รักที่เคยมั่นใจ
เป็นเรื่องราวความรักในอดีตที่เคยจดบันทึกไว้
ผู้เข้าชมรวม
298
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แมว
ไม่รู้ว่าชอบคนๆนี้ได้อย่างไรกันนะตัวเรา ทั้งๆที่เคยบอกกับตัวเองมาหลายครั้งแล้วว่า มันไม่มีทางหรอกที่จะชอบแมว ก็ในเมื่อเราไม่เคยมีความคิดเลยแม้แต่นิดเดียวว่าเราชอบคนอย่างแมว แต่เมื่อรู้สึกตัวมันก็รักแมวเข้าอย่างจังเลย พบกันครั้งแรกในห้องเรียน ม.2/2 ห้อง536 ครั้งแรกที่เราเจอกันเราก็คิดว่าแมวเป็นคนสนุกดียิ้มง่ายๆคุยด้วยแล้วสนุกดี จำได้ว่าเราชอบแกล้งแมวทุกๆวันเลยวันไหนไม่ได้แกล้งแล้วเหมือนขาดอะไร ตอนนั้นเราแซวเพื่อนเรา(หนึ่ง)กับแมวจนเป็นแฟนกันก็เลยคุยกันมากขึ้นเพราะเป็นแฟนเพื่อนในกลุ่ม เรามาสนิทกันมากก็ตอนม.3 เราสนิทกันจนโดนหาว่าเราชอบแมวแล้วมันก็เป็นจริง ปลายๆเทรอ2 ของม.3 แล้วมันมีความรู้สึกว่าเราอยากอยู่ใกล้ชิดเธอ อยากนั่งคุยกับเธอตลอดเวลา ยิ้งช่วงที่ใกล้จะสอบปลายภาคเทอมสองมันหวิวๆยังไงไม่รู้เพราะเรายังคงไม่เข้าใจความรู้สึกที่เรามีต่อแมวเลยว่ามันเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะก็ยังไม่รู้เลยว่าจะได้พบกันอีกไหมเพราะเรากับแมวจะไปเรียนต่อที่ไหนก็ยังไม่แน่ใจเลย เรายังเคยมีความสงสัยเลยว่าไอ้หนึ่งมันชอบเธอได้ยังไง ทั้งๆที่ตอนนั้นเราก็แค่รวมหัวกันแกล้งมันเท่านั้น กลับมาที่ตอนม.3ต่อดีกว่า ตอนปิดเทอมเรายังเคยคิดจะโทรไปหาแต่เรามันเป็นคนไม่กล้าพอในเรื่องบางเรื่องโดยเฉพะเรื่องนี้ พอเปิดเทอมเราก็เจอกันจำได้ว่าเราอยากเห็นแมวทั่งวันความรู้สึกมันแปลกๆทุกครั้งที่เราเห็นแมว เปิดเทอมมาเรากับแมวคุยกันแปลกไปไม่เหมือนตอนม.3ที่เคยคุยกันมองหน้ากันแปลกๆไปเหมือนมันมีอะไรที่แอบสอนอยู่ข้างในจนมาถึงวันหนึ่งที่เราทะเลาะกันเพราะเราถามแมวว่ามีอะไรจะพูดแล้วแมวก็ไม่พูดเราเลยบอกว่าถ้าไม่พูดก็ไม่ต้องมาพูดกันอีกแล้วเราก็เดินกลับบ้านเลยพออีกวันแมวก็มาขอโทษเราเรามาหายโกรธแมวก็ตอนกลางวันเพราะเพื่อนแมวบอกว่าแมวเคร์เรามาก จนมาถึงวันๆหนึ่งที่เรากล้าบอกรักเธอเราจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่มันอยู่ในความทรงจำตลอดเวลา มันเป็นวันที่ 31 พ.ค. มันเป็นวันที่เรามีความสุขมากๆวันหนึ่งที่เราเคยมีมาในอดีตและวันนั้นมันก็เป็นวันเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ วันเริ่มต้นของเรื่องราวต่างๆที่มีทั้งความสุขและความเศร้าผสมกันไป แต่มันก็แปลกนะตรงที่เรากลับรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่จะทำให้เราโตขึ้น มีความคิดมากขึ้น สนใจในความรู้สึกของคนอื่นมากขึ้น มาถึงตรงนี้เราก็ต้องเจอกับคำถามอีกว่าเราชอบแมวเพราะอะไรกัน? เราถามตัวของเราเองมาก็หลายครั้ง ว่าเหตุใดเราถึงได้ชอบแมว ในเมื่อเคยคิดว่าไม่มีทางที่เราจะชอบ แต่คำตอบที่มันได้ออกมาก็คือว่า การที่จะรัก ชอบใครนั้นทำไม่มันต้องมีเหตุผลด้วย ทำไมต้องคอยคิดว่าเราชอบเขาเพราะอะไรกัน ก็ในเมื่อเรามีความรู้สึกดีๆให้เขาเราก็ไม่ต้องมาคอยถามหรอกว่า ทำไมจึงรู้สึกดีกับเขาขอแค่เรามีกันและกันเท่านี้เราก็มีความสุขแล้วไม่ใช่หรือไง? อาจจะฟังแล้วไรเหตุผลว่าสิ่งที่ทำให้เรารักแมวหรือเป็นเพียงรอยยิ้มรอยนั้นเมื่อวันแรกเจอ หากจะหาเหตุผลสักครั้งว่าสิ่งที่ทำให้เรารักแมวนั้นเป็นเพราะตัวเรามาเจอกับสิ่งดีงาม หลังจากวันที่31 เราก็ได้พบว่าแมวเป็นคนที่เติมอะไรบางอย่างที่เราขาดไป จำได้ว่าเราทะเลาะกันทุกวัน แต่ก็มีความสุข บางครั้งเราก็คุยกันดีๆแต่ก็ยังกวนปราสาทกันอยู่ดี เรากับเธอมีความคิดว่าจะแต่งงานกันด้วย ไปเที่ยวด้วยกันแม้ว่ามันจะไม่ใช้2คนแต่เราก็ยังไปด้วยกันอยู่ดี เดินเที่ยวกับเธอแล้วมีความสุขจังเลย มันเป็นภาพที่นึกถึงที่ไรแล้วมีความสุขมากๆเลย ตอนไปเที่ยวถ้าจำไม่ผิดแมวให้เราฟังเพลงๆหนึ่งชื่อเพลง ถ้าเป็นเมื่อก่อน ของนิโคลไม่เคยชอบเพลงนี้เลยแต่พอได้ฟังเพลงนี้มันกลับทำให้เราอยากฟังเพลงนี้ทุกๆวันเลย จำได้ว่าเคยส่งเพลงไปให้เพลงแรกคือเพลงรู้มั่ยว่าฉันคิดถึงหลังจากส่งให้แล้วแมวบอกว่าอยากให้ส่งให้อีกเราก็เลยส่งเพลงคนน่ารักให้วันเสาร์ที่แมวไปบ้านเหมียว ตอนอยู่โรงเรียนเราก็ไม่คอยได้คุยกันเลยนะ แต่พออยู่นอกโรงเรียนเราคุยกันแทบตลอดเวลาเลย มีอยู่วันหนึ่งเราคุยโทรศัพย์กันตอนเย็นแล้วเราเล่นกีตาร์อยู่แมวบอกว่าให้เล่นให้ฟังเราก็เล่นเพลงเจ้าหญิงของฉันให้ฟังแต่ไม่ก็ได้เล่นดีอะไรเลย ส่วน เรื่องที่เราทะเลาะกันมากที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องที่เราหึงเธอ ก็อยากจะบอกตรงๆนะเรามันเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว มันเป็นโรคประจำตัวที่เราเป็นมาตั้งนานแล้ว แต่ก็อยากจะให้เข้าใจไว้นะว่าที่หึงก็เพราะคนมันรักนะจะให้ทำยังไง มีอยู่วันหนึ่งที่เราทะเลาะกันแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เรื่องอะไรก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เราจำได้ว่าวันนั้นเกือบทำเราเสียน้ำตาเพราะมันเหมือนว่าเราจะจบกันแค่วันนั้น แต่มันก็ผ่านมาได้ด้วยดีแล้วช่วงที่ใกล้ถึงวันเกิดแมวเราก็ชวนแมวไปซื้อของขวัญที่ท่าน้ำนนท์ไปกัน 4คนของที่ให้แมว มันก็เป็นแค่กล่องดนตรีที่ไม่ได้มีราคาอะไรเท่าไร แต่มันก็เป็นสิ่งของที่เรามอบให้เธอด้วยหัวใจนะ จำได้ว่าแมวบอกว่ามันเป็นของขวัญที่แมวอยากแกะเป็นชิ้นแรก เราก็ไม่รู้ว่าเธอจะชอบมันบางไหนนะ คราวนี้ก็มาถึงสมุดลับที่เราให้แมวเขียน พอเอามาให้เราเขียนเราก็จัดการเขียนซะเต็มที่เลย วันเสาร์ที่ใกล้วันเกิดแมวแล้วเราไปเที่ยวกันอีกครั้ง คราวนี้คนไปกันเยอะกว่าอีก เราไปคราวนี้เรารู้สึกกังวลบางอย่างก็ไม่รู้ว่ามันกังวลอะไรกัน เราร้องเพลงกันแล้วก็ไปดูหนังต่อรู้สึกจะเป็นเรื่องคนเล่นของมั่ง ตอนดูหนังยอมรับว่าเราหึงแมวเอามากๆเลยที่ไปนั่งข้าง.... เราก็เลยทำเป็นไม่สนใจแมว จนเรามาถ่ายรูปกันแมวก็ยังไปกินข้าวกับ...อีก แต่พอแมวทำเป็นโกรธเราๆก็เลยต้องง้อแมวอีกไม่เข้าใจตัวเองเลย หลังจากนั้นเราก็แยกกันกลับบ้านเรากลับกับฝน เราจำได้ว่าเรานินทาเธอเอาไว้มากๆเลย พออีกวันฝนก็คงฟ้องเธอหมดแล้ววันนี้ถ้าจำไม่ผิดแมวไปพาต้าไปดูสวนสัตว์ที่ชั้นบนแล้วก็ไปกินเลี้ยงวันเกิดต่อ แต่ที่แปลกคือวันนี้เรามีรางสังหรณ์แปลกๆบางอย่างเกี่ยวกับเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกัน วันจันทร์วันนี้เราก็เจอกันปกติ ตอนบ่ายเราไม่รู้ว่าแมวคุยอะไรกับเพื่อนเรา พอตอนเย็นเราจะกลับบ้านเห็นรุ่นน้องมันแซวแมวเราก็เลยเข้าไปด่ามัน แมวก็ทำเหมือนโกรธเรา พอเรากลับบ้านมาแล้วออกไปโทรหาแมวๆก็พุดในสิ่งที่เราไม่อยากได้ยินจากคนที่เรารักมากที่สุดในตอน นั้นแมวบอกว่าให้เราอยู่ห่างกัน ตอนนั้นความรู้สึกของเรามันเจ็บจนทนไม่ไหว สมองมันสับสนไปหมดเลยไม่มีกำลังจะทำสิ่งใดๆ หมดกำลังใจทำให้เราต้องร้องไห้เสียใจ หมดความหวังในการที่จะทำสิ่งต่างๆเพราะไม่รู้ว่าจะทำเพื่อใคร ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ที่จะไม่มีแมวเราจะเป็นยังไง จะใช่ชีวิตอย่างไรดี ต้องทำตัวแบบไหน เจอแมวแล้วเราจะทำยังไง แต่มันยังมีความคิดที่เข้าข้างตัวเองว่าเธอล่อเล่นก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วก็ถึงเช้าวันที่ไม่อยากจะเจอมากที่สุดในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เช้านี้เราเจอเธอแล้วเราจะทำยังไงดี จะทนได้ไหมกับความสัมพันธ์แบบนี้ มันทำให้เรารู้ว่าเรื่องของเราสองคนมันได้จบแล้วส่วนตัวของเราก็ต้องห้ามใจไม่ให้คิดไปมากเกินกว่านี้เราคงต้องเก็บเรื่องของเราเอาไว้ในใจ เพราะเรื่องต่างๆมันเป็นเรื่องของเหตุผลที่เราสองคนไม่เข้าใจกันและกัน แล้วคำตอบที่เราคิดมาก็ได้ว่าเราไม่คุยเลยดีก่วาเพราะเรายิ่งเข้าใกล้เธอมากเท่าไรเราก็ยิ่งเจ็บ ขออยู่ห่างๆไม่พูดไม่คุยกับเธอสักพักเพื่ออะไรมันจะดีขึ้นกว่านี้บ้างก็ยังดี ไม่รู้ส่าเลือกทางนี้มันถูกหรือเปล่าเพราะเวลาเห็นแมวคุยกับใครแบบใกล้ชิดแล้วมันเจ็บลึกๆอยู่ตลอดเวลา มันช่างยากเหลือเกินที่เราต้องห้ามใจไม่ให้มันทำนอกเหนือจากที่เราคิด ขนาดเราคิดว่าการที่จะรักใครมันยากแล้วแต่การที่จะทำใจให้ลืมคนที่เรารักนั้นมันยากกว่าอีกหลายเท่าตัวเลย แต่ละครั้งที่เราพบกันมันต้องทนมากมายขนาดไหนแมวรู้มัย การที่ไม่คุยกับแมวไม่ได้หมายความว่าเราไม่อยากคุยหรอกนะ แต่ที่ไม่คุยเพราะต้องการให้ใจมันสงบ ไม่คิดมากเกินไปกลัวว่าใกล้แมวแล้วเราจะทำใจไม่ได้ แล้วมาวันหนึ่งเราก็ทะเลาะกันอีกทั่งๆที่ไม่ได้คุยกันมานานพอสมควร เรื่องมันเกิดเพราะว่าเราอยากคุยกับแมว แต่เราปากไม่ดีไปว่าแมวก็เลยทะเลาะกันแต่ที่ทำให้เราเสียใจมากที่สุดก็คือเราทำให้คนที่เรารักมากๆอย่างเเมวต้องมาเสียน้ำตา เรามันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆที่ทำให้เธอเสียน้ำตาได้เรามันเลวจริงๆเลย..กลับมาจากงานวันนั้นเราก็กลับมานั่งร้องไห้เสียใจกลับสิ่งที่เราทำไป แต่เราก็ไม่กล้าไปขอโทษแมวเพราะเราไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยมันมีอาการเหมือนว่าเรากลัวอะไรบางอย่าง เราคงต้องปล่อยเลยตามเลย มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนจะทรมารเหลือเกินที่ต้องพบกับเรื่องแบบนี้ เรื่องที่ผ่านมาก็แย่อยู่แล้วแต่เรากลับเลือกที่จะทำให้มันแย่ลงไปอีก ไม่รู้ตอนนั้นเราทำไปได้ยังไง กลับมานั่งคิดที่ไรก็ยังเสียใจอยู่ดี ตอนนั้นเราก็กลับมาอยู่ในช่วงที่แสนจะสับสนอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเมื่อไรเราจะเข้าใจกันสักที่นะ อีกกี่วันที่เราต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้ ต้องทนทำเป็นไม่สนใจทำเป็นหมางเมินทั้งที่ใจมันห่วงแสนห่วงใยแมวตลอดเวลาที่เรายังหายใจ ไม่รู้ว่าแมวจะเคยคิดถึงเราบ้างไหมนะ ถึงต่อนี้เราเริ่มมีความคิดว่าเราคิดถึงแมวทำไมทั้งๆที่แมวอาจไม่เคยคิดถึงเราเลยสักครั้งหนึ่ง แอบเป็นห่วงแมวเพื่ออะไรกันก็ต้องมาหาคำตอบอีกแล้ว จนเราคิดได้ว่าถ้าคิดที่จะรักใครสักคนแล้วเราก็ควรที่จะทำเพื่อเขาคนนั้นให้ดีที่สุดเพราะทุกครั้งที่แมวมีความสุขเราก็มีความสุขไปด้วย เรื่องที่ทำไมต้องคิดถึงก็อาจเป็นเพราะว่า เราคิดถึงแมวแล้วมีความสุขเพราะมันยังมีคนให้คิดถึง หลังจากนั้นเราจำได้ว่าเราเรียน ร.ด. ตอนวันอังคารที่มันหยุดอ่านหนังสือหลังจากเรียนเสร็จแล้วเราไปเดินเที่ยวที่เดอะเมอล์ต่อเราไปเจอแมวด้วยแต่การเจอกันครั้งนี้มันเจ็บแปลกๆเพราะแมวเคยบอกว่าไม่ไปเที่ยวที่ไหนคนเดี่ยวแต่คราวนี้แมวไปและก็คงนัดเที่ยวกับ...ไว้มั่งเราเสียใจจริงๆที่แมวยอมไปเที่ยวกับ...