ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ศาสตราจารย์จรร ยา..นและปราสาทสีขาวสนิท
หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกันเรียบร้อย ทั้งหมดเรียกพาหนะส่วนตัวของตนออกมาหลายคนเรียกเมฆเช่นกลุ่มแน๊ตส่วนตัวข้าวปุ้นเรียกยูนิคอร์นสีเพลิงที่มองผิวเผินแล้วเหมือนม้าโดนไฟครอกยังไงยังงั้นแถมต้องเอาจอยไปเสี่ยงไว้บนหลังม้าย่างนั่นด้วยแต่ก็เอาเหอะ ดลยาดีดนิ้วแล้วทันใดนั้นลูกหมูสีชมพูที่มีตราซาลาเปาบนหัวก็บินออกมาด้วยปีกน้อยๆแล้วพานายมันขึ้นหลังไปพร้อมกับมดซึ่งขอร้องเอาตนไปด้วย บดินทร์พอดีดนิ้วโพละจิ้งจกเก้าหางก็กระโดดมาจากป่ารับบดินทร์ไป เต๊นท์เห็นคนอื่นดีดนิ้วแต่ตนเองดีดไม่เป็นเลยตบมือแทน แต่ไม่มีองครักษ์มารับ เลยต้องอาศัยเนยซึ่งขี่ฟินิกซ์สีม่วงดูสง่าไป เบียร์ไม่มีองครักษ์เหมือนกันจึงเลือกสุ่มมาจากหนองน้ำซักตัวหนึ่ง
“ไฮดราละกัน”เบียร์เสก ทันใดนั้นไฮดรายักษ์ก็คลานมาให้เบียร์ขี่ ส่วนปลั๊กกับเนก็ไปด้วยว่าวที่ปลั๊กมี และแตงกวาเสกพระอาทิตย์มาดวงหนึ่งขี่ไปกับแบงค์ ชวินเรียกบ้างแต่ทุกครั้งที่เรียกออกมากลับกลายเป็นหม้อตลอดเลยต้องรับกรรมนั่งในหม้อไปแทน กิ๊กและปุ้ยกัลรวมพลังกันเสกได้เป็นใบไม้กันคนละใบขี่ไป บอมเสกปลาบู่ขึ้นมาได้ตัวหนึ่ง ฮอทไลน์เสกกวางมาได้ตัวหนึ่งสวยมาก เหมียวเสก กระสือที่เค้าให้ชื่อว่า “ป้านัดดา” หน้าตาซึ่งแสนอุบาทว์เหลือทน และเอ๊ะก็เสกกระบือคาราบาวที่มีแต่กระดูกให้เพื่อนๆคนละตัวแต่หนักสุดเห็นจะเป็น ผู้ที่เป็นทอดสุดท้ายของห่วงโซ่อาหาร อังนั่นเองหญิงสาวผูนี้ใช้เวลาเสกนานกว่าเพื่อนสุดท้ายมันออกมาจากจิตสำนึก อังขี่เสกโลโซขึ้นไปในที่สุด
ทั้งหมดขึ้นทะยานฟ้ามีจุดหมายเดียวกันคือไปยังคฤหาสน์ของศาสตราจารย์ จรรยาน โดยนำหน้าด้วยเน็กซึ่งขี่เจ้านกไนติงเกลที่มีเสียงอันอุบาทว์นั่น แต่ว่าการเดินทางมันก็ไม่ได้ราบรื่นซักเท่าไรเลย
“นี่เบียร์ไฮดราของเธอมันตกใส่พี่เสกโลโซอีกแล้วนะ”อังบอก
“ทำไงได้ละ มันกำลังแตกหน่อนี่ช่วยไม่ได้”เบียร์ปฏิเสธ
“เฮ้ย..แน๊ตฝนจากเมฆเธอมันลงใส่พระอาทิตย์เราจะจะดับอยู่แล้วนะ”แตงกวาตะโกนบอก
