ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    oH !!! My Life Just A Frog

    ลำดับตอนที่ #3 : ความลับและการเปลี่ยนแปลง

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 48




              “เอ่ เอ๊  ..” เดนนี่กล่อมลูกน้อยของเค้าขณะที่เค้ากินข้าวผัดชะนีหัวมงกุฏตัวที่เค้าเพิ่งแอบไปลักลอบยิงมาจากสวนสัตว์เขาแดงอย่างเมามัน วันนี้เป็นวันเกิดของกัลยาเป็นวันที่กัลยาอายุครบ2ปี



    วันนี้เมื่อ2ปีก่อนเดนนี่ยังจำได้เสมอที่นรกได้ให้โอกาสแก่เขาโดยส่งผีเปรตตนหนึ่งที่ลงนรกโดยทำความผิดจับกุมารทองกินเป็นอาหารจนหมอผีไม่มีกุมารทองใช้ แล้วยัดลงในท้องของโซฟีอย่างกระทันทำให้เธอต้องอับอายเนื่องจากในวันแต่งงานของโซฟีและเดนนี่ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีแต่ว่าอยู่ดีๆโซฟีท้องก็ป่องออกมาอย่างใหญ่โตกระจิ๊ดริดถึงกับทำให้ทุกคนในงานตกใจอย่างสุด100กรัม(ขีด)บางคนหัวใจวายตายบางคนความดันขึ้นตายบางคนก็เป็นตาแดงตายบางคนก็เป็นแขนหักทั้งสองไม่รู้สาเหตุมาก่อนโซฟีนึกว่าตนถูกมดกัดท้องบวมส่วนเดนนี่นึกว่าแฟนของตนทนเก็บหน้าท้องไว้ไม่ไหวแต่เมื่อทั้งสองคิดเข้ามาถึงเรื่องความเป็นไปได้แล้วเหตุผลที่ทั้งสองคิดไว้จึงฟังไม่ขึ้นแม่แต่นิดเดียวทั้งสองก็เลยตัดสินใจไปปรึกษาหมอหลังพิธีแต่งงานสิ้นสุดแต่หมอบอกว่าไม่ทราบเพราะหมอถนัดเรื่องปราบผีทั้งคู่ก็เลยไปหาหมอเจ้าอื่น หมอก็ได้บอกว่าโซฟีตั้งท้องก่อนแต่งได้แปดเดือนกับอีก29วันแล้ว ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ทั้งสองก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

    ขณะนั้นเองหัวของชะนีหัวมงกุฏที่เดนนี่ตักโซ้ยอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้นก็หล่นลงไปในเปลของกัลยาเดนนี่จึงรีบไปหาผ้ามาเช็ดซักพักพอเดนนี่กลับมาก็ไม่เห็นร่องรอยของหัวชะนีหัวมงกุฏที่เค้าทำตกไว้เลยเค้าแทบจำไม่ได้ว่าทำมันตกเนื่องจากระหว่างระยะเวลาที่เดนนี่เดินไปหยิบกระดาษทิชชูนั้นกัลยาได้ซัดมันลงท้องไปแล้วและร่างกายของกัลยาก็เริ่มมีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

                                                                ตาของกัลยาเริ่มเบิ่งขยายใหญ่ออกขนตาหลุดลุ่ย



                                                               ปากเริ่มฉีกและอุบาทว์ขึ้น



                                                                  สีผิวเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างเห็นได้ชัดไม่มีจมูก

                                                                  หายใจทางผิวหนังแทน มีเมือกลื่นทั้งตัว



                                                   นิ้วที่หดลงและกุดในที่สุดเหลือเพียง3นิ้ว(ยี๋ห์…น่าเกลียด)

                      

