ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] พี่เขยฮะ ตอนนี้ผมรักพี่แล้วฮะ (Bambam,Jackson,Mark)

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 14 Water-boarding (PG-13)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 57










    (I’m gonna be bad boy >_</// ขอเบิกตัวร้ายออกโรงค่ะ ถ้าคิดว่ามาร์คร้ายแล้ว จะบอกว่าคงไม่เท่าสองคนนี้หรอกค่ะ)

     

     

     

     


     

     

    แจ๊คสัน.............




     

     

                วันนี้แทนที่จะเป็นวันที่ผมได้พักผ่อนสบายๆเพราะเคสที่โรงพยาบาลไม่มีอะไรมาก เลยได้กลับเร็วกว่าปกติ กลับกลายเป็นว่าผมต้องมานั่งขับรถให้ไอ้เจ้าพวกนี้กลับบ้าน เฮอะ ผมเป็นคุณชายนะ โดยเฉพาะเจ้าสองคนหลังนี่ไม่ได้เกรงอกเกรงใจผมเลยใช่ไหม คุยบ้าอะไรกันมุ้งมิ้งอยู่ได้ เฮ้ย จะคุยก็คุยให้มันได้ยินหน่อยดิวะ ผมไม่เคยเห็นมาร์คในแบบนี้มาก่อนนับจากตอนเด็กก่อนที่เขาจะออกจากบ้านผมไปพักหนึ่ง และกลับมาอีกตอนเข้าเกรด 10 ผมจำได้ลางๆว่าสายตาของหมอนี่ตอนที่กลับมานั้นเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน จนผมรู้สึกว่าเราไม่เหมือนเดิม และมันก็ไม่เหมือนเดิมจริงๆ เขา...ทำ.....เฮ้อ! ช่างเถอะ ผมไม่อยากพูดถึงมันเท่าไหร่




     

     

                แต่ตอนนี้คืออะไร ไอ้รอยยิ้มใจดีแบบเทวดานั่นมันใช่มาร์คจริงๆเหรอ หมอนั่นมันปีศาจจากขุมนรกชัดๆ นายกำลังล่อลวงลูกแกะน้อยแบบเด็กแบมแบมนี่อยู่ใช่ไหม ฉันรู้นะ พูดถึงไอ้เด็กนี่ ผมก็ไม่เข้าใจว่าอะไรที่กวนใจผมอยู่ตลอดเวลา มันเหมือนหลอดเลือดหัวใจตีบ เจ็บจิ๊ดๆ ร้าวไปทั่วอก อึดอัดแปลกๆ สงสัยผมคงจะนึกถึงเคสที่โรงพยาบาลมากไปหน่อย วันนี้คนไข้ที่ผมดูแลอยู่อาการดีขึ้นมาก เธอกล่าวขอบคุณผมตลอดเวลา และบอกให้ผมรีบกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ไม่งั้นเธอจะไม่ยอมพักผ่อนเหมือนกัน

     




     

                เธอน่ารักนะ น่ารักมากๆด้วย ตอนแรกใครๆก็อิจฉาที่ผมได้เป็นคนดูอาการเธอ ผมก็แอบปลื้มนิดๆฮ่าฮ่า แต่ก็ไม่รู้ทำไมตั้งแต่เจอแบมแบมผมถึงชอบเปรียบเทียบเธอกับหมอนั่นกัน เออ...ก็หมอนั่นมันน่ารักนี่หว่า  อุ๊บ! ผมเผลออะไรออกไป กะ ...ก็ น่ารักจริงๆนี่นา จนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง นึกไปก็แค้นยัยเจ๊ใหญ่ นี่เธอหลอกชั้นใช่ไหม กลับมาจะสะสางแน่ๆ แต่ตอนนี้ปล่อยไปก่อน สิ่งที่เธอควรทำก็คือดูแลและอยู่เคียงข้างพี่เจสันให้ดีที่สุดเป็นพอ

     




     

     

