ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บ่อน้ำสมชาย
ขณะที่เดนนี่กำลังดูทีวีขาวดำที่ตนซื้อไว้อยู่กับโซฟีอยู่ดีๆก็ขึ้นข่าวจากรายหนึ่ง
“เราพบกบตัวหนึ่งนอนถูกเสียบอยู่บนยอดหอไอเฟลเลือดนองหยาดเยิ้มและข้างๆมีจานดาวเทียมตกอยู่ด้วยสักพักกบตัวนั้นก็หายวับไปจากยอดหอไอเฟล  นี่อาจจะเป็นปรากฏการณ์มนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกก็เป็นได้ โลกเราจะถึงจุดจบกันแล้วหรือถ้าเป็นเช่นนั้นจริงขอให้ทุกๆท่านระวังดูแลบุตรหลานให้ดีๆผมขอให้มันอย่าเป็นอย่างนั้นเลยอย่าลืมแปรงฟันก่อนนอนนะครับ ก่อนจากไปผมขอฝากอะไรเล็กๆน้อยๆถึงชาวออสเตรเลียหน่อยครับ--- ยํ เว เสวติ ตา ทิ โส--คบคนเช่นใดย่อมเป็นเช่นนั้นสำหรับวันนี้สวัสดีครับศูนย์ข่าวจิงโจ้กระโดดไกลลิบลิ่วหย๋องหย๋องรายงาน”เดนนี่ฟังด้วยสีหน้าเสียใจและผิดหวังอย่างมาก
“นี่ สิ”เนถาม
“อะไร .ไรตัวเดียวอีกล่ะสิ”สิบอก
“ปล่าวไม่ได้เล่นมุข..แค่อยากจะถามว่าคราวที่แล้วน่ะที่เราไปตามตัวเดนนี่จนพบน่ะแล้วเอาไปให้ ศ. จรรยานน่ะอาจารย์เค้าเอาไปทำอะไรเหรอ”
“ไม่รู้สิคงเรียกไปคุยอะแหละแต่ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าทำไมต้องเรียกไอ้พวกลูกครึ่งด้วย”สิบอกแล้วชวนทุกคนให้ออกตามหากัลยาตามที่ศาสตราจารย์จรรยานสั่ง
เดนนี่เดินออกมาจากห้องพลางนึกถึงความหลัง ณ ตอนที่เค้าเพิ่งกำเนิดมาบนโลกหลังจากที่เค้าได้กำเนิดมาบนไม่กี่วันเค้าก็กกลายเป็นซาลาแมนเดอร์ยักษ์ที่ออกจากบ้านไม่ได้เลยเนื่องจากทั้งที่ต้องกลายมาเป็นซาลาเมนเดอร์ พ่อและแม่ก็ตายจากไปหมด เค้าจำได้ว่าเคยที่ตามตัวจากใครคนหนึ่ง และสุดท้ายนักเรียนกลุ่มหนึ่งมาจับตัวเค้าไปให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ทำอะไรก็ไม่รู้ เดนนี่เอื้อมมือไปแตะรอยแผลบริเวณข้อพับศอก เค้าจำได้แค่ว่านอนสลบอยู่บนเตียงและก็มีสายเชื่อมระโยงระยางค์เต็มแขนไปหมด  และก็มีห้องทดลองอยู่ด้านข้างเขาและภายในมีห้องทดลองหลอดแก้วอีกห้องหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจดบรรทึกและส่องกล้องจุลทรรศน์ ศึกษาสิ่งๆหนึ่ง  ในห้องหลอดแก้วมีหญิงทดลองคนหนึ่งใบหน้าดูแปลกๆในตอนนั้น แต่ว่าเมื่อเค้านึกถึงตอนนี้ใบหน้าที่เรือนๆในตอนนั้นมันดูคุ้นตามากอย่างน่าประหลาดใจ แล้วหลังจากนั้นหญิงในหลอดทดลองนั้นก็ถูกห่อด้วยควันสีส้มจนมิดแล้วเมื่อควันซาลงหญิงคนนั้นก็หายไปเหลือเพียง เค้าจำไม่ได้หลังจากนั้นเพราะผู้หญิงที่ส่องกล้องจุลทรรศน์อยู่นั้นก็มาลากตัวเค้าไปแล้วก็ปล่อยเค้าไป
แล้วเดนนี่ก็เดินกลับไปที่ห้อง
“ราตรีสวัสค่ะ”กัลยาแอบเดินเข้าไปในห้องพ่อแม่เพราะคิดว่าถ้าแกล้งทำให้เซอร์ไพรส์ที่ตนกลับมาได้จากที่หล่นจมไปในทะเลเดดซี
เดนนี่สะดุ้งโหยงเพราะตนเพิ่งได้ดูข่าวที่มีกัลยาอยู่ไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วถึงขนาดนี้
“เออไปเถ้อะะ”โซฟีบอก
หลังจากที่กัลยาเดินออกไป ทั้งคู่ก็รีบสุมหัวปรึกษากันตรั้งใหม่
