ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ..Spill Over.. {ChanBaek}

    ลำดับตอนที่ #10 : Spill Over :: Sick

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 55




    You make me sick

    Please cure me

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    ผมไม่เคยคิดเลยว่าผม  ..จะมีวันนี้

     

                    พั๊ว!!

     

                    ชานยอล!  ว๊าย!  ตายแล้ว!” 

     

                    ยังไม่ตายครับแม่  = =  ผมโดนแม่ฟาดไปทีนึงโทษฐานกวนไม่ดูสถานการณ์  ท่านดูจะตกใจมากเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นสภาพใบหน้าอันยับเยินของผม

     

                    บอกแม่ทีว่านี่คือแผลจากการตกบันได  ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะส่ายหน้าแล้วส่งสายตาสำนึกผิดไปให้ท่าน

     

                    ผมขอโทษ  ผมไม่รู้จะพูดอะไรให้มันดีไปกว่านี้  แต่ก่อนที่แม่จะได้เปิดปากตอบอะไร  อาจารย์ปกครองก็เดินเข้ามาขัดซะก่อน

     

                    เชิญผู้ปกครองนั่งก่อนดีกว่าครับ  เราจะได้คุยกันสบายๆ  ^^  ..สบายมากเลยครับอาจารย์  สมาชิกในห้องแทบจะฆ่ากันตาย(ทางสายตา)ได้อยู่แล้ว  แต่ตอนนี้ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรได้  เลยได้แต่มองแม่เดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆแม่ของแบคฮยอนและถัดมาก็คือพ่อของไอ้ยูโฮซอก  ส่วนแบคฮยอนผมและไอ้เชี่ยหน้าเบี้ยวนั่นก็นั่งอยู่ที่พื้นฝั่งตรงข้ามโดยที่ผมนั่งอยู่ตรงกลาง  ..ถ้าถามว่าตอนนี้ผมอยู่ไหน  คำตอบคือ  ห้องปกครองครับ  - -

     

                    ส่วนเหตุผลนั้นมันคงดูเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกนักเลงแบบแบคฮยอนและไอ้หน้าเฮี้ยยูโฮซอก  แต่สำหรับผม  นักเรียนดีเด่นสองปีซ้อน(ไม่ได้โม้นะ  แต่ผมสอบได้ที่หนึ่งของสายชั้นมาสองปีแล้ว  ผมเคยบอกแล้วไงว่าผมเป็นคนฉลาด -.,-)แบบผมมันคือเรื่องไม่น่าเชื่อและผมก็ไม่เคยคิดจริงๆว่าผม  ..จะมีวันนี้

     

                    ..มันช่วยไม่ได้จริงๆ  ผมแทบจะบ้าตอนเห็นไอ้หน้าแบนนั่นพยายามจะปลุกปล้ำแบคฮยอน!!  ตอนนั้นในสมองมันว่างเปล่าไปหมด  ผมรู้สึกเหมือนเดอะฮัคตอนกระชากไอ้เชี่ยโฮซอกตัวปลิว  ผมต่อยมันไม่ยั้ง  ทั้งถีบทั้งกระทืบซ้ำจนมันแทบจะตายคาตีนผมถ้าไม่มีใครมาห้ามเสียก่อน  มันไม่มีโอกาสแม้แต่จะปริปากหรือตอบโต้ผมก็โดนหามส่งห้องพยาบาลไปแล้ว  ใจเสาะชะมัด  ..ส่วนรอยเขียวคล้ำบนใบหน้าผม  จะใครล่ะครับถ้าไม่ใช่ผลงานของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ

                   

                    จะโดนมันปล้ำอยู่แล้วทำไมไม่ตะโกนเรียกกู!!”

     

                พั๊ว!!  ..โดนไปหนึ่งหมัดเมื่อผมพูดประโยคนั้นกับแบคฮยอนหลังจากไอ้หน้าเบี้ยวโฮซอกนั่นโดนลากออกไปแล้ว

     

                ปล้ำเฮี้ยอะไร!!”

     

                โดนกดติดกำแพง  โดนไซร้ขนาดนั้นไม่เรียกว่าปล้ำแล้วจะเรียกว่าอะไร!!”

     

                พั๊ว!!  ..เลือดกบปากเลยทีเดียวครับหลังจากโดนหมัดที่สองเข้าไป

     

                เชี่ย!!  เลิกพ่นอะไรทุเรศๆซักที!!  กูกำลังจะอัดมันอยู่แล้ว!!  กูช่วยตัวเองได้!!  มึงคิดว่ามึงเป็นพระเอกหรือไง!!”