ถึงจะมีคนไปเยอะแต่มันก็ไม่สมควรอยู่ดีเพราะแมวเป็นผู้หญิ่งคนเดี่ยว วันนั้นทำอย่างไรมันก็ไม่สนุกอยู่ดีทั่งร้องเพลง โยนโบร์ก็ยังไม่สนุกตอนกลับก็ยังมีเรื่องทุกข์ใจอีกเรานั่งรถตู้คันเดียวกันนั่งห่างกันแค่คนเดียวแต่เรากลับไม่ยอมคุยกับแมว ตอนนั้นก็มีคนโทรมาหาแมวเหมือนเขาจะจีบแมวมันก็ยิ่งทำให้ไปกันใหญ่เลยและแล้วก็ถึงวันที่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับเราจนได้เมื่อเมย์มันบอกว่าแมวอยากคุยกับเราด้วยจำวันนั้นได้แม่นเพราะมันเป็นวันที่เรามีความสุขมากๆวันนั้นวันที่ 28 กรกฎาคม เราโทรไปหาแมวตอนเย็นดีใจมากที่เราได้คุยกับแมวอีกเราโทรคุยกันสองวันก่อนจะคุยกันแบบเห็นหน้าในวันศุกร์วันที่ไปแห่เทียนตอนเย็นเราเอาดอกไม้มาให้แมวด้วยแล้วเราบอกให้แมวเอากลับบ้านแต่แมวก็ลืมไว้ในห้องอาจารย์ วันเสาร์เราไปรอแมวทำที่ว่างเทียนไปวัดที่โรงเรียนตอนเช้าเราให้อาหารปลากันก่อนที่อาจารย์จะให้ไปทำที่วางเทียน แมวทำถึงเกือบบ่ายโมงหลังจากนั้นว่าจะไปเดินเล่นที่ The mall แต่แมวต้องรีบกับบ้านก็เลยต้องไปเดินเที่ยวด้วยกันต่อที่เมเจอร์นนท์ไปร้องเพลงกันและก็เป็นวันแรกที่เราได้จับมือแมวอีกมันทำให้เราคิดถึงเรื่องเก่าๆขึ้นมาทันที่เลย มือนุ่มๆที่เราเคยได้สัมผัสเมื่อตอนที่เราเป็นแฟนกันแต่มันก็แฝงด้วยคำถามที่ว่าเรายืนอยู่ในฐานะอะไร ? สำหรับแมวตอนกลลับบ้านแมวชมว่ากระเป๋ารถเมล์น่ารักเราก็เลยบอกว่าให้เราลงก่อนได้ไหมคอยชมวันนั้นแมวให้ซีดีเพลงมาฟังเพลงถ้าเป็นเมื่อก่อนของ นิโคลแต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้งแมวให้แผ่นผิดเราก็เลยอดฟังไปตามระเบียบ วันอาทิตย์แมวไปถวายเทียนพอเราโทรไปหาแมววันนั้นแมวคุยกับเราแปลกๆไปเหมือนมีอะไรปิดแมวบอกว่าให้เราไปหาคนอื่นคุยไปเพราะแมวไม่ใช่แฟนเรา คำๆนี้ทำซะเจ็บแปลกขึ้นมาเลยก็รู้ว่ายังม่ใช่แต่ก็ไม่เห็นต้องมาย้ำเลย หลังจากคุยกับแมวเราก็กลับบ้านมาหาเบอร์ฝนโทรไปถามใครก็ไม่มีใครรู้เพราะเราอยากรู้ว่าแมวเป็นอะไรอีก วันอังคารเราไปเรียน ร.ด.เราโทรมาหาตอนเช้าเธอก็คุยกับเราแปลกๆจนเรามารู้ว่าแมวไปคบกับรุ่นพี่ได้ยินแค่นั้นใจเราก็ปวดร้าวขึ้นมาทันที่เลย ไม่เข้าใจอีกแล้วคุยกันสองวันแมวก็ไปคบกับรุ่นพี่อีกมันมีความคิดเหมือนกลับว่าแมวกลับมาคุยกับเราก็เพื่อจะให้เราเห็นชัดขึ้นว่าจะคบกับใคร บ้าๆคิดอย่างนี้ได้ยังไงแมวมีความสุขจะเสียใจไปทำไมกันใช่มัย...เราก็ต้องดีใจกับแมวต่างหากถ้าเจอคนที่ดีๆ มีความสุขกับคนที่แมวต้องการจะมัวมาเสียใจทำไม่ในเมื่อแมวมีความสุขมันก็น่าที่จะยินดีด้วยไม่ใช่หรือไงกันในเมื่อความรักเปรียบเหมือนทางหัวใจเปรียบเหมือนรถทางที่ราบรื่นไม่มีหลุมปลอดภัยรถคนไหนๆก็ต้องเลือกทางเส้นนั้น แต่สำหรับเรานั้นเหมือนเรารักแมวมาจนขนาดนี้แล้วเราคงไม่ถอยแน่นอนจนก่วาเราจะรักกันอีกครั้งหรือจนกว่าแมวจะให้เราเดินจากไปเองถ้าจะเปรียบเหมือนการเดินทางเราก็เดินทางมาไกลจากจุดเริ่มต้นมากแล้วจะถอยกลับก็ไกลแล้วก็ต้องเดินต่อไปจนถึงปลายทางไม่ว่าปลายทางนั้นมันจะเป็นเหวก็ตามก็ต้องไปให้ถึงไม่งั้งจะรู้ได้ไงว่าปลายทางนั้นป็นอะไรกัน ไปกันใหญ่แล้วเรา แต่ยังไงเราก็ยังคงมีความรู้สึกดีๆให้แมวอยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยน ตอนที่แมวคบกับรุ่นพี่มีอยู่วันหนึ่งที่เราโทรไปหาแมวตอนเย็นจำได้ว่าเรานัดแมวไว้พอโทรไปแมวบอกว่าอยู่ big king กับพี่แล้วแมวก็บอกว่าไหนว่าจะไม่โทรมาเราก็เลยว่างสายเสียใจอีกแล้วที่เรื่องมันเป็นอย่างนี้จากนั้นเราก็เดินเข้าบ้านเรานนั้งซึมซักพักแมวก็โทรมาถามว่าบ้านเราหลังไหนจะเข้ามาหาทำเรางงมากเลยว่ามาได้ไงมันก็ทำให้จากที่เสียใจเป็นดีใจพร้อมกับความรู้สึกงง แมวบอกว่าที่กลับมาเพราะมาปรึกษาเพื่อนเรื่องที่รุ่นพี่เขาโอบแมวเดินนี้ละมั้งแล้วก็เลยมาหาเราพอออกจากบ้านเราแมวก็ไปร้านเกมก่อนกลับบ้านเราก็รอส่งจนแมวกลับบ้าน ถ้าเราจำไม่ผิดก่อนที่แมวจะคบกับรุ่นพี่มีรุ่นน้องมาอยู่กับแมวทั่งวันตั่งแต่เช้ายันเย็นเลยตอนนั้นหลังจากที่เราทะเลาะกันที่อินแพ็ค ไม่รู้ว่าแมวคิดกับเขายังไงกันแน่ เขียนถึงทำไมนี้เปลี่ยนเรื่องได้แล้ว หลังจากนั้นวันเสาร์ก็เกิดเรื่องที่เราไม่ชอบที่สุดในชีวิต ก็คือแมวรวมมือกับฝนโทรมาหลอกเราว่าเป็นคนที่ชื่อฟ้า แล้วบอกว่าชอบเราๆก็ไม่รู้ว่าเป็นใครเราก็เลยขอเบอร์เขาไว้ จนเรามารู้อีกที่ว่าแมวหลอกเราความรู้สึกเรามันเหมือนคนที่ใครคิดจะหลอกก็ทำกันได้ตามแต่ใจใครคนนั้นต้องการเราโดนเพื่อนมันว่าๆ ไอ้หน้าโง่โดนสวมเขายังไม่รู้อีก ใครๆก็บอกว่าเราไม่ได้เรื่องให้ใครเขาหลอกง่ายๆไม่มีความคิด มันทำให้เรารู้สึกสับสนมากๆเลยไม่รู้จะทำอะไรต่อไปกับเรื่องราวต่างๆเราจำได้ว่าอาทิตย์นั้นเราหยุดเรียนวันอังคาร พุธและก็วันพฤหัสสามวันเพื่อหาทางออก แต่ทำยังไงก็ยังไม่สามารถตัดใจจากแมวได้สักครั้งมันก็เลยต้องทำตามแบบเดิมต่อไปทำไงได้ก็มันรักไปแล้วนี้ เพราะจะโกรธจะเกลียดแมวก็ทำไม่ลง ในเมื่อแมวบอกว่าขอโทษเราก็พร้อมที่จะให้อภัยแมวเสมอเพราะคำว่ารักของเรามันอยู่เหนือเหตุผลและสิ่งอื่นใดในเมื่อคนที่เรารักยอมรับเราก็ไม่เห็นจะมีเหตุผลใดที่ต้องไม่หายโกรธแมว ลืมเรื่องที่ควรจะลืมเละจดจำเรื่องดีๆเอาไว้ดีก่วาเรื่องที่ไม่ดีก็หย่าไปใส่ใจมันเลยดีก่วาคนเราถึงแม้จะรักกันก็ไม่ใช่ว่ามันจะอยู่ด้วยกันได้แต่การยอมรับจุดบกพร่องของกันและกันได้มันก็คือหนทางไปสู่การอยู่ด้วยกันที่ยาวนานแต่ถึงเราจะอยู่ด้วยกันจนแต่งงานมีลูก หลานเราก็ต้องมีวันที่จากกันอยู่ดีแม้จะยังไงก็ตามความรู้สึกดีๆที่มีให้แมวจะยังคงอยู่เสมอตราบใดที่เรายังคงหายใจอยู่ ไปไกลเลยเราช่างมัวเรื่องได้เก่งมากๆเลยผสมกันไปหมดเล่าถึงไหนแล้วนี้เรา หลังจากเราเข้าใจกันแล้วเรื่องราวต่างๆเริ่มดีขึ้นเริ่มยอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่ได้ปรับตัวได้ดีขึ้นมันก็ทำให้เราพร้อมที่จะทำตามที่หัวใจดวงนี้มันเรียกร้องมาตลอดเวลาทำในสิ่งที่ต้องทำก็คือพยายามทำให้แมวรักเราให้ได้ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่ามันอาจจะมีวันนั้นได้หรือเปล่าแต่ที่ต้องทำก็เพื่อที่จะไดจดจำไว้ว่าเราเคยได้ทำมาแล้วในวันข้างหน้ามันจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจอีกว่าไม่ได้ทำ หลังจากนี้มันจะเป็นยังไงก็ตามเราดีใจนะที่ได้รักคนอย่างแมวในช่วงหนึ่งของชีวิตของเรา...ต่อจากแผ่นที่แล้วที่ถึงตอนที่โทรมาอำเราหลังจากนั้นเราก็โทรไปหาแมวทุกเย็นเราก็โทรไปหาไม่ใช่เลยตอนเย็นซิตอนมึดๆต่างหากบางครั้งก่อดทรไปเรายังไม่รู้เลยว่าจะคุยกันเรื่องอะไรแต่ก้ต้องโทรเพราะมันคิดถึงนี้หน่าจำได่ว่าแมวโทรมาหาเราแล้วร้องไห้เพราะว่าทะเลาะกับแม่แล้วโดนยึดโทรศัพท์บอกว่าไม่ต้องโทรไปนะรอซักพักได้คืนค่อยโทรช่วงนี้ก็ปลายๆสิงหาแล้วนะมันใกล้ที่จะสอบปลายภาคเข้ามาแล้วๆก็ใกล้จะปิดเทอมแล้วด้วย ซึ่งมันก็หมายความว่าเราคงจะไม่ได้เห็นหน้าแมวอีกเป็นเดือนเลยที่เดียว มันคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากเหมือนกันนะ ที่ต้องไม่ได้เห็นคนที่ตัวเองห่วงใยนานๆ แต่ยังไงมันก็ต้องมีวันที่เราได้เจอกันอีกอยู่ดี แล้วก็ได้ข่าวมาว่า ตอนปิดเทอมเขาเปิดให้นักเรียนมาทำงานด้วยนี้เราก็อาจจะได้เจอแมวอีกถ้าแมวมาทำงานที่ โรงเรียนด้วย อย่างน้อยก็อีกสัก 5 วันก็ยังดีนะ ตอนนี้เราก็อยากบอกกับแมวว่ากลับมาคบกันอีกได้ไหน เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันจะดีกว่าเดิมไหม จะมีปัญหาอะไรบ้างหรือมันจะทำให้เกิดเรื่องทุกข์ใจอีกไหมและก็ไม่รู้ว่าถ้าได้คบกันอีกครั้งเราจะคบกันได้นานเท่าไรจะมีวันเลิกกันอีกไหมทุกสิ่งมันไม่แน่นอนหรอกเรื่องในอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ได้หรอกมีสิ่งเดียวที่เรารู้มันก็คือว่าวันนี้เรารักแมวมากจนตัวของเราเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไม่เราถึงได้รักแมวมากขนาดนี้ แต่สิ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือวันนี้แมวให้เราได้แค่เพื่อนเท่านั้นไม่ได้เกินไปกว่านี้เลย เราตอนนี้จึงเป็นได้แค่คนไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นมากกว่าเพื่อนแมว แต่เราก็ยังคงอยากรู้ว่าในใจแมวมีเราบ้างไหม แมวเคยได้ยินเสียงนี้ไหมเสียงของหัวใจเรามันบอกว่ารักแมวมากมายร่ำร้องเรียกภายในใจเราอย่างนั้น เรามันก็แค่คนๆเดียวที่มันไม่ได้มีค่าเท่าไร กลัวคนอย่างเราจะไปทำลายหัวใจแมว และหากคนไม่มีสิทธิ์อย่างเราจะรักแมวมันผิดไหมเพราะมันช่วยทำให้ตัวเรามั่นใจว่าแมวอาจเป็นคนที่เรารอก็เป็นไปได้ มันก็คงติดตรงที่เราคงเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้น สิ่งเดียวที่เราทำได้ในตอนนี้ก็คือ รอและรอวันที่แมวจะยอมรับชายคนนี้ที่ไม่ได้มีอะไรดีเลยสักอย่าง เป็นได้เพียงคนที่เดินบนพื้นดินธรรมดา ไม่ได้มีอะไรดีเป็นพิเศษไม่มีดวงดาวร้อยพันที่มีก็เพียงดอกไม้เท่านั้นที่สามารถจะหาให้แมวได้ และยังไม่ใช่ใครบ้างคนไม่มีเวทมนต์ที่จะเสกอะไรให้แมวได้หรอก แต่คนธรรมดาคนนี้มั่นใจว่าจะทำเพื่อแมวให้ถึงที่สุดให้ได้และสุดท้ายที่มีให้ก็คือเราจะรักแมวให้ได้นานและมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพ้ออีกแล้วเรา ตอนนี้ก็มีปัญหาอีกแล้วซิมีคนให้เราถามแมวและเราก็อยากรู้ด้วยเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ถ้าหากใครพูดให้ได้ยินมันจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที่เลยโดยไม่ต้องให้ใครเตือนเลย มันมีอยู่ว่าเราอยากรู้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่อยากให้ช่วยอธิบายให้เราฟังให้เข้าใจสักหน่อยมันมีอยู่ว่ามีคนมาถามเราหลายคนเลยคำถามมันมีอยู่ว่า เอาไว้ถามที่หลังดีกว่า ไม่กล้าถาม..