ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] พี่เขยฮะ ตอนนี้ผมรักพี่แล้วฮะ (Bambam,Jackson,Mark)

    ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 19 Who is Youngjae?

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 57



    (รักกัน รักกัน love love)




    “อะไรนะคะ คุณจะไปไหนคะ” แอปเปิ้ลถามอย่างตกใจเมื่อเจสันบอกบางอย่างกับเธอ

     

    “แอปเปิ้ลคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ คุณอยู่ที่บ้านผมกับแจ๊คสันและน้องชายของคุณไปก่อนนะ ผมจะรีบกลับหลังจากที่ทำธุระเสร็จแล้ว” เจสันตอบมาจากปลายสาย แอปเปิ้ลร้อนรน นี่เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่ชั่วโมงแต่คนรักของเธอจะเดินทางอีกแล้วเหรอเนี่ย
     

    “ทำไมคุณต้องไปที่เมืองจีนด้วยคะ เพิ่งเกิดเรื่องกับแจ๊คสันและแบมแบมนะ”

     

    “เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องด่วนมาก คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมรักคุณนะ ไว้ผมจะติดต่อกลับไปนะ ” สายปลายทางถูกตัดทิ้งไปอย่างทันที สายตาของเจสันเคร่งเครียด เขานั่งหลังตรงอยู่บนโซฟารายล้อมไปด้วยกลุ่มชายสวมชุดสูทหลายคน

     

    ///////

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที

     

    “ตอนแรกผมว่าจะปล่อยคุณไปนะ แต่ว่าตอนนี้คงไม่ได้แล้วล่ะ เสียใจด้วยที่คุณดันมาเจอผมกับเล้งซะได้ ทางเราคงจะต้องเชิญคุณไปพักผ่อนที่เมืองจีนสักระยะแล้วล่ะครับ” หวงเสี่ยวหมิงบอกอย่างเหนือไพ่ ทันทีที่ได้ข่าวแจ๊คสัน เจสันก็รีบมาที่โรงแรมของตระกูลหวังทันที เขาเห็นเล้งเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง มันเป็นห้องจัดงานแต่งงาน ตอนแรกเขาไม่ได้คิดอะไรจนกระทั่งเห็นหน้าของคนคนนี้ หวงเสี่ยวหมิง เจสันสืบจนรู้ว่าพวกไหนที่ลอบยิงเขาที่อิตาลี ซึ่งเป็นแก๊งค์จากเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ อันที่จริงเจสันก็ไม่รู้หรอกว่าหน้าตาของพวกมันเป็นยังไง แต่วันนี้เขาเจอเล้งที่ไม่น่าจะรู้จักนักธุรกิจหน้าใหม่ที่ชื่อหวงเสี่ยวหมิง

     

     

    “คุณมันฉลาดเกินไป ถึงผมจะไม่บอกคุณว่าผมเป็นใคร ยังไงซะคนของผมก็จะต้องถูกคุณสงสัยอยู่ดี” หวงเสี่ยวหมิงหันไปมองเล้งอย่างตำหนิ เล้งรู้สึกราวกับว่าเป็นความผิดของเขาที่ถูกคุณชายเจสันตามมาเจอ ใครจะไปนึกว่าคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวังจะมาที่นี่ได้

     

     

    “พวกนายคิดจะทำอะไรกัน” เจสันถามตรงๆ

     

     

    “ผมจะบอกคุณตรงๆละกันนะครับ ธุรกิจของตระกูลหวังที่มีฐานการผลิตในจีน ผมอยากให้คุณขายให้ผมทั้งหมด” หวงเสี่ยวหมิงเจรจา

    “ฉันขายให้ใครไม่ได้หรอก ผู้นำตระกูลเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นได้ มันเป็นกฏตามพินัยกรรม”

    “ก็รีบเป็นซะสิครับ”

    “ฉันตั้งใจจะไม่เป็นผู้นำตระกูล” เจสันยืนกราน

    “ทำไมครับ ทั้งๆที่อีกไม่กี่เดือนคุณก็จะอายุครบ 25 ปี ตามที่พินัยกรรมระบุแล้ว”


