ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : November Love : Bear [Changrick] Part 2 end
"ชางโจ"ผมหลุดพูดชื่อคนที่อยู่ตรงหน้า ชางโจมายืนอยู่ตรงนี้ทำไมกัน เขาควรจะไปซ้อมกีฬาไม่ใช่หรอ
"..........."ชางโจหันหน้ามามองผม แต่ก็ไม่พูดอะไร
หมับ
"เฮ้ย"แต่อยู่ๆก็มาจับมือผมก่อนจะออกแรงลาก
"เดินมาดีๆสิ"คนตัวโตบ่นเพราะขาสั้นๆของผมเดินตามไม่ทันน่ะสิ ช่วยผมด้วย ช่วยคนขาสั้นคนนี้ด้วย T_T
"ก็อยากเดินดีๆอยู่ แต่มันเดินไม่ทันโว้ย แล้วจะพาไปไหนเนี่ย"
"นีแอลฮยองให้ไปส่งนายที่บ้าน"จนได้สิครับ นีแอลฮยองทำเรื่องจนได้ ผมอุตส่าห์บอกไปแล้วว่าไม่ต้อง เฮ้อ
"แล้วนายก็มาอ่ะนะ ไม่ซ้อมกีฬาหรอ"
"ไม่ วันนี้หยุด เลิกพุดซักทีได้ป่ะ"ชางโจตะคอกผมแล้ว หุบปากแล้ว ไอ้หมีโหด
"อ้าว นึกว่าใครที่แท้ก็ริคกี้นี่เอง"เสียงนึงดังขัดการเดินของชางโจก่อนที่หน้าผมจะกระแทกกับแผ่นหลังแกร่งนั่น
".............."เงียบสิครับใครว่ะ ไม่รู้จัก
"ทำหน้าอย่างนั้นจำกันไม่ได้ซินะ เด็กปัญญาอ่อน" จี๊ดเลยครับ เหมือนจะมีคนเดียวที่เรียกผมอย่างนี้นะ
"ชางฮุน"
"จำได้แล้วหร......"
"ชางฮุน"เสียงที่คุ้นเคยเรียกคนที่เข้ามาทักพวกผม
"มินวู ไปกันเถอะ"พูดจบก็จับมือเพื่อนสนิทของผมที่เพิ่งเดินเข้ามาออกไป
"ไม่รีบกลับบ้านหรอ"
"กลับ กลับ ไปกันเถอะ"ผมรีบพูดเมื่อชางโจเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์ เกิดเค้าโกรธแล้วไม่พูดกับผมก็ไม่ดีหรอกมั้ง ใช่ไหมหล่ะ
.
.
.
.
.
.
"ถึงแล้วขอบใจนะที่มาส่ง"ผมยิ้มให้กับคนตัวสูงก่อนจะเดินเข้าบ้านไป
ครืน ครืน
ซ่า
ผมว่าช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยนะครับ เดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็หนาว เดี๋ยวก็ฝน คนอย่างเราตามสภาพอากาศแทบไม่ทัน เหมือนตอนนี้หน้าหนาวแท้ฝนกับกระหน่ำเทลงมาดีนะเนี่ยที่ผมไม่ได้ตากผ้าไว้ ไม่งั้นวิ่งเก็บจนเหนื่อยแน่เลย
ติ๊ง ติ๊ง
เสียงออดหน้าบ้านทำให้ผมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเกิดสงสัย ผมควรจะไปดูก่อนหรือควรจะแต่งตัวก่อนดี
ติีงๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงออดรัวขนาดนี้คงแต่งตัวไม่ทันแล้วหล่ะ จะรีบอะไรกันนักกันหนาเนี่ย
เปิดประตูออกไปดูก็ต้องตกใจกับคนที่อยู่หน้าบ้าน ชางโจที่เพิ่งลากันไปซักพักตอนนี้อยู่ที่หน้าบ้านผมในสภาพที่ดูไม่ได้เลย เปียกโชก
"ขอเข้าไปหน่อยสิ"
หมดคำพูดชางโจ ผมก็รีบวิ่งไปหยิบร่มกับกุญแจบ้านก่อนจะไปไขแล้วพาคนตัวสูงเข้าบ้านมา
"ทำไมมาในสภาพนี้เนี่ย"
"อยู่นี่ซักพักได้ไหม"
"หา?"ผมฟังผิดหรือเปล่าที่ว่าเขาจะมาอยู่บ้านผมซักพักหน่ะ บ้านก็อยู่แค่นี้จะมาอยู่บ้านผมทำไม
"ลืมกุญแจไว้ในบ้าน เดี๋ยวแม่มาก็ไม่รบกวนแล้ว"กระจ่างครับ พูดอย่างกะอ่านใจผมได้อย่างนั้นแหละ
"อ้อ งั้นเราไปแต่งตัวก่อนนะ"เดินได้ไม่เท่าไหร่ผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ "ชางโจอาบน้ำไหม นายตัวเปียกมากเลยนะ"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวแม่ก็มา"
"งั้นหรอ ถ้าอยากอาบชั้นนี้มีห้องอาบน้ำ อาบได้เลยนะ"
".................."เงียบ ไอ้หมีหยิ่ง ไอ้หมีหน้าโหด
ตอนนี้ผมก็แต่งตัวเสร็จแล้ว ลงไปดูแขกหน่อยก็ดีนะ
"ครับ ผมอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง"เสียงแขกดังตอนที่ผมกำลังเดินลงบันได
"มีอะไรหรือเปล่า"ผมถามเพราะดูสีหน้าคนตัวโตไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่
"เอ่อ"คนตัวโตได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ จะพูดอะไรก็พูดมาสิ "แม่ฉันไปทำงานต่างประเทศ กลับอาทิตย์หน้า"
"อือ แล้วนายจะเข้าบ้านไงอ่ะ"
"ขออยู่บ้านนายจนกว่าแม่จะกลับมาได้ไหม"
"O_O"อึ้งครับ ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่ผมก็ไม่เคยอยู่กับเพื่อนสองคนนานเป็นอาทิตย์อย่างนี้ มันรู้สึกเขินอย่างไงก็ไม่รู้
"ได้ไหม"
"เอาสิ"หมีอ้อนครับ หมีอ้อน ไม่ใจอ่อนให้มันรู้ไป "แล้วนายมีชุดใส่หรอ"
"ที่มหาลัยมีบ้าง ค้างบ่อย"
