ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ..Spill Over.. {ChanBaek}

    ลำดับตอนที่ #8 : Spill Over :: Repeat 100%

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 55





    You hate me cause I kiss you

    But don’t hate me cause I love you

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

                   

                    เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ  ผู้มาใหม่ได้แต่ยืนอึ้ง  ..แม้แต่ผมเองก็ยังมองหน้าแบคฮยอนแบบอึ้งๆ  ผม..  ทำอะไรลงไปเนี่ย!!!

     

                    ผลัก!!

     

                    ผมโดนแบคฮยอนถีบกระเด็นติดกำแพงอีกครั้ง  ดูเหมือนเค้าจะตกใจและอึ้งมากกว่าจะโกรธ

     

                    มึง..”  เค้าใช้มือซ้ายเช็ดๆตรงริมฝีปากไม่หยุดส่วนมือขวาก็ยกขึ้นชี้หน้าผม  ..ไม่รู้ว่าเพราะตกใจหรือเพราะโกรธกันแน่ทั้งแขนและตัวของแบคฮยอนถึงสั่นไปหมด  ใบหน้าของเค้าก็แดงก่ำราวกับมะเขือเทศ  จะอาย  จะเขิน  หรือจะโกรธอันนี้ผมก็เดาไม่ได้

     

    ..แต่ผมเองก็ตัวชาทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน  ความรู้สึกมัน  ..สับสน  ตกใจ  หวิวๆโหวงๆ  สมองก็ตื้อไปหมด  ผม..  อยากหายไปจากตรงนี้  ไม่อยากเผชิญความจริงว่าแบคฮยอนอาจจะเกลียดผม  เค้าอาจจะไม่อยากมองหน้าผม  ผมอยากละลายหายไปจริงๆ

     

                    แบคฮยอน !”

     

                    พลั๊ว!!

     

                    เชี่ย!!”

     

                    เฮ้ย!  กะ..กูขอโทษ!”  ผมมองไคยืนกุมหน้าตัวเองอึ้งๆขณะที่แบคฮยอนก็ตื่นตกใจไม่ต่างกัน  คนตัวเล็กที่อยู่ๆพอโดนเพื่อนสนิทแตะตัวปุ๊บเค้าก็ปล่อยหมัดออกไปทันที  ..แม้แต่ตอนนี้ตัวของแบคฮยอนก็ยังไม่หายสั่น  มือเล็กก็ลนไปหมด  เค้าเอ่ยขอโทษไคด้วยความตกใจ  ..แบคฮยอนที่ขี้โวยวายหายไปไหน  เค้าน่าจะเข้ามาต่อยหน้าผมสิ  ตะโกนด่าผมเสียงดัง  แต่นี่ทำไม..

     

                    เฮ้  เฮ้  แบคฮยอน  ใจเย็น  หายใจลึกๆ  พอเซฮุนเห็นความผิดปกติของเพื่อนสนิทตัวเล็ก  เขาก็เดินเข้ามาสมทบจากที่ยืนนิ่งอยู่นาน  ร่างสูงโปร่งเข้ามาผลักเพื่อนผิวคล้ำคิ้วแตกออกไปด้านข้างแบบไม่ใยดีก่อนจะแนบมือทั้งสองข้างที่ข้างแก้มของแบคฮยอน

     

                    ดูนี่  หายใจลึกๆ  เซฮุนหายใจเข้าออกช้าๆให้แบคฮยอนดู  คนดูก็ว่าง่าย  ค่อยๆหายใจเข้าออกลึกๆพร้อมๆกับเซฮุน  ..ผมได้แต่ยืนมองด้วยความเป็นห่วง  ผมไม่กล้าเข้าไป  เพราะผมเป็นสาเหตุให้แบคฮยอนต้องเป็นแบบนี้

     

                    เวลาไอ้เตี้ยตกใจอะไรมากๆ  ก็มักจะเป็นแบบนี้แหละ  แต่มันไม่แสดงอาการมานานแล้วน่ะฉันก็เลยไม่ได้ฉุกคิด  ..อู้ยยย ย  เจ็บตัวเลยกู  ผมหันไปมองไคที่เดินมาพิงกำแพงข้างๆผมด้วยสมองที่ยังคงตื้อๆอยู่  แต่พอเห็นว่ามันหันไปสนใจแผลที่หางคิ้วไม่ได้พูดอะไรต่อ  ผมก็เปลี่ยนทิศไปที่จุดเดิม

     

                    เฮ๊ะ  เสี่ยวลู่มันเนรเทศตัวเองไปยืนบีบไหล่ให้แบคฮยอนตอนไหนวะ  ..ไม่ค่อยมีบทแล้วชอบทำตัวแปลกๆเว้ยเฮ้ย

