ตอนที่ 16 : บทที่ 15
“แม่เฟื่องฟ้าเสร็จหรือยังเจ้า?” รามกล่าวถามพลางเดินไปเดินมาหน้าประตูห้องของแฟง
“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ ว่าแต่...พี่รามให้ข้าแต่งกายเช่นนี้ทำไมหรือเจ้าคะ?มีงานกะไรหรือเจ้าคะ?” แฟงถามพลางเดินออกมาจากในห้องแล้วมองหน้าของรามด้วยความสงสัย
“เป็นงานแต่งของสหายคนสนิทของพี่เองจ้ะ หลวงสิงห์ วันนี้พี่เลยจะพาน้องไปด้วยกัน” เขาพูดพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อย แฟงยิ้มเจื่อนไปให้ก่อนที่จะเดินมายืนเคียงข้างกับราม
“เมื่อคืนนี้พี่ขอโทษเจ้าด้วยหนาที่ทำให้เจ้าต้องลำบาก เมามาหนักขนาดนั้นพี่คงทำเรื่องมิดีไว้ใช่หรือไม่...เจ้าถึงมิค่อยพูดกับพี่เลย?” เขาถามพลางมองหน้าของฉันด้วยสีหน้าน่าสงสาร
“ก็....มิได้ลำบากกะไรขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะคุณพี่ ข้าก็เป็นคนพูดไม่เก่งแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะเจ้าค่ะคุณพี่” แฟงพูดกัดฟันพลางมองหน้าของราม เหอะ!เพราะมึงแท้ๆเลยเมื่อคืนนี้กูเลยต้องไปอาบน้ำยามดึกดื่นเพียงผู้เดียว หนาวก็หนาว เย็นก็เย็น...มิรู้ว่าจะไม่สบายตอนไหนด้วยซ้ำ อ้วกมาได้บนตัวคนไอ้บ้า!!! แฟงคิดพลางปั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย
“งั้นรึ?ถ้าเป็นเช่นนั้นพี่ก็โล่งใจ นึกว่าน้องโกรธพี่เสียแล้วอีก” เขากล่าวพลางยิ้มอย่างดีใจ
“พี่รามเจ้าคะ?” แฟงพูดขึ้นพลางมองหน้าของเขาด้วยแววตาที่ดูจริงจัง
“กะไรหรือจ๊ะ?” เขาถามกลับด้วยท่าทางอารมณ์ดี
“น้องชื่อกะไรเจ้าคะ?” แฟงถามด้วยดวงใจที่สั่นไหวกับคำตอบที่กำลังจะพ่นออกมาจากปากของชายตรงหน้า
“เอ๊ะ?เหตุใดเจ้าจึงถามพี่เช่นนั้นเล่า? เจ้าก็ชื่อเฟื่องฟ้าอย่างไรเล่า?” เขากล่าวพลางยิ้มเล็กน้อย
“...แล้วพี่ราม...รู้จักคนชื่อแฟงหรือไม่เจ้าคะ?” แฟงถามพลางกำมือของตัวเองแน่น เขามองมาที่ใบหน้าของรามด้วยแววตาที่คาดหวังกับคำตอบที่เขาอยากจะได้ยินมัน
“เอ๊ะ?แฟง....แฟงงั้นรึ?...พี่ไม่รู้จักดอก พี่เพิ่งจะเคยได้ยินมาจากปากของแม่เฟื่องฟ้าเป็นครั้งแรกนี่แหละ” เขากล่าวพลางยิ้มอ่อน แฟงถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มออกมา
“งั้นหรือเจ้าคะ?...งั้นเรารีบไปที่เรือกันเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์” แฟงบอกพลางเดินนำหน้ารามลงจากเรือนไปทันที รามที่ยังคงยืนอยู่ด้านหลังนั้นพูดพึมพำกับตัวเองขึ้นมา
“เมื่อคืนนี้ข้าเรียกชื่อออกมางั้นรึ?...ไอ้รามนะไอ้ราม...เดี๋ยวก็เสียการณ์หมดดอก”
.
.
