ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SKR สงครามต่างมิติ

    ลำดับตอนที่ #3 : ความจริงของเรื่องราว

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 50


    "มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่" เด็กหนุ่มคิดในใจ ขณะหลบคมดาบของคู่ต่อสู้
    "ที่นี่ที่ไหน เจ้าพวกนี่เป็นใคร และดาบนี่มาจากไหน" คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของเด็กหนุ่ม
     
    ดาบเล่มใหญ่สีดำทมิฬ กวัดแกว่งไปทั่วอย่างชำนาญ ทั้งที่เขาไม่เคยจับดาบมาก่อน หรือ อาจจะแค่เคยเห็นในเกมส์ออนไลน์ และหนังแฟนตาซีทั่วไป

    ปิศาจรูปร่างคล้ายคน แต่ไม่มีหน้า นับสิบนอนไร้วิญญาณอยู่แทบเท้าเขา อีกนับสิบกำลังรายล้อมเข้ามา ที่เบื้องหลังมีคนแปลกหน้า ซึ่งดูภายนอกก็คล้ายกับมนุษย์ร่างใหญ่ แต่แตกต่างที่ การแต่งตัว และ เขี้ยวที่งอกยาวออกมา รวมถึงขวานด้ามยาวที่สะพายอยู่ด้านหลัง

    "อะไรคือสิ่งที่ทำให้เจ้าแข็งแกร่งได้ขนาดนี้" เจ้าของขวานเปรยขึ้น
    "จะไปรู้ได้ไงฟะ" บิ๊กตะโกนกลับ อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะฟาดดาบลงพื้นเบื้องหน้า ทำให้เกิดแรงระเบิดรอบบริเวณ

    "ขอดูฝีมือจริงๆของเจ้าหน่อยเถอะ" ปิศาจหนุ่มเอ่ย ก่อนจะหยิบขวานพุ่งเข้าใส่บิ๊กอย่างรวดเร็ว

    เคร็ง!!!

    เสียงขวานปะทะดาบดังลั่น 
    "ปอยถอยไปก่อน" บิ๊กตะโกนบอกให้ปอยหลบไป

    เคร็ง!!!

    กลับมาทางน้ำตก 
    ต้น เต็นท์ เต้ และเก่ง ซึ่งปีนขึ้นมาถึงความสูงระดับหนึ่ง ก็พบถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งมืด และอับชื้น

    "เห่ย ลองเข้าไปดูกันไหม" เต็นท์ถาม
    "มืดแบบนี้ จะไปมองเห็นอะไรวะ" เต้พูด ก่อนจะก้าวเข้าไปในถ้ำ

    ทันทีที่เท้าแรกสัมผัสกับพื้นอันชื้นแฉะของถ้ำ คบเพลิงที่ติดอยู่บนผนังถ้ำ ก็ลุกโชติช่วงในพริบตา

    "ยังกับในนิยายที่ไอ้บิ๊กแต่งเลยวะ" ต้นพูด
    "ลองเข้าไปดูกันเถอะ" เต็นท์บอก

    ทุกย่างก้าวที่เข้าไปภายในถ้ำ ก็เหมือนจะลึกเข้าไปเรื่อยๆ(ก็ถูก) 
    ทันใดนั้น ไฟในถ้ำก็เริ่มดับลงทีละจุด จนเหลือเพียงคบไฟใกล้ๆเพียงอันเดียว

    ทันใดนั้น!!!!
    ผนังถ้ำก็ปริแตกออกมา กลายเป็นปิศาจหินร่างใหญ่นับสิบตัว มีแขนขาเหมือนคนแต่เป็นหิน ในมือมีหินที่เป็นเหมือนกระบองอันใหญ่อยู่

    "เห้ย ตัว..(เซ็นเซอร์).. อะไรเนี่ย" เต้ร้องออกมาเสียงหลง ก่อนจะวิ่งไปหลบหลังเต็นท์ 

    "โฮ๊ก!!~" ปิศาจหินร้องเสียงดัง ก่อนจะวิ่งเข้าใส่ทั้งสี่คนจากทุกด้าน
    "เห้ย!!" ทั้งสี่ร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

    แสงสว่างจ้า เปล่งออกจากร่างกายของทั้งสี่ ทำเอาทั้งถ้ำสว่างไปทันที

    ปรากฏดาบเรียวยาวแวววาวในมือของเต็นท์ ที่คมดาบมีน้ำใสบริสุทธิ์ไหลซึมออกมาตลอดเวลา

    "อะไรวะเนี่ย" เต็นท์พูดอย่างตกใจ แต่สัญชาตญาณก็สั่งให้เขาตวัดดาบ เพื่อป้องกันตัวจากปิศาจที่กำลังเข้ามา

