ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Next Boy ห้องถัดไปผู้ชายของฉัน

    ลำดับตอนที่ #3 : Next Boy ห้องถัดไปผู้ชายของฉัน EP.1 [การปรากฏตัวของผู้ชายหน้าไทย]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 57


     

     

     

     

     

    บทที่ 1

    การปรากฏตัวของผู้ชายหน้าไทย

     

     

     

     

     

     

    หลังจากที่ม๊าจัดการเรื่องโรงงานและขายคอนโดกับบ้านได้สำเร็จเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แม่จึงตัดสินใจจะไปเริ่มต้นใหม่ที่อเมริกา เช้านี้พวกเราขุดตัวเองลุกจากที่นอนเพื่อไปส่งม๊าที่สนามบิน

    “ ม๊า วีซ่ากับพาสปอร์ตครบแล้วใช่มั้ยคะ ”

    “ จ่ะ ”

    “ พายน์ล็อคห้องแล้วนะ ”

    “ จ้า ”

     

     

     

     

    วันนี้คุณลุงคนขับรถมาทำหน้าที่เป็นวันสุดท้ายก่อนจะไปทำงานกับเจ้านายคนใหม่ในวันพรุ่งนี้ เราเดินทางมาถึงสนามบินตั้งแต่เจ็ดโมงเพื่อเช็คอินไฟลท์ตอน 10 โมง

    “ หนูสองคนรีบกลับไปเถอะลูก กว่าจะกลับถึงบ้านอีกเดี๋ยวหมอพิมเข้าไปที่คอนโดแล้วไม่เจอใคร ”

    “ ค่ะม๊า ”

    แพมร้องไห้ไม่หยุดแล้วเข้าไปกอดลาหม่าม๊า ตัวฉันเองก็ไม่ได้ต่างกัน แต่ถึงอย่างไรนั้นก็ยังคงไม่เห็นน้ำตาของคนเข้มแข็งอย่างม๊าอีกเช่นเคย นั่นยิ่งทำให้ฉันห่วงม๊าเข้าไปใหญ่ งือๆTT
                “ ถึงบ้านลุงแล้วโทรมาหาพวกเราด้วยนะคะม๊า ”

    “ จ่ะ ”

    ฉันเข้าไปกอดลาแล้วรีบเดินหันหลังออกมาก่อนที่จะร้องไห้หนักไปมากกว่านี้

     

     

     

     

     

     

    “ ขอบคุณมากนะคะลุงที่อุตส่าห์มาส่งพวกเรา ” ฉันกับแพมยกมือไหว้คุณลุงอีกครั้งหลังจากที่เขาพาพวกเรากลับมาส่งที่คอนโด

    “ มีอะไรก็โทรเรียกใช้ผมได้นะครับคุณหนู ไม่ต้องเกรงใจ ”

    “ ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ”

     

     

     

     

    “ เจ๊ ขึ้นไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวเค้าไปซื้อของไว้ไปโรงเรียนพรุ่งนี้ ”

    “ แปดโมงเนี่ยนะ ”

    “ อือ เดี๋ยวไปบ้านไอ้แจนก่อนแล้วค่อยออกไปตอนสายๆ ”

    “ อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนดิ รอหมอพิมย้ายเค้ามาก่อน ”

    “ โอ้ย แพมอยู่ไปก็ไม่ช่วยอะไรได้หรอกหน่าเจ๊ แพมไปละนะ ”

    ว่าแล้วยัยน้องตัวแสบก็รีบวิ่งแจ้นไปขึ้นรถไฟฟ้าที่ฝั่งตรงข้าม

    “ ถือกระเป๋าระวังๆนะโว่ย ” ฉันตะโกนไล่หลัง

    “ อื้ม ” ยัยแพมหันหลังมาตอบพร้อมกับพยักหน้า

     

     

    ฉันเดินกลับขึ้นมาในห้องด้วยความเปล่าเปลี่ยว เฮ้ออออออออ.....โดนทิ้งอีกแล้วสินะ แล้วนี่ฉันก็ต้องช่วยหมอพิมขนของคนเดียวเนี่ยนะ อืม TT อันที่จริงฉันก็ยังไม่เคยเห็นหน้าหมอพิมเลยสักครั้ง รู้แต่ว่าเป็นคุณหมอที่ใจดีมาก แล้วเขาจะเข้ามาตอนไหนนะ ..จะมาเมื่อไหร่ก็เคาะประตูเรียกแล้วกันนะคะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเท่าไร ฉันขอตัวไปงีบก่อนล่ะค่ะ ง่วงไม่ไหวแล้ว J

