ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC TEEN TOP] My love story

    ลำดับตอนที่ #6 : November Love : Bear [Changrick] Part 2 end

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.พ. 57


    "ชางโจ"ผมหลุดพูดชื่อคนที่อยู่ตรงหน้า ชางโจมายืนอยู่ตรงนี้ทำไมกัน เขาควรจะไปซ้อมกีฬาไม่ใช่หรอ

    "..........."ชางโจหันหน้ามามองผม แต่ก็ไม่พูดอะไร

    หมับ

    "เฮ้ย"แต่อยู่ๆก็มาจับมือผมก่อนจะออกแรงลาก

    "เดินมาดีๆสิ"คนตัวโตบ่นเพราะขาสั้นๆของผมเดินตามไม่ทันน่ะสิ ช่วยผมด้วย ช่วยคนขาสั้นคนนี้ด้วย T_T

    "ก็อยากเดินดีๆอยู่ แต่มันเดินไม่ทันโว้ย แล้วจะพาไปไหนเนี่ย"

    "นีแอลฮยองให้ไปส่งนายที่บ้าน"จนได้สิครับ นีแอลฮยองทำเรื่องจนได้ ผมอุตส่าห์บอกไปแล้วว่าไม่ต้อง เฮ้อ

    "แล้วนายก็มาอ่ะนะ ไม่ซ้อมกีฬาหรอ"

    "ไม่ วันนี้หยุด เลิกพุดซักทีได้ป่ะ"ชางโจตะคอกผมแล้ว หุบปากแล้ว ไอ้หมีโหด

    "อ้าว นึกว่าใครที่แท้ก็ริคกี้นี่เอง"เสียงนึงดังขัดการเดินของชางโจก่อนที่หน้าผมจะกระแทกกับแผ่นหลังแกร่งนั่น

    ".............."เงียบสิครับใครว่ะ ไม่รู้จัก

    "ทำหน้าอย่างนั้นจำกันไม่ได้ซินะ เด็กปัญญาอ่อน" จี๊ดเลยครับ เหมือนจะมีคนเดียวที่เรียกผมอย่างนี้นะ

    "ชางฮุน"

    "จำได้แล้วหร......"

    "ชางฮุน"เสียงที่คุ้นเคยเรียกคนที่เข้ามาทักพวกผม 

    "มินวู ไปกันเถอะ"พูดจบก็จับมือเพื่อนสนิทของผมที่เพิ่งเดินเข้ามาออกไป

    "ไม่รีบกลับบ้านหรอ"

    "กลับ กลับ ไปกันเถอะ"ผมรีบพูดเมื่อชางโจเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์ เกิดเค้าโกรธแล้วไม่พูดกับผมก็ไม่ดีหรอกมั้ง ใช่ไหมหล่ะ

    .
    .
    .
    .
    .
    .

    "ถึงแล้วขอบใจนะที่มาส่ง"ผมยิ้มให้กับคนตัวสูงก่อนจะเดินเข้าบ้านไป 

    ครืน ครืน

    ซ่า

    ผมว่าช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยนะครับ เดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็หนาว เดี๋ยวก็ฝน คนอย่างเราตามสภาพอากาศแทบไม่ทัน เหมือนตอนนี้หน้าหนาวแท้ฝนกับกระหน่ำเทลงมาดีนะเนี่ยที่ผมไม่ได้ตากผ้าไว้ ไม่งั้นวิ่งเก็บจนเหนื่อยแน่เลย

    ติ๊ง ติ๊ง

    เสียงออดหน้าบ้านทำให้ผมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเกิดสงสัย ผมควรจะไปดูก่อนหรือควรจะแต่งตัวก่อนดี

    ติีงๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เสียงออดรัวขนาดนี้คงแต่งตัวไม่ทันแล้วหล่ะ จะรีบอะไรกันนักกันหนาเนี่ย

    เปิดประตูออกไปดูก็ต้องตกใจกับคนที่อยู่หน้าบ้าน ชางโจที่เพิ่งลากันไปซักพักตอนนี้อยู่ที่หน้าบ้านผมในสภาพที่ดูไม่ได้เลย เปียกโชก 

    "ขอเข้าไปหน่อยสิ"

    หมดคำพูดชางโจ ผมก็รีบวิ่งไปหยิบร่มกับกุญแจบ้านก่อนจะไปไขแล้วพาคนตัวสูงเข้าบ้านมา

    "ทำไมมาในสภาพนี้เนี่ย"

