คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Spill Over :: Friend II
You make me crazy !
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“ไคคคค ! ! วู้วววว ว! ทางนี้ๆ! !” ตะโกนเรียกเสียงดังไม่พอครับ คนตัวเล็กข้างๆผมยังกระโดนเหยงๆโบกมือไปมาอีก ส่วนคนโดนเรียกก็ไม่ได้รู้สึกอายแทนเพื่อนเลยครับ สงสัยจะชิน ไคยกมือโบกตอบทีนึงแล้วเดินตรงมาที่คนตะโกนเรียก พอถึงตัวแบคฮยอนปั๊บไคก็ผลักหัวคนตัวเล็กไปหนึ่งที
“เสียงดังจริงเว้ย อารมณ์ดีมาจากไหนวะ”
“ไปกินอาหารญี่ปุ่นกันนนนน !” นอกจากจะไม่โกรธแล้วแบคฮยอนยังตะโกนสวนเสียงดังแล้วดึงมือไคไปที่รถทันทีครับ
“เฮ้ยๆ ไรวะใครบอกจะไปด้วย”
“เชี่ย อย่าลีลา กูหิวๆ” ว่าแล้วก็ถีบเพื่อนซี้เข้าเบาะหลังพร้อมปิดประตูให้เสร็จสรรพ
“ขึ้นรถ !” เค้าตะโกนบอกผม(ซึ่งก็ยืนใกล้กันนิดเดียว)ก่อนจะขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ ..ส่วนผมน่ะเหรอ ก็ขึ้นไปประจำที่หลังพวงมาลัยไงครับ ส่วนลุงชางโฮ...
“เชี่ย! มึงเล่นแบบนี้เลยเหรอวะ” เสียงไคน่ะครับ เค้ามองไปที่ลุงชางโฮที่โดนมัดมือมัดเท้าและมีผ้าเช็ดหน้าอุดอยู่ที่ปากด้วยความตกใจ ..เอ่อ ผมไม่เกี่ยวนะ ฝีมือแบคฮยอนล้วนๆ - -
“แบบนี้แหละ ไม่งั้นเดี๋ยวลุงก็โทรไปฟ้องพ่ออีก” -^- ..เป็นอันจบครับสำหรับบทสนทนาในหัวข้อนี้ หลังจากนั้นผมก็ไม่มีบทอีกครับมีหน้าที่แค่ขับรถอย่างเดียว - -
“วันนี้ไอ้โฮซอกมันมาหาเรื่องฉัน” นั่นไงครับ สุดท้ายมันต้องไม่พ้นเรื่องนี้ ..ผมเหลือบดูแบคฮยอนเห็นเค้ากอดอกพร้อมกับยื่นปากด้วยความไม่พอใจ ส่วนไค จากที่นั่งพิงเบาะหลังเคลิ้มๆจะหลับ ก็แทบจะพุ่งตัวมาเบาะหน้าทันที
“มันทำอะไรมึง” เห็นแบคฮยอนโกรธเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เด็กๆมากครับเมื่อเทียบกับไค ถึงจะโกรธแบบนิ่งๆแต่สายตาหมอนี่นี่มัน ..ถ้าผมเป็นยูโฮซอก พรุ่งนี้ผมจะไม่ออกจากบ้าน - -
“ยังไม่ได้ทำ กูชกมันก่อน”
“เชี่ย มึงไปชกมันทำไมวะ” ผมเกือบจะยิ้มแล้วเชียวถ้าไม่ติดว่า.. “..อย่างมันต้องใช้ตีนเว้ย”
“กูเกือบจะถีบยอดหน้ามันอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่า..” ว่าแล้วเค้าก็เหลือบหางตามามองผมครับ เอ่อ ผมชักเสียวๆสันหลังแล้วสิครับ
“มึง! ไอ้คุณปาร์ค!” ผมแทบทำรถเสียหลักครับเมื่ออยู่ๆไคก็หันมาคุยกับผมพร้อมกับยกแขนมาคล้องคอผม ..คือมึงทำอะไรวะครับ กูขับรถอยู่นะเฮ้ย!
