ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] พี่เขยฮะ ตอนนี้ผมรักพี่แล้วฮะ (Bambam,Jackson,Mark)

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 18 Polaroid

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 57



    (เราจะมาลุ้นกับคู่นี้ต่อกันค่้ะ)



    ////////////////////////////////////////////////////

     

    “นี่นายยังไม่เสร็จอีกงั้นเหรอ ยองแจ” เสียงแจบอมฮยองถามเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อ



    .......กรุณาถอดเสื้อผ้าและใช้เพียงแค่ผ้าเช็ดตัวในการอาบน้ำรวม................



                กฏการใช้ห้องอาบน้ำรวมที่ติดบนฝาผนังระบุไว้อย่างชัดเจน ตอนนี้ยองแจถอดชุดออกและพันผ้าเช็ดตัวในท่อนล่างของลำตัวเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ออกไป   ใช่! ก็แค่ออกไป  แค่นี้ทำไมไม่กล้า เพราะอายหุ่นของตัวเองอย่างนั้นเหรอ จริงอยู่ที่ยองแจไม่ได้มีกล้ามเนื้อบึกบึนมาดแมน  แถมขนหน้าแข้งก็ไม่ค่อยจะขึ้นเยอะสักเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็คือร่างกายของผู้ชายเหมือนกันนะ อย่าอายดิ ยองแจบอกกับตัวเอง เพราะว่าปกติตอนอยู่ที่เกาหลียองแจจะถูกเลี้ยงดูค่อนข้างไปทางคุณชายเล็กน้อย เพราะว่าครอบครัวของเขาค่อนข้างมีฐานะ แต่ด้วยการมองการณ์ไกลถึงอนาคต คุณพ่อก็เลยอยากให้ยองแจเป็นเด็กที่พึ่งตัวเองและเข้ากับคนอื่นได้ จึงส่งมาอยู่ในต่างประเทศกับญาติซึ่งก็คือแจบอม .............พ่อหวังว่าแกคงจะโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น.............ยองแจได้แต่นึกถึงคำของคุณพ่อก่อนจากเกาหลีมาที่ฮ่องกง

     

     

    “คะ ครับ เสร็จแล้วครับ”



    “ชักช้าจริงๆ” แจบอมอดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาตรวจดูความเรียบร้อย ยองแจรีบหันหลังให้เขาทันที



    “นี่นาย...” แจบอมเห็นอะไรบางอย่างที่หลังของยองแจ เจ้าตัวคงไม่เห็นเป็นแน่เพราะเป็นบริเวณที่ถึงจะเอี้ยวตัวมองก็ไม่สามารถมองเห็นได้



    “อะไรครับฮยอง” ยองแจถามอย่างสงสัย เขาหันหน้ามามองแจบอม แต่แจบอมกลับจับตัวเขาหมุนตัวหันหลังอีกครั้ง



    “ฉันขอดูหน่อย ที่หลังนายน่ะ” มันเป็นรอยช้ำสีม่วงอย่างชัดเจน ท่าทางจะเป็นรอยที่ถูกกระแทก  ไม่เพียงแต่จุดนั้น บริเวณอื่นก็ยังมีรอยปื้นเล็กๆอีก นี่เป็นผลจากการฝึกหรือเปล่าเนี่ย แจบอมรู้สึกตกใจ เขาแตะมัน



    “ตรงนี้เจ็บไหม” มือแตะไปที่รอยช้ำ ยองแจสะดุ้งเฮือก

    “มะ ไม่เจ็บฮะ”

    “ตรงนี้ล่ะ” แจบอมเปลี่ยนที่อีก คราวนี้ยองแจเริ่มจะอายมากกว่าเจ็บแล้ว

    “ไม่ฮะ”

    “แล้วตรงนี้ล่ะ” คราวนี้เป็นที่เอว ยองแจทนไม่ไหวแล้ว ความจริงมันไม่ได้เจ็บอะไรมากมายเลย ที่จริงมันเป็นเพราะผิวขาวๆของเขาทำให้โดนกระแทกนิดหน่อยก็จะเห็นเป็นรอยง่ายกว่าคนอื่น แม้จะเจ็บนิดๆก็ตาม แต่อย่างไรมันคงไม่เท่ากับความรู้สึกที่ว่ามันรู้สึก

     


    ..................จั๊กกะจี๋.......................