ระหว่างทางที่กัลยาเดินทางกลับห้องก็เอาแต่คิดว่าเค้าทำอะไรไปบ้างเค้าจำได้แค่ว่าเค้าเข้าไปในห้องพ่อและพ่อก็ถามเค้าบางอย่างจากนั้นก็รู้สึกเหมือนสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างแรงและสติสัมปชัญญะทั้งหมดของเค้าก็ดับวูบลงพอดีเค้าเหลือบไปเห็นประตูห้องนอนของห้องเก็บของแง้มอยู่เล็กน้อยกัลยาไม่เคยได้เข้าไปในห้องเก็บของเลยแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตกัลยาจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษและดูรอบตัวให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่เค้าก็ย่องไปแล้วเปิดประตูและะก็เข้าไปมีแสงสีทองสะท้อนระยิบระยับกัลยาต้องเอามือบังตาซักพักก็เปิดตาถ้วยรางวัลเรียงกันหลายร้อยถ้วยแต่ละถ้วยจากที่ดูแล้วมันทำจากช่างที่ฝีมือประณีตมันเป็นรูปจิงโจ้ตัวหนึ่งที่กำลังทำท่าเหมือนจะกระโดดในมือถือไมโครโฟนไว้ด้วยเหมือนกันเกือบทุกถ้วยกัลยาจึงอ่านข้อความที่พิมพ์ไว้
“              ทางสำนักข่าวจิงโจ้กระโดดไกลลิบลิ่วหย๋องหย๋อง
ขอมอบ
ถ้วยรางวัลถ้วยนี้ให้แก่ คุณเดนนี่    นี่เดน
ว่าคุณเดนนี่    นี่เดนได้เป็นนักข่าวยอดเยี่ยมประจำปี 6098สาขาคนขัดรองเท้านักข่าว
                                                            ขอขอบคุณ                          ”
กัลยาปลาบปลื้มมาก แต่แล้วเค้าก็ง่วงนอนจึงเดินลากขาเข้าห้องไป
คืนนั้นเค้าฝันเห็นสิ่งสิ่งหนึ่งกลมๆลอยน้ำอยู่เค้ามองลงไปให้ชัดกว่าเดิมและพบว่านั่นคือตัวเค้าเองลอยน้ำอยู่ไกลๆน่าตาหมดหวังหดหู่และก็มีนางฟ้ารูปงามลงมาทำอะไรเสร็จแล้วก็หัวเราะและหายวับไปและตัวเขาก็หมดหวังก็ไปอีกขณะนั้นเอง
“มอ .มอ .มอ”นาฬิกาปลุกรูปโคถึกที่โซฟีซื้อให้กัลยากำลังร้องปลุก
“มอ .มอ .มอ”กัลยาเอามืออันน่าเกลียดขยะขแยงยื่นมาปิดนาฬิกาปลุกกัลยาเจ็บใจตัวเองเพราะฝันยังไม่ได้ไปถึงไหนเลยก็ต้องมาตื่นซะแล้วกัลยานิ่งไปซักพักจึงบิดขี้เกียจห้านาทีและลุกจากที่นอนแล้วก็พับผ้าห่มทบหนึ่งจัดให้เรียบร้อยและพับอีกทบหนึ่งจนมันเล็กลงประมาณเท่าจอทีวีแล้วก็จัดปลายผ้าห่มให้เท่ากันให้เรียบร้อยอีกครั้งหนึ่งจากนั้นก็เขวี้ยงมันออกไปนอกหน้าต่างด้วยความสะใจแล้วเขาก็เห็นตัวเขาเองในกระจกเขาตะลึงงันอ้าปากค้างอยู่พักนึง
“โสโครกว่ะ”เขาพูดหลังจากที่มองตัวเองในกระจกเนื้อตัวเลอะโคลนเต็มไปหมดแล้วก็รีบไปอาบน้ำพออาบน้ำจนตัวหอมสะอาดเสร็จเขาก็รีบวิ่งกระโจนไปนอกหน้าต่างและคลุกโคลนเล่นอย่างสนุกสนานเที่ยวไปขุดดิ้นรื้อต้นไม้และกัดรองเท้ากระจัดกระจายแถมยังเที่ยวไปกัดรองเท้าบ้านคนอื่นอีกด้วยจนคนอื่นรำคาญดุด่าว่ากล่าวก็ยังเมินเฉยจนเริ่มปาข้าวของเริ่มจากพริกหยวก ถั่วงอก ผักชี แม้กระทั่งตะหลิวแต่กัลยาก็ยังไม่เลิกก่อความรำคาญจนคนข้างบ้านเริ่มทนไม่ไหวอย่างสุด100กรัม(ขีด)
“โชะ ฉึบ ซ้วบบ”เสียงของดาบซามูไรเล่มหนึ่งเสียบเข้ากลางหน้าผากกัลยาที่ปามาจากข้างบ้าน มันเป็นดาบที่ ฮัติโตริ ฮานโซ ทำขึ้นมาเองกับเท้าชุบน้ำยาศักดิ์สิทธิ์เจ็ดชั่วโคตรใช้เหล็กอย่างดี
“แง แง แง”กัลยาร้องขอความช่วยเหลือ ขณะนั้นก็มีผู้หญิงผมสีทองใส่เสื้อสีเหลืองแขนยาวและกางเกงขายาวสีเหลืองมีลายดำเป็นทางเดินออกมา
“หุบปากซะทีซิรำคาญ”หญิงคนนั้นเดินออกมาแล้วเลิกดาบของตนที่เสียบกลางกบาลกัลยาออกมา แล้วเก็บเข้าฝักอย่างเดิม แล้วก็มองดูกระดาษใบเล็กๆ
