ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] พี่เขยฮะ ตอนนี้ผมรักพี่แล้วฮะ (Bambam,Jackson,Mark)

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter : 10 Bromance

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 57


            

    (ได้โมเม้นท์หลีดมาอยากเขียนฟิคเลยอ่ะ)




          
    สมัยก่อนทุกทุกวันในเวลาเย็นการมารอใครบางคนที่สนามบาสแห่งนี้อาจะเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับใครหลายๆคน แต่คงไม่ใช่กับอิมแจบอม การได้จับลูกบาสชูตลงห่วงตอนฆ่าเวลารอคอยทำให้จิตใจของเขาสงบขึ้น บางสิ่งที่กว่าจะรู้ตัวก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้วเกิดขึ้นอย่างไม่น่าให้อภัย ทั้งๆที่สัญญาว่าจะคอยปกป้องคนคนนั้นจากใครบางคน แต่เขากลับไม่สามารถห้ามหัวใจและปล่อยให้ความเพ้อฝันเข้าครอบคลุมจิตใจของตัวเองแทน ภาพในอดีตผุดเข้ามาทักทายเขาทีละน้อยจากความทรงจำ

     


    “รอนานป่าววะ”

     
     


    “ทำไมช้าจังวะ มัวทำอะไรอยู่” กระดุมเสื้อเม็ดที่สองหลุดจากรังดุมสะกิดใจของแจบอม เขามองมัน รอยเล็กสีแดงจางๆใต้กระดูกไหปลาร้าของคนตรงหน้า

     
     

     

    ..............อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม......................

     
     


    “ปะ ปล่าว เล่นกันเหอะ” ลูกบาสที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นถูกจับขึ้น ลูกชู้ตสามคะแนน แน่นอนว่าไม่มีวันพลาดเป้าลงห่วงอย่างสวยงาม

     



    “ยะฮู้ว! เห็นป่ะ เจ๋งมะ” คนทำคะแนนได้ดีใจ วิ่งไปมา แจบอมวิ่งไปเก็บลูกบาสและส่งให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แค่คนคนนี้ยิ้ม เขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
     

     


    หลังจากที่เล่นบาสกันจนเหนื่อย แจบอมก็เอ่ยถามคนที่เดินอยู่ข้างๆเขาอย่างสงสัย

     
     


    “ทำไมช่วงนี้นายถึงอยากเดินกลับบ้านวะ” ปกติคนคนนี้จะมีรถหรูมารับตลอด แม้ว่าจะได้เล่นบาสด้วยกันบ่อยๆ แต่ก่อนหน้านี้แจบอมก็ไม่มีโอกาสได้เดินกลับบ้านพร้อมกันแบบนี้เลย



     

    “ฉันไม่อยากกลับกับเจ้านั่นว่ะ” นั่นไง เจ้านั่นอีกแล้ว แจบอมรู้สึกไม่พอใจเล็กๆ อะไรบางอย่างทำให้เขาไม่อยากได้ยินคำนี้ เพราะเจ้านั่นของคนข้างๆเขา มักจะมาแทรกในทุกๆช่วงเวลาที่แจบอมกำลังมีความสุขทุกที

     
     


    “อืม...มาร์คทำอะไรนายอีก” ไม่อยากถามก็ควรต้องถาม แจบอมรู้สึกสงสารคนตรงหน้าเขามากกว่า นายอยากระบายอะไรก็บอกมาเลย
     

     

    “เอ่อ...มาร์ค...อืม..ฉันไม่รู้จะบอกนายยังไงดี”

     

    “พูดมาได้เลย นายบอกฉันได้ทุกเรื่อง  ก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอวะ”

     




    ...............เพื่อน....ใช่! ฉันเป็นแค่เพื่อนของนาย....................

     

    .........................อา....ทำไมรู้สึกเจ็บแปล๊บๆนะ......................