“โทดด.ทีว่ะก็จะทำไงได้ล่ะ”แน๊ตกล่าวเชิงขอโทษ
“เฮ้ยย นังบอม น้ำจากปลาบู่เธอนะมันกระเซ็นใส่อาชาของฉั้นจนมันกลายเป็นม้าย่างตกน้ำแล้วนนะะะะะะ”เด็กหญิงผู้บังคับม้าตัวนั้นตะโกนบอก
“ว๊ายยยยย ..ฟินิกซ์ของฉั้นนน”เนยหวีดร้องหางฟีนิกซ์อันแสนสวยเปล่งรัศมี บัดนี้มอดไหม้แล้วเมื่อจิ้งจกเก้าหางของบดินทร์เผลอไอพร้อมกับลูกเพลิงออกมา
“ขอโทดน้าา ”บดินทร์บอก
“ไอ้บอมเอาปลาบู่แกมาดับหางฟินิกซ์ทีดิ๊”บดินทร์บอกบอม
“ไฟว์ โมเมย์ช่วยด้วยย ”เสียงจากเฟิร์นดังขึ้นขณะที่เจ้าตัวกำลังจมลงไปในเมฆของเธอ
“ช่วยด้วยฉั้นจะตกเมฆอยู่แล้วว”เฟิร์นร่างบางตะโกน
“นี่ก็ดูเมฆกับตัวเธอสิ ตัวเธอใหญ่กว่าเมฆที่ขี่ตั้งเยอะ นี่อะเอาเมฆของฉั้นกับโมเมย์ไปอีกหน่อยละกันนะเผื่อจะรองรับอยู่”โมเมย์บอก
“สู้เราก็ไม่ได้เนอะ เอวบางหุ่นดี”ไฟว์หันมาซุบซิบกับออยล์
“กรี๊ดดด ”เสียงดังมาจากฝั่งดลยาและมดกับหมูคู่ใจ
“นี่ เหมียววดูแลกระสือแกหน่อยสิ มันจะมากินตับของหมูฉั้นแล้ววว ปุ้ยระวังง”เสียงของมดซึ่งตะโกนตำหนิเหมียวและบอกให้ปุ้ยรู้
“ป้านัด อย่าไปกินหมูอดทนรออีกหน่อยเดี๋ยวถึงที่แล้วเหมียวจะเอายาสีฟันให้กินนะ”เหมียวบอกกระสือป้านัด
กระบือคาราบาวของเอ๊ะกับพวกนั้นเริ่มผิดใจและขวิดกันเอง
ไม่เว้นแม้กระทั่งนกไนติงเกลของเน็กที่หมูของดลยาถ่ายใส่เรี่ยราดและขณะเดียวกันปีกของนกเน็กก็โดนมดพลัดตกลงไป มดเกือบจะลงถึงพื้นอย่างแรงแล้วแต่มดกลับรู้สึกเหมือนมีแรงลัพธ์อื่นที่ไม่เป็นศูนย์มากระทำ ทำให้มดลอยขึ้นไปที่เดิม มดก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนลอยอยู่ได้อย่างไร
“ไอ้ปลั๊ก..สายว่าวแกอ่ะมันพันคอปุ้ยกัลจนหน้าม่วงหมดแล้ว..หยุดก่อน ”กิ๊กรีบบอกปลั๊กและเน
กวางที่ฮอทไลน์ขี่เกิดพยศแล้วทำให้ฮอทไลน์ พลัดตกจากกวางตัวนั้นลงไปโดนกิ่งของตอไม้เสียบตายกวางตัวนั้นหัวเราะเยาะ คนอื่นดูจะไม่สนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เบียร์..ไฮดราแกแตกหน่ออีกแล้ววววววว”
สิ้นสุดด้วยเสียงของอังเห็นจะมีก็แต่ ชวิน ที่ดูจะราบรื่นดีกับการที่นั่งอยู่ในหม้ออย่างสงบ  รึเปล่า..