“หน้าซื่อๆแบบมึงคงไม่รู้ ว่าไอ้เชี่ยยูโฮซอก มันเป็น ..เกย์!!”
“เชี่ยไค!!”
เอี๊ยดดดดดดดดดดด!! !
เอ่อ ไม่ใช่อะไรครับ ผมเบรกไฟแดงน่ะ
“555 โวยวายไรวะ กูจะบอกความลับให้เพื่อนใหม่ฟังไม่ได้ไง๊??”
“มึงก็รู้กูไม่ชอบเวลามึงพูดถึงอ่ะ ดูดิ! ขนกูลุกเนี่ย!” พูดจบแบคฮยอนก็ยื่นแขนเค้าให้ไคดูครับ และเพราะไคยังกอดคอผมอยู่ผมก็เลยเห็นด้วยว่ามันลุกจริงๆครับ 555
“เออน่า” ไคพูดแล้วผลักแขนแบคฮยอนออกก่อนจะยกมือไปขยี้ผมนุ่มของคนตัวเล็กจนมันฟูไม่เป็นทรง “กูก็จะให้ชานยอลเป็นหูเป็นตาแทนกูไง กูไม่ปล่อยให้มันทำอะไรมึงหรอกน่า” ..เอ่อ ผมเริ่มงงแล้วสิครับ ว่าสองคนนี้คุยอะไรกัน โฮซอกมันเป็นเกย์แล้วเกี่ยวอะไรกับแบคฮยอนวะครับ - -
“นี่ชานยอล” หันไปง้อเพื่อนเสร็จไคก็กลับมาคุยกับผมเหมือนเดิมครับ “ถ้ามึงจะชอบแบคฮยอนกูก็ไม่ว่าอะ..”
“เชี่ยจงอิน!! !”
“เชี่ยเตี้ย! เงียบๆไปเลย ผู้ชายเค้าจะคุยกัน!”
“เฮี้ย! ไอ้ดำ! กูเกลียดมึง!!” ..เอ่อ ดูท่าแบคฮยอนจะโกรธจริงๆครับ เค้าเลิกสนใจพวกผมแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ไคถอนหายใจเบาๆก่อนจะพูดว่า..
“มื้อนี้กูเลี้ยง” แบคฮยอนรีบหันกลับมามองหน้าไคทันทีครับ
“มึงพูดแล้วนะ” -^-
“อืมๆ” ไคตอบรับส่งๆแล้วจับหัวแบคฮยอนให้หันไปมองวิวนอกกระจกพร้อมกับยัดหูฟังเปิดเพลงให้เสร็จสรรพ
“ฮึ!” ถึงจะหันมาทำหน้าไม่พอใจแต่แบคฮยอนก็ยอมหันกลับไปดูวิวข้างนอกแทนที่จะต่อปากต่อคำกับไคต่อ
“ต่อๆ” ^^ ดูไคอยากคุยกับผมเหลือเกินครับ มันกลับมากอดคอผมเหมือนเดิมแล้วเหล่มองแบคฮยอนนิดนึงแล้วหันมายิ้มมีเลศนัยใส่ผม หมอนี่นี่มัน..
“มีเพื่อนผิวขาวตัวเล็กสเป็คเกย์ก็ต้องทำใจ มึงคงยังไม่รู้ว่าไอ้โฮซอกอ่ะ ..มันชอบแบคฮยอน!” ^^
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด ด!! !
