ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Wild

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 57


    Chapter 4

    “เฮ้อ~พี่ขอโทษแล้วกันที่ทำให้แกไปเจอเรื่องพันนั้น”  ฟังแล้วก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะเนี้ยถ้าฉันไม่ไปที่นั้นไนท์ก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

    “ช่างเหอะเจ้เรื่องมันผ่านมาแล้ว  อีกอย่างไม่ใช่ความผิดของเจ้สักหน่อย ^^” ให้ตายเหอะเห็นมันยิ้มแทนที่จะรู้สึกดีขึ้นกลับยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีก

    “พี่ขอโทษนะไนท์แต่พี่ยังทำใจไม่ได้พี่อยู่คนเดียวไม่ได้ขอเวลาพี่หน่อยละกัน”  พี่ไม่อยากฟุ้งซ่านเวลาอยู่คนเดียว

    “เจ้ก็เป็นซะอย่างนี้ขอเวลามากี่ปีแล้วละ”

    “แกไม่มาเจออย่างฉันแกจะไปรู้อะไร”  พูดดีด้วยไม่กี่คำไนท์ก็เริ่มกวนฉันอีกจนได้

    “ก็ทำไมเจ้ไม่ลองเปิดใจให้ใครเขามาบ้างละ  เห็นคนหล่อรวยนิสัยดีๆมาจีบตั้งหลายคน”  ก็จริงอย่างที่ไนท์พูดฉันมีคนมาจีบเยอะนะ หล่อๆรวยๆ นิสัยดีก็เยอะอยู่

    “ก็คนมันลืมไม่ได้นิ”

    “เมื่อไรจะลืมละ”  ตอบยังไม่ทันจบดีไนท์ก็สวนคำถามขึ้นมาใหม่  มันลืมง่ายอย่างนั้นก็ดีนะสิ  แต่ฉันพยายามแล้ว ลองมันกี่วิธีๆ ก็ทำไม่ได้

    “โอ๊ยเอาอะไรกับพี่มากมายหะ ไม่เถียงด้วยแล้ว”

    “ป๊อด” 

    -_-^เออพี่มันป๊อด”  รับซะจะได้จบๆ

      ~~~~~

    ฉันเดินไปหยิบโทรศัพท์ก่อนจะขมวดคิ้ว ที่รักฉันมีเพื่อนชื่อน้ำเน่าอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

    “สวัสดีค่ะ”

     ‘สวัสดีครับ พูดเพราะจังเลยที่รัก

    “เอ่อ ไม่ทราบนั้นใครพูดค่ะ”

    ที่รักจำเสียงผมไม่ได้จริงหรอครับ ผมน้อยใจครับ เสียงกวนๆอย่างนี้ใช่แน่ๆ

    “นายโซ่”

    ดีใจจังที่รักจำเสียงผมได้ด้วย

    “นายรู้เบอร์ฉันได้ยังไง”  โอ๊ยย ยยจะตามหลอกหลอนอะไรหนักหนาเนี้ยโทรศัพท์ยังไม่เว้น

    ก็ตอนที่......ที่รักจำตอนที่น้องที่รักโทรมาแล้วที่รักจะกลับ ที่รักเลยพยายามดันผมออกอ่ะที่รักวางโทรศัพท์ไว้ที่เคาท์เตอร์ผมเลยใช้โอกาสนั้นไงที่รัก ผมเก่งมากไหมที่รัก

    “ยะ!!” คนหรือลิงเนี้ยไวเป็นบ้าเลย

    “แล้วโทรมามีธุระอะไรมิทราบ”

    ไม่มีธุระแต่คิดถึงได้ไหมครับ

    “..............”  อายปากบ้างไหมที่พูดออกมานะ ฉันละอายแทนจริงๆ

    “.....................”

    “......................”