“ปัง ”หม้อของชวินชนกับเมฆของโมเมย์ทำให้น้ำฝนเข้าไปขังอยู่ในหม้อครึ่งนึง ชวินต้องนั่งอยู่ทั้งที่มีน้ำและยังต้องบังคับหม้ออีก ตอนนี้หม้อของชวินเข้าใกล้กับพระอาทิตย์ที่แตงกวาและแบงค์นั่งอยู่หม้อซึ่งเป็นโลหะเมื่อได้รับความร้อนจัดๆก็จะเพิ่มอุณหภูมิขึ้น บัดนี้ชวินกำลังถูกต้มอยู่ในหม้อนั่นเองเบียร์เห็นดังนั้นจึงให้ไฮดราส่งหนวดไปรับไว้แล้วรับมาโดยสารด้วย ทั้งหมดฝ่ากลุ่มเมฆหมอกหนาเกือบกิโลอยู่นานขณะที่จะออกจากนอกชั้นบรรยากาศ
แล้วในที่สุดทั้งหมดก็มาถึงที่หมายกันอย่างทุลักทุเลเต็มทนสภาพแต่ละคนดูแทบไม่ได้
-เสื้อผ้าเน็กเต็มไปด้วยอุจจาระหมูน้อยของดลยา
-หมูของดลยาเกือบถูกกระสือป้านัดของเหมียวกินตับ
-หัวของอังเต็มไปด้วยผลิตผลไฮดราที่แตกหน่อมาจากไฮดราของเบียร์
-กัลยาหน้าเขียวอมม่วงเกิดจากการขาดอ๊อกซิเจนโดยสายว่าวของปลั๊กรัดคอ
-ชวินรอดหวุดหวิดจากการโดนต้ม
-อาชาสีเพลิงของข้าวปุ้นกลายเป็นม้าย่างตกน้ำ
-เฟิร์นเกือบหลุดจมลงจากเมฆ
-นกฟีนิกซ์ที่มีหางยาวสลวยของเนยบัดนี้ไม่มีหางแล้ว
-กระบือคาราบาวของพวกเอ๊ะกระดูกหัก
-มดเกือบตกหมูตาย
-พระอาทิตย์ของแตงกวาเกือบดับมอด
“แต่เอ๊ะฟองกับสิหายไปไหนล่ะ”เน็กถาม
“ปิ๊ง”ทันใดนั้นทั้งสองก็เผยตัวให้เห็น
“เราช่วยมดไว้เองแหละ”ฟองบอก
“เราทั้งคู่แอบแฝงมาภายใต้เงามืดน่ะเลยไม่มีใครเห็น”สิอธิบาย
“โหทำไมมันสูงจากเลยอ่ะ”เต๊นท์ถาม
“เอ้า โง่อีก..ก็นี่เราอยู่บนสวรรค์นะซิ”เหมียวบอกเต๊นท์ ไม่นานเต๊นท์ก็เวียนหัวและอ๊วกแตก
แต่ทุกคนก็ดูตื่นเต้นเช่นกันเพราะพวกเขาขึ้นมาที่นี่ประมาณสองครั้งเท่านั้น
ทั้งหมด45ชีวิตหันกลับไปมองสิ่งประดิษฐ์อันงดงามที่สุดเท่าที่พวกเค้าเคยเห็น
  ถัดจากพวกเค้าทั้ง45ชีวิตไปประมาณ 5มิลลิเมตรมีสิ่งๆหนึ่งลักษณะเหมือนปราสาทอันสูงเด่นตระการตาบริเวณยอดมีเมฆสีขาวใสประปาย บริเวณรั้วทำด้วยด้วยทองคำแท้ตีเป็นแผ่นล้อมรอบ ตัวปราสาทส่องประกายความเป็นทองซึ่งกินเนื้อที่ประมาณ600 เอเคอร์มีตู้ไปรษณีย์ 1 ตู้ตอกตรึงอยู่กับทองคำแท้ที่ใช้ทำรั้ว ภายในไปเต็มด้วยจดหมายรวมเกือบ20 