“ VERNITA GREEN
  ELLE DRIVER
  OREN ISHII
  BUCK
  BILL  ”
“ต่อไปก็เป็นยัยโอเร็น  อิชิอิซินะ”
“งั้นก็ต้องไปที่ญี่ปุ่น”ว่าแล้วหญิงในชุดแขนขายาวสีเหลืองลายดำทางก็วิ่งกระด๊อกกระแด๊กจากไป
“ไปก็ได้”กัลยาเดินไปเล่นที่อื่นกัลยาเดินไปในห้องของตนอีกครั้งเพื่อไปเอาตุ๊กตาบาร์บี้ของตนมาเล่นเป็นตุ๊กตาที่กัลยาทำเองซึ่งตอนนี้มันเหลือแต่หัวเค้าให้ชื่อมันว่า
“โดโรทีจัง”
เค้ามักจะเอาโดโรทีจังไปเล่นด้วยเสมอเธอมักจะเล่นขายของกับโดโรทีจังพอเบื่อก็มักจะกัดแล้วฉีกโดโรทีจังเป็นชิ้นๆวันนี้ก็เช่นกันเค้าพาโดโรทีจังออกไปเล่นขายของกัลยาเล่นเป็นคนขาย
“เอาอะไรดีจ๊ะมีหลายอย่าง”กัลยาถามโดโรทีจัง
“ตอบซีว่ะะ”
“จะกินอะไรตอบซิ”กัลยาโมโหที่โดโรทีจังไม่ตอบอะไรเลยเค้าเริ่มโมโหมากจับโดโรทีจังมากัดฉีกเป็นชิ้นๆอีกครั้งแล้วปาโดโรทีจังไปข้างบ้านโดนหัวคนข้างบ้านที่ชื่อแลนด์เป็นช่างไม้จึงออกมาต่อว่าแต่กัลยาก็ทำท่าทางเหมือนไม่ได้สำนึกจึงเลยเขาจึงเดินไปหยิบขวานมาเฉาะกลางกบาลกัลยาออกเป็น2ซีกแล้วก็เดินกลับบ้านไปทำงานต่อกัลยาเลือดท่วมตัวรีบวิ่งไปฟ้องแม่โซฟีก็รีบไปเอากล่องเครื่องมือมาทำแผลให้เค้าใช้กาวตราช้างติดหัวกัลยาให้ติดเข้ากันก่อนแล้วจึงใช้ตะปูตอกเชื่อมเข้าไปให้แน่นยิ่งขึ้นแล้วก็ใส่ยาแดง
“เสร็จแล้วจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ”แล้วกัลยาก็เดินไปยังตู้เย็นแล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากแถวหนังสือที่วางไว้ชื่อหนังสือคือ
“โปรดอ่านหน่อย”กัลยาไม่เคยอ่านมาก่อนเพราะพ่อพึ่งจะซื้อให้เค้าไม่กี่วันมานี้ก่อนเค้าจะอ่านเค้าก็เดินไปตู้เสื้อผ้าเพื่อเอาอาหารที่เก็บไว้และน้ำดื่มออกมาทานด้วยผู้เขียนคือ
“นอเวย์  เวย์นอ”แล้วก็พลิกไปอ่านไตเติ้ลด้านหลัง  ไม่มีไตเติ้ลเค้าจึงเปิดแผ่นแรก
“หนังสือชนะเลิศการประกวดบุ๊ค แฟร์ เฟสติวอล6007เนื้อเรื่องเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยใช้คำประพันธ์ดีเรียบเรียงน่าอ่าน”และจบลงด้วยชื่อหนังสือ
“โปรดอ่านหน่อย”กัลยาก็เริ่มเปิดอ่าน
“หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย ...”พออ่านถึงแผ่นสุดท้าย
“ขอบคุณที่ช่วยกันอ่าน หน่อย ”กัลยารีบเก็บหนังสือเล่มนี้ไปไกลๆแล้วออกไปเล่นข้างนอกต่อเดินไปเล่นแถวบ่อน้ำข้างบ้านโซฟีคิดว่าน่าจะให้กัลยาไปอยู่บ้านป้าของตนกัลยาเดินไปแล้วหยุดชะงักตรงบ่อยื่นหน้าเล็กๆลงไปในบ่อเล็กน้อยแล้วก็ส่งเสียงอุบาทว์ๆลงไปเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นทั้งๆที่เค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเสียงมันจะสะท้อนกลับมา
“อะห้อย”กัลยาส่งเสียงลงไป
“อะห้อย  อะห้อย  อะห้อย  อะห ”เสียงสะท้อนกลับมาจากซักที่เบื้องล่าง
“อะห้อย”กัลยาลองอีกที
“อะห้า อะห้า อะห้า อะห้า อะห .”แต่เสียงท้อนกลับมาคราวนี้ไม่เหมือนที่ส่งลงไป
“อะห้อย”กัลยาลองอีกทีเพื่อความแน่ใจ
“อะเหื้อ อะเหื้อ อะเหื้อ อะเห .”คราวนี้ก็เช่นกันแต่ไม่เพียงแค่ไม่เหมือนเสียงที่ส่งไปแต่มันยังไม่เหมือนเสียงที่สะท้อนกลับมาในครั้งที่2ด้วยกัลยาคิดว่าตนคงจำทฤษฎีผิดจึงปล่อยไปไม่สนใจอะไรมาก