    “พี่มาร์คฮะ ผมง่วงจัง” เจ้าเด็กแบมแบมคุยกับมาร์ค ผมว่าน้ำเสียงมันดูออดอ้อนชะมัด

     

    “อะไรกัน สงสัยนายจะตื่นเต้นหลายเรื่องเลยเนอะวันนี้ ก็นายได้เจอพี่นี่นา” ทำไมผมรู้สึกว่าไอ้มาร์คมันเก็กเสียงหล่อผิดปกติฟระ

     

    “พี่มาร์คอ่ะ” อะไรโว้ย จะมาจีบกันอะไรแถวนี้ พวกแกหัดเกรงใจคนอื่นบ้าง

     

    “งั้นหนุนตักพี่ละกัน”

     

    “ไม่เอาอ่ะ ผมโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆซะหน่อย” แหม้..โตแล้วก็อดทนไปสิ

     

    “เด็กดื้อ เดี๋ยวพี่ลงโทษแบบเมื่อกี้นะ”

     

    “มะ ไม่เอา ก็ได้ผมนอนก็ได้”



     

     

    ลงโทษแบบเมื่อกี้คืออะไร? พวกนายมาพูดให้ฉันอยากรู้ทำไมเนี่ย เอาล่ะ ผมเริ่มจะทนไม่ไหวละ


     

     

     

    เอี๊ยด!!!!

     

     

     

    ทุกคนยกเว้นแจ๊คสันสะดุ้ง รถหยุดนิ่งสนิท คุณชายหวังหันมาพูดกับเหวินเจิ้งที่เงียบมากนาน ไม่เพียงแจ๊คสันเท่านั้นที่รู้สึกอึดอัดจากบรรยากาศในรถ เหวินเจิ้งก็คงรู้สึกไม่ต่างกันนัก



     

     

    “เหวินเจิ้ง มาขับรถแทนชั้นหน่อย พอมีคนง่วงชั้นก็ง่วงตามเหมือนกัน” แจ๊คสันพูดกับเหวินเจิ้งเป็นภาษาจีน

     

    “ครับคุณชาย” เหวินเจิ้งเปิดประตูรถออกมาสลับที่นั่งกับแจ๊คสัน เมื่อประจำที่คนขับแล้วคุณชายหวังก็เปิดวิทยุเร่งเสียงจนดัง

     

    “อ่ะ ฉันเปิดเพลงให้นายฟังจะได้ไม่ง่วง เพื่อความปลอดภัย เวลาคนเราง่วงเนี่ยไม่ควรขับรถใช่มะ” แจ๊คสันพูดกับเหวินเจิ้ง

     

    “ครับ”

     

    “ฉันแค่ไม่อยากหลับในจนพาพวกเราไปตายหมู่น่ะ” แจ๊คสันเน้นคำว่าตาย คนที่ไม่เข้าใจก็คงมีแบมแบมอยู่คนเดียว

     

     



     

     

    แบมแบม............

     

     

                อะไรของมันเนี่ย ไอ้พี่เขยมันบ่นอะไรก็ไม่รู้อยู่คนเดียว ผมกำลังจะเคลิ้มหลับซะหน่อย อย่างที่พี่มาร์คว่า วันนี้ผมคงจะตื่นเต้นเพราะเจอเรื่องอะไรหลายอย่างจริงๆ ไม่ใช่เรื่องพี่มาร์คทำอะไรผมนะ อย่าเข้าใจผิด  ผมแค่กลัวเรื่องปืนเท่านั้นอ่ะ ก็พี่มาร์คเล่นอำผมซะเนียนเลย หลังจากรถหยุด เหวินเจิ้งก็ขับรถต่อจากเจ้าคุณชายหวัง แต่เขาแทบจะไม่มองหน้าผมเลย ผมกะจะบอกเขาว่าผมเรียกชื่อเขาถูกแล้วนะ แต่อารมณ์นี้ผมคงไม่กล้าบอกอ่ะ ดูเหวินเจิ้งน่ากลัวยังไงไม่รู้



