คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : สถาปนาคำนำหน้าพระนาม
ข้อความข้างต้นนี้ ถัดจากราชกิจจานุเบกษา ปีชวด ๑๒๓๗ เล่ม ๓ หน้า ๓ ซึ่งคุณศิริวัฒน์ สายบุญญานนท์ ผู้อ่านประจำ กรุณาส่งซีล็อกซ์หนังสือราชกิจจานุเบกษามาให้ถึง ๒๐ หน้า พร้อมกับท้วงติงมาว่า ชะรอย ‘เวียงวัง’ คงจะผิด เพราะใช้ว่าพระสัมพันธวงศ์เธอ (พระองค์เจ้าฉายเฉิด) กรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์ ทุกครั้ง
-ตอบว่า ที่ใช้ว่า ‘พระสัมพันธวงศ์เธอ’ นั้นถูกแล้วไม่ผิด เพราะ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนา ม.จ.ฉายเฉิด เลื่อนขึ้นเป็น พระองค์เจ้า โปรดให้ใช้คำนำพระนามจารึกบนพระสุพรรณบัฏว่า ‘พระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าฉายเฉิด’ เข้าใจกันว่าที่โปรดฯให้ใช้ ‘พระประพันธวงษ์เธอ’ เมื่อมิให้ซ้ำกับคำนำพระนาม พระโอรส พระธิดาใน สมเด็จพระพี่นางกับพระน้องนางในรัชกาลที่ ๑ และพระโอรสธิดาในกรมพระราชวังหลัง ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดฯให้ใช้ว่า ‘พระสัมพันธวงษ์เธอ’ (สะกดอย่างเก่า)
แต่ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ก็โปรดฯให้เปลี่ยนคำนำพระนามจากพระประพันธวงษ์เธอ เป็นพระสัมพันธวงษ์เธอเช่นเดียวกัน
สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี สมเด็จพระบรมราชชนนี พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงมีพระพี่ยา (พี่ชาย) พระองค์เดียว พระน้องยาและพระน้องนางอีก ๗ พระองค์ เมื่อแรกประสูติเป็นหม่อมเจ้าทุกพระองค์ คือ
๑. หม่อมเจ้า (ชาย) มงคล “พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามงคลเลิศ)
๒. สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
๓. หม่อมเจ้า (หญิง) ชมชื่น (พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชมชื่น)
๔. หม่อมเจ้า (หญิง) พื้นพงศ์ (พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพื้นพงศ์ประยุรวงศ์สนิท)
๕. หม่อมเจ้า (หญิง) ประสงค์สันท์ (คงพระยศเดิม)
๖. หม่อมเจ้า (หญิง) พรรณราย (พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย)
๗. หม่อมเจ้า (ชาย) ฉายเฉิด หรือฉายฉันเฉิด (พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฉายเฉิด กรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์)
๘. หม่อมเจ้า (หญิง) สารพัดเพชร (คงพระยศเดิม)
๙. หม่อมเจ้า (ชาย) ประเสริฐศักดิ์ (พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์)
หม่อมเจ้า (ชาย) มงคล ทรงได้รับสถาปนา เลื่อนพระยศเป็นพระองค์เจ้าในรัชกาลที่ ๔ (พ.ศ.๒๓๙๖) พร้อมกับ หม่อมเจ้าหญิงรำเพย (สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี)
หม่อมเจ้าหญิงรำเพย ขณะนั้นทรงดำรงตำแหน่งพระมเหสี โปรดเกล้าสถาปนาเป็นพระองค์เจ้า พระราชทานพระนามว่า พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์ มีคำนำพระนามว่า ‘พระนางเธอ พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์’
ส่วน หม่อมเจ้ามงคล มีพระนามจารึกบนพระสุพรรณบัฏว่า ‘พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้ามงคลเลิศ’
ที่โปรดฯให้ใช้ว่า ‘พระเจ้าหลานเธอ’ เพราะทรงเป้นพระราชนัดดา (หลานปู่) ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จึงทรงนับว่าเป็นพระเจ้าหลานเธอในพระองค์ด้วย
ต่อมา ในรัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนา พระน้องยา และน้องนางใน สมเด็จพระบรมราชชนนี ซึ่งทรงศักดิ์เป็น ‘น้า’ ในพระองค์อีก ๓ พระองค์
ทรงบัญญัติศัพท์ ‘พระประพันธวงษ์เธอ’ เป็นคำนำพระนาม จารึกบนพระสุพรรรบัฏ คือ
พระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ (พ.ศ.๒๔๑๒)
พระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าพื้นพงศ์ประยุรวงศ์สนิท (พ.ศ.๒๔๑๓)
และ พระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าฉายเฉิด (พ.ศ.๒๔๑๘)
แต่ต่อมาอีก เมื่อโปรดฯ สถาปนาหม่อมเจ้า (หญิง) ชมชื่น ซึ่งสิ้นพระชนม์แล้ว ให้เลื่อนขึ้นเป็นพระองค์เจ้า (พ.ศ.๒๔๓๖) ไม่มีพระสุพรรณบัฏ เพราะเลื่อนพระยศเมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว มีแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โปรดฯให้ออกพระนามว่า ‘พระสัมพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าชมชื่น’
นับเป็นพระองค์แรกที่โปรดฯให้ใช้ว่า ‘พระสัมพันธวงษ์เธอ’ จึงได้เปลี่ยนคำนำพระนาม ๔ พระองค์ ซึ่งสถาปนาก่อนจาก พระเจ้าหลานเธอ และ พระประพันธวงษ์เธอเป็น ‘พระสัมพันธวงษ์เธอ’ ทุกพระองค์
หม่อมเจ้าหญิง ๒ พระองค์ คือ หม่อมเจ้าประสงค์สันทน์ และ หม่อมเจ้าสารพัดเพชร ที่ยังคงพระยศเดิม เพราะสิ้นพระชนม์เสียก่อน ส่วน หม่อมเจ้าหญิงชมชื่น สิ้นพระชนม์แล้วก็จริง ทว่าทรงเป็นขนิษฐาผู้ใหญ่ รองจาก สมเด็จพระเทพศิรินทราฯ ปรากฏพระเกียรติคุณในประกาศสถาปนาว่า
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริห์ว่า หม่อมเจ้าชมชื่นในสมเด็จพระบรมราชมาตามไหยกาเธอ เปนพระมาตุจฉาผู้ใหญ่ แลได้มีอุปการะในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมามาก ทั้งพระองค์ท่านก็รับราชการมาโดยอุสาหะ แลมีพระอัธยาไศรยเรียบร้อยดี สมควรที่จะทรงยกย่อง พระเกียรติยศให้ยิ่งขึ้น บัดนี้ก็ได้เสด็จล่วงลับไปเปนที่ทรงพระอาไลย แลรลึกถึงอุปการกิจ แลความดี พระองค์ท่านดังกล่าวมาแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการโปรดฯเกล้าฯให้ สฐาปนาพระเกียรติยศ หม่อมเจ้าชมชื่นขึ้นเป็น พระสัมพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าชมชื่น”
ความคิดเห็น