รักแรก : ความทรงจำที่มิอาจลืม
ผู้เข้าชมรวม
47
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ณ
ห้องประชุมเล็ก ๆ ในบริษัทใจกลางกรุงเทพมหานคร หญิงสาววัยเกือบสามสิบในชุดทำงานนั่งอยู่ริมหน้าต่าง
เธอทอดสายตาออกไปยังบรรยากาศรอบนอกจากชั้น 5 ของตึก
ซึ่งน่าจะสามารถมองเห็นเมืองได้เกือบทั่วทั้งเมือง หากไม่ติดว่าจะมีตึกระฟ้ากั้นขวางหน้าเป็นช่วง
ๆ มือเรียวลูบผมซอยสั้นสีน้ำตาลแก่ดูทะมัดทะแมง พร้อมปัดปอยผมที่ปรกหน้าเบา ๆ ให้เข้าที่
สักพักก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง
“ขอโทษนะครับที่มาช้า”
ชายหนุ่มพูดทั้ง ๆ ที่ยังหายใจหอบอยู่ “คุณหฤทัย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ‘คุณแดนชล’ ในเมื่อคุณพร้อมแล้ว
เรามาเริ่มคุยงานกันเลยมั้ยคะ” หญิงสาวนาม “หฤทัย” พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สร้างความหวั่นใจให้ชายหนุ่มตรงหน้าเล็กน้อย
“ได้เลยครับ เรื่องโปรเจกต์เพลงใหม่ที่ผมจะขอร่วมมือกับคุณนั้น...”
แดนชลกล่าวเปิดการสนทนา “พอดีผมเคยได้ยินมาว่า ฝีมือการแต่งเพลงของคุณไม่ธรรมดาจริง
ๆ ผมอยากจะขอให้คุณช่วยแต่งเพลงให้ผมหน่อยน่ะครับ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ” หฤทัยตอบตกลงอย่างมั่นใจ
ณ ปัจจุบันเธอเป็นถึงราชินีแห่งวงการเพลงป๊อบไทย เข้าวงการร้องเพลงจากการประกวดร้องเพลงเวทีดังอันดับหนึ่งของประเทศ
ด้วยน้ำเสียงกังวานใสหาตัวจับยากของเธอ กับฝีมือการเล่นดนตรีหลากหลายชนิด
เธอจึงกลายเป็นนักร้องดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการตั้งแต่อายุยี่สิบต้น ๆ นานวันเข้า ความสามารถด้านการแต่งเพลงของเธอก็ค่อย
ๆ ฉายแววออกมา จนในที่สุดเธอก็ได้ก้าวขึ้นเป็นโปรดิวเซอร์ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสามสิบ
และเพลงที่เธอแต่งมักจะติดท็อปชาร์ทเกือบทุกเพลง เรียกได้ว่า หฤทัยนั้นประสบความสำเร็จอย่างสูงบนเส้นทางอาชีพของเธอ
ส่วนชายหนุ่ม “แดนชล” นั้น
เขาเป็นถึงอดีตมือกีตาร์ของวงดนตรีขวัญใจวัยรุ่น “Great Ocean” ด้วยภาพลักษณ์ใสซื่อของชายหนุ่มอายุ 18 ประกอบกับสไตล์การแต่งตัวซึ่งตีตลาดวัยรุ่นสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี
ทำให้ Great Ocean สามารถสร้างประสบการณ์ห้างแตก
ร้อยล้านแผ่น คิวงานแน่นทั้งเดือนได้ตั้งแต่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ๆ
จนสามารถทำเงินให้กับค่ายเพลงถึงหลักพันล้านบาทโดยใช้เวลาไม่ถึงสองปี หากพูดถึงวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสมัยนั้น
คงไม่มีใครไม่รู้จักวง Great Ocean แต่หลังจากเปิดตัวได้ประมาณ
7 ปี สมาชิกในวงก็มีปัญหากันจนต้องยุบวงไป สร้างความเสียใจและเสียดายให้กับบรรดาแฟนคลับเป็นอย่างมาก
ต่อมาแดนชลได้หวนกลับสู่วงการเพลงอีกครั้ง
แต่คราวนี้เขาเลือกที่จะอยู่เบื้องหลังแทน โดยให้เหตุผลว่าอยากทำอะไรที่ต่างออกไป
ถึงแม้แดนชลและหฤทัยจะอยู่วงการเดียวกัน
แต่ทั้งสองคนกลับไม่เคยร่วมงานกันเลย ได้ยินเพียงแค่ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายเท่านั้น
ข่าวการกลับมาร่วมงานของทั้งสองคนในรอบเกือบสิบปีเป็นข่าวดีที่แฟนคลับของทั้งสองฝ่ายรอคอยมานาน
กับการที่ตัวท็อปของวงการเพลงจะร่วมมือกันผลิตเพลงใหม่
ทำให้ประชาชนต่างคาดหวังในผลงานของทั้งคู่เป็นอย่างมาก
“คุณหฤทัยนี่เก่งจังเลยนะครับ สามารถแต่งเพลงได้เกือบครึ่งเพลงในเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง”
แดนชลเอ่ยปากชมเพื่อนร่วมงาน “เหมือนคุณคาบไมโครโฟนมาเกิดเลยนะครับ”
“คุณก็พูดเกินไปค่ะคุณแดนชล” ใบหน้าขึงขังของหฤทัยปรากฎรอยยิ้มจาง
ๆ “แต่ดิฉันก็รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นะคะ เหมือนเกิดมาพร้อมกับไมค์”