     

    “นายรู้?” เจสันตะลึง นี่เป็นความลับในตระกูล พินัยกรรมของผู้นำตระกูลคนก่อนหรือก็คือบิดาของเขาได้เขียนไว้ว่าผู้นำตระกูลหวังเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ขาดในธุรกิจของตระกูล และคนคนนั้นจะต้องมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์เต็มก่อนจึงจะมีสิทธิ์

     

     

    “ผมรู้สิครับ”หวงเสี่ยวหมิงพยักเพยิดไปทางเล้ง เจสันแม้จะสงสัยว่าพักหลังๆจะต้องมีคนแอบสืบความลับของตระกูลแน่ๆ เพราะเขาได้รับรายงานการตรวจสองข้อมูลบางอย่าง แต่ไม่สามารถจับมือใครดมได้ ที่แท้ก็เป็นพ่อบ้านเล้งนี่เอง

     

     

    “ฉันตั้งใจจะให้แจ๊คสันเป็นผู้นำตระกูล” เจสันยืนกราน

     

     

    “แต่ผมรอไม่ไหวครับ คุณชายแจ๊คสันอายุแค่ 22 ปี อีกตั้ง 3 ปี แต่ถ้าเป็นคุณน่ะเร็วกว่าเยอะ คุณก็รู้ว่าธุรกิจทุกวันนี้โตไวอย่างกับจรวด”

    “ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”

     

    “ไม่รู้สถานการณ์ตัวเองเลยนะครับ จริงอยู่ที่ผมไม่สามารถทำอะไรตัวคุณให้คุณยอมทำตามได้  แต่ว่าถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็ไม่แน่ ผู้หญิงคนนี้สวยดีนะครับ แฟนคุณใช่ไหม ผมล่ะอิจฉา” รูปถ่ายใบหนึ่งยื่นมาตรงหน้าเจสัน มันทำให้เขารู้สึกโกรธ แต่เจสันก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

     

    “ถ้านายมีเรื่องคุยแค่นี้ฉันขอตัว” เจสันลุกขึ้น แต่เหวินเล่อเข้ามาขวางไว้

    “คงทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ”หวงเสี่ยวหมิงกล่าว

    “แล้วจะให้ฉันทำยังไง”

    “อีกแค่ 3 เดือนคุณชายก็จะมีอายุครบ 25 ปีแล้วนี่ครับ ก่อนจะถึงเวลานั้น ผมคงจะต้องขอเชิญคุณชายไปช่วยควบคุมดูแลธุรกิจของพวกเราในอนาคตที่เมืองจีนแล้วล่ะครับ”

    “ฉันไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธใช่ไหม”

    “ครับ”

    “ถ้าอย่างนั้นฉันขอโทรศัพท์หน่อย” เจสันเข้าใจสถานการณ์ที่ไม่อาจขัดขืนได้นี้

     

     

    “แอปเปิ้ลเหรอ พอดีผมต้อไปจัดการธุระที่จีนด่วนเลย....ไม่ไม่ คุณไม่ต้องตามมาด้วยหรอก.....ผมอาจจะไปหลายวัน ไว้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลังนะ   แอปเปิ้ลคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ คุณอยู่ที่บ้านผมกับแจ๊คสันและน้องชายของคุณไปก่อนนะ ผมจะรีบกลับหลังจากที่ทำธุระเสร็จแล้ว.......เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องด่วนมาก คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมรักคุณนะ ไว้ผมจะติดต่อกลับไปนะ ”


     

     

    “ผมขอสิ่งนั้นด้วยครับคุณชาย” หวงเสี่ยวหมิงยื่นมือมา โทรศัพท์สินะ  เจสันส่งให้เขา และหันไปมองเล้งก่อนที่จะพูดอะไรบางอย่าง

     

    “อย่าทำอะไรพวกเขา ฉันขอแค่นี้ นายทำให้ฉันได้ไหม” เล้งสบตาเจสันก่อนหลบตา

     

     