    “โอเคครับ โอเค ผมแค่จะชวนคุณไปผับคืนนี้ผมอยากเจอคุณ”

    “ไม่ไป” ฉันเน้นเสียงหนักๆให้เขารู้ว่าฉันจะไม่ไปที่นั้นอีก  ขืนไปโดนไนท์กระโดดขวนหน้าเละแน่

    แต่ผมว่าที่รักต้องอยากมาหึหึ

    “ทำไมฉันต้องอยากไป เอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้น”

    ที่รักสำรวจที่นิ้วมือของที่รักสิ แล้วที่รักจะรู้ว่าผมเอาอะไรมามั่นใจ ฉันมองไปที่นิ้วมือทั้งสองข้างของตัวเอง มือข้างซ้ายปกติไม่มีอะไร มองข้างขวาบ้าง 0.o แหวนที่นิ้วนางฉันหายไป

    “ตอนไหน เอาไปตอนไหนหะ!!” แหวนนั้นมันสำคัญกับฉันแค่ไหนนายทำอย่างนั้นทำไม

    ตกใจขนาดนี้แสดงว่าสำคัญกับที่รักจริงๆด้วย ผมเดาเก่งนะเนี้ยหึหึ

    “ฉันถามว่าเอาไปตอนไหน”

     ตอนที่เราแนบชิดกันในร้านเสื้อผ้าไงครับ ผมเห็นมันสวยดีเลยยืมมาดูเล่นที่รักรีบเดินหนีผมซะก่อนผมเลยไม่ได้คืนที่รักเลยฉันคงมัวแต่สนใจของที่ซื้อมาจนลืมสังเกต

    “แล้วนายต้องการอะไร”

    “คืนนี้ห้าทุ่มที่ที่ทำให้เราได้เจอกัน”

    “ฉันไม่ปะ เฮ้ย!! วางทำไมฉันยังพูดไม่จบเลยนะเว้ย ไอ้บ้า” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตกลงหรือปฏิเสธอะไรโซ่ก็วางสายไปซะก่อน ฉันพยายามโทรกลับไปหาแต่ดูเหมือนโซ่จะตั้งใจที่จะไม่คุยต่อ ก็เล่นปิดเครื่องหนีเลยนิฮึ้ย

    “โอ๊ยทำไมฉันต้องมาเจอคนอย่างนายด้วยเนี้ย” จากนั้นฉันก็บ่นกับตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย จนไปสะดุดเข้ากับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์  มนุษย์ที่ชื่อว่าไนท์  - -^ ให้ตายเหอะอยากให้มาเห็นหน้าไนท์ตอนนี้ไนท์มองฉันเหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่างที่มันประหลาดเอาซะมากๆ

    “...(-_- ").......”

    “ไนท์ๆๆคืนนี้ไปผับกับพี่นะ”

    “ผับที่ไหนอีกละ”

    “ก็ที่ไปเมื่อคืนไง”

    “ไม่ไป!!”  ก็คิดอยู่แล้วละว่าต้องได้คำตอบแบบนี้

    “นะๆๆพี่ต้องไปจริงๆ”

    “ทำไม มีอะไร จำเป็นขนาดไหน -_-*” นั่งไขว้ขากอดอกจ้องหน้าเขม็ง เอ่อคุณน้องขาพี่ไม่ได้ไปฆ่าใครตายคะไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้มั่ง

     

     

     

    “ก็ไม่ต้องไปเอา ทิ้งๆมันไปเหอะจะเก็บไว้ให้มันแสลงใจทำไม” นั้นหละคือคำตอบหลังจากที่ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้น้องสุดที่รักฟัง  ช่างเห็นใจกันดีเหลือเกินนะ

    “พี่ทำไม่ได้ไนท์ก็รู้ อย่างน้อยเขาไม่ได้อยู่กับพี่ก็ขอมีอะไรไว้ให้พี่ได้ดูต่างหน้าเขาหน่อยเหอะ”

    “ไหนบอกว่าจะลืมๆพี่แซลม่อนกลับมาบอกว่าจะเก็บแหวนไว้คิดถึงมันมันหมายความว่ายังไง!!” รู้สึกฉันจะทำอารมณ์ของไนท์ขึ้นแล้วละ ตะคอกฉันซะเสียงดังลั่นเลย ไม่ค่อยได้เห็นโหมดนี้เท่าไรแฮะจะบอกว่ากลัวน้องจะผิดไหม

    “พี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ตัดใจนี้ แค่อยากเก็บไว้เฉยๆ”