"อ้อ งั้นก็ไปอาบน้ำได้แล้ว"พูดจบก็ส่งผ้าขนหนูให้คนตัวโตที่หยิบติดลงมาเพราะคิดว่าจะเอามาให้เช็ดหัวเพราะหัวเปียกๆอย่างนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอา
คนตัวโตหยิบผ้าขนหนูไปโดยไม่พูดอะไรก่อนจะเข้าไปไหนห้องน้ำ ผมลืมอะไรไปหรือเปล่านะ
"ริคกี้ มีชุดให้ใส่บ้างไหม"ซักพักชางโจก็ส่งเสียงก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียว >////< ผมรู้แล้วว่าผมลืมอะไร ผมลืมไปว่าชางโจไม่มีเสื้อผ้าตัวอื่นนอกจากชุดที่เขาใส่มา
"น่าจะพอมีนะ เดี๋ยวไปดูให้"
หลังจากที่ไปหาชุดให้ชางโจผมก็หยิบชุดที่แม่หยิบติดมา เป็นเสื้อของพ่อ เสื้อของคนที่ผมคิดถึงที่สุด
"ตัวนี้น่าจะได้นะ ลองใส่สิ"
"อืม"ชางโจรับชุดไปใส่ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาดูดีจัง ถ้าพ่อใส่ชุดนี้จะหล่อเหมือนชางโจหรือเปล่านะ
ผมว่าพ่อผมต้องหล่อกว่าชางโจแน่เลย
อยู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา ผมคิดถึงพ่อของผมจัง
หมับ
ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ผมก็ได้รับความอบอุ่นจากอกที่แข็งแกร่ง กอดที่เหมือนจะปลอบประโลมให้หายเศร้า
"นายน่ะ ไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะ"ร่างสูงก้มตัวลงก่อนจะปาดน้ำออกจากดวงตาของผม "พ่อหมีไม่อยากเห็นหรอกนะ น้ำตาหน่ะ"
"อือ ไม่ร้องแล้ว"ผมยืดตัวเต็มความสูง แต่ก็ยังไม่เท่าคนตัวสูงข้างหน้า "กินข้าวกันเถอะ"
ระหว่างกินข้าวเย็น ผมว่าชางโจเป็นคนที่อารมณ์เปลี่ยนเร็วมาก ตอนนี้เขาทำหน้านิ่งใส่ผมอีกแล้วหล่ะ ผมไม่ชอบหน้าแบบนี้ของเขาเลย
"ชางโจ ไม่เช็ดผมหรอ เดี๋ยวไม่สบายนะ"
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็แห้ง"ชางโจพูดก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อไป
"ชางโจนอนห้องเดียวกับเราได้ไหม พอดีอีกห้องแม่เราเก็บกุญแจไว้ เราเปิดไม่ได้อ่ะ" ผมพูดขึ้นเมื่อเราทานอาหารกันเสร็จแล้ว
"อือ เดี๋ยวเรานอนพื้น"
"นอนบนเตียงก็ได้ ออกจะกว้าง"
"ก็ได้"
.
.
.
.
.
.
"นอนกันเถอะ"ผมเอ่ยปากชวนคนตัวโตที่กำลังนั่งทบทวนเนื้อหาอยู่ นี่มันก็ดึกมากแล้วไม่นอนเดี๋ยวจะไม่สบายเอา
"อือ"คนตัวโตลุกจากโต๊ะก่อนจะเดินมานั่งบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอน "ขอกอดได้ไหม"
"อือ"ด้วยความง่วงผมจึงตอบตกลงคนตัวโต
"กอดทั้งคืนเลยนะ มันหนาว"คนตัวโตกระซิบข้างหูก่อนจะเอาหัวมาชนกับหัวของผมแล้วกอดผมไว้หลวมๆ
ผมรู้สึกว่าร่างสูงข้างๆจะมีอาการแปลกๆ จากกอดหลวมๆก็กลายเป็นกอดที่แน่นขึ้น พร้อมกับเหงื่อที่ค่อยๆผุดออกมา แต่ตอนนี้ผมง่วงมากเลย พรุ่งนี้ค่อยดูแล้วกันนะว่าเป็นอะไร
.
.
.
.
.
.
"ชางโจ!" ผมจะทำยังไงดีหล่ะ ก็คนตัวโตที่นอนกอดผมเมื่อคืน ตื่นเช้ามาก็ตัวร้อนจี๋ขนาดนี้ เมื่อคืนผมน่าจะเอะใจซักหน่อยว่าทำไมชางโจถึงบอกว่าหนาวทั้งที่ผมตั้งอุณหภูมิของแอร์ไว้ค่อนข้างสูง แล้วยังจะเหงื่อที่ไหลออกมานั่นอีกมันทำให้ผมเป็นห่วงเขาอยู่ไม่น้อย
ผมรีบเข้าไปในห้องน้ำก่่อนจะหยิบกะละมังแล้วใส่น้ำเพื่อจะเอาไปเช็ดตัวให้คนป่วยที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ผมก็บอกเขาไปแล้วนะว่าให้อาบน้ำแล้วก็เช็ดผมให้แห้งเพราะถ้าไม่ทำแล้วจะไม่สบาย เป็นไงหล่ะตอนนี้เลยนอนป่วยอยู่บนเตียงอย่างนี้น่ะ
หยิบของเสร็จผมก็เอากะละมังไปวางไว้บนหัวเตียงก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของร่างสูงตรงหน้าช้าๆ อยู่ๆผมก็รู้สึกเขินๆอย่างไงก็ไม่รู้ ก็ต้องมามองแผ่นอกกว้างๆตรงๆอย่างนี้ผมไม่เคยทำสักหน่อย อีกอย่างผมกับชางโจเราก็ไม่ได้เจอกันมาต้องนานให้มาทำอย่างนี้บอกเลยว่าไม่ชิน
หลังจากทำใจอยู่นานผมก้สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆเอาผ้าขนหนูลูบไปทุกบริเวณของร่างกายของชางโจ หมอนี่ไปฟิตหุ่นตั้งแต่ตอนไหนนะ ตอนเด็กๆยังตัวเล็กๆอยู่เลยอ่ะ ตอนนี้ผมตามชางโจไม่ทันแล้ว มีที่ตามทันอย่างเดียวก็คือน้ำหนัก
หลังจากที่เช็ดตัวให้ผู้ป่วยเสร็จแล้ว ผมว่าผมควรจะไปทำอะไรให้ชางโจกินซักหน่อย เพราะคนป่วยตื่นมาจะต้องหิวมากๆแน่เลย
.
