ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] พี่เขยฮะ ตอนนี้ผมรักพี่แล้วฮะ (Bambam,Jackson,Mark)

    ลำดับตอนที่ #23 : Chapter 21 No reason

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 57



    (ปากผมบวมเลยอ่ะ....เห็นมั๊ย)

    ///////////////////////////////
     

       ภายในห้องตรวจเต็มไปด้วยบรรยากาศหม่นหมอง นายแพทย์เจ้าของไข้ขยับแว่นตาหลังจากที่อ่านผลตรวจที่อยู่ในมือ แววตาโศกเศร้าเสียใจของหญิงชายคู่หนึ่งคล้ายกับจะร้องขอให้เขาช่วยในสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้นี้ มือของคนทั้งคู่กุมเกาะกันอย่างแน่นเพื่อให้กำลังใจกันและกัน รวมไปถึงมือคู่เล็กๆที่กำลังกุมมือของเธออยู่ในตอนนี้เช่นเดียวกัน ซูจีหันมายิ้มให้กับพ่อแม่ของเธอ ก่อนที่จะหันไปหาพี่สาวที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

     

    “พ่อคะ แม่คะ ไม่ต้องเศร้าหรอกค่ะ ที่หนูอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วนะคะ พี่จีอึนก็เหมือนกัน น้ำตาของพี่ทำไมมันไหลออกมาอย่างนี้ล่ะ” ซูจีเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาบนแก้มของจีอึนอย่างแผ่วเบา เธอยิ้มให้พี่สาวอย่างอ่อนโยน ภาพนั้นทำให้คุณหมอที่นั่งดูอยู่ถึงกับสะเทือนใจจนต้องแอบเบือนหน้าหนี

     

     

    “คุณหมอคะ ได้โปรดช่วยลูกสาวของดิฉันด้วยค่ะ ซูจีอายุยังน้อย ฮือ ฮือ ฮือ” ผู้เป็นแม่กล่าวได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่จะกลั้นเสียงสะอื้นต่อไปไม่ไหวและซบลงคร่ำครวญร่ำไห้กับอ้อมกอดของสามี

     

     

    “ผมเสียใจด้วยจริงๆครับ กล้ามเนื้อหัวใจของเธออ่อนแรงมาก  แม้ว่าตอนนี้จะมีเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจช่วยแต่ผมเกรงว่ามันอาจจะยื้อได้อีกไม่นาน” คุณหมอตอบอย่างลำบากใจ

     


     

    “ไม่มีวิธีไหนที่จะช่วยได้อีกแล้วหรือครับ” ฝ่ายบิดายังคงมีความหวัง แต่ทว่าท่าทางของบุรุษในชุดกาวน์ที่แสดงออกนั้น คล้ายกับจะบอกว่าความหวังของเขานั้นเป็นไปได้ยากเหลือเกิน

     
     

    “มีอยู่แค่วิธีเดียวครับ แต่ผมเกรงว่าเราจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้ในเวลานี้”

     

     

    “อะไรหรือคะ”จีอึนโผล่งถามขึ้น แม้ว่าซูจีจะพยายามส่ายหน้าเพราะเธอรู้คำตอบดี ใช่ว่าคุณหมอจะไม่เคยตอบคำถามนี้กับครอบครัวของพวกเขา  จีอึนจิกเล็บจนเข้าเนื้อที่หลังมือของตัวเองจนเจ็บ เพราะเธอก็รู้คำตอบในสิ่งที่เธอกำลังถามนั้นอย่างที่สุดเช่นเดียวกัน

     


     

    “เราต้องปลูกถ่ายหัวใจดวงใหม่เท่านั้นครับ เพียงแต่ว่าเรื่องผู้บริจาค.............”

     


     

    “ซูจีต้องรออีกนานเท่าไหร่คะคุณหมอ พวกเราจะไปอเมริกา คุณหมอก็ห้าม จะปล่อยให้ซูจีตายอย่างนั้นเหรอคะ น้องฉันเธอยังเด็กนะคะ ยังมีอนาคตอีกไกล....ฮือๆ  ซูจีน้องสาวฉัน มะ......ไม่สมควร  จะต้อง...ฮือๆๆๆๆๆๆ” จีอึนร้องถามในสิ่งที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจดี ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่การรักษา แต่มันคือการที่ไม่มีผู้บริจาคหัวใจ

     


     