    “..................” เงียบ

    “มันขายได้หลายตังค์อยู่นะ” ลองมุขตลกดู

    “.....................” ยังคงไม่ได้ผล

    “งั้นไม่เป็นไรพี่ไปคนเดียวก็ได้”

    “..........ไม่ต้องไนท์จะไปด้วย”

    “จ๊ะ สี่ทุ่มครึ่งออกจากบ้านนะ”  นี้แหละความน่ารักของไนท์แม้มันจะปากร้ายแต่ใจดีจะตาย  เป็นห่วงฉันไม่ค่อยอยากให้ฉันไปไหนมาไหนคนเดียว จนฉันไม่แน่ใจแล้วว่าใครกันแน่ที่เป็นพี่

    “พี่สัญญาว่าจะลืมเขาจริงๆแล้ว”

    “เลิกสัญญาพร่ำเพลื่อได้แล้ว พี่ก็รู้อยู่แกใจว่าตลอดสองปีที่ผ่านมาพี่ไม่เคยทำมันเลย อยากจะรักเขาต่อก็รักไปเถอะใครจะไปห้ามพี่ได้” ไนท์พูดเสร็จก็เดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านด้วยใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์อะไร

    “ใช่พี่ไม่เคยลืม พี่ยังรักเขา พี่ไม่รู้ต้องทำยังไงจริงๆ พี่ขอโทษนะตัวเล็กขอเวลาพี่อีกหน่อยแล้วพี่จะกลับมาเป็นพี่สาวที่เข้มแข็งของเธอเหมือนเดิม”

     

     

    23.00

    “ต้องให้เข้าไปเป็นเพื่อนไหม”  ตอนนี้ฉันและไนท์อยู่ที่ Ardency Club เรียบร้อยแล้ว

    “ไปดิขืนไปคนเดียวหมอนั้นมันปล้ำฉันขึ้นมาใครจะช่วยได้”

    “อย่างเจ้ มีคนมาพิศวาสขนาดจะปล้ำก็น่าจะดีใจนะ จริงๆเจ้น่าจะสมยอมเลยด้วยซ้ำ” เด็กคนนี้ไม่ได้กวนประสาทฉันสักวันคงจะไข้ขึ้นสินะ

    “ยะใครจะไปสวยเลิศเท่าคุณน้องละคะ”

    ^ ^” ยัง ยังไม่สำนึก

    “กวนเรอะ?”

    “จ้ะ ^ ^ ” เกลียดมันวะ

    “แล้วเจ้นัดพี่เขาไว้ที่ไหนละ” เออลืมไปเลย

    “ไม่รู้อ่ะ เดี๋ยวโทรหาก่อน” ฉันหยิบโทรศัพท์มาหาชื่อ ที่รักแล้วกดโทรออก ฉันว่าฉันควรจะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น ไม่สิลบไปเลยจะดีกว่านะ

    ครับที่รัก มาถึงแล้วหรอไม่ต้องรอนานนายโซ่ก็รับโทรศัพท์ฉัน (เหมือนรู้ว่าฉันกำลังโทรหา)

    “นายจะให้ฉันไปเจอนายที่ไหน”

    ที่รักอยู่ไหนตอนนี้

    “ลานจอดรถ”

    งั้นเดี๋ยวผมให้เด็กเดินออกไปรับ

    “อืม” แค่นั้นฉันก็กดตัดสายไป

    “ว่าไง”

    “รอก่อนเดี๋ยวเขาให้เด็กมารับเข้าไป” ไนท์พยักหน้าเข้าใจ

    “เจ้ถามจริงๆนะ เจ้คิดไงกับพี่โซ่เขาอ่ะ” ฉันมองหน้าไนท์ประมาณว่าถามอะไรของแก

    “ฉันจะไปคิดอะไรกับหมอนั้น”

    “แน่ใจ?”