     

                    ดีขึ้นปะ  ไอ้ลู่เอียงหน้าไปถามคนที่ยืนอยู่ตรงกลางด้วยความกระตือรือร้นเมื่อเห็นว่าตัวของแบคฮยอนเลิกสั่นแล้ว

     

                    อื้มม  เค้าตอบรับเสียงเบาในลำคอพลางใช้สองมือนวดข้างขมับไปด้วย  ส่วนดวงตาเรียวเล็กก็กำลังหลับพริ้ม  เค้าสูดหายใจเข้าลึกๆอีกหนึ่งทีก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น

     

                    มึง!!”  ผมสะดุ้งทันทีที่เจอกับสายตาเกรี้ยวกราดของคนขี้ตกใจที่ตอนนี้วิญญาณเข้าร่างแล้ว  ..ฮะ  เฮ้

     

                    พลั๊ก!!

     

                    แบคฮยอน!!”  ไครีบไปคว้าตัวแบคฮยอนไว้ทันทีก่อนที่ผมจะโดนเข้าให้อีกหมัด

     

                    ไอ้..ไอ้หน้าด้าน!!  โรคจิต!  เชี่ยไคปล่อยกู!!”

     

                    เฮ้ย  เพื่อนกันค่อยๆพูดกันดิวะ

     

                    เชี่ย!  กูไม่นับมันเป็นเพื่อนแล้วเว้ย!”  ผมรู้สึกหมดแรงจนไม่อยากจะขยับตัว  ผมได้แต่ยืนมองไคลากแบคฮยอนไกลออกไปเรื่อยๆ

     

                    ไอ้ปาร์ค  ผมไม่สนใจเสียงเรียกเห็นใจจากลู่ฮาน  ผมทรุดลงกับพื้นแล้วเอาแต่ทึ้งหัวตัวเอง  มันเจ็บใจ!  ที่ผมทำอะไรบ้าๆแบบนั้นกับแบคฮยอน  ผมจูบเค้าทำไม!!

     

                    กูเป็นเชี่ยไรเนี่ย!!”

     

                    พั๊ว!!

     

                    ตบหัวกูทำไมเนี่ย!!”  คนยิ่งอารมณ์ขึ้นๆอยู่

     

                    มึงก็เป็นเชี่ยแบบนี้มาตั้งนานแล้วไม่รู้ตัวหรือไง  มันค่อยทรุดตัวลงแล้วนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าผม

     

                    มึงแอบมองเค้าตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วไม่รู้ตัวหรือไง  จากที่โมโหผมเริ่มจะสับสนและมึนงง  ..กูเนี่ยนะจะแอบมองแบคฮยอน !  บ้าไปแล้ว

     

                    มึงนี่น่าสงสารว่ะ  - -  เสียงบุคคลที่ควรจะหายไปตั้งนานแล้วดังขึ้น  ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเซฮุนที่ยืนล้วงกระเป๋ามองผมด้วยสายตา  เอ่อ..  พูดยังไงดีล่ะ  มันมองหน้าผมนิ่งๆก่อนจะส่ายหน้าแล้วหันไปคุยกับลู่ฮานแทน

     

                    เดี๋ยวโบกแท็กซี่กลับ  พอเห็นว่าลู่ฮานพยักหน้าตอบรับแล้วมันก็หันมามองผมอีกที  ดูแลมันดีๆด้วย  ดูท่าอาการหนัก  สั่งเสียไอ้ลู่เสร็จมันก็เดินไปสมทบกับไคและแบคฮยอน

     

                    ไอ้ฮุนช่วยจับดิ๊  กูเหนื่อยยยยย ย

     

                    ไอ้เตี้ยเลิกโวยวายซักทีเดี๋ยวกูพาไปแดกชานม

     

                    ไม่เอา!  ปล่อยกู!!”

     

                    อุ้ม!”  สิ้นเสียงเซฮุน  สองเพื่อนซี้ก็จัดการหิ้วหัวหิ้วหางคนขี้โวยวายไปโปกแท็กซี่ทันที

     

                    อ๊ากกกกกก ก!!  ปล่อยยยยย!!”

