ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] พี่เขยฮะ ตอนนี้ผมรักพี่แล้วฮะ (Bambam,Jackson,Mark)

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9 Korean wave

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ค. 57



    (หนุ่มร๊อค จริงๆง่ะ?)  ซ้าย VS ขวา



    เหวินเจิ้งเอาแต่ยิ้มตลอดทาง เพราะขำแบมแบมที่เอาแต่บ่นเรื่องทรงผมอยู่นั่นแหละ เจ้าตัวโวยว่าจะเอาให้ออกมาเท่ห์ๆเหมือนนักร้องวงร๊อค เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าภาพแบบผมที่แบมแบมเลือกมันเข้ากับเจ้าตัวตรงไหน ผมด้านข้างถูกตัดสั้น เหลือข้างบนหน่อยที่ยาว แบมแบมเสยผมไปมาเพื่อจัดทรง ให้เป็นแนวตั้งขึ้น ไฮไลท์สีแดงข้างหน้าเนี่ยมองยังไงก็นึกถึงนกหัวขวาน มันคือนกหัวขวานที่มีกระบังหน้าสีแดงชัดๆ ถ้าหมอนี่เป็นนก จริงๆก็คงจะเจาะต้นไม้ได้ทั้งวันแน่ๆ ท่าทางพลังทำลายล้างในตัวสูง คิดแล้วคงน่าสนุกพิลึก จินตนาการบ้าบอทำเอาเหวินเจิ้งไม่รู้ตัวว่าขับรถเข้ามาถึงหน้าบ้านแล้ว
     

     

    “นายว่าทรงผมฉันเป็นไง ดูเท่ห์ไหม” เสียงโทรศัพท์ที่แบมแบมใช้สื่อสารกับเหวินเจิ้งถามขึ้น
     

     

    “ยิ้มอะไรของนาย” แบมแบมหน้ามุ่ยพูดกับตัวเองเมื่อถามแล้วไม่ได้รับคำตอบ ใช่ซี้ นายมันตัดทรงไหนก็ดูแมน ดูไม่เหมือนผู้หญิง ถ้าเลือกเกิดได้ ฉันก็ไม่อยากเกิดมาหน้าตาแบบนี้หรอกเจ้ายักษ์ ฮึ่ย!  แบมแบมอิจฉาเหวินเจิ้งที่เปลี่ยนทรงผมออกมาแล้วดูดี ไฮไลท์กับทรงรีเจ้นท์โบราณรุ่นอันถพาลครองเมืองถูกจัดแต่งเป็นทรงวัยรุ่นตามสมัยนิยมทั่วไป ที่มันน่าโมโหก็คือ ทำไมตัดผมแล้วมันหล่อกว่า มีตัวเปรียบเทียบแบบนี้ แบมแบมชักฉุนหนัก

     
     

    รถจอดสนิท เหวินเจิ้งรีบออกมาถือของให้แบมแบม ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า ไม่รู้เก็บกดอะไรนักหนาซื้อมาเยอะมาก เหวินเจิ้งคงไม่รู้ว่าตอนนี้แบมแบมยังคงหลอนกับชุดกระโปรงอยู่ พ่อบ้านเล้งเดินเข้ามาหาแบมแบม ก่อนที่คนอีกคนจะเดินวางมาดตามมาช้าๆ

     
     

    “ไปที่ไหนกัน มาช้าขนาดนี้” ประโยคภาษาอังกฤษอันหนึ่งดังขึ้น แน่นอนว่าคนพูดจงใจให้แบมแบมฟัง ก่อนที่คนคนเดิมจะหันไปพูดจีนกับเหวินเจิ้ง น้ำเสียงตำหนิ แบมแบมเหลือบมองแจ๊คสันอย่างไม่พอใจ ทำไมจะต้องไปว่าไจแอ้นท์ด้วยล่ะ ไอ้หมอนี่วางอำนาจชะมัด

     
     

    “เขาพาฉันไปซื้อของ อย่าว่าเขา” แบมแบมอธิบาย แต่เหมือนว่าแจ๊คสันจะไม่ฟัง เขาตรงเข้ามาหิ้วแขนของแบมแบมโดยที่เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัว และลากไปด้วยกัน

     
     

    “โอ๊ย เจ็บนะไอ้บ้า”

    “ไอ้บ้างั้นเหรอ นายต้องเรียกฉันว่าเจี่ยฟู(พี่เขย) เข้าใจมะ” แจ๊คสันสั่ง

    “นายรู้ป่ะ ที่ประเทศไทยเขาพี่เขยเรียกว่า เฮีย รู้จักมะ เฮียยยยยยยย”แบมแบมลากเสียงยาว แม้ว่าแจ๊คสันจะไม่รู้ความหมายแอบแฝง แต่ฟังแล้วเขารู้สึกหงุดหงิดมาก

     

    “โอเค งั้นแค่พี่แจ๊คสันก็ได้”

     

    hereeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeee อุ๊บ!” ก่อนที่จะยาวไปกว่านี้แจ๊คสันตัดรำคาญโดยเอามืออุดปากเจ้าหนู ที่ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอด เขากึ่งลากกึ่งเดินพาแบมแบมไปที่ห้องห้องหนึ่ง และเหวี่ยงเจ้าตัวดีลงบนพื้น แบมแบมล้มลงเหมือนตุ๊กตา แจ๊คสันยืนกอดอกจ้องเด็กหนุ่มตาเขม็ง

     

     
     

    แจ๊คสัน.....................

     

                 ไอ้เด็กนี่มันเป็นผู้ชายจริงๆด้วย แต่ตัวเล็กชะมัด ผมจูบเข้าไปได้ยังไงฟระเนี่ย นึกแล้วก็อยากจะบ้าตาย เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ทำท่าทางระริกระรี้เหมือนเด็กผู้หญิง ใครบ้างจะไม่เข้าใจผิด เฮอะ! มาที่ฮ่องกงไม่ทันไร ก็ทำตัวสนิทสนมกับคนอื่นไปทั่ว ยิ้มซะปากจะฉีกอยู่แล้ว หมอนั่นก็เหมือนกัน มาถึงบ้านแล้วแทนที่จะรีบจอดรถ กลับคุยหัวเราะอะไรกันอยู่ในรถ ไม่รู้หรือไงว่าคนอื่นเขารออยู่ ไม่ใช่รออย่างนั้นนะ ผมหมายความว่าผมรออยู่ในฐานะเจ้าของบ้าน คนอะไรไม่รู้จักเกรงใจคนอื่นเลย สงสัยว่าผมจะคุยกับตัวเองนานไปหน่อย ตอนนี้แบมแบมมองผมเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ ก่อนที่จะปรี่เข้าไปหากระเป๋าเดินทางของตัวเองที่ผมสั่งให้ลูกน้องเอามา หลังจากที่ไปดูรถคันที่ถูกลอบยิง

     
     

    ...นะ นี่นายจะไม่พูดอะไรกับฉันสักคำหน่อยเหรอ....... ผมส่งกระแสจิตไปให้เจ้าเด็กนั่น แต่ไม่เป็นผล มันไม่สนใจผมเลย ผมเข่นเขี้ยว ถอนหายใจก่อนจะเริ่มคุยเป็นเรื่องเป็นราวกับหมอนั่น
     

     

    “ฉันเตรียมโรงเรียนที่นายจะเข้าไว้แล้ว พรุ่งนี้ให้ไปรายงานตัว เป็นโรงเรียนนานาชาติเหมือนที่นายเคยเรียน นายจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องภาษา โรงเรียนนี้ไม่มีชุดเครื่องแบบก็จริง แต่ทรงผมนั่น ฉันว่านายไปเปลี่ยนมันซะเถอะ” ผมติดใจกับสีแดงบนหัวพังค์ๆของแบมแบมเต็มทน หมอนี่ใส่เจลไปกี่กระปุกกัน ทำไมมันถึงได้แข็งขนาดนั้น เห็นแล้วปวดเฮด

     

     

    “หัวฉัน มันเรื่องของฉัน นายเป็นใครถึงมายุ่งกับหัวฉันเนี่ย” แบมแบมตอบกลับมาอย่างยียวน มันไม่กลัวผมเลยสักนิด ไอ้ท่าทีเมื่อวานหายไปไหน เจ้าเด็กนี่มันต้องใช้ลูกปืนคุยหรือไง แบบนี้ไม่น่ารักเลย

     

    “ฉันเป็นผู้ปกครองของนาย และฉันไม่ชอบทรงนี้”
     

    “กลัวแล้วคร้าบพี่แจ๊คสัน อย่าทำอะไรผมเลยนะ” มันเหลือกตาอย่างขอไปที น่ารำคาญชะมัด

     

    “กลัวก็ดีแล้ว ถ้าดื้อนักฉันไม่รับรองว่านายจะถูกลงโทษยังไง” หน้ารั้นๆนั่น ทำผมหมั่นไส้ ผมทำตาขวางใส่มัน

     

    “ทำหน้าแบบนี้นึกว่าฉันกลัวเหรอ กลัวตายล่ะ” ผมพยายามสงบสติอารมณ์ ไอ้เด็กนี่มันเริ่มพยศแล้วล่ะ จะทำยังไงดีจะขู่มันยังไงดี แจ๊คสันอะไรที่มันกลัวบ้าง คิดสิ

     

    “เป็นอะไรไป ไม่สบายเหรอ ฮะฮะฮะ”มือเล็กๆแกล้งแตะหน้าผากของผม เจ้านี่มันน่านัก ได้....... ไม่รอช้าผมรวมมือทั้งสองข้างของแบมแบม ดึงตัวเข้ามาใกล้

     

    “นายกำลังอ่อยฉันอยู่รึไง ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะอ่อยได้นะ” ผมเผลอพูดอะไรออกไปไม่ทันคิด ทำไมต้องนึกถึงภาพที่ไอ้เด็กนี่หัวร่อต่อกระซิกตอนอยู่ในรถด้วยนะ ตอนนั้นนายไม่รู้รึไงว่าคนอื่นมองนายอยู่น่ะ คิดแล้วโมโห

     

    “อะไอ้ บ้ากาม”  มันได้ผลแฮะ อย่างน้อยเด็กแสบก็เริ่มเสียงสั่น มันกำลังกลัว อย่างนี้ต้องเดินหน้าต่อ ผมจะเอาให้มันกลัวจนฉี่ราดเลย ฮ่าฮ่าฮ่า

     

    “ฉันไม่ได้....”

    “ไม่ได้อะไร อยากให้ฉันรังแกนายขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันไม่ได้โง่ที่ไม่รู้ว่านายกำลัง...ยั่วฉันอยู่น่ะ”

    “ไอ้บ้า พูดมั่วอะไร ฉันไม่ยุ่งกับนายแล้วก็ได้ ปล่อยนะ”

    “ไม่ปล่อย นายคิดถึงจูบของฉันอยู่เหรอ” ตาผมเผลอจ้องริมฝีปากอิ่มของแบมแบมอีก เขาพยายามเบี่ยงตัวออกห่าง แต่ว่าผมไม่ยอมหรอกมือคว้าเอวไว้อย่างรวดเร็ว

     

    “ไหนนายบอกว่าไม่ชอบผู้ชายไง” แบมแบมแย้ง

    “แต่ตอนนี้อยากเปลี่ยนใจแล้ว บางทีของแถมมันก็ดูน่าสนุกดีเหมือนกันนะ” โว้ย  เข้าป่าเข้าดงไปใหญ่ ผมอินมากไปรึเปล่าเนี่ย ยิ่งเห็นมันกลัวผมยิ่งอยากแกล้งต่อ

     

     
     

    แบมแบม..........................

     

         มือใหญ่ๆเอื้อมมาขยี้ผมบนหัวจนมันไม่เป็นทรงแล้ว โธ่ อุตส่าห์เซ็ทมาอย่างดี ไอ้พี่เขยมันทำอะไรของมันเนี่ย ไอ้หวัง ไอ้แจ๊ค ไอ้ๆๆๆๆ มันยิ้มครับ  มันสะใจ
     

     

    “หยุดนะ”ผมร้องห้าม แต่ไม่เป็นผล ผมบนหัวเละไปหมดแล้ว ไอ้พี่เขยมันทำยังกับผมเป็นของเล่น

    “แบบนี้ฉันว่าดูดีกว่านะ หน้านายมันไม่เหมาะกับทรงนั้นหรอก แบบนี้ดีกว่า เหมือนหมาดี ฮ่าฮ่าฮ่า”

    “ฉันไม่ใช่หมาเฟ้ย เลิกขยี้หัวฉันได้แล้ว”

    “ใช่ นายเป็นหมาของฉัน ฉันเป็นเจ้าของนาย”

    “ไอ้บ้า ใครเป็นของของแก”