มันกลัวอะไรก็ไม่รู้สิ ถ้าได้ยินมันอาจทำให้เรายอมรับมันไม่ได้อีกและก็ต้องมานั้งเสียใจอีกกลัวตรงนี้มาที่สุดเลยที่ต้องมาเสียใจ แต่ก็มันคงต้องมีสักวันเละที่ที่เราต้องถามแมวให้เข้าใจสักที่ ยังไม่รู้เหมือนกันเลยว่าเมื่อไรวันนั้นมันจะมาให้เราถามแมวสักที่และก็หวังไว้ว่าคำตอบที่เราได้รับฟังจากปากแมวมันจะเป็นความจริงทั้งหมดเลยหวังว่าคนที่เรารักมากอย่างแมวคงไม่โกหกเรานะส่วนคำถามเป็นอะไรอีกไม่นานแมวก็คงจะได้รู้เองไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ถามหรอกยังไงก็ถามแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไร ไปเรื่องอื่นบ้างดีกว่าเขียนเรื่องนี้มามากแล้ว ตอนนี้เราเริ่มคิดมากเรื่องที่มันใกล้จะปิดเทอมแล้วไม่รู้ว่าจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ยังไงไม่รู้ว่ามันจะทนได้ยังไงถ้าไม่ได้เจอแมวนาเป็นเดือนแบบนี้นะ ไม่รู้จะทำยังไงดีถ้าตัวของเรามันต้องเจอกับความคิดถึงแมวที่มันมีอยู่เสมอ จะทำยังไงดีที่จะให้ตัวเราเองหายคิดถึงแมวตอนนี้ยังไม่รู้เลยแต่ก่อต้องปล่อยมันไปก่อนมันยังมาไม่ถึงเลยให้มันมาถึงก่อนแล้วกันค่อยมาคิดอีกที่แล้วกันนะ แต่มันก็ใกล้เข้ามาและทุกที่สินะ ช่วงนี้เราก็ยังคุยกันอยู่แบบปกติไม่ได้มีอะไรที่มันได้ดีขึ้งเลยซินะแมวก็ยังคงไม่รักเรายังไงก็ยังคงไม่รักอยู่อย่างนั้น ตอนนี้มันมีอะไรจะบอกแมวอีกมากมายแต่มันติดตรงที่ เรายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผย ตอนนี้มันเป็นช่วงที่ใกล้สอบแล้วและก็เป็นช่วงที่เรากลับแมวมีอะไรคุยกันมากๆเลยในช่วงนี้เพราะเราต้องการเข้าใจในเรื่องต่างๆมากที่สุดเท่าที่มันจะมากได้ ดังนั้นช่วงนี้มันจึงเป็นช่วงที่ เรามีอะไรจะคุยกับแมวมากที่สุด แต่พอได้คุยกันที่ไรมันก็เกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมาทันที่เลยไม่รู้ว่ามันเป็นโลกอะไรของเรากันแน่ ที่ไม่ได้พูดต่อหน้าแมวเรากล้าพูดมันหมดทุกเรื่องเลย แต่พอต้องมาพูดต่อหน้าแมวกลับเป็นใบ้ไปซะงั้นนะเราโรคจิตจริงๆเลยนะ แล้วมันก็มาถึงวันสอบจนได้แล้ว ยังไม่อยากสอบตอนนี้เลยจริงๆนะ เพราะว่ามันกลัวว่าถ้าไม่ได้เจอแมวแล้วจะทำใจไม่ได้เพราะปกติ 1 อาทิตย์เราจะได้เจอกัน 5 วันแต่นี้มันจะไม่เจอกันตั้งหลายวันเป็นเดือนเลยด้วยซ้ำไป วันนี้มันเป็นวันที่เรานัดแมวว่าตอนกลางวันเราจะคุยกันในบางเรื่องแต่วันสอบวันแรกแมวบอกว่าต้องไปหาอาจารย์มันก็เลยยังไม่ได้คุยกันเลยเราก็เลยต้องรออีกวันหนึ่งที่จะได้คุยเรื่องนั้น แล้ววันนั้นมันก็มาถึงแมวบอกให้เราไปหาที่หน้าห้องสอบแล้วจะคุยอะไรก็คุยมาเลยเราก็ไปหาแมวตอนพักเที่ยงแล้วก็จะคุยกันแต่พอได้ขึ้นอาคาร 5 เท่านั้นความกล้ามันหายไปหมดเลย คนมาจากไหนไม่รู้เลยเต็มไปหมดเลยจะทำไงดีนี้เรา ไม่พูดมีหวังเราโดนแมวบ่นยับแน่นเลยแต่ก็ยังมีหนทางอื่นอีก คนอย่างเรามันต้องมีแผนสองอยู่แล้ว แผนสองมันก็คือเราได้เขียนสิ่งที่เราจะคุยลงบนในกระดาษแล้วแต่ยังไม่อยากจะให้เพราะอยากพูดมากกว่า ตอนกลางของวันนั้นเราก็เลยยังไม่ได้บอกแมวเลยบอกว่าสอบเสร็จแล้วให้มาบอกหรือไม่ก็ให้เขียนใส่กระดาษมาให้อ่าน พอสอบเสร็จเราก็รอแมวๆเรียกเราไปหาข้างบนอาคารแต่พอเดินขึ้นไปแมวกลับเดินลงมาซะงั้นนะก็เลยต้องเดินลงมาอีกกลายเป็นเดินขึ้นไปเปล่าๆ ไม่เปล่าซิได้เดินลงมาพร้อมแมวต่างหากแล้ววันนั้นก็กลายเป็นวันแรกที่เราเดินไปส่งแมวขึ้นรถเมล์กลับบ้าน แปลกจริงๆรู้จักกันมาตั้งนานพึงมาส่งแมวขึ้นรถกลับบ้าน ตอนแรกก็อุตสาห์ได้เดินกันสองคนแล้วกลับมีมารมาขวางอีก ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆมาขัดจังหวะกันได้ยังไงกันแย่มากๆเลย ก่อนแมวขึ้นรถเราก็ได้ให้สิ่งที่เราเขียนในกระดาษให้แมวไปเนื้อในข้อความนั้นมันเป็นยังไงก็คงจะได้อ่านแล้วนะไม่ขอเขียนถึงดีกว่านะเพราะได้อ่านไปแล้ว ตอนเย็นของวันนั้นเราก็โทรไปหาแมวเหมือนเคยแล้วก็ถามแล้วเหมือนที่เขียนในกระดาษที่ได้ให้แมวไปแล้ว คำตอบที่ได้รับในวันนั้นมันเป็นยังไงก็มีเพียงเรากับแมวที่ได้รู้เท่านั้น แต่เราก็ไม่ยอมให้เรากับแมวเป็นได้เพียงแค่นั้นเป็นอันขาดเลยจนกว่าวันที่เราจะมาถึงทางตันเท่านั้น เราถึงจะหยุดเรื่องของเรากับแมวเอาไว้แค่ตรงนั้น และถ้ามันถึงทางตันจริงๆแม้เรื่องราวต่างๆจะต้องจบลงไปแต่เรื่องราว ดีๆที่เราได้เคยมีกับแมวในช่วงเวลาที่ผ่านมา มันจะเป็นสิ่งที่เราจะยังคงจดจำมันเอาไว้ตลอดไปไปตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ หลังจากสอบเสร็จแล้วใจมันก็เริ่มหวิวๆแล้วซิ ที่พรุ่งนี้เราจะทำยังไงก็ไม่คุ้นเคยกับชีวิตที่จะไม่เจอแมว พรุ่งนี้เราจะทำยังไงกับความเหงาที่จะไม่ได้เจอกันอย่างนี้ตั้งแต่วันนี้เราจะทำยังไงก็ยังไม่รู้เลยจริงๆ แต่ก็ยังมีช่วงที่เราจะได้เจอกันอีกในช่วงที่มาทำงานที่โรงเรียนอีก ห้าวันไม่ใช่ซินะ สี่วันต่างหากเพราะวันอังคารเราก็ต้องไปเรียน ร.ด.อีกวัน ตอนนี้ก็มาถึงวันที่มาทำงานกันในช่วงปิดเทอม ก่อนวันที่มาทำงาน แมวไปเที่ยวกับน้องก็คือมุก แล้วแมวก็ไปถ่ายรูปมาแมวบอกว่าวันจันทร์จะเอาไปให้เพราะตอนนี้ไม่มีรูปแมวที่เราแล้วแมวเอาคืนไปหมดแล้วไม่เหลือสักรูป มีเหลือแต่รูปในความทรงจำของเราเท่านั้นเอง วันแรกที่มาทำงานแมวใส่เสื่อสีดำกับกางแกง เจ เจ ที่จำได้เพราะมันดูไม่คอยจะเข้ากันเท่าไรเลย มาโรงเรียนแต่ก็ไม่ได้คุยกันเท่าไรเลย เพราะต่างคนก็ต่างทำงานของแต่ละคน พอตอนเลิกงานเราก็รอเอารูปที่แมวบอกว่าจะให้ ตอนแรกแมวยืนให้สามรูป แมวบอกให้เลือกเอาเราก็เลยเลือกทั้งสามรูปเลยก็ขอแค่ให้มีรูปแมวเท่านั้นมันก็น่ารักหมดทุกรูปนั้นเหละเลยไม่รู้ว่าจะเลือกอันไหนดีเลยต้องขอแมวมาทุกรูปเลยจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาเลือกรูป ช่างสองถึงสามวันที่เหลือเราก็ไม่คอยได้คุยกันเท่าไรแถมยังมีเรื่องไม่เข้าใจกันอีกมันจึงทำให้ช่วงเวลาที่เหลือเราไม่คอยได้คุยกันเท่าไรนัก แต่มีเรื่องที่ทำให้เราคิดมากๆกว่าแก่อีก ทั้งที่แมวบอกว่าแมวไม่สนใจคนๆนั้นของแมวแล้วแต่แมวกลับทำในสิ่งที่มันช่างตรงกันข้ามกับคำพูดที่แมวเคยบอกเรามากเหลือเกิน ในเมื่อเคยบอกกันว่าไม่สนใจแล้ว ไม่แคร์แล้วและยังบอกว่าไม่อยากจะยุ้งอีก เรื่องก็คือ วันจันทร์ที่แมวไม่ได้ทำงานแล้ว แมวบอกว่าจะเข้ามาที่โรงเรียนก่อนที่จะไปเที่ยว เราก็ถามแมวแล้วนะว่าเข้ามาทำไม่ที่โรงเรียนแมวก็บอกว่ามานั้งเล่นเฉยๆก่อนที่ห้างมันจะเปิดเพราะต้องออกจากบ้านตอนเช้าเดี้ยวออกจากบ้านไม่ได้ เราก็เชื่อแมว แล้วก็บอกกับแมวว่าวันจันทร์มาถึงโรงเรียนเมื่อมาถึงปากทางเข้าโรงเรียนให้โทรมาหาแล้วเดี้ยวเราจะเดินเข้าไปพร้อมกันพอวันนั้นมาถึงแมวโทรมาบอกว่าให้เข้าไปก่อนก็ได้แต่เราบอกว่าจะรอเข้าไปพร้อมแมว พอแมวมาถึงก็โทรเข้ามาหาเราๆก็เดินออกไปพอเจอกันเราก็ถามแมวว่ามาทำไมที่โรงเรียนอีกก็ยังคงได้รับคำตอบแบบเดิน พอเข้ามาถึงโรงเรียนแมวทำเหมือนเราไม่รู้จักกันเลย ทำเหมือนไม่เคยได้พบกัน และเราก็ได้มารู้เรื่องจริงๆจากการที่เราไปถามใครต่อใครพร้อมกับสิ่งที่เราเห็น มันก็น่าจะเพียงพอที่จะตอบคำถามของเราได้ ทำไมแมวไม่บอกว่านัดกับใครไว้ที่โรงเรียน ไม่เคยจะรู้เลยใช่มั่ยว่ามันทำเราเจ็บแค่ไหนกับการที่เราต้องมารู้ด้วยตัวเอง ว่าที่เข้ามาเพราะคนๆนั้นเขานัดไว้ถึงได้เขามาเขาคงมีค่ากับแมวมากๆเลยนะถึงขนาดที่แมวมาโรงเรียนในวันที่ไม่มีเรียน เราก็คงต้องยอมเข้าใจนะเรามันไม่ใช่คนที่มีค่าอะไรมากสำหรับตัวแมวเลยจริงๆซินะ เราเองมันก็เป็นเพียงสิ่งบางสิ่งที่มันอาจจะทำให้แมวหายเหงาในบางเวลา ทำให้แมวยิ้มได้สนุกได้มีความสุขได้ในบางเวลาแต่มันไม่เคยเพียงพอที่จะทำให้แมวมาเห็นความสำคัญของคนๆนี้ได้เลยใช่มั่ย คราวหน้าคราวหลังจะทำอะไรก็บอกกันมาตรงๆนะถือว่าสงสารสิ่งๆนี้อย่างเราบ้างก็ได้นะ เราระบายอะไรเกินไปหน่อยไหมนี้ จะทำอะไรก็ขอให้ช่วยอธิบายให้เราเข้าใจก่อนได้มัยจะได้ไม่ต้องมาคอยคิดเสียใจที่หลังอีกถ้ามันมีเหตุผลเพียงพอเราก็คงจะไม่กล้าที่จะว่าอะไรแมวหรอกเพราะมันมีเหตุผลนี้หน่าจะว่าได้ยังไงกันใช่ไหม...น้องแมวพอจบช่วงที่ฝึกงานแล้วมันก็เป็นช่วงที่หยุดยาวหลายวันเหมือนกัน ตอนนี้เราขอให้แมวไรน์เพลงให้หน่อยเพราะว่าที่บ้านไม่มีเพลงฟังแล้วมีก็แต่พวกที่มันแก่เอามากๆเลย บอกให้แมวเอามาให้วันที่มาฟังผลแล้วเราก็ไม่ได้เตือนแมวอีกเลย พอวันที่ประกาศผลสอบมาถึงเราก็เห็นแมวถึง ซีดี มาเราก็เลยคิดว่าแมวไม่ลืมแต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เราคิดเลยแม้แต่นิดเดียวเลย กลับกลายเป็นว่ามันเป็นของ...ไปซะงั้นนะ น้อยใจ จริงๆเลยลืมกันได้อีกตามเคย มันก็คงต้องยอมรับว่าแมวลืมได้ง่ายจริงๆ หลังจากที่ฝังผลเสร็จแล้วก็มาถึงช่วงที่จะไปเข้าค่ายที่ปทุมธานีเรายังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปหรือเปล่าก็เรายังไม่ด้ขอเขาเลยเงินก็ยังไม่ได้จ่ายเลย เราคิดว่าคงไม่ได้ไปแน่ๆเลย วันนี้ก็เป็นวันที่จะไปเข้าค่ายกันแล้วเมื้อคืนเราโทรไปหาแมวถามเรื่องที่จะไปว่าทำไงบ้างก่อนที่เราจะไปขอเขาเพราะเราก็อยากที่จะไปเหมือนกันจะให้มันทนได้ยังไงที่จะไม่ได้โทรหาแมวตั้งหลายวัน แต่เรายังไม่ได้บอกแมวเลยว่าได้ไปแล้วก็เลยกะว่าจะมาบอกวันนี้เลยที่เดียวเพราะเมื่อคืนง่วงนอนก็เลยไม่ได้โทรไปบอกแมวเลย ไปถึงที่โรงเรียนก็ว่าจะเข้าไปบอกแล้วแต่ก็ไม่ได้เข้าไปบอกก็เรามัวแต่นั้งคุยกับเพื่อนเพราะไม่ได้คุยกันมานานแล้วก็เลยไม่ได้เข้าไปบอกว่าได้ไปแล้วอีกอย่างก็เราคิดว่าแมวเห็นเราแล้วก็คงจะพอที่จะรู้ว่าเราไปเข้าค่ายที่โรงเรียนด้วย รถออกจากโรงเรียนประมาณแปดโมงเช้าเราได้นั้งรถคันเดียวกันด้วยแต่ก็ไม่ได้คุยกันบนรถเลย พอไปถึงที่ค่ายเราก็เลยไม่ได้คุยกันอีกเลยจนตอนเย็นแมวก็เรียกเราเข้าไปถามว่า มาเข้าค่ายแล้วทำไมไม่บอกกันซักคำเลย เรากำลังจะตอบแมวๆก็เดินหายไปอยู่ที่ไหนไม่รู้ก็เลยยังไม่ทันได้ตอบเลย พอหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยในวันแรกของการที่มาเข้าค่าย วันที่สองตื่นมาตอน ตีห้ากว่าๆเกือบไม่ทันแล้วด้วยก็เมื่อคืนกว่าที่จะได้นอนก็ดึ่กเหมือนกันก็พวกเพื่อนๆมันเล่นกันบ้างกินมาม่ารอบดึ่กกันบ้างกว่าจะได้นอนถ้าวันนั้นไม่มีใครเรียกก็คงจะไปตื่นเอาตอนสายๆแน่เลย สวดมนต์ตอนเช้าเสร็จแล้ว ก็ได้ไปทำความสะอาดวัดก่อนที่จะไปกินข้าวเช้ากันตอนแมวไปตักข้าวเราก็มองแมวแล้วแต่ทำไมแมวไม่ยิ้มให้กันบ้างเลยนะ เป็นอะไรไปอีกหรือเปล่าเราทำอะไรที่ไม่ดีอีกหรือเปล่านะ ตอนกลางวันเราก็มองแมวอีกแต่มันก็ยังคงเป็นเหมือนกลับตอนเช้าที่ได้เจอมา พอมาช่วงบ่ายเราก็ต่างแยกกันไปตามฐานต่างๆ ระหว่างที่เปลี่ยนฐานเราก็เดินสวนกันเราก็ยิ้มให้แมวแต่แมวกลับไปสนใจและแคร์ใคนคนนั้นของแมวมากแล้วก็เลยคิดว่าแมวไม่อยากที่จะสนใจเราแน่ๆเลยและคงไม่อยากที่จะมาเห็นหน้าเราแน่ๆเลยถึงได้ทำแบบนี้ หลังจากตอนนั้นเราก็เลยจะพยายามที่จะไม่ให้แมวต้องทนมาเห็นหน้าเรา เราก็เลยพยายามที่จะหลบหน้าแมวตลอดมา ตอนเย็นก็เป็นช่วงที่ทำพิธีกันหลังจากทำพิธีเสร็จแล้วเราเห็นว่าแมวร้องไห้ด้วยรู้มั้ยว่ามันทำให้เราเศร้าไปทันที่ทันใดเลยด้วยเหตุที่ว่ามันเป็นโรคที่เราจะเห็นคนที่เรามีความรู้สึกดีๆให้ด้วยนั้นเสียใจเราก็จะเกิดอาการใจไม่ดีขึ้นมาทันที่เลย แต่ครั้งนี้เราก็ยังพอทำความเข้าใจได้ว่าแมวร้องไห้เพราะเหตุผลใด หมดวันที่สองของการเข้าค่ายแล้ว วันสุดท้ายแล้วนะที่จะได้เข้าค่ายอยู่ที่นี้ วันนี้แมวก็ยังคงเหมือนกลับ สองวันแรกคือไม่อยากที่จะมายุ้งมาสนใจและมาเห็นหน้าเราตอนเช้าเขาปล่อยให้ไปหากลอนกัน เราก็ไปหาตอนที่จะเดินไปที่ถ้ำเราเห็นแมวเดินมาเราก็เลยไม่เข้าไปแมวเปล่าๆ ก่อนที่จะกลับเราก็เห็นแมวร้องไห้อีกแล้วร้องไห้บ่อยจังเราเห็นก้ใจไม่ดีอีกตามเคยแล้วก็ขึ้นรถกลับบ้านกันตอนกลับเราก็ยังไม่กล้าพอที่จะเข้าไปคุยกลับแมวเลยตอนนั้งรถกลับบ้านเห็นแมวนั้งอยู่ไม่ไกลเรายังไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยกับแมวเลย ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่ามันเป็นอะไรของมันทำไมไม่เข้าไปถามแมวเลยว่าแมวไม่พอใจอะไรเราหรือเปล่า แต่มันก็ไม่ได้ทำอีกตามเคยก็ไม่เข้าใจตัวเองอีกเหมือนกันว่าทำไมเราชอบปล่อยให้เวลาที่เรามีนั้นให้มันหมดไปเปล่าๆโดยที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ใจต้องการสักครั้งเลย พอเวลามันผ่านไปแล้วเราก็ต้องคอยมานั้งเสียใจในสิ่งที่มีโอกาศที่จะทำแต่ไม่ยอมที่จะทำซักที พอกลับมาถึงที่บ้านก็มาคิดว่าจะทำยังไงดีกลับเรื่องนี้ ถ้าบ่อยไปเฉยๆแบบนี้ต่อไปมันคงไม่เป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเราแน่ๆเลย เราก็เลยตัดสินใจที่จะโทรไปหาแมวดีกว่าจะได้คุยกันให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า (เอาน่าเป็นไงเป็นกัน ) โทรไปหาแมวพอแมวรับเราก็ชวนคุยเรื่องอื่นไป แมวถามว่านี้จะไม่ขอโทษกันบ้างเลยหรือไง เราก็งงว่าโกรธเราเรื่องอะไรกันนะ แต่เราก็ขอโทษทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวกับเรื่องอะไรกันแน่ แล้วแมวก็ถามว่าที่ขอโทษนี้รู้มัยว่าเรื่องอะไร เอาแล้วคราวนี้เราจะตอบว่ายังไงดีตอบว่าไม่รู้คงโกรธหนักกว่านี้แน่ๆเลย อย่างนี้ต้องหาเรื่องที่ใหญ่ที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เราบอกแมวว่าเราไม่ไปเข้าค่ายแต่พอวันไปเรากลับไปแน่ๆเลย...