    เกิดน้ำพุ่งขึ้นมาจากพื้นเป็นแนวเฉียงตามวิถีดาบ สาดใส่ปิศาจหินสามตัวที่วิ่งเข้ามา ก่อนน้ำนั้นจะแข็งเป็นน้ำแข็งในพริบตา

    ในมือของเก่ง มีดาบใบมีดใหญ่ ปลายเป็นหัวตัด ที่ฐานรับใบดาบมีผลึกสีแดงเพลิงฝังอยู่
    เก่งเห็นเต็นท์ทำ จึงทำตามบ้าง เขาฟาดดาบลงกลางตัวของปิศาจหินตัวหนึ่ง แต่กลับฟันไม่เข้า แต่ทันใดนั้น ก็มีเปลวเพลิงลุกท่วมตัวของปิศาจหินตัวนั้น เผาผลาญร่างของมันจนมอดไหม้

    ในมือของต้นปรากฏดาบฟ้าฟื้น เอ่ย ดาบยาวไม่มีลวดลายอะไร แต่รู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาล 

    ต้นฟันดาบไปในแนวขวาง เกิดรอยแยกบางอย่าง อย่างชัดเจนในอากาศธาตุเหมือน ถูกคมดาบของต้นตัด ก่อนร่างของปิศาจหินอีกหลายตัวขาดไปในพริบตา

    และในมือของเต้ ปรากฏกริชเล่มเล็กสีเขียวมรกต 
    แต่ไม่ทันที่เต้จะได้ใช้สิ่งแปลกปลอมที่ปรากฏในมือ ปิศาจหินตัวหนึ่งก็วิ่งมาถึงตัวเต้ และกำลังจะใช้กระบองในมือฟาดใส่

    แต่มันกลับดูช้า ช้าจนแทบจะไม่ขยับ เต้วิ่งหลบไปด้านหลัง ก่อนจะใช้กริชซึ่งเหมือนมีพายุหมุนอยู่รอบๆกริชตลอดเวลา แทงทะลุร่างของปิศาจหินทันที

    "เห่ยเต้ ทำได้ไงวะ มองไม่ทันเลย" เต็นท์ถามอย่างประหลาดใจ
    "เอ้า เกิดมาเป็นพระเอก มันก็ต้องมีจุดต่างสิวะ" เต้พูด พร้อมกับหัวเราะ

    "ไอ้ขี้คุยเอ้ย" เต็นท์พูดก่อนจะเบิร์ดหัวเต้ไปทีหนึ่ง
    "แต่ไอ้อาวุธพวกนี้ มันมาได้ไงวะ" เก่งพูดขึ้น ก่อนจะยกดาบหัวตัดในมือขึ้นมาดู
    "ช่างมันเหอะ รีบออกจากที่นี่กันก่อนดีกว่า ก่อนที่จะมีตัวอะไรออกมาอีก" ต้นบอก
    "เออ" ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ก่อนจะพากันเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย

    กลับมาด้านพวกอู๋
    ประตูไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้าเปิดออกอย่างช้าๆ ก่อนที่ภาพภายในหมู่บ้าน ซึ่งมีกระท่อมไม้นับสิบหลัง ตั้งอยู่ห่างๆกัน โดยไม่มีรั้วกัน

    ชายชราคนหนึ่ง ใส่ชุดคลุมยืนอยู่ตรงหน้า เหมือนรู้ถึงการมาของพวกเขา พร้อมกับชาวบ้าน ทั้งชายหญิงหนุ่มสาว เด็ก คนชรา และสาวมีครรภ์ ที่ยืนอยู่ด้านหลัง

    "ข้ารอท่านมานานเหลือเกิน ผู้กล้าจากเอส ข้า เกล ขอคาราวะ" ชายชราเอ่ย พร้อมกับโคลงทำความเคารพ พร้อมกับพวกชาวบ้าน

    "ว่าไงนะ" นัทพูดอย่างงงๆ 
    "อะไรคือ เอส และ ทำไมคุณตาถึงรู้ว่าพวกเราจะมา" อู๋พูดขึ้น
    "เชิญพวกท่าน ที่กระท่อมของข้าก่อน ข้าจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง" ชายชราเกลบอก ก่อนจะเดินผ่านฝูงชน นำทั้งห้าไปยังกระท่อมหลังหนึ่ง