.
.
.
.
.
"เฮ้ย" ถึงกับตกใจจนชามข้าวต้มแทบร่วง ชางโจนะชางโจจะมายืนอยู่หน้าประตูทำไม ดีที่มีสติอยู่บ้างไม่งั้นข้าวต้มถ้วยนี้ได้ลงไปละเลงอยู่ที่พื้นแน่ๆ
"อ้าว ริคกี้อยู่นี่เอง"
"ไม่ต้องมาองมาอ้าวเลย ไม่สบายอยู่จะลุกมาทำไม"ผมบ่นคนป่วยที่ไม่เจียมตัวยังไม่หายดีจะลุกมาทำไม ถ้าเกิดมึนแล้วล้มไปจะทำไง
"ก็หิวเลยจะลงไปหาอะไรกิน"
"งั้นก็กินนี่ซะ ไม่สบายแล้วยังจะลุกไปไหนอีก"พูดจบก็ยื่นชามข้าวต้มที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆให้ คนตัวโตก็รับไปโดยไม่พูดอะไรก่อนจะรีบตักเข้าปาก
"โอ๊ย ร้อน ร้อน ร้อน ฮื่อ"เพราะกินแบบโลกนี้ไม่มีของร้อนผลก็คือร้องลั่นบ้านเยี่ยงนี้แล ผมรีบเข้าไปดูคนป่วยที่ร้องจะเป็นจะตายว่าร้อน
"เป็นไงหล่ะ กินไม่เป่าเลยเจ็บตัวเลยอ่ะ"ว่าแล้วก็มองไปที่ปากแดงๆที่ไม่รู้จะแดงยังไงแล้ว ก่อนจะเป่าเบาๆลงไป "ฟู่ว หายแล้ว"
"ริคกี้"เสียงของชางโจเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปก่อนจะสบตาที่ผมไม่สามารถแปลความหมายของมันได้ มันดูสับสนยังไงก็ไม่รู้ "ทำไมไม่มาหาเรา"
"ห๊า มาหาอะไร"อยู่ดีๆถามก็ขึ้นมาแล้วเราจะไปรู้ไหมว่ามาหาอะไร ก็เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้เองแล้วก็ยังไม่ได้นัดกันตอนไหนเลย
"ชั่งมันเถอะ"
"ตอบมานะว่าตอนไหน"พูดแล้วก็ทำตาอ้อนๆที่ใครเห็นก็บอกว่ามันน่ารัก ผมไม่ค่อยใช้กับใครหรอกนะ ก่อนจะค่อยๆเขยิบเข้าใกล้หมีตัวใหญ่ที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่
"เฮ้ย บอกก็ได้ ตอนที่เราย้ายบ้านไง"คำตอบของหมีทำให้ผมหยุดค้างก่อนจะหลุบตาต่ำ"นายสัญญาแล้วก็ไม่ไป เราโกรธมากเลยนะ"
"เราขอโทษ แต่เราไปไม่ได้"
"ทำไมหล่ะริคกี้! ทำไมไปไม่ได้"ชางโจตะคอกใส่ผมใหญ่ เขาควรจะรู้สิว่าทำไม มันเป็นวันที่สำคัญอีกวันของผมเลยนะ
"ทำไมหล่ะชางโจ ทำไมนายจำวันที่พ่อเราตายไม่ได้"พูดจบน้ำตาที่พยายมกลั้นก็ไหลออกมา น้ำตาที่มาจากความกลัวที่ชางโจตะคอกแล้วก็มาจากที่ต้องพูดเรื่องของพ่อ ผมเคยบอกเขาว่าวันนั้นเป็นวันที่ีพ่อของผมเสีย และตอนที่ผมสัญญาว่าจะไปส่งเขาวันที่เขาจะไปก็ยังไม่แน่นอน
"ริคกี้ เราขอโทษ เราลืม ไม่ร้องนะ"ชางโจเข้ามากอดปลอบและเสียงที่อ่อนลงนั้นทำให้ความกลัวนั้นลดลงไปพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆเหือดแห้ง "แต่ทำไมไม่ตอบจดหมายเราเลยหล่ะ"
"ห๊า จดหมายอะไร"
"ก็เราส่งให้ริคกี้ไปต้องหลายฉบับ"จดหมายอะไรว่ะ คนน่ารักงงไปหมดแล้ว ผมไม่เคยได้อะไรอย่างนั้นเลยนะ
"ไม่เห็นเคยได้เลย"ผมพูดก่อนจะค่อยๆคิด วันที่ผมให้ที่อยู่ชางโจวันนั้นผมรีบมากแล้วไงต่อน้า "ชางโจ นายส่งไปบ้านเลขที่อะไร"
"122/11"นั่นไงสิ่งที่ผมคิดไม่ผิดจริงๆด้วย
"ชางโจ นายส่งไปผิดบ้าน บ้านเรา 122/17 นึกอยู่แล้วเชียว"เพราะวันนั้นผมรีบมาก ผมเลยเขียนแบบลวกๆไปให้แล้วเลข1กับ7ของผมก็คล้ายกันมาก ชางโจเลยดูผิด ส่งไปอีกบ้าน
"จริงดิ อ่าริคกี้เราขอโทษน้า"พุดไปก็เอาคางแหลมๆถูที่ไหล่ของผม จัีกจี้จังเลยอ่ะ
