุนงง
“ซูจี นั่นไง ฝ่าบาทที่พี่เจอวันก่อน อร๊าย ดีใจจัง” จีอึนเขย่าแขนซูจีน้ำเสียงของเธอระรื่น ซูจีค่อยๆมองตามจีอึน เห็นผู้ชายสองคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ คนที่เดินนำหน้านั่นต้องเป็นฝ่าบาทของพี่สาวเธออย่างไม่ต้องสงสัย เพราะซูจีเคยเห็นฝ่าบาทของพี่จีอึนจากในรูป เพียงแต่คนคนนี้แค่มีใบหน้าและท่าทางที่คล้ายคลึงเท่านั้น
.....ผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้ม ดวงตากลมแลดูไร้เดียงสา และทรงผมหน้าม้าเรียบๆที่เข้ากันกับแว่นตาทรงโตของเขา.....
เหมือนนักแสดงชายคนนั้นไม่มีผิด
ส่วนอีกคนที่เดินตามมาท่าทางนุ่มนวล และมีใบหน้าที่สวยมากๆ แต่ก็แฝงถึงความแข็งแกร่งไว้ภายใน เขามองตรงมาที่พี่สาวของเธอที่กำลังส่งออร่าหัวใจออกมาทางสายตาให้ชายหนุ่มคนแรก แววตาของเขาเรียบเฉย ท่าทางอ่านยากจัง คนคนนี้
“ฝะ ฝ่าบาท เอ้ย! สวัสดีค่ะ คุณ....”
“จินยองฮะ” จีอึนร้องทักออกไปด้วยอาการตื่นเต้น พอได้รับคำตอบจากฝ่าบาทของเธอนั่นยิ่งทำให้จีอึนหน้าบานไปใหญ่
....มองยังไงก็ดูออกว่าเก็บอาการไม่อยู่..............
“ค่ะๆ ฉันจีอึนนะคะ จำได้ไหมคะ” จินยองยิ้มให้เธอ เขาจำเธอได้ พลางหันหน้ามาทางมาร์คเพื่อบอกใบ้ว่ารู้จักกัน
“จำได้ครับ อืม คุณจีอึนครับ นี่พี่ชายผมเอง ชื่อพี่มาร์ค จะย้ายมาอยู่ห้องข้างๆคุณ ฝากดูแลพี่เขาด้วยนะฮะ”
“อ้อ พี่ชายเหรอคะ ฉันชื่อจีอึนนะคะ ส่วนนี่น้องสาวของฉัน ชื่อซูจีค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงๆ ต่อไปเราก็เพื่อนบ้านกัน เอ่อ ว่าแต่เข้าอยู่วันนี้เลยรึเปล่าคะ” จีอึนถามออกไปเสียงใสไปที่จินยอง ซูจีได้แต่แอบมองมาร์คอย่างประหม่าเขากำลังมองมาที่เธอหลังจากที่ละสายตาจากจีอึน ซูจีรู้สึกว่ามาร์คอาจจะไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่รึเปล่าเพราะพี่สาวเธอแทนที่จะถามคนเข้าอยู่ ดันเอาแต่ไปถามอีกคน สายตาของเขามันทำให้เธอรู้สึกหนาวๆพิกล
.....ก็เล่นจ้องเธออยู่แบบนี้.....
“ครับ” จินยองตอบสั้นๆ เขายิ้มให้จีอึนก็จริง แต่ก็มีความรู้สึกว่าคนข้างๆเขากำลังนิ่งเงียบมองใครบางคนอยู่ และเป็นการมองแบบไม่ละสายตาเลยด้วย
เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ผมยาวสีอ่อนช่างรับกับใบหน้าเนียน ดวงตากลมโตหลุบต่ำ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อกำลังเม้มเข้าหากัน อะไรบางอย่างที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้น และมันกำลังทำให้เธอช่างน่ามอง
“เรากำลังจะไปทานข้าวกันค่ะ ไปด้วยกันไหมคะ” จีอึนชวนหนุ่มๆอย่างมีจุดประสงค์ ซูจีกระตุกแขนพี่สาวเชิงห้ามเบาๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้จีอึนรับรู้เลยแม้แต่น้อย
“เอ่อ พี่มาร์คคงจะอยากพักผ่อน”
“ไม่ ไม่เป็นไร ฉันอยากไป” จินยองหันมามองมาร์คที่ไม่ได้มองไปทางอื่นจากจุดเดิมเลยแม้แต่น้อย จีอึนยิ้มดีใจและจัดแจงเดินนำสองหนุ่มไป ซูจีจับมือจีอึน หัวใจก็เอาแต่พะวงกับคนข้างหลังตลอดทาง
...............พี่เป็นอะไรเหรอ ทำไมถึงมองผู้หญิงคนนี้ไม่วางตา.........จินยองถามตัวเองในใจ
“พี่มาร์คชอบเธอเหรอฮะ” จินยองกระซิบถามมาร์คเบาๆ มาร์คยิ้มนิดๆ หันหน้ามามองจินยองช้าๆ
“ชอบเธองั้นเหรอ นายมากกว่ามั้ง ฮะฮะฮะ”
อะไรของคนคนนี้กันน้า ผมเริ่มไม่เก็ทเขาอีกละ พี่มาร์คขยี้หัวผมทีนึง ผมได้แต่มองตามร่างของหญิงสาวสองคนเบื้องหน้า ทั้งสองคนเป็นคนน่ารักและสวยมากๆ จะหลงรักก็คงไม่แปลก ไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตาภายนอก แต่ว่าเธอคนนั้นก็มีอะไรบางอย่างที่ผมรู้สึกติดใจ แววตาตื่นตระหนกนั่น มันช่างวูบไหว เหมือนเหยื่อตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัวจากภัยอันตราย
.....หวังว่าภัยร้ายนั้นคงไม่ได้เกิดจากคนข้างๆผมหรอกนะ.......
.....ชักเริ่มเป็นห่วงแล้วสิ................
To be continued
////////////////////////////////
จุ๊ๆๆๆ ย่องเข้ามาอัพเงียบๆและจากไป เราจะไม่ถามกันนะคะ ที่ไรท์หายต๋อมไป อิอิ- ไรท์
ความคิดเห็น