คะ..คนข้ามถนนน่ะครับ
“แต่กูไม่ชอบวิธีจีบของมันว่ะ มันเหมือนพวกมาโซ ชอบโดนยำ” จากที่ยิ้มๆ ตอนนี้ไคเริ่มมีแววเกรียดชังแล้วสิครับ ..ไอ้โฮซอกมันไปทำอีท่าไหนล่ะเนี่ย
“เจอมันก็อย่าให้มันเข้าใกล้แบคฮยอนแล้วกัน มันชอบเล่นสกปรก หมาลอบกัด”
“นาย ..เคยโดนมันต่อยปะ” เอ่อ ผมถามไว้เผื่อวันนึงผมจะโดนลูกหลงน่ะ แต่ไคกลับขมวดคิ้วใส่ผมซะงั้น ..ผมทำอะไรผิดหรือเปล่าวะครับ
“ฟังแล้วขัดหูว่ะ มึงจะพูดเพราะทำไมวะครับ” ..แถวนี้ เถื่อนจริงๆครับ - -
“เอ่อ..” ผมก็ได้แต่เอ่อ อ่า อ่ะครับ ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันดี
“นี่ ไอ้คุณปาร์ค” พอเห็นผมลังเลไคก็ยกมือมาตบแก้ม(ตบแบบนี้เอาเท้ายันหน้ากูเลยมา)ผมสองสามทีก่อนจะทำหน้าจริงจัง “มึงเสร่อยื่นหน้ามายุ่งกับพวกกูขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องมีความเกรงใจ โอเค๊ ตอนนี้มึงเพื่อนกู กูเพื่อนมึง เพื่อนอ่ะ มึงเข้าใจปะ” ..อืมมม ม ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วครับ ว่าคำว่า ‘ถลำลึก’ มันเป็นยังไง - -
“โอเค กูเข้าใจ” เอาวะครับ มันจะแย่ซักแค่ไหนเชียวเป็นเพื่อนกับอันธพาลเนี่ย เกิดมาทั้งที ชีวิตมันต้องมีสีสันบ้างล่ะนะ ..แต่จะว่าไป ผมยังไม่เคยชกใครเลยแฮะ - -
“แล้วที่มึงถามว่ากูเคยโดนไอ้โฮซอกชกหรือเปล่านี่ ถามทำไมวะ”
“เวลากูเจอมันที่โรงเรียน จะได้ตัดสินใจถูกไงว่าจะชกหรือจะชิ่ง” - -
“5555 มึงแม่ง ฮาว่ะ ..แต่ไอ้โฮซอกเนี่ยอนุบาลมากถ้าเทียบกับไอ้พวกที่อยู่นอกโรงเรียนอ่ะนะ”
“พวกนอกโรงเรียน??” เอ่อ ..จะขยันมีเรื่องไปไหมเนี่ยไอ้พวกนี้
“อย่างไอ้พวกที่ทำเซฮุนเข้าโรงพยาบาลเมื่ออาทิตย์ก่อน…”
“เฮ๊ะ!” หมายความว่าไงครับ “เซฮุนไม่ได้เข้าโรงพยาบาลเพราะโดนแบคฮยอนถีบตกบันไดหรอกเหรอ?”
“ไอ้เตี้ยเนี่ยนะถีบเซฮุนตกบันได” - - ..ไคมองหน้าผมนิ่งๆก่อนจะหันไปมองแบคฮยอนที่ตอนนี้ ..หลับไปแล้ว - -
“คิดจะอยู่กับมัน ต้องตามมันให้ทันนะ” - - ..เอ่อ ผมทำอะไรผิดไปเหรอครับ ไคถึงตบไหล่แบบให้กำลังใจผมสองทีแล้วเลิกคุยกับผมเฉยเลย
อะไรเนี่ยยยยย ย! สรุปแบคฮยอนโกหก แล้วไอ้พวกที่ทำให้เซฮุนเข้าโรงพยาบาลนี่มันใครวะครับ! โฮ่ยย ย คิดแล้วปวดหัวตุ้บๆเลย หวังว่าไคคงไม่คิดจะกลับไปแก้แค้นเหมือนพวกนักเลงในหนังหรอกนะครับ..
เอ่อออ อ แต่ว่า เหมือนผมลืมอะไร ..บางอย่าง
( - -) (OxO!!)