     

     

                ผมรู้สึกหายง่วงขึ้นมาก็เลยไม่ได้นอนหนุนตักพี่มาร์คอีก ที่จริงมันก็คงจะแปลกๆรึเปล่า แต่ผมไม่อยากโดนดีดหน้าผากนี่นา ความจริงก็อยากลองหนุนดูเหมือนกันนะ นึกถึงสมัยก่อนน่ะ ที่พี่มาร์คเอ็นดูผม ตอนนั้นผมตัวกะเปี๊ยก ติดพี่เขาแจยังกะเห็บหมา 555 ก็พี่มาร์คเขาใจดีนี่ฮะ แล้วผมก็ชอบเขามากๆเลย แต่ตอนนี้โตแล้ว ไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบสมัยก่อนมันจะยังคงเหมือนเดิมอยู่ไหม อันที่จริงผมก็รู้สึกประหม่ากับสัมผัสของเขานะ มันแปลกๆ ตื่นเต้นยังไงบอกไม่ถูก ทั้งๆที่เอาจริงๆแล้วผมเคยก็ให้พี่เขากอดหอมบ่อยๆ แต่พอเป็นตอนนี้มันกลับรู้สึกไม่เหมือนเดิม เหมือนตอนที่เจ้าคุณชายหวังมันจูบผมเลย  อ๊าก..ผมกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย

     


     

     

    “แบมแบมเป็นอะไรไป” พี่มาร์คหันมาถามผม ผมรู้สึกว่าเจ้าคนเบาะหน้าที่ไม่ได้ขับรถนั่นเหมือนจะหันมามองรึเปล่า แต่ผมก็ไม่ทันดูให้แน่ใจ ผมหันไปตอบพี่มาร์ค


     

     

    “เปล่าฮะ” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมตอบ เพราะหลังจากนี้เหตุการณ์หนึ่งได้เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันกับพวกเราทั้งสี่คน ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนกระทั่งสติกลับคืนมาและเห็นร่างร่างหนึ่งในสภาพสะบักสะบอมนอนอยู่เบื้องหน้า

     

     


     

    ////////////////////////

     


     

     

    ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด

     

    โครม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    ปัง! ปัง! ปัง!

     

     

    ……………..

     


     

     

    “พะ พี่อี๋เอิน” เหวินเจิ้งพยายามรวบรวมแรงที่เหลืออยู่คลานเข้าไปหาพี่ชายของเขาอย่างทุลักทุเล แม้จะเป็นเวลากลางคืนแต่แสงจันทร์ในคืนแรมก็พอจะทำให้เห็นลางๆ ไม่ทันที่จะไปถึง ร่างของมาร์คก็โดนฉุดขึ้นและล้มลงไปกองกับพื้นอีกรอบจากแรงต่อย

     

     

    พลั่ก!

     

    ปึ่ก!

     

    ตุบ!



     

     

    เท้าของใครบางคนเตะเข้าตามลำตัวของมาร์คอย่างโหดร้าย เหวินเจิ้งพยายามมองว่ามันเป็นใครแต่เลือดที่อาบหน้าทำให้ตาพร่ามัวเกินกว่าที่จะมองเห็น ก่อนที่สติจะหมดไป เขาเห็นเงาของชายคนนั้น เล็งปืนไปที่ร่างอันสะบักสะบอมของมาร์ค เร็วกว่าที่จะช่วยเหลือ สิ่งสุดท้ายที่เหวินเจิ้งอยากจะจินตนาการก็ได้เกิดขึ้น

     


     

     

    เปรี้ยง!

     

     

    เสียงดังของกระสุนเพียงนัดเดียวคือสิ่งสุดท้ายที่ก้องในหัวของเขา พี่อี๋เอิน!!!!!!!!!!!!!!!!