"พอแล้ว จั๊กจี้อ่ะ"ผมรีบผลักคนตัวโตเพราะรู้สึกถึงลมหายใจที่รดต้นคออยู่ มันรู้สึกแปลกๆอ่ะ
"ริคกี้รู้ไหมวันนั้นเรามีเรื่องอยากจะบอก แต่ริคกี้ไม่มาเราเลยไม่ได้บอก"ชางโจจับให้ผมมองหน้าเขาตรงๆ ทำไมยิ่งมองหน้าเขาผมก็รู้สึกหน้าร้อนๆยังไงก็ไม่รู้
"อะไรหล่ะ"
"อ่ะนี่"ชางโจถอดสร้อยคอรูปหมีที่เขาใส่ติดตัวออกมา ก่อนจะยื่นให้ผม ผมรับมาอย่างงงๆไหนว่ามีอะไรจะบอกแล้วให้สร้อยคอมาทำไม รับมาผมก็หมุนจี้รูปหมีดูรอบๆก่อนจะเจอกับอักษรที่สลักไว้
'LOVE YOO'
ใครไม่รู้ก็ต้องคิดว่าทักษะภาษาอังกฤษของชางโจต้องแย่มากแน่ๆ ถึงสลักคำว่า YOO แทนที่จะเป็น YOU แต่ผมเข้าใจนะว่า YOO หมายถึงอะไร
"LOVE YOU YOO Changhyun"คำพูดที่เหมือนย้ำความหมายของประโยคที่สลักไว้ที่จี้ทำให้ผมเขิน รู้สึกว่าหน้าผมร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันต้องแดงมากแน่ๆเลย "นายจะรับมันไว้ไหม"
"ถ้าให้ก็ใส่ให้ด้วยดิ"ผมพุดอย่างอายๆก่อนจะยื่นสร้อยไปให้คนตัวโตแล้วหันหลังให้จะได้ใส่ง่ายๆ "ใส่ดิ"
"หันหน้ามาดิ" ผมหันหน้าตามที่เขาสั่ง "ริคกี้ของฉันน่ารักที่สุดเลย"
"อะไรเล่า ไม่ต้องชมเลย"เขินนะครับ เขินมากด้วย มาชมกันซึ่งๆหน้าอย่างนี้นะ
"ริคกี้มาเป็นหมูของเรานะ"ชางโจพูดขึ้นมา แต่อะไรนะ หมูหรอ ชางโจว่าผมใช่ไหมอ่ะ ชางโจว่าผมอ้วนเป็นหมูใช่หมายยยย
"ชางโจว่าเราเป็นหมูหรอ"
"ไม่ได้ว่านะ เราเป็นหมี ริคก็เป็นหมูไง น่ารักดี"ชางโจพูดแล้วก็ยิ้มขำๆ ขำทำไมหน้าผมตลกมากหรือไง "ริคกี้น่ารัก"
"ไม่ต้องพูดแล้ว รู้แล้วว่าตัวเองน่ารัก"ยิ่งพูดก็ยิ่งเขิน หมูควรทำไงดี
"น่ารักอย่างนี้ต้องจูบ"ยังไม่ทันไรหมีตัวใหญ่ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แต่ใครจะให้ง่ายๆหล่ะ ผมเลยผลักอกชางโจออกแล้วรีบเดินลงเตียงไป
"ไม่เกี่ยวกับน่ารักซักหน่อย อย่ามามั่ว"
"ไม่รู้ ไม่ชี้ จะอาววววว"หมีดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียง มองไปก็น่ารักไปอีกแบบ "ไม่สงสารคนป่วยหรอ"
"ไม่เลย ยิ่งป่วยก็ยิ่งไม่ควรทำ เดี๋ยวเราติดหวัดไปด้วย"คนป่วยที่ดูอย่างไงก็ไม่ใช่คนป่วย หน้าตาดูสดชิ่นขึ้นแบบไม่เคยป่วยมาก่อนดูยังไงก็ไม่น่าสงสารเลยแม้แต่น้อย
"งั้นถ้าหาย แล้วจะให้ใช่ป่ะ"หมีทำหน้าตาตื่นเต้นรอคำตอบ ผมควรจะตอบว่าอะไรดีอ่ะ
"ก็ได้ แต่ตอนนี้กินข้าวก่อน เย็นหมดแล้ว"ผมยกชามข้าวต้มที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ยังร้อนจนลวกปากคนป่วยจนตอนนี้เย็นชืดไร้รสมาให้คนป่วย
"หมีรักหมูนะ"ชางโจพูดขณะที่กินข้าวต้มที่ผมเป็นคนป้อน "หมูรักหมีไหม"
"ไม่รัก"ผมพูดไป ชางโจก็ทำหน้าหงอยๆใส่ "ไม่รักไม่มาดูแลหรอก ถามอะไรก็ไม่รู้"
"หมูอ่ะ ตอบไม่ตรงคำถาม ตอบใหม่"
"หมูรักหมี พอใจยัง รักมากด้วย"ผมตอบไป ชีวิตอีก 6 วันที่ผมต้องอยู่กับหมีตัวใหญ่ตัวนี้จะมีความสุขแค่ไหนผมไม่อยากคิดเลย ><
................................................................................................................................................
