ตอนที่ 20 : บทที่ 19
“แม่เฟื่อง-อ้าว?แล้วแม่เฟื่องฟ้าล่ะขอรับคุณแม่” รามถามพลางมองหน้าของผู้เป็นแม่เมียของตน
“เพิ่งจะเดินลงไปที่สระดอกบัวด้านหลังเรือนน่ะจ้ะพ่อราม ลองไปหานางดูสิ” นางกล่าวพลางยิ้มอ่อน
“มิเป็นไรขอรับ ข้าว่าแม่เฟื่องฟ้าอาจจะอยากอยู่คนเดียวก็ได้” หลวงรามบอกพลางยิ้มอ่อน
“เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนั้นกันเล่า?” นางถามพลางมองหน้าของชายหนุ่มด้วยความสงสัยใคร่รู้
“มิมีกะไรหรอกขอรับคุณแม่ ข้าแค่เพียงรู้สึกว่านางมิค่อยชอบข้าสักเท่าไหร่” รามบอกพลางยิ้มติดเศร้า
“ไม่ชอบเจ้า?หากนางมิชอบนางจะแต่งกับเจ้ารึ?” นางถามพลางมองหน้าของหลวงรามด้วยรอยยิ้มของนาง รามมองหน้าของนางชั่วครู่ก่อนที่จะยิ้มออกมา
“บางคราคนสองคนที่แต่งงานกันก็มิได้รักกันเสมอไปนะขอรับคุณแม่” รามกล่าว แม่ของแฟงมองหลวงรามก่อนที่จะหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย
“แล้วเจ้าเล่ารักแม่เฟื่องฟ้ามากหรือไม่?” นางถาม รามมองตาของนางก่อนที่ที่หลบสายตาแล้วตอบ
“ขอรับ รักมากเลยขอรับ” รามตอบกลับด้วยท่าทางขุยเขินสร้างความประหลาดใจเล็กน้อยให้กับผู้เป็นแม่
“แม่ก็มิรู้หรอกหนาว่าแม่เฟื่องฟ้าจะรักเจ้าเท่าที่เจ้ารักนางหรือเปล่า แต่แม่มั่นใจ...ว่านางมิได้เกลียดเจ้าดอก แม่เห็นมากับตาแล้ว” นางตอบพลางยิ้ม รามเงยหน้าขึ้นมาพลางถามนางด้วยความสงสัยกับคำพูดเมื่อครู่นี้ของนาง
“คุณแม่เห็นกะไรมางั้นหรือขอรับ?”
“หึๆเจ้ามิต้องรู้ดอก รู้เพียงว่านางเองก็ไม่ได้เกลียดเจ้าแต่นางจะรักเจ้ามากขนาดไหนนั้น...เจ้าคงจะต้องไปถามนางเองเสียแล้วล่ะ” นางกล่าวพลางยิ้มปุ่มก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวแม่จะไปดูกับข้าวในครัวว่าพวกบ่าวมันเตรียมสำรับกันเรียบร้อยแล้วหรือไม่ เจ้าช่วยไปตามแม่เฟื่องฟ้ามาได้หรือไม่?” นางถามพลางมองหน้าของราม รามยิ้มออกมาพลางพยักหน้าเบาๆ
“ขอรับ เดี๋ยวข้าจะไปตามนางมาให้” รามตอบรับก่อนที่จะเดินลงจากเรือนไป แม่ของแฟงแอบมองแผ่นหลังของชายหนุ่มก่อนที่จะแอบยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่คนเดียว
“ลูกข้ามิเคยมีหญิงใดแลมาก่อนแต่ตอนนี้กลับมีชายแสนหล่อเหลามาหลงรักเสียได้ หึๆ ทีนี้เจ้าจะทำอย่างไรกับหัวใจของตัวเองกันนะ...พ่อแฟงของแม่” นางกล่าวก่อนที่จะเดินเข้าครัวไป
.
.