    “ของแถมก็คือของของฉัน ในเมื่อพี่สาวนายไม่อยู่ นายก็ต้องเล่นกับฉันแทน เข้าใจ๋?” มันพูดเองเออเองไม่ถามผมสักคำฮะ ไอ้นี่มันถือว่ามันถือไพ่เหนือกว่า เจ็บใจมันจริงๆ

     

     

    “ไอ้หวังมันออกไปแล้วฮะ  ช่วงที่ไปกับไจแอ้นท์ผมแอบสืบเรื่องตระกูลหวังไว้เพียบ หมอนั่นก็เหมือนกันไม่รู้จะเทอดทูนอะไรไอ้พี่เขยนักหนา ชมว่าเป็นคนใจดี มีเมตตา เท่ห์ โอ้ย สารพัด คนที่กลัวเจ้าคุณชายหวังเนี่ย ก็เป็นพวกที่ยังไม่รู้จักดีหรือพวกเด็กรับใช้ก็แค่นั้นล่ะ

     
     

     ไจแอ้นท์บอกว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นคุณชายทำร้ายใครเลย คุณชายเป็นคนใจดีมาก ส่วนใหญ่งานขาลุยน่ะพ่อบ้านเล้งจะเป็นคนสั่งให้ลูกน้องสายโหดทั้งหลายออกหน้า ส่วนไอ้ตัวคุณชายนี่น่ะเหรอ ก็ได้แต่เก็กมาดขาใหญ่ไปงั้นแหละ  ใจดีเหรอ ผมไม่อยากจะเชื่อ โดนเอาปืนจ่อหัวเมื่อวานผมก็กลัวเหมือนกันนะ ขางี้แทบไม่มีแรงเลย ก็มันหน้าเถื่อนซะขนาดนั้น ไม่บอกไม่รู้นะว่ามันอายุน้อยกว่าเจ๊แอปเปิ้ล ผมว่ามันออกจะหน้าแก่นะ รับบทเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ได้สบายๆเลย

     

     

     วันนี้ผมก็ยังโทรหาเจ๊แอปเปิ้ลไม่ติด แต่ว่าได้คุยกับแม่แล้ว น่าแปลกที่ว่าแม่บอกว่าเจ๊แอปเปิ้ลโทรหาแม่ เจ๊บอกแม่ว่าผมมีคนดูแลแล้วไม่ต้องเป็นห่วง พูดถึงผมก็ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงหรอก ผมน่ะดูแลตัวเองได้ แต่ผมงงว่าทำไมเจ๊ไม่โทรหาผมเนี่ย ทิ้งน้องอยู่กับสามี แล้วตัวเองไปไหนกันเนี่ยเจ๊ ผมอยากงอแง อยากบ่นเจ๊ ว่าทำไมทิ้งน้องชายแสนเท่ห์คนนี้ล่ะคร้าบ ผมอยากคุยกับใครสักคนจัง เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ ผมยังมีพี่ชายที่แสนดีอีกคนหนึ่งนี่นา ผมลืมไปได้ยังไง  ผมรีบเปิดกระเป๋าหยิบคอมพ์ออกมาและเปิดแชท์ออนไลน์ทันที ขอให้ออนไลน์ทีเถ้อะ

     

     

    Bambam_killer:     Hey! Mark

     

     

    ผมทำทีจิ้มคีย์บอดเรื่อยเปื่อยเบาเบาๆ ระหว่างรอสัญญาณตอบกลับ
     

     

    ..ไม่มี..........
     

     

    อยากคุยกับพี่มาร์คจัง อยากเล่าอะไรหลายๆเรื่องให้ฟัง จะอวดทรงผมใหม่ด้วย
     

     

    ทำไมไม่ออนไลน์ล่ะ ผ่านไปพักหนึ่งก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับ ผมเซ็งเอามือปิดฝาพับหน้าจอคอม และกลิ้งตัวบนเตียงไปมา วันนี้ขี้เกียจอาบน้ำจัง

     

    //////////////////////


     

     

    Bambam_killer:     Hey! Mark
     

     

    มาร์คจ้องหน้าจอคอมพ์เงียบๆ ทำไมกันนะ แบมแบมต้องมาที่บ้านหลังนี้ด้วย มาร์คเห็นเหวินเจิ้งรับแบมแบมกลับมาด้วย ท่าทางไม่เหมือนพาเพื่อนมาเที่ยวบ้าน ที่สำคัญทำไมแจ๊คสันถึงทำราวกับเป็นเจ้าของหมอนั่นด้วย
     

     

     ........แจ๊คสัน  นายอยากตายงั้นเหรอ..........
     

