ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : อาหารค่ำที่แสนสุข
.
..
“ สวัสดีครับแม่ “
หลังจากที่กลับเข้าหมู่บ้านในช่วงเย็นแล้วตฤณดนัยก็กลับบ้านของตนเองอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินเท้ามายังบ้านของเอกรินทร์ซึ่งอยู่ถัดจากซอยที่เขาอยู่ แสงแดดในยามเย็นไม่ร้อนแรงบวกกับลมเย็นพัดอ่อนๆ ทำให้เขารู้สึกสบายตัว
“ อ้าวพ่อตฤณ มาๆ ขึ้นมาก่อน “
หญิงสูงวัยรูปร่างท้วมสวมเสื้อลูกไม้สีน้ำเงินเข้มกับผ้าถุงสีเรียบๆ ที่นั่งจัดผักสดใส่จานอยู่ได้ยินเสียงร้องเรียกจากด้านล่างก็รู้ทันทีว่าใครมาเยือน เนื่องจากบ้านที่ยกขึ้นสูงเป็นใต้ถุนด้านล่าง ด้านบนบ้านถูกแบ่งแยกออกเป็นสัดส่วนรวมถึงชานที่ยื่นออกมาและมีราวไม้กั้นไว้สามารถมองลงไปยังด้านล่างได้
“ นั่งก่อนลูก ไม่มาหาแม่หลายวันเลยนะ กินน้ำกินท่าก่อนสิเรา “
“ ขอบคุณครับ “
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนที่จะรับขันน้ำที่ลอยดอกมะลิอยู่ด้านใน เป็นน้ำเย็นที่นางเอาออกมาจากตู้เย็นแล้วเทใส่ขันเงินใบใหญ่ ก่อนจะเอาดอกมะลิที่เก็บจากรั้วบ้านของตนมาลอยไว้ เวลาจะกินต้องใช้ขันใบเล็กๆ ตักใส่แก้วน้ำของตนก่อนจะดื่ม ความเย็นของน้ำบวกกับกลิ่นหอมจางๆ ของดอกมะลิทำให้รู้สึกสดชื่น
“ ช่วงนี้ยุ่งๆ น่ะครับ ใกล้สอบแล้วต้องเตรียมข้อสอบในเด็กๆ ด้วย นอนดึกเกือบทุกวันเลย ไม่ได้มาหา “
หลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จแล้วชายหนุ่มก็เริ่มบทสนทนากับนางดวงใจ ซึ่งเป็นมารดาของเอกรินทร์ นางรักและเอ็นดูเขาเหมือนลูกคนหนึ่งเนื่องชายหนุ่มเองก็กำพร้าพ่อและแม่มาตั้งแต่ยังเด็ก เขาถูกผู้เป็นป้าเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่จนแม่คนที่สองของเขานั้นได้ลาโลกไปแล้วเขาก็เหมือนตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เมื่อมาอยู่ที่นี่เขาก็ได้รู้จักกับเอกรินทร์และดวงใจผู้เป็นมารดา นางใจดีมีนิสัยโอบอ้อมอารีกับเขาและเพื่อนบ้านเสมอ บางทีนางเหมือนจะรู้กับเรื่องราวของเขาและพยายามพูดให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ บ้านหลังนี้มีเพียงนางกับลูกชายเพียงสองคนเนื่องจากเอกรินทร์เล่าว่าแม่ของตนได้เลิกราไปกับพ่อนานแล้วโดยที่เขาเป็นพี่คนโตอยู่กับแม่ และน้องชายอีกคนนั้นอยู่กับผู้เป็นพ่อตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่เขาสองคนพี่น้องยังติดต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ ..แรกๆ เขาออกจะหมั่นไส้ชายหนุ่มผู้นี้เสียด้วยซ้ำ ...แต่หลังจากที่พูดคุยกัน ทำงานด้วยกัน ตลอดจนแม่ของเอกรินทร์ที่คอยดูแลเอาใจใส่เขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นคนดี และเป็นที่รักของคนในหมู่บ้านด้วยความที่ขี้เล่น และเข้ากับคนง่ายของเขา....
