ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความลับและการเปลี่ยนแปลง
          “เอ่ เอ๊  ..” เดนนี่กล่อมลูกน้อยของเค้าขณะที่เค้ากินข้าวผัดชะนีหัวมงกุฏตัวที่เค้าเพิ่งแอบไปลักลอบยิงมาจากสวนสัตว์เขาแดงอย่างเมามัน วันนี้เป็นวันเกิดของกัลยาเป็นวันที่กัลยาอายุครบ2ปี
วันนี้เมื่อ2ปีก่อนเดนนี่ยังจำได้เสมอที่นรกได้ให้โอกาสแก่เขาโดยส่งผีเปรตตนหนึ่งที่ลงนรกโดยทำความผิดจับกุมารทองกินเป็นอาหารจนหมอผีไม่มีกุมารทองใช้ แล้วยัดลงในท้องของโซฟีอย่างกระทันทำให้เธอต้องอับอายเนื่องจากในวันแต่งงานของโซฟีและเดนนี่ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีแต่ว่าอยู่ดีๆโซฟีท้องก็ป่องออกมาอย่างใหญ่โตกระจิ๊ดริดถึงกับทำให้ทุกคนในงานตกใจอย่างสุด100กรัม(ขีด)บางคนหัวใจวายตายบางคนความดันขึ้นตายบางคนก็เป็นตาแดงตายบางคนก็เป็นแขนหักทั้งสองไม่รู้สาเหตุมาก่อนโซฟีนึกว่าตนถูกมดกัดท้องบวมส่วนเดนนี่นึกว่าแฟนของตนทนเก็บหน้าท้องไว้ไม่ไหวแต่เมื่อทั้งสองคิดเข้ามาถึงเรื่องความเป็นไปได้แล้วเหตุผลที่ทั้งสองคิดไว้จึงฟังไม่ขึ้นแม่แต่นิดเดียวทั้งสองก็เลยตัดสินใจไปปรึกษาหมอหลังพิธีแต่งงานสิ้นสุดแต่หมอบอกว่าไม่ทราบเพราะหมอถนัดเรื่องปราบผีทั้งคู่ก็เลยไปหาหมอเจ้าอื่น หมอก็ได้บอกว่าโซฟีตั้งท้องก่อนแต่งได้แปดเดือนกับอีก29วันแล้ว ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ทั้งสองก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
ขณะนั้นเองหัวของชะนีหัวมงกุฏที่เดนนี่ตักโซ้ยอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้นก็หล่นลงไปในเปลของกัลยาเดนนี่จึงรีบไปหาผ้ามาเช็ดซักพักพอเดนนี่กลับมาก็ไม่เห็นร่องรอยของหัวชะนีหัวมงกุฏที่เค้าทำตกไว้เลยเค้าแทบจำไม่ได้ว่าทำมันตกเนื่องจากระหว่างระยะเวลาที่เดนนี่เดินไปหยิบกระดาษทิชชูนั้นกัลยาได้ซัดมันลงท้องไปแล้วและร่างกายของกัลยาก็เริ่มมีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
                                                            ตาของกัลยาเริ่มเบิ่งขยายใหญ่ออกขนตาหลุดลุ่ย
                                                          ปากเริ่มฉีกและอุบาทว์ขึ้น
                                                              สีผิวเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างเห็นได้ชัดไม่มีจมูก
                                                              หายใจทางผิวหนังแทน มีเมือกลื่นทั้งตัว