เราตอบถูก (รอดตัวไปเรา ) แล้วแมวก็พูดให้ฟังว่า จะไปเข้าค่ายนะไม่ว่าหรอกนะแต่ทำไมไม่บอกแมวซักคำเลยถามที่ค่ายก็ไม่ตอบเราก็เลยบอกว่าเราพึงของพ่อเราแล้วเขาให้ไปเราก็เลยเก็บของเพื่อที่จะไปแล้วก็ยังไม่ได้บอกแมว ที่ค่ายพอจะบอกแมวก็หายไปไหนไม่รู้เลยไม่รู้จะบอกยังไง พอคุยเรื่องนี้เสร็จเราก็คุยเรื่องอื่นกันต่อ แมวก็เลยเล่าเรื่องที่แมวไปเห็นที่ค่ายมาว่าตอนที่ไปที่ถ้ำเต่าแมวไปเจอกับภาพอะไรบางอย่างเหมือนว่ามีใครมามองดูอย่างไม่พอใจ แล้วก็ตอนคืนที่สองแมวก็เห็นว่ามีใครไม่รู้มายืนอยู่นอกห้องพอเอามือไปจับที่กระจกก็หายไป เราก็ไม่รู้ว่าที่แมวเห็นมันเป็นอะไรกันแน่มันอาจไม่ใช่ผีก็ได้อาจจะเป็นแค่เงาคนเดิน ภาพสะท้อนแสง ตาผาด หรืออาจจะเป็นผีจริงๆก็ได้แต่อย่าไปสนใจเรื่องนี้มันมากเลยนะ มันเป็นเรื่องที่ยังไม่มี่หลักฐานที่จะมายืนยันได้ว่าเป็นจริงหรือเปล่า ตอนนี้มันก็ใกล้ที่จะเปิดเทอมแล้วนะ เราก็จะได้เจอกับแมวสักที่ ไม่รู้ว่าแมวจะเป็นยังไงบางอยากจะเจอเราบ้างไหม เคยที่จะคิดถึงเราบ้างไหมเราก็ไม่เคยรู้เลยแต่ก็ชั้งมันก็และกันขอแค่เราได้คิดถึงแมวมันก็น่าที่จะมีความสุขแล้วนี้ไม่เห็นที่จะต้องมานั้งคิดนอนคิดเราว่าแมวเคยคิดถึงเราบ้างไหมปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่จะเป็นไปได้ก็น่าจะพอแล้ว ตอนนี้ก็ต้องเตรียมตัวที่จะเปิดเทอมต้องตื่นนอนแต่เช้าอีกแล้วนะเรา ไปโรงเรียนก็ไม่มีเวลาให้นอนพักตอนบ่ายๆ นอนดึกๆก็ไม่ได้อดดูบอลตอนตีสองแล้วเราต้องมาเข้านอนก่อนสี่ทุ่ม (เพราะสามทุ่มนอนไม่ได้ก็มันเป็นช่วงเวลาที่เราคิดถึงแมวมากที่สุดมันเป็นช่วงที่ทำให้ใจเราเหงามากที่สุดเลยและด้วยเหตุนี้ไงเราถึงต้องโทรไปหาแมวตอนสามทุ่มมากที่สุด)แต่ไปโรงเรียนมันก็ดีเหมือนกันนะเราจะได้เจอหน้าเพื่อนๆเราคงคุยกันมันแน่ๆเลยไม่ได้คุยกันนานพอสมควรแล้ว และก็จะได้พบกับแมวอีกครั้งหนึ่งแต่ก็คงไม่ได้คุยกันมากอีกตามเคยก็เราก็อยากคุยกับเพื่อนเราแมวก็อยากคุยกับเพื่อนแมวก็เข้าใจเพราะว่าเพื่อนก็คือกลุ่มคนที่ที่เราพูดเรื่องต่างๆได้มากและอาจมากกว่าแฟนในบางเรื่อง เลิกกับแฟนมาก็มีเพื่อนที่คอยมาช่วยให้หายเศร้าช่วยทำให้มีความสุขได้ และยังคอยมาเข้าใจในปํญหาของเพื่อนได้ดีอีกคอยช่วยแก้ปัญหาให้เราดังนั้นเพื่อนก็คือสิ่งทีดีที่สุดสิ่งหนึ่ง เราก็เลยต้องเอาใจใส่เพื่อนให้ดีๆเหมือนกัน ยิ่งช่วงของวัยนี้ก็เป็นวัยที่เพื่อนมีส่วนสำคัญอย่างมากในการเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆแต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการตัดสินใจของตัวเราเองว่าจะเลือกที่จะทำอะไรต้องการอะไรตัวเราเองย่อมเป็นคนเลือกอยู่เสมอถ้าเลือกทางที่ถูกก็ถือว่าดีไปแต่ถ้าเลือกทางที่มันผิดคนที่จะเจ็บช้ำใจไม่มีใครหรอกนอกจากตัวเราเอง ชีวิตเป็นของเราดังนั้นชะตาชีวิตคนที่กำหนดเส้นทางก็ต้องเป็นตัวของเราเอง ออกนอกเรื่องอีกแล้วเรา...! เปิดเทอมซักที่จะได้มีอะไรทำบ้างอยู่บ้านไม่มีอะไรทำเลยกิน นอน เล่นเกม นี้น่าเอเอามากๆเลย เปิดเทอมนี้มีของมาให้แมวด้วยนะ ถ้าให้ก็จะรู้เองนะว่ามันเป็นอะไร มันเป็นของชิ้นเล็กๆที่ไม่ได้สวยอะไรมากนักหรอกแต่หวังว่ามันจะมีคุณค่าทางจิตใจบ้างสักเล็กน้อยถึงปานกลางก็ยังดีนะ เปิดเทอมมี่เรื่องจะคุยกับแมวหลายเรื่องเลยแต่ไม่ได้คุยสักที่ ไม่ค่อยมีเวลาที่เหมาะสมเลย เราว่างแมวไม่ว่าง เราไม่ว่างแมวว่างเป็นอยู่อย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีนะ จะได้คุยกันก็คงแค่ทางโทรศัพท์เท่านั้นเองมั้งคุยทางโทรศัพท์มันก็ดีอย่างเสียอย่างนะ ได้คุยกันนานๆจนกว่าจะตัดก็เกือบชั่วโมงแต่มันไม่ได้เห็นหน้าแมวซินะคือข้อเสีย แต่ไม่เป็นไรหรอกแค่หลับตาก็เห็นหน้าแมวแล้ว(หวานซะงั้น) แต่มันเป็นความจริงนะไม่ได้หลอกหรือโกหกเลยนะแค่ออกแนวเวอร์นิดหน่อยเอง ถ้าจะคุยกันที่โรงเรียนเราคงต้องนัดแมวล่วงหน้าแล้วมั้งจะได้มีเวลาที่มันตรงกันซักที่ ได้ให้ของแมวซักที่กว่าจะได้ให้ก็ต้องนัดแมวล่วงหน้าจริงๆด้วยก็เรานัดแมวตอนกลางวันหลังกินข้าวเสร็จที่ห้องสมุดเพราะคนมันน้อยดีเราจะได้กล้าๆหน่อยคนเยอะที่ไรใจมันไม่กล้าทุกที่เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นโรคอะไร พอตอนกลางวันมาถึงคราวนี้ไม่เป็นอันกินข้าวแล้วใจมันสั่นไปหมดเลยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรกันนะตอนนั้นเราคิดอะไรเต็มไปหมดเลยมันก็สับสนเรื่องที่จะพูดกับแมวด้วย พอแมวกินข้าวเสร็จแล้วขึ้นห้องสมุดวินาทีแห่งความกล้าก็มาถึงแล้ว...!คราวนี้เราก็ต้องขึ้นไปให้ของที่จะให้แมว แต่ไม่กล้าที่จะขึ้นไปก็เลยดึงเก๋ไปเป็นเพื่อนคอยเป็นคนช่วยเราพูดหน่อย พอขึ้นห้องสมุดเราก็เข้าไปหาแมวเราก็คุยเรื่อง...(ขอที่จะไม่เขียนถึงในบันทึกอันนี้แล้วกันนะถ้าได้อ่านก็คงพอจะรู้ว่าเป็นเรื่องอะไร)แต่เราก็ไม่ได้พูดซักเท่าไรก็มีเก๋ที่ช่วยพูดให้จนหมดเลยคุยเสร็จเราก็ให้ของแมวแล้วก็หมดเวลาพักก็แยกกันไปเรียน พอตอนเย็นกลับมาบ้านก็นอนหลับพอตื่นก็โทรไปหาแมวเหมือนที่เคยโทรไปทุกวัน แมวก็บอกว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องให้คนอื่นพูดทำไมไม่พูดเอง เราก็เลยตอบไปว่าก็คนมันเป็นอย่างนี้จะให้ทำยังไงได้เราไม่ค่อยกล้าเรื่องนี้ก็น่าที่จะพอรู้ไม่ใช่หรือไงแต่ยังไงมันก็ได้พูดเหมือนกันถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้พูดเองแต่ทุกคำที่เก๋มันพูดเราก็ต้องการพูดอย่างนั้นอยู่แล้วก็คงไม่น่าที่จะมีปัญหานี้หน่า ลืมถามเลยว่าชอบพ่วงกุญแจที่ให้มัย เราเห็นว่ามันเป็นรูป ตา-ยายมันก็เลยน่าที่จะมีความหมายดีที่ว่าเรากับแมวอาจจะคบกันไปถึงตอนแก่เฒ่าก็ได้ถึงแม้จะไม่ได้คบกันเกินเพื่อนแต่ก็ขอให้เราได้เจอกันในฐานะอะไรก็ได้ขอแค่เจอกันก็พอแล้ว ได้เห็นการก้าวเดินอย่างมีความสุขของแมวก็เพียงพอแล้วมั่ง ก็เคยคิดนะว่าถ้าไม่ได้เป็นคู่กันจริงในวันที่แมวแต่งงานเราก็ขอแค่มีการด์เชิญมาให้สักใบก็คงจะดีใจแล้ว ถ้าเป็นจริงได้แมวก็ช่วยทำตามที่เขียนด้วยนะ อยากมีส่วนรวมในวันที่แมวมีความสุขมากที่สุดในชีวิตวันหนึ่งก็แค่นั้นเองไม่มีอะไรมากนักหรอกนะนะ วันพรุ่งนี้เป็นเรื่องของอนาคตไม่มีใครรู้ว่ามันจะเป็นไปในทางไหนวันนี้เราขอทำในสิ่งที่ใจเราต้องการให้ได้มากที่สุดก่อนแล้วกันวันพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องมานั้งเสียใจกับสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ ถ้าปล่อยให้มันผ่านไปแล้ก็คงหมดโอกาสที่จะกลับมาแก้ไขมันได้อีกแล้วเราเชื่อว่าปฎิหารคงไม่มีจริงหรอกเพราะทุกครั้งที่รอปฏิหารก็ได้รับแต่ความเสียใจทุกๆครั้งไป แต่บางคนเขาอาจจะมองอีกมุมหนึ่งก็ได้นะมันเป็นเรื่องของความคิดของแต่ละคนที่สว่นใหญ่ความคิดมันมักจะไม่ค่อยตรงกันเท่าไรหรอก เปิดเทอมมันก็เหมือนปิดเทอมอยู่ดีมันไม่ค่อยจะแตกต่างกันเลยมันก็ยังคงมีเวลาที่ตรงกันน้อยมากๆอยู่ดี แต่มันก็ยังพอที่จะได้เจอกันบ้างก็ยังดีนะที่พอเห็นหน้าให้หายคิดถึงซักที่ อีกอย่างมันก็คงเป็นนิสัยส่วนตัวของเราด้วยที่มันไม่ชอบเข้าไปยุ่งเวลาแมวอยู่กลับเพื่อนเพราะเราก็ยังอยากอยู่กับเพื่อนเหมือนกันอีกอย่างเราก็กลัวว่าเราจะเข้ากับเพื่อนแมวไม่ได้ขอแค่คุยกันแบบเห็นหน้าวันละนิดก็ยังดี ถึงตอนนี้มันก็เข้าชว่งกลางเทอมที่มันมีกีฬาสีให้ทำตอนเลิกเรียนอีกโอกาศที่คุยกันก็คงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แต่เราไม่เคยที่จะคิดโทษใครทั้งนั้นเพราะเราไม่ยอมที่จะเข้าไปหาไปคุยกับแมวเองอีกอย่างแมวก็เป็นผู้หญิงจะเข้ามาหาเรามันก็น่าเกลียดอีกก่อคงคุยกันทางโทรศัพย์สะดวกสุดแล้ว คุยได้นานสุดแต่ไม่เห็นหน้าแต่แค่ได้ยินเสียงมันก็หายคิดถึงแล้ว ตอนนี้มองภาพรวมแล้วมันเหมือนเราค่อยๆห่างกันไปที่ละนิดที่ละนิดโดยที่ตัวเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรากำลังที่จะห่างกันไป ช่างมันแล้วกันขอทำในสิ่งที่เราคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับเราในตอนนี้ก็แล้วกันนะ ถ้าผลมันเป็นยังไงก็ขอให้รู้ไว้ว่าเราทำมันแล้วแม้ว่าไม่สำเร็จแต่ก็ยังพอที่จะได้ดีใจว่าเรายังได้ทำในสิ่งนั้นๆแล้ว มาถึงวันที่เราไม่อยากเขียนให่ได้อ่านแต่ก็ต้องเขียนเริ่มเลยแล้วกันนะ เรื่องมันเริ่มจากที่เรามันเริ่มที่จะคิดอะไรบ้าๆว่าแมวเริ่มที่จะเบื่อๆเราแล้วพอมาตอนเย็นของวันหนึ่งเราโทรไปหาแมวครั้งแรกไม่รับ ลืมไปก่อนหน้านั้นเรามีปัญหากันเล็กน้อย โทรไปครั้งที่สองก็ไม่รับ ครั้งที่สามเพื่อนแมวรับบอกว่าแมวไปห้องน้ำเราก็รอห้านาที่แล้วโทรไปหาอีกครั้งนี้เพื่อนแมวรับอีกบอกว่าแมวไปเล่นบาสคราวนี้ละเริ่มคิดไปกันใหญ่เริ่มมานั้งคนเดียวแล้วเริ่มคิดไปเรื่อยๆประกอบกับพอครั้งสุดท้ายที่โทรไปพอวางก็มากินเหล้าไปพอเริ่มมึนๆหน่อยก็เลยทำให้คิดไปกันใหญ่เลยแล้วก็เริ่มร้องไห้ไม่รู้ว่าวันนั้นร้องไห้ได้ยังไงทั้งที่ต้องเราโทรไปหาแมวตอนที่แมวบอกให้อยู่ห่างกันตอนเทอมที่แล้วเรายังไม่ร้องไห้เลยก็ยังไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกันจนวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจ พอเพื่อมันยิ่งมาปลอบมันก็ยิ่งไปกันใหญ่ไม่รู้เป็นโรคอะไรพอมีคนมาปลอบเรื่องที่เสียใจก็ยิ่งไปกันใหญ่เลยแล้วเพื่อนมันก็ให้โทรไปหาแมวให้คุยกันให้เข้าใจซะคุยกันไปคุยกันมาเราก็เลยถามแมวว่าคิดยังไงกันแน่ว่าชอบหรือไม่ชอบเราถามหลายครั้งแต่แมวไม่ตอบเราก็บอกว่าถ้าไม่ตอบก็แปลว่าไม่แมวก็ตอบว่าไม่ชอบเป็นอันว่าเราเข้าใจว่าแมวไม่ชอบแล้วแมวก็บอกเองว่าไม่ได้คิดอะไรแล้วเราก็คงต้องเข้าใจเพราะว่าความรูสึกเป็นเรื่องที่บังคับให้เปลี่ยงแปลงได้แต่เจ้าของความรู้สึกสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอพอวันจันทร์ก็ไปเรียนตอนเช้าเดินสวนกันแมวดันได้ยินคำที่ว่าก็เรามันไม่ใช่เพื่อนเธอนี้(ดัดแปลงเล็กน้อย)แต่ความจริงเราด่าไอ้เก๋ที่มันกวนตีนเราแต่แมวกลับคิดว่าเราพูดกับแมวพอเจอหน้ากันแมวก็หลบหน้าเราจะเดินผ่านเราแต่พอเห็นเราก็เปลี่ยนทางเดินเราก็ไม่เข้าใจว่าเป็นอะไรไปอีกรังเกลียดเรามากขนาดนั้นเลยหรือไงกันถึงทำกับเราแบบนั้น ซึ่งมันก็ทำให้เราไม่พอใจอยู่เหมือนกันนะ พอตอนเย็นก็มามีเรื่องกับพวกม. 