ฉบับ อัดแน่น จนเปื่อยที่ไม่มีใครมาแกะอ่านซักที หน้าซองจ่า ถึง ศาสตราจารย์ จรรยาน กลางซองของจดหมายทุกซองมีข้อความเหมือนกันว่า “ค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์” และใบแจ้งหนี้มากมาย ใกล้กันนั้นมีแปลงดอกไม้ขึ้นอยู่ทั้ง หน้าวัว อุตพิศ หม้อข้าวหม้อแกงลิง ว่านกาบหอยแครง บริเวณนั้นมีป้ายชื่อสีทองอันใหญ่ติดไว้
“ปราส(ว)าท  ชาญหนังสือ”
“ขอให้ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นนะ”กิ๊กบอก
“นั่นน่ะสิ”เสียงของเน็กว่า
“แล้วจะเอาไงต่อล่ะ”ฟองถาม
“ก็รอไงอีก1ชั่วโมงถ้าอาจารย์ยังไม่ออกมาก็ค่อยคิดอีกที”เนบอก
มองตามราวบันไดอันคดเคี้ยวเป็นวงก้นหอยขึ้นไปยังชั้นบนสุดประมาณชั้นที่ 503 มีห้องทั้งหมด 5 ห้องทาสีแต่ละห้องไม่ซ้ำกันมี เขียวสด แดง เหลือง ฟ้า และชมพูสดใส ผนังเป็นสีขาวมีลายดดเรมอนประปายเป็นหย่อมๆ แต่ปราสาทหลังนี้แปลกกว่าหลังอื่นคือดูจะหรูหราเป็นพิเศษมีรูปถ่ายของเจ้าของบ้านนานาแอคชั่น ทั้งรูปที่ถ่ายคู่กับดาราฮอลลีวู๊ดดังๆหรือแม้กระทั่งรูปที่ตนถ่ายโดยยกมือแบไว้แล้วมีแมลงวันเกาะอยู่บนมือ  แต่ดูเหมือนว่ามีเพียงห้องเดียวที่มีคนอยู่นั่นคือห้องสีชมพูสด ประตูสีเหลืองเข้มเปิดแง้มไว้เล็กน้อย
หลังประตูบ้านนั้น เป็นบรรยากาศภายในห้องซึ่งทาด้วยสีเขียวตองอ่อนมีคนอยู่ทั้งหมด 2 คน แต่ละคนดูเคร่งเครียดและไม่มีใครยอมใคร
“อาจารย์คะขอร้องเถอะค่ะหนูอยากทราบจริงๆว่าคนที่กำเนิดในร่างสัตว์คนนี้เป็นใครนะคะ “เสียงอ้อนวอนดังมาจากอาจารย์ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในชุดวอร์ม
“ไม่ได้จนกว่าเธอจะบอกเหตุผลที่ดูฟังขึ้นมา”คู่สนทนาตอบกลับมา
“ก็หนูบอกอาจารย์ไปแล้วไงคะว่าบอกไม่ได้อ่ะค่ะ”หญิงที่นั่งตรงข้ามบอก
“นี่ สุพัตตราด เธอก็รู้นี่ว่าข้อมูลนี้มันสำคัญมากและจะให้ฝ่ายมืดรู้ไม่ได้”
“แต่อาจารย์คะ ฝ่ายมืดก็ถูกกำจัดไปแล้วไงคะ ก็อาจารย์เป็นคนกำจัดไปเองนะคะ”อาจารย์ที่ชื่อสุพัตตราดบอก
“ยังไงฉั้นก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดี”
“นะะ”
