คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Spill Over :: Run
I can’t control myself
..Why?
RRRRRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrr
“……………………..” สิ่งที่ผมไม่ชอบจริงๆเลยคือ การตื่นมารับโทรศัพท์ตอนเช้าตรู่?ทั้งที่เป็นวันเสาร์ แต่ผมก็ต้องจำใจคว้าโทรศัพท์มาแนบหูทั้งที่ตายังปิดอยู่ด้วยความรำคาญ
[ไปเที่ยวสวนสนุกกันนนนนนน น!!!]
“…………….............” สวนสนุก ไปเที่ยว ?? …
[ชานยอล!!! ได้ยินไหมเนี่ยยยยย!!! ไปเที่ยวสวนสนุก!!!] สวนสนุก ?? ..ผมทำใจสักพักก่อนจะยอมเปิดเปลือกตาสู้แสงเพื่อมองชื่อคนโทรมา
- ลู่ฮาน -
= =
“ไม่ไปอ่ะ” ผมกรอกเสียงลงไปแบบไม่ต้องคิด ก่อนจะปิดเปลือกตาอีกครั้ง ..เมื่อคืนผมเล่นเกมส์จนดึก ถ้าจะให้ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำตอนสิบโมงเช้าเพื่อไปสวนสนุกกับไอ้ลู่ทั้งๆที่เมื่อวาน...
[แบคฮยอนกับไคก็ไปด้วยนะ!!!] .. ?? ไค ..แบคฮยอน เฮ๊ะ !!
O_O!! ..ผมผุดลุกขึ้นนั่งทันทีก่อนจะใช้มือซ้ายลูบหน้าตัวเองสองสามที
อะไรของพวกมึงวะเนี่ยยย!! เมื่อวานก็พึ่งไปมา พวกอันธพาลนี่ยังไงครับ ชอบไปกันจังเลยสวนสนุกเนี่ย
[เฮ้! ไอ้ปาร์ค จะไปไหมเนี่ย!!]
“ไป!!” ..ทำไมวะ ??
กริ๊ก!
ผมมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปแล้วงงๆ ?? .. . เฮ้ยยยยยยย! กูไม่ไปปปปป ง่วงโว้ยยยย กูจะน๊อนนนน
ติ๊ดๆ ..แต่ก่อนที่ผมจะได้ทึ้งหัวตัวเองจนผมร่วงซะก่อน เสียงเตือนข้อความเข้าก็ดังขัดขึ้นซะก่อนครับ
- ลู่ฮาน - >> อีก 10 นาทีถึงหน้าบ้าน เร็วๆนะ ^^
เชี่ยยยยย!! เร็วจังวะ! ..ผมโยนโทรศัพท์ไว้บนเตียง ก่อนจะรีบคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำ ให้ตาย!! กูตอบตกลงทำไมวะเนี่ยยยยย!! โฮ่ย ทำไมเดี๋ยวนี้ผมมักจะทำอะไรแบบไม่รู้ตัววะครับ สติสตังค์หายไปไหนหมด ให้ตายสิโว้ยย!!
- - - - - - - - - - Spill Over - - - - - - - - - -
“โย่” - . -
“เย้” ผมยกมือตอบเซฮุนที่หันมาทักผมจากเบาะหน้างงๆ ก่อนจะหันไปสนใจไคและแบคฮยอนแย่งขนมกันเมื่อเซฮุนหันกลับไปดูดชานมไข่มุกในมือ
“เชี่ย อย่าแย่งดิวะ” แบคฮยอนโวยวายเมื่อไคล้วงขนมในถุงของตัวเองไปใส่ปากหน้าตาเฉยทั้งๆที่ในมือเพื่อนผิวเข้มก็มีขนมแบบเดียวกัน
“แบ่งๆกันดิ ตัวมึงก็เล็กกว่ากู จะกินไรเยอะแยะวะ” แล้วสงครามแย่งขนมก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเมื่อไม่มีใครยอมใคร แต่บรรยากาศข้างหน้าช่างแตกต่างกันลิบลับครับ เพราะนอกจากเซฮุนจะไม่หวงขนมกับชานมไข่มุกแล้ว หมอนั่นยังใจดีบริการคนขับที่มือไม่ว่างอีกแหนะ แหม มึงสองคนนี่ยังไงวะ ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ดูรักกันกว่าไอ้สองคนที่มันคบกันมาเกือบหกปีซะอีก - -
แล้วทำไมเหมือนผมโดนทิ้งให้นั่งแหง่วคนเดียววะครับ ว่าแล้วผมก็หันไปเรียกร้องความสนใจจากคนนั่งข้างๆซะเลย
“ขอกินมั่งดิ”
“ไม่!!” สั้นๆแบบไม่ต้องคิด - - ผมเข้าใจแล้วล่ะครับว่าทำไม ไคถึงจ้องจะแย่งขนมแบคฮยอน เพราะมันขี้หวงแถมน่าหมั่นไส้แบบนี้นี่เอง แต่ผมไม่คิดจะแย่งขนมแบคฮยอนเหมือนไคหรอกครับ ..ไม่อยากเจ็บตัว - -
“…………..”