    “พี่จีอึน ไม่เป็นไรหรอก คนที่เป็นแบบฉันที่อเมริกาก็มีเยอะ ไม่ต้องไปน่ะดีแล้ว ฉันได้อยู่กับพ่อ แม่ และพี่ที่ฮ่องกงแบบนี้ฉันก็ดีใจมากแล้วล่ะ 10 ปีแล้วเนอะที่เราย้ายมาจากเกาหลี จะว่าไปฉันโชคดีนะที่อยู่มาได้ตั้งนาน ถ้าเกิดว่าทุกคนได้กลับไปอยู่ที่เกาหลีอีกก็ดีสินะ  พี่อย่าลืมไปที่ที่ฉันเคยชอบเผื่อฉันด้วยนะ”ซูจีพยายามฝืนยิ้มแม้ว่าน้ำตาของเธอมันจะเอ่อจนเต็มเบ้าตา แต่เธอก็พยายามจะยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง

     

     

    “ยัยบ้า พวกเราจะกลับเกาหลีด้วยกัน คุณพ่อคะกำหนดกลับของคุณพ่อปีหน้าใช่ไหมคะ” จีอึนหันหน้าไปถามพ่อที่พยักหน้าตอบอย่างขมขื่น ก่อนที่จะหันมาหาซูจีอย่างเจ็บปวด

     


     

    “เธอจะต้องกลับกับพวกเรา แค่ปีเดียวเธอไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวก็มีผู้บริจาคแน่ๆ ใช่ไหมคะคุณหมอ” จีอึนหันไปทางคุณหมอ เขาพยักหน้าให้ด้วยความหวังเพื่อครอบครัวนี้

     


     

    “หมอเชื่อว่าเรามีความหวังได้เสมอ เพียงแต่เราต้องทำในส่วนที่เราทำได้ให้ดีที่สุดนะ”

    “คุณหมอคะ ฉันมีเรื่องอยากขอร้องค่ะ......”ซูจีเอ่ยขึ้น

     

     

    ////////////////////////////////////


     

        แจ๊คสันกำลังกระหยิ่มดีใจเพราะหงุดหงิดจากตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แบมแบมเอาแต่หลบหน้าเขา แม้แต่ตอนไปโรงเรียน เจ้านั่นก็ให้พี่สาวตัวเองไปส่ง ที่แน่ๆคือไปเยี่ยมมาร์คกับเหวินเจิ้งทุกวัน แถมขากลับบางวันสองพี่น้องก็ไปเตร็ดเตร่ที่ไหนไม่รู้กว่าจะกลับบ้านก็ค่ำมืดดึกดื่น เขาพยายามจะเข้าใจนะว่าเป็นเรื่องปกติที่พี่น้องไม่ได้เจอกันนานก็ย่อมจะอยากมีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง แต่ว่ามันไม่มากไปหน่อยหรอกเหรอสำหรับทุกวัน


       วันนี้แจ็คสันสุดแสนจะเบิกบาน นั่นเพราะเช้านี้แอปเปิ้ลบอกเขาว่าเธอต้องกลับไปทำงานแล้ว ทีนี้ล่ะเขาจะจัดการแบมแบมในฐานะผู้ปกครองให้สมใจอยาก อันที่จริงทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เที่ยวบินที่แอปเปิ้ลกำลังจะเดินทางในค่ำนี้เป็นเที่ยวบินไปจีนแผ่นดินใหญ่ แอปเปิ้ลจะต้องไปหาเจสันพี่ชายของเขาอย่างแน่นอน เขาสังเกตเห็นเธอกังวลเรื่องคนรักของเธอมาก  แม้ว่าเจสันจะโทรมาหาบ่อยๆ แต่แอปเปิ้ลก็มีความกังวลบางอย่างที่อธิบายไม่ได้บอกออกมาทางสีหน้า

     

     

        “เรื่องแบมแบมฉันยังไม่ได้บอกอะไร ความจริงฉันก็รู้ว่าน้องชายตัวเองค่อนข้างจะดื้อ”

       “ไม่ค่อนข้างล่ะ ดื้อเลยล่ะ”


     

       “อย่าเพิ่งขัดสิ”แอปเปิ้ลตีแขนเขา ในขณะที่คุยกับแจ๊คสัน เธอกำชับให้แจ๊คสันช่วยดูแลแบมแบมอีกครั้งเพราะเธอจะไม่อยู่ ท่าทางแจ๊คสันดูเต็มใจในหน้าที่มาก

     
     

      “ถึงแบมแบมจะดื้อยังไง แต่ในฐานะพี่สาวแล้ว ฉันไม่อยากโกหกน้อง เพราะฉะนั้นนายรีบบอกความจริงแบมแบมซะ เข้าใจไหม เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง บางทีครั้งหน้าฉันอาจจะกลับมาพร้อมเจสัน รู้ไหมว่าตอนนี้แบมแบมมองฉันยังไง เขาคิดว่าฉันไม่มีสมองมีสามีเป็นคนใช้ไม่ได้ ไม่ได้เรื่อง แถมลามก”

     
     

      “นี่หมอนั่นมันว่าฉันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ไอ้เด็กนั่น...”