     

     

    นั่นน่ะของฉันเว้ย!
     

     

    “อ้าว อาเจิ้งกลับมาแล้วเหรอ” มาร์คทักน้องชายที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในห้อง เหวินเจิ้งดูซึมๆชอบกล นายน่ะเหมือนหมีตัวใหญ่ที่หงอยเพราะหาเพื่อนเล่นไม่ได้ชะมัด
     

     

    “พี่กินข้าวรึยังฮะ”
     

     

    “ยังเลย รอนายอยู่น่ะ อะไรเนี่ย” มาร์คอุทานออกมาเบาๆเมื่อเห็นเหวินเจิ้งล้มตัวลงนอนตะแคงบนเตียง เมื่อเช้าเขายังอ้อนเจ้าน้องชายอยู่เลย มาตอนนี้หมอนี่กลับน่าโอ๋กว่าแล้ว
     

     

    “นายเป็นอะไร” มาร์คลูบหัวเด็กโข่งเบาๆ ปกติหมอนี่ไม่เคยเป็นแบบนี้เท่าไหร่ ไม่ค่อยกล้าเข้ามาใกล้เขาด้วยซ้ำ นานๆทีถึงจะทำแบบนี้ทีนึง เหวินเจิ้งไถตัวดันหัวใหญ่ๆมาหนุนตักของมาร์ค แขนยาวๆกอดเอวของมาร์คอย่างหาที่พึ่งพิง
     

     

    “ผมถูกคุณชายหวังดุ” เจ้าตัวตอบอ้อมแอ้ม
     

     

    “นายทำผิดอะไรล่ะ”

    “ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าผมทำอะไรผิด แต่ผมเสียใจที่ถูกคนคนนั้นว่าอ่ะ”

    “เป็นเพราะนายชอบเขามากใช่ไหมล่ะ นายถึงผิดหวังมากกว่าปกติ”

    “ทำไมพี่รู้ล่ะ” เหวินเจิ้งเงยหน้ามองมาร์ค แววตาอบอุ่นจ้องตอบ

    “เพราะว่าพี่เข้าใจยังไงล่ะ”

     

    ................ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสียใจและแค้นมากเท่านั้น................

    มาร์คนึกถึงแจ๊คสันที่กำลังเข้ามายุ่งกับสมบัติตัวน้อยของเขาโดยไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง นายอยากร้องไห้เร็วขึ้นใช่ไหมแจ๊คสัน

     

     

     

    //////////////////////////////////////////

     

     

    มื้อเช้าวันนี้มีเรื่องให้แบมแบมได้สะใจเล็กน้อย มีแค่เขากับแจ๊คสันที่ทานอาหารร่วมโต๊ะเดียวกัน โดยมีสาวใช้คอยบริการ คุณพ่อบ้านเล้งดูเหมือนจะพยายามยึดหน้าที่ดูแลคุณชายไว้คนเดียว เห็นแล้วน่าขำชะมัด โตจนป่านนี้แล้วยังต้องมีคนดูแลอีก ไม่ได้เรื่องจริงๆ แบมแบมแทบสำลักข้าวต้ม หลังจากที่กลั้นหัวเราะเมื่อเห็นภาพสะดุ้งของแจ๊คสันตอนที่ซดข้าวต้มร้อนๆ

     
     

     

    “โอ้ย...เจ็บ” แจ๊คสันลืมไปว่าลิ้นของเขายังเป็นแผลอยู่ ก็ใครกันเล่าที่กัดมันน่ะ สายตาขุ่นเคืองแผ่รัศมีมาให้แบมแบมอย่างจงใจ แต่เด็กหนุ่มตัวต้นเหตุไม่ได้รู้สึกสำนึก เอาแต่ยิ้มเยาะเขาอย่างสนุก มันน่านัก ไอ้เด็กนี่

     
     

     

    แจ๊คสันให้แบมแบมขึ้นรถไปกับเขา คนขับรถสวมชุดคนขับอย่างดี เมื่อรถเคลื่อนไปตามถนนบริเวณหน้าบ้าน แบมแบมก็เห็นเหวินเจิ้งสวมชุดเครื่องแบบนักเรียน เดินอยู่ข้างหน้า เมื่อรถขับทันคนตรงหน้า ด้วยความดีใจแบมแบมหันไปมอง และยิ้มให้เหวินเจิ้งชุดใหญ่ แจ๊คสันที่นั่งข้างๆหันขวับมองมา ไม่เพียงเท่านี้ แบมแบมก็ยังพูดกับเขาเป็นครั้งแรกของวัน