“คุณหมายความว่ายังไงเหรอครับ”
“เหมือนดิฉันเพิ่งเกิดมาตอนอายุ 20
ปีเองค่ะ” หฤทัยยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบเบา ๆ “ตอนแรกดิฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ถึงได้เกิดมาตอนอายุ 20 แบบนี้ แต่ตอนหลังมีคนบอกว่าดิฉันประสบอุบัติเหตุ
ทำให้ความจำเสื่อม ดิฉันเลยจำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้เแม้กระทั่งชื่อตัวเอง
รู้ตัวอีกทีก็ชื่อหฤทัยไปซะแล้ว” หฤทัยหัวเราะเบา ๆ บรรยากาศการทำงานเริ่มผ่อนคลายลงหลังจากตึงเครียดมาชั่วโมงกว่า
ๆ
“แล้วคุณยังพอมีอะไรหลงเหลืออยู่ในความทรงจำหรือเปล่าครับ”
“อืม...น่าจะเป็นรักครั้งแรกล่ะมั้งคะ
ที่เป็นความทรงจำอย่างเดียวที่เหลืออยู่ ตอนนั้นดิฉันเพิ่งเรียนอยู่ม.ต้น รูปร่างหน้าตาขี้เหร่กว่าตอนนี้เยอะ
ดิฉันจำได้ว่าดิฉันแอบชอบเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง แต่ถูกเขาปฏิเสธไป
จากนั้นก็...จำไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”
“ถ้าพูดถึงตอนม.ต้น
ผมก็มีเรื่องที่รู้สึกผิดมาก ๆ อยู่เรื่องหนึ่งเหมือนกันครับ”
แดนชลปิดแฟ้มเอกสารในมือ “ตอนนั้น ผมจำได้ว่าผมเป็นนักบาสของโรงเรียน เลยมีผู้หญิงมาตามจีบเยอะมาก
ผมยังไม่เข้าใจว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แค่รู้สึกสนุกกับการได้รับของขวัญแทบทุกวันเท่านั้นเอง
เพื่อนผมเลยยุให้ผมแกล้งหักอกผู้หญิงเหล่านั้นดู
กลายเป็นว่าผมดันสนุกเสียอีกที่ได้เห็นผู้หญิงเหล่านั้นร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังตอนที่โดนผมหักอก”
“คุณสมัยนั้นนี่ร้ายใช่เล่นเลยนะคะ”
หฤทัยแซวชายหนุ่มตรงหน้า
“ฮ่า ๆ
แต่ตอนนี้ผมว่ามันไม่เท่แล้วล่ะครับ แล้วก็ มีอยู่วันหนึ่ง
มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาสารภาพรักกับผมในวันวาเลนไทน์ ด้วยความคึกคะนองอะไรสักอย่างของผมเนี่ยแหละ
ทำให้ผมไม่หยุดแค่การหักอก แต่ลามไปถึงการล้อเลียนรูปร่างของเธอด้วย
ผมจำได้แม่นเลยล่ะครับ เธอชื่อวนิดา” แดนชลเล่าต่อ สีหน้าของเขาเริ่มวิตกมากขึ้นทีละนิด
“แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
“วนิดาร้องไห้วิ่งหนีออกไปไหนก็ไม่รู้
จนเช้าวันรุ่งขึ้นผมถึงได้รู้ว่า วนิดานอนเป็นผักอยู่ที่ห้องฉุกเฉินเพราะกระโดดลงมาจากชั้น
3 วินาทีนั้นผมตกใจมาก ไม่คิดว่าคำพูดไม่กี่คำจะทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ไปได้
ถ้าเกิดผมย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะคิดก่อนพูดให้มากกว่านี้”
“จะว่าไป ความทรงจำที่ลืมยากที่สุดของคนเราน่าจะเป็นความรักครั้งแรกนะคะ
รักครั้งแรก อกหักครั้งแรก ขนาดคนความจำเสื่อมอย่างดิฉันยังจำได้เลย นับประสาอะไรกับคุณล่ะ”
“ใช่ครับ
ผมจำได้ว่าผมมีแฟนคนแรกตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอชื่อปรายฟ้า เรียนคณะแพทย์
ที่ผมอกหักก็เพราะว่าปรายฟ้าทิ้งผมไปคบกับคนใหม่ ตอนที่ผมถูกทิ้ง ผมแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนเลย
เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟาย แต่ยังดีที่มีเพื่อนในวงคอยดึงผมไว้
ไม่งั้นผมคงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้หรอกครับ”
“ว่าแต่ เรื่องของคุณวนิดานี่
ตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้างแล้วคะ” หฤทัยถามขึ้น
“ไม่ทราบเลยครับ ครั้งล่าสุดที่ผมได้ข่าวคือถูกส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศแล้ว
คาดว่าตอนนี้วนิดาน่าจะอยู่ต่างประเทศยาวเลย”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง
ถ้าอย่างนั้นเราทำงานกันต่อเถอะค่ะ เสียเวลามามากแล้ว”
บทสนทนาของทั้งสองคนก็จบลงเพียงแค่นี้
…..