     

                มึงนั่นแหละหัดระวังตัวซะมั่ง!!  ตัวก็แค่นี้ทำเป็นซ่า!!  หรืออยากจะให้กูปล้ำมึงให้ดูจะได้รู้สึกซะบ้าง!!”

     

                พั๊ว!!

     

                เชี่ย!!  ไปตายไป!!  ว๊ากกกกก ก!!  ปล่อยกู!!”  ตอนนั้นผมโมโหจนตามัวหลังจากทนเสียงแว๊ดๆกับประโยคเฮ้วๆของแบคฮยอนไม่ไหวผมก็อุ้มเค้าพาดบ่าแล้วเดินผ่านเกาหลีมุงตรงไปยังตึกเรียนทันที

     

     

     

     

     

                    ผู้ปกครองคงจะทราบเหตุผลที่ผมขอเรียกพบทางโทรศัพท์แล้วนะครับ  เพราะฉะนั้นผมจะเข้าเรื่องเลย  ผมตื่นจากภวังค์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์แว่วเข้ามาในหู  ผมไล่ภาพรบกวนจิตใจออกไปแล้วกลับมาตั้งใจฟังอีกครั้ง

     

    วันนี้เมื่อเวลา 12 นาฬิกา สิบหกนาที  ปาร์คชานยอลและยูโฮซอกมีเรื่องชกต่อยกันภายในโรงเรียน  โดยมีพยอนแบคฮยอนเป็นตัวต้นเหตุ 

     

    ทุกคนต่างก็เงียบฟังอาจารย์พูด  สีหน้าแม่ของผมและแบคฮยอนอยู่ในอารมณ์เดียวกันคือมีแววกังวลและความเป็นห่วงปะปนกันอยู่บนใบหน้า  ในขณะที่พ่อของไอ้เชี่ยโฮซอกดูจะนิ่งและมีแววโมโห  ท่านเอาแต่จ้องหน้าลูกชายในสภาพยับเยินด้วยสายตาคมกริบ  ส่วนมันก็ได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตาใครทั้งนั้นแต่ดูจากมือมันที่กำแน่นแล้วคงโกรธและแค้นผมน่าดู 

     

    ..ส่วนคนตัวเล็กข้างๆผม  ดูเหมือนจะเรียบร้อยผิดปกติ  นั่งนิ่งไม่มีเถียงสักคำ

     

                    ในกรณีของยูโฮซอก  เธอมีคู่กรณีสองคนคือพยอนแบคฮยอนและปาร์คชานยอล  ..ในกรณีของปาร์คชานยอลครูจะถือว่าเธอไม่ผิดเพราะปาร์คชานยอลเป็นฝ่ายเริ่มก่อน  ..แต่ในกรณีของพยอนแบคฮยอนเธอผิดเต็มๆเพราะฉะนั้นครูจะทำทัณฑ์บนไว้ก่อนแล้วถ้าเธอทำแบบนั้นกับพยอนแบคฮยอนอีกทางโรงเรียนคงต้องไล่เธอออก  ผู้ปกครองเซ็นรับทราบด้วยนะครับ  อาจารย์ปกครองยื่นเอกสารให้พ่อของไอ้เชี่ยโฮซอกแต่ท่านกลับไม่ยอมรับไปเซ็น

     

                    ลูกผมมันกล้าทำกับลูกท่านนักการเมืองพยอนแบบนี้ผมคงไม่มีหน้าให้มันเรียนที่นี่แล้วล่ะครับ  ผมขอทำเรื่องลาออกเลยแล้วกัน

     

                    พ่อ!”  ไอ้โฮซอกเตรียมโวยวายทันทีครับ  แต่มันคงเกรงกลัวพ่อมันน่าดูเพราะแค่ท่านหันมามองแว๊บเดียวก็ทำให้มันหุบปากได้ทันที

     

                    เอ่อ..  คือ  เหมือนแม่ของแบคฮยอนจะพูดอะไรสักอย่างแต่พ่อของไอ้หน้าเบี้ยวก็ขัดขึ้นก่อน

     

                    ผมต้องขอโทษแทนลูกชายด้วยนะครับ  เพราะงั้นอาจารย์ครับผมขอทำเรื่องลาออกเลยครับ

     

                    เอ่อ  ..งั้นเชิญทางนี้เลยครับ  อาจารย์ชั่งใจอยู่พักนึงก่อนจะยอมทำตามที่พ่อของไอ้หน้าเบี้ยวบอกแล้วตรงไปที่ประตูโดยมีไอ้เชี่ยยูโฮซอกและพ่อของมันเดินตาม