     
     

     ...เพี้ยะ!....

     

     

       แอปเปิ้ลตีซ้ำที่ต้นแขนแจ๊คสันอีกที อะไรกันนักกันหนายัยพี่สะใภ้คนนี้ นิยมความรุนแรงเหมือนน้องชายตัวเองไม่มีผิด

     

     

      “ลามกเนี่ยหมายความว่าไงยะ นายทำอะไรใครที่ไหน เกี่ยวกับแบมบมรึเปล่าฮะ นี่แน่ะ!” แอปเปิ้ลคาดคั้น ง้างมือหมายจะตีแจ๊คสันอีก

     

     

     “ลามกเรื่องอะไร ฉันไม่เกี่ยว” แจ๊คสันปฏิเสธมือทั้งสองข้างรีบจับมือของแอปเปิ้ลไว้ กลัวว่าจะถูกตีอีก ทำให้อีกฝ่ายดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการ มือไม่ว่าง ก็เหลือเพียงปากเล็กๆ แอปเปิ้ลกัดแขนแจ๊คสันจนเจ้าตัวรีบปัดออกอย่างพัลวัน  ภาพของทั้งสองคนราวกับคู่รักกำลังแกล้งกันในความรู้สึกของคนคนหนึ่งที่กำลังแอบมองอยู่ไกลๆ

     

     

           แบมแบมยืนมองพี่สาวและคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่เขยของตัวเองกำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ทำไมกันนะ ทำไมพี่สาวเขาถึงได้ไปรักไปชอบเจ้านั่นกัน เจ้าคนเจ้าชู้ ลามก หลายใจ ยอมรับว่ามันหล่อ แต่ถ้าหล่อแล้วนิสัยแย่มันก็เท่านั้นแหละ ยังไงซะเขาไม่มีวันยอมรับแน่ แบมแบมสะบัดหน้าเดินไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวี ไม่ค่อยมีรายการอะไรน่าสนใจนอกจากละครน้ำเน่า แบมแบมเปิดเสียงเบาๆ และเอนตัวลงนอนบนเบาะนุ่ม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเล่น ช่วงนี้ทุกค่ำเขาจะต้องคุยโทรศัพท์กับคน 2 คน และส่งข้อความกับคนอีกหนึ่งคนทุกคืน

     


     

    ...ติ๊ดๆๆ.....


     

     

    นั่นไง ข้อความของคนแรก


     

     

    >>>พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านแล้วนะ ^O^ <<<<    ไจแอ้นท์

     

     

         

       ข้อความถูกส่งมาเป็นภาษาอังกฤษ ตอนนี้เหวินเจิ้งเริ่มสื่อสารกับเขาได้มากขึ้นแล้ว ก็เพราะในตอนนี้มีพี่ชายที่คอยช่วยเหลือเรื่องภาษาให้ แต่จะว่าไปพอนึกถึงคนคนนั้น แบมแบมก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้

     

     

    ..............เขายังเห็นเราเป็นน้องชายอยู่รึเปล่านะ พี่มาร์ค..........................

     


     

         แบมแบมรีบสลัดความคิดอันบั่นทอนความรู้สึกน้อยใจของตัวเองออกไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจเรา แต่เป็นเพราะว่าพี่เขาไม่สบายอยู่ พี่เขาจะต้องรักษาตัว นั่นเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะไม่ได้ตอบข้อความของเรา  ได้เจอหน้ากันทุกวันตอนไปเยี่ยมก็ดีแล้วนี่เนอะ ยังไงมันก็เพิ่งเมื่อตอนเย็นนี้นี่นา  หลังจากที่สรุปให้ตัวเองแบมแบมก็พิมพ์ข้อความตอบกลับให้เหวินเจิ้งหรือไจแอนท์ เมื่อกดส่งแล้วทันใดนั้นเอง

     

     

    ....00000........


