คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : ชื่อสกุลที่มาจากบรรพบุรุษเดียวกัน
สกุลต่างๆ ที่สืบสาวขึ้นไปแล้วมาจากบรรพบุรุษเดียวกันนั้นมีไม่ใช่น้อย เช่นสกุลที่สืบมาจากเจ้าพระยาสองพี่น้อง คือเจ้าพระยาสุรสีห์พิศมาทิราช (เมฆ) และเจ้าพระยามหาสมบัติ (ผล) ที่เล่าๆ มาแล้ว
ทางเจ้าพระยามหาสมบัติ (ผล) เล่าแล้วว่าบุตรชายใหญ่ของท่าน คือ หม่อมมุกนั้น เดิมเป็นนายกวด หุ้มแพร ในรัชสมัยกรุงธนบุรี เป็นพระสวามี พระองค์เจ้าหญิงกุ (กรมหลวงนรินทรเทวี) พระเจ้าน้องนางเธอในรัชกาลที่ ๑ ในรัชกาลที่ ๑ โปรดฯให้หม่อมมุกดำรงพระยศทรงกรมเป็นกรมหมื่นนรินทรพิทักษ์
จากพระองค์เล็กสุด ๑. พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา ๒. พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ๓. พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ๔. พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย |
ส่วนบุตรชายสุดท้อง ลำดับที่ ๖ นั้น คือเจ้าพระยาอภัยราชา (ปิ่น) เป็นบิดาของเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์)
เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) สมัยยังเด็กๆ ว่ากันว่า คงจะสนิทสนมกับพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ยังทรงดำรงพระยศหม่อมเจ้า พระโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร เพราะนอกจากจะเกี่ยวดองเป็นพระญาติแล้ว อายุเจ้าพระยาบดินทรเดชาก็สูงกว่า พระชนมายุพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ เพียง ๙ ปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ จึงทรงพระราชดำรัสเรียกท่านว่า ‘พี่บดินทร์’ มาแต่ยังเด็กด้วยกัน และตรัสเรียกเช่นนั้นตลอดมา
พูดถึงเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) มีผู้สงสัยกันว่า เมื่อท่านถึงอสัญกรรม ก็พระราชทานโกศรับศพตามเกียรติยศที่สมุหนายก อัครมหาเสนาบดี แต่มิได้เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงที่เมรุผ้าขาววัดสระเกศ สมกับที่เป็น ‘ขุนพลแก้ว’ ตามพระราชดำรัสยกย่อง
จึงมีบางท่านสันนิษฐานว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯคงจะกริ้วในเรื่องบางเรื่อง
แต่ข้อสันนิษฐานนี้ เห็นว่าน่าจะไม่เป็นความจริง เหตุผลคงอยู่ที่ว่า ประการหนึ่งเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) ถึงอสัญกรรมก่อนพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ เสด็จสวรรคตเพียงปีเดียว เป็นปีที่ ๒๖ ในรัชกาลที่ ๓ เวลานั้นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ทรงพระชรา และกำลังเริ่มทรงพระประชวรไม่สบาย
พระองค์ตามธรรมดาของผู้สูงอายุ บางครั้งเสด็จออกว่าราชการสำคัญๆ เกินเวลาเสวย ถึงกับทรงบ่นว่าหิว นั่นคงเป็นเหตุผลประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งคือเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) ป่วยเป็นโรคป่วงใหญ่ หรือ อหิวาตกโรค ซึ่งกำลังระบาดอยู่ในขณะนั้น หากเป็นคนธรรมดาก็ต้องฝังไม่เผา การเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงย่อมเป็นการเสี่ยงอันตราย คงมิใช่เพราะมีเรื่องกริ้ว ‘พี่บดินทร์’ ของพระองค์แต่อย่างใด
สายเจ้าพระยามหาสมบัติ (ผล) ผู้น้อง มีบุคคลสำคัญ คือ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์)
