ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัติบุคคลสำคัญ

    ลำดับตอนที่ #15 : โธมัส เอ็ดเวิร์ด ลอเรนซ์ ราชาแห่งทะเลทราย

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 55


     

    โธมัส เอ็ดเวิร์ด ลอเรนซ์ (Thomas Edward Lawrence) ตำนานฮีโร่แห่งสงครามของชาวอาหรับ นักเขียน และนักโบราณคดี ผู้ได้ชื่อว่า "ราชาแห่งทะเลทราย" หรือ "สายลับผู้ร้ายกาจ" เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2478 จากอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซด์คว่ำ หลังจากที่อาการโคม่าอยู่ 6 วัน

    โธมัส เอ็ดเวิร์ด ลอเรนซ์ (Thomas Edward Lawrence) เกิดที่เมืองเทรมาด็อก (Tremadoc) รัฐเวลส์ (Wales) เป็นลูกชายคนที่สอง ของครอบครัว ซึ่งมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน คือ แฟรงค์ (Frank), อาร์โนลด์ (Arnold), บ็อบ (Bob) และวิลล์ (Will) ต่อมาครอบครัวของเขา ย้ายมาอยู่ที่อ็อกฟอร์ด ลอเรนซ์มีนิสัยรักการผจญภัย และมีความอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก ในปี พ.ศ.2450 เขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด สาขาประวัติศาสตร์ เขาไม่ค่อยจะ ตั้งใจเรียนเท่าไหร่ แต่มักจะอ่านแต่โคลงและเรื่องราว ในยุคกลางของยุโรปแท่านั้น

    ต่อมาเมื่อต้องทำวิทยานิพนธ์ เพื่อให้จบระดับปริญญาตรี เขายังเลือกทำในหัวข้อ เกี่ยวกับยุคกลาง "The influence of the Crusades on the medieval military architecture of Europe" (อิทธิพลของสงครามครูเสด ที่มีต่อสถาปัตยกรรม ทางการทหารของยุโรป) พร้อมกับเข้าไปหาข้อมูลที่ซีเรีย

    ณ ซีเรีย (Syria) ลอเรนซ์ใช้เวลา 2 เดือน เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมปราสาท 6 แห่ง แม้เขาจะกลับมาบ้าน พร้อมกับไข้มาเลเรียและป่วยจากการขาดอาหาร อย่างไรก็ตามลอเรนซ์ ก็สามารถเรียนส่งวิทยานิพนธ์ และเรียนจบระดับปริญญาตรี ด้วยประสบการณ์ในซีเรีย ทำให้เขาฝังใจกับทะเลทรายมาก เมื่อได้รับทุนให้เรียนต่อปริญญาโท ที่วิทยาลัยแมกดาเลน เขาจึงรับมันอย่างเต็มใจ โดยลอเรนซ์มีโอกาสได้ขุดค้นโบราณคดี ที่ชุมชนฮิทไทท์ (Hittite) บนแม่น้ำยูเฟรตีส (Euphrates River) (ชนชาติหนึ่งในเอเชียสมัยโบราณ ที่ปกครองดินแดนในเอเชียไมเนอร์ และทางเหนือของซีเรีย)

    เขาใช้ชีวิตที่แหล่งโบราณคดี ชุมชนฮิทไทท์นานถึง 3 ปี โดยมีหน้าที่บันทึกภาพและเขียนบันทึก โดยใช้เวลาว่าง ไปกับการเรียนภาษาอารบิค จนสามารถพูดได้ อีกทั้งยังแต่งตัวแบบอาหรับ จึงทำให้เขา สนิทกับชาวอาหรับมากขึ้น