     


    “ฮยองพอเถอะฮะ” ยองแจพยายามห้ามเขา พยายามจับมือของแจบอมไว้ไม่ให้เคลื่อนไปไหนอีก แต่แจบอมไม่ได้มีมือมือเดียว เขากำลังรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งยองแจเล่น




    “ตรงนี้ก็ด้วย มีรอยช้ำ”แจบอมแตะลงไปบนหน้าท้องของยองแจ แต่เจ้าตัวตกใจรีบปัดออก ผลคือปมของผ้าเช็ดตัวที่พันไว้หลุดออก และมันก็กำลังจะหลุดออกจากตัวของยองแจ




    “ฮยองหยุดนะ!” ยองแจรีบกำผ้าไว้ และผลักตัวของแจบอมออก แจบอมไม่ทันตั้งตัวแต่กลับดึงตัวยองแจไว้ ผลคือทั้งคู่ล้มตัวลงโดยที่ยองแจทับตัวแจบอมไว้ 

     


    โครม! 

     


    เสียงดังภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทำให้คุณป้าผู้ดูแลรีบวิ่งเข้ามา หลายครั้งที่มีการทะเลาะวิวาทกันทำให้เธอหยิบไม้ถูพื้นติดตัวมาเพื่อให้เป็นอาวุธป้องกันตัวโดยไม่รู้ตัว แต่ภาพที่กำลังเห็นอยู่กลับเป็นสิ่งที่เธอตกใจยิ่งกว่าคนตีกันเสียอีก

     



    “โอโมๆๆๆๆ  ต๊ายๆๆๆ พวกเธอทำอะไรกันห๊ะ?”  ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายในสภาพกึ่งเปลือยสองคนกำลังนอนทับกันอยู่เป็นเรื่องปกติ จริงอยู่ที่รสนิยมสมัยนี้มีหลากหลาย  แต่ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมนะยะ เด็กพวกนี้

     


    “โอ๊ย” แจบอมกุมหัวตัวเองที่กระแทกกับพื้น เขารู้สึกหนักเพราะมียองแจทับอยู่ ตัวของยองแจนุ่มมาก แจบอมไม่รู้ตัวคว้าอะไรไปสะเปะสะปะ เจออะไรหยุ่นๆพอดีมือ

     



    ยองแจ..................

     

          แจบอมฮยองฮะ  หยู้ดดดดดดด! นั่นมันก้นผมนะ!!!  ฮยองจับอะไรอยู่รู้ตัวไหม  ด้วยสภาพของพวกเราทั้งคู่ ทำให้คุณป้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าเข้าใจผิด พวกเราไม่ได้ทำอะไรกันแบบที่คุณป้าคิดนะฮะ  แจบอมฮยองก็รีบลุกขึ้นได้แล้วฮะ ผมผลักตัวเขาออก จับผ้าเช็ดตัวให้มั่น และรีบไปหยิบชุดของตัวเองเข้าไปในห้องน้ำทันที เรื่องอื่นผมไม่สนแล้ว!

     

     

            ยองแจทิ้งให้แจบอมเผชิญชะตากรรมกับคุณป้าผู้ดูแลคนเดียว เขาต้องพยายามอธิบายให้คุณป้าเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่ยังไงก็ตามอีกฝ่ายทำหน้าไม่เชื่อเขาเลย ท่าทางว่าภาพที่จำติดตามันคงจะฝังเข้าไปในความเข้าใจของคุณป้าไปเสียแล้ว




    “อย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อสิ ฉันเข้าใจว่าพวกเธออยู่ในวัยคึกคะนอง แต่อย่าใช้ที่สาธารณะแบบนี้สิ” คุณป้าสั่งสอนก่อนออกไป แจบอมคอตก

     

    “ยองแจฉันขอโทษ” แจบอมบอกยองแจในขณะที่เดินกลับด้วยกัน ยองแจหน้าบึ้ง เขาหลบตาแจบอม

    “ผมอยากกลับบ้านฮะ”

    “ฉันขอโทษนะที่เผลอแกล้งนายมากไปหน่อย” แจบอมรู้สึกเสียใจ

    “ผมเพิ่งรู้นะฮะว่าฮยองเป็นพวกชอบแกล้ง”  ก็ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้นา

    “ฉันก็เพิ่งรู้ตัวเองว่าเป็นแบบนี้เหมือนกันแหละ ปกติฉันไม่เคยแกล้งใคร”

    “อะไรนะฮะ หมายความว่าผมมันน่าแกล้งมากอย่างนั้นเหรอ” ยองแจงอน นั่นทำให้แจบอมรู้สึกว่าในตอนนี้คนข้างๆเขายิ่งน่าแกล้งไปใหญ่

    “นี่ยองแจ ฉันว่าเราน่าจะเริ่มสนิทกันแล้วล่ะ”

    “ทำไมฮะ”

    “นี่เป็นครั้งแรกที่นายโมโหฉัน ไม่ยักรู้นะว่านายก็โมโหเป็นด้วย”