3 อีกวันนี้มันวันอะไรกันแน่นะทำไมมันซวยซิบ ตอนเย็นเจอกับแมวอีกเราก็ถามแบบมีอารมณ์ว่าเป็นอะไรก็เลยทำให้เรื่องมันไปกันใหญ่เลย ตอนจะกลับบ้านฝนก็ถามว่าวันนั้นคุยอะไรกับแมวตอนกลางวัยมันก็รียกเราแต่เราเห็นว่าแมวไม่อยากเจอเราๆก้เลยเข้าไปหามันตอนจะขึ้นเรียนกลับมาตอนเย็นมันก็บอกเราว่าผู้หญิงทุกคนถ้าถูกบังคับให้ตอบก็จะตอบว่าไม่ตลอด(ถ้าอย่างนั้นเราก็มีหวังซินะ)แล้วเราก็โทรไปหาแมวเพื่อที่จะถามว่าวันนี้เป็นอะไรทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยไม่เข้าใจเลย ก่อทำให้เราได้คำตอบจากแมวมาว่า วันนี้ตอนเช้าได้ยินที่เราว่าเพื่อนเราแล้วแมวก็คิดว่าเราว่าแมวพอตอนเข้าเรียนมั้งเพื่อนแมวก็ดันไปร้องเพลง รู้ไหมว่าฉันคิดถึงก็เลยทำให้เวลาเห็นหน้าเราแล้วร้องไห้ก็ยิ่งทำให้เราไม่เข้าใจว่าทำไมเห็นหน้าเราแล้วถึงเป็นแบบนั้นหรือเราน่ากลัวมากๆเลยหรือไง คำตอบที่ได้ก็ทำให้หายสงสัยไปนิดหน่อยแต่ก็ยังมีเรื่องที่ยังไม่เข้าใจอยู่อีกเหมือนกันแต่ไม่อยากถามกลัวโดนว่า ผ่านไปไม่ทันไรก็จะเข้าเดือนสุดท้ายของปีแล้วนะเดือนนี้รงเรียนมีทั้งกีฬาสี งานประจำปีอีกกิจกรรมเต็มเลยแต่เราไม่ค่อยได้มีส่วนรวมกับเขาเลยกีฬาสีก็ไม่ได้แข่งอะไรเชียร์ก็ไม่ได้เชียร์กับเขาเลยจะมีก็แต่งานประจำปีที่ว่าจะมาเพราะเพื่อนเราหลายคนก็อยากจะมาเหมือนกันท่าทางจะสนุกน่าดู ช่วงนี้เรากับแมวก็ยังคงได้แต่คุยกันทางโทรศัพย์เหมือนเดิมปลายเดือนนี้( พ.ย. )แมวไปเข้าค่ายภาษาที่ประจวบด้วยไปวันเสาร์ทำให้อดเที่ยวยลอยกระทงเลยเพราะวันลอยกระทงเป็นวันศุกร์ ส่วนตัวเราก็ต้องไปลอยกระทงโดยไม่มีใครมาลอยคู่กันเป็นปีที่ 3 แล้วที่ไปเที่ยวลอยกระทงแต่ไม่ได้ลอยกระทงกับเขาด้วยแปลกดีไหม น่าเสียด่ายจังที่ไม่ได้ไปเข้าค่ายตอนแรกเพื่อนในกลุ่มมันว่าจะไปกันแต่มันเกิดเปลี่ยนใจกันหมดเลยก็เลยทำให้ไม่มีเพื่อนไปก็เลยไม่ไปดีกว่า อีกอย่างก่อนไปเข้าค่ายกันเราก็เพิ่งจะไปมาเองเลยเกิดอาการเบื่อทะเลขึ้นมา ไม่รู้ว่าแมวไปเข้าค่ายสนุกมั่ยแต่เราค่ายมันอยู่ไกลเกินไปหน่อยทำให้ต้องนั้งรถนาน ช่วงที่แมวไปเข้าค่ายทำให้เวลาที่เราจะโทรไปหาแมวก็มีลดน้อยลงไปอีกเพราะเราไม่รู้ว่าแมวจะทำกิจกรรมอะไรตอนไหน แล้วโทรไปเราก็คงคุยกับแมวได้ไม่นานนักเพราะเดียวก็ต้องทำกิจกรรมอีกโทรไปดึกเกินก็เป็นเวลานอนอีกอีกอย่างก่วาจะกลัก็วันจันทร์ก็เลยทำให้วันจันทร์อดเจอกันอีกกลายเป็นว่าอาทิตย์นี้เราเจอกันแบบเห็นหน้าแค่ 4 วันเท่านั้นเองขาดไปวันเดียวเหมือนมันหายไปเป็นเดือนเลย ก็เราเห็นหน้าแมวแล้วมีความสุขนี้ถึงแม้จะไม่มีเวลาคุยกันก็ไม่เป็นไรเข้าตำราที่เขาว่าเห็นหน้าก็หายคิดถึง บางแก้วอีกแล้วเรา งงดิบางแก้วอะไรก็น้ำเน่าไงเงาจันทร์ไงแต่ในที่นี้ของเอามาใช้แค่น้ำเน่าพอ หายงงยังอธิบายแล้วนะถ้าไม่เข้าใจก็งงต่อไปแล้วกันนะ และแล้วก็เข้าเดือนสุดท้ายของปีนี้แล้ว( 2547 ) เท่ากับว่าเรากำลังแก่ขึ้นอีกปีแล้ว ยังไม่อยากแก่เลยกลัวว่าแก่แล้วต้องมีเรื่องอะไรที่ยากขึ้นให้ทำในปีหน้าอีกเช่นการเรียนม. 5 และเรื่องอื่นๆอีกถ้าเราลองคิดกันดีๆปัญหาที่เราเจอในแต่ละปีมันเหมือนจะแก้ยากขึ้นทุกปีเลย ไม่รู้ว่าปีหน้าจะมีปัญหาหนักใจอะไรมาให้ต้องแก้อีกปีนี้ยังแทบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน แต่ถ้าชีวิตมันไม่มีปัญหาให้แก้ก็เหมือนชีวิตที่มันขาดรสชาติไปนั้นเอง บ่นเหมือนคนแก่อีกแล้วเรา เริ่มเดือนสุดท้ายของปีด้วยการเตรียมเงินจ่ายค่าโต๊ะอาหารที่ต้องหารกับเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อที่จะรวมให้ได้ สองพันบาท ทำไมแพงจัง แต่เดือนนี้ก็มีข้อดีเหมือนกันนะคือไม่ต้องตื่นนอนแต่เช้าไปโรงเรียน (ร.ด.)เริ่มเดือนมาก็มีเรื่องให้ต้องปวดหัวอีกเพราะว่าพ่อเราไม่สบายมีเลือดออกในกะเพาะอาหราเพราะว่าไปกินยาที่มันกัดกะเพาะเห็นพ่อแล้วแทบไม่เป็นอันทำอะไรเลย พอพ่อเราเริ่มมีอาการที่ดีขึ้นเราก็แลยคิดว่าจะพาแมวไปเยี่ยมพ่อเราในวันเสาร์ที่มันตรงกับงานโรงเรียนในตอนเย็น เราก็เลยไปถามแมวแล้วก็ได้คำตอบมาว่าถ้าเพื่อนแมวไปก็ไป แต่พอวันพฤหัสพ่อเราออกจากโรงพยาบาลแล้วเราก็เลยบอกไปว่างั้นไปเที่ยวกันดีกว่า วันศุกร์เป็นวันกีฬาสีพอดีเราก็ไปโรงเรียนแต่มันไม่มีอะไรทำก็เลยออกมาหาอะไรกินกับเพื่อนๆสักหน่อยพอมึนๆเล็กน้อย วันเสาร์วันที่เรานัดกันไว้ว่าจะไปเที่ยวกัน แมวบอกว่าเรียนพิเศษเสร็จแล้วจะโทรมาเราก็รอแล้วก็รอจนบ่ายโมงก็ยังไม่เห็นว่าจะโทรมาเรานัดตั้งแต่เที่ยงนี้บ่ายโมงแล้วยังไม่โทรมาอีกเราก็เลยลองโทรไปถามว่าอยู่ที่ไหนทำไมไม่โทรมาหาซักที่รอตั้งนานแล้วก็ได้คำตอบมาว่ากำลังกินข้าวอยู่แล้วเพื่อนแมวก็ไม่ไปกันเราก็เลยถามว่าแล้วจะไปไหมก็ได้คำตอบมาอีกว่าไม่ไป เรารอตั้งนานเพื่อที่จะมาฟังคำว่าไม่ไปแล้วนี้นะ พอได้ยินมาอย่างนี้เราก็เลยวางดีกว่าไม่อยากคุยด้วยแล้วถ้าคุยต่อเราว่าได้ทะเลาะกันอีกแน่ แล้วเราก็มาคิดว่าทำไมไม่ยอมโทรมาบอกว่าจะไม่ไปแล้วแค่บาทเดียวยอดแล้วกดเบอร์โทรมาหาเราแค่นี้มันยากมากๆเลยใช่มั่ยถึงได้ไม่ทำ พอตอนเย็นก็ได้เวลาออกมาเที่ยวงานโรงเรียนก็จัดได้ใหญ่ดีเหมือนกันนะแต่น่าจะมีทุกปีไม่ใช้มีสองปีครั้งหนึ่ง ออกมาเที่ยวงานก็สนุกเหมือนกันนะและวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เราได้คุยกับคนๆหนึ่งที่เราไม่ได้คุยกับเขามา สามปีแล้วก็ดีใจเหมือนกันแต่กว่าจะกลับบ้านได้ก็มึนๆเหมือนกันอีกอย่างก็กินเข้าไปเยอะเหมือนกันเพราะกลุ้มใจเรื่องที่เจอมาตอนบ่ายนี้แต่มันก็แก้ได้ไม่นานนักหรอกพอตื่นนอนมันก็หายแล้ว หลังจากเลิกงานโรงเรียนแล้วก็ว่าจะไปเที่ยวกันต่อแต่ดูสภาพของแต่ละคนแล้วไม่น่าที่จะไปเที่ยวที่ไหนได้ต่อแล้วก็เลยแยกกันกับบ้านนอนดีกว่าเพราะตอนนั้นมันก็ดึกมากแล้วเหมือนกัน อาทิตย์หน้าก็จะสอบแล้วสอบเสร็จก็หยุดยาวไปจนถึงปีใหม่อีก ดีจังจะได้มีวันหยุดพักผ่อนนานๆมั่งใช้ชีวิตมาปีหนึ่งแล้วแต่ก่อนจะหยุดก็ต้องมาเตรียมตัวสอบกลางภาคก่อนแต่มันก็ไม่ได้เตรียมอะไรมากมายนักหรอกแค่ทำตัวให้สบายๆ ไม่ต้องไปคิดเรื่องสอบมากทำข้อสอบเท่าที่เรารูก็พอแล้ว สอบเสร็จแล้วได้หยุดเที่ยวซักที่แล้วแมวละสอบเสร็จแล้วจะไปที่ไหนต่อนะ เห็นบอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนไมใช่หรือไงก็ขอให้เที่ยวให้สนุกแล้วกันแล้วปีหน้าเจอกันนะ ปีนี้ก็จะผ่านไปแล้วถ้าขอพรปีใหม่ได้ก็อยากขอให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไปนะ เข้าสู่ปีใหม่แล้วนะเมื่อคืนเราไม่ได้ส่งข้อความต้อนรับปีใหม่ให้แมวเลยนะก็โทรศัพท์เรามันไม่ได้เรื่องเลยไม่มีคลื่นเลยจากที่มีโทรศัพท์มันก็กลายเป็นวัตถุที่เอาไว้ปาหัวสุนัขแทนน่าเบื่อมากๆเลย ไม่รู้ว่าแมวได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือเปล่าตอนปีใหม่นะไม่ได้ส่งข้อความให้ก็เลยข้อเขียนให้ในบันทึกนี้แทนแล้วกันนะ เราก็ของให้แมวเลือกที่จะทำในสิ่งที่ดีๆ มีคนทีดีๆอยู่ข้างๆกายแล้วก็ขอให้การที่แมวเลือกทำสิ่งที่ดีนั้นส่งผลให้แมวได้พบเจอกับเรื่องที่ดีๆ ถ้าหากมีความทุกข์ก็ของให้มีกำลังใจที่จะผ่านมันไปให้ได้ก็แล้วกันนะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามจะยังคงมีกำลังใจจากคนๆหนึ่งที่จะส่งให้แมวอยู่เสมอและก็จะขอมองดูความสุขของตัวแมวอยู่ห่างๆก็พอแล้ว หนึ่งปีที่ผ่านมาก็มีเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เรามีความคิดมากขึ้นและก็ทำให้เราเข้าใจในเรื่องบางเรื่องได้มากขึ้น และก็ขอบคุณแมวนะที่ช่วยสอนคำว่ารักให้เราเข้าใจมันมากขึ้นได้รู้รสชาติของรักมากขึ้นกว่าที่เคยมีมาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปีที่แล้วมันก็สอนเราหลายๆเรื่องเลยบางเรื่องก็ทำให้มีความสุขบางเรื่องก็ทำให้ต้องเสียน้ำตา ชีวิตคนก็คงเป็นต้องเป็นแบบนี้ ไม่มีใครที่จะมีความสุขตลอดเวลาและก็เช่นกันคงไม่มีใครที่จะต้องเศร้าเสียใจอยู่ตลอดเวลา (พูดเหมือนคนแก่เลยเราทำเป็นปลงชีวิต) ก่อนกลับบ้านพ่อเราพาไปด่านเกวียนไม่รู้ว่าแมวรู้จักที่นี้มั่ยอิธบายให้ก่อนแล้วกันว่ามันเป็นแหล่างที่เขาทำเครื่องปั่นดินเผาเหมือนที่เกาะเกล็ดเขาทำหม้อแต่ที่นี้เขามีหลากหลายกว่าเราก็เลยซื้อไม่รู้ว่ามันเรียกว่า ตุ๊กตาได้หรือเปล่านะแต่มันก็คล้ายๆกันนั้นแหละเป็นรูปเด็กชาวเขา 1คู่ก็ว่าจะให้เป็นของขวัญปีใหม่กะว่าจะเอาไปให้วันที่เปิดเรียน เพื่อที่มันจะได้เป็นของขวํญในวันปีใหม่ที่มันอาจจะเลยมาหลายวันเมื่อมันเปิดเรียนอีก แล้วมันก็ถึงวันที่เปิดเรียนก็เอาไปให้แต่เราก่อห่อมันซะเหมือนห่อข้าวมันไก่จนเพื่อนแมวแซวเอาให้อายซะงั้น แต่มาคิดๆดูมันก็เหมือนจริงเหมือนกัน ให้แล้วก็ฝากดูแลมันด้วยละไม่ใช้เอาไปเก็บอยากให้เอาไปใช่มากกว่าเอาไปเก็บเอาไปตั้งไว้ที่ให้ก็ได้ มองดูแล้วเราเหลืดเวลาอีกไม่นานก็จะปิดเทอมอีกแล้วทำไม่เร็วจังเลยนะกลางเดือนหน้าก็จะสอบปลายภาคเรียนแล้วนะเท่ากับว่าเราจะเจอกันก่อนปิดเทอมแค่ประมาณ 20กว่าวัน(ไม่นับวันหยุดที่ไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว) หวังว่าเวลาที่มันเหลืออยู่ของเทอมนี้เราคงไม่มีเรื่งที่ทำให้เราไม่เข้าใจกันนะอยากที่จะใช้เวลาที่มีให้มันมีค่ามากกว่าการที่ต้องมีปัญหากัน ทะเลาะกันทุกครั้งก็ทำให้เวลาที่ดีๆที่มีให้กันมันลดน้อยลง เราเคยทำพลาดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วที่เราชอบเอาอารมย์มาใช้จนเกิดเรื่องขึ้นหลายครั้งเพราะความที่เราเป็นคนใจร้อน ดังนั้นอาจจะเห็นเราหลีกปัณหาด้วยการไม่เจอหรือทำเป็นไม่สนใจเพื่อไม่ให้หงุดหงิดมากกว่าเดิม เราไม่รู้เหมือนกันนะว่าเวลาที่เราจะได้เจอกันมันลดน้อยลงไปมากมายขนาดไหนแล้ว แต่ขอให้รู้เอาไว้นะว่าเวลาที่เรามีกับแมวเราไม่เคยที่จะเสียด่ายเลยถึงแม้ว่าพรุ้งนี้เราต้องจากกันก็จะไม่คิดเสียใจที่เราเคยรักแมว (คำคมอีกแล้ว)ออกนอกเรื่องไปจนได้เลยนะเรา