“ อย่านอนดึกมากล่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย แล้วนี่เห็นเจ้าเอกบอกไปในเมืองมาได้อะไรมาบ้างล่ะเรา “
“ ไปหาซื้อหนังสือมาอ่านน่ะครับแม่ ผมได้เสื้อมาฝากแม่ด้วยนะ “
“ พอแล้วนะลูก ซื้อมาทำไมกันเยอะแยะ แม่ก็อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน “
นางรับถุงที่บรรจุเสื้อลายลูกไม้สีสวยมาจากชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยบอก เนื่องจากนางมักจะได้รับของฝากจากตฤณดนัยเป็นประจำที่เข้าไปในตัวอำเภอหรือจังหวัด
“ ก็ผมอยากซื้อให้นี่ครับ แล้วนี่เอกไปไหนครับ “
“ เอาปลานึ่งไปส่งบ้านแม่ดาวเขาน่ะ เมื่อตอนกลางวันลุงแสงแก่สูบบ่อ ได้ปลามาเยอะเลยเอาแบ่งให้แม่ ตัวใหญ่ๆ แม่ก็เอามาทำแกงส้ม กับนึ่งกินกับผัก ที่เหลือก็เอาไปตากแดดไว้ทอดกิน “
“ ทำเยอะเหมือนเคยนะครับ “
“ ได้ไงล่ะลูกชายกินจุตั้งสองคน “
นางพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุข เนื่องจากความสุขเล็กๆ น้อยๆที่นางได้รับก็มาจากการทำกับข้าวไว้ให้ลูกชายกินหลังจากที่กลับมาจากทำงานสอนหนังสือ แล้วยิ่งมีลูกชายมาเพิ่มอีกคนทำให้นางมีเพื่อนคุยคลายเหงา
“ อ้าวตฤณ มานานรึยัง “
เสียงเรียกจากด้านล่างทำให้ทั้งคู่หันไปมองที่บันได ไม่นานนักร่างสูงใหญ่ของเอกรินทร์ก็เดินขึ้นมา
“ พึ่งมาครับ ครูดาวกินข้าวรึยัง “
“ ไปถึงกำลังกินพอดี “
ชายหนุ่มในชุดลำลองตอบขณะนั่งลงข้างตฤณดนัย
“ เอานี่ กินน้ำก่อน “
ตฤณดนัยยกขันน้ำส่งให้ชายหนุ่ม
“ มาๆ กินข้าวกันจะได้พักผ่อนกันเสียที ตฤณวันนี้นอนที่นี่นะ พรุ่งนี้ก็หยุดนี่เราไม่ได้ไปทำงาน “
“ ครับ “
ชายหนุ่มรับคำก่อนจะลงมือตักแกงส้มมะรุมของโปรดของเขาขึ้นมาใส่จานตนเอง
“ โห แม่เอาใจแต่ตฤณ ทีผมล่ะไม่สนใจเลย “
ร่างสูงของชายเอกรินทร์อดไม่ได้ที่เหน็บแนมแม่ของตน
“ แกนี่..ไม่รู้จักโต..ก็เห็นหน้ากันอยู่ทุกวันเมื่อไหร่จะแต่งงานย้ายออกไปอยู่ที่อื่นสักที กินก็เยอะเปลืองข้าวฉัน “
“ โหยย แม่ไล่ผมเหรอ แหมได้ลูกใหม่แล้วทิ้งผมเลยนะ “
ชายหนุ่มโวยวายเสียงดังเรีกยเสียงหัวเราะให้กับสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน บรรยากาศอาหารค่ำของบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความสุข
..
..
“ สวัสดีครับแม่ “
หลังจากที่กลับเข้าหมู่บ้านในช่วงเย็นแล้วตฤณดนัยก็กลับบ้านของตนเองอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินเท้ามายังบ้านของเอกรินทร์ซึ่งอยู่ถัดจากซอยที่เขาอยู่ แสงแดดในยามเย็นไม่ร้อนแรงบวกกับลมเย็นพัดอ่อนๆ ทำให้เขารู้สึกสบายตัว
“ อ้าวพ่อตฤณ มาๆ ขึ้นมาก่อน “
หญิงสูงวัยรูปร่างท้วมสวมเสื้อลูกไม้สีน้ำเงินเข้มกับผ้าถุงสีเรียบๆ ที่นั่งจัดผักสดใส่จานอยู่ได้ยินเสียงร้องเรียกจากด้านล่างก็รู้ทันทีว่าใครมาเยือน เนื่องจากบ้านที่ยกขึ้นสูงเป็นใต้ถุนด้านล่าง ด้านบนบ้านถูกแบ่งแยกออกเป็นสัดส่วนรวมถึงชานที่ยื่นออกมาและมีราวไม้กั้นไว้สามารถมองลงไปยังด้านล่างได้
“ นั่งก่อนลูก ไม่มาหาแม่หลายวันเลยนะ กินน้ำกินท่าก่อนสิเรา “
“ ขอบคุณครับ “
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนที่จะรับขันน้ำที่ลอยดอกมะลิอยู่ด้านใน เป็นน้ำเย็นที่นางเอาออกมาจากตู้เย็นแล้วเทใส่ขันเงินใบใหญ่ ก่อนจะเอาดอกมะลิที่เก็บจากรั้วบ้านของตนมาลอยไว้ เวลาจะกินต้องใช้ขันใบเล็กๆ ตักใส่แก้วน้ำของตนก่อนจะดื่ม ความเย็นของน้ำบวกกับกลิ่นหอมจางๆ ของดอกมะลิทำให้รู้สึกสดชื่น
“ ช่วงนี้ยุ่งๆ น่ะครับ ใกล้สอบแล้วต้องเตรียมข้อสอบในเด็กๆ ด้วย นอนดึกเกือบทุกวันเลย ไม่ได้มาหา “
หลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จแล้วชายหนุ่มก็เริ่มบทสนทนากับนางดวงใจ ซึ่งเป็นมารดาของเอกรินทร์ นางรักและเอ็นดูเขาเหมือนลูกคนหนึ่งเนื่องชายหนุ่มเองก็กำพร้าพ่อและแม่มาตั้งแต่ยังเด็ก เขาถูกผู้เป็นป้าเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่จนแม่คนที่สองของเขานั้นได้ลาโลกไปแล้วเขาก็เหมือนตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เมื่อมาอยู่ที่นี่เขาก็ได้รู้จักกับเอกรินทร์และดวงใจผู้เป็นมารดา นางใจดีมีนิสัยโอบอ้อมอารีกับเขาและเพื่อนบ้านเสมอ บางทีนางเหมือนจะรู้กับเรื่องราวของเขาและพยายามพูดให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ บ้านหลังนี้มีเพียงนางกับลูกชายเพียงสองคนเนื่องจากเอกรินทร์เล่าว่าแม่ของตนได้เลิกราไปกับพ่อนานแล้วโดยที่เขาเป็นพี่คนโตอยู่กับแม่ และน้องชายอีกคนนั้นอยู่กับผู้เป็นพ่อตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่เขาสองคนพี่น้องยังติดต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ ..แรกๆ เขาออกจะหมั่นไส้ชายหนุ่มผู้นี้เสียด้วยซ้ำ ...แต่หลังจากที่พูดคุยกัน ทำงานด้วยกัน ตลอดจนแม่ของเอกรินทร์ที่คอยดูแลเอาใจใส่เขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นคนดี และเป็นที่รักของคนในหมู่บ้านด้วยความที่ขี้เล่น และเข้ากับคนง่ายของเขา....