     
     

     

    ดูเหมือนว่าแค่เพื่อนอาจไม่สำคัญพอ เพราะไม่มีพูดใดๆออกมา นอกจากใบหน้าที่เสมองไปด้านข้าง เสียงถอนหายถูกพ่นออกมาให้ได้ยินก่อนที่แจบอมจะได้รับคำตอบที่อาจจะไม่ใช่ของจริง

     
     


    “คือฉันแค่รู้สึกเจ็บใจที่คะแนนสอบคราวนี้ฉันแพ้หมอนั่นน่ะ ฮะฮะ ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อิจฉา”

     


    “งั้นเหรอ”  สีหน้าคลางแคลงใจทำให้คนตอบเกิดอาการอึกอัก เพราะแจบอมไม่ปล่อยผ่าน อะไรที่ทำให้คนคนนี้กำลังลำบากใจ เขาอยากรู้

     

     

    “นายไม่เชื่องั้นเหรอ”

    “ไม่นี่ ฉันเชื่อนาย หน้าฉันมันบอกว่าฉันไม่เชื่ออย่างนั้นเหรอ” สุดท้ายก็ต้องยอม เขาไม่อาจให้ความสำคัญกับความอยากรู้ของตัวเองมากกว่าจิตใจของคนข้างๆ



    “ก็นายไม่เหมือนทุกทีนี่หว่า ทำไมต้องทำหน้าจริงจังขนาดนี้ด้วยฮะ”

    “ฉันจริงจังเสมอแหละ”




    .....................ถ้าเป็นเรื่องของนาย......................................




    “ยังไงก็ช่างมันเหอะ เรื่องไอ้มาร์คน่ะ”

    “ฉันเป็นห่วงนายนะ ยังไงนายก็อยู่บ้านเดียวกับหมอนั่น”

    “จะเป็นห่วงฉันทำไม ฉันเป็นถึงคุณชายนะเฟ้ย ฮ่าฮ่าฮ่า”

    “ยังไงก็เป็นห่วงอยู่ดี ก็....เราเป็นเพื่อนกันนี่นา”

     

     

                คำพูดสุดท้ายถูกเอ่ยออกมาอย่างยากเย็น ทำไมเขาถึงเป็นได้แค่เพื่อนล่ะ เพื่อนที่แสนดีงั้นเหรอ ใช่!ตลอดมาก็มีแต่คำๆนี้ สนิทกันไม่เคยแบ่งแยกเรื่องฐานะ แต่แล้วทำไมจู่ๆถึงรู้สึกหวงคนคนนี้ขึ้นมาได้ เพราะตั้งแต่เจ้าหมอนั่นกลับมา คนข้างๆเขาก็มีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป

     

     

    “เออ วันนี้ฉันไม่เข้าบ้านนายนะ” แจบอมบอก

    “เฮ้ย ทำไมวะ” คนถามประหลาดใจ ปกติแจบอมจะเข้ามาเล่นที่บ้านของเขาประจำ ส่วนใหญ่ก็จะเล่นเกมส์ ไม่ก็ขอให้เขาช่วยติวหนังสือให้

     

     

    “วันนี้ฉันต้องรีบกลับบ้านน่ะ พอดีญาติที่เกาหลีจะมา”

    “อืม  งั้นไม่เป็นไร”

     

    “นายก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะ” แจบอมกำชับ ทำไมต้องบอกแบบนี้ล่ะ ปกติไม่เคยพูด ทำเอาคนฟังแปลกใจ วันนี้เพื่อนของเขาขรึมกว่าทุกวัน หรือว่าเขามีอะไรที่ผิดสังเกตุให้แจบอมเห็นงั้นเหรอ แจบอมเท่านั้นที่ไม่อยากให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่อยากให้สิ่งที่พึ่งพิงสิ่งเดียวตอนนี้หลุดมือไป

     
     

    “อืม ไว้เจอกัน”
     

     

                แจบอมยืนส่งจนอีกฝ่ายเข้าไปในบ้าน สายตาคู่หนึ่งไกลๆกำลังมองมาที่แจบอมอย่างพิจารณา แจบอมเงยหน้าไปมองเจ้าของดวงตาคู่นั้น อันที่จริงเขารู้ว่าคนคนนั้นมองเขาอยู่นานแล้ว

     

     

     

    ..........................มาร์ค นายกำลังทำอะไรกับหมอนั่นกัน.................................