10/12/56 สปอยเล็กๆ เนื่องจากเจอความฟินจากคอนทำให้เกิดอาการอยากแต่งขึ้นมา ใครที่ทักริคกี้กับชางโจ แล้วทำไมชางโจดูไม่ชอบหน้าริคกี้ ติดตามตอนต่อไปนะ
17/12/56 วันนี้ว่างๆก็มาอัพ แต่รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะยาว แต่ไรท์คงไม่เพิ่มตอน แต่จะลงเพิ่มในตอนนี้จนจบ
ส่วน ชอนโจนั้น รอไรท์แต่งคู่นี้เสร็จก่อนแล้วไรท์จะลงที่เหลือให้
18/01/57 จบแล้วค่ะกับคู่น้องเล็ก ตอนแรกไรทืจะลงวันปีใหม่ แต่งเสร็จแล้วด้วยแต่มือถือแบตหมด ที่แต่งไว้เลยหายหมด (ไรท์แต่งในมือถือ) ส่วนวันที่ลงไปนิดเดียวนั้น ไรท์ก็จะแต่งให้จบนั่นแหละ แต่ด้วยความง่วงไรทืเลยหลับคาคอมตื่นอีกทีก็แต่งไม่ไหวเลยกดบันทึกไว้ก่อน
แต่ตอนนี้ก็จบแล้วเนอะ มีใครงงๆไหม คอมเม้นต์บอกได้นะ ไรท์ชอบคอมเม้นต์ที่สุดเลย มันทำให้ไรทืมีกำลังใจ ส่วนใครที่รออีกคู่ก็รอไปก่อนนะ ช่วงนี้ไรท์เรียนหนักมากเลย งานก็เยอะ อาจจะได้ลงช้าหน่อยนะ
ตอนนี้ไรท์มีทวิตเตอร์แล้วนะ @liwbing_bs ไปคุยกันได้นะ ไรท์ไม่กัด อิอิ
รักรีดเดอร์ทุกคนน้า
แถม
♔ vip ◦
"..........."ชางโจหันหน้ามามองผม แต่ก็ไม่พูดอะไร
หมับ
"เฮ้ย"แต่อยู่ๆก็มาจับมือผมก่อนจะออกแรงลาก
"เดินมาดีๆสิ"คนตัวโตบ่นเพราะขาสั้นๆของผมเดินตามไม่ทันน่ะสิ ช่วยผมด้วย ช่วยคนขาสั้นคนนี้ด้วย T_T
"ก็อยากเดินดีๆอยู่ แต่มันเดินไม่ทันโว้ย แล้วจะพาไปไหนเนี่ย"
"นีแอลฮยองให้ไปส่งนายที่บ้าน"จนได้สิครับ นีแอลฮยองทำเรื่องจนได้ ผมอุตส่าห์บอกไปแล้วว่าไม่ต้อง เฮ้อ
"แล้วนายก็มาอ่ะนะ ไม่ซ้อมกีฬาหรอ"
"ไม่ วันนี้หยุด เลิกพุดซักทีได้ป่ะ"ชางโจตะคอกผมแล้ว หุบปากแล้ว ไอ้หมีโหด
"อ้าว นึกว่าใครที่แท้ก็ริคกี้นี่เอง"เสียงนึงดังขัดการเดินของชางโจก่อนที่หน้าผมจะกระแทกกับแผ่นหลังแกร่งนั่น
".............."เงียบสิครับใครว่ะ ไม่รู้จัก
"ทำหน้าอย่างนั้นจำกันไม่ได้ซินะ เด็กปัญญาอ่อน" จี๊ดเลยครับ เหมือนจะมีคนเดียวที่เรียกผมอย่างนี้นะ
"ชางฮุน"
"จำได้แล้วหร......"
"ชางฮุน"เสียงที่คุ้นเคยเรียกคนที่เข้ามาทักพวกผม
"มินวู ไปกันเถอะ"พูดจบก็จับมือเพื่อนสนิทของผมที่เพิ่งเดินเข้ามาออกไป
"ไม่รีบกลับบ้านหรอ"
"กลับ กลับ ไปกันเถอะ"ผมรีบพูดเมื่อชางโจเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์ เกิดเค้าโกรธแล้วไม่พูดกับผมก็ไม่ดีหรอกมั้ง ใช่ไหมหล่ะ
.
.
.
.
.
.
"ถึงแล้วขอบใจนะที่มาส่ง"ผมยิ้มให้กับคนตัวสูงก่อนจะเดินเข้าบ้านไป
ครืน ครืน
ซ่า
ผมว่าช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยนะครับ เดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็หนาว เดี๋ยวก็ฝน คนอย่างเราตามสภาพอากาศแทบไม่ทัน เหมือนตอนนี้หน้าหนาวแท้ฝนกับกระหน่ำเทลงมาดีนะเนี่ยที่ผมไม่ได้ตากผ้าไว้ ไม่งั้นวิ่งเก็บจนเหนื่อยแน่เลย
ติ๊ง ติ๊ง
เสียงออดหน้าบ้านทำให้ผมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเกิดสงสัย ผมควรจะไปดูก่อนหรือควรจะแต่งตัวก่อนดี
ติีงๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงออดรัวขนาดนี้คงแต่งตัวไม่ทันแล้วหล่ะ จะรีบอะไรกันนักกันหนาเนี่ย
เปิดประตูออกไปดูก็ต้องตกใจกับคนที่อยู่หน้าบ้าน ชางโจที่เพิ่งลากันไปซักพักตอนนี้อยู่ที่หน้าบ้านผมในสภาพที่ดูไม่ได้เลย เปียกโชก
"ขอเข้าไปหน่อยสิ"
หมดคำพูดชางโจ ผมก็รีบวิ่งไปหยิบร่มกับกุญแจบ้านก่อนจะไปไขแล้วพาคนตัวสูงเข้าบ้านมา
"ทำไมมาในสภาพนี้เนี่ย"
"อยู่นี่ซักพักได้ไหม"
"หา?"ผมฟังผิดหรือเปล่าที่ว่าเขาจะมาอยู่บ้านผมซักพักหน่ะ บ้านก็อยู่แค่นี้จะมาอยู่บ้านผมทำไม
"ลืมกุญแจไว้ในบ้าน เดี๋ยวแม่มาก็ไม่รบกวนแล้ว"กระจ่างครับ พูดอย่างกะอ่านใจผมได้อย่างนั้นแหละ
"อ้อ งั้นเราไปแต่งตัวก่อนนะ"เดินได้ไม่เท่าไหร่ผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ "ชางโจอาบน้ำไหม นายตัวเปียกมากเลยนะ"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวแม่ก็มา"
"งั้นหรอ ถ้าอยากอาบชั้นนี้มีห้องอาบน้ำ อาบได้เลยนะ"
".................."เงียบ ไอ้หมีหยิ่ง ไอ้หมีหน้าโหด
ตอนนี้ผมก็แต่งตัวเสร็จแล้ว ลงไปดูแขกหน่อยก็ดีนะ
"ครับ ผมอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง"เสียงแขกดังตอนที่ผมกำลังเดินลงบันได
"มีอะไรหรือเปล่า"ผมถามเพราะดูสีหน้าคนตัวโตไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่
"เอ่อ"คนตัวโตได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ จะพูดอะไรก็พูดมาสิ "แม่ฉันไปทำงานต่างประเทศ กลับอาทิตย์หน้า"