“เอ๊ะ เธอนี่ เดี๋ยวเถอะ___ เดี๋ยวเถอะ___”
“ก็ได้คะ..กลับก็กลับ”เสียงอย่างไม่พอใจมากๆดังมาจากผู้มาเยือน ว่าแล้วผู้มาเยือนคนนั้นก็ดีดนิ้วและก็หายลับไป
(เฮ้อ..ยัย past con.กว่าจะกลับไปได้แทบแย่)ศาสตราจารย์คิด
“เอ้อ..ลืมไปต้องรีบไปเทล(บอก)ให้พวก3/1โนว์(รู้)ว่า มีพวกลูกครึ่งบอร์น(กำเนิด)มาบนเวิร์ล(โลก)อีกแล้ว”อาจารย์พึ่งนึกออก
ว่าแล้วศาสตราจารย์จรรยาน ก็ก้าวเท้าที่มีรองเท้าหนังโคถึกแท้ฝังเพชรเก๊ออกมานอกห้องและลงลิฟท์มาจนถึงข้างล่าง
“โอ้ ถึงลอบบี้(ชั้นรวม)ซักที รู้สึกเวรี่ ไทร์(เหนื่อยมาก)”ศาสตราจารย์พูดและเดินออกมาถึงบริเวณรั้ว
“อุ๊บส์(อุ๊ย) พวก3/1 มาทำอะไรเฮียร์(ที่นี่)หรือจ๊ะ” ผู้ที่สอนภาษาอังกฤษถาม
“คือเรา ”เน็กพูดยังไม่จบ
“เอ่อ.ชั่งมันเถอะ ครูแฮฟ(มี)เรื่องด่วนจะมาบอก” ศาสตราจารย์จรรยานชิงพูดก่อน
“คือ Can you remember that event?”คราวนี้เผลอพูดออกมาทั้งประโยค
“ศาสตราจารย์คะ”พวกเด็กๆขอร้อง
“เอ่อคือขอโทษจ้ะลืมไป”
“คือ พวกเธอยัง ..จำได้มั๊ยต..อนนั้นที่ค..รูให้.พวก..เธ..อไปช่วยพวก..ลูกครึ่..งซาลาแมนเดอร์จากพว กมืดที่ต้องการควา มลับจากพวก นั้นน่ะ”การที่ต้องพูดโดยปราศจากภาษาอังกฤษนั้นมันช่างยากเหลือเกิน
“แต่หนูไม่ได้ต้องการซะหน่อยนะคะ”สิรินาถปฏิเสธเสียงแข็ง
“ไม่ใช่พวกผิวมืดจ้ะ ครูหมายถึงพวกด้านมืดน่ะ”ศาสตราจารย์อธิบาย
“อ่อ”
“คือคราวนี้มีพวกลูกครึ่งกำเนิดออกมาอีกแล้วแถมยังเป็นลูกของเดนนี่คนก่อนด้วย แต่ที่แปลกคือ คนใหม่ที่เกิดเป็นลูกของเดนนี่คนเดียวตามปกติต้องเกิดจากทั้งพ่อและแม่ที่เป็นลูกครึ่ง”
“แต่ยังไงคราวนี้เป็นหน้าที่ของพวกเธออีกครั้งนะไปตามหาเด็กคนนั้นมาให้ได้”
“อ่อ เกือบลืมเด็กคนนั้นชื่อ กัลยาอยู่ที่ออสเตรเลียนะซิดนี่น่ะ”
ถัดออกไปจากปราสาทหลังนั้นเป็นปราสาทอีกหลังหนึ่งซึ่งดูไฮโซและหรูหราเช่นเดียวกันทาด้วยสีขาวสนิททั้งหลังแต่บริเวณรอบบ้านไม่มีสวนดอกไม้ประดับประดาหรือสิ่งใดๆเลยนอกจาก ผลึกสารสีขาวเป็นเกล็ยดละเอียดกองสูงเป็นพะเนิน หลายกองเรียงรายกันล้อมรอบบ้าน ตรงรั้วมีป้ายติดไว้