     



     

     

    //////////////////////////////////

     

     


     

     

                ถ้าหากว่ามีที่ว่างเวิ้งว้างหนึ่งที่เราสามารถพักผ่อนได้ชั่วครู่ มันเป็นที่ที่สบายที่สุด ปล่อยใจให้ล่อยลอย ไม่มีความทุกข์ ความเศร้าในความทรงจำที่ไม่อยากเก็บไว้ค่อยๆมลายหายไป ราวกับก้อนเมฆที่ละลายไปกับสายลม ราวกับฟองสบู่ที่ลอยขึ้นยามเราเป่ามัน เราอยากอยู่ตรงนี้เรื่อยไป แต่ว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาบอกเราว่า ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เราจะอยู่ได้ เราไม่สามารถสบายใจได้ตลอดไปล่ะ แล้วเราควรจะเศร้าไหมที่ต้องจากที่แห่งน้ันไป 

     



     

    “พี่มาร์คฮะ ในที่สุดเราก็ได้เจอกันสักทีนะฮะ ผมรอพี่มานานเหลือเกิน ดีใจที่เราได้เจอกันอีกนะฮะ” มาร์คค่อยๆลืมตา เสียงเล็กๆของใครบางคนเรียกเขา

     

     

    “แบมแบม นั่นนายใช่ไหม” แบมแบมยิ้มให้เขา

     



     

    “พี่มาร์คอย่าเอาแต่นอนอยู่แบบนั้นเลยนะ ผมอยากจะไปเที่ยวกับพี่มาร์คนะ รีบๆลุกเร็วสิ” แบมแบมกวักมือให้มาร์ค มาร์คดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่แล้วก็มีมือมือหนึ่งรั้งเขาไว้ไม่ให้ไปหาแบมแบม มาร์คหันไปมอง


     

     

    “แจ๊คสัน” เด็กหนุ่มคนหนึ่งในวัยรุ่นจับมือเขาไว้ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตานั่น แจ๊คสันนายร้องไห้ทำไม

     

     

    “มาร์คอย่าไปเลยนะ นายจะไปไม่ได้นะ” มาร์คไม่เข้าใจเขาหันมามองแจ๊คสันก่อนที่จะหันไปมองรอยยิ้มของแบมแบม




     

     

    “ฉันจะไปหาแบมแบม ปล่อยฉัน”มาร์คออกแรงเพื่อให้หลุดจากแจ๊คสัน น้ำตาของแจ๊คสันค่อยๆไหลออกมาเป็นสีแดงของเลือด มันอาบไปทั่วใบหน้าและเหมือนจะเปรอะเปื้อนบนเสื้อ มาร์คไม่เข้าใจว่าทำไมเลือดมันถึงมากมายขนาดนั้น ราวกับว่ามันไม่ได้ไหลออกมาจากดวงตาของแจ๊คสัน

     

     

     

     

    “นายจะตายไม่ได้นะ” แจ๊คสันบอกเขา มาร์คเริ่มรู้สึกเจ็บที่ชายโครง เขาค่อยๆก้มลงไปดูก็พบว่าเลือดไหลออกมาจากตัวของเขามากมาย  เลือดที่เปื้อนตัวแจ๊คสันเป็นเลือดของเขาเอง


     

     

     

    ............“ปล่อยเขาไป ฉันจะไปเอง”.....................

     




     

     

                เสียงคุ้นเคยของใครบางคนดังขึ้น มาร์คพยายามหันไปมองต้นเสียงรอบตัวแต่ก็ไม่พบว่ามีใคร พอหันมาอีกทีก็พบว่าแจ๊คสันปล่อยมือของเขาและกำลังวิ่งไปหาแบมแบม มาร์คพยายามจะตามไป แต่ความเจ็บปวดของบาดแผลมันสาหัสเหลือเกิน เขาล้มลง ได้ยินเสียงกระซิบหนึ่ง




     

     

    “ขอโทษแทนเหวินเล่อด้วยนะ มันใจร้อนมากไปหน่อย”

     




     

                ใครกันนะ มาร์คพยายามนึก แต่ร่างนั่นก็ก้าวผ่านตัวเขาไป แผ่นหลังในชุดสีดำราวกับปีกของปีศาจ เขาสูญเสียทุกสิ่ง ทุกคนที่เขามี ไม่มีใครเหลือเลย แล้วอย่างนี้จะมีชีวิตไปทำไม แล้วแบบนี้จะอดทนไปเพื่ออะไรกับการเป็นคนดีหากต้องสูญเสียทุกสิ่ง

     



    “ฉันจะเอาทุกอย่างของฉันกลับมา!


