ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] พี่เขยฮะ ตอนนี้ผมรักพี่แล้วฮะ (Bambam,Jackson,Mark)

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 15 Hospital

    • อัปเดตล่าสุด 8 ส.ค. 57



    (ผมกินแบมแบมได้ยังครับ-หวัง)


    (ผมอดอีกแล้วใช่ไหม T_T)




    /////////


     

     

         กลิ่นโรงพยาบาลนี่นา แสงสว่างแยงเข้ามา คงเป็นเพราะว่านี่คือวินาทีที่เปลือกตากำลังจะเริ่มกระพริบ ภาพเบลอๆของสิ่งของรอบตัวอย่างแรกที่เขาเห็นก็คือปลายเท้าที่ถูกคลุมด้วยผ้าห่มของตัวเอง คล้ายกับสัมผัสได้ว่ามีใครคนหนึ่งข้างๆ ขณะที่กำลังจะหันไปมอง ไหล่ก็ถูกแตะด้วยมือข้างหนึ่ง อา...เจ็บหัวชะมัดเลย เขาลองขยับแขนและขาก็พบว่ามันปกติดี


     

     

    “เป็นไงบ้าง” เสียงผู้ชายคนหนึ่งถามขึ้น

     

    “คุณพ่อบ้านเล้ง”

     

    “เล่ามาให้ฉันฟังว่าเกิดอะไรขึ้น”

     

     

       เหวินเจิ้งเริ่มรู้สึกปวดหัวอีกรอบ เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามลำดับมัน และก็พบว่าใจเริ่มมีความหวาดกลัวขึ้นมาเมื่อจำทุกสิ่งทุกอย่างได้

     

     

    “คุณชาย แบมแบม......” เขาแทบไม่กล้าเอ่ยชื่อต่อไป เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ไม่อยากรับรู้ที่สุดคืออะไร เสียงปืนยังคงก้องในหัว พี่ชายของเขาในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

     

     

     

    “ใจเย็นๆ” พ่อบ้านเล้งพยายามเรียกสติของเหวินเจิ้ง

     

    “พะ พี่อี๋เอินล่ะครับ” เหวินเจิ้งถามออกมาได้ในที่สุด

     

    “อยู่ในห้องผ่าตัด”เล้งบอกเรียบๆ ดูท่าเหวินเจิ้งจะมีสีหน้าที่ดีขึ้น อย่างน้อยพี่ชายของเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ แม้จะแค่ในตอนนี้

     

    “บอกมาซิว่าเกิดอะไรขึ้น”

     

    “รถพวกเราโดนถล่ม พวกมันจับคุณชายหวังกับแบมแบมไป ส่วนพี่อี๋เอินก็โดนยิง” เหวินเจิ้งพยายามเล่า

     

    “พวกไหน”

     

     

    “ผมไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร แค่ได้ยินมันพูดกับคนในกลุ่มนั้นว่า เหวินเล่อ....” ยังไม่ทันที่จะได้เล่าต่อ พ่อบ้านเล้งรีบหุนหันออกไปทันที เหวินเจิ้งเริ่มหมดแรงอีกรอบ เขารู้สึกคุ้นกับชื่อนี้มากๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนสักที่แต่นึกไม่ออก แม้ว่าอยากจะไปหามาร์ค แต่ว่าเขาลุกไม่ไหวจริงๆ ได้แต่นอนนิ่งๆ สุดท้ายความอ่อนล้าก็เข้ามาทักทายอีกรอบ

     

     

    //////////////////////////////////////////

     

     

     

          แม้จะเป็นห้องพักหรูอย่างดีราวกับห้องพิเศษของโรงแรมแต่มันกลับเหมือนคุกเพราะตอนนี้มันได้จองจำเหยื่อไว้ถึงสองคน คนแรกคือแจ๊คสันที่นั่งพิงอย่างอ่อนแรงบนหัวเตียง เขาถูกต่อย ใบหน้ามีเพียงรอยช้ำจางๆ นั่นเพราะมีเหตุผลบางอย่างหัวหน้ากลุ่มของพวกมันจึงอนุญาตให้ลูกน้องทุบตีเขาในบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าแทน

     

     

    “พรุ่งนี้คุณชายหวังจะต้องไปงานกับฉัน พวกแกยั้งมือกับเขาหน่อย”

     

     

     .......มันจะพาเขาไปไหนกัน.......