    “เป็นใครก็ต้องโมโห ป่านนี้คุณป้าคงจะเข้าใจผิดไปแล้ว ฮยองไม่น่าเลย” ยองแจกังวล



    “ทำไม  นายก็ชอบผู้ชายอยู่แล้วนี่ไม่ใช่เหรอ” แจบอมแหย่ยองแจเรื่องที่เขาเป็นแฟนกับแบมแบม แจบอมรู้ดีว่านั่นเป็นแค่เรื่องโกหกของเด็กๆ

    “คะ ใครว่า”

    “งั้นเรื่องเด็กคนนั้นก็โกหกใช่ไหมล่ะ”แจบอมซัก ทีนี้ยองแจเลยตอบไม่ถูก



    “ผมกับแบมแบมเป็นแฟนกันจริงๆ เราชอบกัน” ยองแจไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโกหกแจบอมอย่างนั้น ตอนนี้รู้เพียงว่าไม่ชอบสายตารู้ทันของแจบอมเลย รู้ทันไปซะหมดทุกเรื่อง เหมือนเข้ามานั่งในใจของยองแจได้

     


    “งั้นก็ได้ ที่โรงเรียนนายจะมีแฟนยังไงก็ได้ มันเป็นเรื่องของนาย” แจบอมเดินนำหน้ายองแจไป จู่ๆก็หยุดเดินและหันหลังกลับมามองยองแจ

     

    “แต่ที่บ้าน นายอย่าลืมว่านายมีฮยองคนนี้อยู่คนนึงนะ”

     

              คล้ายจะเป็นคำกล่าวของความรักอันบริสุทธิ์ระหว่ามิตรภาพของพี่น้อง แต่ว่ากลับมีความรู้สึกบางอย่างระหว่างคนทั้งคู่ที่รู้สึกถึงสิ่งอื่นปะปนรวมอยู่ด้วย  ที่บ้าน.......ฟังแล้วเหมือนกับว่าคือโลกอีกแห่งหนึ่ง ที่ลี้ลับ ไม่มีใครที่จะได้เข้ามานอกจากพวกเขา  ยองแจไม่รู้ตัวหรอกว่าเขากำลังเริ่มรู้สึกแบบอื่นแทนที่อารมณ์โมโหแล้ว มันอบอุ่นเหลือเกิน

     
     

    “ฮยอง เรากลับไปกินกิมจาทังกันเถอะครับ ผมจะทำให้กินเอง”

    “โอเค  กินข้าวเสร็จแล้ว ฉันจะทายาให้นะ เมื่อกี้เห็นมีรอยช้ำหลายที่เลย”

    “ไม่ต้องหรอกครับ” ยองแจรีบปฏิเสธ แต่แจบอมไม่ยอมแพ้ โถมตัวลงมากอดคอยองแจไว้

    “ได้ไง ฉันเป็นต้นเหตุของรอยพวกนั้นนี่นา ฉันอยากช่วยให้มันหายเร็วๆ ขัดใจฮยองเหรอ”

    “โอ๊ยๆ ฮยองอย่ารัดคอผมแน่นสิ”

    “เด็กดื้อต้องโดนลงโทษ ฐานขัดคำสั่งรุ่นพี่ ฮะฮะฮะ”

     



    /////////////////////////////////////



          แจ๊คสันคงจะไม่รู้ว่าแบมแบมกำลังตามหาเขาอยู่ ถ้าเขารู้คงจะต้องแอบดีใจแน่ๆ หลังจากที่สอบถามอาการของมาร์คกับพยาบาลแล้วแจ๊คสันก็แวบเข้าไปดูอาการของคนอีกคนที่เขากำลังดูแลอยู่ เพราะว่ามันบังเอิญเหลือเกินที่โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นที่เดียวกับที่ที่เขาต้องมาขึ้นเวรเพื่อเก็บเคสผู้ป่วยในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา

           


           
    เธออยู่ตรงนั้น กำลังนั่งเอนหลังพิงหมอนอยู่บนเตียง ดวงตาคู่สวยเหม่อลอยทอดออกไปทางหน้าต่าง ชุดผู้ป่วยสีขาวสะอาดรับกับผิวขาวของเธอ ผมยาวกรุยกรายยุ่งเล็กน้อย เธอช่างเป็นคนที่สวยเหลือเกิน และสดใสยามที่ได้พบปะกับคนอื่นๆ แจ๊คสันไม่ค่อยจะได้เห็นสีหน้าอันเศร้าหมองของเธอบ่อยนัก เขามักจะเห็นแต่รอยยิ้มอันสดใสของเธอที่มอบให้เขา มันเหมือนมีพลังงานแผ่ออกมาราวกับว่าคนที่ได้รับการช่วยเหลือเป็นตัวเขาเองแทนเธอคนนี้เสียอีก