“ครอบครัว อังคุดรากพัน”
เข้าไปข้างในจากรอยแง้มของประตูสีขาวเหมือนเกลือภายในบ้านมีแต่ผนังและส่วนต่างๆสีขาวไปหมดมองขึ้นไปจากบันไดเวียนชั้นล่างทั้งหมดมีมากกว่า400ชั้นแน่นอนและสูงขึ้นไปจนถึงชั้นที่ 201 มีชายแก่คนหนึ่งนั่งส่องกล้องจุลทรรศน์อยู่แต่ถ้าดูเผินๆจะเหมือนกับมิกกี้เมาส์นั่งทำแล็บอย่างมาก และสูงขึ้นไปอีกจนถึงชั้นสุดท้ายมีเลขเขียนกำกับไว้“ชั้นที่413”
เข้าไปในห้องสีขาวนวลมีหญิงแก่ คนหนึ่งกำลังนั่งให้เกรดนักเรียนอยู่
“บุศรา วงศ์ศิริโรชน์”หญิงนั้นอ่านชื่อ
“อือ ดีมากนิสัยก็ดี ตั้งใจเรียน แบบฝึกหัดก็ทำครบทุกข้อ เฮ้อ แต่เสียอย่างเดียว ทำทุกข้อแต่ไม่เคยถูกเลยแม้แต่ข้อเดียว ”หญิงนั้นดูเป็นกังวล
“เอาไงดี 4 ละกันถือว่าสงสารอุตส่าห์ใช้สมองที่แแบนราบทำมา”ว่าแล้วในช่องชื่อของคนที่ชื่อบุศรา ก็มีเลข 4 ปรากฎอยู่
“อ่อด อ่อด ”เสียงออดด้านล่างปราสาทชั้นที่1/413ดังขึ้นนานมาก
“ว๊าย..ขอร้องล่ะพอแล้วอย่ากด พอได้แล้ว .”หญิงแก่เจ้าของผมทรงเคิร์พพูดขึ้นเหงื่อแตกด้วยความตกใจ
“อ่อด  อ่อด ”เสียงอ่อดดังขึ้นอีก
“ขอร้องล่ะน้าา ใครมากัน อย่ากดอีกเล้ยยย กี่บาทแล้วเนี่ยครั้งละตั้ง 2 บาท ”
ไม่นานชายที่อยู่ชั้นล่างเดินขึ้นมา
“นี่คุณมีคนมาน่ะ”มิกกี้เมาส์พูดขึ้น
“รู้แล้วน่าดูซิ กด ออดซะไม่บันยะบันยัง ที่บ้านขายออดรึไง”หญิงคนนั้นไม่พอใจ
“โอ๊ยย ตั้ง413ขั้นกว่าจะลงไปถึง”
“ก็บอกแล้วว่าให้ซื้อลิฟท์”มิกกี้เมาส์ประชด
“นี่จะซื้อไปทำไมเดินเอาก็ได้คิดดูนะถ้าซื้อมาไหนจะค่าลิฟท์ ไหนจะค่าไฟ ไหนจะ ”
“พอๆๆๆ เออเข้าใจและ”
“อ่อด อ่อด..”ออด ดังขึ้นอีก
“โอ๊ยยไปแล้วไปแล้ววว..รอแป๊ปปนึง”หญิงเจ้าของผมทรงเคิร์พหงุดหงิดแล้วก็รีบเดินลงบันได413ขั้นไป
แล้วหลังจากที่รอมานานผู้ที่รอก็พบเจ้าของบ้านเดินออกมาด้วยความเหนื่อยหอบผมกระเซอะกระเซิง
“สวัสดีค่ะ ศาสตราจารย์ราวี”หญิงคนที่เคยอยู่ที่คฤหาสน์ของศาสตราจารย์จรรยานกล่าว
“อ้าวเธอเองเรอะ”
“อ้าวก็เปิดพัดลมซิคะ”อาจารย์สุพัตตราดแนะนำ
“โอ๊ย..เล่นมุขอีกแล้วเบื่อ นะเนี่ย” ศาสตราจารย์ราวีบอก
“อ้าววว..”