                                                         นิ้วเท้าที่หดและกุดลงเช่นกันแต่มี4นิ้ว



    เดนนี่ตะลึงงงงังงองงอยอยู่นานซักพักเดนนี่ก็ร้องออกมา

    “กรึ๊ด..…กรึ๊ด……กรึ๊ด”เดนนี่ร้องเสียงแหลมเสียงคล้ายมดเป็นใบ้

    เดนนี่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้กับลูกตนเดนนี่แทบทำอะไรไม่ถูก แมลงวัน7-8ตัวบินมาเกาะอยู่บนหน้าเดนนี่เดนนี่จึงเอามือค่อยๆปัดไปแต่มันก็ยังไม่ไปมันยังวนเวียนอยู่แถวศรีษะเดนนี่อยู่ตลอดเวลาตัวกัลยาเริ่มคลานออกมาจากเปลทำหน้าตาย่นยู่ยี่อัปยศอดสู แก่หมู่ไตรโลกถ้วนหน้า ร่ำพลางแสนโศกโศกา ดั่งว่าจะสิ้นสมประดี แล้วหัวเราะ ขึ่ก ขึ่ก เดินมาใกล้เดนนี่เรื่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยทั้งสองเหงื่อแตกซิก กัลยาตาโปนขึ้นเรื่อยๆโปนขึ้นและถลนปลิ้นออกมา กัลยายัดมันกลับเข้าที่เบ้าอย่างเดิมและมันก็โปนขึ้นอีกเส้นผมบางๆขึ้นยาวปิดหน้าหัวโตมือเท้าเริ่มหงิกงอพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่างพอใกล้เข้ามาเรื่อยๆเสียงพึมพำเหล่านั้นดังขึ้นแต่ก็ยังไม่ค่อยชัดเจนว่าเป็นคำว่าอะไรแต่เมื่อใกล้เข้ามาจะระยะประชั้นชิดตาของกัลยาเหลือกมองด้านบนหัวเดนนี่เดนนี่กลัวพูดอะไรไม่ออก

    ซักพัก…

    “ควับ…ซั้บ…หนึ้บบบ…ฉึ้บ…ซื๊ดดด”มันเกิดขึ้นเร็วมากเสียงเหล่านั้นที่เดนนี่ได้ยินมันเร็วเกินกว่าที่จะรู้ว่าเป็นเสียงของอะไรซักพักเสียงที่น่ากลัวฉงนก็เปลี่ยนเป็นเสียงเหมือนกำลังขบเคี้ยวบางอย่าง

    “โขบ…สคึ๊บ…สคึ๊บ……โขบ…สคึ๊บ…สคึ๊บ…สคว๊อบบบบ”เดนนี่เพิ่งจะมารู้ว่าต้นกำเนิดของเสียงอันน่าตื่นเต้นชวนติดตามนั้นเป็นของกบกัลยานั่นเองกัลยาแลบลิ้นขึ้นไปจกแมลงวันบนหัวเดนนี่กินแล้วเคี้ยวอย่างเรียบร้อยพอกินเสร็จก็พึมพำแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่คราวนี้เดนนี่ฟังออกว่าเป็นคำว่าอะไร

    “MY   PRECIOUS”

    “MY   PRECIOUS”

    “MY PRECIOUS”มันแปลว่าของรักของหวงแล้วอะไรล่ะที่เป็นของรักของหวงหรือว่าใช่แล้วต้องเป็นแมลงวันนั่นแน่ๆเลยที่ทำให้กัลยาเดินออกมานอกเปลเพราะกัลยาเป็นกบไปแล้วแต่ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ไปได้เดนนี่กังวลทำไมกัลยาถึงกลายเป็นกบจู่ๆโซฟีก็เดินมาและเห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งหมด

    “กรี๊ดดดดดด”พอแหกปากเสร็จโซฟีก็สลบไป พอตื่นมาอีกทีก็พบว่ามาอยู่ที่ห้องบรรทม เดนนี่เป็นคนอุ้มโซฟีมาที่นี่แล้วจึงวิสกี้(เล่า)เหตุการณ์ทั้งหมดให้โซฟีฟังตั้งแต่ที่เค้ากล่อมลูกอยู่และกินข้าวผัดหัวชะนีหัวมงกุฏอย่างเมามันจนกระทั่งมาถึงตอนที่โซฟีแหกปากร้องและสลบไป

    “โอ้ไม่นะะะะลูกฉัน”โซฟีพูดอย่างเมามัน

    “ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย”