     

     
     

    “ให้เหวินเจิ้งไปด้วยได้ไหม”แบมแบมหันมาถามแจ๊คสันที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกของขึ้นหน่อยๆ นี่ไม่ใช่รถแท็กซี่ นี่มันเมอร์เซเดส เบนซ์นะเฟ้ย
     

     

    “ไม่อนุญาต”

     

    “ทำไมล่ะ”

     

    “คนละทาง” แจ๊คสันสะบัดหน้าหนีไม่สนใจแบมแบมอีกต่อไป ฉันนั่งอยู่นี่ทั้งคนนะ ทำไมจะต้องไปสนใจคนอื่นด้วย

     

    “ขี้งก” แบมแบมบ่นเบาๆ ล้วงมือถือขึ้นมา พิมพ์ข้อความ

     

     

    >>> Good morning ^O^ ….Bambam<<<<<

     

    000

     

    เสียงข้อความเข้าดังขึ้น เหวินเจ้งล้วงกระเป๋า กดเปิดดูและยิ้ม เขาแอบมองซ้ายขวาว่ามีคนดูอยู่ไหม พอเห็นว่าทางโล่งไร้ผู้คน ริมฝีปากก็เม้มเข้าหากัน เหมือนพยายามหยุดยิ้ม แต่จะทำได้ไงล่ะ ก็คนมันดีใจนี่นา ยังไงก็ต้องยิ้มสิจริงไหม เหวินเจิ้งรู้สึกมีแรงขึ้นมา เขาวิ่งไปโรงเรียนแบบที่ปกติไม่เคยทำมาก่อน เพราะอะไรกันน้า

     

     

    /////////////////////////////////////////////////////

     

     

    “สวัสดีค่ะคุณแจ๊คสัน นี่คือน้องชายที่เล่าให้ฟังใช่ไหมคะ ประวัติการเรียนค่อนข้างน่าเป็นห่วงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทางเราจะดูแลเป็นอย่างดีเลย ไม่ต้องกังวลนะคะ น้องจะต้องเป็นเด็กที่ดีพร้อมได้แน่นอนค่ะ ก็มีตัวอย่างแบบคุณแจ๊คสันนี่คะ” หญิงวัยกลางคนค่อนข้างไปทางสูงอายุหน่อยๆ คุยกับแจ๊คสันอย่างยิ้มแย้ม
     

     

    .....ตัวอย่างที่ดีงั้นเหรอ..........
     

     

    โม้น่า ไอ้พี่เขยเนี่ยนะ คงจะเป็นตัวอย่างที่ใช้ไม่ได้มากกว่ามั้ง แบมแบมเบ้ปาก เหล่มองแจ๊คสันอย่างไม่เชื่อ

     

     

    “ขอบคุณมากครับ ถ้าไม่ได้อาจารย์คอยสั่งสอน ผมก็คงไม่ได้ดีแบบทุกวันนี้หรอกครับ”

     

    ...........นั่นมันใครกันฟระ...........ไอ้ท่าทีฉอเลาะปลิ้นปล้อนนั่น

     

     
     

    ได้ดีงั้นเหรอ เข้าใจผิดอะไรรึเปล่า อย่างเจ้านี่เนี่ยนะ คงใช้แต่อิทธิพลมาเฟียมากกว่า แบมแบมรู้สึกหมดศรัทธา ขนาดฮ่องกงก็ยังมีระบบอุปถัมภ์คนรวยคนมีอิทธิพลอีกเหรอเนี่ย ไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยจริงๆสินะ

     

     

    “แบมแบม ฉันไปก่อนนะ นายทำตัวดีๆล่ะ.............ถ้าทำตัวมีปัญหา ฉันจะจัดการนายที่บ้านแน่” ประโยคสุดท้ายแจ๊คสันกระซิบให้แบมแบมได้ยินเท่านั้น จะไปก็ไม่ไปดีๆ ทำไมต้องทำตัววางอำนาจน่าหมั่นไส้ด้วย มีปัญหางั้นเหรอ นายรู้จักเจ้าชายเอสน้อยไปซะละ แบมแบมนิ่งเงียบ เจ้าคิดเจ้าแค้นภายในใจ