     

     

     

     

     

    ~ ติ้งหน่อง ติ้งหน่อง...
                ฉันที่งัวเงียอยู่บนโซฟารีบวิ่งไปที่ประตู ไม่รู้ว่าเสียงกริ่งที่ได้ยินนั้นมันดังเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว แต่คนตื่นง่ายอย่างฉันคิดว่ามันคงยังดังไม่เกินครั้งที่
    3 เป็นแน่

    “ คะ? ” ด้วยความรีบและยังไม่ทันจะตื่นเต็มตัวฉันจึงเปิดประตูออกไปโดยยังไม่ทันดูที่เครื่องวีดีโอคอล

    สิ่งที่ปรากฏควรจะเป็นหญิงสาววัยกลางคนหน้าตาเชื่อถือได้ แต่ทว่ามันไม่ใช่ ชายหนุ่มหน้าตากวนๆออกแนวแบดบอยนิดๆถึงขั้นสุดยืนอยู่ข้างหน้า ฉันว่าหมอนี่ต้องมาห้องผิดแน่ๆ

    “ ฉันว่าคุณคงมาผิดห้องแล้วล่ะค่ะ ” ว่าแล้วฉันก็ปิดประตูแต่ว่าอีตากุ้ยนี่เอาขาขัดไว้

    “ นี่ คุณมาหาใครคะ ”

    “ ... ” หมอนั่นไม่ตอบแต่ชี้มาที่ฉัน

    ??!!! ” มาหาฉันได้ยังไงก็เราไม่ได้รู้จักกันน่ะสิ ความงงได้บังเกิดขึ้นในหัวดิฉันแล้วพ่ะย่ะค่ะ

    “ ... ” แล้วหมอนั่นก็กำมือใช้นิ้วโป้งชี้ไปห้องข้างๆ ..อีตานี่คุณเป็นใบ้รึไงคะ ถามก็พูดหน่อยก็ได้ กลัวดอกพิกุลจะร่วงรึไงคะคู๊ณณณณณณณณณณ

     

     

    ว่าแล้วฉันก็ปิดประตูเดินตามหมอนั่นไป ก็พบกับผู้หญิงในเสื้อกราวน์ตัวสั้นกับกระโปรงสีชมพูหน้าตาดูหน้าเชื่อถือกับผู้ชายวัยกลางคนหน้าตาต่างประเทศในชุดสูทดูสูงศักดิ์

    “ สวัสดีค่ะ คุณหมอพิมใช่มั้ยคะ ” ฉันยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม

    “ จ่ะ ฉันหมอพิมเอง นี่คุณจอนห์สามีฉันเองจ่ะ ส่วนนี่ลูกชายฉันชื่อพล ” 55555555 ฉันละแทบจะขำกลิ้ง เป็นลูกครึ่งแต่ไม่ได้หน้าต่างประเทศมาสักนิด ฮ่าๆๆๆ

    “ ฉันจะขอกุญแจแล้วก็จะรบกวนเธอช่วยตาพลจัดของนิดๆหน่อยๆจะรบกวนเกินไปไหมจ๊ะ เพราะเดี๋ยวคุณจอนห์ต้องไปประชุมต่อแล้วฉันก็มีเคสผ่าตัดอีกตอนบ่ายด้วย ”

    “ ไม่รบกวนหรอกค่ะ ยินดีค่ะ ” ==

    “ แม่ไปนะจ๊ะ ”

    “ ครับ ”

    ฉันก็หลงดีใจตั้งนานคิดว่าจะได้เพื่อนข้างห้องเป็นคุณหมอเรียบร้อยที่ไหนได้ ดันมาเป็นอีตาลูกหน้ากวนนี่ เฮ้อออออออออออ~

     

     

     