                                              นิ้วที่หดลงและกุดในที่สุดเหลือเพียง3นิ้ว(ยี๋ห์ น่าเกลียด)
                 
                                                    นิ้วเท้าที่หดและกุดลงเช่นกันแต่มี4นิ้ว
เดนนี่ตะลึงงงงังงองงอยอยู่นานซักพักเดนนี่ก็ร้องออกมา
“กรึ๊ด.. กรึ๊ด กรึ๊ด”เดนนี่ร้องเสียงแหลมเสียงคล้ายมดเป็นใบ้
เดนนี่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้กับลูกตนเดนนี่แทบทำอะไรไม่ถูก แมลงวัน7-8ตัวบินมาเกาะอยู่บนหน้าเดนนี่เดนนี่จึงเอามือค่อยๆปัดไปแต่มันก็ยังไม่ไปมันยังวนเวียนอยู่แถวศรีษะเดนนี่อยู่ตลอดเวลาตัวกัลยาเริ่มคลานออกมาจากเปลทำหน้าตาย่นยู่ยี่อัปยศอดสู แก่หมู่ไตรโลกถ้วนหน้า ร่ำพลางแสนโศกโศกา ดั่งว่าจะสิ้นสมประดี แล้วหัวเราะ ขึ่ก ขึ่ก เดินมาใกล้เดนนี่เรื่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยทั้งสองเหงื่อแตกซิก กัลยาตาโปนขึ้นเรื่อยๆโปนขึ้นและถลนปลิ้นออกมา กัลยายัดมันกลับเข้าที่เบ้าอย่างเดิมและมันก็โปนขึ้นอีกเส้นผมบางๆขึ้นยาวปิดหน้าหัวโตมือเท้าเริ่มหงิกงอพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่างพอใกล้เข้ามาเรื่อยๆเสียงพึมพำเหล่านั้นดังขึ้นแต่ก็ยังไม่ค่อยชัดเจนว่าเป็นคำว่าอะไรแต่เมื่อใกล้เข้ามาจะระยะประชั้นชิดตาของกัลยาเหลือกมองด้านบนหัวเดนนี่เดนนี่กลัวพูดอะไรไม่ออก
ซักพัก
“ควับ ซั้บ หนึ้บบบ ฉึ้บ ซื๊ดดด”มันเกิดขึ้นเร็วมากเสียงเหล่านั้นที่เดนนี่ได้ยินมันเร็วเกินกว่าที่จะรู้ว่าเป็นเสียงของอะไรซักพักเสียงที่น่ากลัวฉงนก็เปลี่ยนเป็นเสียงเหมือนกำลังขบเคี้ยวบางอย่าง
“โขบ สคึ๊บ สคึ๊บ โขบ สคึ๊บ สคึ๊บ สคว๊อบบบบ”เดนนี่เพิ่งจะมารู้ว่าต้นกำเนิดของเสียงอันน่าตื่นเต้นชวนติดตามนั้นเป็นของกบกัลยานั่นเองกัลยาแลบลิ้นขึ้นไปจกแมลงวันบนหัวเดนนี่กินแล้วเคี้ยวอย่างเรียบร้อยพอกินเสร็จก็พึมพำแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่คราวนี้เดนนี่ฟังออกว่าเป็นคำว่าอะไร
“MY  PRECIOUS”
“MY  PRECIOUS”
“MY PRECIOUS”มันแปลว่าของรักของหวงแล้วอะไรล่ะที่เป็นของรักของหวงหรือว่าใช่แล้วต้องเป็นแมลงวันนั่นแน่ๆเลยที่ทำให้กัลยาเดินออกมานอกเปลเพราะกัลยาเป็นกบไปแล้วแต่ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ไปได้เดนนี่กังวลทำไมกัลยาถึงกลายเป็นกบจู่ๆโซฟีก็เดินมาและเห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