ผมมองลุงชางโฮที่ทำหน้าตาตกใจใส่ผมผ่านกระจกมองหลังทั้งๆที่ยังคงมีผ้าเช็ดหน้าอุดปากอยู่.. ผมลืม ไปได้ยังไงนะ
ลุงชางโฮเงี่ยหูฟังอยู่ตลอด ..แบบนี้ลุงแกก็ได้ยินที่ผมคุยกับไคหมดน่ะสิ!!!
แล้วเรื่องนี้จะไปถึงหูท่านนักการเมืองพยอนมั้ยล่ะครับเนี่ย!!!
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 50% - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“ไปส่งฉันก่อน” -^-
“ทำไมต้องไปส่งนายก่อน” - -
“ไปส่งแบบไม่ต้องถามได้ปะ” -^- ผมถอนหายใจก่อนจะมองแบคฮยอนนิ่ง ..คือ ตอนนี้เรากำลังยืนเถียงกันอยู่หน้าบ้านไคครับเพราะหลังจากกินข้าวเสร็จแบคฮยอนก็ชวนไปสวนสนุกต่อ - - ..เจ้าตัวเค้าบอกว่าไม่ได้ไปนานแล้ว แถมไหนๆก็ได้โดดเรียนแล้วเลยไม่อยากให้เสียโอกาสเปล่าๆ? แล้วด้วยไคมันเป็นคนอะไรยังไงก็ได้แล้วผมก็ตามใจแบคฮยอนอยู่แล้วก็เลยเป็นอันว่าเราไปเที่ยวสวนสนุกกันต่อจนดึกนี่แหละครับ
..แต่มันติดตรงที่หลังจากส่งไคเสร็จแบคฮยอนก็ไม่ยอมให้ผมแก้มัดลุงชางโฮครับ เค้างอแง(ถึงจะเป็นคำที่ใช้กับเด็กแต่แบบที่แบคฮยอนกำลังทำอยู่มันใช่เลยอ่ะครับ)ให้ผมไปส่งเค้าท่าเดียว ..แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจาก เดินไปเปิดประตูให้แบคฮยอนแล้วชวนเค้าขึ้นรถ
“ขึ้นรถครับคุณหนู”
“ปาร์คชานยอล!” เอาอีกแล้วครับ แบคฮยอนชอบเสียงดังเวลาไม่ชอบใจอะไรสักอย่าง
“โอเคๆ ไม่ล้อแล้วๆ” ผมยกมือยอมแพ้แล้วเดินไปดึงมือคนขี้โมโหให้มาขึ้นรถ “จะให้ฉันขับหรือกลับไปนั่งเบาะหลังด้วยกัน” ผมถามก่อนจะหันไปมองลุงชางโฮที่เบาะหลังแล้วหันมามองแบคฮยอนอีกที
“เบาะหลัง” เค้าตอบก่อนจะมองไปที่ลุงชางโฮบ้าง ..คงรู้สึกผิดลึกๆล่ะครับเห็นมองลุงแกตาละห้อยเลย “ถ้าฉันบอกให้แม่ขึ้นเงินเดือนให้ลุง มันจะไถ่โทษได้ไหมอ่ะ” เค้าหันมาถามความเห็นผมยิ้มๆ
“ถ้าลุงชางโฮรู้ลุงรักตายเลยยยย ย” ผมยิ้มตอบแล้วขยี้ผมนุ่มของแบคฮยอนจนยุ่ง เห็นเค้ายิ้มแบบนี้แล้วผมไม่อยากยืนมองเฉยๆนี่ครับ ไม่น่าล่ะไคถึงชอบขยี้หัวแบคฮยอนบ่อยๆ
“เดี๋ยวนี้กล้าเล่นหัวกันแล้วนะปาร์คชานยอล” ผมแค่ยักไหล่ให้เค้าทีนึงแล้วเดินอ้อมไปแก้มัดให้ลุงชางโฮ ผมขอโทษลุงก่อนจะแก้มัดแล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือ ‘ไม่เป็นไรครับแค่คุณหนูไม่มีแผลกลับบ้านก็ดีแล้ว’ ผมยิ้มตอบแล้วให้ลุงกลับไปทำหน้าที่คนขับรถเหมือนเดิม หลังจากนั้นผมและแบคฮยอนก็กลับมาประจำที่ที่เบาะหลัง
ตอนแรกผมก็แอบระแวงว่าลุงชางโฮจะเอาเรื่องที่ผมกับไคคุยกันไปฟ้องนายท่านของลุงแกหรือเปล่าแต่พอได้ยินแบบนี้ ผมกลับคิดว่า ..ลุงชางโฮคงรักคุณหนูของแกแบบลูกแบบหลาน แม้จะคอยรับใช้และคอยส่งข่าวให้นักการเมืองพยอนแต่ลึกๆแล้วลุงคงเข้าข้างแบคฮยอนมากกว่า ในความคิดของผมน่ะนะ..