    “คนที่เขาฟังคือผมคนเดียวครับ คุณชายเจสันไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างจะเรียบร้อย เราจะไปเยี่ยมบริษัทในเครือตระกูลหวังที่จีนด้วยกัน ทุกคนที่นั่นจะเข้าใจว่าคุณชายไปเพื่อดูแลความเรียบร้อย จะไม่มีใครสงสัยอะไรอย่างแน่นอน ส่วนธุรกิจที่ฮ่องกงและที่อื่นๆ คุณชายจะดูแลเหมือนเดิมจากที่เมืองจีน แน่นอนว่าเล้งจะเป็นคนช่วยคุณชาย คุณชายไม่ต้องห่วงครับ”

     

     

    “ช่วยแบบไหนกัน แบบหนอนบ่อนไส้ที่ทำมาตลอดอย่างนั้นเหรอ”

     

     

            ไม่มีคำตอบให้เจสัน หวงเสี่ยวหมิงยิ้มร้าย ในขณะที่เล้งก็เอาแต่ก้มหน้าอย่างเดียว ส่วนเจสันนั้นรู้สึกว่าโซฟาที่เขากำลังนั่งอยู่นี้ช่างเหมือนเก้าอี้ของนักโทษประหารเหลือเกิน เขากำลังตามเกมของหวงเสี่ยวหมิง มันจะต้องมีวิธีสักทางที่แก้ไขได้ เพียงแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้อย่างแน่นอน  แม้จะตกอยู่ในสถาณการ์เลวร้ายแต่เจสันกลับคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ในตอนนี้

     

     

    “เจสัน ขอบคุณนะที่พามาที่อิตาลี  เป็นครั้งแรกที่ได้มาเลย แอปเปิ้ลมีความสุขมากค่ะ” แอปเปิ้ลยิ้มดีใจ แน่นอนว่านี่เป็นภาพที่เจสันปราถนามากที่สุด

     

     

     

    “ผมดีใจนะที่คุณมีความสุข”

     

     

     

    “ว่าแต่มีอะไรพิเศษรึเปล่าคะ ร้อยวันพันปีคุณไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน” แอปเปิ้ลหมายถึงสิ่งรอบตัวของเธอและเจสัน มันคือเทียนนับร้อยดวง ราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า เจสันเตรียมมันขึ้นในบ้านหลังเล็กๆกลางหุบเขา

     

     

    “คุณบอกว่าอยากดูดาว แต่วันนี้ไม่มีดาวเลย ผมเลยสร้างมันให้คุณ” เจสันพูดไปก็เขินไป ปกติคนทื่อๆแบบเขาไม่เคยทำอะไรที่โรแมนติกแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่เพราะเป็นเธอคนนี้ ผู้หญิงที่เขารักและอยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยตลอดไป เพราะเป็นเธอผู้นี้คนเดียว ที่เขาอยากจะทำอะไรก็ตามให้เธอมีความสุข เพียงได้เห็นรอยยิ้มของเธอ เขายอมทำอะไรก็ได้แม้มันจะเป็นสิ่งที่เขารู้สึกอายก็ตาม

     

     

    “อย่าบอกนะว่าจะขอแอปเปิ้ลแต่งงานน่ะ” เธอล้อเขาและเดินตรงเข้ามาหา เจสันตกใจที่เธอรู้ทัน มือที่กำแหวนวงเล็กๆรีบไพล่หลังทันที

    “ปล่าวนะ”

    “ฮั่นแน่ะ นั่นแหวนใช่ไหม เอามาให้ดูเลยนะ”แอปเปิ้ลตรงเข้ามาหมายจะแย่งของในมือเจสัน เขาเบี่ยงตัวหลบและวิ่งหนี

    “ไม่มีอะไรสักหน่อย”

    “นี่หยุดนะ!” แอปเปิ้ลไล่ตามเขามาที่ห้องนอน เจสันซุกแหวนไว้ใต้หมอน ในขณที่แอปเปิ้ลกำลังจะควานหาแหวนนั้น เจสันก็คว้าตัวของเธอให้ลงไปนอนบนเตียงด้วยกันทันที