              แล้วกัลยาก็ลองวัดความลึกดูเค้าก็นำความรู้จากอนุบาล2ที่เรียนมาจากทฤษฎีกัลยาจึงหยิบสิ่งของที่จะใช้ลองโยนลงไปเพื่อฟังเสียงการตกกระทบของของสิ่งนั้นเขาหาก้อนหินแต่แถวนั้นไม่มีเลยแม้แต่ก้อนเดียวรอบตัวเค้ามีเพียงแค่ทุ่งหญ้าโล่งกับกระบือ2ตัวเค้าคงไม่คิดเอากระบือไปโยนแน่ๆแล้วก็เหลือบมองไปในบ่อน้ำอีกทีเค้าเห็นเศษก้อนหินแตกๆอยู่ตามหลืบหินไม่ไกลเกินเอื้อมเค้าจึงเอื้อมมือไปพยายามหยิบแต่ว่ามันก็ไม่ถึงจึงโล้ตัวมากขึ้นและมากขึ้นจนกระทั่งตกบ่อน้ำนั้นลงไปกัลยากลัวและเสียวมากจึงกรี๊ดออกมาหลายหน
“กรื๊ด กรื๊ด”
“กรีด กรีด”กัลยาไม่รู้ว่าตนตกมานานเท่าใดแต่ว่าพอประมาณได้ว่าน่าจะซัก2-3ชั่วโมงได้แต่กัลยาก็ยังตกไม่ถึงก้นบ่อซักทีความรู้สึกเสียวๆที่มีก็เริ่มหายและหมดไปแทนที่ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายและตั้งสติคิดว่าข้างล่างจะมีอะไร
“ตุ่บ”กัลยาตกลงไปหัวกระแทกกับรูปปั้นที่ทำด้วยแสตนเลสส่วนลำตัวหล่นทับกับรังผึ้งที่อยู่ภายในบ่อน้ำนั้น
“อ้าว กัลยา”เสียงที่ฟังคุ้นเคยแว่วมาจากที่ๆหนึ่งภายในบ่อน้ำนี้
“อูยส์..”กัลยากำลังเลียมือและขาตัวเองเพื่อทำความสะอาด?
กัลยาเอื้อมคอไปดูรอบๆตัวมันใหญ่และดูโอ่อ่ามาก ภายในมีรูปภาพเด็กคนหนึ่งคาดว่าจะประมาณ 2ขวบถัดไปเป็น 8ขวบ ซึ่งเป็นเด็กผู้ชายรูปร่างหน้าตาเถื่อนๆ และอีกฟากผนังเป็นรูปที่โตขึ้นมาอีกน่าจะประมาณ 20ปีเป็นรูปตอนแขวนนวมโชว์หมัดกับคู่ต่อสู้แต่ว่าภาพต่อไปที่กัลยาเห็นมันกลับเป็นรูปผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสวยมากๆแต่งองค์เป็นชุดไทย และรอบๆนั้นที่กัลยาลืมสังเกตก็มีดาวที่เสียบอยู่บนไม้ก้านเล็กๆติดใส่กรอบเรียงราย
“นี่เธอน่ะ ”เสียงที่ดูคุ้นดังขึ้นอีกแต่คราวนี้มีของมาด้วย  รองเท้าขางหนึ่งลอยมาฟาดที่หน้ากัลยา
“ใครปาะ”กัลยาถามด้วยความโกรธเคือง
“ก็ฉั้นไง เห็นเรียกตั้งนานไม่ยอมหันก็เลยมือไวไปหน่อยน่ะ”บัดนี้กัลยาเห็นแล้วว่าร่างที่พูดนั้นคือใคร
“นางฟ้าสมชายย”กัลยาพูดและตะลึง(ค์)
“อ้าวกัลยาเองดอกหรือ”นางฟ้าสมชายถามขึ้น
“นี่เธอมาทำอะไรถึงที่กบดานของฉั้น”นางฟ้าสมชายลากเสียงอันสูงลิบลิ่วนิ่วไหม้
“หนูตกลงมาค่ะ”
“งั้นก็กลับไปซะทีซิ”
“คือ พอดีเลยงั้นหนูขอพรอะไรซักอย่างจะได้ม๊ยคะ”กัลยาทำตาโตอ้อนวอนจนเห็นลึกไปถึงเซลล์กล้ามเนื้อเรตินา
“นะคะแค่ข้อเดียวเองอ่ะ”
“ข้อเดียวเหรองั้นขอโทษจ้ะฉั้นให้ไม่ได้ถ้าเธอขอสองข้อนะฉันถึงจะให้ได้”
“ งั้นก็ได้ค่ะสองข้อ”
“เธอจะข้อสองข้อใช่มะ”
“ค่ะ”
“โลภมากที่สุดเลยนะ จะให้คนอื่นช่วยแล้วยังขอมากมายอีก”
“อ้าว ยังงี้ก็สวยอะดิ”
“จิงเหรอว้าวในที่สุดก็มีคนบอกว่าฉันสวยแล้วววดีใจจังเลย”แล้วนางฟ้าสมชายก็ไปหยิบคันฉ่องมาส่องดูแล้วก็ชื่นชมในโฉมหน้าของตนเอง
“นี่ในฐานะที่เธอชมว่าฉันสวยฉันจะให้พรตอบแทนละกัน อ่ะจะเอาอะไรบอกมา”สถานการณ์พลิกอย่างกะทันหัน
“เออ คือหนูอยากจะขอให้ไปจากเมืองนี้น่ะค่ะเพราะถ้าขืนอยู่ต่อไปบุพพการีของหนูก็จะทำร้ายหนูต่ออีกน่ะค่ะ”
“ได้จ้ะง่ายจะตาย”แล้วนางฟ้าก็เสก