     

                    ถึงตอนนี้มึงก็เอาแต่มองแบคฮยอน  แบคฮยอน  แบคฮยอนและแบคฮยอน  เผลอเมื่อไหร่สายตามึงก็จะมองหาแต่แบคฮยอน  แบคฮยอน  แบคฮยอนและแบคฮยอน

     

                    โว้ย!  อะไรของมึงเนี่ย!”  ผมเลิกสนใจแบคฮยอน  เอ่อ..  สามเพื่อนซี้แล้วหันมาโวยวายใส่ไอ้ลู่แทน  มันยังคงนั่งนิ่งและพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา  ..กวนประสาทจริง

     

                    มึงเริ่มบ้าขึ้นทุกวันไม่รู้ตัวหรือไง  ไม่รู้ตัวหรือไงว่าทำอะไรลงไปบ้าง  แอบชอบเค้าไปแล้วไม่รู้ตัวหรือไง  ไม่รู้ตัวหรือไงเริ่มบ้าขึ้นทุกวัน  ไม่รู้ตัวหรือไง  ไม่รู้ตัวหรือไง  ไม่รู้ตัวหรือไง  ไม่รู้ตัวหรือไง

     

                    เอ้อ!!  ไม่รู้ตัว!!”

     

                    กูหวังดีนะ  กูพูดซ้ำๆเพื่อให้มึงคิดตาม  รู้สึกตัวสักทีสิปาร์ชานยอล  มันตบไหล่ผมสองสามทีก่อนจะลุกขึ้น  ..ผมรู้  แม้มันจะเป็นคนแปลกๆแต่มันมักจะห่วงใยและใส่ใจคนรอบข้างเสมอ

     

                    ไอ้ปาร์ค!  ตามมาดิ!  ต้องเดินกลับไปเอารถที่สวนสนุกอีกนะ!”  ผมหันไปตามเสียงก็เห็นว่ามันเดินไปไกลแล้ว  ผมเรียกสติกลับมาอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปสมทบกับมัน  ..บางทีผมควรจะให้เวลากับตัวเองมากขึ้น  อยู่เงียบๆและทบทวนความรู้สึกของตัวเอง  ..ผมรู้ตัวว่าผมมองแบคฮยอน  แต่ในความคิดของผม  ก็..ก็แค่มอง  มองแล้วมันแปลกตรงไหน  ก็แค่มอง  ..แปลกเหรอครับ??

     

    - - - - - - - - - - 50% - - - - - - - - - -
     

     

                    พอถึงห้องนอนผมก็ทิ้งตัวลงบนเตียงแบบหมดสภาพ  ผมหลับตาลงแล้วปล่อยตัวเองให้คิดอะไรเรื่อยเปื่อย

     

                    มึงแอบมองเค้าตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วไม่รู้ตัวหรือไง 


                    อยู่ๆคำพูดของไอ้ลู่ก็แว๊บเข้ามาในหัว  ..ตั้งแต่เมื่อไหร่นะที่ผมรู้จักผู้ชายตัวเล็กที่ชื่อว่า  พยอนแบคฮยอน

     

                    ตอนที่เค้าแนะนำตัวเมื่อตอนปีหนึ่งในวันเปิดเทอมวันแรก  หรือตอนที่เค้าเข้าห้องเรียนสายในวันที่ฝนตก  หรือตอนที่เค้ายำเด็กเทคนิคที่หน้าโรงเรียน  หรือตอนที่เค้าโดนจับได้ว่าลอกข้อสอบ  หรือตอนที่เค้าแอบหลับในชั่วโมงประวัติศาสตร์เกาหลี  ..หรือคงตั้งแต่  ผมเห็นเค้าก้าวเข้ามาในห้องเรียนครั้งแรก

     

                    พอมาลองคิดกลับไปตั้งแต่ต้นผมก็พบว่า  ..แบคฮยอนดึงดูดสายตาและความสนใจของผมตั้งแต่ครั้งแรก  แม้เป็นเพียงแค่การมองผ่านแต่ผมก็ต้องดึงสายตากลับมาที่คนตัวเล็กแบบไม่รู้ตัว

     

                    และครั้งแรก  ..แค่เพียงเค้ายื่นมือมารับปากกาที่ผมยื่นให้  ผมก็แทบจะลอยได้จนเบรกตัวเองแทบไม่อยู่  นี่เป็นครั้งแรกที่เราใกล้กันขนาดนี้  และเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงของแบคฮยอน  ..พูดกับผม  ไม่ใช่แค่ได้ยินผ่านๆอย่างที่เคย

     

                    แต่ก่อนที่ผมจะคิดเลยเถิดไปกว่านั้น  ผมก็รีบสะบัดหัวไล่ความคิดเพ้อเจ้อเพ้อฝันราวกับหนุ่มแรกรุ่นออกไป  ..แย่จริงๆที่เผลอไปใจเต้นกับผู้ชายแบบนั้น  ..ตอนนั้นผมรีบปัดความรู้สึกชั่ววูบทิ้งไป  โดยไม่ใยดีเลยว่ามัน  ..แอบก่อตัวขึ้นเงียบๆภายในจิตใจของผม