     

     

    ////////////////////

     



     

     

    “ชีพจรอ่อนแรงมาก 60-30”

     

    “เพิ่มอะดรีนาลีนอีก 30ml

     

    “ไม่มีสัญญาณชีพค่ะ”

     

    “คนไข้เสียเลือดมาก”

     

    “เตรียมเครื่องปั๊มหัวใจ”

     

    “เริ่มที่ 100 โอเค ชาร์ท เคลียร์!   ตึ่ก!

     

    “สัญญาณชีพไม่กลับมาค่ะ”

     

    “เพิ่มเป็น 220 ชาร์ท เคลียร์!!” ตึ่ก!

     

    “เราเสียเขาไปแล้วค่ะ”

     

    “ที่ระดับ 300 ชาร์ท เคลียร์” ตึ่ก!      

     

     
     

     
     

     

    “เห็นไหมทุกคนไปหมดแล้ว ไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้ว สุดท้ายก็เหลือนายคนเดียว โดดเดี่ยว ไม่เหลือใคร ไม่มีค่า” ปีศาจร้ายบอกมาร์คที่ไร้เรี่ยวแรง ไม่เหลือกำลังที่จะวิ่งตามความต้องการของตัวเองอีกแล้ว

     



     

          น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาของมาร์คอย่างทุกข์ทรมาน ไม่ว่าใครๆก็จากเขาไป  พ่อ แม่ แบมแบม แจ๊คสัน เหวินเจิ้ง ราวกับถูกล่ามโซ่ที่ไม่มีวันเห็นให้ติดอยู่กับร่องรอยของกาลเวลาที่โหดร้ายรอวันตายอย่างลำพัง

     

     

    //////////////////////////


     

     

     

     

    พลั่ก!

     

     

    ตุ่บ!

     

     

    โครม!


     

     

     

           ร่างของแจ๊คสันถูกโยนจนแน่นิ่งกับพื้น ชายหลายคนยืนค้ำหัวของเขา คุณชายหวังพยายามเพ่งมองว่าเขาอยู่ที่ไหน นับตั้งแต่ที่ถูกคลุมศีรษะไว้เพื่อไม่ให้มองว่าถูกพาไปที่ไหน นี่เป็นเวลาที่เขาได้ใช้สายตาจริงๆเสียที เมื่อพิจารณาก็พบว่าเขาน่าจะอยู่ในโรงงานเก่าๆแห่งหนึ่ง เก้าอี้ตัวหนึ่งมีผู้ชายสวมชุดสีดำนั่งอยู่ เขายิ้มให้แจ๊คสันอย่างถือไพ่เหนือกว่า




     

    “สวัสดีครับคุณชายหวังเจียเอ๋อ ได้ทักทายกันอย่างเป็นทางการเสียทีนะครับ” เขาผู้นั้นมองแจ๊คสันราวกับกำลังใช้คมมีดกรีดบนใบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะมันเป็นสายตาบาดลึกที่แวววับเหลือเกิน

     

     

     

     

    “แก” แจ๊คสันเข่นเขี้ยว พยายามประคองตัวเองให้ลุกขึ้น


     

     

    “อย่าฝืนเลยครับคุณชาย ตอนนี้ร่างกายของคุณคงบอบช้ำมาก ผมบอกแล้วไงว่าให้ตามมาดีๆอย่าขัดขืนน่ะ ไม่อยากให้คุณต้องเจ็บตัวแท้ๆ............แต่ดันฤทธิ์มาก” เสียงท้ายยียวนแจ๊คสันสุดๆ
     


    “นายต้องการอะไร”

     

    “ผมน่ะไม่ต้องการอะไรหรอกครับ  แต่เป็นแก๊งค์ของผมต่างหากล่ะ”

     

    “ว่ามา” แจ๊คสันรีบต่อรอง ในใจยังไม่ลืมว่าทำไมถึงถูกนำตัวมาที่นี่

     

     

     

     

    ..............แบมแบม...........................