    “งึ๊ด….งึ๊ด…..งึ๊ด”โซฟีร้องไห้ฟูมฟาย     ซักพักโซฟีทำท่าเหมือนจะคิดอะไรออกด้วยสมองอันโง่เขลาไร้รอยหยักของเขา

    “ต้องใช่แน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆที่โหรทำนายไว้ไง”

    “ที่โหรบอกว่าลูกคนนี้เป็นอัปมงคลแก่วงศ์ตระกูลโหรบอกว่าต้องกำจัดออกไป”

    “งึ๊ด…งึ๊ด…งึ๊ด”โซฟีร้องไห้อีกครั้ง

    “เราจะต้องกำจัดออกไป..”โซฟีต้องการจะกำจัดลูกของตน

    “ดีดีดีดีดีดีดีดีดีกำจัดไปเลยยย”เดนนี่ออกความเห็นออกนอกหน้า

    แล้วจากนั้นทั้งสองก็ตกลงกันว่าจะกำจัดลูกคนนี้เสียจากวงศ์ตระกูลอันต่ำต้อยด้อยค่า

    “อ้าววแล้วตอนนี้กัลยาอยู่ไหนเหรอเคื๊ออะ”โซฟีดัดหางเสียงให้ฟังดูน่าเอ็นดู

    “กัลยาเหรอ!!!ผมว่าคุณเรียกชื่อเล่นดีกว่านะมันสั้นกว่าสะดวกปากดี”

    “ก็ได้เคื๊ออะ…แล้วสรุปไอ้ขี้อยู่ไหนค่ะ”

    “อืมม…ผมโยนมันลงไปในบ่อน้ำน่ะมันจะได้ปีนออกมาไม่ได้ผมปิดฝาไปแล้วด้วย”

    “บ่อน้ำเหรอ….แต่บ้านเราไม่มีบ่อน้ำนะ….”

    “เอ่อ…..เอ่อ….ก็ในห้องน้ำหลังบ้านไง”

    “โถ่…นั่นเค้าเรียกว่าโถส้วมเคื่ออะ”จำไว้ซะบ้างซิ

    “แล้วตกลง…(ก็เก็บแล้วขึ้นมาซิ)…เราจะกำจัดยังไงดีเคื๊ออะ”

    “วิธีนี้ดีไม๊…..”เดนนี่เสนอวิธีและถามตอบแสดงความคิดเห็นของกันและกัน

    “งั้นเด๋วพรุ่งนี้เริ่มเลยล่ะกันเน๊อะะะะ”ทั้งสองตระเตรียมแผนการอันชั่วร้ายซ้ายขวา จนเสร็จ

    “ก็ดีเคื่ออะ”จากนั้นพอพูดคุยปรึกษาถึงแผนการการกำจัดไอ้ขี้กันเสร็จเดนนี่ก็ดูนาฬิกา

    “ว๊ากกกกกก…ตี3ครึ่งแล้วดอกหรือไม่ทันการแล้ว”เดนนี่รีบรุดออกจากบ้านโดยไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองได้ใส่ผ้าถุงออกไปเดนนี่เป็นคนเช่นนี้เสมอจะต้องไปถึงที่ทำงานก่อนเสมอเพื่อเตรียมตัวต่างๆให้เสร็จให้ทัน

    …เดนนี่ไปตอนตี3ครึ่งไปอาบน้ำแต่งตัวเดินเล่นและต่างๆอีกมากพอถึงบ่ายโมงเดนนี่ก็เริ่มเวลาทำงานงานเสร็จตอนเวลาตี2เขาเป็นประธานาธิบดีในซิดนี่ที่ผู้คนรักมากที่สุด

    …วันนั้นหลังจากที่ประชุมกันเรื่องสร้างเครื่องเล่นเด็กที่คอกเสือลายเบงกอลเสร็จเดนนี่ผู้เป็นประธานาธิบดีซึ่งเป็นที่รักของทุกคนก็ได้ถีบส่งแขกผู้มาร่วมประชุมออกจากห้องไปจนหมดแม้กระทั่งเสมียนหนุ่มหล่อส่วนตัวที่ชื่อ สไปรูลีนาลี่