หลังจากที่ทั้งสองคนทำงานร่วมกันมาเป็นเวลาหลายเดือน
แดนชลรู้สึกว่า หฤทัยมีมุมที่น่ารัก และมีความเป็นผู้นำสูง ผิดกับลุคสาวมาดเท่ผู้จริงจังและเคร่งขรึมตอนที่เจอกันวันแรก
ถึงแม้จะเกิดอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยความสามารถและความร่วมมือของทั้งสองคนทำให้สามารถขับเคลื่อนงานชิ้นนี้ต่อไปได้
และในที่สุดโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ประจำปีของบริษัทก็ออกมาสมบูรณ์ สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ฟังทั่วประเทศ
โดยทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มค่ากับการรอคอย
ส่วนแดนชลซึ่งเมื่อจบโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่นี้แล้ว
กลับรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไป ทุก ๆ วันเขาจะต้องไปที่บริษัท แต่วันนี้กลับไม่ต้องไป
ทุก ๆ วันเขาต้องไปเจอเธอ แต่วันนี้เขากลับไม่ได้เจอ
...ใช่แล้ว หฤทัยนั่นเอง ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่แดนชลรู้สึกว่าเขาเริ่มหลงรักหฤทัยเข้าให้แล้ว
แม้จะได้ร่วมงานกันในระยะเวลาสั้น ๆ แต่เหมือนเขารู้สึกผูกพันกับเธอมานานกว่านั้น แดนชลพยายามหาทางที่จะทำให้เขาได้เจอเธออีก
ซึ่งนั่นน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้สารภาพความในใจ
ฉับพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นปฏิทินที่วงวันที่สีแดงไว้ว่า “งานเลี้ยงรุ่น”
แดนชลไม่รอช้า รีบกดโทรศัพท์ส่งข้อความถึงหฤทัยทันที
‘เดือนหน้าคุณฤทัยว่างมั้ยครับ’
‘ไปร้องเพลงในงานเลี้ยงรุ่นให้ผมหน่อยนะ’
.
.
.
วันงานเลี้ยงรุ่น
แดนชลรู้สึกมีความสุขมาก ไม่ใช่แค่จะได้เจอเพื่อนเก่า ๆ ที่แยกย้ายกันไปเท่านั้น
แต่วันนี้เขาจะได้สารภาพความในใจที่มีต่อ “หฤทัย”
หลังจากหฤทัยร้องเพลงจบแล้ว
ในงานเต็มไปด้วยเพื่อนเก่าสมัยมัธยมของแดนชล
ต่างคนต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานหลังจากไม่ได้เจอกันนับสิบปี
บ้างพูดถึงหน้าที่การงาน บ้างพูดถึงชีวิตคู่ บ้างก็รำลึกความหลัง
โดยเฉพาะเรื่องของวนิดาที่หายตัวไปหลังจากถูกแดนชลปฏิเสธรัก จนในที่สุดก็มาถึงไฮไลท์ที่ทุกคน
(โดยเฉพาะแดนชล) รอคอย นั่นคือมินิคอนเสิร์ตของหฤทัย
ถึงแม้อุบัติเหตุในครั้งนั้นจะทำให้ใบหน้าของเธอเสียโฉม
ความจำถูกลบเลือนหายไป แต่แค่ใบหน้า ให้หมอทำใหม่ก็ได้ อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่สามารถลบเลือนให้หายไปได้
คือความเคยชินต่างหาก หฤทัยปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางแสงสปอตไลท์ ด้วยท่วงท่าลีลาที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี
แต่เพิ่มเติมคือเสียงเซ็งแซ่ทั่วทั้งงาน แดนชลนั่งอ้าปากค้าง และยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเพื่อนข้าง
ๆ ตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง
“วนิดา!! วนิดาจริง ๆ ด้วย!!”
หฤทัยที่เขาคุ้นเคยตวัดสายตาไปมองเขาด้วยสีหน้าเย้ยหยัน...
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Thepimpim ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Thepimpim
ความคิดเห็น