“กรี๊ดดดดดด”พอแหกปากเสร็จโซฟีก็สลบไป พอตื่นมาอีกทีก็พบว่ามาอยู่ที่ห้องบรรทม เดนนี่เป็นคนอุ้มโซฟีมาที่นี่แล้วจึงวิสกี้(เล่า)เหตุการณ์ทั้งหมดให้โซฟีฟังตั้งแต่ที่เค้ากล่อมลูกอยู่และกินข้าวผัดหัวชะนีหัวมงกุฏอย่างเมามันจนกระทั่งมาถึงตอนที่โซฟีแหกปากร้องและสลบไป
“โอ้ไม่นะะะะลูกฉัน”โซฟีพูดอย่างเมามัน
“ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย”
“งึ๊ด .งึ๊ด ..งึ๊ด”โซฟีร้องไห้ฟูมฟาย    ซักพักโซฟีทำท่าเหมือนจะคิดอะไรออกด้วยสมองอันโง่เขลาไร้รอยหยักของเขา
“ต้องใช่แน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆที่โหรทำนายไว้ไง”
“ที่โหรบอกว่าลูกคนนี้เป็นอัปมงคลแก่วงศ์ตระกูลโหรบอกว่าต้องกำจัดออกไป”
“งึ๊ด งึ๊ด งึ๊ด”โซฟีร้องไห้อีกครั้ง
“เราจะต้องกำจัดออกไป..”โซฟีต้องการจะกำจัดลูกของตน
“ดีดีดีดีดีดีดีดีดีกำจัดไปเลยยย”เดนนี่ออกความเห็นออกนอกหน้า
แล้วจากนั้นทั้งสองก็ตกลงกันว่าจะกำจัดลูกคนนี้เสียจากวงศ์ตระกูลอันต่ำต้อยด้อยค่า
“อ้าววแล้วตอนนี้กัลยาอยู่ไหนเหรอเคื๊ออะ”โซฟีดัดหางเสียงให้ฟังดูน่าเอ็นดู
“กัลยาเหรอ!!!ผมว่าคุณเรียกชื่อเล่นดีกว่านะมันสั้นกว่าสะดวกปากดี”
“ก็ได้เคื๊ออะ แล้วสรุปไอ้ขี้อยู่ไหนค่ะ”
“อืมม ผมโยนมันลงไปในบ่อน้ำน่ะมันจะได้ปีนออกมาไม่ได้ผมปิดฝาไปแล้วด้วย”
“บ่อน้ำเหรอ .แต่บ้านเราไม่มีบ่อน้ำนะ .”
“เอ่อ ..เอ่อ .ก็ในห้องน้ำหลังบ้านไง”
“โถ่ นั่นเค้าเรียกว่าโถส้วมเคื่ออะ”จำไว้ซะบ้างซิ
“แล้วตกลง (ก็เก็บแล้วขึ้นมาซิ) เราจะกำจัดยังไงดีเคื๊ออะ”
“วิธีนี้ดีไม๊ ..”เดนนี่เสนอวิธีและถามตอบแสดงความคิดเห็นของกันและกัน
“งั้นเด๋วพรุ่งนี้เริ่มเลยล่ะกันเน๊อะะะะ”ทั้งสองตระเตรียมแผนการอันชั่วร้ายซ้ายขวา จนเสร็จ
“ก็ดีเคื่ออะ”จากนั้นพอพูดคุยปรึกษาถึงแผนการการกำจัดไอ้ขี้กันเสร็จเดนนี่ก็ดูนาฬิกา
“ว๊ากกกกกก ตี3ครึ่งแล้วดอกหรือไม่ทันการแล้ว”เดนนี่รีบรุดออกจากบ้านโดยไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองได้ใส่ผ้าถุงออกไปเดนนี่เป็นคนเช่นนี้เสมอจะต้องไปถึงที่ทำงานก่อนเสมอเพื่อเตรียมตัวต่างๆให้เสร็จให้ทัน
เดนนี่ไปตอนตี3ครึ่งไปอาบน้ำแต่งตัวเดินเล่นและต่างๆอีกมากพอถึงบ่ายโมงเดนนี่ก็เริ่มเวลาทำงานงานเสร็จตอนเวลาตี2เขาเป็นประธานาธิบดีในซิดนี่ที่ผู้คนรักมากที่สุด
วันนั้นหลังจากที่ประชุมกันเรื่องสร้างเครื่องเล่นเด็กที่คอกเสือลายเบงกอลเสร็จเดนนี่ผู้เป็นประธานาธิบดีซึ่งเป็นที่รักของทุกคนก็ได้ถีบส่งแขกผู้มาร่วมประชุมออกจากห้องไปจนหมดแม้กระทั่งเสมียนหนุ่มหล่อส่วนตัวที่ชื่อ สไปรูลีนาลี่
เดนนี่ค่อยๆเยื้องย่างกรายไปที่หน้าต่างแล้วยื่นหน้าอันน้อยๆน่ารักออกไปเบิ่งทรรศนะภายนอก