“ปิ้ง”มีแสงสว่างเกิดขึ้นที่ปลายไม้กายสิทธิ์ แล้วกัลยาก็หายไป จากที่เดิม
“เราพบกบตัวหนึ่งนอนถูกเสียบอยู่บนยอดหอไอเฟลเลือดนองหยาดเยิ้มและข้างๆมีจานดาวเทียมตกอยู่ด้วยสักพักกบตัวนั้นก็หายวับไปจากยอดหอไอเฟล  นี่อาจจะเป็นปรากฏการณ์มนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกก็เป็นได้ โลกเราจะถึงจุดจบกันแล้วหรือถ้าเป็นเช่นนั้นจริงขอให้ทุกๆท่านระวังดูแลบุตรหลานให้ดีๆผมขอให้มันอย่าเป็นอย่างนั้นเลยอย่าลืมแปรงฟันก่อนนอนนะครับ ก่อนจากไปผมขอฝากอะไรเล็กๆน้อยๆถึงชาวออสเตรเลียหน่อยครับ--- ยํ เว เสวติ ตา ทิ โส--คบคนเช่นใดย่อมเป็นเช่นนั้นสำหรับวันนี้สวัสดีครับศูนย์ข่าวจิงโจ้กระโดดไกลลิบลิ่วหย๋องหย๋องรายงาน”เดนนี่ฟังด้วยสีหน้าเสียใจและผิดหวังอย่างมาก
“นี่ สิ”เนถาม
“อะไร .ไรตัวเดียวอีกล่ะสิ”สิบอก
“ปล่าวไม่ได้เล่นมุข..แค่อยากจะถามว่าคราวที่แล้วน่ะที่เราไปตามตัวเดนนี่จนพบน่ะแล้วเอาไปให้ ศ. จรรยานน่ะอาจารย์เค้าเอาไปทำอะไรเหรอ”
“ไม่รู้สิคงเรียกไปคุยอะแหละแต่ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าทำไมต้องเรียกไอ้พวกลูกครึ่งด้วย”สิบอกแล้วชวนทุกคนให้ออกตามหากัลยาตามที่ศาสตราจารย์จรรยานสั่ง
เดนนี่เดินออกมาจากห้องพลางนึกถึงความหลัง ณ ตอนที่เค้าเพิ่งกำเนิดมาบนโลกหลังจากที่เค้าได้กำเนิดมาบนไม่กี่วันเค้าก็กกลายเป็นซาลาแมนเดอร์ยักษ์ที่ออกจากบ้านไม่ได้เลยเนื่องจากทั้งที่ต้องกลายมาเป็นซาลาเมนเดอร์ พ่อและแม่ก็ตายจากไปหมด เค้าจำได้ว่าเคยที่ตามตัวจากใครคนหนึ่ง และสุดท้ายนักเรียนกลุ่มหนึ่งมาจับตัวเค้าไปให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ทำอะไรก็ไม่รู้ เดนนี่เอื้อมมือไปแตะรอยแผลบริเวณข้อพับศอก เค้าจำได้แค่ว่านอนสลบอยู่บนเตียงและก็มีสายเชื่อมระโยงระยางค์เต็มแขนไปหมด  และก็มีห้องทดลองอยู่ด้านข้างเขาและภายในมีห้องทดลองหลอดแก้วอีกห้องหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจดบรรทึกและส่องกล้องจุลทรรศน์ ศึกษาสิ่งๆหนึ่ง  ในห้องหลอดแก้วมีหญิงทดลองคนหนึ่งใบหน้าดูแปลกๆในตอนนั้น แต่ว่าเมื่อเค้านึกถึงตอนนี้ใบหน้าที่เรือนๆในตอนนั้นมันดูคุ้นตามากอย่างน่าประหลาดใจ แล้วหลังจากนั้นหญิงในหลอดทดลองนั้นก็ถูกห่อด้วยควันสีส้มจนมิดแล้วเมื่อควันซาลงหญิงคนนั้นก็หายไปเหลือเพียง เค้าจำไม่ได้หลังจากนั้นเพราะผู้หญิงที่ส่องกล้องจุลทรรศน์อยู่นั้นก็มาลากตัวเค้าไปแล้วก็ปล่อยเค้าไป
แล้วเดนนี่ก็เดินกลับไปที่ห้อง
“ราตรีสวัสค่ะ”กัลยาแอบเดินเข้าไปในห้องพ่อแม่เพราะคิดว่าถ้าแกล้งทำให้เซอร์ไพรส์ที่ตนกลับมาได้จากที่หล่นจมไปในทะเลเดดซี
เดนนี่สะดุ้งโหยงเพราะตนเพิ่งได้ดูข่าวที่มีกัลยาอยู่ไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วถึงขนาดนี้
“เออไปเถ้อะะ”โซฟีบอก
หลังจากที่กัลยาเดินออกไป ทั้งคู่ก็รีบสุมหัวปรึกษากันตรั้งใหม่