     

                    ..ผมคิดว่าผมปัดมันทิ้งได้สำเร็จ  จนวันที่เค้าเดินมาชนผม  ..แค่เพียงสัมผัสหนักๆเพียงชั่ววูบที่เราชนกัน  มันก็เหมือนเป็นยากระตุ้นให้ความรู้สึกของผมตื่นจากการถูกละเลยมานาน  ผมเอาแต่มองตามแผ่นหลังของแบคฮยอนที่หลังจากขอโทษผมเสร็จก็วิ่งกลับไปหาไคที่ยืนรออยู่  ..ชั่วแว๊บหนึ่งที่ผมคิดอยากจะไปยืนตรงนั้น  ตรงที่ที่ไคยืน  แต่ผมกลับคิดว่าผมควรจะอยู่ห่างๆเค้าไว้ดีกว่า  เพราะอยู่ใกล้เค้าทีไรผมเหมือนจะเป็นบ้าทุกที  ผมชอบยิ้มโง่ๆแบบไม่รู้ตัว  ..แบบนี้ไม่ดีแน่

     

    ..แต่ผมก็พบว่าผมไม่อาจหนีเค้าพ้น  เมื่อเพื่อนสนิทที่สุดของผมกลับอยากจะผูกมิตรกับพยอนแบคฮยอน  และมันก็เป็นแบบที่ผมคิดจริงๆ  ..ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เมื่ออยู่ใกล้แบคฮยอน  ร่างกายของผมมันไม่ยอมทำตามคำสั่งของสมอง  ..ผมเริ่มจะบ้าขึ้นทุกวันอย่างที่เสี่ยวลู่มันพูดจริงๆสินะ

    แล้วอาการแบบนี้เค้าเรียกว่า รัก แล้วงั้นเหรอ?  ..กับผู้ชายเนี่ยนะ?  การกระทำส่วนไหนของผมที่เรียกว่ารักกัน  ..ก็  ก็แค่หวั่นไหวแค่เพียงชั่ววูบ  ก็แค่หลงรอยยิ้มของเค้าแค่เพียงชั่วคราว  ก็แค่  ..ทำไปเพราะอารมณ์โมโห  ผม..  ไม่รู้จริงๆว่าอะไรที่เรียกว่ารัก  ผมไม่เคยรู้จักมัน  ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่ามันจะใช่รักจริงๆหรือเปล่า  ผมไม่รู้..  ไม่รู้จริงๆ

     

    - - - - - - - - - - Spill  Over - - - - - - - - - -

     

    ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก

     

    ชานยอล

     

    ฮืมมมมม ม  ??  ..กี่โมงแล้วเนี่ย

     

    ชานยอล  ..ผมค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความขี้เกียจก่อนจะหันไปดูนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง  11 โมงเช้า!!  นี่ผมเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย  ยังอยู่ชุดเดิมอยู่เลย!

     

    ก๊อก!  ก๊อก!  ก๊อก!

     

    ชานยอล!!”

     

    ครับแม่!”  ผมรีบขานรับทันทีเมื่อเสียงเคาะประตูและเสียงคนเรียกเริ่มดังขึ้นจากเดิม

     

    เพื่อนมาหาแหนะ!  ตื่นสายอีกแล้วนะเรา!  ถ้ายังเล่นเกมส์ดึกๆดื่นๆแบบนี้แม่จะเอาไปเผาทิ้งแล้วนะ!!”  ผมอมยิ้มกับคำขู่ที่ได้ยินประจำในวันที่ตื่นสาย  ก่อนจะตะโกนตอบคนที่ยืนอยู่หลังประตูแล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างไม่รีบร้อน

     

    เมื่อคืนเปล่าเล่นนะแม่!!  บอกไอ้ลู่รอแปป!!”

     

    เดี๋ยวชานยอ..”

     

    ปึ้ง!!