     

    เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่แบมแบมคุ้นเคยดึงให้เขาหลุดจากภวังค์ บุคคลที่ 2 ที่โทรมาในวันนี้ก็คือ

     


     

      “อ้าว ยองแจ”

      “อื้ม  นายโทรมามีอะไรเหรอ”

     

     

          ที่ยองแจโทรมาก็เพราะว่าแบมแบมโทรไปหาก่อนเสมอ ถ้ายองแจไม่ได้รับในตอนแรก แบมแบมมักจะรอเพราะรู้ว่าอีกไม่นานยองแจจะต้องโทรกลับอย่างแน่นอน

     


     

      “ต้องมีธุระเสมอเลยเหรอ ถึงโทรหานายได้น่ะ” แบมแบมอ้อน ยองแจมักจะระวังตัวเรื่องการคบหากับแบมแบม ยิ่งในช่วงนี้ที่โรงเรียน ใครๆก็ต่างจับจ้องเขาทั้งคู่ นั่นทำให้ยองแจพยายามรักษาความห่างกับแบมแบมในเวลาหลังเลิกเรียนที่เป็นนอกเวลาแห่งการแกล้งแสดงละครคู่รักของพวกเขา

     



     

      “ปะ ปล่าว ฉันก็แค่ถามเฉยๆ”

     “นายก็รู้ว่าฉันมีนายเป็นเพื่อนที่โรงเรียนคนเดียว แถมฉันยังเป็นคนขี้เหงามาก ไม่โทรหานายแล้วฉันจะโทรหาใครฮะ” แบมแบมกรอกเสียงน่ารักๆตามสาย

     

     

    “แบมแบม แค่นี้ก่อนนะ”

    “ทำไมอ่ะ”

    “ก็แจบอมฮยองเค้าเรียกฉันล่ะ”

    “อะไรของหมอนั่นกันฮะ คนเขาคุยโทรศัพท์กันอยู่”แบมแบมขัดใจ เขาได้ยินเสียงแจบอมในโทรศัพท์แทรกเข้ามา

     

     

    “งั้นแค่นี้นะ” ยองแจกล่าวอำลา

     

    “อื้ม  ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ มีเรื่องจะบอก งั้นแค่นี้นะ จุ๊บๆ ฮ่าฮ่า” แบมแบมส่งเสียงหัวเราะ โดยไม่รู้ตัวว่าตอนนี้แจ๊คสันนั่งบนโซฟาตัวถัดไปข้างหลังเขา  เด็กหนุ่มเผลอยิ้มหน้าบาน ซึ่งมันทำให้แจ๊คสันเข้าใจว่าแบมแบมกำลังมีความสุขที่ได้คุยกับแฟนหนุ่มของตัวเอง

     


     

    ..........ทำเป็นรังเกียจผู้ชาย........

    .........เชอะ!................

     

    ….0000……


     

         เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง แจ๊คสันเริ่มหงุดหงิดว่าทำไมแบมแบมถึงได้ฮอทขนาดนี้นะ คราวนี้เป็นผู้ชายที่ไหนอีกล่ะอย่าบอกนะว่าเป็นเจ้าสองคนนั่นที่โรงพยาบาล

     


     

       “อ๊ะ!  ซูจี  ไม่นึกว่าจะโทรมาก่อน  เรากำลังจะโทรหาอยู่พอดีเลย”

     

     

    ....ฮึ่ม!  เกินความคาดหมายแฮะ........ แจ๊คสันพยามตั้งใจฟังบทสนทนา แต่เขาได้ยินแค่เสียงของแบมแบมเท่านั้นจึงไม่รู้ว่าซูจีพูดอะไรบ้าง

     

     

      “แบมแบมเรื่องที่คุยกันไว้น่ะ ตกลงเป็นวันเสาร์นี้นะ”

     


     

      “แต่ซูจีจะไม่เป็นไรเหรอ” น้ำเสียงของแบมแบมดูห่วงซูจีมากเหลือเกิน สองคนนี้ถึงขั้นไหนกันแล้วเนี่ย แจ๊คสันได้แต่นั่งร้อนรนอยู่คนเดียว ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งแอบฟังต่อ

     


     

     “ไม่เป็นไรหรอก คุยกับคุณหมอแล้ว พี่จีอึนก็รู้”

      “งั้นก็ได้”

      “แบมแบมชวนเพื่อนมาเยอะๆนะ”


     