“คุณแม่นะคุณแม่ ถามกะไรก็ไม่รู้ จะให้ข้าตอบไปยังไงล่ะ?” แฟงบ่นพึมพำพลางหยิบเศษก้อนหินแถวนั้นโยนลงไปในสระบัวจนน้ำในสระกระเซ็นออกมา
“โอย...เกือบเปียกไปแล้วมั้ยล่ะกู เฮ้อ....” แฟงพูดพลางลงไปนอนแผ่หลากับผืนหญ้าสีเขียวขจี
“เจ้า...ชอบหลวงรามเขาแล้วใช่หรือไม่?” แฟงนึกถึงคำถามของผู้เป็นแม่ที่ถามมาก่อนที่จะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ข้าจะไปชอบมันได้ยังไง?ข้าเป็นผู้ชายนะ ไอ้นั่นก็ผู้ชาย มันวิปริตจะตาย” แฟงบอกพลางขมวดคิ้วแน่น
“คุณแม่นี่ก็กะไร พูดเหมือนอยากให้ข้าได้กับไอ้รามมันนักหนา” แฟงพูดพลางลุกขึ้นมานั่ง ก่อนที่เขาจะนึกถึงคำของแม่ของเขาขึ้นมาได้ในตอนนั้น
“เจ้า...ชอบหลวงรามเขาแล้วใช่หรือไม่?” คนเป็นแม่ถามพลางมองหน้าบุตรชายของตนด้วยดวงตากว้าง แฟงแทบจะสำลักน้ำลายของตัวเองทันทีที่แม่ของเขาถามคำถามนี้ออกมา เขาส่ายหน้าระรัวพลางพูดเสียงดัง
“ข้าจะไปชอบผู้ชายด้วยกันได้ยังไงเล่าขอรับคุณแม่!!” แฟงบอกพลางลุกขึ้นยืนปฏิเสธสุดตัว
“เสียงเบาๆสิลูก บ่าวมันได้ยินเสียงเจ้ากันหมดแล้ว” นางบอกพลางดึงแขนของแฟงลงมาเพื่อให้มานั่งเหมือนเดิม
“คุณแม่ทำไมถึงถามข้าแบบนั้นล่ะขอรับ?คุณแม่อยากให้ข้าได้กับมันขนาดนั้นเลยเหรอขอรับ?” แฟงถามพลางทำหน้ามุ่ย
“เปล่า แม่มิได้คิดอย่างนั้น แม่เพียงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างในตัวเจ้าที่มันบ่งบอกว่าเจ้ากำลังชอบพ่อรามเขาอยู่” นางบอกพลางยิ้มอ่อน
“อะไรหรือขอรับ?ข้าไม่ได้ชอบมันเลยนะขอรับ?เป็นไปไม่ได้!” แฟงปฎิเสธเสียงแข็งพลางเบือนหน้าหนี
“ก็ท่าทางของเจ้านี่แหละที่ทำให้แม่รู้ว่าเจ้าชอบเขาเข้าเสียแล้ว” นางบอกเสียงนิ่ม
“แต่ว่าข้า-“
“ตอนที่เจ้าอยู่กับเขา...หัวใจของเจ้า...เต้นแรงมากหรือไม่?” นางถาม ซึ่งคำถามนั้นทำให้แฟงชะงักไปก่อนที่จะหลบสายตา
“ใช่หรือไม่?” แม่ของแฟงถามต่อ
“ข้า...ข้าก็แค่ตื่นเต้นเวลาที่อยู่กับมันสองคน เพราะว่าข้ากลัวว่ามันจะรู้ความจริงว่าข้าเป็นชายแล้วต่างหากล่ะขอรับ ไม่ได้ชอบอะไรมันทั้งนั้นแหละ” แฟงบอกพลางส่ายหน้าระรัว
“จริงรึ?เจ้าแน่ใจงั้นรึว่าที่ใจของเจ้าเต้นแรงเป็นเพราะตื่นเต้นว่าเขาจะรู้ความจริง...มิใช่ว่าเจ้าตื่นเต้นเวลาที่อยู่ใกล้ๆเขา ทุกคราที่อยู่ใกล้กันก็จะรู้สึกว่าใบหน้ามันร้อนผ่าวดั่งยืนตากแดดจ้า เวลาที่อยู่ตัวคนเดียวก็มักจะนึกถึงเขาก่อนเป็นคนแรก เจ้า...มีอาการแบบนี้หรือไม่พ่อแฟง?” นางถามพลางจับไหล่ของแฟงให้หันหน้ามามองหน้าของนาง
“....ก็...บางครา...เป็นบางคราขอรับ” แฟงพูดเสียงเบา แม่ของแฟงอมยิ้มเบาๆก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบแก้มของเขาเบาๆ