"อือ แล้วนายจะเข้าบ้านไงอ่ะ"
"ขออยู่บ้านนายจนกว่าแม่จะกลับมาได้ไหม"
"O_O"อึ้งครับ ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่ผมก็ไม่เคยอยู่กับเพื่อนสองคนนานเป็นอาทิตย์อย่างนี้ มันรู้สึกเขินอย่างไงก็ไม่รู้
"ได้ไหม"
"เอาสิ"หมีอ้อนครับ หมีอ้อน ไม่ใจอ่อนให้มันรู้ไป "แล้วนายมีชุดใส่หรอ"
"ที่มหาลัยมีบ้าง ค้างบ่อย"
"อ้อ งั้นก็ไปอาบน้ำได้แล้ว"พูดจบก็ส่งผ้าขนหนูให้คนตัวโตที่หยิบติดลงมาเพราะคิดว่าจะเอามาให้เช็ดหัวเพราะหัวเปียกๆอย่างนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอา
คนตัวโตหยิบผ้าขนหนูไปโดยไม่พูดอะไรก่อนจะเข้าไปไหนห้องน้ำ ผมลืมอะไรไปหรือเปล่านะ
"ริคกี้ มีชุดให้ใส่บ้างไหม"ซักพักชางโจก็ส่งเสียงก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียว >////< ผมรู้แล้วว่าผมลืมอะไร ผมลืมไปว่าชางโจไม่มีเสื้อผ้าตัวอื่นนอกจากชุดที่เขาใส่มา
"น่าจะพอมีนะ เดี๋ยวไปดูให้"
หลังจากที่ไปหาชุดให้ชางโจผมก็หยิบชุดที่แม่หยิบติดมา เป็นเสื้อของพ่อ เสื้อของคนที่ผมคิดถึงที่สุด
"ตัวนี้น่าจะได้นะ ลองใส่สิ"
"อืม"ชางโจรับชุดไปใส่ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาดูดีจัง ถ้าพ่อใส่ชุดนี้จะหล่อเหมือนชางโจหรือเปล่านะ
ผมว่าพ่อผมต้องหล่อกว่าชางโจแน่เลย
อยู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา ผมคิดถึงพ่อของผมจัง
หมับ
ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ผมก็ได้รับความอบอุ่นจากอกที่แข็งแกร่ง กอดที่เหมือนจะปลอบประโลมให้หายเศร้า
"นายน่ะ ไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะ"ร่างสูงก้มตัวลงก่อนจะปาดน้ำออกจากดวงตาของผม "พ่อหมีไม่อยากเห็นหรอกนะ น้ำตาหน่ะ"
"อือ ไม่ร้องแล้ว"ผมยืดตัวเต็มความสูง แต่ก็ยังไม่เท่าคนตัวสูงข้างหน้า "กินข้าวกันเถอะ"
ระหว่างกินข้าวเย็น ผมว่าชางโจเป็นคนที่อารมณ์เปลี่ยนเร็วมาก ตอนนี้เขาทำหน้านิ่งใส่ผมอีกแล้วหล่ะ ผมไม่ชอบหน้าแบบนี้ของเขาเลย
"ชางโจ ไม่เช็ดผมหรอ เดี๋ยวไม่สบายนะ"
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็แห้ง"ชางโจพูดก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อไป
"ชางโจนอนห้องเดียวกับเราได้ไหม พอดีอีกห้องแม่เราเก็บกุญแจไว้ เราเปิดไม่ได้อ่ะ" ผมพูดขึ้นเมื่อเราทานอาหารกันเสร็จแล้ว
"อือ เดี๋ยวเรานอนพื้น"
"นอนบนเตียงก็ได้ ออกจะกว้าง"
"ก็ได้"
.
.
.
.
.
.
"นอนกันเถอะ"ผมเอ่ยปากชวนคนตัวโตที่กำลังนั่งทบทวนเนื้อหาอยู่ นี่มันก็ดึกมากแล้วไม่นอนเดี๋ยวจะไม่สบายเอา
"อือ"คนตัวโตลุกจากโต๊ะก่อนจะเดินมานั่งบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอน "ขอกอดได้ไหม"
"อือ"ด้วยความง่วงผมจึงตอบตกลงคนตัวโต
"กอดทั้งคืนเลยนะ มันหนาว"คนตัวโตกระซิบข้างหูก่อนจะเอาหัวมาชนกับหัวของผมแล้วกอดผมไว้หลวมๆ
ผมรู้สึกว่าร่างสูงข้างๆจะมีอาการแปลกๆ จากกอดหลวมๆก็กลายเป็นกอดที่แน่นขึ้น พร้อมกับเหงื่อที่ค่อยๆผุดออกมา แต่ตอนนี้ผมง่วงมากเลย พรุ่งนี้ค่อยดูแล้วกันนะว่าเป็นอะไร
.
.
.
.
.
.
"ชางโจ!" ผมจะทำยังไงดีหล่ะ ก็คนตัวโตที่นอนกอดผมเมื่อคืน ตื่นเช้ามาก็ตัวร้อนจี๋ขนาดนี้ เมื่อคืนผมน่าจะเอะใจซักหน่อยว่าทำไมชางโจถึงบอกว่าหนาวทั้งที่ผมตั้งอุณหภูมิของแอร์ไว้ค่อนข้างสูง แล้วยังจะเหงื่อที่ไหลออกมานั่นอีกมันทำให้ผมเป็นห่วงเขาอยู่ไม่น้อย
ผมรีบเข้าไปในห้องน้ำก่่อนจะหยิบกะละมังแล้วใส่น้ำเพื่อจะเอาไปเช็ดตัวให้คนป่วยที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ผมก็บอกเขาไปแล้วนะว่าให้อาบน้ำแล้วก็เช็ดผมให้แห้งเพราะถ้าไม่ทำแล้วจะไม่สบาย เป็นไงหล่ะตอนนี้เลยนอนป่วยอยู่บนเตียงอย่างนี้น่ะ
หยิบของเสร็จผมก็เอากะละมังไปวางไว้บนหัวเตียงก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของร่างสูงตรงหน้าช้าๆ อยู่ๆผมก็รู้สึกเขินๆอย่างไงก็ไม่รู้ ก็ต้องมามองแผ่นอกกว้างๆตรงๆอย่างนี้ผมไม่เคยทำสักหน่อย อีกอย่างผมกับชางโจเราก็ไม่ได้เจอกันมาต้องนานให้มาทำอย่างนี้บอกเลยว่าไม่ชิน
หลังจากทำใจอยู่นานผมก้สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆเอาผ้าขนหนูลูบไปทุกบริเวณของร่างกายของชางโจ หมอนี่ไปฟิตหุ่นตั้งแต่ตอนไหนนะ ตอนเด็กๆยังตัวเล็กๆอยู่เลยอ่ะ ตอนนี้ผมตามชางโจไม่ทันแล้ว มีที่ตามทันอย่างเดียวก็คือน้ำหนัก
หลังจากที่เช็ดตัวให้ผู้ป่วยเสร็จแล้ว ผมว่าผมควรจะไปทำอะไรให้ชางโจกินซักหน่อย เพราะคนป่วยตื่นมาจะต้องหิวมากๆแน่เลย
.