    “อืมดิ ถ้าคิดก็คิดแค่ไอ้ขี้เก๊กกวนประสาท ขี้หลี เจ้าชู้ ไม่มีมารยาท โอ๊ยสารพัดสิ่งไม่ดีที่หมอนั้นทำไว้อะ”

    “หรอ? แต่เจ้ก็ยอมให้พี่เขาเรียกที่รักไม่เห็นว่าอะไรเลยนิ”  

    “ก็ พูดไปก็เท่านั้นหมอนั้นฟังที่ฉันพูดซะที่ไหนละ”

    “................” ไนท์ไม่พูดอะไรแค่มองฉันนิ่งๆพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ้มที่ฉันลงความเห็นว่าถอดแบบจากนายโซ่เปะชนิดที่ว่าลงชื่อสำเนาถูกต้องได้เลยทีเดียว

    “ไม่มีอะไรหรอกแกนิก็คิดไปเรื่อย”

    “แหมๆๆ ไม่คิดก็ไม่คิดดิไม่เห็นต้องหน้าแดงด้วยละ”

    “ใครหน้าแดงอะไรอย่ามาหาเรื่องฉันนะ”  เอาที่ไหนมาพูดหาว่าฉันหน้าแดงแค่อากาศมันร้อนที่หน้าแค่นั้นแหละ ไม่ได้เขินหรอกจะบอกให้

     

    ฉันเถียงกับไนท์ได้สักพักก็มีคนพาฉันและไนท์ไปที่ห้องๆหนึ่งจากที่ถามพนักงานเขาบอกว่าเป็นห้องพักของวงThe Wildก่อนจะขึ้นแสดง

    “เข้าไปดิเจ้จะได้รีบกลับ เดินวนไปวนมาอยู่ได้” ใช่ตอนนี้ฉันกำลังเดินวนไปวนมาหน้าประตู

    “ก็มันเขินนิ ถ้าเป็นห้องพักของ The Wild ชินก็ต้องอยู่ในนั้นด้วยอ่ะ แกก็รู้ว่าฉันแพ้คนหล่อ 0///0

    -_-" เจ้ไม่เข้าแล้วมันจะได้แหวนคืนไหม โอ๊ยไม่รงไม่รอแล้วไนท์เข้าไปเองก็ได้ว่าจบไนท์ก็ดันฉันให้พ้นหน้าประตูเปิดเข้าไปทันที ประตงประตูไม่ได้คิดที่จะเคาะซะด้วย มารยาทดีจัดนะเนี้ยน้องฉัน     ฉันจึงต้องเดินตามไนท์เข้าไป ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนอึมครึมเน้นที่สีเทาและดำเพิ่มแสงสว่างสะหลัวๆไม่ให้ดูมืดจนเกินไปด้วยหลอดไฟขนาดเล็กสีส้มอ่อน(วังเวงอ่ะT^T) ห้องค่อนข้างใหญ่พอสมควรแต่มีเครื่องดนตรีมากมายวาง (กอง) อยู่ทั่วห้องไหนจะกระดาษที่คงเป็นเพลงที่เหล่าหนุ่มๆเพียนพยายามจะแต่งมันขึ้นมาถูกขยำกระจัดกระจายไปทั่ว ห้องนี้เลยดูแคบไปถนัดตา  คงน้อยเกินไปที่จะใช้คำว่ารกสำหรับห้องที่ฉันยืนอยู่

    “ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตอยู่สักตัวเลยวะเจ้ เขาไปไหนกันหมด”  พอเข้ามาในห้องได้ไนท์ก็ทำการเดินสำรวจไปทั่วห้องก่อนจะพบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลย 

    “คงขึ้นแสดงอยู่มั่งนั่งรอไปก่อนเดี๋ยวก็คงมาแหละ” ฉันบอกไปทั้งๆที่ในใจก็แอบเสียดายอยู่มาก ฮือๆอยากเจอชินอ่ะชินไปไหน

     

     

    “อ่าวสาวๆมารอไอ้โซ่หรอ  แหมมาอย่างที่ไอ้โซ่บอกจริงๆด้วยเจ๋งเหมือนกันนี้หว่า”  ฉันหันไปทางต้นเสียงก่อนจะพบชายหนุ่มรูปหล่อสายตาสุดเซ็กซี่ผมสไลด์ประบ่ายืนพิงประตูยิ้มอยู่ ก่อนจะเดินเข้ามาข้างในห้อง