ระหว่างทางที่กัลยาเดินทางกลับห้องก็เอาแต่คิดว่าเค้าทำอะไรไปบ้างเค้าจำได้แค่ว่าเค้าเข้าไปในห้องพ่อและพ่อก็ถามเค้าบางอย่างจากนั้นก็รู้สึกเหมือนสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างแรงและสติสัมปชัญญะทั้งหมดของเค้าก็ดับวูบลงพอดีเค้าเหลือบไปเห็นประตูห้องนอนของห้องเก็บของแง้มอยู่เล็กน้อยกัลยาไม่เคยได้เข้าไปในห้องเก็บของเลยแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตกัลยาจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษและดูรอบตัวให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่เค้าก็ย่องไปแล้วเปิดประตูและะก็เข้าไปมีแสงสีทองสะท้อนระยิบระยับกัลยาต้องเอามือบังตาซักพักก็เปิดตาถ้วยรางวัลเรียงกันหลายร้อยถ้วยแต่ละถ้วยจากที่ดูแล้วมันทำจากช่างที่ฝีมือประณีตมันเป็นรูปจิงโจ้ตัวหนึ่งที่กำลังทำท่าเหมือนจะกระโดดในมือถือไมโครโฟนไว้ด้วยเหมือนกันเกือบทุกถ้วยกัลยาจึงอ่านข้อความที่พิมพ์ไว้
“              ทางสำนักข่าวจิงโจ้กระโดดไกลลิบลิ่วหย๋องหย๋อง
ขอมอบ
ถ้วยรางวัลถ้วยนี้ให้แก่ คุณเดนนี่    นี่เดน
ว่าคุณเดนนี่    นี่เดนได้เป็นนักข่าวยอดเยี่ยมประจำปี 6098สาขาคนขัดรองเท้านักข่าว
                                                            ขอขอบคุณ                          ”
กัลยาปลาบปลื้มมาก แต่แล้วเค้าก็ง่วงนอนจึงเดินลากขาเข้าห้องไป
คืนนั้นเค้าฝันเห็นสิ่งสิ่งหนึ่งกลมๆลอยน้ำอยู่เค้ามองลงไปให้ชัดกว่าเดิมและพบว่านั่นคือตัวเค้าเองลอยน้ำอยู่ไกลๆน่าตาหมดหวังหดหู่และก็มีนางฟ้ารูปงามลงมาทำอะไรเสร็จแล้วก็หัวเราะและหายวับไปและตัวเขาก็หมดหวังก็ไปอีกขณะนั้นเอง
“มอ .มอ .มอ”นาฬิกาปลุกรูปโคถึกที่โซฟีซื้อให้กัลยากำลังร้องปลุก
“มอ .มอ .มอ”กัลยาเอามืออันน่าเกลียดขยะขแยงยื่นมาปิดนาฬิกาปลุกกัลยาเจ็บใจตัวเองเพราะฝันยังไม่ได้ไปถึงไหนเลยก็ต้องมาตื่นซะแล้วกัลยานิ่งไปซักพักจึงบิดขี้เกียจห้านาทีและลุกจากที่นอนแล้วก็พับผ้าห่มทบหนึ่งจัดให้เรียบร้อยและพับอีกทบหนึ่งจนมันเล็กลงประมาณเท่าจอทีวีแล้วก็จัดปลายผ้าห่มให้เท่ากันให้เรียบร้อยอีกครั้งหนึ่งจากนั้นก็เขวี้ยงมันออกไปนอกหน้าต่างด้วยความสะใจแล้วเขาก็เห็นตัวเขาเองในกระจกเขาตะลึงงันอ้าปากค้างอยู่พักนึง
“โสโครกว่ะ”เขาพูดหลังจากที่มองตัวเองในกระจกเนื้อตัวเลอะโคลนเต็มไปหมดแล้วก็รีบไปอาบน้ำพออาบน้ำจนตัวหอมสะอาดเสร็จเขาก็รีบวิ่งกระโจนไปนอกหน้าต่างและคลุกโคลนเล่นอย่างสนุกสนานเที่ยวไปขุดดิ้นรื้อต้นไม้และกัดรองเท้ากระจัดกระจายแถมยังเที่ยวไปกัดรองเท้าบ้านคนอื่นอีกด้วยจนคนอื่นรำคาญดุด่าว่ากล่าวก็ยังเมินเฉยจนเริ่มปาข้าวของเริ่มจากพริกหยวก ถั่วงอก ผักชี แม้กระทั่งตะหลิวแต่กัลยาก็ยังไม่เลิกก่อความรำคาญจนคนข้างบ้านเริ่มทนไม่ไหวอย่างสุด100กรัม(ขีด)
“โชะ ฉึบ ซ้วบบ”เสียงของดาบซามูไรเล่มหนึ่งเสียบเข้ากลางหน้าผากกัลยาที่ปามาจากข้างบ้าน มันเป็นดาบที่ ฮัติโตริ ฮานโซ ทำขึ้นมาเองกับเท้าชุบน้ำยาศักดิ์สิทธิ์เจ็ดชั่วโคตรใช้เหล็กอย่างดี
“แง แง แง”กัลยาร้องขอความช่วยเหลือ ขณะนั้นก็มีผู้หญิงผมสีทองใส่เสื้อสีเหลืองแขนยาวและกางเกงขายาวสีเหลืองมีลายดำเป็นทางเดินออกมา
“หุบปากซะทีซิรำคาญ”หญิงคนนั้นเดินออกมาแล้วเลิกดาบของตนที่เสียบกลางกบาลกัลยาออกมา แล้วเก็บเข้าฝักอย่างเดิม แล้วก็มองดูกระดาษใบเล็กๆ
“ VERNITA GREEN
  ELLE DRIVER
  OREN ISHII
  BUCK
  BILL  ”