     

     

    “ผมเข้าไปนะ” แจ๊คสันเอ่ยเสียงตัดความเงียบ เธอหันหน้ามามองก่อนที่จะยิ้มกว้างให้เขา

    “อ๊ะ คุณหมอ  วันนี้ก็มาเหรอคะ ไม่เห็นคุณพยาบาลบอกเลยค่ะ”



    “บังเอิญผมมาทำธุระที่นี่น่ะ อาการเธอเป็นยังไงบ้าง” แจ๊คสันเดินเข้าไปใกล้ข้างๆเตียงผู้ป่วย วันนี้เขาไม่ได้สวมชุดกาวน์ตามปกติ แต่แต่งตัวตามสไตล์ของเขา ออกแนวแบดบอยด์หน่อยๆ นั่นคงจะดูแปลกตาสำหรับเธอไม่น้อย



    “ก็เหมือนเดิมค่ะ ฉันไม่เป็นไรหรอก” เธอยิ้มให้ไม่อยากให้แจ๊คสันกังวลกับเธอ เขารู้สึกชื่นชมเธอเหลือเกินที่มีจิตใจเข้มแข็งต่อสู้กับโรคร้าย แม้ว่าอาการของเธอจะไม่ได้แย่แต่มันก็เป็นโรคที่ไม่มีวันรักษาให้หายได้ง่ายๆ



    “ความจริงผมก็ยังเป็นแค่นักศึกษาอยู่น่ะ อาจจะช่วยอะไรคุณไม่ได้มาก ทำได้แค่มาเยี่ยมเท่านั้น ผมหวังว่าสักวันจะเป็นหมอที่เก่งๆจะได้รักษาคุณให้หายได้ คุณรอจนถึงวันนั้นจะได้ไหม” แจ๊คสันบอกด้วยความจริงใจ เขาอยากให้กำลังใจเธอ อยากให้เธอสู้ต่อไป




    "คุณเป็นหมอสำหรับฉันอยู่แล้วค่ะ แต่อีกไม่นานคุณก็จะเป็นหมออย่างเต็มตัวอยู่แล้วนี่เนอะ ฉันดีใจนะคะที่คนไข้แบบฉันจะได้มีคุณหมอที่ดี และเอาใจใส่แบบนี้" เธอกลับมาให้กำลังใจแจ๊คสันแทน เขารู้สึกสงสารเธอจับใจ มือเอื้อมออกไปวางบนกระหม่อมของเธอโดยไม่รู้ตัว แม้จะตกใจเล็กน้อยเพราะคาดไม่ถึงในการกระทำของเขา แต่เธอก็นิ่งรับความอาทรอย่างเต็มใจ




    "รู้ไหมว่าผมอยากทำแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ" แจ๊คสันมองเธออย่างอบอุ่น บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่มีสิ่งพิเศษบางอย่างรายล้อม มันคืออะไรกันนะ หญิงสาวแม้ว่าจะไม่กล้าที่จะคิดไปไกล แต่ก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่า เขาช่างใจดีและเธอขอเพียงสักนิดที่จะคิดถึงมันอย่างเพ้อฝันสักนาทีก็ยังดี




    "ซูจี พี่มาแล้ว" เสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ คนเอ่ยมันออกมาได้เปิดประตูและเห็นชายหญิงในห้องก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่กล้าทักทายแต่แรก แม้ว่าจะมีเสียงเปิดประตูแต่คนทั้งคู่คงไม่ทันได้ยินเสียงของมัน

     

          


         
    แจ๊คสันยกมือของเขาขึ้นทำทีเกาหัวอย่างเขินๆ บางทีร่างกายมันก็ทำตามใจตัวเองมากไปหน่อย ก็แค่... อยากลองสัมผัสเส้นผมนุ่มๆนั่นเพียงสักครั้ง ทำไมมือไวอย่างนั้นไปได้นะเรา เขานึกกล่าวโทษตัวเองที่ไม่รักดีในใจ

     

     

    "พี่จีอึน"

    “นั่นใครอ่ะ” จีอึนบุ้ยบ้ายมาทางแจ๊คสัน

    “คุณหมอแจ๊คสันค่ะ คนที่เคยเล่าให้พี่ฟังไง” ซูจีตอบ แจ๊คสันชักอยากรูว่าเธอพูดถึงเขาว่ายังไงบ้าง เพราะสายตาของจีอึนดูไม่เป็นมิตรกับเขาอย่างแรง



     