    ฉันเดินกลับมาที่ห้องด้วยประตูกลางที่อยู่ระหว่างสองห้อง ว่าจะมาเอาน้ำดื่มให้แม่บ้านกับคนงานที่ช่วยตานั่นขนของขึ้นมา แต่ทว่าอีตานี่ดันเดินตามฉันมาซะงั้น

    “ นาย ใครอนุญาตให้เข้าห้องฉันมิทราบ ”

    “ ก็ประตูมันเปิดจากห้องฉันได้ก็แปลว่าเข้าได้ อีกอย่างมันก็ไม่ได้ติดป้ายห้ามเข้าไว้นิ ”

    ..#!>*&%$)B+@  โอ้ยยยยยอีตานี่ ฉันล่ะไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าผู้ชายปากจัดอย่างนายได้แล้วล่ะ

    “ ฉันนัดช่างไว้แล้วให้เค้ามาจัดการกับประตูนี่ซะ แต่เค้ายังไม่มา ฉะนั้นระหว่างนี้นายห้ามใช้ประตูนี้โดยเด็ดขาด ”

    “ อืม ”

    “ แล้วนี่นายเข้ามาทำไม ”

    “ มีผ้าปิดปากมะ ”

    “ มี เดี๋ยวเอาไปให้ ”

     

     

    ว่าแล้วอีตานั่นก็เดินกลับเข้าห้องตัวเองไปด้วยประตูหน้าห้อง ฉันถือกระติกน้ำเล็กๆพร้อมกับผ้าปิดปากกันฝุ่นเดินไปที่ห้องข้างๆ

    “ ไหนเธอบอกว่าห้ามฉันใช้ประตูกลางแล้วเธอใช้ได้ยังไง ”

    “..#!>*&%$)B…. เออ วันนี้ยกเว้นวันนึง ” ฉันล่ะประสาทจะกิน!!!!

     

     

    ฉันช่วยคนงานของบ้านอีนั่นจัดของในห้องอย่างเป็นระเบียบ ส่วนเจ้าตัวน่ะหรอ นั่งมองและชี้นิ้วสั่งอย่างสบายใจ ..นี่ถ้าไม่เกรงใจแม่ของนายล่ะก็นะ เหอะๆ

    “ เค้าเรียนอยู่รึเปล่าคะป้า ” ฉันแอบถามเรื่องเค้าจากป้าคนงาน

    “ เรียนอยู่น่ะสิ หน้าฉันแก่พอที่จะทำงานได้แล้วรึไง ” อีตาปากจัดแทรกขึ้น “ แล้วเธอล่ะ อยู่โรงเรียนอะไร ”

    Rorita highschool

    “ เฮ้ย จริงดิ ฉันไม่คิดว่าที่โรงเรียนฉันจะมีเด็กหน้าตาซื่อบื้อๆอย่างเธออยู่ด้วย ”

    “ ไอ้... ”

    “ เกรด?

    “ เกรด 11

    “ อืม ก็เด็กกว่าฉันปีนึง แต่หน้าก็ไม่ได้อ่อนไปกว่าฉันเยอะเท่าไหร่ ”

    “ ย่ะ ใครจะไปหน้าไทยแต่เป็นลูกครึ่งแบบนายล่ะยะ 555555 คนอะไร ลูกครึ่งไทยอังกฤษ แต่หน้านี่ไทยแท้มาเชียว ” ฉันเบี่ยงประเด็นกัดคืน

    “ แหม แม่สาวเกาหลี เธอก็หน้าลูกครึ่งมากเลยนะ ได้ข่าวว่าแม่ก็เป็นลูกครึ่งจีน พ่อก็คนอเมริกันนิ แต่ทำไมหน้ายังไท๊ไทย เอ..เหมือนพ่อเธอจะตายไปแล้วนิ ”

    “ เออ พ่อฉันตายไปแล้ว ”

     

    ฉันรีบวิ่งกลับมาห้องของตัวเองก่อนที่น้ำตาจะหยดลง..เออ ก็ใช่น่ะสิ พ่อฉันตายไปแล้วมันหนักหัวใครหรอ ที่ฉันหน้าไทยเพราะพ่อฉันตายไปแล้วหรือไงเล่า ไอ้บ้า ไอ้ปากปลาร้า Y^Y

     










     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×