.
.
.
.
.
"เฮ้ย" ถึงกับตกใจจนชามข้าวต้มแทบร่วง ชางโจนะชางโจจะมายืนอยู่หน้าประตูทำไม ดีที่มีสติอยู่บ้างไม่งั้นข้าวต้มถ้วยนี้ได้ลงไปละเลงอยู่ที่พื้นแน่ๆ
"อ้าว ริคกี้อยู่นี่เอง"
"ไม่ต้องมาองมาอ้าวเลย ไม่สบายอยู่จะลุกมาทำไม"ผมบ่นคนป่วยที่ไม่เจียมตัวยังไม่หายดีจะลุกมาทำไม ถ้าเกิดมึนแล้วล้มไปจะทำไง
"ก็หิวเลยจะลงไปหาอะไรกิน"
"งั้นก็กินนี่ซะ ไม่สบายแล้วยังจะลุกไปไหนอีก"พูดจบก็ยื่นชามข้าวต้มที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆให้ คนตัวโตก็รับไปโดยไม่พูดอะไรก่อนจะรีบตักเข้าปาก
"โอ๊ย ร้อน ร้อน ร้อน ฮื่อ"เพราะกินแบบโลกนี้ไม่มีของร้อนผลก็คือร้องลั่นบ้านเยี่ยงนี้แล ผมรีบเข้าไปดูคนป่วยที่ร้องจะเป็นจะตายว่าร้อน
"เป็นไงหล่ะ กินไม่เป่าเลยเจ็บตัวเลยอ่ะ"ว่าแล้วก็มองไปที่ปากแดงๆที่ไม่รู้จะแดงยังไงแล้ว ก่อนจะเป่าเบาๆลงไป "ฟู่ว หายแล้ว"
"ริคกี้"เสียงของชางโจเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปก่อนจะสบตาที่ผมไม่สามารถแปลความหมายของมันได้ มันดูสับสนยังไงก็ไม่รู้ "ทำไมไม่มาหาเรา"
"ห๊า มาหาอะไร"อยู่ดีๆถามก็ขึ้นมาแล้วเราจะไปรู้ไหมว่ามาหาอะไร ก็เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้เองแล้วก็ยังไม่ได้นัดกันตอนไหนเลย
"ชั่งมันเถอะ"
"ตอบมานะว่าตอนไหน"พูดแล้วก็ทำตาอ้อนๆที่ใครเห็นก็บอกว่ามันน่ารัก ผมไม่ค่อยใช้กับใครหรอกนะ ก่อนจะค่อยๆเขยิบเข้าใกล้หมีตัวใหญ่ที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่
"เฮ้ย บอกก็ได้ ตอนที่เราย้ายบ้านไง"คำตอบของหมีทำให้ผมหยุดค้างก่อนจะหลุบตาต่ำ"นายสัญญาแล้วก็ไม่ไป เราโกรธมากเลยนะ"
"เราขอโทษ แต่เราไปไม่ได้"
"ทำไมหล่ะริคกี้! ทำไมไปไม่ได้"ชางโจตะคอกใส่ผมใหญ่ เขาควรจะรู้สิว่าทำไม มันเป็นวันที่สำคัญอีกวันของผมเลยนะ
"ทำไมหล่ะชางโจ ทำไมนายจำวันที่พ่อเราตายไม่ได้"พูดจบน้ำตาที่พยายมกลั้นก็ไหลออกมา น้ำตาที่มาจากความกลัวที่ชางโจตะคอกแล้วก็มาจากที่ต้องพูดเรื่องของพ่อ ผมเคยบอกเขาว่าวันนั้นเป็นวันที่ีพ่อของผมเสีย และตอนที่ผมสัญญาว่าจะไปส่งเขาวันที่เขาจะไปก็ยังไม่แน่นอน
"ริคกี้ เราขอโทษ เราลืม ไม่ร้องนะ"ชางโจเข้ามากอดปลอบและเสียงที่อ่อนลงนั้นทำให้ความกลัวนั้นลดลงไปพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆเหือดแห้ง "แต่ทำไมไม่ตอบจดหมายเราเลยหล่ะ"
"ห๊า จดหมายอะไร"
"ก็เราส่งให้ริคกี้ไปต้องหลายฉบับ"จดหมายอะไรว่ะ คนน่ารักงงไปหมดแล้ว ผมไม่เคยได้อะไรอย่างนั้นเลยนะ
"ไม่เห็นเคยได้เลย"ผมพูดก่อนจะค่อยๆคิด วันที่ผมให้ที่อยู่ชางโจวันนั้นผมรีบมากแล้วไงต่อน้า "ชางโจ นายส่งไปบ้านเลขที่อะไร"
"122/11"นั่นไงสิ่งที่ผมคิดไม่ผิดจริงๆด้วย
"ชางโจ นายส่งไปผิดบ้าน บ้านเรา 122/17 นึกอยู่แล้วเชียว"เพราะวันนั้นผมรีบมาก ผมเลยเขียนแบบลวกๆไปให้แล้วเลข1กับ7ของผมก็คล้ายกันมาก ชางโจเลยดูผิด ส่งไปอีกบ้าน
"จริงดิ อ่าริคกี้เราขอโทษน้า"พุดไปก็เอาคางแหลมๆถูที่ไหล่ของผม จัีกจี้จังเลยอ่ะ
"พอแล้ว จั๊กจี้อ่ะ"ผมรีบผลักคนตัวโตเพราะรู้สึกถึงลมหายใจที่รดต้นคออยู่ มันรู้สึกแปลกๆอ่ะ
"ริคกี้รู้ไหมวันนั้นเรามีเรื่องอยากจะบอก แต่ริคกี้ไม่มาเราเลยไม่ได้บอก"ชางโจจับให้ผมมองหน้าเขาตรงๆ ทำไมยิ่งมองหน้าเขาผมก็รู้สึกหน้าร้อนๆยังไงก็ไม่รู้
"อะไรหล่ะ"
"อ่ะนี่"ชางโจถอดสร้อยคอรูปหมีที่เขาใส่ติดตัวออกมา ก่อนจะยื่นให้ผม ผมรับมาอย่างงงๆไหนว่ามีอะไรจะบอกแล้วให้สร้อยคอมาทำไม รับมาผมก็หมุนจี้รูปหมีดูรอบๆก่อนจะเจอกับอักษรที่สลักไว้
'LOVE YOO'