“อ่ะ” ผมมองขนมในมือแบคฮยอนที่ยื่นมาตรงหน้างงๆก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าของมือ
“กินดิ” สงสัยเห็นผมนิ่งไปก็เลยใจดีมั้งครับ แต่พอผมอ้าปากจะงับคุกกี้เข้าปาก เค้าก็กลับเอามันไปใส่ปากตัวเองซะงั้น ..แกล้งกันนี่หว่า - -
“อ่ะๆ ไม่แกล้งแล้วๆ” เค้าหยิบคุกกี้ชิ้นใหม่ขึ้นมาก่อนจะยื่นมาตรงหน้าผมอีกครั้ง ผมมองคุกกี้สลับกับริมฝีปากของแบคฮยอนอย่างลังเล ..ใครจะอยากโดนหลอกซ้ำๆล่ะครับ
“เมื่อยนะเว้ย” เค้าเร่งผม แล้วก็เป็นอย่างที่คิดพอผมอ้าปากจะกินจริงๆเค้าก็เอามันไปใส่ปากตัวเอง แต่ผมเร็วกว่า ..ผมงับชิ้นคุกกี้ไม่ทัน ..แต่ผมตามไปหยิบคุกกี้จากปากเค้ามายัดใส่ปากตัวเอง -.,-
“เชี่ยยอล! อี๋”
“อี๋ เอ๋ออะไร คนกินไม่ใช่มึงสักหน่อย” ไคที่นั่งดูเหตุการณ์มาตลอดพูดขึ้นก่อนจะผลักหัวแบคฮยอนไปทีนึงด้วยความหมั่นไส้
“โมโหหิวก็ไม่บอก เอาไปเลย” พอเห็นผมเคี้ยวคุกกี้หน้าตาเฉยเค้าก็โยนถุงขนมให้ผมหมดเลยครับ ดูทำหน้าเข้า จะรังเกียจอะไรครับ กูกินนะไม่ใช่มึงกิน
“ไม่เอา อิ่มละ” ผมโยนถุงขนมให้แบคฮยอนกลับ ก่อนจะหันไปสนใจวิวข้างทาง ..คือไม่ใช่อะไร แค่ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งคันรถ จะมองกูทำไมวะ กูยังงงตัวเองเลย กูทำไปได้ไงวะเนี่ย ?? = =
หลับดีกว่ากู T^T
- - - - - - - - - - Spill Over - - - - - - - - - -
“รถไฟเหาะ / รถไฟเหาะ / รถไฟเหาะ / รถไฟเหาะ” เอกฉันท์ครับ เป็นอันว่าเราจะเล่นรถไฟเหาะเป็นอันดับแรก ..เหาะแม่งทุกวันครับ เมื่อวานก็เหาะไปสองรอบ วันนี้มึงสองคนก็ยังอยากจะเหาะตั้งแต่เช้า ดีครับดี - -
เรามา 5 คน ..จริงๆแล้วผมควรจะได้นั่งกับไอ้ลู่ใช่ไหมครับ แต่เปล่าครับ ผมนั่งคนเดียว = = ..ไม่เป็นไรครับ เมื่อวานผมก็นั่งคนเดียว และแน่นอนที่นั่งหน้าสุดต้องเป็นของไคและแบคฮยอนเหมือนเมื่อวาน ถัดมาคือลู่ฮานกับเซฮุน และสุดท้ายก็เป็นผมกับผู้ชายใส่แว่น ..ให้ตายสิครับ ผมมาทำไมเนี่ย
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!”