     

    ผมไม่ได้ยินว่าแม่พูดอะไรอีกหลังจากปิดประตูห้องน้ำ  ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไม่มีใครนอกจากมันหรอกที่มาหาผมถึงบ้านแบบนี้

     

    ..แต่หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วลงมายังชั้นล่าง  คิ้วของผมก็ต้องเลิกขึ้นด้วยความแปลกใจ

     

    อ้าว  มาพอดี  งั้นตามสบายนะไค  ^^  ดูเหมือนแม่จะอยู่คุยเป็นเพื่อนหมอนั่นจนผมลงมา  พอคล้อยหลังแม่ไคก็หันมายกมือทักทายผม

     

    ไปหาอะไรกินกัน  แต่ยังไม่ทันที่ตูดผมจะแตะกับโซฟา  ไคก็ยืนขึ้นพร้อมกับมองหน้าผมนิ่งๆ  ไม่รู้ว่ามันมาอารมณ์ไหน  แต่จากเหตุการณ์เมื่อวาน  ผมกำลังอยู่ในฐานะผู้กระทำความผิด  - -

     

    แม้เมื่อวานจะไม่มีใครแสดงอาการไม่พอใจนอกจากแบคฮยอน  แถมไคและเซฮุนก็ทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใส่ใจอะไรนัก  แต่ผมคิดว่าด้านความรู้สึกที่มีต่อผมคงเปลี่ยนไปบ้างไม่มากก็น้อย..

     

    - - - - - - - - - - Spill  Over - - - - - - - - - -

     

     

    ไคไม่ได้เอารถมาใช้  ดังนั้นเราจึงเดินทางด้วยรถแท็กซี่  เลือกกินง่ายๆแบบต็อกโบกีตามรถเข็นแถวๆย่านฮงอิก  ..ผมก็ไม่รู้ว่าจะมากินไกลทำไม  เพราะฮงอิกกับบ้านผมมันอยู่คนละฟากเลย  - -

     

    ปาร์คชานยอล  เรียกเต็มยศเลยเว้ยเฮ้ย  เอาแล้วไงครับ..  ผมเงยหน้าจากจานตัวเองก่อนจะมองข้ามหม้อต็อกที่ตั้งอยู่ตรงกลางเลยไปที่ไค

     

    กูจะไม่อ้อมค้อมนะ  เออ  เอาเลย  กูเตรียมใจไว้แล้ว  - -  ..แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมันไป  ได้แต่พยักหน้าตอบกลับไปเท่านั้น  เรื่องเมื่อวานมันเป็นเรื่องระหว่างมึงกับแบคฮยอน  กูถือว่ากูไม่เกี่ยวนะ  ดังนั้นมึงไม่ต้องคิดมาก  มันกินไปพูดไปเหมือนคุยกันเรื่องลมฟ้าอากาศ  บรรยากาศตึงเครียดก่อนหน้านี้อยู่ๆก็หายไปหมด

     

    เอ้า  กินสิวะ  เดี๋ยวมึงต้องไปช่วยกูยกของอีกนะ  พอมันเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมนั่งเฉยก็เอ่ยทักทันทีครับ  ..แต่ยกของ??  มันเคยบอกผมด้วยเหรอครับ??

     

    เอ้า  อย่ามาทำงง  กูก็บอกมึงตอนนั่งแท็กซี่ไงว่ากูออกมาอยู่คอนโดแล้วน่ะ  - -  ..เฮ๊ะ!  ย้ายออกมาอยู่คอนโด

     

    จริงดิ!!”  O.o

     

    เออ!  มึงนี่ท่าจะอาการหนักว่ะ  มันมองหน้าผมแบบเวทนาสุดๆก่อนจะส่ายหน้าแล้วก้มลงกินต่อ  แต่ถ้าไคมันย้ายออกมาอยู่คอนโดแบบนี้แล้ว..

     

    เอ่อ  ..มึงไม่ได้ชวนแบคฮยอนกับเซฮุนมาหรอกเหรอวะ  ผมอดจะสงสัยไม่ได้นี่ครับ  ก็สองคนนี้ตัวติดกันจะตาย

     

    วันนี้เซฮุนมันมีนัดตรวจน่ะ  ส่วนแบคฮยอน  ..พ่อมันรู้เรื่องเมื่อวานเลยโดนกักบริเวณ  กูเลยไม่มีเพื่อนแดกข้าวเนี่ย  ..ท่านนักการเมืองพยอนรู้เรื่องแบบนี้  แล้ว..  แล้วเรื่องที่ผมไปจูบลูกเค้าล่ะ!!  โอยยย ย  หวังว่าท่านคงไม่หูตาจมูกกว้างไกลขนาดนั้นหรอกนะ..

     

    ให้ตาย!!  ทำไมผมเป็นบุคคลที่โชคร้ายแบบนี้นะ!!

     

    - - - - - - - - - - 100% - - - - - - - - - -

     

     

    สั้นและช้า  TT

    ขอโทษจริงๆค่ะรีดเดอร์  ช่วงนี้งานเยอะ+ใกล้สอบ

    อาจจะอัพช้าบ้างอะไรบ้าง  รอกันหน่อยนะค้า  ><

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×