     

                    ..หลังจากประตูปิดลงแล้วเหลือแค่เราสี่คนผมก็ได้ยินเสียงแม่ของแบคฮยอนถอนหายใจ  ท่านเอามือทาบอกก่อนจะเดินมาหาลูกชายที่นั่งข้างๆผม

     

                    แบคฮยอนอา  ไม่เป็นไรใช่มั้ยลูก  ท่านจับลูกชายหันซ้ายหันขวาก่อนจะไปสะดุดกับรอยแดงๆสองสามจุดที่ต้นคอขาวของแบคฮยอน  ..ทำไมพอเห็นท่านชะงักไปแบบนั้น  ผมถึงต้องรู้สึกร้อนๆหนาวๆนะ  ว๊ายตาเถร  ลูกแม่!”  ตกใจไม่พอคุณแม่ท่านยังแหวกคอเสื้อแบคฮยอนออกกว้างจนเสื้อแทบจะหลุดไหล่บาง

     

                    แม่!”  แบคฮยอนรีบรวบคอเสื้อเข้าหากันด้วยความตกใจ  ..แบคฮยอนตกใจผมไม่ว่าแต่ทำไมแม่ผมที่นั่งอยู่บนโซฟาต้องทำตาโตด้วย  ..ผมแอบอมยิ้มล้อแบคฮยอนตอนเค้าตะหวัดสายตามามองผมก่อนจะหันหน้าหนีพร้อมกับยื่นปากด้วยความไม่ชอบใจ

     

    ..แต่ให้ตายสิ  แบคฮยอนขาวชะมัดเลย  -.,-

     

                    ฮึ่ม  มันกล้าทำกับลูกแม่แบบนี้ได้ยังไง  นี่ถ้าไม่เห็นแก่หน้าพ่อนะแม่จะฟาดให้ซักทีสองทีเลย  แต่ขอบใจมากเลยนะจ๊ะชานยอล  ^^

     

                    คะ..ครับ  ผมแทบรับไม่ทันตอนคุณหญิงพยอนหันมาคุยกับผม

     

                    แต่คราวหน้าไม่ต้องถึงขนาดนี้ก็ได้นะจ๊ะ  ดูซิหน้าหล่อๆช้ำหมด  แล้วก็ต้องขอโทษคุณแม่ชานยอลด้วยนะคะที่ทำให้ลูกชายต้องมาเจ็บตัวแบบนี้  ปุบปับเปลี่ยนคนคุยนี่คือของถนัดคุณหญิงจริงๆครับ  ผมยังยิ้มให้ไม่เสร็จก็หันไปคุยกับแม่ผมซะงั้น

     

                    ไม่เป็นไรค่ะ  มีอะไรก็ช่วยๆกัน  แต่เด็กสมัยนี้นี่เล่นแรงนะคะ  ดูสิช้ำเลือดช้ำหนองหมดเลยกลับไป  ดูท่าต้องต้มน้ำใบบัวบกให้ดื่ม

     

                    ตายจริง  คุณแม่ปาร์คต้มเองเลยเหรอคะ  สอนดิฉันต้มบ้างสิคะ  แบคฮยอนเห็นตัวเล็กๆแบบนี้ก็มีเรื่องไม่เว้นแต่ละวันเลยค่ะจะได้ต้มให้แกดื่มบ้าง  ผมเห็นแบคฮยอนทำหน้าเมื่อยตอนเห็นพวกแม่ๆดูท่าจะคุยกันถูกคอ  ส่วนแม่ผมที่ตอนแรกจะเดินมาดูผมซักหน่อยก็กลับไปนั่งโซฟาเหมือนเดิมเมื่อคุณหญิงพยอนเดินกลับไปคุยกับท่านแบบจริงจัง

     

                    ..ทำไมอยู่ๆก็รู้สึกดีแค่เพราะแม่ผมกับแม่แบคฮยอนดูจะเข้ากันได้นะ  ให้ตายสิ  ปัญญาอ่อนจริงๆครับ  - -

     

                    ยอล  ..เชี่ยยอล  ห่ะ  หือ  ..ผมหันไปตามเสียงเรียกเบาๆของแบคฮยอนก็พบกับใบหน้ามู่ทู่ที่ยื่นเข้ามาใกล้  ปวดฉี่  ให้ตายสิ  ใครจะอั้นฉี่ได้น่ารักแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว! 