    เดนนี่ค่อยๆเยื้องย่างกรายไปที่หน้าต่างแล้วยื่นหน้าอันน้อยๆน่ารักออกไปเบิ่งทรรศนะภายนอก

    “โป๊กกก….อูยส์โถ่ลืมเปิดหน้าต่าง”เดนนี่สบถ

    หัวเดนนี่บวมปูดยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วมันก็แตกออกแล้วหลังจากนั้นซักครู่เค้าก็เริ่มเปิดอีก พอเปิดเสร็จ…

    “จ๊ากกก….มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดใหม่

    “จ๊ากกก….มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ

    “จ๊ากกก….มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ

    “จ๊ากกก….มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ

    “จ๊ากกก….มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ

    “จ๊ากกก….มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ

    “จ๊ากกก….มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จเดนนี่ทำเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    “สไปรูลีนาลี่เข้ามาหน่อยซิ”

    “ขอรับท่านประธานาธิบดี”สไปรูลีนาลี่ขานรับด้วยสำเนียงเจื้อยแจ้วเจราขับขาน

    “มีอะไรเหรอขอรับ”

    “เปล่าเราแค่ลองเสียง…ว๊ากกกกกกก๊ากกกก้ากกกากก”

    “อ๋อผมก็แค่เข้ามาตามหาเสียงหมาแถวในห้องนี่แหละขอรับได้ยินแว่วๆ….ว๊ากกกกกกก๊ากกก้ากกก”

      

    พอ สไปรูลีนาลีพูดจบ เดนนี่ก็ทำอึ้งเหมือนกับไอ้เสมียนคนนี้มันไม่รู้ว่าเค้าเป็นถึงประธานาธิบดีแห่งซิดนี่ ออสเตรเลีย แล้วในที่สุดเดนนี่ก็เผยอปากพูดหลังจากที่นิ่งเงียบมานานหลายชั่วโมง…

    “ทหารรรร…เอามันไปกุดหัว”เดนนี่ตรัสก้องทั่วห้องทำให้ห้องสั่นสะเทือนบางส่วนเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงบริเวณภาคใต้เริ่มเกิดสึนามิ

    “จิ๊บ…จิ๊บ”สไปรูลีน่าร้องขอชีวิต

    “จิ๊บ…จิ๊บ”เขาร้องอีกแต่คราวนี้ดูเวทนาสังขารและอาวรณ์เป็นอย่างมาก

    ทหารลากตัวเสมียนที่ชื่อ สไปรูลีนาลีออกไปกุดหัวตามพระราชประสงค์ของเดนนี่ซักพัก ณ พื้นที่เบื้องล่างเดนนี่กำลังจ้องมองอยู่มีทหาร 2 คนกำลังจับชายคนหนึ่งไปที่ลานโล่งมีขวานอันใหญ่วางพาดบนแบคทีเรียตัวหนึ่งอยู่ หนึ่งอันแต่ทหารนั้นกลับไม่ใช้ขวาน เดนนี่เห็นทหารสองคนนั้นโบกมือเป็นสัญญาณแล้วก็มีทหารนายอื่นมาร่วมสมทบนับร้อยทั้งหมดถือปืนมาด้วยและมาหยุดเล็งที่ชายคนนั้นไม่กี่อึดใจต่อมา

    “บึ้ม..บึ้ม……”เสียงปืนที่ทหารนับร้อยระดมยิงที่หัวพร้อมกันพื้นที่เดนนี่ยืนอยู่สั่นไหวเล็กน้อย

    “ว๊ากกก๊ากกก้ากกาก”เดนนี่หัวเราะอย่างมีความสุข

    “ทหาร….!!!!”เดนนี่ตะโกน

    “ขอรับ”ทหารที่ยืนอยู่ลานโล่งข้างล่างบัดนี้มาอยู่ตรงหน้าเดนนี่แล้ว

    “เรียกเสมียนคนใหม่มาด้วย”เดนนี่สั่ง

    “สวัสดีครับผมสไปรูลีนี่ครับ”

    “….”

    “นี่เธอรู้มั๊ยเมื่อไรจะเปิดหน้าต่างบานนี้หมดซะทีเนี่ยะ!!!”