“แม่จะไม่บังคับให้ลูกบอกหรอกหนาว่าเจ้าชอบเขาหรือไม่ แม่เพียงไม่อยากให้เจ้า...โกหกหัวใจของตัวเองก็เท่านั้น”
“ข้าไม่ได้โกหกอะไรทั้งนั้นแหละ คุณแม่นี่ก็....” แฟงพูดพลางมองตัวเองในสระน้ำ
“แล้วถ้าสมมติว่าข้าชอบมันจริงๆมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้อยู่ดี ก็มันน่ะทั้งกะล่อนแล้วก็เจ้าชู้ เหอะ!มันไม่มาจมปลักอยู่กับข้าหรอก” แฟงพูดพลางเบะปากก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่าเพิ่งพูดอะไรออกไปเขาเลยเอามือมาตีปากของตัวเองก่อนที่จะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ป้าบ! ไอ้แฟงนะไอ้แฟง พูดบ้าอะไรของมึงออกไปวะ บ้าๆๆๆ” แฟงพูดพลางส่ายหน้าไปมา
“พ่อแฟง มานั่งทำกะไรคนเดียวตรงนี้กันเล่า?” เสียงอันคุ้นเคยนั้นทำให้แฟงชะงักไปก่อนที่จะหันไปมอง
“ทำไมตายยากจังวะ เพิ่งจะนึกถึงไปหยกๆก็โผล่มาเลย เอ็งมีหูทิพย์หรือไง?” แฟงพูดพึมพำพลางทำหน้ามุ่ย
“เอ่อ...เหมือนว่าเจ้าจะยังอยากอยู่คนเดียวอยู่นะ งั้นเดี๋ยวพี่...มาหาเจ้าใหม่แล้วกัน” รามบอกแล้วกำลังจะเดินไป
“เดี๋ยว!เอ็งมีกะไรก็ว่ามา” แฟงบอกพลางมองหน้าของรามอย่างหาเรื่อง
“คุณแม่เขาให้พี่มาเรียกเจ้าไปเตรียมตัวกินข้าวเย็นน่ะจ้ะ” รามบอกพลางยิ้ม แฟงมองหน้าของเขาอยู่นานก่อนที่จะเอามือมากุมที่อกของตัวเองที่มันสั่นระรัวเหมือนหัวใจมันจะทะลุออกมา
“มันก็รู้ไปแล้วว่ากูเป็นผู้ชายไม่ใช่แม่เฟื่องฟ้าแล้วทำไมเวลากูเจอหน้ามันกูถึงยังตื่นเต้นแบบนี้อีกวะ?” แฟงถามตัวเองพลางทำหน้างง
“พ่อแฟง?เป็นกะไรหรือเปล่า?” รามถามพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“เห้ย!เอ็งจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทำพระแสงอะไรล่ะวะ?ข้าไม่ได้เป็นอะไรเว้ย” แฟงบอกพลางลุกขึ้นแต่เพราะว่าเขานั่งนานเกินไปเลยเป็นเหน็บทำให้เมื่อเขาลุกขึ้นทันทีนั้นเลยเสียหลัก
“เห้ย!” แฟงอุทานพลางหลับตาปี๋ ทันใดนั้นเองรามก็วิ่งเข้ามารับร่างของแฟงได้อย่างทันควัน แฟงหลับตาอยู่นานก่อนที่จะลืมตาขึ้นมา และเมื่อเขาได้ลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือใบหน้าอันหล่อเหลาของราม รามมองหน้าของแฟงอย่างเป็นห่วงแล้วถาม
“พ่อแฟง เจ้ามิกะไรใช่หรือไม่?” รามถามพลางทำท่าทางกังวล แฟงมองเข้าไปนัยน์ตาสีดำสนิทนั้นของรามกับใบหน้าที่ยิ่งมองใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งดูดี แฟงเผลอเอื้อมมือของตัวเองไปแตะที่ใบหน้าของรามเบาๆซึ่งนั่นทำให้รามแปลกใจมากเลยทีเดียว
“พ่อแฟง?เจ้าเป็นกะไรไป?รู้สึกไม่ดีงั้นรึ?” รามถามต่อพลางมองหน้าของแฟงอย่างเป็นห่วง
“พ่อแ-“
“หรือว่าข้า...จะชอบเอ็งเข้าแล้วจริงๆ”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