     

     

     

       เหยื่อคนที่สองกำลังนอนหนุนตักของแจ๊คสันอย่างหมดสติ แบมแบมดูไร้เดียงสาเหลือเกิน ริมฝีปากอวบอิ่มที่เคยเป็นสีชมพูระเรื่อกลับซีดเซียว ดวงตากลมโตหลับพริ้ม แจ๊คสันลูบผมบนหน้าผากแบมแบม เขาใช้ผ้าขนหนูค่อยๆเช็ดผมที่เปียกของแบมแบมเพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะเป็นหวัด


     

     

    ...........นายน่ะ รู้ตัวไหมว่าเวลาอยู่นิ่งๆแบบนี้น่ารักแค่ไหน.............

     

     

     

    แจ๊คสัน..........นี่ผมคิดอะไรอยู่ ในสถานการณ์แบบนี้ยังจะคิดอะไรบ้าบออยู่ได้ พวกเราถูกขังอยู่นะเว้ย แม้จะเป็นบนเตียงแต่แกจะคิดอกุศลทำซากอะไรในเวลานี้เนี่ยแจ๊คสัน สติที่กระเจิดกระเจิงทำให้นึกถึงวันนั้น วันแรกที่เราจูบกัน เฮ้ย ไม่ใช่ๆ วันแรกที่เราเจอกัน ผมเข้าใจผิดว่าหมอนี่เป็นเด็กผู้หญิง ในตอนนั้นผมคิดว่าเขาน่ารักจริงๆ น่ารักไปหมดทั้งตัว เหมือนแบบตอนนี้   เอ่อ..ผมพยายามจะไม่เลยเถิดไปมากกว่านี้ละ โอเคมะ  กลับมา สติๆ


     

     

          หลังจากที่แบมแบมหมดสติไป พวกมันก็พาพวกเรามาขังในห้องๆหนึ่ง ผมว่ามันออกจะหรูเกินไปหน่อยรึเปล่าสำหรับการใช้ขังคน ในห้องมีของทุกอย่างที่พร้อมเป็นห้องชุดสุดหรู สงสัยว่าพวกมันอยากจะเลือกห้องดีๆให้สมกับคุณชายตระกูลหวังล่ะมั้ง ผมยังไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไร สิ่งสุดท้ายที่มันบอกผมก็คือ

     

     

     

    “ผมอยากให้คุณชายอยู่ที่นี่ไปก่อนนะครับ”

     


     

      คือผมไม่เข้าใจพวกมันจริงๆ มันอาจจะเรียกค่าไถ่ นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุด ตอนนี้แม้ว่าผมจะอยู่กับแบมแบม  แต่ในใจผมก็ไม่ได้ลืมคนที่เหลือหรอกนะครับ หลังจากที่ผมแลกตัวกับมาร์คที่โดนซ้อมแล้ว พวกมันก็ขับรถออกมา ผมไม่รู้เลยว่ามาร์คกับเหวินเจิ้งเป็นยังไงบ้าง ผมหวังว่าทั้งสองคนจะไม่เป็นอะไรมาก

     

     

     

    “แจ๊คสัน” แบมแบมเรียกผม ผมจึงหันกลับมาสนใจเด็กน้อยอีกครั้ง

     

     
     

    “นายเป็นยังไงบ้าง ไหนบอกฉันซิ เจ็บตรงไหนรึเปล่า”

     

    “ไม่ค่อยอ่ะ แต่รู้สึกไม่มีแรง”แบมแบมตอบ ดวงตาปรือ

     

     