“ต่อไปก็เป็นยัยโอเร็น  อิชิอิซินะ”
“งั้นก็ต้องไปที่ญี่ปุ่น”ว่าแล้วหญิงในชุดแขนขายาวสีเหลืองลายดำทางก็วิ่งกระด๊อกกระแด๊กจากไป
“ไปก็ได้”กัลยาเดินไปเล่นที่อื่นกัลยาเดินไปในห้องของตนอีกครั้งเพื่อไปเอาตุ๊กตาบาร์บี้ของตนมาเล่นเป็นตุ๊กตาที่กัลยาทำเองซึ่งตอนนี้มันเหลือแต่หัวเค้าให้ชื่อมันว่า
“โดโรทีจัง”
เค้ามักจะเอาโดโรทีจังไปเล่นด้วยเสมอเธอมักจะเล่นขายของกับโดโรทีจังพอเบื่อก็มักจะกัดแล้วฉีกโดโรทีจังเป็นชิ้นๆวันนี้ก็เช่นกันเค้าพาโดโรทีจังออกไปเล่นขายของกัลยาเล่นเป็นคนขาย
“เอาอะไรดีจ๊ะมีหลายอย่าง”กัลยาถามโดโรทีจัง
“ตอบซีว่ะะ”
“จะกินอะไรตอบซิ”กัลยาโมโหที่โดโรทีจังไม่ตอบอะไรเลยเค้าเริ่มโมโหมากจับโดโรทีจังมากัดฉีกเป็นชิ้นๆอีกครั้งแล้วปาโดโรทีจังไปข้างบ้านโดนหัวคนข้างบ้านที่ชื่อแลนด์เป็นช่างไม้จึงออกมาต่อว่าแต่กัลยาก็ทำท่าทางเหมือนไม่ได้สำนึกจึงเลยเขาจึงเดินไปหยิบขวานมาเฉาะกลางกบาลกัลยาออกเป็น2ซีกแล้วก็เดินกลับบ้านไปทำงานต่อกัลยาเลือดท่วมตัวรีบวิ่งไปฟ้องแม่โซฟีก็รีบไปเอากล่องเครื่องมือมาทำแผลให้เค้าใช้กาวตราช้างติดหัวกัลยาให้ติดเข้ากันก่อนแล้วจึงใช้ตะปูตอกเชื่อมเข้าไปให้แน่นยิ่งขึ้นแล้วก็ใส่ยาแดง
“เสร็จแล้วจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ”แล้วกัลยาก็เดินไปยังตู้เย็นแล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากแถวหนังสือที่วางไว้ชื่อหนังสือคือ
“โปรดอ่านหน่อย”กัลยาไม่เคยอ่านมาก่อนเพราะพ่อพึ่งจะซื้อให้เค้าไม่กี่วันมานี้ก่อนเค้าจะอ่านเค้าก็เดินไปตู้เสื้อผ้าเพื่อเอาอาหารที่เก็บไว้และน้ำดื่มออกมาทานด้วยผู้เขียนคือ
“นอเวย์  เวย์นอ”แล้วก็พลิกไปอ่านไตเติ้ลด้านหลัง  ไม่มีไตเติ้ลเค้าจึงเปิดแผ่นแรก
“หนังสือชนะเลิศการประกวดบุ๊ค แฟร์ เฟสติวอล6007เนื้อเรื่องเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยใช้คำประพันธ์ดีเรียบเรียงน่าอ่าน”และจบลงด้วยชื่อหนังสือ
“โปรดอ่านหน่อย”กัลยาก็เริ่มเปิดอ่าน
“หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย หน่อย ...”พออ่านถึงแผ่นสุดท้าย
“ขอบคุณที่ช่วยกันอ่าน หน่อย ”กัลยารีบเก็บหนังสือเล่มนี้ไปไกลๆแล้วออกไปเล่นข้างนอกต่อเดินไปเล่นแถวบ่อน้ำข้างบ้านโซฟีคิดว่าน่าจะให้กัลยาไปอยู่บ้านป้าของตนกัลยาเดินไปแล้วหยุดชะงักตรงบ่อยื่นหน้าเล็กๆลงไปในบ่อเล็กน้อยแล้วก็ส่งเสียงอุบาทว์ๆลงไปเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นทั้งๆที่เค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเสียงมันจะสะท้อนกลับมา
“อะห้อย”กัลยาส่งเสียงลงไป
“อะห้อย  อะห้อย  อะห้อย  อะห ”เสียงสะท้อนกลับมาจากซักที่เบื้องล่าง
“อะห้อย”กัลยาลองอีกที
“อะห้า อะห้า อะห้า อะห้า อะห .”แต่เสียงท้อนกลับมาคราวนี้ไม่เหมือนที่ส่งลงไป
“อะห้อย”กัลยาลองอีกทีเพื่อความแน่ใจ
“อะเหื้อ อะเหื้อ อะเหื้อ อะเห .”คราวนี้ก็เช่นกันแต่ไม่เพียงแค่ไม่เหมือนเสียงที่ส่งไปแต่มันยังไม่เหมือนเสียงที่สะท้อนกลับมาในครั้งที่2ด้วยกัลยาคิดว่าตนคงจำทฤษฎีผิดจึงปล่อยไปไม่สนใจอะไรมาก