ผมตัดสินใจตะโกนเสียงดังเพื่อระบายอารมณ์ตลอดการเล่นรถไปเหาะครับ แต่หลังจากที่เราสนุกกับมันแล้วเราก็ต้องเกิดอาการ...
“หิวน้ำ!” เสียงของแบคฮยอนดังขึ้นทันทีที่เราลงจากรถไฟเหาะครับ ..มันก็น่าอยู่หรอกก็เล่นร้องซะเสียงดังกว่าใครเพื่อนหนิครับ
“ชานมไข่มุก” - . -
“น้ำเปล่า”
“ไอติม”
ให้ตายสิครับพวกมึงนี่กินอะไรไม่เข้ากับบุคลิกเลย ..เซฮุนเสนอชานมไข่มุกครับ แต่แบคฮยอนดูท่าจะคอแห้งแบบไม่ไหวแล้วเลยเลือกน้ำเปล่า ส่วนคนสุดท้าย ไค หิวน้ำแต่อยากกินไอติม - -
“งั้นแยกกันไปซื้อ” ลู่ฮานเสนอครับและทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
“กูจะไปกับเสี่ยวลู่ พวกมึงตกลงกันเองละกัน” พูดจบเซฮุนก็ลากไอ้ลู่ตัวปลิวตรงไปร้านชานมเลยครับ สงสัยจะหิวจัด ดูหน้ามันก็รู้ครับ ไม่รับแขกสุดๆ ดูท่าจะปวดคอเพราะพึ่งออกจากโรงพยาบาลแล้วเสือกอยากเล่นรถไฟเหาะ - -
“ไอ้เตี้ย กินติมกัน” ยังไม่ทันตั้งตัวเลยครับ ไคก็กอดคอผมกับแบคฮยอนคนละข้างตรงไปร้านไอติมทันที
“ไม่อ๊าวววว กูจะแดกน้ำ” แบคฮยอนพยายามสะบัดแขนไคสุดฤทธิ์ครับแต่ไม่หลุด แถมจากกอดคอเฉยๆเลยกลายเป็นล็อคคอซะเลย
“เชี่ยไค” แต่แทนที่จะได้รับเสียงโวยวายกลับมา แบคฮยอนกลับหยุดเดินแล้วเรียกไคเสียงเครียดแล้วมองฝ่าเข้าไปในกลุ่มคนที่เดินซื้อของไปมา
“มองเชี่ยไรวะ” ไคมองตามสายตาแบคฮยอนบ้างครับ
“ยุนแจกวาง” แบคฮยอนหันมาบอกไคหน้านิ่ง “กูเห็นมันกับแฟนแว๊บๆว่ะ”
“เล่นแม่งเลย” เฮ้ย! อะไรเนี่ย กูงง นี่อย่าบอกนะว่า..
“มองหาไอ้เชี่ยเซฮุนก่อนเหอะมึง!” แต่ก่อนที่ไคจะเดินไปยังเป้าหมาย(ที่ผมไม่เห็น)แบคฮยอนก็กระชากคอเสื้อไคไว้ซะก่อน
“นั่นๆ ยืนถือชานมอยู่นั่นไง” ผมตาเร็วกว่าครับ มันคุยอะไรกันไม่รู้แต่ก็พอจับใจความได้ว่าให้มองหาเซฮุน - - แต่ดูเหมือนเซฮุนเองก็กำลังยืนมองอะไรสักอย่างเหมือนกับ..
พลั๊ว!!
“กรี๊ดดดด!!” มันขว้างชานมลงพื้นแบบไร้เยื่อใยก่อนจะออกวิ่งแบบไม่สนลู่ฮานเลยครับ
“เชี่ยเอ้ย!!!” ไคสบถเสียงดังก่อนจะฉุดมือแบคฮยอนให้วิ่งตามเซฮุนไป ..เฮ้ย!! กูด้วย กูไปด้วยดิ!!