    “คนบ้า บ้าๆๆๆ ปล่อยเค้านะ” แอปเปิ้ลโวยวาย

    “ไม่ปล่อย เห็นไหมในมือผมไม่มีอะไรเลย”เจสันแบมือให้ดู

    “โกหก อย่ามาหลอกแอปเปิ้ลนะ เด็กดื้อ” แอปเปิ้ลงอน เธอพยายามหาเรื่องให้เหนือกว่าเขา

    “เด็กอะไรอ่ะ”

     

    “ฉันอายุมากกว่าเธอนะ ฉันเป็นพี่สาวเธอนะ เป็นเด็กกว่าก็ต้องเคารพผู้ใหญ่สิ” นึกว่าจะได้ผลงั้นเหรอ เจสันส่ายหน้า และฉกลงมาหอมแก้มแอปเปิ้ลฟอดใหญ่

    “หอมจังเลยคร้าบ พี่สาว อิอิ”

    “นี่หยุดนะ”

    “อีกไม่กี่เดือนเราก็จะอายุเท่ากันแล้ว ตอนนี้เธอ 25 ส่วนผม 24 ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหนเลยเนอะ”

    “ต่างสิ ทำไมจะไม่ต่างเลขคนละตัวกัน”


     

    “ก็ได้” เจสันล้วงแหวนใต้หมอนออกมา มันเป็นแหวนเพชรวงเล็กๆสวยงาม ขนาดพอดีกับนิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาว

    “ว้าว สวยจัง ไหนเอามาลองสิ พอดีไหม”แอปเปิ้ลยื่นมือให้เจสัน นั่นทำให้ชายหนุ่มเกิดอาการงอน เขาเก็บแหวนใส่กระเป๋ากางเกงทันที

     

     

    “ไม่เอาละ ไม่เห็นจะเหมือนในหนังเลย ผมอุตส่าห์ซ้อมมาอายแทบตาย แต่คุณไม่เห็นจะเซอร์ไพรส์เลย”

    “โอ๋ๆๆ แอปเปิ้ลแค่แกล้งหน่อยเดียวเอง โกรธเหรอคะ” หญิงสาวกระโดดมาขวางต่อหน้าเขาและพยายามส่งสายตาแบ๊วๆให้คนรัก ท่าทางเจสันจะงอนจริงๆ

    “ไม่รู้ล่ะ ผมยังไม่ให้แหวนคุณวันนี้ จะรอจนกว่าวันที่เราจะอายุ 25 ปี เท่ากันค่อยให้”

    “แสดงว่างอนจริงๆนะเนี่ย ต๊ายๆๆ หูแดงด้วยเนี่ย” แอปเปิ้ลล้อเขา เจสันเอาคืนโดยจับเธออุ้มขึ้นพาดบ่า

    “เวลาผมงอนน่ะ น่ากลัวนะครับ ที่รัก”ว่าแล้วเขาก็หามเธอไปรอบๆห้องท่ามกลางเสียงกรี๊ดปะปนกับเสียงหัวเราะของหญิงสาวอันเป็นที่รัก

     

     

        ภาพในความทรงจำค่อยๆจางหายไป เจสันกำแหวนที่ร้อยอยู่บนสร้อยที่คล้องอยู่บนคอแน่น เขาหวังว่าคงจะได้มองมันให้กับคนรักของเขาในที่สุดสักวันหนึ่ง แต่ตอนนี้สิ่งที่ยากเย็นเหลือเกินก็คือการตั้งสติเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันจะต้องมีหนทางแก้ไขสิน่า เจสันบอกกับตัวเอง

     




     

    /////////////////////////////////////////

     

    แจ๊คสัน...............