     

     

    หลังจากที่แจ๊คสันไปแล้ว ซึ่งแบมแบมก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหนหรอก เขาไม่อยากจะสนใจเท่าไหร่นัก ชริ!  จากนั้นอาจารย์ก็พาแบมแบมไปที่ห้องเรียน แบมแบมถือว่าเข้าเรียนกลางเทอม เขาจึงเป็นเด็กใหม่ คนอื่นก็น่าจะมีเพื่อนกันหมดแล้ว แต่ว่าระบบเรียนแบบไฮสคูลก็ไม่น่าจะมีปัญหาเท่าไหร่ เด็กต่างชาติก็มีปะปนกับเด็กท้องถิ่น พูดภาษาเดียวกัน น่าจะหาพวกได้ไม่ยาก

     
     

    พอแนะนำตัวเสร็จ ก็มีเสียงปรบมือและสิ่งโห่หึ่งๆ แบมแบมมองไปรอบๆห้อง นี่มันอะไรกันฟระ ทำไมมีแต่ตัวผู้ เอ้ย! ทำไมมีแต่ผู้ชาย สาวๆน่ารักไปไหนกันหมด เจ้าชายร็อคต้องการเจ้าหญิงน่ารักๆนะคร้าบบบบ

     

    “แกเป็นตุ๊ดรึเปล่าวะ” ไอ้เหยินที่นั่งข้างหน้าหันมาถามแบมแบมหลังจากที่หมดคาบเรียนแรก ไอ้ปากเสียนี่ วอนโดนทีนซะแล้ว

     

    “โรงเรียนเราห้ามเป็นตุ๊ดนะเฟ้ย ถึงเป็นก็ต้องแอบๆไว้” อีกคนเตือน ทำไมต้องเน้นเรื่องตุ๊ดกับข้าด้วยฟระ ไอ้พวกนี้

     

    “ทำไมวะ” แบมแบมถามพวกมันอย่างตัดรำคาญ

     

    “ก็ถ้าพวกนั้นรู้ว่าใครเป็นตุ๊ดอ่ะ จะโดนแกล้ง”

     

    “มีงี้ด้วยเหรอ”

     

    “แกเหมือนตุ๊ด หน้าตาแบบนี้ระวังไว้ดีกว่า” เอ๊ะ ไอ้หมอนี่ เอ็งนั่งแหละควรระวังปากตัวเองมากกว่านะ แบมแบมส่งสายตาโหดไปให้เจ้าเด็กจีนคนหนึ่ง มันน่าจะจีนนะ ดูจากหน้าตาแล้ว

     

    “ช่างดิ ข้าไม่สนใจพวกไร้สาระนั่นหรอก”

     

    “อีกอย่าง ใครมีแฟนก็ไม่ได้เหมือนกัน มีก็ต้องปิดไว้ ห้ามอวด”

     

    “อะไรอีกฟระ เรื่องมากจริง” แบมแบมระอา ก็เข้าใจอยู่ว่าผู้ชายที่สาวไม่แลมันดูน่าสงสาร ไม่เจ๋ง แต่จะกีดกันอะไรเกินไปแล้ว

     

    “ใครมีแฟนถือว่าทรยศต่อพวกพ้อง ใครฝ่าฝืนกฎจะโดนผู้คุมลงโทษ” เจ้าเหยินย้ำกับแบมแบม

     

    “ใครกันวะผู้คุม” แบมแบมเริ่มของขึ้น ไอ้พวกผู้คุมเนี่ยมันน่าจะโดนเก็บเป็นรายแรก ขาใหญ่ของโรงเรียนกำลังจะสถาปนาตัวเองขึ้นครองอำนาจแล้ว รู้ไว้ซะ

     

    “พวกแก๊งค์เกาหลี”

     

    ..........Korean wave...งั้นเหรอ น่าขำชะมัด นี่มันบอยแบนด์สักวงรึเปล่า ตลกมากกกกกกก คณะตลกคาเฟ่มากกว่ามั้ง

     

     

    “ใครคือเด็กใหม่ชื่อแบมแบมฟระ ออกมานี่หน่อย”เสียงหนึ่งดังขึ้น ทุกคนในห้องหันหน้าไปมองพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

     

     