“โป๊กกก .อูยส์โถ่ลืมเปิดหน้าต่าง”เดนนี่สบถ
หัวเดนนี่บวมปูดยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วมันก็แตกออกแล้วหลังจากนั้นซักครู่เค้าก็เริ่มเปิดอีก พอเปิดเสร็จ
“จ๊ากกก .มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดใหม่
“จ๊ากกก .มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ
“จ๊ากกก .มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ
“จ๊ากกก .มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ
“จ๊ากกก .มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ
“จ๊ากกก .มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จ
“จ๊ากกก .มีอีกบานซ้อนอยู่”พอเปิดเสร็จเดนนี่ทำเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“สไปรูลีนาลี่เข้ามาหน่อยซิ”
“ขอรับท่านประธานาธิบดี”สไปรูลีนาลี่ขานรับด้วยสำเนียงเจื้อยแจ้วเจราขับขาน
“มีอะไรเหรอขอรับ”
“เปล่าเราแค่ลองเสียง ว๊ากกกกกกก๊ากกกก้ากกกากก”
“อ๋อผมก็แค่เข้ามาตามหาเสียงหมาแถวในห้องนี่แหละขอรับได้ยินแว่วๆ .ว๊ากกกกกกก๊ากกก้ากกก”
 
พอ สไปรูลีนาลีพูดจบ เดนนี่ก็ทำอึ้งเหมือนกับไอ้เสมียนคนนี้มันไม่รู้ว่าเค้าเป็นถึงประธานาธิบดีแห่งซิดนี่ ออสเตรเลีย แล้วในที่สุดเดนนี่ก็เผยอปากพูดหลังจากที่นิ่งเงียบมานานหลายชั่วโมง
“ทหารรรร เอามันไปกุดหัว”เดนนี่ตรัสก้องทั่วห้องทำให้ห้องสั่นสะเทือนบางส่วนเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงบริเวณภาคใต้เริ่มเกิดสึนามิ
“จิ๊บ จิ๊บ”สไปรูลีน่าร้องขอชีวิต
“จิ๊บ จิ๊บ”เขาร้องอีกแต่คราวนี้ดูเวทนาสังขารและอาวรณ์เป็นอย่างมาก
ทหารลากตัวเสมียนที่ชื่อ สไปรูลีนาลีออกไปกุดหัวตามพระราชประสงค์ของเดนนี่ซักพัก ณ พื้นที่เบื้องล่างเดนนี่กำลังจ้องมองอยู่มีทหาร 2 คนกำลังจับชายคนหนึ่งไปที่ลานโล่งมีขวานอันใหญ่วางพาดบนแบคทีเรียตัวหนึ่งอยู่ หนึ่งอันแต่ทหารนั้นกลับไม่ใช้ขวาน เดนนี่เห็นทหารสองคนนั้นโบกมือเป็นสัญญาณแล้วก็มีทหารนายอื่นมาร่วมสมทบนับร้อยทั้งหมดถือปืนมาด้วยและมาหยุดเล็งที่ชายคนนั้นไม่กี่อึดใจต่อมา
“บึ้ม..บึ้ม ”เสียงปืนที่ทหารนับร้อยระดมยิงที่หัวพร้อมกันพื้นที่เดนนี่ยืนอยู่สั่นไหวเล็กน้อย
“ว๊ากกก๊ากกก้ากกาก”เดนนี่หัวเราะอย่างมีความสุข
“ทหาร .!!!!”เดนนี่ตะโกน
“ขอรับ”ทหารที่ยืนอยู่ลานโล่งข้างล่างบัดนี้มาอยู่ตรงหน้าเดนนี่แล้ว
“เรียกเสมียนคนใหม่มาด้วย”เดนนี่สั่ง
“สวัสดีครับผมสไปรูลีนี่ครับ”
“ .”
“นี่เธอรู้มั๊ยเมื่อไรจะเปิดหน้าต่างบานนี้หมดซะทีเนี่ยะ!!!”