    จนกระทั่งปี พ.ศ.2456 เมื่อเกิดสงครามไปทั่วยุโรป และเอเชียกลาง ชาวเคิร์ดที่อยู่ภายใต้ การปกครองของเติร์ก (Turks) พยายามต่อสู้เพื่ออิสรภาพ อีกทั้งอังกฤษและเยอรมัน ก็เกิดปัญหากัน โดยชาวอังกฤษ ที่อยู่ในอาณาจักรทะเลทราย รู้ดีว่าอาณาจักรออตโตมัน (Ottoman Empire) (ดินแดนของชาวเติร์ก) เป็นพันธมิตรกับเยอรมัน หากเกิดสงครามระหว่างอังกฤษ และเยอรมัน ก็ทำให้เกิดปัญหา ในตะวันออกกกลางด้วย

    ต่อมาลอเรนซ์สมัครเป็นสายลับให้กับอังกฤษ เพื่อสอดแนมท่าทีของเยอรมันและเติร์ก โดยมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลการสร้างทางรถไฟสายเบอร์ลิน - แบกแดด รวมทั้งสำรวจทะเลทรายไซนาย (Sinai) กระทั่งสงครามโลกครั้งที่เริ่มขึ้นในปี พ.ศ.2457 เขาจึงกลับไปที่อังกฤษ เพื่อสมัครเป็นทหารในหน่วยสืบราชการลับ โดยติดยศร้อยตรี ซึ่งมีหน้าที่เขียนแผนที่ของไซนาย ขณะนั้นเองกองทัพอังกฤษในกรุงไคโร ต้องการทหารที่พูดอาหรับได้ ซึ่งลอเรนซ์ มีคุณสมบัติดังกล่าวจึงได้มาทำงาน ในหน่วยสืบราชการลับในไคโร (Cairo)

    ต่อมาในปี พ.ศ.2459 เขาได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอก และไปช่วยทหารอังกฤษที่เมโสโปเตเมีย (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอิรัก) ระหว่างนั้นอาหรับได้รวมตัวกันปลดแอกจากเติร์ก โดยมีกลุ่มต่อต้านที่สำคัญที่สุดคือ ฮุสเซน อิบ อาลี (Hussein ibn Ali) ผู้ดูแลกรุงเมกกะ และไฟซาล (Faisal) ลูกชายของเขา ซึ่งลอเรนซ์ได้รับหน้าที่ให้เข้าไปกระตุ้น ให้เกิดการต่อต้านเติร์กมากขึ้น และบางครั้งก็วางแผนการรบ ให้กับขบวนการกู้ชาติอาหรับด้วย

    ณ ฮิจาซ ลอเรนซ์เริ่มทำสงครามกองโจร เข้าก่อกวนเส้นทางรถไฟด้วยการวางระเบิด ความกล้าหาญของเขาทำให้พวกอาหรับ นับถือเขามากขึ้น พร้อมกับการโจมตีชาวเติร์กที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ต่อมาเขาปลอมตัวเข้าไปที่เมืองดีรา แต่ถูกทหารเติร์กจับตัวได้ และทำร้ายร่างกายรวมทั้งถูกทารุณกรรมทางเพศ แต่เขาสามารถหนีรอดมาได้

    ระยะเวลาผ่านไปลอเรนซ์ยิ่งรู้สึกผิด ที่ทำให้ชาวอาหรับเชื่อว่า หากชนะเติร์กแล้วจะได้ปกครองตัวเอง แต่อังกฤษและฝรั่งเศส ไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่นอน เขาเหนื่อยทั้งกายและใจที่ต้องรบราฆ่าฟันกัน ในสงครามทะเลทรายที่มีเขาเป็นคนวางแผนและร่วมรบ ลอเรนซ์จึงถอนตัวจากกองกำลังกู้ชาติอาหรับในปี พ.ศ.2461 แต่เขามีความสำคัญต่อชาวอาหรับ มากเกินกว่าที่จะถอนตัวได้

