คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #191 : วังนันทอุทยาน
พระตำหนัก วังนันทอุทยาน (สวนอนันต์) ในคลองมอญ ธนบุรี |
วังนันทอุทยาน สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีประวัติว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริว่า เวลานั้นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังดำรงพระชนม์อยู่ และยังทรงแข็งแรง ส่วนพระองค์ทรงพระชรามากแล้ว หากเสด็จสวรรคตลง บรรดาพระราชโอรสธิดาและเจ้าจอมมารดาอยู่ในพระบรมมหาราชวัง บางทีจะลำบากและอาจเป็นที่กีดขวางแก่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ซึ่งทรงรับรัชทายาทเสด็จเข้ามาประทับ ณ พระบรมมหาราชวัง
ดังนั้น จึงโปรดฯให้ซื้อสวนในคลองมอญทางฝั่งเหนือ โปรดฯให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ เป็นนายงามสร้างพระราชมณเฑียรขึ้น พระราชทานนามว่า ‘วังนันทอุทยาน’ แต่เมื่อมีพระราชมณเฑียรที่ประทับ และเสด็จพระราชดำเนินประพาส จึงพากันเรียกว่า ‘พระราชวังนันทอุทยาน’ ซึ่งนอกจากเป็นที่เสด็จประพาสแล้ว ยังทรงเตรียมไว้สำหรับเป็นที่ประทับของพระราชโอรสธิดา และที่อยู่ของเจ้าจอมมารดาด้วยเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตแล้ว
ทว่าครั้นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เสด็จสวรรคตก่อน จึงพระราชทานวังนันทอุทยาน แก่พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ แต่พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงก็มิได้เสด็จไปประทับ ด้วยเมื่อทรงโสกันต์แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดฯให้ประทับใกล้พระองค์อยู่ ณ พระตำหนักสวนกุหลาบ ในพระบรมมหาราชวัง
พระบรมรูปพระบาทสมเด็จ |
จวบจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ พระราชทานคุณแพ หลานปู่ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ให้เป็นหม่อมท่านแรกเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงมีพระชนมายุ ๑๕-๑๖ พรรษา คุณแพหรือขณะนั้นคือ หม่อมแพ ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานาถ จึงอยู่ ณ ตำหนักสวนกุหลาบนั้นด้วย
ต่อมาคุณแพทรงครรภ์ ตามธรรมเนียมราชประเพณีนั้น เว้นเสียแต่ประสูติพระราชโอรสธิดาแล้ว จะให้หญิงใดคลอดลูกในพระบรมมหาราชวังไม่ได้เป็นอันขาด พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จึงโปรดฯให้จัดตึกซึ่งสร้างเป็นพระราชมณเฑียรไว้ในวังสวนนันทอุทยาน พระราชทาน
พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ขณะนั้นพระชนมายุเพียง ๑๖ พรรษา ต้องทรงข้ามมารับราชการถวายสมเด็จพระบรมราชชนกแต่เช้า ต่อค่ำจึงเสด็จลงเรือข้ามฟากกลับวังสวนนันทอุทยาน เล่ากันว่าเคยตรัสเล่าว่า บางคืนน้ำในคลองแห้ง ต้องเสด็จขึ้นบกทรงพระดำเนินไต่ไปตามสะพานยาวริมคลอง กว่าจะเสด็จถึงได้บรรทมก็ตกดึก
คุณแพ ซึ่งต่อมาคือ เจ้าคุณจอมมารดาแพ แล้วเจ้าคุณพระประยุรวงศ์ ทรงครรภ์พระหน่อเพียง ๗ เดือน ก็ประสูติไม่ครบกำหนด แต่ก็ยังทรงพระชนมชีพอยู่ เป็นพระราชธิดา เมื่อประสูติทรงพระยศหม่อมเจ้า สมเด็จพระบรมชนกนาถจึงรับสั่งเรียกว่า ‘เจ้าหนู’
อีกเดือนหนึ่งต่อมา จึงได้ทรงพาเจ้าคุณพระประยุรวงศ์ และพระหน่อ ย้ายข้ามกลับมาประทับ ณ พระตำหนักสวนกุหลาบตามเดิม