              แล้วกัลยาก็ลองวัดความลึกดูเค้าก็นำความรู้จากอนุบาล2ที่เรียนมาจากทฤษฎีกัลยาจึงหยิบสิ่งของที่จะใช้ลองโยนลงไปเพื่อฟังเสียงการตกกระทบของของสิ่งนั้นเขาหาก้อนหินแต่แถวนั้นไม่มีเลยแม้แต่ก้อนเดียวรอบตัวเค้ามีเพียงแค่ทุ่งหญ้าโล่งกับกระบือ2ตัวเค้าคงไม่คิดเอากระบือไปโยนแน่ๆแล้วก็เหลือบมองไปในบ่อน้ำอีกทีเค้าเห็นเศษก้อนหินแตกๆอยู่ตามหลืบหินไม่ไกลเกินเอื้อมเค้าจึงเอื้อมมือไปพยายามหยิบแต่ว่ามันก็ไม่ถึงจึงโล้ตัวมากขึ้นและมากขึ้นจนกระทั่งตกบ่อน้ำนั้นลงไปกัลยากลัวและเสียวมากจึงกรี๊ดออกมาหลายหน
“กรื๊ด กรื๊ด”
“กรีด กรีด”กัลยาไม่รู้ว่าตนตกมานานเท่าใดแต่ว่าพอประมาณได้ว่าน่าจะซัก2-3ชั่วโมงได้แต่กัลยาก็ยังตกไม่ถึงก้นบ่อซักทีความรู้สึกเสียวๆที่มีก็เริ่มหายและหมดไปแทนที่ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายและตั้งสติคิดว่าข้างล่างจะมีอะไร
“ตุ่บ”กัลยาตกลงไปหัวกระแทกกับรูปปั้นที่ทำด้วยแสตนเลสส่วนลำตัวหล่นทับกับรังผึ้งที่อยู่ภายในบ่อน้ำนั้น
“อ้าว กัลยา”เสียงที่ฟังคุ้นเคยแว่วมาจากที่ๆหนึ่งภายในบ่อน้ำนี้
“อูยส์..”กัลยากำลังเลียมือและขาตัวเองเพื่อทำความสะอาด?
กัลยาเอื้อมคอไปดูรอบๆตัวมันใหญ่และดูโอ่อ่ามาก ภายในมีรูปภาพเด็กคนหนึ่งคาดว่าจะประมาณ 2ขวบถัดไปเป็น 8ขวบ ซึ่งเป็นเด็กผู้ชายรูปร่างหน้าตาเถื่อนๆ และอีกฟากผนังเป็นรูปที่โตขึ้นมาอีกน่าจะประมาณ 20ปีเป็นรูปตอนแขวนนวมโชว์หมัดกับคู่ต่อสู้แต่ว่าภาพต่อไปที่กัลยาเห็นมันกลับเป็นรูปผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสวยมากๆแต่งองค์เป็นชุดไทย และรอบๆนั้นที่กัลยาลืมสังเกตก็มีดาวที่เสียบอยู่บนไม้ก้านเล็กๆติดใส่กรอบเรียงราย
“นี่เธอน่ะ ”เสียงที่ดูคุ้นดังขึ้นอีกแต่คราวนี้มีของมาด้วย  รองเท้าขางหนึ่งลอยมาฟาดที่หน้ากัลยา
“ใครปาะ”กัลยาถามด้วยความโกรธเคือง
“ก็ฉั้นไง เห็นเรียกตั้งนานไม่ยอมหันก็เลยมือไวไปหน่อยน่ะ”บัดนี้กัลยาเห็นแล้วว่าร่างที่พูดนั้นคือใคร
“นางฟ้าสมชายย”กัลยาพูดและตะลึง(ค์)
“อ้าวกัลยาเองดอกหรือ”นางฟ้าสมชายถามขึ้น
“นี่เธอมาทำอะไรถึงที่กบดานของฉั้น”นางฟ้าสมชายลากเสียงอันสูงลิบลิ่วนิ่วไหม้
“หนูตกลงมาค่ะ”
“งั้นก็กลับไปซะทีซิ”
“คือ พอดีเลยงั้นหนูขอพรอะไรซักอย่างจะได้ม๊ยคะ”กัลยาทำตาโตอ้อนวอนจนเห็นลึกไปถึงเซลล์กล้ามเนื้อเรตินา
“นะคะแค่ข้อเดียวเองอ่ะ”
“ข้อเดียวเหรองั้นขอโทษจ้ะฉั้นให้ไม่ได้ถ้าเธอขอสองข้อนะฉันถึงจะให้ได้”
“ งั้นก็ได้ค่ะสองข้อ”
“เธอจะข้อสองข้อใช่มะ”
“ค่ะ”
“โลภมากที่สุดเลยนะ จะให้คนอื่นช่วยแล้วยังขอมากมายอีก”
“อ้าว ยังงี้ก็สวยอะดิ”
“จิงเหรอว้าวในที่สุดก็มีคนบอกว่าฉันสวยแล้วววดีใจจังเลย”แล้วนางฟ้าสมชายก็ไปหยิบคันฉ่องมาส่องดูแล้วก็ชื่นชมในโฉมหน้าของตนเอง
“นี่ในฐานะที่เธอชมว่าฉันสวยฉันจะให้พรตอบแทนละกัน อ่ะจะเอาอะไรบอกมา”สถานการณ์พลิกอย่างกะทันหัน
“เออ คือหนูอยากจะขอให้ไปจากเมืองนี้น่ะค่ะเพราะถ้าขืนอยู่ต่อไปบุพพการีของหนูก็จะทำร้ายหนูต่ออีกน่ะค่ะ”
“ได้จ้ะง่ายจะตาย”แล้วนางฟ้าก็เสก
“ปิ้ง”มีแสงสว่างเกิดขึ้นที่ปลายไม้กายสิทธิ์ แล้วกัลยาก็หายไป จากที่เดิม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น