     

     

    "นี่ นายชอบคนพี่หรือว่าคนน้องน่ะ" จู่ๆแบมแบมก็ถามผมขึ้นมาในระหว่างทางที่เรากำลังจะกลับบ้าน ท่าทางเจ้าตัวทำเหมือนไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่เหมือนถามไปส่งๆ แต่ผมสัมผัสได้ถึงรังสีเผือกๆของมัน
     

     

     

    "อะไรของนายกัน" พอผมไม่ตอบตรงคำถาม แบมแบมก็เริ่มออกอาการกระฟัดกระเฟียดทันที เขาหันมาตีแขนผมทีนึง ผมตกใจเกือบบังคับพวงมาลัยรถไม่ดีซะแล้ว นี่มันบนถนนนะเว้ย

     

     

    "พวกเจ้าชู้ นิสัยไม่ดีแบบนายทำไมถึงได้มีโอกาสรู้จักคนน่ารักๆแบบนั้นด้วย โลกไม่ยุติธรรม"

    "นายอิจฉา?"

    "ก็เออดิวะ"ท่าทางมันฉุนจริงๆ ผมยื่นเอียงตัวไปหาแบมแบมเล็กน้อยอย่างไม่ถนัดเพราะขับรถอยู่ ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยกับสิ่งที่ตัวเองสงสัย


     

    "นายหึงฉันเหรอ" ป๊าบ! แบมแบมแจกของดีให้ผมอีกรอบ เขาหันมาถลึงตาใส่ผม พยายามตีหน้าหาเรื่องเต็มที่

    “บ้านนายสิ อิจฉาก็ส่วนอิจฉาเกี่ยวอะไรกับหึงด้วย”

    "ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ คนหล่อๆแบบฉัน ก็ย่อมจะมีสาวๆสวยๆมาให้เจออยู่ตลอดเวลา ฮ่าฮ่าฮ่า”

    “ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเล้ย เฮ่อ!” แบมแบมบอกและส่ายหน้าอย่างระอา ผมไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร

     

     

    ...000.....

    Wake up! Wake up!
    Grab a brush and put a little makeup
    !

     

     

            นี่มันเสียงริงโทนอะไรกันเนี่ย อินโทรก็เพราะดีอยู่หรอก แต่พอเข้าเนื้อเพลง เอิ่ม เพลงนี้ค่อนข้างรุนแรงนะเนี่ย แจ๊คสันเหลือบไปมองหน้าแบมแบมไม่คิดว่าหนุ่มน้อยหน้าหวานแบบนี้จะฟังเพลงร๊อคอะไรแรงๆแบบนี้ด้วย แบมแบมรับสายและกรอกเสียงตอบรับ แจ๊คสันอดไม่ได้ที่จะเงี่ยหูฟังบทสนทนาอย่างตั้งใจ

     

     

    “ยองแจเองเหรอ ไม่มีอะไรหรอกที่โทรหานายแค่จะถามว่าฝึกพิเศษเป็นยังไงบ้าง......เหรอ หมอนั่นโหดขนาดนั้นเลยเหรอ....แล้วนี่นายอยู่ไหน....อ๋อ  โรงอาบน้ำ ว้าวดีจัง วันหลังนายพาฉันไปบ้างนะ......อืม ฉันเหรอ.....จะกลับบ้านแล้วล่ะ.......อื้ม.....เมื่อคืนคงจะดูหนังอยู่น่ะเลยไม่ได้รับสาย ขอโทษทีนะ......ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ....บ๊ายบายนะครับที่รัก  ฮ่าฮ่าฮ่า” แจ๊คสันพยายามจับใจความในสิ่งที่แบมแบมพูดทั้งหมด เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักข่าวที่กำลังถอดข้อความในแถบบันทึกเสียง โดยเฉพาะคำว่าที่รัก นั่นหมายความว่าอะไรกัน แบมแบมเน้นคำคำนี้และหันมามองเขาด้วย นายจะบอกอะไรกัน

     

     

    “เอ่อ  ยองแจนี่เป็นใครกันเหรอ”แจ๊คสันทำทีเป็นถามขึ้นมาอย่างลอยๆ

     

     

    “อะไรของนายกัน”

    “นี่อย่ามากวนฉันนะ” แจ๊คสันรู้สึกโมโห ที่แบมแบมตอบเหมือนเขาตอนที่ถูกถามเรื่องซูจีและจีอึนเมื่อกี้