    "อยู่กับคุณหมอนี่เอง" แม้ปากจะคุยกับน้องแต่สายตาของผู้เป็นพี่สาวก็มิวายจะแอบชำเลืองไปทางแจ๊คสัน คนนี้เองสินะ เคยได้ยินแต่ชื่อจากพยาบาล ไม่เคยเจอตัวสักครั้ง อย่ามาหม้อน้องสาวฉันนะยะ จีอึนมองเขาอย่างพิจารณาเพราะก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าน้องสาวของเธอมีหมอคนหนึ่งทำทีจะมาจีบ ดูท่าแจ๊คสันจะสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างจากสายตาของเธอ เขารีบยิ้มให้โดยหวังว่าเธอจะไม่ได้มองเขาในแง่ร้ายนัก

     




     "สวัสดีครับ คุณเป็นพี่สาวของซูจีอย่างนั้นเหรอครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" แจ๊คสันรีบแนะนำตัวกับอึนจอง เขาไม่คิดว่าซูจีจะมีพี่สาวที่น่ารักแบบนี้ เธอดูไม่เหมือนน้องสาวเลย อาจเป็นเพราะตัวเล็ก ตาแป๋วเหมือนเด็กๆผิดกับซูจีน้องสาวที่ดูเป็นสาวกว่า แต่ถึงอย่างนั้นแจ๊คสันก็เชื่อว่าเธอต้องเป็นพี่สาวที่เอาใจใส่และห่วงน้องสาวมาก ท่าทางระแวดระวังที่เธอมีต่อเขามันบอกแบบนั้น

     



    "ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ คุณหมอมาตรวจซูจีเหรอคะ"

     



    "เปล่าหรอกครับ ผมแค่มาเยี่ยมซูจีเฉยๆ ว่าแต่คุณพี่สาวเรียกผมว่าแจ๊คสันก็ได้นะครับ อย่าเรียกคุณหมอเลยพวกเราก็ไม่ได้อายุห่างกันมากเท่าไหร่"

     



    ......เหรอยะ.....ทำตีซี้นะนายเนี่ย......

     

     

              จีอึนแอบคิดในใจด้วยความหวงน้องสาว เพราะปัญหาเรื่องสุขภาพตั้งแต่เด็ก ปกติแล้วซูจีจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกไปเล่นกับใครอื่นนอกจากจีอึนสักเท่าไหร่ ดังนั้นเธอจึงเป็นคนที่ซูจีสนิทด้วยมากที่สุด และยิ่งประกอบกับสายสัมพันธ์ในครอบครัว ทำให้จีอึนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นโลกเพียงแห่งเดียวของซูจี และซูจีก็เป็นน้องสาวที่อึนจองหวงสุดๆด้วย การเข้ามาสนิทสนมของแจ๊คสันจึงทำให้พี่สาวคนน่ารักหงุดหงิดและพร้อมจะกลายร่างเป็นปีศาจตัวน้อยได้ทุกเมื่อ

     



    "ก็ได้ค่ะ" จีอึนรับคำอย่างเสียไม่ได้ เพราะเธอเห็นแววตาของซูจีที่มองมาอย่างมีความหวัง

     



    .....แต่อย่าคิดว่าจะจีบซูจีได้ง่ายๆนะยะ พี่สาวคนนี้ยังอยู่ทั้งคนย่ะ.....

     




    "เอ่อ ผมว่าผมขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ” แจ๊คสันออกตัวเพราะเห็นว่าซูจีมีพี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว อีกอย่างเขาก็รู้สึกว่ามันเป็นความต้องการของจีอึนเช่นกันถ้าหากไม่ได้คิดไปเอง

     



    “ค่ะ คุณหมอ” ซูจีรับคำ แจ๊คสันหน้านิ่วพลางส่ายหน้าเล็กน้อย

     



    “ไม่ใช่คุณหมอ   แจ๊คสันครับ  แจ๊คสัน” ซูจียิ้มอย่างอายๆก่อนที่จะเรียกชื่อของแจ๊คสันตามนั้น ส่วนอึนจองนั้นก็ได้เดินออกไปเปิดประตูรอ แจ๊คสันคิดในใจ นี่เธอถึงขั้นอำนวยความสะดวกกับการจากไปของเขาเลยหรือเนี่ย ช่างเป็นพี่สาวที่เอาใจใส่แขกของน้องสาวจริงๆ

     




    “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย ไปคุยกันข้างนอก” จีอึนกระซิบกับแจ๊คสันก่อนที่เขาจะพ้นจากประตูไป เธอเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะค่อยๆปิดประตู และทำท่าเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้

     



    “ซูจี พี่ลืมซื้อของบางอย่างน่ะ เดี๋ยวพี่ออกไปซื้อก่อนนะ” จีอึนอ้างกับน้องสาวของเธอ ซูจีพยักหน้ารับคำก่อนที่จะเอนตัวลงนอน