    "อยู่นี่ซักพักได้ไหม"

    "หา?"ผมฟังผิดหรือเปล่าที่ว่าเขาจะมาอยู่บ้านผมซักพักหน่ะ บ้านก็อยู่แค่นี้จะมาอยู่บ้านผมทำไม

    "ลืมกุญแจไว้ในบ้าน เดี๋ยวแม่มาก็ไม่รบกวนแล้ว"กระจ่างครับ พูดอย่างกะอ่านใจผมได้อย่างนั้นแหละ 

    "อ้อ งั้นเราไปแต่งตัวก่อนนะ"เดินได้ไม่เท่าไหร่ผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ "ชางโจอาบน้ำไหม นายตัวเปียกมากเลยนะ"

    "ไม่ต้อง เดี๋ยวแม่ก็มา"

    "งั้นหรอ ถ้าอยากอาบชั้นนี้มีห้องอาบน้ำ อาบได้เลยนะ"

    ".................."เงียบ ไอ้หมีหยิ่ง ไอ้หมีหน้าโหด

    ตอนนี้ผมก็แต่งตัวเสร็จแล้ว ลงไปดูแขกหน่อยก็ดีนะ

    "ครับ ผมอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง"เสียงแขกดังตอนที่ผมกำลังเดินลงบันได

    "มีอะไรหรือเปล่า"ผมถามเพราะดูสีหน้าคนตัวโตไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่

    "เอ่อ"คนตัวโตได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ จะพูดอะไรก็พูดมาสิ "แม่ฉันไปทำงานต่างประเทศ กลับอาทิตย์หน้า"

    "อือ แล้วนายจะเข้าบ้านไงอ่ะ"

    "ขออยู่บ้านนายจนกว่าแม่จะกลับมาได้ไหม"

    "O_O"อึ้งครับ ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่ผมก็ไม่เคยอยู่กับเพื่อนสองคนนานเป็นอาทิตย์อย่างนี้ มันรู้สึกเขินอย่างไงก็ไม่รู้

    "ได้ไหม"

    "เอาสิ"หมีอ้อนครับ หมีอ้อน ไม่ใจอ่อนให้มันรู้ไป "แล้วนายมีชุดใส่หรอ"

    "ที่มหาลัยมีบ้าง ค้างบ่อย"

    "อ้อ งั้นก็ไปอาบน้ำได้แล้ว"พูดจบก็ส่งผ้าขนหนูให้คนตัวโตที่หยิบติดลงมาเพราะคิดว่าจะเอามาให้เช็ดหัวเพราะหัวเปียกๆอย่างนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอา

    คนตัวโตหยิบผ้าขนหนูไปโดยไม่พูดอะไรก่อนจะเข้าไปไหนห้องน้ำ ผมลืมอะไรไปหรือเปล่านะ

    "ริคกี้ มีชุดให้ใส่บ้างไหม"ซักพักชางโจก็ส่งเสียงก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียว >////< ผมรู้แล้วว่าผมลืมอะไร ผมลืมไปว่าชางโจไม่มีเสื้อผ้าตัวอื่นนอกจากชุดที่เขาใส่มา

    "น่าจะพอมีนะ เดี๋ยวไปดูให้"

    หลังจากที่ไปหาชุดให้ชางโจผมก็หยิบชุดที่แม่หยิบติดมา เป็นเสื้อของพ่อ เสื้อของคนที่ผมคิดถึงที่สุด

    "ตัวนี้น่าจะได้นะ ลองใส่สิ"

    "อืม"ชางโจรับชุดไปใส่ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาดูดีจัง ถ้าพ่อใส่ชุดนี้จะหล่อเหมือนชางโจหรือเปล่านะ
    ผมว่าพ่อผมต้องหล่อกว่าชางโจแน่เลย

    อยู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา ผมคิดถึงพ่อของผมจัง

    หมับ

    ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ผมก็ได้รับความอบอุ่นจากอกที่แข็งแกร่ง กอดที่เหมือนจะปลอบประโลมให้หายเศร้า

    "นายน่ะ ไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะ"ร่างสูงก้มตัวลงก่อนจะปาดน้ำออกจากดวงตาของผม "พ่อหมีไม่อยากเห็นหรอกนะ น้ำตาหน่ะ"