     



    แจบอมได้แต่ถามตัวเอง ในขณะที่อีกฝ่ายหันกลับเข้าไปในบ้าน

     
     


    ...........................แจ๊คสัน ไม่ว่ายังไงฉันก็จะปกป้องนาย.............................

     


     

     

     

       แจบอมพยายามสลัดภาพในหัวออกไป ตอนนี้เขาอยู่ที่สนามบาสเดิมในอดีต เพียงแต่ว่าสิ่งที่ต่างคือ การที่ยืนอยู่คนเดียวโดยไม่มีคนอีกคนอยู่ข้างๆเท่านั้น อยากรู้เหลือเกินว่าคนที่เขาคอยห่วงในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

     


     

    “แจบอมฮยอง จะมีเด็กใหม่มาจากตระกูลหวังด้วยนะ” จินยองบอกเมื่อวานตอนผมไปที่บ้านมัน มันเป็นเด็กแถวบ้าน ครอบครัวเกาหลีที่มาอยู่ในฮ่องกงก็มักจะอยู่รวมกัน ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลหวัง ทุกคนต่างอยากรู้เรื่องของตระกูลนี้กันทั้งนั้น เพราะว่าที่ผู้นำตระกูลหวังคนถัดไป จบจากโรงเรียนที่จินยองเรียนอยู่

     

     

    “ตระกูลหวัง” แจมบอมประหลาดใจ จินยองขยับแว่นตาให้เข้าที่ก่อนจะร่ายต่อ

     

     

    “ฮยองเป็นเพื่อนซี้กับคุณชายหวังไม่ใช่เหรอ อิจฉาจังเลยที่ได้เป็นเพื่อนกับมาเฟียด้วย”

    “อย่าพูดมากน่า แค่เรื่องสมัยก่อน ฉันไม่ได้เจอหมอนั่นตั้งนานแล้ว”

    “ฮยองนี่ก็แปลก ทำไมต้องเลิกคบคนรวยๆแบบนั้นด้วย เป็นผมนะผมจะตีซี้เกาะไม่ยอมหลุดเลย”

    “ไอ้เด็กนี่” แจบอมตีหัวจินยองเบาๆไปทีนึง

    “โอ๊ยเจ็บนะ” เด็กหนุ่มลูบหัวตัวเองป้อยๆ อะไรกัน ไปจี้จุดส่วนไหนไม่ทราบ

    “เออ...พรุ่งนี้ นายไปบอกให้เด็กใหม่มาหาฉันหน่อยนะ ที่สนามบาสน่ะ”

    “รับน้องอีกแล้วเหรอ อิอิ” จินยองกระเซ้า



    “รับน้องบ้าอะไร ฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นนายแล้วเฟ้ย ตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” แจบอมอยากจะป้าบมันอีกที มันก็ใช่ ที่เมื่อก่อนมีธรรมเนียมอะไรแบบนั้น ที่สำคัญหัวหน้ากลุ่มก็ดันเป็นเขาซะด้วย

     

     
     

    ..........ห้ามคนในโรงเรียนเป็นตุ๊ด......
     

    ..........ใครเป็นตุ๊ดจะโดนลงโทษ........

    ............ห้ามมีแฟน......................

     

     

    ใช่!คนที่ออกกฏใต้ดินนี้ก็คือเขาเอง แต่ที่ทำไปก็เพื่อปกป้องคนคนนั้น ไม่ให้โดนทำอะไรต่างหาก คิดย้อนกลับไปนั่นโคตรจะไร้สาระเลย แต่มันนึกวิธีอื่นไม่ออกนี่นา อย่างน้อยในโรงเรียนก็อยากให้มีคนอื่นช่วยเป็นหูเป็นตาแทนให้

     

     

    .........ไม่งั้นแจ๊คสันจะโดนทำอะไรมากไปกว่ารอยคิสมาร์คบ้างก็ไม่รู้..........
     

    ...........นั้นเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด............