     




    “พี่จีอึน ฉันอยากได้ฟิล์มเพิ่มด้วย มันใกล้หมดแล้วน่ะ” ซูจีหมายถึงฟิล์มของกล้องโพราลอยด์ที่เธอใช้บันทึกภาพของเธอ มันเป็นกิจกรรมเพียงไม่กี่อย่างที่เธอทำได้

     



    “ได้จ๊ะ” จีอึนบอกก่อนจะออกไป  หลังจากที่เห็นว่าพี่สาวออกไปแล้ว ซูจีหันมาที่โต๊ะข้างเตียง เธอหยิบกล่องออกมาใบหนึ่ง และเปิดฝาออก ข้างในคือซองจดหมายหลายฉบับและกล้องโพราลอยด์ตัวหนึ่ง เธอถือมันไว้แนบอกและเดินออกจากห้องพัก ในระยะไกลไม่มากนัก เธอเห็นจีอึนพี่สาวของเธอยืนอยู่กับแจ๊คสัน คนทั้งคู่ไม่เห็นซูจี และเธอก็ไม่ปราถนาเช่นนั้นด้วย ซูจียกกล้องขึ้นมาและเล็งระยะโฟกัส ในกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีภาพของชายหญิงคู่หนึ่ง ซูจียิ้มกับตัวเอง ก่อนจะกดปุ่มถ่ายภาพ เสียงวี้ดเบาๆของกล้องกำลังทำงานตามระบบ

     




    “ปาปารัสซี่เหรอครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง ซูจีหันไปมอง และพบเด็กผู้ชายคนหนึ่ง แม้ว่าจะหน้าตาน่ารักผิดเด็กผู้ชายทั่วไป แต่เขาก็สูงกว่าเธอ ซูจีรู้สึกตกใจและกำลังกลัวว่าเขาจะคิดว่าเธอกำลังทำอะไรไม่ดีอยู่

     



    “ขอโทษค่ะ  ฉันแค่จะถ่ายรูปของพี่สาวตัวเองกับ...เพื่อน เก็บไว้เป็นที่ระลึก  ฉันไม่ได้....” ซูจีพยายามอธิบาย แต่ว่าเธอก็ถูกขัดขึ้นก่อนที่จะพูดจบ

     



    “ผมไม่ได้จะว่าอะไรหรอกครับ แต่ผมอยากรู้ว่า สองคนนั้นเขาเป็นแฟนกันรึเปล่าครับ”สายตาของเขาช่างสอดรู้สอดเห็นมาก ซูจีแอบยิ้ม




    “ฉันก็อยากให้เป็นแบบนั้นนะคะ” ซูจีบอกเบาๆและยิ้มกับตัวเอง

     


    “ผมชักจะเริ่มถูกชะตากับเธอแล้วล่ะ เอางี้ ผมยินดีที่จะร่วมมือกับเธอให้สองคนนั้นเป็นแฟนกัน” สายตามุ่งมั่นของเด็กหนุ่มส่องประกายความตั้งใจ ซูจีเริ่มคล้อยตาม เพราะด้วยสภาพผู้ป่วยของเธอในตอนนี้นั้นคงจะไม่สามารถทำอะไรได้มากมายนัก จากความห่วงพี่สาวในตอนแรกว่ากลัวเธอจะเหงาหากซูจีจากไป กลายเป็นความสุขในการแอบลุ้นให้พี่สาวของเธอได้พบเจอคนดีๆและมีความสุข ซูจีเริ่มมีหวังในการทำอะไรในชีวิตของเธอ แม้มันจะเป็นสิ่งที่ไม่มากแต่เธอก็อยากจะลองทำดู


     

    “ฉันชื่อซูจี” เธอแนะนำตัวก่อน



    “ผมชื่อแบมแบมฮะ” เขาบอก ก่อนจะฉุดมือของเธอเข้าไปใกล้ในที่ที่จีอึนและแจ๊คสันคุยกัน ซูจีรู้สึกตื่นเต้น เธอกำลังสนุกอย่างนั้นหรือ กับเขาคนนี้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนด้วยซ้ำ

     





    แจ๊คสัน....................