     “เข้าใจแล้วครับผม ซูจีได้ออกจากโรงพยาบาลทั้งทีนี่นา เรื่องหมอนั่นไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงซะหมอนั่นก็ต้องไปอยู่แล้วล่ะ พวกจุ้นเรื่องชาวบ้านแบบนั้นน่ะ” แบมแบมหัวเราไม่รู้ว่าเจ้านั่นของเขานั่งหน้าเครียดอยู่ข้างหลัง

     


     

      “จ้า ไว้คุยกันนะ”

     

      “ครับ จุ๊บๆ”

     

     

     “นี่นาย จุ๊บๆให้ทุกคนที่โทรหารึยังไง” เสียงกระซิบดังข้างๆหูของแบมแบม เจ้าหนูตกใจลุกขึ้นพรวด แต่แจ๊คสันใช้สองมือกดบ่าไว้จนต้องนอนลงบนโซฟาอีกรอบ
     

     

     “เฮ้ย!” ใบหน้าหล่อๆของแจ๊คสันที่กลับทิศกับของตัวเองยื่นลงมาใกล้จนลมหายใจรดบนแก้ม ทำเอาแบมแบมหายใจไม่ทั่วท้อง

     


     

    .......อย่างใกล้....

    .....และกระทันหันเกินไป....

     

     

      “หาว่าฉันเจ้าชู้ ทีตัวเองล่ะ คุยทั้งผู้หญิงผู้ชาย ใครกันแน่ที่เจ้าชู้” แจ๊คสันยิ้มยั่ว ความรู้สึกหึงหวงแล่นเข้ามาเกาะกุมที่หัวใจมิอาจปฏิเสธ  อยากลงโทษเด็กดื้อคนนี้เสียจริง

     

     

      “ปล่อยนะ ฉันเจ็บ!!!” แบมแบมพยายามดิ้น แต่ไม่เป็นผลเพราะแรงกดมีมากขึ้นเรื่อยๆ แจ๊คสันหมุนตัวเข้ามานั่งข้างๆตัวแบมแบม มือก็ยังไม่ยอมปล่อย เขาเลื่อนจากจับที่บ่ามาเป็นต้นแขนทั้งสองข้างแทน แบมแบมยิ่งดิ้น แจ๊คสันก็ยิ่งโน้มตัวลงมาใกล้มากขึ้น

     


     

      “นัดกันจะไปไหน ถ้าให้ฉันเดา พวกจุ้นชาวบ้านที่นายหมายถึงน่ะ ฉันใช่ไหม” แจ๊คสันไม่สนใจท่าทีเจ็บปวดของแบมแบมสักนิด เขากำลังโกรธ ลับหลังเขา แบมแบมเห็นเขาเป็นตัวอะไรกัน พวกจุ้นชาวบ้านเนี่ยนะ

     


     

      “ถ้าใช่แล้วไง ฉะ ฉันก็แค่นัดกับซูจีว่าจะฉลองที่เธอกำลังจะออกจากโรงพยาบาล แล้วเธอก็บอกให้ชวนนายด้วย นายไม่พอใจอะไร” แบมแบมพยายามอธิบาย แต่ก็ไม่กล้าสบตาแจ๊คสัน เพราะอีกฝ่ายทำเหมือนเขาเป็นเหยื่อในกรงเล็บก็มิปาน

     


     

      “ก็พูดถึงฉันดีๆไม่ได้รึไง อย่าลืมสินายเป็นของฉันนะ นายต้องให้ความเคารพฉันสิ”

     


     

      “ขะ ขอโทษ ของนายที่ไหนกัน” แบมแบมบอกอ้อมแอ้ม แจ๊คสันผ่อนแรงที่จับไว้ แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย กลับกัน เขาคร่อมตัวแบมแบมไว้ให้ถนัดขึ้นกว่าเดิม แบมแบมพยายามดิ้นหนี แต่เมื่อสบตาอีกฝ่าย เขาก็ทำได้แค่ขยับตัวเล็กน้อยเท่านั้น

     


     

    .....สายตาของแจ๊คสันเหมือนกับกำลังสั่งว่า ถ้านายไม่อยากถูกทำอะไรไปมากกว่านี้ก็อย่าขยับ...