    "อือ ไม่ร้องแล้ว"ผมยืดตัวเต็มความสูง แต่ก็ยังไม่เท่าคนตัวสูงข้างหน้า "กินข้าวกันเถอะ"

    ระหว่างกินข้าวเย็น ผมว่าชางโจเป็นคนที่อารมณ์เปลี่ยนเร็วมาก ตอนนี้เขาทำหน้านิ่งใส่ผมอีกแล้วหล่ะ ผมไม่ชอบหน้าแบบนี้ของเขาเลย

    "ชางโจ ไม่เช็ดผมหรอ เดี๋ยวไม่สบายนะ"

    "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็แห้ง"ชางโจพูดก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อไป 

    "ชางโจนอนห้องเดียวกับเราได้ไหม พอดีอีกห้องแม่เราเก็บกุญแจไว้ เราเปิดไม่ได้อ่ะ" ผมพูดขึ้นเมื่อเราทานอาหารกันเสร็จแล้ว

    "อือ เดี๋ยวเรานอนพื้น"

    "นอนบนเตียงก็ได้ ออกจะกว้าง"

    "ก็ได้"

    .
    .
    .
    .
    .
    .

    "นอนกันเถอะ"ผมเอ่ยปากชวนคนตัวโตที่กำลังนั่งทบทวนเนื้อหาอยู่ นี่มันก็ดึกมากแล้วไม่นอนเดี๋ยวจะไม่สบายเอา

    "อือ"คนตัวโตลุกจากโต๊ะก่อนจะเดินมานั่งบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอน "ขอกอดได้ไหม"

    "อือ"ด้วยความง่วงผมจึงตอบตกลงคนตัวโต

    "กอดทั้งคืนเลยนะ มันหนาว"คนตัวโตกระซิบข้างหูก่อนจะเอาหัวมาชนกับหัวของผมแล้วกอดผมไว้หลวมๆ

    ผมรู้สึกว่าร่างสูงข้างๆจะมีอาการแปลกๆ จากกอดหลวมๆก็กลายเป็นกอดที่แน่นขึ้น พร้อมกับเหงื่อที่ค่อยๆผุดออกมา แต่ตอนนี้ผมง่วงมากเลย พรุ่งนี้ค่อยดูแล้วกันนะว่าเป็นอะไร
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    "ชางโจ!" ผมจะทำยังไงดีหล่ะ ก็คนตัวโตที่นอนกอดผมเมื่อคืน ตื่นเช้ามาก็ตัวร้อนจี๋ขนาดนี้ เมื่อคืนผมน่าจะเอะใจซักหน่อยว่าทำไมชางโจถึงบอกว่าหนาวทั้งที่ผมตั้งอุณหภูมิของแอร์ไว้ค่อนข้างสูง แล้วยังจะเหงื่อที่ไหลออกมานั่นอีกมันทำให้ผมเป็นห่วงเขาอยู่ไม่น้อย

    ผมรีบเข้าไปในห้องน้ำก่่อนจะหยิบกะละมังแล้วใส่น้ำเพื่อจะเอาไปเช็ดตัวให้คนป่วยที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ผมก็บอกเขาไปแล้วนะว่าให้อาบน้ำแล้วก็เช็ดผมให้แห้งเพราะถ้าไม่ทำแล้วจะไม่สบาย เป็นไงหล่ะตอนนี้เลยนอนป่วยอยู่บนเตียงอย่างนี้น่ะ

    หยิบของเสร็จผมก็เอากะละมังไปวางไว้บนหัวเตียงก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของร่างสูงตรงหน้าช้าๆ อยู่ๆผมก็รู้สึกเขินๆอย่างไงก็ไม่รู้ ก็ต้องมามองแผ่นอกกว้างๆตรงๆอย่างนี้ผมไม่เคยทำสักหน่อย อีกอย่างผมกับชางโจเราก็ไม่ได้เจอกันมาต้องนานให้มาทำอย่างนี้บอกเลยว่าไม่ชิน

    หลังจากทำใจอยู่นานผมก้สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆเอาผ้าขนหนูลูบไปทุกบริเวณของร่างกายของชางโจ หมอนี่ไปฟิตหุ่นตั้งแต่ตอนไหนนะ ตอนเด็กๆยังตัวเล็กๆอยู่เลยอ่ะ ตอนนี้ผมตามชางโจไม่ทันแล้ว มีที่ตามทันอย่างเดียวก็คือน้ำหนัก

    หลังจากที่เช็ดตัวให้ผู้ป่วยเสร็จแล้ว ผมว่าผมควรจะไปทำอะไรให้ชางโจกินซักหน่อย เพราะคนป่วยตื่นมาจะต้องหิวมากๆแน่เลย
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    "เฮ้ย" ถึงกับตกใจจนชามข้าวต้มแทบร่วง ชางโจนะชางโจจะมายืนอยู่หน้าประตูทำไม ดีที่มีสติอยู่บ้างไม่งั้นข้าวต้มถ้วยนี้ได้ลงไปละเลงอยู่ที่พื้นแน่ๆ
     
    "อ้าว ริคกี้อยู่นี่เอง"

    "ไม่ต้องมาองมาอ้าวเลย ไม่สบายอยู่จะลุกมาทำไม"ผมบ่นคนป่วยที่ไม่เจียมตัวยังไม่หายดีจะลุกมาทำไม ถ้าเกิดมึนแล้วล้มไปจะทำไง

    "ก็หิวเลยจะลงไปหาอะไรกิน"

    "งั้นก็กินนี่ซะ ไม่สบายแล้วยังจะลุกไปไหนอีก"พูดจบก็ยื่นชามข้าวต้มที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆให้ คนตัวโตก็รับไปโดยไม่พูดอะไรก่อนจะรีบตักเข้าปาก

    "โอ๊ย ร้อน ร้อน ร้อน ฮื่อ"เพราะกินแบบโลกนี้ไม่มีของร้อนผลก็คือร้องลั่นบ้านเยี่ยงนี้แล ผมรีบเข้าไปดูคนป่วยที่ร้องจะเป็นจะตายว่าร้อน

    "เป็นไงหล่ะ กินไม่เป่าเลยเจ็บตัวเลยอ่ะ"ว่าแล้วก็มองไปที่ปากแดงๆที่ไม่รู้จะแดงยังไงแล้ว ก่อนจะเป่าเบาๆลงไป "ฟู่ว หายแล้ว"

    "ริคกี้"เสียงของชางโจเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปก่อนจะสบตาที่ผมไม่สามารถแปลความหมายของมันได้ มันดูสับสนยังไงก็ไม่รู้ "ทำไมไม่มาหาเรา"

    "ห๊า มาหาอะไร"อยู่ดีๆถามก็ขึ้นมาแล้วเราจะไปรู้ไหมว่ามาหาอะไร ก็เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้เองแล้วก็ยังไม่ได้นัดกันตอนไหนเลย

    "ชั่งมันเถอะ"

    "ตอบมานะว่าตอนไหน"พูดแล้วก็ทำตาอ้อนๆที่ใครเห็นก็บอกว่ามันน่ารัก ผมไม่ค่อยใช้กับใครหรอกนะ ก่อนจะค่อยๆเขยิบเข้าใกล้หมีตัวใหญ่ที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่

    "เฮ้ย บอกก็ได้ ตอนที่เราย้ายบ้านไง"คำตอบของหมีทำให้ผมหยุดค้างก่อนจะหลุบตาต่ำ"นายสัญญาแล้วก็ไม่ไป เราโกรธมากเลยนะ"

    "เราขอโทษ แต่เราไปไม่ได้"

    "ทำไมหล่ะริคกี้! ทำไมไปไม่ได้"ชางโจตะคอกใส่ผมใหญ่ เขาควรจะรู้สิว่าทำไม มันเป็นวันที่สำคัญอีกวันของผมเลยนะ

    "ทำไมหล่ะชางโจ ทำไมนายจำวันที่พ่อเราตายไม่ได้"พูดจบน้ำตาที่พยายมกลั้นก็ไหลออกมา น้ำตาที่มาจากความกลัวที่ชางโจตะคอกแล้วก็มาจากที่ต้องพูดเรื่องของพ่อ ผมเคยบอกเขาว่าวันนั้นเป็นวันที่ีพ่อของผมเสีย และตอนที่ผมสัญญาว่าจะไปส่งเขาวันที่เขาจะไปก็ยังไม่แน่นอน

    "ริคกี้ เราขอโทษ เราลืม ไม่ร้องนะ"ชางโจเข้ามากอดปลอบและเสียงที่อ่อนลงนั้นทำให้ความกลัวนั้นลดลงไปพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆเหือดแห้ง "แต่ทำไมไม่ตอบจดหมายเราเลยหล่ะ"