              พี่สาวของซูจีท่าทางกำลังจะกินหัวผมอยู่แล้วครับ เธอพยายามตีสีหน้าให้ดูโหดๆ แต่ว่ามันไม่เข้ากับเธอเลย เหมือนเด็กประถมถูกเพื่อนแย่งของเล่นมากกว่า ผมรอว่าเธอจะพูดอะไรกันแน่มาได้พักหนึ่งแล้วนะครับ เธอพยายามเริ่มบทสนทนากับผมโดยการซักไซ้ประวัติส่วนตัวของผมว่าเรียนหมอเหรอ ทำไมถึงมาฝึกงานที่นี่   รู้จักซูจีนานแล้วรึยัง ทำไมถึงสนิทกัน และโดยเฉพาะคำถามสุดท้ายของเธอที่ทำให้ผมนิ่งอึ้งและกำลังคิดหนักว่าจะตอบเธออกไปยังไงดี

     



    “ทำไมนายต้องลูบหัวน้องสาวของฉันด้วยห๊ะ?”

     


    เอ่อ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกันหรอกนะครับ ก็เลยติดอยู่ที่คำถามนี้ อึนจองเริ่มดูจะโมโหแล้ว และคงจะมากขึ้นถ้าหากผมยังไม่ให้คำตอบเธอเสียที

     


    “กะ ก็แค่  เอ็นดู” ผมนึกคำตอบออกไปได้ในที่สุด

     

    “อย่ามา...ฉันรู้ทันนายดี พวกหม้อ” เอ้า  เธอใส่ร้ายผมเข้าแล้ว ท่าทางเรื่องนี้คงจะยาวแน่ๆ

    “ผมเปล่านะ”


    “ถ้าฉันไม่ขัดซะก่อน นายคงจะทำมากกว่านั้นแน่ คิดว่าอยู่ในห้องสองต่อสองแล้วจะไม่มีคนเห็นงั้นเหรอ ฉันจะฟ้องว่านายพยายามทำมิดีมิร้ายคนไข้ในโรงพยาบาล” วะ โวะ เรื่องไปใหญ่แล้วครับ ผมว่าจีอึนกำลังอินกับบทบาทสวมวิญญาณทนายความสาวและผมก็กลายเป็นจำเลยไปเสียแล้ว

     

    “นี่ คุณพี่สาว ผมไม่เข้าใจหรอกนะครับว่าทำไมคุณถึงโมโหมากขนาดนี้ แต่ผมยืนยันได้ว่าผมไม่ได้คิดทำอะไรแย่ๆแบบนั้นแน่”ผมพยาพยามหยุดยั้งอารมณ์เหวี่ยงของจีอึน แต่เธอคงจะกู่ไม่กลับแล้ว และกำลังจะเดินหนีผม



    “เดี๋ยวก่อนนนน!” ผมคว้าข้อมือของเธอไว้ จีอึนหันขัวบมามองมัน และผมเดาว่าเธอกำลังจะแผดเสียงผมอย่างแน่นอน

     


    “พวกพี่ทำอะไรกันน่ะ!!” เสียงซูจีดังขึ้นห้ามทัพ  ทั้งผมและจีอึนหันไปมองเธอในทันที โอเคว่าเป็นซูจีน่ะผมเข้าใจ แต่ว่าไอ้เด็กหัวแดงข้างๆเธอนั่นมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยล่ะ หมอนั่นเหมือนจะกระซิบกระซาบอะไรกับซูจีก็ไม่รู้ พวกนายไปรู้จักกันเมื่อไหร่เนี่ย

     


    “ทะเลากันอย่างนั้นเหรอ ฉะ..ฉันเสียใจนะ” ซูจีบอกแต่ว่าผมคิดว่าหน้าตาเธอไม่ได้กำลังเสียใจแน่นอน ดูเหมือนว่าเธอกำลังทำตามที่เจ้านั่นบอกเธอมากกว่า

     

    “ไม่ใช่ครับ!

    “ใช่แล้ว!

     

    แจ๊คสันกับจีอึนตอบพร้อมกัน ทั้งคู่หันหน้ามามองกันและกันกับคำตอบที่สวนทางกัน

     

    “ไม่ใช่!

    “ใช่!

     

    แม้จะพยายามตอบอีกครั้งก็ยังไม่เหมือนกันอยู่ดี

     

    “เราไม่ได้ทะเลากันหรอกครับ” คราวนี้แจ๊คสันรวบตัวจีอึนและเอามือปิดปากเธอไว้ จีอึนดิ้นขลุกขลักอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือทั้งสองถูกไพล่หลังไว้

     

    “ไม่ได้ทะเลาะจริงเหรอ แล้วทำไมนายถึงปิดปากเธอไว้แบบนั้นกันล่ะ” แบมแบมรีบสุมไฟต่อ แจ๊คสันหันมามองเขาด้วยแววตาเขียวปั๊ด ไอ้เด็กนี่มันอยู่เฉยๆไม่เป็นรึไงกัน

     