“อ๋อ .ท่านลองอ่านคำเตือนดูซิครับ”สไปรูลีนี่บอก
“คำเตือน:กระจกบานนี้ชำรุดยามเปิดจะตกลงมาอีกเพราะน็อตมันหลวม ไอ้โง่ .ว๊ากกกก”
“เออเน๊อะ!ตูลืมเบิ่งไป .แหะๆ”เดนนี่บอก พร้อมด้วยสงสัยว่าใครเป็นคนเขียนป้ายนี้
“มันน่าเอาตัวไปกุดหัวอย่าให้ฉันรู้นะว่าใครเขียน”
“ไปได้และหมดธุระแล้ว”
“ครับ”จากนั้นเดนนี่ก็ย่างกรายไปยังหน้าต่างอีกบานหนึ่งเปิดมันขึ้นพอเปิดเสร็จเค้าก็ยื่นหน้าน้อยๆอันแสนอุบาทว์ออกไปเบิ่งดูทรรศนะภายนอก
“โครม ”เสียงของเครื่องบินสายการบินเทยพุ่งเสยเข้าชนที่หน้าของเดนนี่อย่างแรงหัวของเครื่องบินเข้าเสียบหัวเดนนี่สมองไหลหยดย้อยหยาดเยิ้ม
“ผู้โดยสารทุกท่านไม่ต้องตื่นตระหนกไปเนื่องจากเครื่องบินของเราแค่พุ่งเข้าชนตึกเท่านั้น คาดว่าอีกไม่กี่นาทีก็คงจะระเบิด ว๊ากกกกก๊ากก้ากกาก ”เสียงของแอร์โฮสเตดพูดด้วยน้ำเสียงสยดสยองเยือกเย็นกล่อมให้ผู้โดยสารไม่ตื่นตระหนก
“โปรดเตรียมตัวเตรียมใจ .บ๊ายบายค่ะขอให้ไปสู่สุขติโดยสวัสดิภาพ สายการบินเทยขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมหฤหรรย์กับเรา ดิฉัน มัลลิกาขอขอบคุณค่ะ”หลังจากแอร์โฮสเตดพูดจบไม่นานเครื่องบินก็ระเบิด
“ตูมมมม..ตู่มมมม ตู้มมมม.ตู๊มมม..ตู๋มมมม”เสียงเครื่องบินระเบิดดังอึกทึกครึกโครมพอเดนนี่ได้สติฟื้นขึ้นมาอีกทีก็รู้สึกหนักๆ
“อืมมม .หัวสมองกลวงนี่นาทำไมวันนี้มันหนักจังเลย”ซักพักจึงพบว่าหัวของเขามีหัวเครื่องบินสายการบินเทยเสียบอยู่ขณะนั้นสไปรูลีนี่ได้ยินเสียงโครมจึงเข้ามาดูว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้างพอเข้ามา
“อะจ๊ากกก ..ท่านประธานาธิบดีเดนนี่ครับเป็นอะไรบ้างมั๊ยครับ”
“จะเป็นอะไรได้ล่ะก็สบายดีไง”เดนนี่พูดพร้อมกับค่อยๆขยับเอาหัวเครื่องออกพอเอาออกเสร็จเดนนี่ก็เอามืออันหงิกง่อยกอบโกยสมองของเขาที่กระเด็นกระด..อนไปคนละทิศละทางขึ้นมาแล้วยัดใส่หัวสมองของเขาดังเดิมแล้วคำท่าเหมือนเภาวนาอะไรบางอย่างเเละแล้วหัวกบาลเค้าก็ปิดกันสนิทผิวหนังของเค้าจากมีบาดแผลฟกช้ำเนื่องจากถูกใบพัดเครื่องบินก็เลือนหายไปสไปรูลีนี่ยืนอึ้งตัวแข็งด้วยความฉงนหลังจากที่เค้าเห็นเดนนี่เมื่อครู่
“ออกไปเถอะฉันไม่มีธุระอะไรกับเธอไม่จำเป็นไม่ต้องเข้ามานะ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น