     


    “ใจร้อนจังนะครับ ผมว่าเรื่องธุรกิจน่ะต้องค่อยๆคุยกันดีกว่านะ”

     

     

    “ฉันคนเดียวตัดสินใจอะไรไม่ต้องหรอก แกก็รู้ว่าฉันไม่ได้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในตระกูล”

     

    “ผมรู้ คุณยังมีพี่ชายอีกคน น่าเสียดาย........ที่อิตาลี” เพียงเท่านี้แจ๊คสันถึงกับฉุนขาด

     

     

    “ เป็นพวกแกจริงๆด้วย” แจ๊คสันโถมตัวเข้าไปหามัน แต่ทว่าชายอีกสองคนข้างๆจับตัวเขาไว้ไม่ให้ขยับไปได้มากกว่าที่ใจต้องการ แจ๊คสันได้แต่โมโห

     

     

     

    “ก็ได้ครับ ผมไม่ทำให้คุณชายเสียเวลาไปมากกว่านี้ก็ได้ เหวินเล่อพาเด็กนั่นเข้ามา"

     

     

    “ครับบอส” ชายที่ชื่อเหวินเล่อขานรับคำสั่ง ท่าทางของเขาดูก็รู้ว่ามืออาชีพ เด็กนั่นที่มันหมายถึงถูกกระชากตัวออกมา มือถูกมักไพล่หลัง และปากถูกอุดด้วยผ้าไม่ให้ส่งเสียงร้อง และตาก็ถูกปิด

     

     

     

     

    “เปิดปากมัน”

     

     

    “นั่นนายใช่ไหม แจ๊คสัน พวกบ้านี่เป็นใครกัน แล้วพี่มาร์คล่ะ พี่เขาอยู่ไหน”

     


     

     

                แบมแบมกำลังร้องเรียกแจ๊คสันแม้ว่าจะมองไม่เห็นแต่เขาจำเสียงของแจ๊คสันได้



     

     

    “น่าสงสารนะ อยู่กับคนนึงแต่ร้องหาอีกคนนึง ท่าทางคุณจะไม่ค่อยมีความสำคัญสำหรับเด็กนี่เท่าไหร่นะ น่าเห็นใจจริงๆ อุตส่าห์ออกมาแลกตัวกับคนคนนั้น” แจ๊คสันเจ็บใจ ขณะที่ยิงต่อสู้กัน แบมแบมถูกจับตัว มาร์คโดนซ้อม แจ๊คสันจำต้องออกไปเสนอให้พวกมันปล่อยสองคน





     

    “นายเอาตัวเด็กคนนี้มาด้วยทำไม เขาไม่เกี่ยว”แจ๊คสันนึกถึงจังหวะนั้น เขาเป็นห่วงแบมแบมมากเกินไปรึเปล่า พวกมันจึงจับจุดเขาได้ มันใช้แบมแบมเป็นเครื่องต่อรอง ซึ่งมันก็ได้ผลซะด้วย ตอนนี้แจ๊คสันคิดอะไรไม่ออกเมื่อมีแบมแบมอีกคน


     

     

     

    “มีความสำคัญมากจริงๆสินะ” มันหัวเราะเยาะ แจ๊คสันมองแบมแบมอย่างเป็นห่วง

     

     

    “เปิดผ้าปิดตามันออก ได้เวลาวอเตอร์บอร์ดดิ้งแล้ว”

     

     

    “อย่าทำเขา บอกสิ่งที่นายต้องการมา” แจ๊คสันตะโกน เขาหันไปมองแววตาของแบมแบมที่มองทุกคนอย่างงงๆ