“อ้าวก็เปิดพัดลมซิจ้ะ อาจารย์สุพัตตราด”มิกกี้เมาส์พูด
“โถ่อาจารย์อ่ะ”
“ล้อเล่นน่า ”อาจารย์มิกกี้เมาส์บอก
“นี่เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่านะ”ศ.ราวีเชิญ
“ค่ะ”แล้วทั้งหมดก็เดินเข้าไปยังปราสาทสีขาว ระหว่างเดินอาจารย์สังเกตเห็นระหว่างที่ ศ.ราวีเดินมีเม็ดเกล็ดสีขาวร่วงมาเรื่อยๆแล้วมันก็กองสูงขึ้น
“เออ อาจารย์ไม่มีน้ำมาเสิร์ฟเลยเหรอคะ”อ.สุพัตตราดถามแบบเขินๆ
“อ่อได้จ้ะ นี่คุณเอาน้ำมาเสิร์ฟให้หน่อยค่ะ”ศ.ราวีบอกสามีเธอ  แล้วซักพักสามีเธอก็นำน้ำมาให้
“นี่ขากลับจ่ายด้วยนะจ๊ะ 6 บาท น้ำแข็งแก้วละบาท”ศ.ราวีอมยิ้ม
“เอ่อ..ได้ค่ะ”
“นี่สำเร็จมั๊ยจ้ะงานน่ะ”
“คือศ.จรรยานเค้าไม่บอกน่ะค่ะเค้าบอกว่าเด๋วฝ่ายมืดรู้เข้า”
“ว่าาาางายยยน้าาา”ศ.ราวีโกรธจัด จนเคิร์พกระพือ
“งั้นชั้นจะไปถามเอง”พูดจบศ.ราวีก็รีบเดินไปยัง คฤหาสน์ของศาสตราจารย์จรรยาน
“นี่จอยดูสินั่นอะไรน่ะ”โมถาม จอยมองตามนิ้วชี้ข้างขวาที่ชี้ไปทางขวามือและทุกคนก็มองตาม สิ่งๆนั้นดูเหมือนพายุแต่มันเคลื่อนที่เร็วกว่ามากตรงมาที่คฤหาสน์รอบๆมีผงเหมือนฝุ่นสีขาวโอบรอบแล้วไม่นานมันก็มาถึงยังกลุ่มของเค้าที่กำลังยืนคุยกันอยู่ ร่างนั่นหยุดนิ่งผงสีขาวร่วงลงกองสูงเป็นพะเนินห้ากองรอบๆตัว
“ศ.ราวี”จอยพูดเบามากกับโมจนเหมือนเสียงกระซิบ
“นี่ทำไมเธอถึงไม่ยอมบอกว่าใครคือคนที่เป็นลูกครึ่งที่เกิดมาคนล่าสุด”ศ.ราวีถาม
“ไม่ได้ .ฉั้นบอกกับลูกน้องเธอไปแล้วไง”ศ.จรรยานประกาศเสียงแข็ง
“งั้นต้องเจอพลัง ตรีโกณมิติ”แล้วสามเหลี่ยมนับพันๆรูปก็พรั่งพรูออกมา
“พลัง อาร์ทิเคิ่ล(article)”ศ.จรรยานร่าย แล้วตัวอักษร A , An ,Theก็ออกมาหลายตัวล้อมรอบตัว ศ.จรรยานไว้สามเหลี่ยมนับพันกระเด็นไปคนละทิศละทางเมื่อเจอเกราะกำบังอาร์ทิเคิ่ลเข้า
“พลัง..พาราโบล่า”
“พลังเทนส์(Tence)”
“ ”
“ ”
ระหว่างที่ พวก ศาสตราจารย์ดวลกันอยู่เน็กก็ส่งสัญญาณให้พวกเพื่อนๆรีบเผ่นไปอย่างเงียบๆดีกว่าแล้วทั้งหมดก็เรียกยานพาหนะของตนและขี่มันกลับ
“เหมียว .กระสือป้านัดแกมันมาอีกแล้ววว ”สุดที่เสียงของมด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น