    “สวัสดีครับผมชื่อแอสตันครับ”

    “สวัสดีคะฉันชื่อแซลม่อนค่ะ ส่วนอีกคนน้องฉันเองชื่อไนท์ค่ะ” ฉันแนะนำตัวเองและไนท์ให้แอสตันฟังตามมารยาท ส่วนไนท์เองก็ยกมือไหว้ทักทายเห็นอย่างนี้มันก็มารยาทดีเคารพคนที่อายุมากกว่านะ(ยกเว้นกับฉัน) แอสตันพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มหล่อให้ไปทีหนึ่ง

    “เอ่อ แล้วเพื่อนคุณแอสตันไปไหนค่ะ”

    “เรียกผมแอสตันเฉยๆก็ได้ครับเราคงอายุเท่ากัน”

    “คะ นายโซ่ไปไหนหรอ”

    “พวกเราพึ่งแสดงเสร็จครับเดี๋ยวก็คงตามมา” ฉันพยักหน้าเข้าใจ

    “พี่แอสตัน” ไนท์เรียกแอสตัน

    “ครับ”

    “พี่โซ่เขานิสัยเสียจังไม่มีมารยาทในการรับแขกเลย”

    “หืม?”

    “ก็ดูดิให้แขกมารอในห้องทิ้งขยะเนี้ยมันใช้ได้ที่ไหนละ” เอิ่ม..ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยสำหรับคำพูดเมื่อกี้

    “ไนท์ทำไมพูดอย่างั้น  ขอโทษด้วยนะแอสตันน้องฉันปากเสียไปหน่อย”

    “ฮาๆๆไม่เป็นไรหรอกผมว่าสภาพห้องก็น่าจะให้เป็นห้องเก็บขยะอย่างยัยตัวเล็กพูดจริงๆนั้นแหละ”

    “ใช่ไหมไนท์ก็นึกไว้อยู่แล้วละว่าไนท์คงไม่ได้คิดไปเองมีเจ้นั่นแหละไม่เข้าพวก แล้วพี่แอสตันเล่นอะไรในวงอ่ะ” ว่าพี่ตัวเองเสร็จก็หันไปคุยกับแอสตันต่อ - -*

    “พี่เป็นมือกลองครับ”

    “จริงดิสอนไนท์หน่อยอยากลองเล่นมานานละ”  เอาแล้วไงนิสัยแสวงหาความรู้ประดุจบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่เริ่มเข้าสิงห์น้องฉันอีกแล้ว แล้วดูซินั้นไปขอให้เขาสอนให้ทำอย่างกับรู้จักเขามาเป็นปีๆ ทั้งที่ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ

    “ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกแอสตันนายคงเล่นดนตรีมาเหนื่อยแล้ว”

    “ไม่เหนื่อยหรอกอีกอย่างโอกาสอย่างนี้หาง่ายๆที่ไหนได้ใกล้ชิดสาวน้อยน่ารักอย่างไนท์  ปะไนท์เดี๋ยวพี่สอนให้เอง” ที่ฉันห่วงไม่ได้ห่วงเรื่องที่จะไปสอนมันแล้วมันไม่รู้เรื่องหรอกไนท์มันหัวดีเข้าใจอะไรง่ายจะตาย  แต่ที่ห่วงอ่ะเรื่องคำพูดของน้องฉันตางหาก -_-*

    ตอนนี้ฉันนั่งดูแอสตันและไนท์นั่งตีกลองกันอยู่ ไนท์ที่ทำหน้านิ่งแต่กลับตาแป๋วจ้องแอสตันที่เคาะจังหวะกลองให้ดู ส่วนแอสตันเองก็มักจะหัวเราะออกมาบ่อยๆเมื่อเจอกับคำพูดตรงๆไม่ได้คิดจะอ้อมของลูกศิษย์เข้าไป ดูท่าแล้วสองคนนี้จะเข้ากันได้ดีมากเลยทีเดียว

    “อ่าขอโทษนะที่รักที่ปล่อยให้รอนาน” ไม่นานนักนายโซ่ก็เดินเข้ามาในห้อง

    “ถ้าจะให้รอนานขนาดนี้น่าจะบอกให้มาพรุ่งนี้เลยนะ -*-

    “ที่รักอะชอบพูดทำร้ายจิตใจผมตลอดเลย”