     



     

    “แจ๊คสัน!” แบมแบมมองหน้าเขาก่อนที่จะถูกรวบตัวให้นอนบนโต๊ะตัวใหญ่ ผ้าขนหนูสีขาวเปียกน้ำผืนหนึ่งถูกโปะลงมาที่ใบหน้าของแบมแบม เจ้าหนูพยายามร้อง แต่ว่าหัวกลับถูกผ้าผืนยาวอีกผืนมัดให้ตรึงอยู่กับที่

     


     

     

    “อย่าใจร้อนสิครับ โชว์กำลังจะเริ่ม ไว้จบโชว์นี้ก่อน ผมว่าเราน่าจะคุยกันได้ง่ายขึ้นนะ ว่าไหมครับ คุณชายหวัง”

     


    "ซี้ด-ซี๊ด"

     

    น้ำถูกราดลงมาบนผ้าขนหนู เสียงหายใจฝืดฝาดของแบมแบมเพราะไม่สามารถหายใจได้พยายามสูดอากาศอย่างทรมาน มันเหมือนดังคำสาปกรีดแทงหัวใจของแจ๊คสัน


     

     

    “พอก่อน” การราดน้ำถูกห้าม และแบมแบมก็ได้รับการอนุญาตให้หายใจอีกครั้ง

     

     

    “แค่ก แค่ก!” แบมแบมเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ เขาเคยรู้วิธีการทรมานแบบนี้ แต่ไม่นึกว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ

     

     

    “จะ  แจ๊คสัน” แบมแบมส่งสายตาทรมานมาให้แจ็คสัน



     

     

     

        .....ทำไมนายต้องมาเรียกชื่อฉันในสถานการณ์แบบนี้ด้วยนะ ฉันไม่ดีใจเลยสักนิด.....

     

     

     

    “แบมแบมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!








    To be continued.




    ///////////////////////




    ตอนนี้อาจจะโหดไปนิดหน่อยค่ะ ส่วนเรทไรท์ให้ PG-13 นะคะ คืออาจจะมากกว่านี้ก็ได้ค่ะ แต่ไรท์เข้าข้างตัวเอง 55 ใครเด็กกว่านี้อ่านแล้วต้องใช้วิจารณญาณนิดนึงค่ะ หลายคนบ่นว่าพี่มาร์คร้าย แต่ไรท์มีตัวร้ายกว่าพี่มาร์คอีกค่ะ เอาเป็นว่าคงจะหายเกลียดพี่มาร์คได้บ้างนะคะ (สงสารพี่มาร์คเหอะ)



    water-boarding เป็นการทรมานเพื่อให้เชลยคายความลับค่ะ ถูกใช้มาเป็นระยะเวลายาวนานมากแล้ว คนที่โดนจะรู้สึกเหมือนจมน้ำเพราะขาดอากาศหายใจค่ะ ความจริงมีอีกหลายวิธีค่ะ แต่ไรท์เลือกมาอันเดียวให้แบมแบม ไม่อยากให้เลือดตกยางออก (แต่ก็ S ใช้ได้) บางคนถึงกับหลอนไปเลยค่ะหลังจากโดน water-boarding ส่วนใหญ่จะคายความลับไม่ก็จะยอมโกหกอะไรก็ได้ออกมาค่ะ เพราะมันเหมือนฝันร้ายจริงๆ   ฟิคนี้ไรท์จะพยายามไม่ให้โหดเกินไปนะคะ (ที่อยู่ในใจไม่สามารถเขียนมาให้อ่านได้ค่ะ)



    หากใครสนใจอะไรแบบนี้แนะนำซีรี่ส์ Criminal minds ค่ะ   ขอโทษที่ทำร้ายเด็กๆนะคะ  แต่ก็เขียนเพลินมาก เขียนได้เยอะกว่าตอนอื่นๆเห็นๆ ฮ่าฮ่า-ไรท์ (สาย S) ค่ะ












     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×