    “นอนนิ่งๆนะ อย่าเพิ่งลุก”ผมกดตัวแบมแบมไว้เพราะเขาพยายามจะลุกขึ้น ท่าทางเจ้าตัวกำลังมองว่าตัวเองนอนที่ไหน แน่นอนล่ะมันคือบนตักของผม

     

     

     

        แบมแบมแปลกใจที่เขานอนหนุนตักแจ๊คสันบนเตียง เขาพยายามลุกขึ้นแต่ว่าแจ๊คสันอยากให้เขานอนนิ่งๆมากกว่า แบมแบมยอมแต่โดยดี เพราะตอนนี้เขาก็ไม่เหลือแรงอะไรมากเท่าไหร่

     


     

    “พี่มาร์คกับเหวินเจิ้งจะเป็นยังไงบ้างนะ” แบมแบมถามแจ๊คสัน

     

    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใคร ทำไมมันถึงจับตัวพวกเรามา” แจ๊คสันก็มืดแปดด้านเหมือนกัน

     

    “ฉันรอดมาได้ไงเนี่ย จำได้ว่าฉันน่าจะจมน้ำตายไปแล้ว”แบมแบมถามแจ๊คสัน

     

    “นายอยากจะรู้จริงเหรอ”

     

    “ทำไมฉันจะไม่อยากรู้ล่ะ” ติดกับเข้าให้แล้ว แจ๊คสันยิ้มกระหยิ่ม

     

     

    “ฉันผายปอดให้นายไง” แจ๊คสันทำปากจู๋ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ นั่นทำให้แบมแบมเริ่มมีแรงขึ้นมา น่าจะเพราะแรงโมโห เขายันตัวเองขึ้นอย่างทุลักทุเลและถอยตัวออกไปพิงอีกฝั่ง

     

     

    “บะ บ้า นายโกหก”

     

    “ก็นายจมน้ำไม่ใช่เหรอ คนจมน้ำผายปอดผิดตรงไหน”

     

    “ไอ้บ้า ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตายๆไปซะ”

     

     

    “ทำไมนายเขินเหรอ”แจ๊คสันเข้าไปใกล้แบมแบมที่ตอนนี้เริ่มหน้าแดง ดีล่ะ ขออีกหน่อยละกัน ชีพจรของหมอนี่จะได้ดีขึ้น แจ๊คสันพลางคิดว่าแม้จะไม่มีในตำราแพทย์ว่าการทำให้อายจะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ แต่ว่ามันก็ได้ผลเกินคาดแฮะ

     

     
     

    “ฉันทำไปเพราะช่วยชีวิตนายนะ” แจ๊คสันยิ้มให้แบมแบมอีก ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกดีที่ได้เห็นแบมแบมเป็นเหมือนเดิม

     
     

     

    “ไอ้พี่เขยเลว แกมีพี่สาวฉันอยู่แล้วทั้งคนนะ” แบมแบมอ้างไปเรื่อย ตอนนี้เขารู้สึกประหม่าเกินกว่าจะใช้เหตุผลอะไรได้

     

     

    “เลวเหรอ ฉันเหรอ"


    "มะ ไม่ถึงขนาดนั้นเหรอ" แบมแบมพยายามแก้ตัว ก็ตอนนี้แจ๊คสันทำหน้าเศร้านี่ เขาไม่ได้ตั้งใจว่าแจ๊คสันจริงๆซะหน่อย


    "ฟังนะ ตอนนี้ ที่นี่ นายสำคัญที่สุดสำหรับฉันนะ รู้มั๊ย ฉันต้องปกป้องนาย แบมแบม” แจ๊คสันไม่พูดเปล่าเขากุมมือแบมแบมไว้ จู่ๆมาพูดอะไรแบบนี้นะ แบมแบมทำตัวไม่ถูก


     

     

    “ขอบใจที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี ตะ..แต่ ไม่ต้องพูดอะไรเว่อร์ๆแบบนั้นจะได้ไหม”แบมแบมบอกอ้อมแอ้ม เขาหลบสายตาที่จ้องมองอย่างซื่อตรงของแจ๊คสัน มีบางอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นระรัว แบมแบมไม่เข้าใจว่าพอได้ยินว่ามีคนจะปกป้องเขา ทำไมรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา
     

     

     

    “แบมแบม เรียกชื่อฉันอีกสิ ฉันชอบให้นายเรียกว่าแจ๊คสัน ฉันว่าดีกว่าเรียกว่า ไอ้พี่เขย เป็นไหนๆ” แจ๊คสันตาเชื่อม เขากำลังอ้อนวอนเด็กผู้ชายคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้สำหรับเขาเลย แต่แบมแบมทำให้เขาอยากอ้อนจัง

     

     

     

    “กะ ก็นายเป็นพี่เขย ก็เรียกพี่เขยถูกแล้วนี่” แบมแบมอ้าง

     

    “ถ้าตอนนี้ฉันไม่อยากเป็นพี่เขยแล้วล่ะ” จังหวะลมหายใจของแจ๊คสันมันเหมือนจะหนักขึ้น ราวกับว่าอากาศที่สูดเข้าไปไม่พอ แบมแบมเริ่มถอยหนี เขานึกถึงคืนนั้น แต่ก็พยายามใจสู้

     

     

    “แจ๊คสัน แจ๊คสัน แจ๊คสัน  พะ..พอใจรึยัง” แบมแบมหลับตาเรียกชื่อแจ๊คสัน ตอนนี้ไม่อยากคิดเรื่องอะไรอีกแล้ว

     

     
     

        ไม่มีเสียงตอบรับ แบมแบมค่อยๆลืมตาขึ้น และรู้สึกหนักที่ตักของตัวเอง เขาพบว่าแจ๊คสันกำลังนอนหนุนมันอยู่ ทำอะไรเนี่ย

     

     

    “ฉันล้อนายเล่นน่ะ ฉันไม่ได้ผายปอดหรอก นายอาจจะรู้สึกเหมือนจมน้ำ แต่วอเตอร์บอร์ดดิ้งมันไม่มีน้ำเข้าไปในปอดหรอก นายแค่หมดสติไปเอง”

     

     

    “อ้อเหรอ ขอบใจนะที่บอก แล้วนายมาหนุนตักฉันแบบนี้ทำไมไม่ทราบ” แบมแบมฉุน

     

     

    “ฉันเจ็บไปทั้งตัวเลย นายไม่เห็นเหรอ” แจ๊คสันเปิดเสื้อให้แบมแบมดูแผลฟกช้ำที่ท้อง เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแบบผู้ชายแบบที่แบมแบมไม่มี แบมแบมไม่อยากจะมอง รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง อิจฉางั้นเหรอ ใช่ซี้

     

     

    “แล้วไง”

     

     

    “ก็ฉันอุตส่าห์ให้นายหนุนตักนะ ขอหนุนคืนแค่นี้ไม่ได้เหรอไง” แจ๊คสันทวงบุญคุณ

     

    “ลุกไปได้แล้ว”แบมแบมดันหัวแจ๊คสันออก มีหรือที่แจ๊คสันจะยอม เขาเอามือกอดเอวแบมแบมไว้แน่น

     

    “ไม่ลุก นายขี้โกง”
     

     

    “ออกไปนะ อย่ากอดฉันสิ” แจ๊คสันทำมึน เขาไม่ปล่อย จนแบมแบมหยุดผลัก ตอนนี้เจ้าหนูก็ไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่ ถ้าเป็นตามปกติล่ะก็แจ๊คสันจะต้องไม่รอดอย่างแน่นอน

     

     

     

    “ขออยู่แบบนี้แป๊บนึงนะ นายรู้ไหมว่าฉันกลัวแค่ไหน ที่เห็นนายโดนพวกมันทรมานแบบนั้น”แจ๊คสันนิ่งไป



     

    แบมแบม...........ไม่เพียงแต่แจ๊คสันนะ ผมก็กลัวเหมือนกันว่าตัวผมอาจจะตายก็ได้ ผมรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าที่จะผลักไสแจ๊คสันในตอนนี้ บางทีการที่เราได้สัมผัสใครคนหนึ่งในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ มันอาจจะช่วยให้เรารู้สึกได้รับการเยียวยาก็ได้ ตอนเด็กๆเวลาผมไม่สบาย แม่ก็จะเข้ามากอดและปลอบผม จนผมรู้สึกว่าตัวเองสามารถผ่านช่วงเวลาที่ทรมานเหล่านั้นได้

     


     

          ผมรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆบนขาของตัวเอง แจ๊คสันกำลังร้องไห้อย่างนั้นหรือ นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าน้ำตาของตัวเองกำลังจะไหลออกมาเหมือนกัน แจ๊คสันกอดเอวผมแน่นเข้าไปอีก เขาตัวสั่นคงจะกำลังกลั้นเสียงสะอื้นอยู่ ผมได้แต่นั่งนิ่งๆ มือของตัวเองที่กำลังจะเอื้อมลงไปสัมผัสผมของแจ๊คสัน แต่ทว่ากลับเปลี่ยนใจ ผมเห็นหมอนี่เป็นหมาหงอยรึไง ถึงคิดที่จะอยากลูบหัวปลอบใจน่ะ บ้าสิ้นดี คืนนี้คงจะเป็นคืนที่แสนยากลำบากที่สุดคืนหนึ่งของพวกเรา  เฮ้อ.....

     

     
     

    ///////////////////////////////

     

     

         เสียงหัวใจเต้น วิธีการหายใจที่เกิดมาแทบจะไม่ต้องเรียนรู้ ทำไมกันนะ ทำไมถึงรู้สึกราวกับว่ามันเป็นของใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างนั้นแหละ รู้สึกได้ถึงหน้าอกที่ยกตัวขึ้นลงเบาๆ มือของผมรู้สึกถึงความอบอุ่นเหลือเกิน อบอุ่นจนอยากจะร้องไห้ เพราะไม่เคยรู้สึกแบบนี้นานแล้ว อาจะเป็นเพราะว่าผมกลัวอย่างนั้นหรือ กลัวที่จะไม่ได้เจอความรู้สึกแบบนี้อีก

     

     

         ผมค่อยๆลืมตาขึ้น ใครคนหนึ่งฟุบข้างๆเตียง นั่นเป็นมือของเขาคนนี้เองสินะ ผมยิ้มพยายามยกมืออีกข้างมาเพื่อที่จะลูบหัวเขา มันเจ็บที่แผลนิดหน่อย แต่ผมก็ทำสำเร็จ

     


     

    “อ๊ะ  พี่ตื่นแล้วเหรอครับ” ผมทำเขาตื่นซะได้

     

    “จูเนียร์”

     

    “เดี๋ยวผมเรียกพยาบาลนะ” จินยองกำลังจะไปตามที่เขาบอก ผมรั้งเขาไว้

     

    “อย่าเพิ่งเลย”

     

    “ก็ได้ครับ พี่มาร์ค”

     

    “ทำไมนายถึงมาที่นี่ได้ล่ะ” ผมสงสัยที่เป็นจินยอง นี่ผมหวังอะไรอยู่ อยากจะให้เป็นใครคนอื่นอย่างนั้นหรือ

     

    “เช้านี้ผมได้รับสายจากโรงพยาบาลครับ เขาโทรหาเบอร์ที่โทรออกล่าสุดจากมือถือของพี่มาร์ค เขาว่าไม่รู้จะติดต่อญาติยังไง”

     

    “งั้นเหรอ ขอบใจนายนะ”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่หมอบอกว่าถ้าพี่ตื่นให้ผมไปเรียกพยาบาล ผมออกไปก่อนนะ”

     

     

       จินยองผละออกไปจากผม ผมนึกถึงแบมแบมกับแจ๊คสัน สองคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ ตอนนี้ผมขยับตัวไม่ได้เลย ไม่นึกว่าไอ้พวกนั้นจะกล้าทำแบบนี้ สิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นคือแววตาชิงชังของเจ้านั่น  เหวินเล่อ! ผมรู้จักมันดี มีคนคนหนึ่งที่ผมไม่อยากให้มันเจอเลย นั่นคือน้องชายของผมเอง เจ้านั่นเป็นเด็กดีเหลือเกิน เขาไม่ควรรับรู้ว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับคนแบบนั้นยังไง

     

     

    “ดูแลน้องด้วยนะอี๋เอิน” แม่พาเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ท่าทางมอมแมมมาให้ผมดู นับตั้งแต่พวกเราออกมาจากบ้านตระกูลหวัง แม่ก็เริ่มล้มป่วยลง แต่ก็ยังใจดีเหมือนเดิม แถวชุมชนที่เราอยู่ค่อนข้างเป็นแหล่งรวมของคนยากจน เด็กหลายคนถูกทิ้ง และเด็กคนนี้ก็เหมือนกัน

     
     

    “เขาเป็นใครฮะ”

     

     

    “แม่เขาเพิ่งตายจ้ะ แม่สงสารเขา เด็กตัวนิดเดียว” แม่พูดพลางลูบหัวเด็กน้อย เขาส่งสายตาไร้เดียงสามาให้ผม

     

    “เขาไม่มีญาติที่ไหนเลยเหรอครับ” ผมสงสัย พ่อเขาล่ะ พี่น้องเขาล่ะ


     

     

    “พ่อเขาตายนานแล้ว เขามีพี่ชายคนหนึ่งก็ยังเป็นเด็กอยู่เลย โตกว่าลูกไม่กี่ปี รายนั้นเข้าแก๊งอันธพาลเก่าพ่อเขาไป เหลือแต่เจ้าหนูนี่แหละใครจะดูแล”

     

     

    “ทำไมเขาไม่รักน้องเขาเลยเหรอ ถึงได้ทิ้งน้องไปแบบนั้น” ผมโมโห

     

     

    “แต่ละคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเองนะลูก เขาบอกแม่ว่าถ้าไม่ไปก็อดตาย เขาสัญญาว่าถ้าโตแล้ว พึ่งตัวเองได้จะกลับมารับน้องชาย แม่ก็ได้แต่ภาวนาขอให้เป็นแบบนั้น”

     

     

    “ก็ได้ครับ งั้นเด็กคนนี้ชื่ออะไรหรือครับแม่” ผมนั่งลงให้ตัวเสมอเจ้าหนูน้อยและยิ้มให้เขา เขาคงเริ่มหายกลัวผมแล้ว

     

    “ผมชื่อเหวินเจิ้งฮะ” เจ้าหนูตอบผม

     

    “เหวินเจิ้งเหรอ อืม....แปลว่าความถูกต้อง ความบริสุทธิ์ ชื่อนายเพราะมาก” ผมเอื้อมมือไปขยี้หัวเขาเบาๆ เขายิ้มชอบใจ

     

    “พี่ชายของผมเขารักผมนะ...”เจ้าหนูเงียบไป ท่าทางจะเข้าใจที่ผมคุยกับแม่เรื่องพี่ชายของเขาว่าไม่รักน้อง

     

    “ขอโทษนะที่ว่าพี่ชายนาย ว่าแต่พี่ชายนายชื่ออะไรเหรอ”

     

    “เหวินเล่อครับ พี่ชายของผมชื่อเหวินเล่อ” เด็กน้อยบอกอย่างภูมิใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาจะได้เจอกับพี่ชายของตัวเองในอีกสิบกว่าปีต่อมา

     

     

     

      ผมนึกถึงเรื่องสมัยก่อนขึ้นมาอีกแล้ว มีอะไรหลายอย่างที่ไม่ควรรื้อฟื้นออกมา นอกจากมันจะทำให้เจ็บปวดแล้วมันยังไม่มีประโยชน์อะไรเลย จินยองกลับมาพร้อมกับหมอและพยาบาลที่มาตรวจอาการผม ผมมองจินยองอย่างขอบคุณ ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีเขาอยู่ด้วยในตอนนี้ แม้จะเพิ่งรู้จักกัน แต่เขาก็ใจดีเหลือเกิน ท่าทางเขาดูอิดโรยนิดหน่อย  เขานั่งเฝ้าผมนานเท่าไหร่กันนะ แม้จะทำให้เขาลำบากแต่ผมก็อยากจะเห็นแก่ตัวอีกหน่อย

     

     

     

    .....นายอยู่ข้างๆฉันต่ออีกหน่อยจะได้ไหม..........