    "ห๊า จดหมายอะไร"

    "ก็เราส่งให้ริคกี้ไปต้องหลายฉบับ"จดหมายอะไรว่ะ คนน่ารักงงไปหมดแล้ว ผมไม่เคยได้อะไรอย่างนั้นเลยนะ

    "ไม่เห็นเคยได้เลย"ผมพูดก่อนจะค่อยๆคิด วันที่ผมให้ที่อยู่ชางโจวันนั้นผมรีบมากแล้วไงต่อน้า "ชางโจ นายส่งไปบ้านเลขที่อะไร"

    "122/11"นั่นไงสิ่งที่ผมคิดไม่ผิดจริงๆด้วย

    "ชางโจ นายส่งไปผิดบ้าน บ้านเรา 122/17 นึกอยู่แล้วเชียว"เพราะวันนั้นผมรีบมาก ผมเลยเขียนแบบลวกๆไปให้แล้วเลข1กับ7ของผมก็คล้ายกันมาก ชางโจเลยดูผิด ส่งไปอีกบ้าน

    "จริงดิ อ่าริคกี้เราขอโทษน้า"พุดไปก็เอาคางแหลมๆถูที่ไหล่ของผม จัีกจี้จังเลยอ่ะ

    "พอแล้ว จั๊กจี้อ่ะ"ผมรีบผลักคนตัวโตเพราะรู้สึกถึงลมหายใจที่รดต้นคออยู่ มันรู้สึกแปลกๆอ่ะ

    "ริคกี้รู้ไหมวันนั้นเรามีเรื่องอยากจะบอก แต่ริคกี้ไม่มาเราเลยไม่ได้บอก"ชางโจจับให้ผมมองหน้าเขาตรงๆ ทำไมยิ่งมองหน้าเขาผมก็รู้สึกหน้าร้อนๆยังไงก็ไม่รู้

    "อะไรหล่ะ"

    "อ่ะนี่"ชางโจถอดสร้อยคอรูปหมีที่เขาใส่ติดตัวออกมา ก่อนจะยื่นให้ผม ผมรับมาอย่างงงๆไหนว่ามีอะไรจะบอกแล้วให้สร้อยคอมาทำไม รับมาผมก็หมุนจี้รูปหมีดูรอบๆก่อนจะเจอกับอักษรที่สลักไว้ 

                        'LOVE YOO'

    ใครไม่รู้ก็ต้องคิดว่าทักษะภาษาอังกฤษของชางโจต้องแย่มากแน่ๆ ถึงสลักคำว่า YOO แทนที่จะเป็น YOU แต่ผมเข้าใจนะว่า YOO หมายถึงอะไร 

    "LOVE YOU YOO Changhyun"คำพูดที่เหมือนย้ำความหมายของประโยคที่สลักไว้ที่จี้ทำให้ผมเขิน รู้สึกว่าหน้าผมร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันต้องแดงมากแน่ๆเลย "นายจะรับมันไว้ไหม"

    "ถ้าให้ก็ใส่ให้ด้วยดิ"ผมพุดอย่างอายๆก่อนจะยื่นสร้อยไปให้คนตัวโตแล้วหันหลังให้จะได้ใส่ง่ายๆ "ใส่ดิ"

    "หันหน้ามาดิ" ผมหันหน้าตามที่เขาสั่ง "ริคกี้ของฉันน่ารักที่สุดเลย"

    "อะไรเล่า ไม่ต้องชมเลย"เขินนะครับ เขินมากด้วย มาชมกันซึ่งๆหน้าอย่างนี้นะ

    "ริคกี้มาเป็นหมูของเรานะ"ชางโจพูดขึ้นมา แต่อะไรนะ หมูหรอ ชางโจว่าผมใช่ไหมอ่ะ ชางโจว่าผมอ้วนเป็นหมูใช่หมายยยย

    "ชางโจว่าเราเป็นหมูหรอ"

    "ไม่ได้ว่านะ เราเป็นหมี ริคก็เป็นหมูไง น่ารักดี"ชางโจพูดแล้วก็ยิ้มขำๆ ขำทำไมหน้าผมตลกมากหรือไง "ริคกี้น่ารัก"