     

    “รึว่าพวกแก ยังสร้างข่าวลือนั่นอีก” แจบอมซักจินยองที่เริ่มรู้สึกงานเข้า

     

     

    “ผมไม่เกี่ยวนะ ไอ้แทฮวานมันบอกว่าผู้คุมเป็นกลุ่มสืบทอดของเกาหลี พวกเราแค่ไม่อยากให้กลุ่มที่ฮยองตั้งมาด้วยความยากลำบากหายไป  เอิ่ม.....ก็แค่นั้น” จินยองแก้ตัวลนลาน


     

     

    “ไอ้เด็กบ้าพวกนี้นี่” แจบอมโมโห แม้ว่าเขาจะเคยทำเรื่องแบบนั้นจริง แต่เหตุผลที่จริงแล้วไม่ได้กะตั้งเป็นกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในโรงเรียนแบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้สักหน่อย มันก็แค่ว่า...........ทำเพื่อใครบางคนก็เท่านั้น

     

     
     

    “ฮยองอย่าว่าพวกเราเลยนะ ที่จริงฮยองก็เคยเป็นหัวหน้าเหมือนกันแหละ  ช่วงนี้ผมว่าฮยองปล่อยๆไปก่อนดีกว่า ผมกลัวไอ้พวกนั้นมันแฉฮยอง มันจะไม่ดีเอานะ ตอนนี้ฮยองอยู่ในช่วงฝึกสอนนี่นา” จินยองเกลี้ยกล่อม อันที่จริงแจบอมรู้ว่ามันคือการขู่ชัดๆ

     

     
     

    “ฉันจะจัดการเรื่องนี้แน่ ไว้หลังจากผ่านการฝึกสอนก่อนเหอะ”


     

    “คร้าบบบบบบ  คุณครูแจบอม อิอิ”  ไอ้เด็กจินยองมันล้อเลียนไม่เกรงกลัว หนอยแน่ ทำเป็นได้ใจนะ เอาเรื่องในอดีตมาเล่นต่อรองแบบนี้ไม่แมนเลยสักนิด แจบอมอยู่ในสภาพกล้ำกลืนฝึนทน เพราะตอนนี้เขาเป็นครูฝึกสอนที่โรงเรียนจินยองอยู่หรือก็คือโรงเรียนเก่าของเขานั่นเอง

     

     

                ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยเขาก็พยายามไม่ไปเจอแจ๊คสันอีก จนอีกฝ่ายบ่นว่าทำไมไม่เคยว่าง อันที่จริงคนที่ไม่ว่างน่าจะเป็นแจ๊คสันมากกว่า เพราะแจ๊คสันเรียนหนักมาก เหตุผลที่แท้จริงแล้ว แจบอมก็รู้ว่าเพราะอะไร   


     

    .............แม้จะหนีเท่าไหร่ แต่หัวใจก็ไม่อาจวิ่งหนีความรู้สึกลึกๆที่กัดกินหัวใจอันแข็งแกร่งภายในได้............

     

     

    //////////////////////////////////////////////////////

     

     
     

    “อะไรนะ เจ้าแจบอมที่ว่าเป็นครูอย่างนั้นเหรอ” แบมแบมโวยวายหลังจากที่ไอ้เด็กหน้าห้อง พาเขามาที่สนามบาสในตอนพักกลางวันตามนัด

     

     

    “ครับ แต่ตอนนี้เป็นครูฝึกสอน” ยองแจรู้สึกกลัวแบมแบมนิดหน่อยในตอนแรก แต่เมื่อได้คุยกันตอนกินข้าว แบมแบมก็ไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายอะไร ออกจะเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ท่าทางชอบวางฟอร์มก็เท่านั้น ถ้าไม่นับหน้าตาที่น่ารักราวกับผู้หญิงนี่ล่ะก็ ยองแจก็รู้สึกว่าแบมแบมเป็นคนที่เท่ห์คนหนึ่งทีเดียว

     
     

    “แล้วตัวใหญ่ไหม”

    “ก็ใหญ่นะ เป็นครูพละน่ะ”

     