สายเจ้าพระสุรสีห์พิศมาทิราช (เมฆ) ผู้พี่ชายก็มีบุคคลสำคัญ ซึ่งเป็นราชินิกุล ในรัชกาลที่ ๖ ที่ ๗ ที่ ๘ และที่ ๙ ถึง ๔ รัชกาล
ดังที่เล่ามาแล้วเรื่องเจ้าจอมมารดาพุ่มกับน้องชาย หนีพม่า
น้องชายเจ้าจอมมารดาพุ่ม ที่ชื่อแก้ว ซึ่งมีสมญาเรียกกันว่า ‘แก้วแขก’ สันนิษฐานว่า หน้าตาคงจะคมคายละม้ายแขกนั้น ต่อมาได้เข้ารับราชการในรัชกาลที่ ๒ ได้เป็นพระยาจินดารังสรรค์ (แก้วแขก) จางวางกรมช่างสิบหมู่
พระยาจินดารังสรรค์ (แก้วแขก) มีบุตรธิดาหลายคน ได้เป็นพระยาถึง ๔ คน แต่บุตรชายคนที่ ๒ ที่ชื่อแตงนั้น รับราชการที่หลวงอาสาสำแดง แล้วก็สิ้นชีวิตเสียก่อนในรัชกาลที่ ๔
หลวงอาสาสำแดง (แตง) สมรสกับคุณนาค คุณนาคเข้ารับราชการฝ่ายในได้เป็นที่ท้าวทองพยศ ในรัชกาลที่ ๔ ถึงรัชกาลที่ ๕ ได้เป็น ท้าวสุจริตธำรง (นาค)
หลวงอาสาสำแดง (แตง) และ ท่านท้าวสุจริตธำรง (นาค) เป็นบิดามารดาของเจ้าจอมมารดาเปี่ยม พระสนมเอกในรัชกาลที่ ๔
สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สมเด็จฯเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช สมเด็จพระปิยมาวดีฯ |
เจ้าจอมมารดาเปี่ยม มีพระองค์เจ้าในรัชกาลที่ ๔ ๖ พระองค์ พระองค์ใหญ่ คือ พระองค์เจ้าอุณากรรณ อนันตนรไชย สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษาเพียง ๑๗ พระองค์ที่ ๒ คือ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ (สมเด็จฯ กรมพระยาเทววงศวโรปการ)
พระองค์แรกได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระบรมชนกนาถว่า “อุณากรรณฯ” เนื่องมาจาก เจ้าจอมมารดาเปี่ยม ท่านเล่นละคร เป็นตัวอุณากรรณ คือ นางบุษบา ขณะแปลงเป็นชาย เสมอมา แสดงว่าท่านเป็นคนสวยงามมาก เพราะอุณากรรณนั้นในบทพระราชนิพนธ์ว่า สวยงามแม้อยู่ในเพศชาย ใครเห็นก็ยังตะลึงหลง ส่วนพระนามพระองค์ที่ ๒ ก็ยังติดพันอยู่กับ “วงศ์เทวัญ” ซึ่งเป็นวงศ์อิเหนาและนางบุษบา
พระราชธิดา ในเจ้าจอมมารดาเปี่ยม สามพระองค์ได้ทรงดำรงพระอิสริยยศ “พระราชินี” ทั้งสามพระองค์ในเวลาต่อๆ กันมา คือ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี (พระอิสริยยศสุดท้าย คือ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยิกาเจ้า) สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีพระบรมราชินีนาถ (พระอิสริยยศสุดท้ายคือ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)
เจ้าจอมมารดาเปี่ยมเป็นขรัวยาย สมเด็จเจ้าฟ้าชั้นเอกที่ประสูติแต่สมเด็จพระนางเจ้าทั้งสามพระองค์ ร่วมสามสิบพระองค์ด้วยกัน
เจ้าจอมมารดาเปี่ยม ซึ่งต่อมาในรัชกาลที่ ๖ ทรงสถาปนาอัฐิเป็น สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕
สมเด็จพระปิยมาวดีฯ นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศฯ รวมทั้งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ที่ประสูติแต่สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชเทวี พระบรมราชินีนาถ ตรัสเรียกว่า คุณยาย
ยังมีธิดาของหลวงอาสาสำแดง (แตง) ที่มิได้เป็นธิดาของท่านท้าวสุจริตธำรง แต่ท่านท้าวฯ ท่านเลี้ยงดูประหนึ่งลูกแท้ๆ ติดตามสมเด็จพระปิยมาวดีฯผู้น้องสาวเข้าไปอยู่ด้วย ท่านผู้นี้เป็นประดุจขรัวยายเลี้ยง หรือ คุณยายเลี้ยงของสมเด็จเจ้าฟ้า สมเด็จพระบรมฯ ตรัสเรียกว่า ‘นาย’ ชื่อ ‘สุด’ ชาววังเรียกกันว่า ‘ขรัวนายสุด’
ความคิดเห็น