     

     

     

    “พี่อยากให้ผมโทรหาใครให้ไหม ญาติพี่อะไรแบบนี้” จินยองถามมาร์คเมื่อหมอกับพยาบาลออกไปแล้ว มาร์คเอาแต่มองหน้าจินยอง จนเจ้าตัวรู้สึกแปลกๆต้องเรียกมาร์คอีกที

     

     

     

    “เอ้อ โทษที เอ่อ..จูเนียร์พี่มีเรื่องอยากให้นายช่วยหน่อย”
     

     

    “อะไรครับ” จินยองแปลกใจ อันที่จริงเขาน่าจะถามมาร์คว่าไปโดนอะไรมาถึงเข้าโรงพยาบาลแบบนี้มากกว่า แต่เขาก็ไม่กล้าถาม

     
     

    “นายช่วยหาห้องพักให้พี่หน่อยได้ไหม คือพี่ยังไม่อยากกลับบ้านน่ะ มันไม่ปลอดภัย”

     
     

    “พี่มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ ถึงเจ็บหนักขนาดนี้”จินยองถามออกไปจนได้

     
     

    “ตอนนี้พี่ไม่แน่ใจว่าควรเชื่อใจใครได้บ้าง พี่เชื่อนายได้ไหม” ในเมื่อพูดแบบนี้จินยองจะไปถามอะไรต่อได้ล่ะ มาร์คคงมีปัญหาของเขา คงจะเป็นเรื่องที่บอกใครไม่ได้

     
     

    “แล้วเจ้าเด็กแบมแบมนั่นล่ะ พี่กลับกับเขา พี่รู้จักเขานี่นา”

     

     

    “จูเนียร์ พี่ขอโทษนะ อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้อีกตอนนี้ได้ไหม” สายตาขอร้องของมาร์คหยุดคำถามต่อไปของจินยอง โอเค เขาจะพยายามเข้าใจ ไม่รู้ว่าการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนคนนี้จะทำให้เกิดเรื่องอะไรไหม แต่เขาพยายามที่จะคิดในแง่ดีไว้ก่อนละกัน

     

     

    “ก็ได้ฮะ แถวๆบ้านผมมีอพาร์ทเม้นท์อยู่ ผมจะไปถามให้นะ มีแต่คนเกาหลีอยู่เป็นส่วนใหญ่นะฮะ”

     

     

    “นั่นยิ่งดีเลย พี่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าพี่อยู่ที่ไหน” มาร์คบอกจินยอง เขาดูจริงจัง จินยองรู้สึกว่ามันเหมือนสีหน้าที่เขาเคยเห็นครั้งล่าสุดก็ตอนที่มาร์คเจอแบมแบมอยู่กับยองแจ
     

     

     

    ......นั่นคือสีหน้าตอนกำลังจะล่าเหยื่ออย่างนั้นรึเปล่านะ..........

     

     

    ........ตอนนี้ไม่มีเหยื่อนะ.....................

     

     

    .....หวังว่าคงไม่ใช่ผมนะ  จินยองคิด...........




    To be continued.




    ///////////////////







    ไรท์ไม่ลืมหวังนะคะ หวังอย่าเพิ่งน้อยใจน้า แต่ต้องทำใจนิดนึงคือไรท์ชอบคู่ชิบคู่นี้มากกกกกกกกกกว่า ฮ่าฮ่า รอดูต่อไปนะคะ อิอิ  ตอนนี้ไม่เครียดแล้วเนอะ- ไรท์^_^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×