    “อะไรใครไปพูดทำร้ายจิตใจตอนไหน อีกอย่างฉันไม่ใช่ที่รักนายเลิกเรียกฉันด้วยคำเลี่ยนๆนั่นซะ”

    “ก็นี้ไงที่รักกำลังพูดทำร้ายจิตใจผม อีกอย่างถึงตอนนี้จะยังไม่ได้เป็นที่รักเดี๋ยวก็ได้เป็นเร็วๆนี้ที่รักต้องรีบชินนะ ผมแนะนำว่าถ้าที่รักอยากจะชินเร็วมากยิ่งขึ้นที่รักเรียกผมว่าที่รักก็ได้นะครับ” โอ๊ยฉันชักจะเริ่มมึนๆกับไอ้คำว่าที่รักของนายโซ่เต็มทีแล้วนะเยอะไปหรือเปล่า

    “ยี๊~ใครเขาจะอยากเรียก”

    “ที่รักไม่ต้องเขินหรอก” เขินบ้าอะไรของนายเขาเรียกรังเกียจยะ โซ่เดินตรงมาที่โซฟาที่ฉันนั่งอยู่แล้วนั่งลงข้างฉัน ฉันขยับหนีหมอนี้เขยิบตาม  ฉันขยับไปอีกหมอนี้ก็ขยับตามอีก  ขยับอีกก็ตามอีก ขยับๆๆตามอีกๆๆ

    “จะขยับตามทำไมจะตกโซฟาอยู่แล้วเนี้ย”

    ^^

    “จะให้ฉันลงไปนั่งพื้นเน่าๆนี้รึไง”

    “เปล่าสักหน่อย”

    “แล้วจะขยับตามทำไมละหะ!!” อะไรของเขาเนี้ย

    “แล้วที่รักขยับหนีผมทำไมละ”

    “ก ก็นายมันไม่น่าไว้ใจนิ”  หมอนี้ยื่นหน้าใกล้ฉันเรื่อยๆจนฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่แก้ม ฉันรีบใช่มือดันอกเขาไว้

    ^^กลัวอะไรผมหรอครับหื้มม ม~” โซ่เอียงหน้านิดหน่อยก่อนจะกระซิบถามด้วยเสียงแหบพร่าข้างๆหูของฉัน ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าหัวใจฉันเต้นไม่ปกติแล้ว มันเต้นแรงและหนักมากๆ  มากซะจนฉันกลัวว่ามันจะกระเด็นออกมาเต้นโชว์ข้างนอกอก  นี้ฉันกำลังหวั่นไหวกับผู้ชายตรงหน้างั้นหรอ ไม่จริงเป็นไปไม่ได้ฉันเกลียดหมอนี้จะตาย

    “ผู้ชายอย่างนายมันก็น่ากลัวทุกอย่างแหละ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องรีบเอาแหวนมาคืนฉันซะ ฉันจะได้รีบกลับ”

    “ที่รักจะรีบไปไหนอะ เพิ่งเจอหน้ากันเองไม่กลัวคิดถึงผมหรอครับ”

    “ไม่”

    “ใจร้ายอ่า ที่รักใจร้ายๆๆT_T” ดูทำเข้าน่ารักตายแหละ

    “พี่แอสตันเพื่อนพี่เขายังโอเคอยู่ใช่ไหมไม่ได้ถูกอะไรกระทบกระเทือนที่สมองใช่ไหม” แน่นอนสไตร์การพูดอย่างนี้เป็นใครไม่ได้หรอกนอกจากไนท์

    “พี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจครับ หลังร้านปิดพี่คงต้องพาเพื่อนพี่ไปให้หมอเช็คสมองสักหน่อย” ฉันอมยิ้มขำกับคำพูดของไนท์และแอสตันที่ดูจะจริงจังรับมุขกันซะเป็นลูกคู่เลย

    “โห่น้องครับพี่แค่อยากให้พี่ของน้องเห็นใจพี่เท่านั้นเอง  ส่วนแกไอ้แอสตันตลกมากไหม - -+