     
     

    “ยกโทษให้ก็ได้ หึหึ”

     

     

        สิ้นเสียงคำพูด แจ๊คสันลงโทษแบมแบมด้วยวิธีของเขา โดยการโน้มลงมาจูบที่ซอกคอของแบมแบมอย่างแผ่วเบา และสูดลมหายใจเข้าเพื่อเสพกลิ่นกายสะอาดๆของเด็กหนุ่มหลังอาบน้ำ มันหอมสดชื่นคละเคล้าไปด้วยความละมุนละไมของผิวกายอุ่นๆ  ลิ้นหนาแลบออกมาเลียไล่ระไปตามแนวเส้นเลือดที่สันคออย่างเนิบนาบ

     



     

    “อะ  อื้อ  หยุด....” แบมแบมร้องประท้วง ไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะที่ที่แจ๊คสันและเขากำลังโรมรันพันตูอยู่นี้ไม่ใช่สถานที่ลับตาคนเท่าใดนัก อาจมีใครเดินเข้ามาเจอเมื่อไหร่ก็ได้  และคนที่ไม่อยากให้เจอที่สุดตอนนี้ก็คือพี่สาวของเขานี่ล่ะ สามีกับน้องเมียทำอะไรกันแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย

     

     

    “ฉันจะจูบนาย” แจ๊คสันจ้องมองแบมแบม สายตาแน่วแน่ดั่งราชสีห์กำลังจะตะครุบกวางน้อย มันไม่ได้เป็นการบอกเพื่อขออนุญาตสักนิด มันก็แค่แจ้งให้ทราบ โดยมิอาจปฏิเสธ เขาโน้มลงมาอีกจนประทับจูบลงไปที่ริมฝีปากอันนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ

     

     

      “อ๊ะ!..... อื้ม..”  ลิ้นตวัดไปรอบๆโพรงปากของแบมแบมอย่างชำนาญ ราวกับกำลังตักตวงความไร้เดียงสาอันเงอะงะของเด็กหนุ่ม ในตอนแรกแจ๊คสันเพียงแค่อยากจะลงทัณฑ์ในความดื้อบวกกับรู้สึกหึงหวง แต่เมื่อได้สัมผัสมากขึ้น ทุกสิ่งมันกลับกลายเป็นความต้องการอย่างมากมายจากส่วนลึกของหัวใจ

     


     

      “น่ารักที่สุด นายเนี่ย” แจ๊คสันยิ้มให้เจ้าตัวเล็กของเขาและก้มลงไปจูบอีก คราวนี้มือใหญ่ประคองต้นคอของแบมแบมไว้ ในขณะเดียวกันจังหวะการจูบก็โปรขึ้นเรื่อยๆ ขยับจากซ้ายทีไปขวาที และก็วนกลับมาอยู่อย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา แบมแบมชักรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะไม่ได้สติ เพราะตอนนี้ริมฝีปากของเขามันรู้สึเหมือนกับมีไฟฟ้าแล่นเข้ามา มันชาไปหมด แต่ก็รู้สึกไหลลื่นตามจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังบรรเลงนำไป แจ๊คสันเริ่มจูบหนักขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งเขาเผลองับริมฝีปากอิ่มของแบมแบมอย่างเอาแต่ใจ แม้ว่าจะมีเสียงครางประท้วงแต่เขาก็ไม่สนใจฟัง

     
     

       “แจ๊คสัน พอเถอะนะ ผม....” แบมแบมเอียงหน้าหนีด้วยความเขินอาย เขาไม่ได้รู้สึกโกรธสักนิด กลับกัน จูบที่กำลังได้รับมันมากเกินกว่าที่เขาจะรับไหวได้ เขาเริ่มรู้สึกเจ็บริมฝีปาก มันอาจจะกำลังบวม

     


     

      “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า กำลังเสพติดนาย อยากจูบนายอีก รู้มั๊ย?”

     

     

      “แจ๊คสัน  นายทำแบบนี้...”น้ำตาของแบมแบมค่อยๆไหลออกมา โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร บางทีมันอาจจะเป็นความรู้สึกผิดในใจ

     


     

    .....รู้ว่าผิด....

    ...แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธจูบที่หอมหวานนี้ได้......

     


     

    “อย่าร้องไห้เลยนะ ตอนนี้แค่ปล่อยอะไรให้มันเป็นไปเถอะ ไม่ต้องกลัวคราวนี้ฉันจะจูบเบาๆนะ”

     
     

       ว่าแล้วแจ๊คสันก็ก้มลงจูบแบมแบมต่อ น้ำตาบนแก้มไหลริน ความเค็มของมันผสมผสานปะปนกันกับความหวานของจูบ และคนทั้งคู่เท่านั้นที่รับรู้ว่ามันรู้สึกเช่นไร  มือของร่างเล็กข้างใต้ค่อยๆยกขึ้นและโอบกอดร่างด้านบนไว้อย่าเผลอไผล นาทีนี้ช่างเงียบงัน และแผ่ซ่านไปด้วยไอรัก เวลาต่อจากนี้  ชั่วโมงต่อจากนี้ หรือแม้แต่พรุ่งนี้จะเป็นเช่นไรก็ค่อยว่ากันอีกที

     
     

    /////////

     

    ยองแจ.......