เราไม่ได้คุยอะไรกันอีกตลอดระยะทางจนมาถึงบ้านแบคฮยอน เค้าไม่ได้หลับ แต่พอลุงชางโฮลงมาเปิดประตูให้ แบคฮยอนก็ไม่ยอมลงจากรถสักทีจนผมต้องหันไปสะกิด
“แบคฮยอนไม่ลงไปล่ะ”
“ไปส่งหน่อยดิ” ผมชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเข้าใจว่าทำไม เมื่อเหลือบไปเห็นทั้งพ่อและแม่ของแบคฮยอนมายืนรอลูกชายที่หน้าบันได ..หน้าคุณนายพยอนนี่ไม่เท่าไหร่แต่อีกคนที่ยืนกอดอกหน้านิ่งนี่สิ ..คนนี้ล่ะที่แบคฮยอนหลีกเลี่ยงไม่อยากสนทนาด้วย โอเค ผมเข้าใจแล้ว
“ป่ะ” ว่าแล้วผมก็ฉุดมือเค้ามาลงประตูด้านผมแล้วเดินตรงไปยังผู้ใหญ่ทั้งคู่ที่ยืนมองเราอยู่
“วันนี้ที่โรงเรียนโทรมา บอกว่าแกมีเรื่องแถมยังโดดเรียนช่วงบ่าย” แบคฮยอนบีมมือผมก่อนจะตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่งไม่ต่างกัน
“มันมาหาเรื่องผมก่อน”
“แล้วแกก็ไปชกเค้ากลางโรงอาหารเนี่ยนะ! !”
“คุณคะ! !”
“หมอนั่นมันพยายามจะลวนลามแบคฮยอนครับ! !” ..เอ่อ เพราะต่างคนก็ต่างเสียงดัง ผมคิดอะไรไม่ออกทางเดียวที่จะช่วยให้แบคฮยอนพ้นผิดผมก็คิดได้ ..แค่นี้แหละครับ
“ว่าไงนะ” ได้ผลครับ ทุกคนเงียบ ท่านนักการเมืองพยอนหันมาถามผมราวกับไม่เชื่อที่ผมพูด ส่วนคุณนายพยอนก็มองผมด้วยความตกใจไม่ต่างจากลูกชายของท่านที่ยืนอยู่ข้างๆผม เอ่อ.. เป็นไงล่ะปาร์คชานยอล - -
“คือยูโฮซอก คนที่แบคฮยอนมีเรื่องด้วยความจริงแล้ว.. เค้าเป็นเกย์แล้ววันนี้ก็พยายามจะลวนลามแบคฮยอนครับ แบคฮยอนก็เลย.. ต้องป้องกันตัว” ..นี่ผมไม่ได้โกหกนะ! !(แค่เล่าเกินจริงนิดเดียวเอง)
“ตายแล้ว! จริงเหรอแบคฮยอน!” คุณนายพยอนดูจะตกใจมากครับ ท่านยกมือทาบอกแล้วหันมาถามลูกชายอย่างไม่อยากจะเชื่อ ..แบคฮยอนหันมามองผมแล้วบีมมือผมแน่นก่อนจะหันไปตอบคำถามเสียงเบาเหมือนยุง
“มันน่าอาย ผมไม่อยากพูดถึงมัน” โอ๊ะ! ตีบทแตกเลยครับคนนี้! พูดจบแบคฮยอนก็ไม่รอช้า เค้ารีบลากผมขึ้นห้องราวกับเรื่องที่พูดถึงกันเมื่อครู่มันทำร้ายจิตใจของเค้าจนไม่อยากจะคุยกับใคร และมันได้ผล ท่านทั้งสองไม่มีใครทักท้วงอะไรเลยครับ
ปึ้ง
ปิดประตูห้องเสร็จแบคฮยอนก็ถอนหายใจเสียงดังก่อนจะหันมาจ้องหน้าผม
“มึง!” นั่นไงครับ เรียกอย่างเดียวไม่พอ เค้าตรงมากระชากคอเสื้อผมด้วย ..คนอะไรครับ ทำอะไรไม่ดูขนาดตัวเลย
“เฮ้ๆ ฉันช่วยนายนะเนี่ย แทนที่จะขอบคุณกลับมาหาเรื่องกันซะงั้น”
“ด้วยวิธีนี้เนี่ยนะ!”
“หรือนายคิดอะไรที่มันดีกว่านี้ได้ล่ะ” เนื่องจากเถียงไม่สู้ แบคฮยอนก็เลยเอาแต่จ้องหน้าผมครับ แล้วเรื่องอะไรผมจะต้องยอมแพ้ล่ะในเมื่อผมเป็นฝ่ายถูก ผมก็จ้องเค้ากลับบ้างสิครับ
“ฮึ่ย!!” ดูเหมือนผมจะเล่นเกมส์จ้องตาเก่งนะ แบคฮยอนถึงได้สะบัดมือออกจากคอเสื้อผมแล้วเดินปึงปังไปนั่งกอดอกที่เตียง
“กลับไปเลย!” ตะโกนไล่เสร็จเจ้าตัวก็นั่งหันหลังให้ผมเฉยเลยครับ นี่ใช่สิ่งที่เด็กมัธยมปลายปีสุดท้ายควรเป็นมั้ยครับเนี่ย!
“นี่ พยอนแบคฮยอน วันนี้นายงอนฉันกี่ครั้งแล้วเนี่ย” ผมถามเค้าเสียงเรียบก่อนจะเดินไปหยุดข้างเตียงแล้วนั่งลงข้างๆคนขี้งอน เค้าหันมามองผมด้วยหางตาก่อนจะเสมองไปทางอื่น
“ก็มึงชอบขัดใจกูอ่ะ” โถ่ ให้ตาย! ทำไมการกระทำกับหน้าตามันสวนทางกับคำพูดหยาบๆจังวะครับ ไอ้จงอินนี่มันสอนเพื่อนยังไงเนี่ย
“ขัดใจอะไร” แต่ผมก็อดจะถามไม่ได้ครับ ผมตามใจเค้าจะตายถ้าไม่นับไอ้ที่ผมห้ามไม่ให้เค้าถีบยอดหน้ายูโฮซอกอ่ะนะ
“ก็เรื่องไอ้ยูโฮซอกแล้วไหนจะเมื่อกี้อีก! ลวนลามเชี่ยไร! กูผู้ชายนะเว้ย!” ก็ผู้ชายอย่างมึงอ่ะ! มัน.. ฮึ่ยยยย! ผมอยากจะทึ้งหัวตัวเองจริงๆครับ ..วันนี้ที่ผมได้อยู่กับเค้าทั้งวันผมก็ได้รู้ว่าแบคฮยอน เกลียดพวกรักร่วมเพศราวกับไส้เดือนกิ้งกือ เกลียดน่ะผมไม่ว่า แต่ทำไมเค้าไม่พยายามเข้าใจซะบ้างว่าตัวเองน่ะ ..มันสเป็คผู้ชาย! !
“นี่แบคฮยอน เรื่องความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอกนะ”
“พูดเชี่ยไรจริงจังเนี่ย กูขนลุกนะเว้ย” เค้าพูดพร้อมกับทำท่าขนลุกขนพองประกอบให้ผมดู.. ให้ตายสิวะ! ลูกใครวะเนี่ย!