     

    “จะอยากรู้ไปทำไมครับ พี่แจ๊คสัน” เจ้าเด็กกวนโอ๊ยย้อน แจ๊คสันอยากดึงแก้มๆป่องๆของหมอนี่ชะมัด ถ้าไม่ติดว่ากำลังขับรถอยู่ล่ะก็

    “ก็ฉันหึงนายนี่นา”


     

       แจ๊คสันตอบตรงๆ หันมามองแบมแบมแป๊บนึงก่อนจะหันหน้าไปมองถนนต่อ แบมแบมได้แต่อึ้งเฮ้ย นี่มันมุขตลกชัดๆ รีบขำดิวะ แบมแบมบอกกับตัวเอง แต่เขารู้สึกว่าตัวเองตั้งสติไม่ทัน ทำให้แจ๊คสันแอบยิ้มออกมา

     

     

    “ทำไม  พอดีว่าฉันมันเป็นพวกปากตรงกับใจอ่ะนะ ไม่เหมือนคนบางคน”

    “คะ ใคร ปากไม่ตรงกับใจ นายพูดบ้าอะไรเนี่ย” แบมแบมหันหน้าหนีมองกระจกรถที่อยู่ด้านข้าง จู่ๆใจมันก็เต้นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

     

     

    “บอกฉันมายองแจนี่ใครกัน ทำไมนายต้องเรียกว่าที่รัก ฉันหึงนายมากนะรู้มั๊ย” แจ๊คสันยิ้มร่าที่เห็นแบมแบมมาดหลุด เขาบอกกับตัวเองว่าบทจะแกล้งคนแบบนี้เขาก็ทำได้ดีเหมือนกัน  นี่มันไม่ได้เกี่ยวกับความรู้สึกอะไรจริงๆซะหน่อย ใช่ไหม

     

     

    “นายมีพี่สาวฉันอยู่แล้วนะ  ล้อเล่นมากเกินไปแล้วนะ” แบมแบมพยายามเอาเหตุผลมาปิดบังความรู้สึกประหม่าของตัวเองที่เกิดขึ้น  ท่าทางของแบมแบมเหมือนกำลังอาย นั่นทำให้แจ๊คสันจอดรถแล้วคิดทำอะไรสักอย่างกับท่าทีนั่นขึ้นมา

     

     

    “นี่แบมแบม ฉันไม่ได้ล้อนายเล่นนะ” แจ๊คสันหันมามองแบมแบมเต็มสองตา เจ้าหนูหลบตาเขา แต่ก็ทำทีเป็นเสียงแข็งถามขึ้นมา

    “นี่นายจอดรถทำไมกัน”

    “ฟังนะแบมแบม ฉันน่ะเกิดมาก็เพิ่งจะเคยชอบผู้ชายเป็นครั้งแรกนี่ล่ะ”

    “ละ แล้วมาบอกฉันทำไม นายจะชอบผู้ชายที่ไหนก็ชอบไปสิ” เห็นท่าทีที่เขินสุดๆของแบมแบมแบบนั้นทำให้แจ๊คสันได้ทีรุกไล่ต่อ

    “ถ้าให้ฉันเดา ยองแจนี่เป็นผู้ชายใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นแสดงว่านายก็ชอบผู้ชายเหมือนกัน เอางี้ เรามาคุยเปิดอกกันแบบแมนๆนะ”


     

           แจ๊คสันเอามือปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนออก เผยให้เห็นช่วงอกที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงอันซ่อนอยู่ภายใน ถึงตอนนี้แบมแบมหลับตาปี๋ ท่าทางไม่อยากฟังอะไรอีกต่อไป มือพยายามตะกายประตูรถพยายามจะเปิดออก แต่ว่ามันไม่ได้อย่างใจแบบนั้น นั่นเพราะมันถูกล๊อคไว้

     

     

    “เปิดอกบ้าอะไรเนี่ย คุยเฉยๆก็พอแล้ว นี่นายแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” แบมแบมร้องลั่น หน้าแดงจัด