    “ห๊า! ครูพละ งั้นก็ถึกมากดิ แล้วฉันจะสู้ได้ยังไงเนี่ย” แบมแบมเกาหัว จุดมุ่งหมายแรกที่จะตั้นให้สลบเพื่อสยบศัตรูพังไม่เป็นท่า จะทำยังไงดี


     

    “อย่าเลยครับ เขาแข็งแรงมากจบจากมหาวิทยาลัยกีฬาด้วย นายไม่มีทางสู้ได้หรอก”

    “แล้วทำไมหมอนั่นถึงเกี่ยวกับเรื่องผู้คุมอะไรนั่นล่ะ” แบมแบมนึกถึงตอนที่ไอ้แว่นเกาหลีบอก นี่มันเป็นถึงครูแต่มายุ่งเรื่องเด็กนักเรียนเนี่ยนะ อะไรกันฟระ! ไม่เป็นผู้ใหญ่เลย

     

    “ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้หรอกครับ ว่าเป็นยังไง พอดีก็เพิ่งเจอฮยองเมื่อต้นปีเหมือนกัน”

    “อะไรยองๆ”

    “อ๋อ ฮยองเป็นภาษาเกาหลีใช้เรียกพี่ชายน่ะครับ”

     

    “เฮ้ย  งั้นนายก็หนอนบ่อนไส้นี่หว่า นายเป็นน้องมัน อยากเจ็บตัวแทนพี่ชายไหม” แบมแบมตกใจที่รู้ว่าตัวเองคุยกับน้องของ(ว่าที่)ศัตรูมาตลอด ยองแจรีบแก้ตัว


     

    “เปล่าครับ แจบอมฮยอง ไม่ใช่พี่ชายผมหรอกครับ แค่เป็นญาติกัน เอ่อ....อยู่บ้านเดียวกัน  แค่นั้นเองครับ” ยองแจก้มหน้าอุบ

    “อยู่บ้านเดียวกัน! ยิ่งไปกันใหญ่ ยังไงนายก็ต้องเข้าข้างหมอนั่นมากกว่าฉัน เพราะฉะนั้นนายก็ยังเป็นหนอนบ่อนไส้อยู่”

     

    “ปล่าวนะครับ ฮยองเขาไม่ชอบผมหรอกครับ  พอดีว่าพ่อแม่ผมอยู่ที่เกาหลีพวกเขาส่งผมมาเรียนต่อก็เลยมาอยู่กับฮยองก็แค่นั้น  ผมคิดว่าฮยองน่าจะเกลียดผมมากกว่าเพราะผมมาเป็นภาระของฮยองเค้า แทนที่จะได้อยู่คนเดียวสบายๆกลับต้องมาทนอึดอัดกับเด็กที่ไม่เคยรู้จักอย่างผมน่ะ” ยองแจเล่าไปก็เหมือนจะเศร้าไป จนแบมแบมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ทำให้ยองแจนึกถึงเรื่องแย่ๆ


     

    “ยะ  อย่าเศร้าดิ ฉันปลอบใจใครไม่เป็น”

     

    “ครับ ขอบคุณครับ” น้ำตาเริ่มไหลจากดวงตาของยองแจ มันหยดแหมะลงบนปกเสื้อสีเข้มจนเห็นรอยเปียกเป็นดวงๆ แบมแบมเริ่มลนลาน เกิดมาไม่เคยรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ ปกติมีแต่หาเรื่องคนกร่างๆ พอเจอคนขี้แยชักไปไม่เป็น


     

    “นายร้องไห้ทำไมอ่ะ” แบมแบมพยายามล้วงหาผ้าเช็ดหน้า นึกขึ้นได้ หนุ่มร๊อคไม่พกผ้าเช็ดหน้านี่หว่า เฮ้อ! ทำไงดีวะ
     

    “ผมของโทษครับ อาจจะคิดถึงพ่อกับแม่ขึ้นมาน่ะ แต่ไม่เกี่ยวกับแจบอมฮยองนะครับ ฮยองเค้าไม่ได้ใจร้ายอะไรกับผมหรอก”
     

    “คำก็ฮยอง สองคำก็ฮยอง ฉันว่าไอ้ที่นายเศร้าเนี่ยเป็นเพราะหมอนั่นชัวร์” แบมแบมสรุป

     
     

    “คนที่พวกนายกำลังพูดถึงน่ะ หมายถึงฉันรึเปล่า” เสียงห้าวหนึ่งดังขึ้น แบมแบมสะดุ้งเล็กน้อยและหันไปมองชายร่างสูง รูปร่างแข็งแรง นี่คือเจ้าครูที่ชื่อแจบอมอย่างนั้นเหรอ...........ท่าทางวางก้ามชะมัด............
     

     
     

    “เออ ถ้าใช่แล้วไง”

     

    “ตอบไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลยนะ ไอ้เด็กคนนี้”

     

    “คนอย่างแกเป็นครูได้ไงฟระ” แบมแบมจ้องเขม็งไปยังแจบอม

     

    “แล้วนายเป็นนักเรียนอย่างไหนกัน พูดจาแบบนี้กับครูบาอาจารย์ได้ยังไง”แจบอมประสานตาตอบ

     

    “ฉันรู้แล้วไอ้เรื่องผู้คุมอะไรนั่น ขอบอกไว้ก่อนเลย ฉันไม่ได้เป็นตุ๊ด เพราะฉะนั้นอย่ามาหาเรื่องกัน”

     

    แจบอมถอนหายใจ เห็นทีจะต้องแก้ไขความเข้าใจผิดเรื่องผู้คุมอะไรนี่ซะหน่อยละ ไอ้พวกจินยองต่อยอดเรื่องนี้ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้
     

     

    “เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับฉัน...”

     
     

    “แล้วเรื่องของหมอนี่ล่ะ” ยังไม่ทันจะพูดจบ แบมแบมก็ตัดบทของเขาซะอย่างนั้น ยองแจที่กำลังเช็ดน้ำตาให้แห้ง เหลือบมองแจบอมอย่างกลัวๆ
     

     

    “เรื่องอะไร” แจบอมถามนิ่งๆ ทำไมยองแจมาเกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อไหร่
     

     

    “นายอยู่บ้านเดียวกับหมอนี่ใช่ไหม”

    “ก็ใช่ พ่อแม่เขาฝากฉันไว้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย”

    “นายใจร้ายกับหมอนี่รึเปล่า”

    “หา?”

    “นายดูแลเขาดีรึเปล่า”

    “นายเกี่ยวอะไรด้วย” แจบอมไม่เข้าใจไอ้เด็กนี่จริงๆ ตอนแรกกะจะถามเรื่องของแจ๊คสัน แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับกลายเป็นว่าเขามีเรื่องกับแบมแบมแทน

     

     

    “ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็หมอนี่ตกลงเป็นแฟนฉันแล้ว ฉันก็ต้องอยากรู้สิว่าทำไมคนที่อยู่บ้านเดียวกับแฟนตัวเองทำอะไรไว้จนเขาต้องร้องไห้”

     

     

    “หา!

    “หา!
     

     

    แจบอมและยองแจอุทานออกมาพร้อมกัน มองหน้าแบมแบมอย่างตกใจ  นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย
     

     
     

    “รู้ไว้ซะ ไอ้กฏบ้าบอห้ามเป็นตุ๊ด ห้ามมีแฟนน่ะ ฉันไม่สนใจหรอก ฝากบอกด้วยว่าถ้าใครมีปัญหาให้มาตัวต่อตัวกับฉัน สำหรับนายน่ะ คงไม่มายุ่งกับเรื่องของเด็กนักเรียนหรอกใช่ไหม ไปกันยองแจ” แบมแบมฉุดมือยองแจที่ทำหน้างงไปด้วยกัน  แจบอมอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา 



     

     

    .......ไอ้เด็กจากตระกูลหวังคนนี้มันร้ายไม่หยอก...........

     

    .....แจ๊คสันจะเอาเด็กนี่อยู่ได้ไหมนะ.........

     
     

     
     

    เรื่องบางเรื่องอาจจะต้องปล่อยผ่านไปก่อน ยังไงซะตอนนี้มันก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร เพราะยังไงเขาก็ยังไม่อยากจะเจอแจ๊คสันในช่วงเวลานี้ อยากให้จิตใจเข้มแข็งกว่านี้ก่อน รอจนกว่ามันจะไม่มีผลอะไรกับจิตใจอีก รอวันที่จะสบตากับเพื่อนเก่าคนนั้นได้อย่างสบายใจกว่านี้

     

     

    ..........ฉันรักนาย............

    ..........เพื่อนรัก..............





    To be continued.




    //////////////////////





    ใครจะว่าไรท์แปลกก็แหอะ แต่ไรท์จิ้นคู่นี้นะ ฟินมาก555 คือไม่รู้เป็นไงช่วงนี้หวังเคะมาก ในขณะที่แบมแบมก็แผ่รัศมีเมะออกมาเรื่อยๆ ไรท์ไม่สามารถจิ้น jackbam ได้อ่ะช่วงนี้ สงสัยตั้งแต่ดู igot7 ep 9-10 แบบว่าคู่หลีดกับแจ๊คมันกร๊าวใจมาก ฮ่าฮ่า
    ไรท์ดูคู่นี้อยู่ด้วยกันเพลงนี้ลอยออกมาเลยค่ะ


    Bromance   Bro-o-o-mance...............อร๊างงงงงงงงงงงง >//////<
    (เนื้อเพลงกับลิ้งค์อยู่ด้านล้างนะคะ)


    ใครที่หลงมาอ่านก็ขอโทษด้วยนะคะ ฟิคนี้ยังเป็นฟิค แจ๊คแบมอยู่ค่ะ เพียงแต่ว่าไรท์ไปเสพเด็กๆกลับมามันก็จะมีโมเม้นท์นู้นนี้บ้าง คือสารภาพว่ามีพล็อตบางๆไว้แค่นั้น ส่วนรายละเอียดเนี่ยคิดตอนต่อตอนตามแต่จะมโนเลยอ่ะค่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านกันค่ะ

    ปล.เรื่องนี้หวังอาจจะมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากชีวิตจริงของหวังไปบ้าง ยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ(ไรท์ชอบแกล้งพระเอก 555) ขอบคุณค่ะไปแว้ว-ไรท์


    "Bromance"
    (feat. Ryan Higa)


     

    Bromance

    Bro-o-o-mance

    It's like Eminem and Dr. Dre
    If I loved you more I might be gay
    And when I'm feeling down
    You know just what to say
    You're my homie (homie)
    Yeah ya know me (know me)
    And if you ever need a wingman
    I'd let any girl blow me off
    Cause you're more important than the rest
    I confess I'm a mess
    If I'm not hangin' with my BFF
    You know it's true
    You my male boo
    Now sing the chorus with me
    If you're feeling the same way too

    Bromance
    Nothing really gay about it
    Not that there's anything wrong with being gay (gay)
    Bro-o-o-omance
    Shouldn't be ashamed or hide it
    I love you in the most heterosexual way

    Hold me to a promise
    That I'll will be the kind of friend
    That in the end
    Will always keep you company
    Cause when the world gets tough
    And times get hard
    I will always love you
    I'll be your bodyguard
    Cause you're my bestie (bestie)
    And if you test me (test me)
    I'll prove it time and time again
    I got your back until the end
    A brother from another mother
    Never knew how much I loved ya
    'Til I started singing this song (Huh)

    Bromance (Bromance)
    Nothing really gay about it
    Not that there's anything wrong with being gay (gay)
    Bro-o-o-omance (Bromance)
    Shouldn't be ashamed or hide it
    I love you in the most heterosexual way

    And now that I've told you how I feel
    I hope you feel the same way too
    But if you don't
    This song was just a joke (Ha ha ha)
    But if you do
    I love you

    Bromance (bromance)
    Nothing really gay about it (nothing gay)
    Not that there's anything wrong with being gay
    Bro-o-o-omance (bromance)
    Shouldn't be ashamed or hide it
    I love you (love you) in the most heterosexual way

    I love you bro


    http://www.youtube.com/watch?v=EJVt8kUAm9Q   
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×