“ช่างเป็นงานแต่งที่อลังการสมกับฐานะของเจ้าจริงๆเลยหนาหลวงสิงห์” รามกล่าวพลางเดินเข้าไปหาชายหนุ่มหน้าตาดีผิวสีเข้มที่กำลังยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่
“ความจริงข้าก็อยากจะตบแต่งแบบธรรมดาอยู่หรอกนะ แต่พ่อแลแม่ข้ามิยอมน่ะสิ สิ้นเปลืองเสียเปล่าๆ” เขากล่าวพลางยิ้มออกมาเบาๆ
“เอาน่า ตามใจพวกท่านหน่อย” รามบอกพลางจับไหล่ของชายคนนั้นเบาๆ
“แล้วนี่ผู้ใดงั้นรึ..งดงามเสียจริง” สิงห์กล่าวถามพลางมองมาที่แฟงที่ยืนอยู่ข้างๆร่างของราม
“นี่เมียข้า แม่เฟื่องฟ้า” รามบอกพลางมองมาที่แฟงเล็กน้อย
“ข้าไหว้เจ้าค่ะ” แฟงบอกพลางไหว้
“มิใช่เล่นหนาพ่อรามได้เมียงดงามขนาดนี้เชียวรึ” สิงห์บอกพลางอมยิ้มเล็กน้อย
“เจ้าก็พูดไป แล้วนี่เมียเจ้าไปไหนเสียแล้วเล่า?ข้ายังมิเห็นนางเลย” รามบอกพลางมองไปรอบๆ
“อ๋อใช่ เจ้ามิเคยเจอหน้านางเลยนี่ใช่หรือไม่?เพราะว่าเจ้ามาช้านั่นแหละหนาทำให้มามิทันพิธี” สิงห์บอกพลางตีไหล่ของรามเบาๆ
“ข้าขอโทษเจ้าจริงๆที่ข้ามาช้า ก็ระหว่างทางมีเรือล่มก็เลยมาช้าอย่างไรเล่า” รามบอกพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เช่นนั้นเองรึ?งั้นเดี๋ยวข้าพานางมาแนะนำตัวกับเจ้าแล้วกันหนา” เขาบอกแล้วหันไปมองรอบๆก่อนที่เขาจะชะงักไปแล้วพูดขึ้น
“แม่ลีลาวดีมาทางนี้หน่อยสิเจ้า” สิงห์กล่าวพลางมองไปที่หญิงคนนั้นที่กำลังเดินมาหาทางแฟงและราม
“นี่เมียข้าชื่อลีลาวดี” สิงห์แนะนำพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อย แต่ทางด้านของรามกับแฟงนั้นกลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ลีลาวดีงั้นรึ?” รามถามพลางมองหน้าของหญิงสาว
“เจ้าค่ะ ข้าลีลาวดีเจ้าค่ะ ยินดีที่ได้พบกันนะเจ้าคะ...หลวงราม” นางกล่าวพลางแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย
“...นี่มันลำเพยมิใช่รึ?” แฟงพูดเบาๆพลางมองหน้าของหญิงสาวคนนั้นด้วยความประหลาดใจ
“นี่คงจะเป็นคนรักของหลวงรามสินะเจ้าคะ ข้าไหว้เจ้าค่ะ” นางบอกพลางไหว้ก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมาแล้วเดินเข้ามาใกล้ๆแฟงพลางกระซิบคำข้างหู
“มึงอย่าหวังจะได้ครองรักกับหลวงรามไปได้ด้วยดีเลยอีเฟื่องฟ้า กูนี่แหละ...จะเป็นคนทำร้ายพวกมึงจนฉิบหายกันไปให้หมด” นางกระซิบก่อนที่จะถอยตัวออกไปแล้วกลับไปยืนเคียงข้างร่างของสิงห์เช่นเดิม
“หมับ!”