    “อ๋อ….ท่านลองอ่านคำเตือนดูซิครับ”สไปรูลีนี่บอก

    “คำเตือน:กระจกบานนี้ชำรุดยามเปิดจะตกลงมาอีกเพราะน็อตมันหลวม…ไอ้โง่….ว๊ากกกก”

    “เออเน๊อะ!ตูลืมเบิ่งไป….แหะๆ”เดนนี่บอก พร้อมด้วยสงสัยว่าใครเป็นคนเขียนป้ายนี้

    “มันน่าเอาตัวไปกุดหัวอย่าให้ฉันรู้นะว่าใครเขียน”

    “ไปได้และหมดธุระแล้ว”

    “ครับ”จากนั้นเดนนี่ก็ย่างกรายไปยังหน้าต่างอีกบานหนึ่งเปิดมันขึ้นพอเปิดเสร็จเค้าก็ยื่นหน้าน้อยๆอันแสนอุบาทว์ออกไปเบิ่งดูทรรศนะภายนอก

    “โครม…”เสียงของเครื่องบินสายการบินเทยพุ่งเสยเข้าชนที่หน้าของเดนนี่อย่างแรงหัวของเครื่องบินเข้าเสียบหัวเดนนี่สมองไหลหยดย้อยหยาดเยิ้ม

    “ผู้โดยสารทุกท่านไม่ต้องตื่นตระหนกไปเนื่องจากเครื่องบินของเราแค่พุ่งเข้าชนตึกเท่านั้น คาดว่าอีกไม่กี่นาทีก็คงจะระเบิด………ว๊ากกกกก๊ากก้ากกาก…”เสียงของแอร์โฮสเตดพูดด้วยน้ำเสียงสยดสยองเยือกเย็นกล่อมให้ผู้โดยสารไม่ตื่นตระหนก

    “โปรดเตรียมตัวเตรียมใจ….บ๊ายบายค่ะขอให้ไปสู่สุขติโดยสวัสดิภาพ…สายการบินเทยขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมหฤหรรย์กับเรา……ดิฉัน มัลลิกาขอขอบคุณค่ะ”หลังจากแอร์โฮสเตดพูดจบไม่นานเครื่องบินก็ระเบิด

    “ตูมมมม..ตู่มมมม…ตู้มมมม.ตู๊มมม..ตู๋มมมม”เสียงเครื่องบินระเบิดดังอึกทึกครึกโครมพอเดนนี่ได้สติฟื้นขึ้นมาอีกทีก็รู้สึกหนักๆ

    “อืมมม….หัวสมองกลวงนี่นาทำไมวันนี้มันหนักจังเลย”ซักพักจึงพบว่าหัวของเขามีหัวเครื่องบินสายการบินเทยเสียบอยู่ขณะนั้นสไปรูลีนี่ได้ยินเสียงโครมจึงเข้ามาดูว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้างพอเข้ามา…

    “อะจ๊ากกก…..ท่านประธานาธิบดีเดนนี่ครับเป็นอะไรบ้างมั๊ยครับ”

    “จะเป็นอะไรได้ล่ะก็สบายดีไง”เดนนี่พูดพร้อมกับค่อยๆขยับเอาหัวเครื่องออกพอเอาออกเสร็จเดนนี่ก็เอามืออันหงิกง่อยกอบโกยสมองของเขาที่กระเด็นกระด..อนไปคนละทิศละทางขึ้นมาแล้วยัดใส่หัวสมองของเขาดังเดิมแล้วคำท่าเหมือนเภาวนาอะไรบางอย่างเเละแล้วหัวกบาลเค้าก็ปิดกันสนิทผิวหนังของเค้าจากมีบาดแผลฟกช้ำเนื่องจากถูกใบพัดเครื่องบินก็เลือนหายไปสไปรูลีนี่ยืนอึ้งตัวแข็งด้วยความฉงนหลังจากที่เค้าเห็นเดนนี่เมื่อครู่



    “ออกไปเถอะฉันไม่มีธุระอะไรกับเธอไม่จำเป็นไม่ต้องเข้ามานะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×