    ภายในกระท่อม หลังไม่ใหญ่นัก มีโต๊ะไม้เก่าๆอยู่ตรงกลาง มีมุมทำอาหารซึ่งมีเตาฟืนเก่าๆ มีกาน้ำตั้งอยู่ พร้อมกับเครื่องครัวเก่าๆรอบๆ

    "เริ่มเลยสิตา" อามเร่งเร้าอย่างรีบร้อน
    "ใจเย็นสิ ก่อนอื่นข้าขอพูดถึงโลกทั้งสองแห่งก่อน" ตาแก่เกลพูดก่อนจะดีดนิ้ว พร้อมกับมีลูกโลกขนาดย่อมปรากฏขึ้นตรงหน้าของทุกคน

    "โลกที่พวกท่านอยู่ ที่พวกเราเรียกว่า เอส ซึ่งเป็นโลกเบื้องซ้าย เป็นสัญลักษณ์ของแสงสว่าง ส่วน ณ ที่นี้ ที่พวกท่านยืนอยู่นี้ คือ โลก คาร์เรส ซึ่งเป็นโลกที่ตรงกันข้ามกับ เอส เป็นสัญลักษณ์แห่งความมืดมิด กลางวันและกลางคืนของเอส จะเท่ากัน คือ สิบสอง ชั่วโมง อย่างที่พวกเท่ารู้" ตาแก่เกลพูดก่อนจะดีดนิ้วอีกที ก่อนจะเหลือลูกโลกเพียงใบเดียว

    "แต่ที่ คาร์เรส กลางวันนั้นจะมี สิบสองชั่วโมง แต่กลางคืนนั้น จะยาวนานถึง สามราตรีของ เอส นั้นก็คือ สามสิบหกชั่วโมง" ตาแก่เกลอธิบาย

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่พวกเรามาที่นี่ และอีกทั้งอาวุธพวกนี้อีก" ปามถามอย่างสงสัย
    "ฟังก่อนสิท่าน ระหว่างโลกทั้งสองนี้ มีมิติบางๆเรียกว่า แอสโพเท็คชั่น ซึ่งกันไม่ให้โลกทั้งสองนั้นซ้อนบรรจบกัน แต่เมื่อสองเดือนก่อน เกิดรอยร้าวที่มิติแอสโพเท็คชั่น ซึ่งเกิดจากใครสักคน ที่หวังจะก่อความวุ่นวายให้กับโลกทั้งสอง" ตาแก่เกลพูด

    "แล้วพวกท่าน คือผู้ถูกเลือกตามคำทำนายของเทพซีอุส ผู้มาช่วยจากเอส ทั้ง ร้อยคน ผู้ได้ใช้อาวุธในตำนานทั้งร้อยชิ้น" ตาแก่เกลอธิบายก่อนจะดีดนิ้วทำให้ลูกโลกจำลองหายไป

    "ฟังแล้วดูน่าเชื่อนะ แต่ก็คงต้องเชื่อ" อู๋พูดขึ้น
    "แล้วพวกเราต้องทำยังไงบ้าง" นัทเอ่ยถามกับตาแก่เกล
    "สิ่งเดียวที่พวกท่านทำได้คือ เดินทางไปยัง ปราสาทไร้เงา ซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะทางใต้ อันเป็นสถานที่แห่งปิศาจร้าย และเป็นที่อยู่ของจอมมารลิชคิง และนั้นคือเป้าหมายของพวกท่าน" ตาแก่เกลบอก

    "อืม" ทั้งห้าเอ่ยขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน
    "ตอนนี้เชิญพวกท่านพักผ่อนก่อน อีก แปด ชั่วโมงก็จะเช้า ค่อยออกเดินทาง" ตาแก่เกลพูดก่อนจะเดินออกจากระท่อมไป

    ทางด้านพวกต้น ซึ่งเดินมาถึงปากถ้ำอีกด้านหนึ่ง ท้องฟ้ามืดสนิท จันทราสามดวงส่องสว่างเจิดจ้า อยู่ท่ามกลางท้องนภาสีดำไร้ประกายดาว

    "เห่ย ดูดิ พระจันทร์มีสามดวงได้ไงวะ" เต้ร้องออกมาเสียงหลง
    "แค่พระจันทร์สามดวงตกใจอะไรวะ ไอ้เต้ ไอ้ตัวตะกี้ยังน่าตกใจกว่าอีก" เต็นท์พูด