ผมรีบวิ่งตามไคกับแบคฮยอนไปเลยครับ แต่ผมก็ไม่ลืมฉุดแขนไอ้ลู่ที่ยังยืนหน้าเอ๋ออยู่ที่เดิมให้วิ่งตามเมื่อผมวิ่งไปถึงตัวมัน
“แม่ง! จะรีบไปไหนวะ!!” ผมจำมันได้ครับ ไอ้ผู้ชายใส่แว่นที่นั่งข้างผมบนรถไฟเหาะตะโกนไล่หลังไคไปเมื่อมันโดนชนจนไอติมในมือตก โถ่ ยังไม่ได้แดกเลย สัส น่าสงสารจริง
“เหนื่อยว่ะ! วิ่งทำไมวะเนี่ย!” เสียงไอ้ลู่มันตะโกนถามครับ
“กูก็ไม่รู้!!” ผมตอบกลับไปพร้อมๆกับอาศัยความสูงมองตามไคกับแบคฮยอน และเลยไปยังเซฮุนที่กำลังวิ่งตามผู้ชายเสื้อขาวคนนึงอยู่ ..มันคงวิ่งหนีจนชินมั้งครับไอ้หมอนั่น วิ่งเร็วชะมัด
เพล้ง!!
แม่ง นิสัยเสียว่ะ ไอ้ผู้ชายเสื้อขาวมันล้มแผงขายโปสเตอร์ครับ ทำแบบนี้คนอื่นเดือนร้อนนะไอ้เชี่ย!!
“ไอ้เชี่ยแจกวาง! อย่าให้กูจับมึงได้นะ!! สัส!!” ปากดีเหลือเกินครับไอ้คนตัวเล็กกว่าเค้าเนี่ย เสียงแบคฮยอนตะโกนด่าไอ้คนล้มแผงขายโปสเตอร์เพราะตัวเองดันเซอร์ซ่าไปสะดุดเอาซะได้ทั้งๆที่ไคก็หลบให้เห็นอยู่
“สะ..เสียดาย แฮ่ก ตังค์อ่ะ พะ..พึ่งได้เล่น แค่รถไฟ ฮ้า เหาะเอ๊งงง โอ้ย! เหนื่อย!!” เสียงไอ้ลู่มันบ่นครับ เพราะตอนนี้พวกผมวิ่งออกมาจากสวนสนุกแล้ว ให้ตายสิครับ มึงจะวิ่งสู้ฟัดกันหรือไงเนี่ย!! กูเหนื่อยนะเฟร้ย!!
วิ่งมาเรื่อยๆ เริ่มออกจากที่ชุมชนแล้วสิครับ แถวนี้ผมยังไม่เคยมาเลยนะเนี่ย นี่ถ้าหลงกับพวกไคนี่จบเลยนะเฮ้ย ทางเดินมันดูเหมือนๆกันหมดเลยครับ สองข้างทางเป็นบ้านตั้งติดๆกันมั่วไปหมด มีทั้งเนินลาด เนินสูง ไอ้คนวิ่งหนีก็เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปเรื่อย
เชี่ยฮุน จับมันให้ได้เร็วๆเหอะ กูขอร้องงงง ง!! แต่ก่อนที่ผมจะบ้าไปมากกว่านี้ ทั้งเซฮุน ไคและแบคฮยอนก็หยุดวิ่งแล้วครับ ..ไม่ใช่เพราะจับไอ้แจกงแจกวางนั่นได้หรอกครับ แต่ดันวิ่งมาเจอทางตันน่ะสิครับ ..ไม่ใช่ทางตันธรรมดาด้วย - -
“แม่ง กูคิดไว้แล้วไง” เสียงไคสบถด้วยความหัวเสียก่อนจะเดินไปยึดไหล่เซฮุนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อนเผื่อมันจะคิดสั้น ..ทำไมน่ะเหรอครับ ก็ไอ้แจกวางมันวิ่งเข้าไปหลบหลังเพื่อนมันที่ยืนเรียงหน้ากระดานจนเต็มถนนไงครับ แต่มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้ามันแต่ละคนจะไม่ได้ถือไม้หน้าสามและใส่สนับมือไว้เตรียมพร้อม
นับๆดูก็.. สิบเจ็ด ต่อ ห้า หารไม่ลงตัวซะด้วยสิ - -