    “ฉันน่ะนะ เพิ่งมีอารมณ์กับผู้ชายก็เป็นนายคนแรกนี่ล่ะ ไม่รู้ทำไม เราสองคนมาแอบคนกันดีไหมครับ” แจ๊คสันคว้าข้อมือแบมแบมไว้แน่น ร่างของเด็กหนุ่มถูกตรึงกับที่


     

    “อ๊าก   หยุดนะ นายเป็นพี่เขยฉันนะ นายทำแบบนี้ไม่ได้”

     

     

           ในขณะที่แบมแบมกำลังพยายามเอี้ยวตัวให้ห่างร่างที่ค่อยๆคืบใกล้เข้ามาของแจ๊คสัน อีกฝ่ายก็เอาแต่มองขนตายาวๆของร่างเล็กข้างใต้ แบมแบมพยายามยกขาขึ้นมาบังตัวไว้ มันกลายเป็นความชุลมุนเล็กๆภายในรถ  ยิ่งแบมแบมขัดขืน แจ๊คสันก็ยิ่งสนุก

     

     

    "ทำไมหมอนี่น่ารักขนาดนี้นะ ให้ตายสิ แล้วแบบนี้จะกล้าบอกความจริงได้ยังไง จะสู้เหรอ? ได้ เดี๋ยวพ่อจัดเต็มให้  อยากรู้นักจะไปได้สักกี่น้ำ” แจ๊คสันคิดในใจ

     

     

    “งั้นแปลว่าถ้าฉันไม่ได้เป็นพี่เขยของนาย ฉันทำต่อได้ใช่ไหม”

    “หยุดนะ นายมันบ้าไปแล้ว”

    “ฮะฮะฮะ  ฮ่าฮ่าฮ่า” แจ๊คสันหยุดอยู่แค่นั้นและผละตัวออกจากแบมแบม เขาพยายามส่งเสียงหัวเราะอย่างดัง

     

     

    “นะ นายมันตลกจริงๆ แค่นี้ก็กลัวจนหน้าซีดแล้ว  ฮ่าฮ่าฮ่า”

    “อะ ไอ้บ้า” แบมแบมพูดได้แค่นั้น ตอนนี้หัวใจมันเต้นรัวไปหมด

    “กลับกันเหอะ ฉันไม่แกล้งนายแล้วก็ได้ เห็นหน้านายแล้วสงสารชะมัด” แจ๊คสันบอกแบมแบม

     

    ..............นั่นคือสิ่งที่เขาคิดจริงๆอย่างนั้นหรือ..........................

    .............ไม่ใช่ว่ากำลังกลัวใจตัวเองอยู่หรอกหรือ......................

    .............ให้ตายสิ เกือบจะเผลอจูบเด็กนี่จริงๆไปแล้ว...........................

     

        รถค่อยๆออกเคลื่อนตัวอีกครั้ง หัวใจสองดวงภายในร่างสองร่าง ที่อยู่ในที่เดียวกัน ความรักได้ก่อเกิดอย่างท่วมท้น แบมแบม แจ๊คสัน ใครจะเป็นคนที่รู้ใจตัวเองอย่างแท้จริงได้ก่อนกัน หากว่าพวกเขาทั้งคู่ไม่รู้ตัวล่ะ จะมีวันที่ความรักได้ผลิบานหรือเปล่า


    To be continued.

    ///////////////////////////


    ฟิคเรื่องนี้ขนากคนเขียนยังรู้สึกว่าอืดเลยค่ะ ไปอ่านของชาวบ้าน เอะอะตบจูบไรงี้ ไรท์ก็อยากเขียนนะ ฮ่าฮ่า แต่ว่าไรท์จะค่อยๆปูเรื่องไปแล้วเผด็จศึกรวบเดียวดีกว่าค่ะ ขอสปอยนิดนึงค่ะ รีดเดอร์เตรียมตัวเกลียดพี่มาร์คได้เลยค่ะ พี่มาร์คมาไม่มีดีแน่นอนค่ะงานนี้  ฮ่าฮ่าฮ่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×