     

       “ไอ้นี่มันเดือดแล้วนะ”  แจบอมฮยองร้องบอกในขณะที่ผมกำลังคุยโทรศัพท์กับแบมแบมอยู่ จริงอยู่ที่ผมตั้งหม้อแกงกิมจิค้างเอาไว้ แต่ผมใส่น้ำลงไปเยอะให้มันเผื่อเดือดไว้แล้วนะ แจบอมฮยองจะมาเดือดร้อนทำไม

     

     

     “ครับๆ พี่ไม่ต้องสนใจมันหรอก มันไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมร้องบอกเขา และหันไปสนใจโทรศัพท์ต่อ

     


     

      “นี่ นายแน่ใจเหรอว่ามันจะไม่เป็นอะไร” แจบอมฮยองเดินเข้ามาข้างๆ นี่เขาไม่เห็นอยู่รึไงว่าผมคุยโทรศัพท์อยู่น่ะ ผมพยักหน้าแบบปลงๆ และจบการสนทนากับแบมแบมไป ดูเหมือนแจบอมฮยองจะพอใจ เขาดึงมือผมไปในห้องครัว และชี้ให้ดูหม้อแกงเจ้าปัญหา

     

     

      “เห็นมะ มันแปลกๆใช่มะ ฉันว่าน้ำมันแห้งไป”

    “โอ๊ย แค่นี้ไม่แห้งหรอกครับ ผมคุยโทรศัพท์แป๊บเดียวเอง ผมไม่ปล่อยให้มันไหม้หรอกน่า”


     

    “ทำต่อซะ”จู่ๆผ้ากันเปื้อนก็ถูกสวมให้จากทางด้านหลัง แจบอมฮยองสอดมืออ้อมเพื่อผูกผ้ากันเปื้อนให้ มันเลี่ยงไม่ได้ที่ผมจะถูกกอด เขาเห็นผมเป็นตุ๊กตารึไงถึงมาแต่งตัวให้

     

     

    “ผมทำเองฮะ”

     

    “อยู่นิ่งๆได้มั๊ย” ลมหายใจรดต้นคอจากด้านหลังแบบนี้ทำเอาผมยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้น มือขยุกขยิกแถวๆบั้นเอวของผม คงเพราะเขากำลังผู้เชือกด้านหลังให้

     

    “ไปรอข้างนอกเถอะฮะ”

    “ทำไมต้องไล่ฉันด้วย”

     

    “พี่อยู่แล้วผมทำกับข้าวไม่สะดวกน่ะ” ผมหันไปมองหน้าเขา แจบอมฮยองยิ้มให้นิดๆก่อนที่จะเดินออกไป

     
     

          ช่วงนี้เขาเอาใจใส่ผมเกินไปแล้วฮะ ผมรู้สึกอึดอัดกว่าแบบแต่ก่อนที่เขาไม่สนใจผมอีกแน่ะ จะเรียกว่ารำคาญก็ไม่ใช่ จะเรียกว่าอะไรดี ผมรู้สึกไม่กระจ่างใจน่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ยิ่งเวลาผมคุยโทรศัพท์นะ เขาจะต้องมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆตลอด ก็เพราะว่าเราอยู่ห้องเดียวกัน ไม่มีห้องนอนแยก ผมจึงไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวเท่าใดนัก จะว่าไปนี่มันก็บ้านเขา เขาจะเดินตรงไหนมันก็สิทธิ์ของเขาอยู่แล้วนี่ครับ ผมจะบ่นอะไรได้  ผมก็ได้แต่ถามตัวเองในใจเท่านั้นแหละว่าหมู่นี้แจบอมฮยองเป็นอะไรไป ยังกับว่าเขากำลัง........นี่ผมนึกบ้าอะไรอยู่เนี่ย ผมส่ายหน้ากับตัวเองอย่างระอาที่คิดอะไรเพ้อเจ้อแบบนั้น

     

     

      “งั้นเดี๋ยวฉันมานะ ฉันจะไปชวนจินยองมากินข้าวด้วย”  แจบอมฮยองร้องบอกก่อนที่จะได้ยินเสียงประตูจะปิด

      “อ้อ...อย่างนี้นี่เอง”

     

     

    .......ถึงเป็นห่วงกับข้าวมื้อนี้มาก.......