“เชี่ยฮุน” แบคฮยอนเดินไปดึงชายเสื้อคนอารมณ์กำลังขึ้นด้วยอีกคน ..ถ้าให้เดา คงพวกนี้ล่ะมั้งครับที่ทำให้เซฮุนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ดูท่าตัวการคงเป็นไอ้แจกวางที่ตอนนี้กำลังใส่สนับมือที่เพื่อนมันยื่นให้ ..ดูมันจะเตรียมพร้อมกันเหลือเกินครับ
แต่สีหน้ามันสามคนไม่ได้บ่งบอกเลยว่ากลัว แต่มันคงแค้นมากกว่าครับที่อีกฝ่ายเล่นสกปรก ไอ้ที่ดึงๆฉุดๆเพื่อนอยู่นี่เพราะคงห่วงเซฮุนมากกว่า ก็มันพึ่งจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานเองนี่ครับ แต่ดูท่าอีกฝ่ายคงไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่ครับ
“แน่จริงมึงเข้ามาสิวะ!!” ปากดีจริงๆครับไอ้แจกวางเนี่ย มันยิ้มเยาะพวกผมก่อนจะหันไปให้สัญญาณเพื่อนมัน ให้ตายสิครับ!!
“เล่นแม่งเลย!!” ไคตะโกนเสียงดังเตรียมพุ่งใส่เต็มที่ แต่อีกฝ่ายก็เลือดร้อนไม่แพ้กัน มันพากันร้องเฮแล้ววิ่งเข้าหาพวกผมราวกับพวกผมจะเข้าไปตีเมืองมัน
“เชี่ย!! เดี๋ยวก็ได้ตายห่าหรอก!” ผมตะโกนด่ามันก่อนจะกระชากคอเสื้อไคพร้อมกับดึงแขนแบคฮยอนออกวิ่ง ส่วนเซฮุนก็โดนไอ้ลู่กระชากคอเสื้อไม่ต่างกัน
“เชี่ย!! จะกลัวทำไมวะ!!”
“กลัวไม่กลัวมึงโดนสนับมือต่อยหน้า หน้ามึงแหกแน่ไอ้เตี้ย!!” อ้าว แล้วเมื่อกี้ใครมันบอกจะเล่นวะ!! “วิ่งรวมกลุ่มแล้วแม่งช้า แยกกัน!!” ไคหันมาบอกพวกผมก่อนจะเลี้ยวขวาไป ส่วนเซฮุนกับไอ้ลู่หายไปไหนแล้วไม่รู้ เร็วชิบหาย! แต่ก่อนที่แบคฮยอนจะวิ่งตามไคไปผมก็จัดการดึงแขนคนตัวเล็กเลี้ยวขวาไปแบบไม่คิด
“หยุดนะเว้ย!!” หันไปก็เห็นมันตามมาประมาณห้าคน ให้ตายสิครับ!! ทั้งไม้ทั้งสนับมือ นี่พวกมึงจะเล่นกันถึงตายเลยไหมเนี่ย!!
เพล้ง!!
“เยี่ย!!” ผมคว้าแบคฮยอนได้ทันก่อนที่เค้าจะล้มลงเพราะดันไปเตะขวดแก้วข้างทาง ผมเลื่อนมือไปจับมือเล็กไว้แน่นแล้วพาเค้าเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ เจอทางเลี้ยวตรงไหนผมเลี้ยวหมดอ่ะครับ มันจะได้มองตามไม่ทัน ให้ตาย!! ผมไม่คิดเลยว่าจะต้องมาวิ่งหนีนักเลงหัวไม้แบบนี้ มันทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวว่าจะโดนจับได้
“เฮ้ย!!” แทบจะเบรกไม่ทันครับ เพราะข้างหน้าพวกผมมีพวกมันดักอยู่สองคน
“ทางนี้” แบคฮยอนรีบดึงผมเลี้ยวเข้าอีกซอยก่อนที่จะวิ่งไปถึงปากทางที่พวกมันดักอยู่
“55 ไม่มีทางหนีแล้วน้องหนู!!” แต่สุดท้ายก็โดนมันดักเข้าอีกทางจนได้ พอจะหันกลับไปก็ไม่ทันแล้วครับเพราะพวกมันอีกสองคนก็ตามมาประกบ
“น้องหนูเตี่ยมึงสิ!!”
