ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัติบุคคลสำคัญ

    ลำดับตอนที่ #21 : เอ็ดวา่ืร์ด มุนช์ จิตรกรชื่อก้องเจ้าของผลงาน The Scream

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 55


     

    ภายหลังจากที่ ภาพ “The Scream” ของเอ็ดวาร์ด มุนช์ (Edvard Munch) ถูกโจรกรรมไป จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ในกรุงออสโล ในที่สุดก็ได้ภาพกลับคืนมา เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2537 ซึ่งจากข้อมูลของตำรวจ ระบุได้ว่า คนร้ายมีความเกี่ยวข้อง กับกลุ่มต่อต้านการทำแท้ง โดยยื่นข้อเสนอจะคืนภาพให้ ถ้าภาพยนตร์เรื่อง “The Silent Scream” ได้ออกฉาย

    Edvard Munch

    เอ็ดวาร์ด มุนช์ (Edvard Munch) จิตรกรชาวนอร์เวย์ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2406 ณ เมืองโลเต็น พ่อของเขาเป็นแพทย์ผู้เคร่งศาสนา ส่วนแม่เสียชีวิต เมื่อเขามีอายุเพียง 5 ขวบ หลังจากนั้นพ่อก็โศกเศร้า และแยกตัวออกจากสังคม อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2424 มุนช์ก็ได้เข้าเรียน ที่โรงเรียนศิลปะคริสเตียเนีย แม้ว่าที่นี่จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่กลับมีงานศิลปะมากมายให้เขาศึกษา

    ในปี พ.ศ.2428 มุนช์เดินทางไปที่ปารีส และกลับมายังคริสเตียเนีย พร้อมกับสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีส และยังเป็นผลงานแนวเอ็กเพรสชั่นนิสม์ชิ้นแรก นั่นคือภาพ "เด็กหญิงป่วย" (The Sick Girl) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจ มาจากการเจ็บป่วยของพี่สาว

    ต่อมาในปี พ.ศ.2432 มุนช์ได้รับทุนการศึกษา ให้ไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ทำให้งานเขียนช่วงนี้ แสดงถึงอิทธิพลของปารีส โดยเรื่องราวส่วนใหญ่ จะเกี่ยวกับศาสนา โดยในปี พ.ศ.2435 เขาได้เปิด การแสดงผลงานเดี่ยวเป็นครั้งแรก และยังได้รับเชิญ ให้นำผลงานไปแสดงที่เยอรมัน ในครั้งนั้น ผลงานของเขา ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง จึงมีคำสั่งให้ยุติการแสดง ที่จัดขึ้นได้เพียงสัปดาห์เดียว

    ในช่วงปี พ.ศ.2436 หลังจากที่อกหักจากดางี เยลล์ (Dagny Juell) นักศึกษาดนตรี ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่ อยู่กลุ่มคริสเตียเนียโบฮีเมีย มุนช์จึงมาอาศัยอยู่ ที่นอร์เวย์ เพื่อเขียนภาพชุด "ความรัก" หนึ่งในนั้นก็คือภาพ "กู่ร้อง" (The Scream) ซึ่งเขียนขึ้นในปี พ.ศ.2438 ที่กลายเป็นภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของมุนช์ และยังทำให้เขา ค้นพบรูปแบบการแสดงออกเฉพาะตัวบนผืนผ้าใบ

    กระทั่ง หันมาจับภาพพิมพ์ โดยคิดว่าสะดวกกว่า และสามารถเพิ่มรายได้ ให้กับตัวเอง โดยมุนช์คิดว่า ปารีสเป็นสถานที่ ซึ่งเหมาะสมที่สุด กับผลงานภาพพิมพ์ของเขา มุนช์จึงตัดสินใจเดินทางไปฝรั่งเศส และพบว่าภาพพิมพ์ไม้ และพิมพ์หิน อันมีพลังแห่งแสง และเงากับเส้นสาย ที่ห้าวหาญดูรุนแรงยิ่งกว่า โดยในปารีส เขาได้รับความชื่นชม จากเฟรดริค เดลิอุส (Freberick Delius) นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ และสเตฟาน มาลลาร์เม่ (Stephane Mallarme) กวีสัญลักษณ์คนสำคัญของฝรั่งเศส
    Tulla Larsen

    ต่อมามุนช์ แต่งงานกับทุลลา ลาร์เซน (Tulla Larsen) นางแบบสำคัญ ในงานจิตรกรรมชุดใหญ่ ที่เรียกว่ายุค "ระบำชีวิต" (The Dance of Life) แต่แล้วก็ต้องเลิกลากันไปในปี พ.ศ.2445 โดยในปี พ.ศ.2451 มุนช์เสียสติจนต้องรักษาตัวอยู่ 6-8 เดือน จนกระทั่งหายขาดแล้ว กลับมาทำงานเหมือนเดิม จนทำให้มีชื่อเสียง และเงินทองเข้ามาในชีวิตเขามากมาย

    มุนช์เสีย ชีวิตในปี พ.ศ.2487 โดยตลอดเวลา เขาเป็นศิลปินผู้หนึ่งที่ทำงานหนัก และทุ่มเทให้กับงานศิลปะอย่างจริงจัง ดังคำกล่าวของเขาที่ว่า

    ผลงานของ มุนช์ ถูกรวบรวมไว้ที่พิพิธภัณฑ์มุนช์ ในเมืองออสโล ซึ่งต่อมา ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่าง "The Scream” ได้ถูกขโมยออกไปจากพิพิธภัณฑ์ โดยกลุ่มต่อต้านการทำแท้ง ซึ่งยื่นข้อเสนอ จะคืนภาพให้ ถ้าภาพยนตร์เรื่อง “The Silent Scream” ได้ออกฉาย อย่างไรก็ตาม ทางพิพิธภัณฑ์ก็ได้ภาพกลับคืนมา เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2547 โดยภาพวาดของเอ็ดวาร์ด ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดังเดิม



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×