    “ปล่อยก็ได้” แจ๊คสันปล่อยจีอึนให้เป็นอิสระ เธอแก้แค้นโดยการใส่แรงย่ำเข้าไปที่เท้าของเขาอย่างจัง แจ๊คสันร้องโอ๊ย แต่จีอึนไม่สนใจ เธอตรงเข้ามาหาซูจีอย่างเร็ว

     

    “ว่าแต่นายมาอยู่นี่ได้ไง”แจ๊คสันถามแบมแบม เขาสั่งให้เด็กนี่อยู่กับมาร์คไม่ใช่เหรอไง ไหงออกมาเตร็ดเตร่ข้างนอกได้

    “เรื่องของฉัน”แบมแบมยักไหล่

    “ซูจี งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ”แจ๊คสันคว้าแขนแบมแบมเพื่อจะลากให้กลับด้วยกัน แต่แบมแบมรีบเหวี่ยงตัวออก

    “ฉันไม่ไป ฉันจะอยู่กับซูจี”

    “ทำไมนายถึงต้องอยู่กับซูจี นายรู้จักเธองั้นเหรอ”



    “รู้จักเมื่อกี้ เนอะซูจี” แบมแบมขอความเห็น ซูจีพยักหน้าน้อยๆ จีอึนหันมามองน้องสาวของเธออีก นี่ทำไมซูจีถึงมีคนรู้จักเป็นผู้ชายคนอื่นๆอีก แล้วหมอนี่เป็นใคร แถมยังรู้จักเจ้าหมอหื่นกามอีกด้วย



    “แต่นายต้องกลับบ้าน ฉันจะกลับตอนนี้แล้ว ซูจีผมไปก่อนนะ”แจ๊คสันไม่สนใจ

     


    “ซูจีเดี๋ยววันหลังฉันมาเยี่ยมเธออีกนะ ไว้เราค่อยคุยกัน” แบมแบมลาซูจีในขณะที่โดนแจ๊คสันลากออกไป

    “พวกบ้าบอ” จีอึนบ่น ซูจียิ้มและส่ายหน้า คนพวกนี้อาจทำให้ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ของเธอสนุกขึ้นก็เป็นได้



    “พี่จีอึนยิ้มให้ฉันดูหน่อย” ซูจียกกล้องขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปเธอกับพี่สาว จีอึนได้แต่ยิ้มให้กล้องในขณะที่ซูจีดถ่าย  เสียงวี้ดของกล้องค่อยๆดังขึ้น ภาพถ่ายใบแรกที่มีรูปจีอึนกับแจ๊คสันอยู่ในมือที่แอบไพล่หลังของซูจี

     


    .......ความทรงจำของรูปสองใบจะถูกเก็บไว้ในซองจดหมายเดียวกัน..........

    .................วันนี้เป็นวันที่ซูจีรู้สึกดีเหลือเกิน....................

     


    “นี่ซูจี รู้มั้ย วันนี้พี่ไปเจอใครมา” จีอึนหันมาบอกน้องสาว สายตายิ้มมีความสุข ซูจีนึกแปลกใจ

    “ใครเหรอ”

    “ฝ่าบาทจ๊ะ”

     

          ซูจีงุนงง ตอนนี้จีอึนคงเข้าไปอยู่ในโลกของเธอเรียบร้อยแล้ว แววตาเพ้อฝันนั่นคือสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี อย่าบอกนะว่าพี่สาวของเธอเพิ่งได้ดูผลงานเรื่องใหม่ของผู้ชายคนนั้นอีกน่ะ เฮ้อ.......สาวช่างฝันจริงๆเลย พี่จีอึน

     

    To be continued.



    //////////////////////

    ที่หายไปเนี่ยคือไรท์ตันค่ะ ฮ่าฮ่า  อีกอย่างก็คือไม่ว่างอัพเลยค่ะ มีงานเยอะ แถมไม่สบายอีก ขอโทษนะคะ ตอนนี้มีตัวละครเพิ่มมา 2 ตัว คือซูจีกับจีอึน (ชื่อจริงของไอยูค่ะ) เป็นตัวละครรับเชิญให้เรื่องมันมีปมค่ะ เรื่องนี้ยังเป็น  ฟิควายอยู่ค่ะ ไม่ต้องห่วง 555

    ซ้าย จีอึน(ไอยู) สาวช่างฝัน พี่สาวหน้าแบ๊วจอมหวงน้องสาว
    ขวา ซูจี  สาวน้อยจิตใจดีร่าเริง แต่สุขภาพไม่ดีตั้งแต่เด็ก อยากเห็นทุกคนมีความรัก 


    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ - ไรท์

      

    ปล. มีแก้ไขชื่อ ไอยูค่ะ พอดีจำผิด ยังไม่ได้อัพเพิ่มนะคะ โทษทีค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×