พลั๊ก!!!
ไม่ทันที่ผมจะได้คิดหาทางออก แบคฮยอนก็จัดการกระโดดถีบไอ้คนปากดีทันทีครับ
“เฮ้ย!! จับมันไว้ดิวะ!!” มันรีบตะโกนบอกอีกสองคนทันทีที่มันล้มลงไป
“ปากดีนักนะมึง!!” แต่แบคฮยอนเร็วกว่า คนตัวเล็กรีบเข้าไปกระทืบมันซ้ำทันที
“อ๊ากกกกกกกกกก!!”
ปึ้ก!!
อุ๊ก! จุกเลยครับ แม่งพวกนี้เล่นทีเผลอนี่หว่า ผมรีบหันไปถีบไอ้คนที่ใช้ไม้ฟาดหลังผม แต่อะไรขาวๆวิ่งผ่านวะแว๊บๆ
อั๊ก!!
แบคฮยอนมาจากไหนไม่รู้ครับ เค้าช่วยผมถีบอีกคนจนล้มลงไปกองทับเพื่อนมันอีกที
“ตายเถอะมึ๊ง!!!”
“เฮี้ย!!!” ผมแทบหยุดหายใจตอนเห็นแบคฮยอนเงื้อก้อนหินขึ้นเตรียมฟาดเต็มที่
“แบคฮยอน!!! อย่า!!” ผมรีบดึงก้อนหินที่มีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือคนถือออกแล้วรีบลากเค้าออกวิ่งทันที
“เชี่ย!! ปล่อยกู๊!!!” เอาอีกแล้วครับ กระบวนการโวยวายจะกลับไปยำคนอื่นต่อเนี่ย!!
“แม่งคิดว่ามีของแล้วกูจะกลัวเหรอ!! ตามมาดี๊!!” เค้าทั้งดิ้นทั้งต่อยผมการเคลื่อนไหวของเราเลยช้าลง
“ทางนั้นๆ” ผมได้ยินเสียงพวกมันดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“เชี่ยชา.. อื้มๆ” ผมใช้แขนขวาลากเอวแบคฮยอนมาตามทางอย่างยากลำบากเพราะมือซ้ายผมต้องใช้มันปิดปากคนขี้โวยวาย ..ให้ตายสิครับ แรงก็ใช่จะน้อยเหมือนขนาดตัวซะด้วยสิ
“แบคฮยอนไม่เอาน่า”
“อื้อออออ!!” เค้าไม่ยอมฟังผมเลย แถมยังหันมามองผมตาขวางอีก
“ฉันจะปล่อยถ้านายยอมเงียบ” ผมหยุดมองเค้าชั่วครู่ก่อนจะได้รับการพยักหน้าแรงๆสองสามทีตอบกลับมา ..ผมถอนหายใจแรกๆหนึ่งทีก่อนจะยอมปล่อยมือออก
“แบคฮยอน!” ผมแทบจะคว้าตัวเค้าไว้ไม่ทันเมื่อทันทีที่ผมปล่อยมือออกเค้าก็จะวิ่งกลับไปทางเดิมท่าเดียว
“เชี่ย! ปล่อยกู๊!!” เค้าหันมายื้อยุดข้อมือของตัวเองออกจากมือผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ พอดึงมืออกไม่ได้เค้าก็ใช้กำปั้นทุบอกผมแรงๆหลายที ..หมัดอันธพาลนี่ไม่ใช่เล่นๆนะ
“แบคฮยอน!”