ใครไม่รู้ก็ต้องคิดว่าทักษะภาษาอังกฤษของชางโจต้องแย่มากแน่ๆ ถึงสลักคำว่า YOO แทนที่จะเป็น YOU แต่ผมเข้าใจนะว่า YOO หมายถึงอะไร
"LOVE YOU YOO Changhyun"คำพูดที่เหมือนย้ำความหมายของประโยคที่สลักไว้ที่จี้ทำให้ผมเขิน รู้สึกว่าหน้าผมร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันต้องแดงมากแน่ๆเลย "นายจะรับมันไว้ไหม"
"ถ้าให้ก็ใส่ให้ด้วยดิ"ผมพุดอย่างอายๆก่อนจะยื่นสร้อยไปให้คนตัวโตแล้วหันหลังให้จะได้ใส่ง่ายๆ "ใส่ดิ"
"หันหน้ามาดิ" ผมหันหน้าตามที่เขาสั่ง "ริคกี้ของฉันน่ารักที่สุดเลย"
"อะไรเล่า ไม่ต้องชมเลย"เขินนะครับ เขินมากด้วย มาชมกันซึ่งๆหน้าอย่างนี้นะ
"ริคกี้มาเป็นหมูของเรานะ"ชางโจพูดขึ้นมา แต่อะไรนะ หมูหรอ ชางโจว่าผมใช่ไหมอ่ะ ชางโจว่าผมอ้วนเป็นหมูใช่หมายยยย
"ชางโจว่าเราเป็นหมูหรอ"
"ไม่ได้ว่านะ เราเป็นหมี ริคก็เป็นหมูไง น่ารักดี"ชางโจพูดแล้วก็ยิ้มขำๆ ขำทำไมหน้าผมตลกมากหรือไง "ริคกี้น่ารัก"
"ไม่ต้องพูดแล้ว รู้แล้วว่าตัวเองน่ารัก"ยิ่งพูดก็ยิ่งเขิน หมูควรทำไงดี
"น่ารักอย่างนี้ต้องจูบ"ยังไม่ทันไรหมีตัวใหญ่ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แต่ใครจะให้ง่ายๆหล่ะ ผมเลยผลักอกชางโจออกแล้วรีบเดินลงเตียงไป
"ไม่เกี่ยวกับน่ารักซักหน่อย อย่ามามั่ว"
"ไม่รู้ ไม่ชี้ จะอาววววว"หมีดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียง มองไปก็น่ารักไปอีกแบบ "ไม่สงสารคนป่วยหรอ"
"ไม่เลย ยิ่งป่วยก็ยิ่งไม่ควรทำ เดี๋ยวเราติดหวัดไปด้วย"คนป่วยที่ดูอย่างไงก็ไม่ใช่คนป่วย หน้าตาดูสดชิ่นขึ้นแบบไม่เคยป่วยมาก่อนดูยังไงก็ไม่น่าสงสารเลยแม้แต่น้อย
"งั้นถ้าหาย แล้วจะให้ใช่ป่ะ"หมีทำหน้าตาตื่นเต้นรอคำตอบ ผมควรจะตอบว่าอะไรดีอ่ะ
"ก็ได้ แต่ตอนนี้กินข้าวก่อน เย็นหมดแล้ว"ผมยกชามข้าวต้มที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ยังร้อนจนลวกปากคนป่วยจนตอนนี้เย็นชืดไร้รสมาให้คนป่วย
"หมีรักหมูนะ"ชางโจพูดขณะที่กินข้าวต้มที่ผมเป็นคนป้อน "หมูรักหมีไหม"
"ไม่รัก"ผมพูดไป ชางโจก็ทำหน้าหงอยๆใส่ "ไม่รักไม่มาดูแลหรอก ถามอะไรก็ไม่รู้"
"หมูอ่ะ ตอบไม่ตรงคำถาม ตอบใหม่"
"หมูรักหมี พอใจยัง รักมากด้วย"ผมตอบไป ชีวิตอีก 6 วันที่ผมต้องอยู่กับหมีตัวใหญ่ตัวนี้จะมีความสุขแค่ไหนผมไม่อยากคิดเลย ><
................................................................................................................................................
10/12/56 สปอยเล็กๆ เนื่องจากเจอความฟินจากคอนทำให้เกิดอาการอยากแต่งขึ้นมา ใครที่ทักริคกี้กับชางโจ แล้วทำไมชางโจดูไม่ชอบหน้าริคกี้ ติดตามตอนต่อไปนะ
17/12/56 วันนี้ว่างๆก็มาอัพ แต่รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะยาว แต่ไรท์คงไม่เพิ่มตอน แต่จะลงเพิ่มในตอนนี้จนจบ
ส่วน ชอนโจนั้น รอไรท์แต่งคู่นี้เสร็จก่อนแล้วไรท์จะลงที่เหลือให้
18/01/57 จบแล้วค่ะกับคู่น้องเล็ก ตอนแรกไรทืจะลงวันปีใหม่ แต่งเสร็จแล้วด้วยแต่มือถือแบตหมด ที่แต่งไว้เลยหายหมด (ไรท์แต่งในมือถือ) ส่วนวันที่ลงไปนิดเดียวนั้น ไรท์ก็จะแต่งให้จบนั่นแหละ แต่ด้วยความง่วงไรทืเลยหลับคาคอมตื่นอีกทีก็แต่งไม่ไหวเลยกดบันทึกไว้ก่อน
แต่ตอนนี้ก็จบแล้วเนอะ มีใครงงๆไหม คอมเม้นต์บอกได้นะ ไรท์ชอบคอมเม้นต์ที่สุดเลย มันทำให้ไรทืมีกำลังใจ ส่วนใครที่รออีกคู่ก็รอไปก่อนนะ ช่วงนี้ไรท์เรียนหนักมากเลย งานก็เยอะ อาจจะได้ลงช้าหน่อยนะ
ตอนนี้ไรท์มีทวิตเตอร์แล้วนะ @liwbing_bs ไปคุยกันได้นะ ไรท์ไม่กัด อิอิ
รักรีดเดอร์ทุกคนน้า
แถม
♔ vip ◦
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น