    ทันใดนั้น อสูรตนหนึ่งก็โผล่ออกมา มันมีรูปร่างคล้ายคน แต่มีเขี้ยว และถือไม้เท้าที่ปลายมีลูกแก้วสีน้ำเงินติดอยู่

    "เห่ย ตัวอะไรอีกวะเนี่ย" เก่งพูด ในมือกำดาบแน่น
    "นี่นะหรือ ผู้มาช่วยจากเอส ท่าทางไม่มีฝีมือเลย" อสูรตนนั้นพูด

    "เราไม่รู้ว่าแกพูดถึงอะไร แต่หลีกทาง ถ้าไม่อยากเจ็บตัว" เต้ขู่ แต่มือที่จับกริชกลับสั่นระริก

    "ฮ่าๆ ปากกล้าจริงนะ งั้นเจอลูกสมุนของข้าหน่อยเป็นไง" อสูรพูด ก่อนลูกแก้วบนไม้เท้าของมันจะเปล่งแสงออกมา พร้อมกับ ปิศาจหินหลายสิบตัวที่ผลุดขึ้นมาจากพื้นดิน

    "โฮก!!" ปิศาจหินวิ่งเข้าใส่ทั้งสี่ทันที

    ฉึบๆๆๆ

    ลูกธนูหลายดอก ปักเข้ากลางหน้าผากของปิศาจหินสี่ตัวที่อยู่หน้าสุด ทำให้มันแตกสลายไป

    ทั้งสี่หันไปมองทางที่ลูกศรพุ่งมา ก็พบร่างของเด็กหนุ่มร่างสูงผอม มีลักษณะเด่นที่ใบหูที่กาง และใฝ่ที่หน้า เด็กหนุ่มผู้มีคันธนูที่ถูกสลักอักษรเวทย์ไว้อย่างปราณีต และนกเหยี่ยวที่มีขนสีเทาสลับกับขาว เกาะอยู่ที่ไหล่ของเขา

    "ไอ้แน็ค!!" ทั้งสี่ร้องโพล่งอย่างตกใจ เมื่อพบเพื่อนอีกหนึ่งคน
    "ไปเลย มิฮอค" แน็คพูดก่อนที่เหยี่ยวตัวนั้นจะพุ่งเข้าใส่ปิศาจหิน พร้อมกับลูกดอกที่แน็คยิงออกมาอย่างรวดเร็ว

    แสงเปล่งออกจากร่างของมิฮอค ก่อนมันจะพุ่งผ่านฝูงปิศาจหินนั้นอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกมันแตกสลายไปในพริบตา

    "หวัดดีเว่ย" แน็คเอ่ยทักทาย 
    "ในกลุ่มพวกแกมีคนฝีมือด้วยหรือนี่ ข้ามาลิกพูดนี้ข้าชมเชยในฝีมือ" อสูรเจ้าของไม้เท้าพูด
    "สักวันข้าจะมาหาพวกเจ้าอีก วันนั้นข้าจะเอาชีวิตพวกเจ้า จำไว้ ฮ่าๆ" อสูรมาลิกพูดก่อนจะหายตัวไปกับสายลม

    "ไงวะแน็ค คิดว่าจะมีแต่พวกเราซะแล้ว" ต้นพูด
    "เออ ตอนแรกเราก็งง ตื่นมาเจอตัวประหลาดเข้ามารุม และก็มีธนูนี่ปรากฏออกมา พร้อมกับเจ้ามิฮอคนี่" แน็คบอก

    "แล้วเอ็งตั้งชื่อให้มันหรอ" เต็นท์ถาม
    "เปล่า เราได้ยินเสียงมันพูดอะ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่มันเล่าอะไรๆให้เราเข้าใจขึ้นเยอะ" แน็คบอก ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ และเรื่องราวเกี่ยวกับ เอส และ คาร์เรส รวมถึง จอมมารด้วย

    "งั้นทางเดียวที่เราจะกลับบ้านได้ก็คือไปที่ไอ้ปราสาทไร้งงไร้เงา นั่นสินะ" ต้นพูด
    "เราว่า ไปหาที่พักกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยออกเดินทางกันตอนกลางวัน" แน็คบอก