“ก็กูจริงจังอ่ะ ฟังก่อนดิ” ผมเริ่มจะสุภาพกับเค้าไม่ไหวแล้วครับ หยาบมากูก็หยาบกลับล่ะวะ “ยูโฮซอกมันชอบมึงมึงก็ห้ามมันไม่ได้ มันคิดอะไรอยู่เราก็ไม่รู้ ตัวมึงก็เล็กแค่นี้ ที่มันยอมให้มึงชกไม่ใช่ว่ามันสู้มึงไม่ได้นะเว้ย หัดเข้าใจอะไรซะบ้างสิแบคฮยอน!”
“ไม่เอา! กูไม่ฟัง!” เค้าผลักผมออกก่อนจะยกมือทั้งสองข้างปิดหู “กูไม่ชอบผู้ชาย! กูเกลียดมัน!” ทำไมพอผมได้ยินเค้าพูดแบบนี้แล้วใจผมมันโหวงๆวะครับ ผมไม่ได้โดนแบคฮยอนด่าสักหน่อยทำไมต้องรู้สึก ..จุกแปลกๆ
..เชี่ยแล้ววววว!! กูไม่ได้ชอบผู้ชายนะเว้ย!! ไม่เจงงงงงงง ง!!! กูเป็นเหี้ยไรเนี่ย!!!
“ชานยอล ชานยอล!!!”
“???” ..ผมทำอะไรลงไป - - …
“เป็นบ้าไรฮะ!!” แบคฮยอนตะโกนใส่ผมก่อนจะเอื้อมมือมาดึงมือของผมให้เลิกทึ้งหัวตัวเอง
“อาหารเป็นพิษหรือไงฮะ กลับบ้านได้แล้วไป” เค้ามองผมด้วยความสงสัย ก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงมือผมให้ลุกตาม
“อ่า อื้มมม ฝันดี” ผมลุกตามแรงฉุด(เท่ามด)ของแบคฮยอนแล้วขยี้หัวเค้าก่อนจะเดินไปที่ประตู
“ฝันดี” เสียงแบคฮยอนดังขึ้นตอนที่ผมเปิดประตูพอดี ผมหันไปยิ้มให้คนตัวเล็กที่ยืนอยู่กลางห้องแล้วปิดประตู
วันนี้ผมค่อยหายใจได้ทั่วท้องหน่อยเพราะตั้งแต่หน้าห้องแบคฮยอนจนถึงบันไดหน้าบ้านผมไม่ต้องเจอกับทั้งพ่อและแม่ของแบคฮยอน
“เชิญครับ” แต่ผมยังต้องเจอกับลุงคนขับรถ - -
“ขอบคุณครับ” ^^ พอผมเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว ลุงชางโฮก็ปิดประตูให้ผมก่อนจะอ้อมไปประจำที่นั่งคนขับ
“ลุงชางครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”
“เรื่องคุณหนูเหรอครับ” ลุงชางโฮออกรถไปพร้อมๆกับถามผมกลับ
“ครับ คือ..แบคฮยอน เคยมีแฟนหรือเปล่าครับ” ผมก็แค่สงสัยน่ะอย่าพึ่งเข้าใจผิดนะ - -
“คุณชานยอลรู้แล้ว อย่าไปบอกคุณหนูนะครับ”
“ครับ ผมสัญญา” ^^ ผมยกสามนิ้วให้ลุงชางโฮดูผ่านกระจกมองหลัง เห็นลุงแกถอนหายใจโล่งอกก่อนจะตอบคำถาม
“คุณหนูไม่เคยมีแฟนหรอกครับ” ผมก็คิดไว้แล้วเชียว
“แล้ว เอ่อ..มีอะไรฝังใจหรือเปล่าครับ แบคฮยอนถึงได้ ..รังเกียจพวกกกก ก..”