พระราชธิดาพระองค์นี้ ต่อมาได้รับพระราชทานพระนามว่า พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี โปรดฯให้มีสร้อยพระนาม เช่น เจ้าฟ้า เมื่อสถาปนากรมก็โปรดฯให้ทรงกรมเป็นกรมขุนเสมอเจ้าฟ้า คือ กรมขุนสุพรรณภาควดี ด้วยทรงพระเมตตาสิเนหาโปรดปรานมาก ทรงถือว่าเป็นลูกคู่ทุกข์คู่ยาก
เล่าต่ออีกสักนิด สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทราบ กรมขุนสุพรรณภาควดี พระองค์นี้ สิ้นพระชนม์เมื่อพระชนม์เพียง ๓๗ ปี (พ.ศ.๒๔๔๗) สมเด็จพระบรมชนนาถทรงพระอาลัยมาก โปรดฯให้เชิญพระศพไปพระราชทานเพลิง ณ พระราชวังบางปะอินเป็นการพิเศษ
(ความมโหฬาร สนุกสนานเอิกเกริกในการออกพระเมรุนั้น ปรากฏอยู่ในเรื่อง ‘สี่แผ่นดิน’ ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช)
เวลานั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงมีพระราชธิดาที่ทรงพระกรุณาโปรดปรานอยู่ และทั้งสองพระองค์ก็ทรงรักใคร่สนิทสนมกันอย่างยิ่ง เป็นที่ประจักษ์ของชาววังทั้งหลาย
พระองค์หนึ่ง คือ กรมขุนสุพรรณภาควดี
อีกพระองค์หนึ่ง คือ สมเด็จเจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร พระราชธิดาในพระอัครชายาพระองค์กลาง (พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์) เรียกว่า พระอัครชายาพระองค์กลาง ทว่าท่านเป็นพระอัครชายาพระองค์แรก
เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๐ |
สมเด็จเจ้าฟ้าจันทราสรัทวารมีพระชันษาอ่อนกว่ากรมขุนสุพรรณภาควดี ๕ ปี เมื่อแรกประสูติเป็นพระองค์เจ้า ต่อมาจึงโปรดฯเฉลิมพระยศขึ้นเป็นเจ้าฟ้า จึงเรียกกันว่า ‘สมเด็จหญิงใหญ่’
ส่วนกรมขุนสุพรรณภาควดี นั้น เรียกกันว่า ‘พระองค์ใหญ่’ บ้าง ‘เสด็จองค์ใหญ่’ บ้าง
เมื่อเชิญพระศพกรมขุนสุพรรณฯ ไปพระราชทานเพลิงนั้น สมเด็จหญิงใหญ่เกิดไปทรงพระประชวรแล้วเลยสิ้นพระชนม์ที่พระราชวังบางปะอินนั้น ชาววังจึงเศร้าโศกสลดใจ ว่า ‘เชิญพระศพพระองค์หนึ่งมา แล้วก็ต้องเชิญพระศพอีกพระองค์หนึ่งกลับ’
ที่อัศจรรย์ใจกันมาก ก็เพราะเจ้านายทั้งสองพระองค์ทรงรักใคร่สนิทสนมกันอย่างยิ่ง เวลาสิ้นพระชนม์ยังมาสิ้นพระชนม์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ราวกับนัดกันเสด็จมาแล้ว ก็นัดกันเสด็จสิ้นพระชนม์ไป
พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง พระบรมชนกนาถทรงเศร้าโศกนัก โปรดฯสถาปนากรมสมเด็จเจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร โดยโปรดฯให้ตรึงสายสะพายไว้ที่พระโกศ พระราชทานพระนามกรมว่า กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ คล้องจองกับ ‘สุพรรณภาควดี’ คือ ‘พิจิตรเจษฎ์จันทร์ สุพรรณภาควดี’ (ให้กรมของเจ้าฟ้าอยู่หน้า)
สำหรับ วังนันทอุทยาน หรือสวนอนันต์ นั้นว่างอยู่ จึงในรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงได้โปรดฯ พระราชทานพระตำหนักให้ศาสนาจารย์แมดฟาแลนด์ หรือหมอแมดฟาแลนด์ สร้างโรงเรียนรัฐบาลขึ้น เรียกว่า King’s College เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๑ ทว่า ถึง พ.ศ.๒๔๒๔ เมื่อโปรดฯให้สร้างโรงเรียนสุนันทาลัย (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนราชินี) จึงได้โปรดฯให้ย้ายโรงเรียนวังนันทอุทยาน มาสอนรวมกันกับโรงเรียนสุนันทาลัย ส่วนที่วังนันทอุทยาน หรือสวนอนันต์ โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นสถานที่ราชการของทหารเรือต่อไป
ความคิดเห็น