ตอนนี้เรากับแมวก็ยังคงอยู่ที่เดิมประกอบกับช่วงนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยเพราะว่าโทรไปหาแมวๆก็กำลังทำการบ้านอยู่เราก็เลยไม่อยากกวนเวลาของแมวเดี่ยวจะทำไม่เสร็จแล้วก็จะไม่มีส่งอาจารย์อีกพอไม่มีส่งอาจารย์คะแนนก็จะห่ายไปก็รีบทำให้เสร็จนะเราจะได้มีเวลาโทรคุยกันนานๆกว่าที่มันเป็นอยู่ในต้อนนี้ แล้วก็อย่าทำการบ้านจนไม่มีเวลานอน แล้วก็จะกลายเป็นหมีแพนด้าเอาตัวยิ่งเหมือนๆอยู่ด้วยนะ เข้าสู้กลางเดือนก็เกิดเรื่องขึ้นมาอีกเป็นเรื่องที่ไม่อยากรับรู้แต่ก็ต้องรับรู้เรื่องนี้ ทั้งที่ต้องทำเป็นรับได้แต่ในใจของเราซิมันตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเลย เรื่องที่ว่านั้นก็มีอยู่ว่า วันหนึ่งที่เราโทรไปหาแมวแล้วแมวก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่า แมวไปปลื่มน้องคนหนึ่งแล้วแมวก็อยากให้น้องมันรับรู้แล้วแมวก็เลยมาเล่าให้เราฟังเราก็เลยบอกว่าถ้าใจชอบเขาก็ให้ทำตามใจดวงนี้ไปแล้วกันถ้าคิดว่าทางที่กำลังจะไปมันเป็นสิ่งที่ดีกว่าที่มันเป็นอยู่ตอนนี้เราก็ขอให้เลือกทางนั้นแล้วกันแล้วก็ขอให้ทางนั้นอย่าได้มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นเลย แต่เราก็ไม่เข้าใจตัวเองนะอาจจะออกแนวสับสนก็คืออีกด้านหนึ่งของหัวใจมันก็ต้องการที่จะให้แมวยังอยู่ตรงนี้ไม่อยากให้ต้องจากไปไหน ถึงแม้ว่าสถานะภาพในตอนนี้มันก็ไม่เคยที่จะมากไปกว่าคำว่าเพื่อนเลย แต่ยังไงก็อยากให้พรุ้งนี้ที่เราตื่นมายังคงมีแมวอยู่ในที่แห่งนี้เหมือนเมื่อวันที่มันเคยมี แต่ถ้าหากเลือกที่จะเดินจากไปเราก็คงจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว หลังจากนั้นสองสามวันก็มีน้องมาชอบแมว น้องคนนั้นเรียนอยู่ชั้นเดียวกับมุกและดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนมุกด้วย แมวก็บอกว่าไม่อยากคบ กลัวคนอื่นเขาจะหาว่าแมวหลอกเด็ก และเรื่องนี้แมวก็บอกเราเหมือนกัน ว่าคงจะไม่ชอบหรอกเพราะยังเด็กอยู่ แต่แค่เพียงเวลาที่มันผ่านไปเพียงไม่กี่วันเราก็เห็นแมวไปอยู่กับเขาทุกวันซึ่งการกระทำของแมวนั้มันตรงกันข้ามกับที่เคยบอกเราไว้เมื่อตอนที่เราเมาแล้วโทรไปหาว่าอะไรนั้นตอนนี้ไม่อยากที่จะเขียนถึงและในบันทึกอาจจะไม่ได้เขียนถึงแต่ก็คงพอที่จะรู้นะ และแล้วเวลาที่มีมันก็เริ่มหมดไปเพราะมันใก้ลที่จะหมดเดือนแรกของปีแล้วและเดือนต่อไปมันก็จะไปโรงเรียนอีกแค่ไม่ถึงครึ้งเดือนอีกเวลาที่เหลือมันคงจะเพียงพอที่จะทำให้เราจบปีการศึกษานี้ด้วยความเข้าใจกันนะโดยเฉพะเรื่องน้องคนนั้น ยิ่งเราเห็นแมวอยู่กับเขาอย่างมีความสุขใจหนึ่งก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่แมวกำลังพบเจออยู่ในตอนนี้แต่อีกใจหนึ่งมันก็เสียใจมากเหมือนกันกับเรื่องนี้ ก็อย่างที่เขียนไว้แล้ว ถึงจะเสียใจแต่ด้วยความที่เราเป็นผู้ชายต่อหน้าคนอื่นเราจะมาเสียน้ำตาให้ใครเห็นไม่ได้ เก็บเอาไว้มาร้องไห้กับตัวเองดีกว่าให้ตัวเราเองปลอบใจตัวเองดีกว่าที่ไปร้องให้คนอื่นเห็น ในเมื่อทุกสิ่งมันเกิดขึ้นจากตัวของเราเองเราก็เลยอยากให้มันจบลงที่ตัวของเราเพียงคนเดียวอย่างน้อยมันก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเหมือนกัน มีอยู่วันหนึ่งที่โรงเรียนมีงาน ต.พ.ญ. ที่มันมีให้นักเรียนขายของวันนั้นเราเห็นว่าแมวนั้งอยู่กับเขาคนนั้นของแมวตลอดเวลาเลยแต่จะทำไงได้ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย และมันก็กลายเป็นว่าช่วงเวลที่เราอยากจะมีแมวให้มากที่สุดมันกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตอย่างยากลำบากไปเลยและเวลาที่เราจะได้เจอกันมันก็เหลือน้อยลงไปอีกเพราะอีกไม่นานมันก็จะปิดเทอมแล้ว และเราก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าปีหน้าเรื่องของเรากับแมวจะเป็นไปในทิศทางใด ไม่รู้ว่าถึงวันนั้นเราจะยังเป็นแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า กลัวว่ากาลเวลาจะทำให้เราสองคนเปลี่ยนไปอีกอย่างเราก็เห็นมาบ่อยแล้วที่ เวลาเป็นสิ่งที่คอยพรากความรักที่เราเคยมีไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็คงจะไปโทษกาลเวลาอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะมันน่าจะมีส่วนกับคนด้วยหากมองในอีกแง่มุมหนึ่งถ้าใจคนเรามั้นคงก็คงไม่มีอะไรมาทำให้มันเปลี่ยนแปลงได้หรอก อีกไม่กี่วันก็ใก้ลที่จะสอบแล้วและเช่นกันมันก็ใกล้ที่จะปิดเทอมใหญ่ซึงมันจะทำให้เราไม่เจอกันเกือบๆสามเดือนเลย มันคงทำให้เราเหงาน่าดูเหมือนกันนะกว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้งคงนานพอดู ตอนที่เขียนตอนนี้ก็ปาเข้าไปวันที่15กุมภาแล้ว เม่อวานวันวาเลนไทด์ก็ไม่ได้ให้ของใครเลยเพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะให้ใคร จะให้แมวก็ไม่สมควรเพราะยังไงแมวก็มีแฟนอยู่แล้วไม่อยากทำให้ใครลำบากใจ ส่วนพรุ้งนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าแมวจะจำได้หรือเปล่าว่าวันพรุ่งนี้มันวันอะไรถ้าจำไม่ได้ก็คงไม่โทษแมวหรอกนะเพราะเราไม่มีสิทธิ์แล้วตั้งแต่วันนั้น จะจำได้หรือไม่พรุ่งนี้ก็จะได้รู้คำตอบของคำถามข้อนี้เอง ส่วนคนที่จะตอบคำถามข้อนี้ไม่ใช่ใครเลยนอกจากตัวของแมวเอง ถึงจะเป็นไปในทิศทางใดเราก็พร้อมที่จะเข้าใจแล้ว ในที่สุดก็จำไม่ได้นึกเอาไว้แล้วว่าคนที่ไม่มีคุณค่าก็ไม่มีใตรที่อยากจะจดจำนักหรอก ทำไมวันนี้ต้องเป็นวันที่เราไม่มีความสุขด้วยไปสอบก็ไปพร้อมกับความหวังว่าแมวคงจะไม่ลืมวันนี้หรอกแต่เราก็กลับบ้านมาพร้อมกับความผิดหวังเข้าเต็มประตู ถ้าเราลองมาคิดถึงรายละเอียดของเรื่องนี้ก็คงได้คำตอบหลายข้อเหมือนกันถ้าเป็นขอแรกคงน่าจะเป็นเตรียมตัวสอบจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นจนทำให้ลืมวันนี้ไป ข้อสองน่าจะเป็นการไม่สนใจถึงแม้ว่าจำได้แต่คงคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะแสดงออกมา ส่วนข้อสุดท้ายซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในสามข้อนี้ก็คือ จำไม่ได้เพราะว่าเราไม่ใช่คนที่หน้าจดจำของแมวอีกต่อไปแล้วประกอบกับแมวก็คงมีใครที่จะต้องดูแลอยู่ด้วยก็เลยยิ่งทำให้วันนี้มันกลายเป็นวันๆหนึ่งที่แมวต้องใช้ชีวิตผ่านไปโดยไม่มีอะไรให้จดจำวันนี้เอาไว้เลย และถ้าหากจะถามถึงความรู้สึกที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ถ้าให้อธิบายให้เข้าใจก็ลองนึกตามที่จะเขียนด้วยนะ เอาง่ายๆถ้าวันนี้มันเป็นวันเกิดของแมว(สมมุตินะ) แล้วแมวอยากให้คนที่รักจดจำวันนี้ได้เป็นอย่างมากเพราะกว่าจะถึงวันนี้ก็ต้องรออีก 364 วันเลยแต่เมื่อถึงวันนั้นเขาคนที่แมวรักมากกลับทำเป็นเหมือนว่าวันนี้มันเป็นแค่เพียงวันธรรมดาวันหนึ่งแล้วทำให้รู้ว่าตัวแมวคงไม่มีค่าให้ต้องจดจำเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับแมวเลยแม้สักนิดเดียว แล้วแมวจะมีความรู้สึกยังไงที่ได้พบเจอเรื่องแบบนี้ ความรู้สึกที่แมวมีถ้าพบเจอเรื่องแบบนี้มันก็ไม่น่าที่แตกต่างกับเรามากนักหรอกนะ แต่ก็ให้มันผ่านไปแล้วกันจำไม่ได้ก็ไม่ต้องจำก็ไม่เห็นเป็นไรตัวเราเองก็คิดเสียว่ามันเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งก็คงหมดปัญหาไปแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดอ่านหนังสือก่อนที่พรุ่งนี้จะเป็นวันสอบวันสุดท้ายของปีการศึกษานี้แล้วนะเรายังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่พบเจอมาเมื่อวานนี้เลย ไม่รู้จะให้แมวรับรู้ความรู้สึกนี้ได้อย่างไรดีว่าตอนนี้เราเป็นอย่างไร คิดไปคิดมาก็น่าที่จะเป็นสิ่งที่เราเคยทำให้แมวไปหลายครั้งแล้วและครั้งนี้เราอยากที่จะให้มันมีความหมายมากที่สุดแต่บอกก่อนนะว่าก่อนที่เราจะส่งเพลงไปให้แมวนั้นเราไม่ได้โทรไปหาแมวนานแล้วเหมือนกันก็ด้วยเหตุผลที่ว่าเราไม่ต้องการให้ใครลำบากใจกับสิ่งที่เราทำอยู่ทั้งนั้นเป็นเราๆก็ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับแฟนเราเหมือนกันแล้วถ้าเราทำเองก็คงจะน่าเกลียดเกินไปแล้วเหมือนกันในเมื่อเราไม่ชอบเราก็ต้องไม่ทำเองด้วยเหมือนกัน ออกนอกเรื่องมาอีกแล้วเพลงที่ส่งให้แมวในวันนี้ก็คือเพลงอ้างว้างของแครช ที่เราคิดว่าเนื่องหาของเพลงๆนี้ถ้าฟังให้เข้าใจก็จะบอกได้ถึงความรู้สึกที่เรามีอยู่ในตอนนี้ได้ดีมากกว่าเพลงอื่นๆในตอนนี้แล้วหรืออาจจะเรียกว่าเพลงมันโดนใจก็ว่าได้เหมือนกัน ถ้าจะให้เราอธิบายถึงความหมายของเพลงนี้ในแง่มุมความคิดของเราน่าจะเป็นประมาณว่า ชายคนหนึ่งทีเขาคิดว่าเขาได้เจอกับคนที่เขามันใจว่าเป็นคนที่ฟ้าส่งมาให้เป็นคู่ของเขาแต่แล้วฟ้าก็เป็นสิ่งที่ฟากเขาและเธออกจากกันทั้งที่ความรักนั้นมันเริ่มต้นไปได้ไม่นาน และฟ้ายังได้ทำให้ความฝันของเขาและเธอจบลงด้วย ความรู้สึกเมื่อเขาขาดเธอก็คงไม่แตกต่างจากเราก็คือเมื่อขาดคนที่รักแล้วมันเจ็บปวดรวดร้าวในใจที่ต้องพบกับความจริงที่ว่าเธอคนที่รักนั้นจากไปแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึกอ้างว้างขึ้นมาในใจของเขาไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะอยู่ยังไงในเมื่อตัวเธอนั้นเปรียบได้เหมือนกับลมหายใจของเขา ช่วงเวลาที่ก็คงจะมีแต่ความเหงาที่จะเข้ามาแทนที่ความรักที่เคยมีมา ตัวเข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนมันไปได้นานแค่ไหน แต่ในใจของเขาก็ยังคงมีแต่เธอแม้ในเวลานี้ก็ตาม จะอธิบายทำไมไปฟังเอาเองก็หมดเรื่องแล้วหวังบว่าเพลงที่เราส่งไปให้คงทำให้แมวได้เข้าใจความรู้สึกของเรานะ ผลตอบรับจะเป็นยังไงพรุ่งนี้ก็จะรู้เอง วันนี้นึกว่าจะไม่ได้คุยกันแล้วนะยังดีที่เรียกเราก่อนกลับบ้านส่งเพลงให้แล้วทำไมต้องบอกคนอื่นด้วยนะอายเขาเป็นเหมือนกันได้คุยกันเราก็เลยถามว่าลืมอะไรไหมพอแมวนึกได้ก็คงต้องรอให้เราถามก่อนเสมอเลยนะแมวถามว่าอยากได้อะไรจะให้เราตอบไหมว่าอยากให้แมวพูดสุขสันต์วันเกิดในวันนั้ก็ทำให้เราดีใจแล้วของขวัญอาจจะมีค่าให้เก็บสะสมแต่การกระทำที่มีให้กันมันก็มีค่าให้จดจำไปจนนานแสนนานของขวัญที่ให้วันหนึ่งมันอาจจะหายไปแต่ความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้กันมันจะตราตรึงกอยู่ในหัวใจของเราไปจนวันสุดท้ายที่มีลมหายใจ นั้งคุยกับแมวเพื่อรอเพื่อนซักพักเราก็กลับบ้านว่าจะออกไปเที่ยวต่อแต่พอคุยกันไปๆมาๆก็นั้งเล่น เกมอยู่ที่ร้านแก้ไม่ได้ไปไหนเลย เล่นเกมเสร็จก็เลยลองเดินกลับข้ามาที่โรงเรียนเห็นว่าเขาจะมีงานกันเข้าไปก็เจอแต่พวกแสดงละครไม่เห็นมีอะไรน่าดูเลยกลับบ้านยังดีกว่าเลยก็เลยตกลงกันแยกย้ายกันกลับบ้านกันไป พอตอนเย็นเราออกมาซื่อของก็เห็นแมวยืนรอรถอยู่กลับใครก็ไม่รู้เหมือนกันแล้วมันก็ หกโมงกว่าแล้วมั่วทำอะไรถึงไม่กลับบ้านเดี่ยวก็โดนว่าเอาหรอกนะ พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันแรกที่ปิดเทอมแล้วความรู้สึกคงจะแปลกๆไปเมื่อไม่ได้ไปโรงเรียนแล้วในตอนเช้าของทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ของทุกสัปดาห์ ความรู้สึกตอนนี้เรายังไม่อยากที่จะปิดเทอมเลยเพราะว่าปิดเทอมก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีนอกจากอยู่บ้านเพราะขี้เกลียดจะออกไปเที่ยวที่ไหน มันร้อนมากๆอีกอย่างก็ไม่ชอบไปเที่ยวคนเดียวด้วยมันน่าเบื่อไม่มีใครไปเป็นเพื่อนและอีกอย่างเราเป็นคนที่ไม่ชอบนั้นรถไปไหนคนเดียวถ้ามันไม่จำเป็นโดยเด็ดขาด ดังนั้นเมื่อไม่มีเพื่อนเที่ยวก็ไม่ต้องไปไหนก็หมดเรื่องแล้ว วันนี้ก็ปิดเทอมแล้วใจหนึ่งก็ดีใจเหมือนกันที่เราจะได้นอนดึกๆแล้วก็ได้ตื่นสายๆแต่ตื่นมาแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าตัวเราจะทำอะไรเพราะปากติถ้าเปิดเทอมเราก็จะไปโรงเรียนตอนกลางวัน และอีกอย่างปิดเทอมนี้มันก็ไม่มีกิจกรรมให้ไปทำเช่นไปทำงานที่โรงเรียน ไปเข้าค่ายแบบที่ปิดเทอมกลางภาคเรียน ซึ่งมันก็คงจะทำให้โอกาศในการที่เราจะได้เจอกันก็คงลดน้อยลงไปด้วย มันก็คงทำให้เรื่องราวระหว่างสองเรานั้นคงค่อยๆเลืองลางไปที่ละหน่อยจนในวันหนึ่งข้างหน้าแมวคงอาจจะลืมเรื่องราวเหล่านี้ไปก็ได้ แต่เราก็ยังหวังไว้นะว่าถึงแม้ความสัมพันธ์ของเรามันจะค่อยๆเหินห่างกันไปแต่ก็แค่อยากจะขอให้แมวได้โปรดอย่าลืมสิ่งต่างๆที่มันเคยเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน และก็เช่นกันเราก็จะไม่ลืมเรื่องราวต่างๆที่มันเคยเกิดขึ้นเพื่อที่จะได้เอาไว้ใช่ในวันที่ใจดวงนี้ของเรามีความเหงา และเราก็อย่างให้แมวเก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้ในความทรงจำถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่แมวจะคิดถึงก็ตาม เขียนไปก็เหมือนกับว่าเรื่องของเรามันคงใก้ลที่จะเข้าไปถึงทางตันเข้าทุกที่แล้ว และถ้าหากหนทางข้างหน้านั้นเป็นทางแยกระหว่างสองเรานั้นก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้นหากยังคงเดินต่อไปอาจทำให้เจ็บไปมากกว่าที่จะทนทำใจได้แล้ว อ่านไปแล้วก็อย่าไปคิดนะมันก็เป็นแค่ความคิดแย่ๆของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ชอบคิดอะไรมากเกินไปจนบางครั้งมันทำให้คนรอบข้างรู้สึกรำคาญ เราก็คงจะว่าอะไรเขาไม่ได้หรอกถ้มีคนรำคาญก็ในเมื่อเราเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วและก้ไม่เคยมีความคิดที่จะเปลี่ยนตัวตนของตัวเองเพื่อใคร เพราะถึงยังไงถ้าเราเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครแล้วเกิดวันหนึ่งตัวตนที่แท้จริงของเรานั้นออกมา(เขียนเหมือนเป็นตัวอะไรเลย)เขาคนนั้นก็คงรับไม่ได้สู้ให้เขาคนนั้นได้พบเจอตัวตนของเราตั้งแต่วันแรกเลยยังจะดีกว่าถ้าเขารับได้ก็คบกันไปถ้าเราไม่ได้ก็ต้องแยกกันไปดีกว่าที่ไปแกล้งทำแล้วต้องมาเจ็บในตอนหลัง เจ็บต้องแต่เริ่มรักย่อมดีกว่าเจ็บเมื่อรักฝังใจ แต่ถ้าเรื่องของเรามันมาถึงทางตันจริงๆแล้วนั้นก็มีอยู่สิ่งเดียวที่อยากจะขอ ในวันข้างหน้าถ้าหากมันมีวันใดที่แมวต้องเสียใจก็แค่อยากจะให้แมวบอกเราๆจะคอยเป็นคนปลอบแมวเองแต่ถ้าวันใดแมวมีความสุขแล้วนั้นก็ไม่จำเป็นเลยที่แมวต้องคิดถึงเรา เราขอแค่เพียงเป็นคนที่คอยปลอบแมวในวันนั้นๆที่แมวเสียใจก็พอแล้ว เขียนตรงนี้แล้วเลยได้เป็นเนื้อเพลงเลยว่าแล้วก็เริ่มแต่งเลยแล้วกันส่วนแรงบันดาลใจก็มาจากข้อความที่เขียนผ่านมาแล้วนั้นเองใจความสำคัญของเพลงมันแค่ต้องการที่จะบอกว่า เราอยากขออยู่กับเธอแค่วันที่เธอเสียใจก็พอแล้วให้มันเหมือนกับเป็นหน้าที่สุดท้ายที่เราอยากจะทำก็พอแล้วเอาอย่างนี้แล้วกันหวังว่าเมื่อเขียนเสร็จแล้ว จะเล่นให้ฟังแค่มันคงไม่น่าฟังเท่าไรก็ทนๆฟังเอาหน่อยแล้วกันนะเพลงมันไม่นานหรอก แต่ถ้าไม่ได้เล่นให้ฟังก็คงเป็นบุญของหูแมวแล้วที่ได้ไม่ต้องทนฟังเสียงเรา นี้ก็เขียนมาเยอะแล้วเหมือนกันม่รู้ว่าคนอ่านเขาจะเบื่อไหนนะอ่านแล้วก็อย่าลืมที่บอกไว้นะว่าจะไม่ใครใครดูเด็ดขาดเลยนะเราอายเขา ที่อายก็เพราะว่าเดี่ยวคนอื่นเขาจะหาว่าเราแปลกไม่เหมือนคนอื่นโตแล้วยังมาเขียนอะไรอีกติ้งต๋องเหมือนที่แมวว่าเราบ่อยๆไง เขียนมานานแล้วยังไม่ได้เขียนจุดมุ่งหมายให้แมวรู้เลยว่าเราเขียนทำไม่ ตอนแรกๆที่เขียนก็ว่าจะเก็บเอาไว้อ่านตอนแก่ๆจะได้เอาไว้อวดลูกหลานว่าตอนเด็กๆก็เคยมีแฟนมาแล้วเหมือนกันเราว่าถ้าวันหนึ่งในอนาคตเราเอามันขึ้นมาอ่านเมื่อไรเราก็คงจะไม่ลืมสิ่งดๆต่างๆที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเราในช่วงหนึ่งๆของชีวิตเรา และอีกอย่างเราก็จะได้ไม่ลืมแมวไงดีไหม อีกข้อหนึ่งเราก็เขียนเรื่องของเรากับคนที่เรารักหรือเคยรักเก็บไว้ทุกคนกันลืม ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ใครอ่านหรอกนะก็เตยให้ใครคนหนึ่งอ่านแต่วันที่เขาได้อ่านมันก็เป็นวันที่เราเลิกกับเขาพอดีเลย เขียนแล้วเศร้าเลย...มันก็เลยเป็นสิ่งผังใจเรามาจนถึงตอนนี้เลย เราก็เลยต้องแอบเขียนโดยไม่บอกใครทั้งนั้นเพราะเรากลัวว่าถ้าแมวรู้มันอาจจะเป็นเหมือนกับเมื่อครั้งในอดีตอีกก็ได้นะเรากลัวจริงๆ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้กลัวแลล้วเพราะว่าวันนั้นมันผ่านไปนานแล้วเหมือนกัน ไปเรื่องอื่นดีกว่าเขียนเรื่องนี้นานๆแล้วมันเสร้ากลับเขาเรื่องเดิมแล้วกันขอเวลากลับไปดูก่อนนะว่าเขียนถึงไหนแล้ว จำได้แล้วเรื่องเพลงถ้าอัดให้ไม่ได้ก็เอาเนื้อเพลงไปดูก่อนนะนี้ไงวันนั้นเคยมีเธอข้างกายอยู่กับฉันในที่เหงาจับใจวันนั้นเราเคยมีกันและกันคอยรักและห่วงใยอยู่เสมอวันนั้นเรามีความฝันรวมกันว่าวันไหนก็ยังมีเราเสมอแต่*(ใน)วันนี้ทุกสิ่งก็เริ่มเปลี่ยนตัวเธอมีใครมากมายคอยห่วงใยตัวฉันก็คงต้องยอมรับความจริงว่าวันนี้เราต้องไกลจากกัน* **แต่ก่อนเราจากกันของสัญญาได้มั่ยหากวันใดที่เธอต้องเสียใจ** ***กลับมาหาฉันได้มั่ยให้ฉันดูแลเธอในวันนั้นๆที่เธอต้องร้องไห้*** ******* วันนั้นฉันยังจำได้ไม่ลืมว่าเราเคยรักกันมากแค่ไหนวันนั้นฉันเองก็รู้ดีว่าตัวฉันเคยทำให้เธอเสียใจวันนี้เธอจึงได้ทิ้งฉันไปก็เข้าใจฉันคงไม่โทษเธอ ซ้ำ *,**,***,*** ได้โปรดให้ฉันได้ทำหน้าที่สุดท้าย
จำได้แล้วเรื่องเพลงถ้าอัดให้ไม่ได้ก็เอาเนื้อเพลงไปดูก่อนนะนี้ไงวันนั้นเคยมีเธอข้างกายอยู่กับฉันในที่เหงาจับใจวันนั้นเราเคยมีกันและกันคอยรักและห่วงใยอยู่เสมอวันนั้นเรามีความฝันรวมกันว่าวันไหนก็ยังมีเราเสมอแต่*(ใน)วันนี้ทุกสิ่งก็เริ่มเปลี่ยนตัวเธอมีใครมากมายคอยห่วงใยตัวฉันก็คงต้องยอมรับความจริงว่าวันนี้เราต้องไกลจากกัน* **แต่ก่อนเราจากกันของสัญญาได้มั่ยหากวันใดที่เธอต้องเสียใจ** ***กลับมาหาฉันได้มั่ยให้ฉันดูแลเธอในวันนั้นๆที่เธอต้องร้องไห้*** ******* วันนั้นฉันยังจำได้ไม่ลืมว่าเราเคยรักกันมากแค่ไหนวันนั้นฉันเองก็รู้ดีว่าตัวฉันเคยทำให้เธอเสียใจวันนี้เธอจึงได้ทิ้งฉันไปก็เข้าใจฉันคงไม่โทษเธอ ซ้ำ *,**,***,*** ได้โปรดให้ฉันได้ทำหน้าที่สุดท้าย หวังว่าคงไม่ต้องแปลความหมายของเพลงอีกนะคิดว่าอ่านแล้วคงเข้าใจนะ ไปเรื่องอื่นต่อแล้วกัน ปิดเทอมนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลยออกไปทางมีปัญหากันมากกว่า เขียนจากใจจริงนะเราไม่อยากให้ในแต่ละวันที่เราได้คุยกันจบลงด้วยการมีปัญหากันนะเราคิดว่าเราทะเลาะกันมามากพอแล้วอยากจะเอาเวลาที่มันมีเหลืออยู่เล็กน้อยระหว่างเรากับแมวให้มันมีค่ามากที่สุดไม่อยากปล่อยมันไปแต่บางครั้งมันก็มีสิ้งที่มันบีบบังคับให้เราต้องทำในเรื่องที่ไม่อยากทำ ถึงตอนนี้แล้วเราก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าวันไหนที่เราจะต้องจากกันเพราะชีวิตมันไม่แน่นอนเสมอไป เราเคยคิดอยู่เหมือนกันนะถ้ามันไม่มีวันพรุ่งระหว่างเราสองคนเราจะทำยังไงถ้าเกิดในเมื่อในวันนี้เรายังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันอยู่เลย ถึงแม้ว่าเรากับแมวในวันนี้จะไม่ใช้คนรักกันแต่เราก็อยากมีแมวไว้เป็นคนเราคุยกันได้ทุกเรื่องเป็นคนค่อยให้กำลังใจเป็นคนที่เข้าใจเราเสมอและก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งสำหรับเรา ความรักสำหรับเราในตอนนี้นั้นมันไม่ได้ขึ้นกับคนสองคนเท่านั้นมันยังมีปัจจัยอื่นๆอีกหลายเรื่องทั้งเพื่อนของแต่ละคน ความเป็นอยู่และที่สำคัญคือความเข้าใจและการยอมรับข้อผิดพลาดของอีกฝ่าย เพราะคนเราทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างตัวเรานี้อาจจะหาข้อดีได้ยากถึงยากมาก หรืออาจจะไม่มีข้อดีเลยก็ได้นอกจากหาข้อดียากแล้วยังมีข้อเสียอีกมากไม่ว่าจะเป็น คนที่พูดยากหรือเข้าใจยาก เจ้าอารมย์ถ้าอารมย์ขึ้นแล้วห้ามมาคุยกับเราเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้หงุดหงิดตามเราไปด้วย ขี้งอนเหมือนผู้หญิงอีก คิดอะไรก็ไม่เหมือนชาวบ้าน ชอบทำให้คนที่เรารักเสียใจ กะล่อนเก่ง ไหลลื้นไปได้ทั้งน้ำขุ่นๆ ชอบคิดเล็กคิดน้อยและอีกมากมาย เราก็เลยต้องทำใจว่า คงจะหาคนที่รับข้อเสียที่มากมายของเราได้ยาก แต่ก็หวังไว้เล็กๆนะว่าสักวันหนึ่งเราจะได้เจอและได้พบกับคนที่ยอมรับข้อเสียเราได้และหวังว่าเขาคนนั้นจะนำพาความรักที่เรียกว่า รักแท้ มาหาตัวของเรามันคงต้องมีสักวันหนึ่ง