“เอ่อ ลุงเข้าใจครับ” ลุงชางโฮตอบผมก่อนที่ผมจะพูดจบ “คุณหนูตัวเล็กมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ตัวเล็กกว่าเพื่อนในชั้นเรียน ก็เลยโดนเพื่อนแกล้งแล้วก็โดนล้อบ่อยๆ จนบางครั้งร้องไห้ตั้งแต่พักเที่ยงจนคุณท่านต้องให้ผมไปรับกลับบ้านบ่อยๆ จนคุณหนูได้คุณไคเป็นเพื่อนตอนมัธยมต้นนี่แหละครับคุณหนูก็เข้มแข็งขึ้นแล้วก็ไม่เคยร้องไห้อีก”
“งั้น มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอครับ”
“แต่เพราะอยากจะแสดงด้านที่เข้มแข็งอยู่ตลอดเวลาบางครั้งก็เลยดูก้าวร้าวไปบ้างในสายตาคุณท่าน แล้วก็ไม่ชอบให้ใครมาดูถูก คุณหนูถึงได้มีเรื่องเป็นประจำไงครับ”
“อ่อออ อ” ผมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะมองลุงชางที่ดูจะรู้จักแบคฮยอนดีที่สุด สงสัยคงเป็นเพราะทำงานกับบ้านนี้มานานล่ะมั้งครับ
“เอ่อ แล้วถ้าผมจะถามอะไรคุณชานยอล..”
“ครับ ได้ครับ ถามได้เลย ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ” ^^ เพราะผมเห็นลุงชางดูลังเลเหมือนอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าถาม สุดท้ายก็เลยพูดแทรกซะเลย
“คุณชานยอล ..ชอบคุณหนูแบบ..มากกว่าเพื่อนหรือเปล่าครับ” เออะ! บางทีก็ถามตรงไปนะครับ ..ผมสะอึกแบบไปไม่เป็นเลยครับ ..แต่ผมเปล่าชอบแบคฮยอนนะ! คงเป็นเพราะไอ้กัมจงแน่ๆเลยครับเลยทำให้คนอื่นเข้าใจผิด(ตามมัน)ไปด้วย
“ลุงอย่าไปเชื่อไคมันนะครับ คือ..”
“ลุงแค่ถามดูเฉยๆน่ะครับ” ^^ ..เอ่อ ทำไมลุงไม่ฟังผมพูดให้จบก่อนอ่ะครับ “คุณหนูอาจจะเอาแต่ใจหรือบางทีอาจจะทำตัวเหมือนเด็กไปบ้าง แต่คุณหนูเป็นคนใจอ่อนแล้วก็ปากไม่ตรงกับใจน่ะครับ ยังไงก็ช่วยดูแลคุณหนูด้วยนะครับ” ^^
“คะ..ครับ” ผู้ใหญ่พูดขนาดนี้แล้ว ผมจะพูดอะไรได้ล่ะครับ ลุงชางก็คงเป็นห่วงคุณหนูของแกตามประสาคนอยู่ด้วยกันมานานล่ะครับ
..แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมไคแล้วก็ใครๆชอบพูดอะไรแปลกๆกับผมจังวะครับ - - ??
หรือผมทำตัวแปลกๆเอง??
ให้ตายสิครับ ผมไม่ชอบเลย ต้องมาถามเองตอบเองแบบนี้ มันน่าปวดหัวจริงๆ
..งั้นผมจะเลิกสนใจมันไปแล้วกันนะจะได้หมดปัญหา - -
ถึงบ้านแล้วไปหาเกมส์เล่นดีกว่าครับจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน -.,-
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - TBC - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เนื้อเรื่องเดินช้ามาก TT
แต่มันจะค่อยๆพัฒนาความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆตามความรู้สึกของชานยอลค่ะ -.,-
(แล้วเมื่อไหร่ยอลมันจะรู้ตัวฮ้า!!! :: นักอ่าน)
แหะๆ ยินดีต้อนรับนักอ่านทุกคนค่ะ ขอบคุณที่คอยติดตามนะคะ >3<
ความคิดเห็น