    เมื่อกองกำลังกู้ชาติอาหรับของไฟซาลได้เข้ามาที่เมืองดามัสกัน จึงพบกับอัลเลนบี ผู้นำอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเขาบอกกับไฟซาลว่า หลังจากไล่ชาวเติร์กออกไปได้ซีเรียจะกลายเป็นเขตอิทธิพลของฝรั่งเศส และไม่สามารถเรียกร้องสิทธิเหนือเลบานอนและปาเลสไตน์ได้ เพราะอังกฤษและฝรั่งเศสได้แบ่งการปกครองกันไว้เรียบร้อยแล้ว ลอเรนซ์เสียใจกับเรื่องที่เกิด เขาจึงเดินทางกลับอังกฤษ แต่สงคราม ก็ยังไม่สงบจนกว่าอาหรับจะได้เอกราช เขาจึงโน้มน้าวให้สภาเห็นด้วยเรื่อง "อิสรภาพอาหรับ" เมื่อเขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ในขณะเข้าเฝ้าพระเจ้าจอร์จที่ 5 (King George V) ลอเรนซ์ได้กราบทูลว่าเขามิอาจรับได้ เพราะกษัตริย์แห่งอังกฤษได้ผิดสัญญา กับเจ้าชายแห่งอาหรับ

    ต่อมาในปี พ.ศ.2463 หลังจากไฟซาลตั้งตัวเป็นกษัตริย์แห่งซีเรีย ดามัสกัสก็ถูกฝรั่งเศสทิ้งระเบิด และอังกฤษก็ปราบปราม กองกำลังกู้ชาติอาหรับ พร้อมกับขับไล่ไฟซาลไปที่อิรัก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต้องการให้เกิดสันติภาพ จึงแต่งตั้นลอเรนซ์ให้เป็นที่ปรึกษา เขาจึงกลับไปที่ไคโร ในฐานะที่ปรึกษาของเชอร์ชิลในการประชุมครั้งสำคัญ ผลก็คือ เขาทำให้ไฟซาลได้เป็นกษัตริย์แห่งอิรัก

    ภายหลังจากที่ลาออกจากตำแหน่ง ลอเรนซ์สมัครรับราชการ ในกองทัพอากาศภายใต้ชื่อจอห์น ฮัม โรส (John Hume Ross) ด้วยวัย 34 ปี จึงเป็นการฝึกที่ทรมาณมากสำหรับเขา อย่างไรก็ตามเขาก็ทำสำเร็จ แต่เขาต้องถูกปลดจากกองทัพ เนื่องจากมีคนจำเขาได้ และหนังสือพิมพ์พากันทำข่าวของเขา จนทำให้เกิดความวุ่นวายในกองทัพ ลอเรนซ์จึงไปอยู่ที่กองทัพบก หน่วยรถถัง โดยเพื่อน ๆ ทหารต่างยอมรับในตัวเขา และเรียกเขาว่า Broughie Shaw ซึ่งมาจากรถมอเตอร์ไซค์ Brough Superior ที่เขาชอบขับนั่นเอง แต่ลอเรนซ์ยังปักใจกับการบินจนสามารถกลับเข้าไป ที่กองทัพอากาศได้อีกครั้ง

    ลอเรนซ์วัย 46 ปี เริ่มชรามากขึ้นและไม่สามารถทำงาน ให้กับกองทัพอากาศได้อีก โดยเขามีความฝันที่จะตั้งสำนักพิมพ์ ซึ่งในขณะที่เขานัดกับนักเขียน เฮนรี่ วิลเลี่ยมสัน และออกเดินทางไปส่งโทรเลข ระหว่างทางในช่วงขากลับ ลอเรนซ์ขับรถมอเตอร์ไซด์ ด้วยความเร็วสูง กลับต้องพุ่งหลบเด็ก บนถนนอย่างกระทันหัน ร่างของเขาถูกเหวี่ยงกระแทกลงพื้นอย่างแรง ทำให้กะโหลกร้าวและสงบไป จนกระทั่งวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2478 หลังจากอาการโคม่า ลอเรนซ์ก็เสียชีวิตลง ณ โรงพยาบาล ในค่ายโบวิงตัน ปิดฉากชีวิต "ราชาแห่งทะเลทราย"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×