     

                    อ่ะ..อื้ม  ป่ะ  ผมพยักหน้าตอบรับก่อนจะหันไปบอกคุณแม่ทั้งสองว่าจะพาแบคฮยอนไปเข้าห้องน้ำแล้วดึงมือคนปวดฉี่ให้เดินออกมาจากห้องด้วยกัน

     

                    กูไม่ใช่หมานะ  ไม่ต้องจูง  พอพ้นกรอบประตูมาได้แบคฮยอนก็ดึงมือตัวเองออกจากมือผมทันที  แต่เรื่องอะไรผมจะปล่อยล่ะ  -.,-  ..ผมทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเค้าแล้วชวนเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อสายตาผมไปสะดุดกับกระดุมเม็ดบนสุดของแบคฮยอน

     

                    นี่  ไม่ร้อนหรือไง  ผมแกล้งยื่นมือไปที่กระดุมเพื่อแกะมันออก  แต่มือเล็กของแบคฮยอนก็ยื่นมาสกัดมันเสียก่อน

     

                    เจ็บนะ  ตีทำไมเนี่ย  ผมแกล้งสะบัดมือไปมา  แต่อันที่จริงก็แอบแสบๆคันๆแฮะ

     

                    ก็เพราะมึงนั่นแหละ  อย่ามากวนตีนนะเว้ย  เดี๋ยวยันโครม  นั่นๆ  ไม่พูดเปล่ายังทำท่าประกอบจนผมหลบปลายเท้าเล็กแทบไม่ทัน

     

                    โอ๋ๆ  ไม่เป็นไรนะ  เดี๋ยวกูให้มึงดูดคืนก็ได้

     

                    ปาร์คชานยอล!!”  ผมหัวเราะลั่นด้วยความชอบใจก่อนจะเริ่มง้อแบคฮยอนแบบจริงจังเมื่อพบว่า  ถ้าแกล้งมากๆเข้าอาจจะโดนโกรธเข้าจริงๆจนความผิดที่ผมทำไว้อาจจะโดนขุดคุ้ยขึ้นมาเป็นประเด็นว่าด้วยเรื่อง มึงไม่ใช่เพื่อนกูอะเกนแอนด์อะเกน

     

                    ใช่แล้วผมกำลังประสบปัญหาใหญ่หลังจากที่ผมตัดสินใจทำอะไรตามความรู้สึกของตัวเอง  เพราะหลังจากวันที่ผมบังคับแบคฮยอนเป็นเพื่อนเมื่อสามวันก่อน  ผมก็ไม่ฝืนตัวเองอีกต่อไป  ..นึกจะจับมือเค้าผมก็จับ  นึกจะมองหน้าเค้านานๆผมก็มอง  แม้จะมีสายตาไม่พอใจกับคำก่นดาและต้องเจ็บตัวเล็กๆน้อยๆก็ตาม


                    แต่อย่างน้อยผมก็รู้ว่าเค้าไม่ได้รังเกียจผม  ..เค้าก็แค่  อคติ  ไม่ยอมรับความจริง  ฟอร์มจัด  และชอบผู้หญิง

     

                    ฮะ  ฮ่า  แล้วไง  ในเมื่อผู้ชายแมนๆแบบผมยังชอบเค้าได้  แล้วทำไมผมจะทำให้ผู้ชายตัวเล็กน่ารักแต่ห้าวจัดแบบเค้าหันมาชอบผมบ้างไม่ได้ล่ะ  (เอ่อ  รู้สึกทฤษฎีมันขัดๆกันนะยอล)

     

                    เฮ้อ  เอาจริงๆนะ  ผมก็พูดปลอบใจตัวเองไปงั้นแหละ  อันที่จริงผมไม่ควรจะทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้เลย  จริงๆนะ..

     






     

                    กริ๊ก!  ผมล็อคประตูห้องดนตรีที่ร้างผู้คนก่อนจะปล่อยให้แบคฮยอนลงมายืนบนพื้นในที่สุด

     

                เชี่ย!  มึงทำอะไรเนี่ย!”

     

                มันทำอะไร  ผมไม่สนใจเสียงโวยวายของแบคฮยอนแล้วตรงไปจับไหล่ถามเค้าด้วยความร้อนรนทันที

     

                อะไร  เค้าทำหน้างงใส่ผมเมื่ออยู่ๆก็โดนยิงคำถามใส่

     

                ไอ้เชี่ยยูโฮซอกมันทำอะไรนาย

     

                ไม่รู้เว้ย!  ปล่อยกู!”  ผมรู้  เค้าไม่อยากให้ผมถามอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อกี้  แต่ผมทนไม่ได้  ผมจะลบมันออกไปให้หมด  สัมผัสของไอ้เชี่ยหน้าปลาบู่นั่น!