    .......ไม่ได้มีแค่ผมกับแจบอมฮยองเท่านั้น.....

    .......ทุกเย็นพี่จินยองจะต้องมากินข้าวด้วย......

    .....ผมนี่คิดบ้าบอเกินไปเองจริงๆซะด้วยสินะ....
     

     

    ///////////////////////////////

     

    “พี่แจบอมฮะตั้งแต่อาทิตย์หน้าผมคงไม่ได้มากินข้าวที่บ้านพี่แล้วนะฮะ” จินยองบอกทำเอาแจบอมแปลกใจ มีเรื่องที่ทำให้จินยองไม่สบายใจอย่างนั้นหรือ
     

     

    “ถ้าเรื่องยองแจ นายไม่ต้องเป็นห่วง”

    “ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ”

    “อ้าว ทำไมล่ะ”
     

    “ผมจะต้องดูแลใครบางคนน่ะครับ” จินยองบอก นั่นทำเอาแจบอมอดที่จะถามไม่ได้ แต่ไม่ทันได้ถามจินยองก็สวนขึ้นมาก่อน

     

    “อย่าเพิ่งถามเลยนะครับว่าเป็นใคร”

    “ถ้านายไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงนายก็ต้องมาหาฉันที่บ้านบ่อยๆนะ โทรมาก็ได้เข้าใจไหม”

    “ได้เลยครับพี่ ผมไม่หายไปไหนแน่นอน อย่างน้อยก็ก่อนปีหน้า” จินยองให้สัญญา

    “ ฉันขอเดานะ คนที่นายต้องดูแลน่ะ แฟนใช่มั๊ย? ฮะฮะฮะ” แจบอมล้อจินยอง

    “อาจจะใช่ก็ได้นะ ฮะฮะฮะ” จินยองไม่หลงกล

     

    “ไอ้เด็กนี่ ฮะฮะฮะ ไปกินข้าวกัน วันนี้ยองแจทำแกงกิมจิ” แจบอมชวนเหมือนทุกครั้ง จินยองยิ้ม ท่าทางของแจบอมราวกับสามีพาเพื่อนไปกินข้าวฝีมือภรรยาที่บ้านชะมัด

     

     “ผมว่าถ้ายองแจเป็นผู้หญิงเนี่ย ต้องเป็นแม่บ้านที่ดีแน่ๆ ทำกับข้าวก็เก่ง งานบ้านก็เป็น พี่ว่ามั๊ยบางทียองแจอาจจะเป็นเด็กผู้หญิงปลอมตัวมาก็ได้นะ แบบในหนังไง ฮะฮะฮะ” จินยองกระเซ้าแจบอมเล่น พาลให้อีกฝ่ายนึกถึงเหตุการณ์ที่โรงอาบน้ำ ยองแจไม่มีทางเป็นเด็กผู้หญิงได้หรอก แม้ว่าตัวจะนุ่มนิ่มขนาดนั้น แจบอมเผลอมองฝ่ามือที่เคยสัมผัสก้นของยองแจโดยไม่ตั้งใจคู่นี้ แล้วก็เผลอยิ้มออกมา

     

     

    .....ยองแจไม่มีทางเป็นเด็กผู้หญิงได้....

    ....ส่วนแม่บ้านที่ดี.....

     

      “อาจจะใช่ก็ได้นะ ฮะฮะฮะ” แจบอมตอบกลับขำๆ กับความคิดตัวเอง เขาหัวเราะกับจินยอง ทั้งคู่ขำกับมุกของตัวเอง

     

    .....อาจจะใช่....

    ...ในความหมายของทั้งสองคนนั้น.....

    ....มันมีความน่าจะเป็นมากน้อยเพียงใดกันนะ....



    To be continued.

    ///////////////////////

       ตามชื่อเลยค่ะ ตอนนี้เป็นตอนที่ไม่มีเหตุผล ไรท์คิดว่าถ้าเราใช้เหตุผลมากเกินไป เราก็จะไม่ได้ทำอะไรตามหัวใจของตัวเอง ไรท์ก็เลยให้เด็กๆไปฟินอะไรกันเองได้เลย เดี๋ยวไรท์ค่อยแก้บทให้ในคราวหน้าละกัน ฮ่าฮ่าฮ่า  ดีไหมคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×