    “ข ขอ โท ษ ว่ะ ฮา มันอดไม่ไหว ฮาๆๆๆ” แอสตันขอโทษเพื่อนอย่างทุลักทุเลเพราะต้องกลั้นหัวเราะไว้

    “แล้วแกนี้ไปสนิทกับน้องเขาตั้งแต่เมื่อไร”

    “กับยัยตัวเล็กนี้อะนะ เมื่อกี้เองเพิ่งรับเป็นลูกศิษย์ ฮาๆๆ”

    “เจ้หิวน้ำวะไนท์ไปหาน้ำกินก่อนนะ” ว่าแล้วก็เดินไปนอกห้องทันทีไม่ได้คิดจะถามความคิดเห็นใคร เฮ้ยอย่าปล่อยให้พี่อยู่กับหมอนี้นะทิ้งกันอย่างนี้เลยรึไง

    “แอสตันแกไปเป็นเพื่อนน้องเขาดิทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเลี้ยงน้ำน้องเขาหน่อย ปล่อยให้ลูกศิษย์ไปหาน้ำกินเองได้ไงละเป็นอาจารย์ที่แย่มากนะแกอะ หึหึ”

    “ไม่อยากมีก้างก็บอกมาเหอะทำเป็นพูด เออๆไปก็ได้”  แอสตันกำลังเดินออไปก่อนจะชะงักเท้าหันกลับมาพูดกับโซ่

    “ให้ล็อกห้องไหมว่ะ” 0[]0 ล็อกทำไม ไม่ต้องล็อกๆๆ

    “หึหึ ความคิดดีว่ะจะได้ไม่มีใครมารบกวน” แล้วแอสตันก็เดินตามไนท์ออกไป ล็อกประตูให้จริงๆด้วย ฉันลุกขึ้นจะไปปลดล็อกประตูเผื่อมีใครมาจะได้มีคนเป็นเพื่อน 

    หมับ!!

    โซ่ขว้าเอวฉันไปนั่งลงที่ตักแกร่งกอดฉันแน่นด้วยแขนทั้งสองข้างฉันหันไปมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง

    “ปล่อยจะมากอดทำไม” แม้ในใจจะรู้สึกว่าอ้อมกอดนี้อบอุ่นเหลือเกิน แต่เขากับฉันไม่ได้เป็นอะไรกันนิ

    “แล้วที่รักจะไปไหนละ”

    “ไปปลดล็อกประตู เดี๋ยวไนท์กลับมาแล้วประตูล็อกอยู่จะวีนแตกอีก”

    “ไม่ต้องหรอกตอนยัยตัวเล็กมาค่อยไปเปิดให้ ตอนนี้เรามาคุยเรื่องของเราดีกว่า”

    “ก็ได้แต่นายต้องปล่อยฉันลงจากตักนายก่อน” โซ่ไม่พูดอะไรเพียงแค่คลายอ้อมกอดฉันจึงขยับตัวลงมานั่งที่โซฟาตามเดิม

    “เอาแหวนฉันคืนมะ/คบกับผมนะ”

    0.o !!

    ตอนนี้ฉันงงไปหมดแล้ว โซ่ต้องการอะไรจากฉัน เขาขอฉันคบเพื่ออะไร เขารักฉัน? หรือแค่อยากให้เป็นของเล่นชิ้นใหม่ของเขา ฉันสับสนไปหมด หัวใจที่เต้นแรงซะจนเหมือนกับว่าอยากจะทุออกมาชมโลกภายนอก เต้นหนักจนฉันจุก ไหนจะสายตาที่เขาส่งมาให้ฉันยิ่งฉันมองยิ่งเหมือนกับว่าเขาจริงจังกับประโยคเมื่อกี้ เขาจริงใจกับความรู้สึกที่มีให้ฉัน เพราะอย่างนี้หรือเปล่าผู้หญิงทุกคนถึงได้ยอมนายทุกคน หรือเป็นแบบนี้แค่กับฉันคนเดียว แล้วฉันละ ฉันควรจะตอบยังไง ฉันรู้สึกยังไงกับนายกันแน่โซ่............

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×