    กลุ่มคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามีประมาณ 10 กว่าคนได้ แต่ละคนตัวสูงใหญ่และหน้าตาก็บ่งบอกว่าเป็นเด็กที่มาจากชาติเดียวกัน หน้าตาแบบนี้  เกาหลีชัดๆ

     

     

    “เลิกพักกลางวันให้ไปรายงานตัวที่สนามบาสด้วยนะครับ เป็นธรรมเนียมของที่นี่หวังว่าคงเข้าใจนะครับ” หลังจากเสียงอันดังของคนหนึ่งที่ดูเหมือนอันธพาลที่สุดในกลุ่มพูดเสร็จ  เด็กชายสวมแว่นตาอีกคนก็ก้าวออกมาเป็นคนที่สอง เสียงนิ่มๆแต่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองกล่าวสมทบ สายตากวาดไปรอบห้อง และหยุดมองที่แบมแบม เขาเดาว่าเด็กใหม่คงเป็นคนคนนี้ เพราะหน้าไม่คุ้นเลย

     

     

    “แกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน” แบมแบมถีบโต๊ะออก ลุงขึ้นเดินมาที่เจ้าแว่นตา

     
     

     

    “ผมชื่อจินยองครับ จะเรียกว่าจูเนียร์ก็ได้ ผมแค่มาแจ้งข่าว ส่วนถ้าถามว่ามีสิทธิ์อะไร ผมว่านายไปถามคนที่ชื่อแจบอมดีกว่านะครับ เขาฝากให้ผมมาบอกแค่นี้” จูเนียร์ยักไหล่ ก่อนที่จะเดินกลับไปรวมกลุ่มกับพวกข้างนอกห้อง และทั้งกลุ่มก็กลับไป

     

     

    “มากันเป็นฝูงเลยนะ” งานนี้แบมแบมถูกต้อนรับน้องใหม่นอกประเทศครั้งแรก ต้องจัดให้หน่อยละ

     

     

    ...........ก็แค่พวกหมาหมู่  ถ้าตัวต่อตัวข้าไม่เคยกลัวใครเว้ย................

     

    ..........สงสัยต้องจัดการเด็ดหัวของหัวหน้าก่อนใครเพื่อน ชนะหัวหน้าได้ ลูกน้องก็ไม่หือแล้ว................

     

    ............แจบอมงั้นเหรอ.....................

     

     

    “ใครรู้จักคนชื่อแจบอมบ้าง” แบมแบมหันไปถามเจ้าเด็กจีน ชักอยากสืบประวัติก่อนออกศึกสักหน่อย รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง  เจ้าเด็กจีนชี้มือไปทางหน้าสุดของห้อง แบมแบมเดินเข้าไปหา และก้มลงไปมองเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ก้มหน้าหลบอยู่

     

     

    “แกรู้จักคนชื่อแจบอมใช่ไหม”

     

    เด็กคนนั้นพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะเงยหน้าสบตาแบมแบมอย่างกลัวๆ

     

    “ดี....บอกเรื่องของหมอนั่นมาให้ฉันรู้ซะ ว่าแต่แกน่ะชื่ออะไร”

     

     

    “ยองแจครับ”





    To be continued.

    //////////////////////////

    ฟู่ว์ กว่าจะออกครบ เล่นเอาเหนื่อยค่ะ เราต้องครบสิคะ เพราะเรามุ่งสู่ฮาเร็ม ฮ่าฮ่า (แน่ใจเรอะ ความหวานแหววในฟิคนี้น่าจะมีสัดส่วนที่ไม่น่าจัดเข้าพวกได้นะ) ไรท์จะพยายามขุดเอาความสะดิ้งของหนุ่มๆออกมานะคะ ไรท์เป็นคนที่ชอบหนุ่มซึน แมนๆอ่ะ ปกติจะจิ้นสาย K เป็นหลัก แบบ 2pm (ดิบเถื่อน 55) เวลาเขียนฟิคหนุ่มน้อยหวานแหววเนี่ย จะต้องมโนไกลนิดนึง แถมเขียนช้าอีก ขอโทษล่วงหน้าเน้อสำหรับใครที่รอความฟินจัดๆ ความจริงมันเป็นแค่ฟิคมุ้งมิ้ง ปนจิตๆแค่นั้นเอง เขียนหวานๆไม่ค่อยเป็นค่ะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ -ไรท์


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×