ถึงแม้มันจะนานแสนนานแค่ไหนเราก็จะรอเขาคนนั้น เพราะคนๆนั้นคงจะเป็นคำตอบในเรื่องของความรัก ฝันไปอีกแล้วเราชอบคิดอะไรไม่รู้ไม่เหมือนคนอื่นเลยเรา เรื่องที่เขียนในบันทึกนี้นั้นยอมรับนะว่าเนื้อหามันไม่ค่อยแน่เท่าไรเลยออกไปแนวการเขียนเกี่ยวกับความรู้สึกที่ไม่กล้าพูดเลยระบายออกมาทางการเขียนแท้หรือไม่ก็จะเป็นการเขียนให้เห็นถึงความบ้าบอเพ้อฝันของเรา บันทึกนี้มันก็เป็นการแสดงออกทางหนึ่งของเราในแง่ของการระบายความคิดด้วยเหตุผลที่ว่าเรามีปัญหาอะไรเราจะไม่ไปปรึกษาใครหรือระบายให้ใครฟังเพราะเราคิดว่ามันเป็นเรื่องของเราไม่ควรนำไปเป็นปัญหาของใครๆเลย อ่านแล้วก็อย่าเบื่อในความเป็นตัวของเราแล้วกันนะ และถ้าอ่านแล้วเก็บมันไว้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำด้วยนะเราเองก็ขอสํญญาเอาไว้ในที่นี้เลยว่าเรื่องที่เราเขียนจะยังอยู่กับเราไปตลอดจนวันที่ไม่มีเราคนนี้อีกแล้ว ( มีที่ไหนเขียนเองสัญญาเอง ) ตอนนี้น่าเบื่อมากๆเลยปิดเทอมก็ต้องอยู่บ้านเฉยๆไม่มีอะไรทำ ไม่รู้ว่าจะออกไปเที่ยวที่ไหนกับใครดี ( ก็มันไม่มีคนไปด้วยนี้ ) ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยมานั่งบ่นกับคอมพิวเตอร์ มันก็ดีเหมือนกันนะเป็นการระบายความคิดถึงและสิ่งต่างๆที่มีให้แมวไปอีกแบบหนึ่ง เขียนแล้วมันเหมือนกับว่าเราได้คุยกับแมวเหมือนกันถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเขียนคนเดียวโดยไม่มีการโต้ตอบก็ตาม แปลกจริงๆเลยเราเขียนมาตั้งนานแล้วพึงมาเขียนบอกว่าให้อ่านยังไงเอาอย่างนี้แล้วกันนะจะเขียนคำนำให้มันดูเยอะขึ้นจะได้โม้น้อยลงหน่อยนึง อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้วเราก็คงจะได้ไม่ต้องอยู่บ้านเฉยๆให้เสียอารมย์ไปโรงเรียนก็มีเพื่อนคุยเพื่อนเล่นมีอะไรให้ทำอีก และที่สำคัญหลังจากเปิดเทอมไม่กี่วันมันก็จะเป็นวันที่เราบอกรักเธอครั้งแรกและถ้าเรายังคบกันอยู่มันก็จะคบรอบ 1 ปีพอดีน่าเสียดายจังที่เราคบกันได้ไม่นานแต่มันก็ยังดีที่เรายังเคยรักกันแม้วันเวลาที่เราได้รักกันนั้นมันจะไม่มากมายอะไรแต่ช่วงเวลานั้นมันก็จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตเราเลยนะ ไม่รู้ว่าแมวจะจำได้ไหมว่ามันคือวันไหนแต่ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหรอกนะวันที่เราเคยรักกันนั้นมันไม่สำคัญนักหรอกหากว่าวันนี้เราไม่มีความรู้สึกดีๆเหลืออยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าแมวยังมีความรู้สึกดีๆให้เราบ้างไหน และไม่ต้องมาถามเรานะว่าเรามีให้มั่ยเพราะถ้าไม่มีก็คงไม่มานั่งเขียน หรอกมันไม่ง่ายเหมือนกันนะที่จะมานั่งบ่นให้ใครอ่านนี้กว่าจะเขียนได้แต่ละตัวก็ต้องใช้ทั้งความรู้สึกใช้ทั้งความคิดและอะไรอีกหลายอย่าง (ที่เขียนอะไรอีกหลายอย่างเพราะว่ามันนึกไม่ออกนะ ) ก่อนเปิดเทอมนี้ได้ไปเที่ยวใต้ด้วยนะเดี่ยวเรากลับมาเราจะเขียนให้อ่านอย่าว่ากันนะเพราะมัไม่รู้จะเขียนอะไรเพราะเรายังไม่ได้เจอกันหวังว่าเมื่อเปิดเทอมแล้วเราจะมีเรื่องมาเขียนอีกเยอะๆ เริ่มเลยนะแต่บอกไว้ก่อนว่าเราเขียนหลังจากกลับมาแล้วนะ คือว่าไปเที่ยวเอาไกลมากๆเลย ตั้งภาคใต้เลยนังรถเมื่อยมากๆเลยกว่าจะไปถึงแต่ไปถึงแล้วมันก็สวยดีนะทำให้เราหายเมื่อยไปสนิดเลยวันไปโทรไปหาแมวตอนเที่ยงคืนคุยกันจนตีหนึ่งเพราะเราไม่มีอะไรทำก็เลยคุยไปเรื่อยๆจนแม่แมวบอกให้วางพอวางพ่อเราก็บ่นเลยว่าดึกและยังจะโทรไปหาใครอีกแล้วก็บ่นเป็นชุด มาเราจะเรื่องที่เราไปเที่ยวมาให้ฟังเอ๋ยไม่ใช่ให้อ่านให้เบื่อเล่นๆแล้วกันนะ เริ่มจากวันแรกออกจากบ้านประมาณ สามทุ่มนิดหน่อยขับรถออกทางพระราม สองเข้าเส้นอะไรไม่รู้จำไม่ได้ไปถึงกระบี่ประมาณ 7 โมง(เช้านะ)พักกินข้าวแล้วก็ไปดูซากหอยอะไรซักอย่างที่มันอายุเป็นล้านปีจนหอยกลายเป็นหินไป แล้วมันก็ยืนออกไปในทะเลด้วย แล้วก็ไปเที่ยวที่ทะเลกระบี่ต่อมันเงียบมากๆเลยแต่มันก็สวยดีนะ ทะเลมะนชังเงียบสงบอะไรขนาดนี้นะแต่มันยังมีซากสิ่งของพังอยู่เลยนะนังเล่นนอนเล่นแล้วก็ยืนเล่นก็ได้ สักพักก็ไปกินข้าวแล้วก็เข้าที่พักนอนกลางวัน เราโทรไปหาแมวด้วยนะแต่มันไม่ติด ก็เลยนอนพอตื่นมาแล้วก็ไปตลาดตอนเย็นหาอะไรกินมีของแปลกเยอะเหมือนกันนะก็เลยกินซะท้องแทบแตกเลย กินแล้วก็กลับมาเขาที่พักนอนแล้วเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ไปภูเก็ตต่อ เช้ามาก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะได้เตรียมตัวอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็จะได้ไปภูเก็ตกัน กว่าจะไปถึงภูเก็ตก็กินเวลาไปตั้งเกือบสองชั่วโมงเลย ไปถึงสิ่งที่เห็นอย่างแรกก็คือ สะพานที่เชื่อมระหว่างพังงากับภูเก็ตเขาเรียกสะพานอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันแต่บรรยายกาศและทะเลมันสวยมากๆเลยน้ำทะเลเป็นสีเขียวด้วยนะเข้าไปในเกาะภูเก็ตก็ไปที่แหลมพรหมเทพที่เขาเอาไว้ดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็นเห็นป้ายเขาเขียนว่าเป็นจุดที่พระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในเกาะแล้วแต่ตอนไปถึงยังสายๆอยู่เลยก็เลยเดินไปดูที่แหลมร้อนมากๆเลย ลงจากแหลมก็ไปที่หาดมันก็สวยดีนะแต่ว่าของที่นี้ราคาแพงไปหน่อยนั่งเล่นจนเย็นๆแล้วว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกน้ำแต่ก็ไม่ได้ไปเพราะพ่อเขานัดเพื่อนเขาไว้ตอนหัวค่ำก็เลยอดกลับมาถึงก็นอนเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ไปสมุยต่อ (อย่าพึงเบื่อนะทนๆอ่านไปก่อนเปิดเทอมแล้วจะหาเรื่องมาเขียนให้อ่านอีก) เช้ามาก็ตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปสมุย ไปถึงที่ท่าเรือเพื่อที่จะนั่งเรือไปที่เกาะ เรือเป็นเรือบรรทุกที่เอารถขึ้นเรือไปได้ด้วยนั่งเรือกินเวลาสองชั่วโมงกึงแล้ว พอถึงสิ่งแรกที่เห็นก็คือหาดทรายสีขาวที่สวยมากๆเลยลองนึกตามนะน้ำทะเลสีฟ้ากับหาดทรายสีขาวมันสวยขนาดไหนกัน ขึ้นเกาะแล้วก็ไปดูหินตาหินยายแล้วก็ไปกราบพระอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แล้วก็ไปดูผีเสื้อเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นชายหาดเล่นน้ำเสร็จก็ว่าจะหาโรงแรมพักบนเกาะแต่ว่าไม่มีที่พักก็เลยต้อง่นั้งเรือกลับมานอนในตัวเมืองตอนเย็นมาพักที่โรงแรมแล้วพรุ่งนี้วันสุดท้ายจะไปเพชรบุรีต่อ เช้ามานั้งรถไปเพชรบุรีไปถึงก็สายมากๆแล้วไม่ใช่สายสิบ่ายแล้วไปถึงก็ไปกินก๋วยเตี่ยวที่เขาใช้น้ำผึงแทนน้ำตาลอร่อยดีเหมือนกันกินเสร็จก็ไปที่หาดหาที่พักริมหาดก็ได้ทีหนึ่งมันเป็นบังกะโล ได้ที่พักเก็บของแล้วก็ออกไปเล่นน้ำตอนไปเล่นน้ำมันลงเลยทำให้ลงไปได้ไกลเรานั่งก่อปราสาททรายด้วยนะ มีสระว่ายน้ำในปราสาทด้วย ตอนเย็นก็กลับเข้าที่พักกินข้าวแล้วก็นอนแต่ก่อนนอนวันนี้เราโทรไปหาแมวด้วยคุยเล่นกันซักพักก็ว่างแล้วก็ส่ง SMS หากันเล่นก่อนเงินหมดแล้วก็เลยเลิกส่งแล้วก็นอนพอนอนตื่นมาก็ไปที่หาดชะอำแต่ว่าคนเยอะมากๆเลยก็เลยเลี้ยวไปที่ปึกเตียนแทนที่นี้เคยมาแล้วตอนที่แมวไปถวายเที่ยนที่วัดอะไรของแมวที่นครปฐมไงที่นี้ตอนกลางคืนคงน่ากลัวเหมือนกันเพราะมีผีเสื้อสมุดอยู่กลางทะเลด้วยนะ เล่นนำที่นี้ได้ถึงบ่ายก็ต้องรีบกลับเพราะถ้ากลับช้าๆรถมันจะติด กลัถึงบ้านก็เย็นเหมือนกันกลับมาก็นอนพักผ่อนเพื่อที่จะเตรียมตัวไปโรงเรียนในอาทิตย์หน้านี้แล้วดีใจจังที่จะเปิดเทอมแล้ว เปิดเทอมวันแรกมีเรื่องทีจะให้ทำเยอะมากเลยนั่งคุยกับเพือนทั้งวันเลยไม่ได้เจอกันนานเลยทำให้คุยสนุกด้วยและยังได้เจอแมวด้วยนะเคยน่ารักยังไงก็น่ารักอย่างนั้นไม่มีเปลี่ยนเลยนะ เรา เจอกันมันก็เหมือนกับเทอมที่แล้วเลยคือไม่คอยได้คุยกันเพราะต่างคนต่างก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องทำกัน ก็ยอมรับกับการเป็นแบบนี้แล้วเหมือนกันเพราะสภาพแวดล้อมระหว่างเรานั้นมันไม่เหมือนกันเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาที่เรามีไม่ตรงกันประกอบกับเราไม่ได้เรียนอยู่ห้องเดียวกันและก็ความเหินห่างที่มันเริ่มมีมากขึ้นในทุกๆวันระหว่างเราและไหนจะเรื่องเพื่อนอีกที่ดูยังไงมันก็คงไปด้วยกันไม่ได้มันก็เลยเริ่มเหมือนกับว่าเรื่องของเรากับแมวนั้นนับวันมันเริ่มที่จะห่างกันไปในทุกๆทีและวันหนึ่งข้างหน้าเรากับแมวอาจจะเหมือนเส้นขนานสองเส้นที่ยังไงมันก็ไม่มีทางมาเจอกันได้อีกอย่างแน่นอนเลย คิดแล้วก็ไม่อยากให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริงๆเลยไม่รู้ว่าวันนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้างนะ แต่ยังไงก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้เพราะว่าชีวิตของคนแต่ละคนนั้นจะต้องก้าวเดินไปข้างหน้าไม่มีใครจะอยู่กับที่ตลอดเวลา เมื่อมันมีการพบกันมันก็ต้องมีวันหนึ่งที่เราต้องจากกัน มันก็คงขึ้นอยู่กับว่าในวันนั้นที่เราต้องจากกันนั้นเราจะจากกันโดยดีหรือไม่ฉากสุดท้ายระหว่างเรานั้นมันจะลงเอยยังไงนั้นเราก็ยังไม่แน่ใจแต่เราหวังว่ามันต้องจบลงอย่างสวยงามให้ได้ ได้ เปิดเทอมแล้วอีกไม่กี่วันมันก็จะเป็นวันที่เราบอกรักแมวครั้งแรกไม่รู้ว่าจำได้มั่ยว่ามันตรงกับวันอะไรถ้าไม่ได้ก็ลองย้อยกับไปหาอ่านเอาเองนะ อีกไม่กี่วันข้างหน้านั้นมันก็จะเป็นวันเกิดของแมวแล้วไม่รู้ว่าจะให้ของขวัญทันไหมเพราะว่ากำลังมีปัญหาอยู่พอดีเลยส่วนของที่จะห็ก็คงไม่ต้องถามนะว่าจะให้อะไรก็อย่างที่เคยบอกไงวางถ้าจะให้ของขวัญที่ให้ก็จะเป็นรองเท้า สาเหตุที่อยากให้ก็เป็นเพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะให้อะไรให้ตุ๊กตาก็เหมือนคนอื่นก็เลยให้รองเท้าแท้เพราะว่ามันคงไม่มีใครบ้าให้รองเท้าแบบเรามั่ง อย่าหาว่าบ้าแล้วกันนะถ้าเราซื้อให้จริงๆ และเราก็มั่นใจเหมือนกันนะว่าจะซื้อให้ๆได้คอยดูแล้วกันนะ แต่น่าเสียดายที่เราคงซื้อให้ไม่ทันวันเกิดหรอกนะเพราะว่ากำลงมีปัญหาอยู่เอาเป็นว่าอดใจเอาไว้อีกนิดแล้วกันนะรับรองว่าต้องมีซักวันที่ต้องได้ของขวัญชิ้นนี้จากเราแน่นอนแต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันจะเป็นเมื่อไหนยังไม่สัญญานะแต่ได้แน่นอนอันนี้สัญญานะ และถ้าเป็นเรื่องของความทรงจำที่ขมขื่นแล้วนั้นหลังจากวันเกิดแมวหนึ่งวันมันก็เป็นวันที่แมวบอกคำๆนั้นที่เราไม่อยากฟังให้เราได้ยินไม่น่าเชื่อว่ามันจะคบปีแล้วหรือนี้กับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นมา แต่ก็ชั่งมันแล้วกันมันก็ผ่านมานานแล้วลืมๆมันไปก็ดีเหมือนกัน เขียนถึงเรื่องลืมแล้วอดเข้าเรื่องนี้ไม่ได้ก็คือว่า ไม่รู้ว่าแมวเคยมีความรู้สึกแบบที่เรากำลังจะเขียนหรือเปล่านะ คือมันเป็นความรู้สึกแบบว่าเวลาที่เราไปในสถานที่ต่างๆหลังจากเราเลิกกันแล้วเราผ่านไปเที่ยวตรงจุดที่เรากับแมวเคยไปด้วยกันหรือที่ๆเราเคยนั่งกับแมว แล้วมันเกิดนึกถึงวันที่เราเคยอยู่ด้วยกันในตอนนั้นแล้วเรื่งราวในวันนั้นมันก็กลับมามีชีวิตในใจเราอีกทั้งที่เหตุการณ์มันก็ผ่านไปนานแล้วเหมือนกัน แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีเหมือนกันนะอย่างน้อยมันก็ช่วยเรียกรอยยิ้มในใจของเราได้เหมือนกันนะอย่างมีอยู่วันหนึ่งเราไปเดินเล่นที่ปิ่นเกล้าแล้วขากลับก็นั่งรถกลับพอรถมันวิ่งมาถึงสะพานที่จะวิ่งเลี้ยวเข้าเส้นรัตนาตอนกำลังเลี้ยวมันก็เกิดนึกถึงวันที่เรากับแมวนั่ง 516 กลับบ้านตอนนั้นจำได้ว่าฝนกับแมวพูดเรื่องเกี่ยวกับต้อปขึ้นมาให้เรางอนเล่นรถวิ่งกำลังขึ้นสะพานแล้วแมวก็ยิ้มเอามือมาบีบจมูกเราแล้วก็บอกอย่างอนนะเราก็ยิ้มๆ แล้วก็อีกหลายๆที่ๆเราเคยไปด้วยกันแต่กลัวเขียนแล้วแมวจะหาว่าเราแต่งขึ้นมาอีกแต่ขอยกตัวอย่างเอาไว้กันแมวหาว่าเราจำไม่ได้เช่น บนรถเมล์ 203 แล้วก็ตอนที่แมวจับมือเราบนรถเมล์ตอนกำลังลงที่ท่าน้ำนนท์ (รถเมล์แอร์ด้วยแล้วไหนจะเรื่องอื่นๆอีกแต่ตอนนี้ไม่อยากเขียนแล้วเพราะหน้านี้จะเป็นหน้าสุดท้ายแล้วขอเว้นเอาไม่เขียนอย่างอื่นบ้างแล้วกันนะ สันนี้เป็นอะไรอีกนะยิงไปดูว่าปิดเครื่องยังเราจะได้โทรไปหาพอรู้ว่ายังไม่ปิดเราโทรไปเพื่อที่จะคุยก็ดันมาปิดเครื่องอีกอะไรกันนี้รู้ว่าจะโทรไปยังมาปิดเครื่องใส่เราอีกโกรธแล้วไม่ต้องมาคุยกันแล้วด้วยนะ
ผลงานอื่นๆ ของ bigna ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ bigna
ความคิดเห็น