     

                แบคฮยอน  ผมจับเค้าให้อยู่นิ่งๆก่อนจะกดไหล่บางให้นั่งลงพิงกำแพง  มันจูบนายหรือเปล่า 

     

                ถามไปทำตะหลิวหรือไง  เค้าหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมแล้วพยายามจะผลักผมออกไปไกลๆ  แต่แรงเค้าหรือจะสู้แรงผม  พอผมเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆแบคฮยอนก็เริ่มหยุดดิ้นแล้วยกมือขึ้นยันอกผมเพื่อรักษาระยะห่างแทน

     

                ออกไปนะ  เค้าหันหน้าหนีแล้วหลับตาปี๋ตอนปลายจมูกผมแตะกับปลายจมูกของเค้า

     

                ตอบสิ  มันจูบนายหรือเปล่า

     

                ปะ..เปล่า

     

                แล้วที่ฉันเห็นมันไซร้คอนาย…”  ผมพูดพร้อมกับเคลื่อนใบหน้าไปตรงลำคอขาวของแบคฮยอนแล้วแกล้งเอาปลายจมูกแตะกับผิวเนื้อนุ่มเบาๆ

     

                ชานยอล  ฮื้ออออ อ  เค้าหดคอหนีผมแล้วร้องเสียงหงิงๆเหมือนลูกหมา  นะ..ไหน  มึงบอกว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้วไง  ผมชะงักก่อนจะดึงใบหน้ากลับไปมองหน้าแบคฮยอน  เค้ายอมหันมาจ้องตากับผมดีๆเมื่อรับรู้ว่าผมถอนใบหน้าออกมาแล้ว

     

                เพื่อนไง  เพื่อนไม่ปล้ำเพื่อนนะเว้ย  ..เพื่อน  นี่ผม  ขุดหลุมฝังตัวเองอยู่ใช่มั้ย

     

                กูเปล่าปล้ำซักหน่อย  ก็แค่..  ช่วยปลอบ  ^^

     

                ???

     

                ผมมองหน้ามึนๆของแบคฮยอนยิ้มๆก่อนจะเคลื่อนใบหน้าเข้าไปอีกครั้ง

     

                แบคฮยอนนา

     

    ปลายจมูกแตะปลายจมูก  ริมฝีปากแตะเบาๆ..ที่ริมฝีปาก  ก่อนจะกระซิบติดกรีบปากนุ่ม

     

    หายใจลึกๆนะ

     

                !!!???

     





     

                    ตอนแรกก็แค่จูบเบาๆ  พอแบคฮยอนเริ่มปรับสภาพได้ก็เริ่มลึกซึ้ง  แล้วพอนานๆเข้าผมก็ได้ใจจนลามปามไปที่ลำคอขาวของแบคฮยอน  นี่ถ้าไม่ใช่เสียงร้องห้ามของแบคฮยอนกับเสียงประกาศชื่อผมกับแบคฮยอนจากห้องปกครองเสียก่อน  ..ผมเองก็คงเลยเถิดจนกู่ไม่กลับ

     

                    อันตรายจริงๆ  ผมไม่ควรทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้  ..ปาร์คชานยอล  ป่วยเลยคราวนี้

                   

                   

    - - - - - - - - - - TBC - - - - - - - - - -



                    ขอโทษจริงๆค่ะที่หายไปนาน  TT  ..คือไรเตอร์หายไปเพราะติดสอบค่ะ 

    ตอนนี้ก็ยังสอบไม่เสร็จ  อ่านหนังสือ  ติว  ทำงานส่ง  หัวหมุนมาก

    แต่เห็นคอมเม้นต์เรียกร้องมาก  มันอดไม่ได้ที่จะนั่งหน้าคอมแล้วแต่งให้เสร็จซักตอน

    วันที่หนึ่งไรเตอร์สอบวันสุดท้ายค่ะ  คาดว่าเครีย์งาน+ทุกอย่างเสร็จสิ้นคงวันที่สาม

    ขอโทษที่หายไปนานแล้วก็ขอบคุณจริงๆค่ะที่ยังรอและติดตาม  หลังวันที่สามเจอกันนะคะ  ^^

    ปล.คิดถึงรีดเดอร์เหมือนกันค่ะ  ฝันดีนะคะ  ><

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×