    "ไม่ต้องพูดแล้ว รู้แล้วว่าตัวเองน่ารัก"ยิ่งพูดก็ยิ่งเขิน หมูควรทำไงดี

    "น่ารักอย่างนี้ต้องจูบ"ยังไม่ทันไรหมีตัวใหญ่ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แต่ใครจะให้ง่ายๆหล่ะ ผมเลยผลักอกชางโจออกแล้วรีบเดินลงเตียงไป

    "ไม่เกี่ยวกับน่ารักซักหน่อย อย่ามามั่ว"

    "ไม่รู้ ไม่ชี้ จะอาววววว"หมีดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียง มองไปก็น่ารักไปอีกแบบ "ไม่สงสารคนป่วยหรอ"

    "ไม่เลย ยิ่งป่วยก็ยิ่งไม่ควรทำ เดี๋ยวเราติดหวัดไปด้วย"คนป่วยที่ดูอย่างไงก็ไม่ใช่คนป่วย หน้าตาดูสดชิ่นขึ้นแบบไม่เคยป่วยมาก่อนดูยังไงก็ไม่น่าสงสารเลยแม้แต่น้อย

    "งั้นถ้าหาย แล้วจะให้ใช่ป่ะ"หมีทำหน้าตาตื่นเต้นรอคำตอบ ผมควรจะตอบว่าอะไรดีอ่ะ

    "ก็ได้ แต่ตอนนี้กินข้าวก่อน เย็นหมดแล้ว"ผมยกชามข้าวต้มที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ยังร้อนจนลวกปากคนป่วยจนตอนนี้เย็นชืดไร้รสมาให้คนป่วย

    "หมีรักหมูนะ"ชางโจพูดขณะที่กินข้าวต้มที่ผมเป็นคนป้อน "หมูรักหมีไหม"

    "ไม่รัก"ผมพูดไป ชางโจก็ทำหน้าหงอยๆใส่ "ไม่รักไม่มาดูแลหรอก ถามอะไรก็ไม่รู้"

    "หมูอ่ะ ตอบไม่ตรงคำถาม ตอบใหม่"

    "หมูรักหมี พอใจยัง รักมากด้วย"ผมตอบไป ชีวิตอีก 6 วันที่ผมต้องอยู่กับหมีตัวใหญ่ตัวนี้จะมีความสุขแค่ไหนผมไม่อยากคิดเลย ><

    ................................................................................................................................................
    10/12/56 สปอยเล็กๆ เนื่องจากเจอความฟินจากคอนทำให้เกิดอาการอยากแต่งขึ้นมา ใครที่ทักริคกี้กับชางโจ แล้วทำไมชางโจดูไม่ชอบหน้าริคกี้   ติดตามตอนต่อไปนะ

    17/12/56 วันนี้ว่างๆก็มาอัพ แต่รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะยาว แต่ไรท์คงไม่เพิ่มตอน แต่จะลงเพิ่มในตอนนี้จนจบ
    ส่วน ชอนโจนั้น รอไรท์แต่งคู่นี้เสร็จก่อนแล้วไรท์จะลงที่เหลือให้ 

    18/01/57 จบแล้วค่ะกับคู่น้องเล็ก ตอนแรกไรทืจะลงวันปีใหม่ แต่งเสร็จแล้วด้วยแต่มือถือแบตหมด ที่แต่งไว้เลยหายหมด (ไรท์แต่งในมือถือ) ส่วนวันที่ลงไปนิดเดียวนั้น ไรท์ก็จะแต่งให้จบนั่นแหละ แต่ด้วยความง่วงไรทืเลยหลับคาคอมตื่นอีกทีก็แต่งไม่ไหวเลยกดบันทึกไว้ก่อน 

     แต่ตอนนี้ก็จบแล้วเนอะ มีใครงงๆไหม คอมเม้นต์บอกได้นะ ไรท์ชอบคอมเม้นต์ที่สุดเลย มันทำให้ไรทืมีกำลังใจ ส่วนใครที่รออีกคู่ก็รอไปก่อนนะ ช่วงนี้ไรท์เรียนหนักมากเลย งานก็เยอะ อาจจะได้ลงช้าหน่อยนะ

    ตอนนี้ไรท์มีทวิตเตอร์แล้วนะ @liwbing_bs ไปคุยกันได้นะ ไรท์ไม่กัด อิอิ


    รักรีดเดอร์ทุกคนน้า
     









    แถม
    ภาพลิงค์ที่แปะไว้
    vip ◦
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×