“ อย่านอนดึกมากล่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย แล้วนี่เห็นเจ้าเอกบอกไปในเมืองมาได้อะไรมาบ้างล่ะเรา “
“ ไปหาซื้อหนังสือมาอ่านน่ะครับแม่ ผมได้เสื้อมาฝากแม่ด้วยนะ “
“ พอแล้วนะลูก ซื้อมาทำไมกันเยอะแยะ แม่ก็อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน “
นางรับถุงที่บรรจุเสื้อลายลูกไม้สีสวยมาจากชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยบอก เนื่องจากนางมักจะได้รับของฝากจากตฤณดนัยเป็นประจำที่เข้าไปในตัวอำเภอหรือจังหวัด
“ ก็ผมอยากซื้อให้นี่ครับ แล้วนี่เอกไปไหนครับ “
“ เอาปลานึ่งไปส่งบ้านแม่ดาวเขาน่ะ เมื่อตอนกลางวันลุงแสงแก่สูบบ่อ ได้ปลามาเยอะเลยเอาแบ่งให้แม่ ตัวใหญ่ๆ แม่ก็เอามาทำแกงส้ม กับนึ่งกินกับผัก ที่เหลือก็เอาไปตากแดดไว้ทอดกิน “
“ ทำเยอะเหมือนเคยนะครับ “
“ ได้ไงล่ะลูกชายกินจุตั้งสองคน “
นางพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุข เนื่องจากความสุขเล็กๆ น้อยๆที่นางได้รับก็มาจากการทำกับข้าวไว้ให้ลูกชายกินหลังจากที่กลับมาจากทำงานสอนหนังสือ แล้วยิ่งมีลูกชายมาเพิ่มอีกคนทำให้นางมีเพื่อนคุยคลายเหงา
“ อ้าวตฤณ มานานรึยัง “
เสียงเรียกจากด้านล่างทำให้ทั้งคู่หันไปมองที่บันได ไม่นานนักร่างสูงใหญ่ของเอกรินทร์ก็เดินขึ้นมา
“ พึ่งมาครับ ครูดาวกินข้าวรึยัง “
“ ไปถึงกำลังกินพอดี “
ชายหนุ่มในชุดลำลองตอบขณะนั่งลงข้างตฤณดนัย
“ เอานี่ กินน้ำก่อน “
ตฤณดนัยยกขันน้ำส่งให้ชายหนุ่ม
“ มาๆ กินข้าวกันจะได้พักผ่อนกันเสียที ตฤณวันนี้นอนที่นี่นะ พรุ่งนี้ก็หยุดนี่เราไม่ได้ไปทำงาน “
“ ครับ “
ชายหนุ่มรับคำก่อนจะลงมือตักแกงส้มมะรุมของโปรดของเขาขึ้นมาใส่จานตนเอง
“ โห แม่เอาใจแต่ตฤณ ทีผมล่ะไม่สนใจเลย “
ร่างสูงของชายเอกรินทร์อดไม่ได้ที่เหน็บแนมแม่ของตน
“ แกนี่..ไม่รู้จักโต..ก็เห็นหน้ากันอยู่ทุกวันเมื่อไหร่จะแต่งงานย้ายออกไปอยู่ที่อื่นสักที กินก็เยอะเปลืองข้าวฉัน “
“ โหยย แม่ไล่ผมเหรอ แหมได้ลูกใหม่แล้วทิ้งผมเลยนะ “
ชายหนุ่มโวยวายเสียงดังเรีกยเสียงหัวเราะให้กับสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน บรรยากาศอาหารค่ำของบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความสุข
..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น