“เชี่ย!! ปล่อยดิวะ!!” พอเห็นผมเริ่มโมโหเค้าก็หันมากระชากคอเสื้อผมบ้าง ให้ตายสิวะ! นี่มันใช่เวลามาทะเลาะกันหรือไง!! “มึงไม่รู้อะไร! ก็อย่ามาขวาง! ปาร์คชานยอล!!”
“แล้วกูไม่ใช่เพื่อนมึงหรือไง!!” ทำไมเค้าชอบมองผมว่าเป็นคนนอก ไม่เข้าใจ!!
“กูไม่มีเพื่อนตาขาวแบบมึง!! ถ้าชกใครไม่เป็น!! ก็กลับบ้านไปเลยไป!!” เค้ารวบรวมแรงทั้งหมดผลักผมจนแผ่นหลังของผมกระเด็นไปติดกำแพงอีกฝั่ง ผมกำมือแน่นจนเล็บผมจิกลงบนฝ่ามือตัวเอง ไม่รู้ตัวเลยว่าผมมองแบคฮยอนด้วยสายตาแบบไหน ..แต่รู้แค่ว่าทั้งตัวและใบหน้าของผมมันร้อนไปหมด ผมไม่เคยโกรธใครขนาดนี้มาก่อน...
“อย่า” ผมมองแบคฮยอนนิ่งเมื่อเค้ากำลังจะก้าวขากลับไปทางเดิม “ลองหันหลังกลับไปสิ” เค้าหันกลับมามองหน้าผมก่อนจะแค่นหัวเราะ
“จะทำไม” เค้ารู้ว่าผมกำลังโมโห แต่เค้าก็ยังจะท้าทายผม ใช่สิครับ เค้าไม่เคยกลัวใครอยู่แล้วนี่… “คิดว่ากูกลัวมึงเหรอ ปาร์ชา.. อื้มม!!?” สมองผมว่างเปล่า แรงทุบที่ไหล่ผมไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น รับรู้แค่ความนุ่มที่ริมฝีปากผมกำลังสัมผัส.. “อื้ออออ!!” ..ผมกำลังทำอะไรอยู่
ปึ๊ก!! แผ่นหลังของผมกระแทกกับกำแพงอีกครั้ง ผมลืมตาขึ้นสบกับดวงตาที่เคลือบไปด้วยความเกรี้ยวกราดของแบคฮยอน ..ผม จูบเค้า ผมกำลังจูบแบคฮยอน แต่มารู้ตัวเอาตอนนี้ ..ผมก็หยุดตัวเองไม่ได้แล้ว
หมับ!
ผมคว้ามือแบคฮยอนที่กำลังเงื้อขึ้นด้วยความเร็วแล้วดันเค้าติดกำแพงอีกด้านแทน
“ฮ่ะ ฮ้า ไอ้.. อื้มม!!” ผมปล่อยให้เค้าหายใจได้ไม่ถึงนาที ผมก็ประกบริมฝีปากลงไปใหม่ ไม่รู้ว่าเพราะความนุ่มหรือเพราะความหวานกันแน่ จากที่แค่สัมผัสเบาๆ ผมก็เริ่มปรับองศาให้ยิ่งแนบชิดมากขึ้น มากขึ้น ..จากที่แค่จับแขนแบคฮยอนตรึงไว้กับกำแพง ผมก็เริ่มคลายมันออกแล้วค่อยๆประสานนิ้วของผมเข้ากับล่องนิ้วของเค้า ..ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าแบคฮยอนหยุดดิ้นไปตอนไหน ไม่รู้ว่าผมจูบเค้านานขนาดไหน กว่าที่ผมจะยอมปล่อยริมฝีปากเค้าเป็นอิสระ ผมก็พบว่า..
เรา.. ไม่ได้อยู่กันแค่สองคนในซอยแคบๆนี้อีกต่อไป
- - - - - - - - - - - TBC - - - - - - - - - -
ผิดพลาดตรงไหนก็ให้อภัยกันเนาะ มือสมัครเล่นจริงๆค่ะ TT
ติชมได้ตามเห็นชอบนะคะ จะได้เอาไปปรับปรุงสำหรับรอบหน้าค่ะ -.,-
ความคิดเห็น