    ทางด้านทะเลทราย
    "พวกเราต้องเดินไปอีกไกลแค่นี้วะเนี่ย" บอสเริ่มบ่นหลังจากเดินมาได้เพียงสิบนาที
    "ไม่อยากเดินก็นั่งอยู่นี่ ไอ้คางคก" หนุ่มบอก
    "โห อะไรว้า ทำไมหนุ่มพูดกับบอสอย่างนี้ละจ๊ะ" บอสทำท่าแอ๊บเกย์เข้าไปหาหนุ่ม จนถูกหนุ่มถีบกระเด็น

    "เห่ย นั่นมีคนกำลังถูกพวกงูบ้า รุมทำร้าย ใส่ชุดนักเรียนแบบเราด้วย" เบียร์บอกก่อนจะวิ่งนำออกไป พร้อมกับทวนยาวในมือ โดยมีเต็นท์ และหนุ่มตามไปติดๆ ทิ้งบอสวิ่งรั้งท้ายไป

    ท่ามกลางฝูงงูนับสิบ เด็กสาวสามคนกำลังต่อสู้ ด้วยอาวุธที่ได้รับมา
    ผึ้งซึ่งในมือข้างขวามีโซ่ร้อยอยู่ทุกนิ้ว กำลังบังคับโซ่ด้วยพลังจิต ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าทำได้ยังไง แต่เธอสามารถบังคับมันได้ดั่งใจนึก โซ่ห้าเส้นพุ่งเข้าใส่งูยักษ์ตัวหนึ่ง ทะลุลำตัว ดับชีพมันทันที

    เต๋า เด็กสาวหน้าตาน่ารัก เจ้าของหน้าบาน ผู้สวมแหวนห้าวงในมือขวา ทำให้สามารถบังคับสสาร(ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ) รอบๆตัวได้ เธอกำลังบังคับเม็ดทรายให้หมุนเป็นพายุ ล้อมรอบปิศาจงูสามตัวอยู่

    ก่อนที่เฟิร์น เด็กสาวร่างผอม ผิวซีดเหมือนขาดสารอาหาร ผมตรงสวย(ประชด) ซึ่งมีไม้กายสิทธิ์อันเล็กๆ ติดขนนกสีแดงเพลิงอยู่ สลักลวดลายอย่างปราณีต เธอใช้มันสบัดทีเดียว ลูกศรเวทย์มนต์นับสิบดอกก็พุ่งเข้าใส่ปิศาจงูที่ถูกเต๋าใช้พายุทรายขังไว้ ตายได้ทันที

    แต่จำนวนของงูยักษ์ก็ยังไม่ลดน้อยลง พวกมันเลื้อยออกมาจากโพล่งใต้พื้นทรายออกมาเรื่อยๆ

    "ย๊าก" เต็นท์วิ่งเข้าใช้ค้อนยักษ์ทุบหางงูตัวหนึ่งจนเนื้อของมันแตกกระจาย มันหันมาจะเล่นงานเต็นท์ แต่ถูกผึ้งใช้โซ่พันล็อคคอไว้ ก่อนจะถูกหนุ่มกระโดดขึ้นสูง ใช้ดาบหนึ่งในสามเล่มฟันมันคอขาดในพริบตา

    "เตี้ย" เต๋าร้องเรียกหนุ่ม ก่อนจะวิ่งเข้าสวมกอด
    "ไม่เป็นไรแล้วนะ" หนุ่มบอก ก่อนจะหยิบดาบออกมาอีกเล่ม

    บอสใช้ขวานด้ามใหญ่ของเขา จามใส่งูยักษ์ขาดทันที ก่อนจะวิ่งเข้ามาสมทบกับเพื่อนๆ

    ทันใดนั้น งูตัวหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาจากด้านหลังเต๋า มันพ่นพิษใส่เต๋าทันที 
    "โอ๊ย" เต๋าร้องออกมาเสียงดัง
    "เต๋า!!" เพื่อนๆร้องออกมาอย่างตกใจ โดยเฉพาะหนุ่มที่เข้าไปรับร่างของเต๋าไว้ พร้อมกับกัดฟันกรอด

    "เต็นท์ฟากเต๋าด้วย" หนุ่มบอกก่อนจะส่งเต๋าให้เต็นท์ และหยิบดาบอีกเล่มมาคาบไว้ที่ปาก

    วีดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!

    เสียงลมดังจนแสบแก้วหู ในพริบตาร่างของหนุ่มหายไป ก่อนร่างของงูยักษ์ทั้งหมดจะขาดกระจาย ไม่เหลือชิ้นดี แม้ตัวเดียว

    ร่างของหนุ่มกระโดดลงมาจากฟ้า ก่อนที่เขาจะสลบไป

     
     
       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×