“แม่เฟื่องฟ้า?” รามจับมือของแฟงพลางถามด้วยใบหน้าเป็นห่วงก่อนที่แฟงจะส่ายหน้าแล้วจับมือของรามกลับ
“น้องมิเป็นไรเจ้าค่ะพี่ราม” แฟงพูดพลางยิ้มอ่อนออกมาเล็กน้อย
“พวกเจ้าจะอยู่กันฉลองกันกับข้าหรือไม่?ข้าเตรียมอาหารไว้มากมายเลยทีเดียว” สิงห์บอกพลางยิ้มกว้าง
“พวกท่านคงจะไม่ปฎิเส-“
“ข้ากับแม่เฟื่องฟ้ามีบางอย่างจะต้องทำน่ะ ขอโทษเจ้าด้วยนะ งั้นพวกข้าขอตัว” รามบอกแล้วจูงมือของแฟงพากันเดินลงจากเรือนไปทันที
“เป็นกะไรไปนะพ่อราม?เมื่อครู่ยังดูเริงร่าด้วยกันอยู่เลยแท้ๆ” สิงห์กล่าวพลางทำสีหน้าฉงน
“อีเฟื่องฟ้า...มึงมีดีกะไรนักหนาวะ?” ลำเพยพูดกัดฟันก่อนที่จะเดินกระฟัดกระเฟียดไปที่ไหนสักแห่งบนเรือน
.
.
“พี่ราม...ถึงเรือนแล้วเจ้าค่ะ” แฟงบอกรามที่นั่งเหม่ออยู่ในเรืออยู่นานให้รู้ตัก เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะมองหน้าของแฟง
“อ๋อ...จ้ะ พี่จะขึ้นจากเรือเดี๋ยวนี้ล่ะจ้ะ” รามบอกพลางยิ้มเจื่อนเล็กน้อย
“จับมือน้องสิเจ้าคะ มัวแต่เหม่อใจลอยเช่นนี้เดี๋ยวก็ได้ตกเรือไปหรอกเจ้าค่ะ” แฟงบอกพลางยื่นมือไปให้รามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ขอบคุณหนาเจ้า” รามพูดพลางจับมือของแฟงแล้วขึ้นมาจากเรือ
“งั้นเดี๋ยวเราขึ้นไปบนเรือนกัน-“
“พี่รามเจ้าคะ น้องอยากเดินเล่นริมสระจังเลยเจ้าค่ะ” แฟงบอกพลางมองหน้าของราม รามทำสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนที่จะตอบกลับไป
“จ้ะ เราไปเดินเล่นริมสระกัน” รามบอกพลางเดินพาแฟงไปเดินเล่นที่ริมสระที่เขามักจะมานั่งใจลอยคิดถึงแต่เฟื่องฟ้าหรือว่าแฟงในตอนนี้ตลอดเวลา
“พี่รามเจ้าคะ พี่ยังลืมแม่ลำเพยมิได้ใช่หรือไม่เจ้าคะ?” แฟงถามพลางหันมามองหน้าของราม รามเบิกตากว้างก่อนที่จะมองตาของแฟงกลับ
“พี่ขอโทษเจ้าจริงๆนะแม่เฟื่องฟ้า...แต่พี่..พี่-“
“มิเป็นไรเจ้าค่ะ หากใจพี่ยังมีนางอยู่ในนั้น น้องก็มิอาจจะเข้าไปแทรกได้อยู่แล้ว” แฟงบอกพลางมองหน้าของราม
“เจ้าหมายถึงกะไรแม่เฟื่องฟ้า?” รามถามกลับพลางมองหน้าของแฟงพลางจับมือของเขา
“หมับ!”
“ข้าเพียงอยากให้คุณพี่เลือกคนรักตามใจของตัวเองเจ้าค่ะ หากคุณพี่ยังลืมนางมิได้...คุณพี่จะ-“
“หมับ!!!”
“คุ...คุณพี่?” แฟงพูดเสียงสูงพลางเบิกตาโพลงด้วยความตกใจที่จู่ๆอีกฝ่ายก็โผเข้ามากอดเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“พี่ขอโทษแม่เฟื่องฟ้า..ที่ลืมแม่ลำเพยมิได้เสียที...แต่หากจะต้องแลกเจ้าเพื่อนางแล้วล่ะก็...พี่ทำมิได้ดอก เพราะว่าพี่...รักเจ้ามากกว่านางหลายเท่านัก” เขากล่าวพลางกอดรัดร่างของแฟงแน่นกว่าเดิม แฟงนิ่งไปก่อนที่จะเอามือของตัวเองมาแนบที่หัวใจของตัวเอง พลางคิดในใจ
“นี่ข้าเป็นกะไรไป...เหตุใดจึงได้ใจเต้นกับเจ้ารามนี่กัน?”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฟินนนนนนนนน