ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Vanselle แวนเซล โลกตำนาน!

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่2 การต่อสู้ครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 53


    เย็นวันนั้น เพียซกลับบ้านไปพร้อมกับปลาจำนวนมากซึ่งเขาไปนั่งตกมาหลังจากที่ได้นอนพักเอาแรงจากการสู้กับปลาไหลยักษ์เมื่อเช้า เขาเปิดประตูบานพับเก่าๆเข้าไปในบาร์เหล้าซึ่งเป็นบ้านของเขา และเป็นบาร์แห่งเดียวในหมู่บ้านทั้งหมด
    พ่อเขาเป็นชายร่างใหญ่ มีหนวดหยิมและผมดกดำ ซึ่งกำลังยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์กำลังเช็ดแก้วและพูดคุยกับลูกค้าอยู่ก็หันมาพูดทักทายขึ้นอย่างเป็นมิตร

    "เฮ้ กลับมาแล้วรึเพียซ แหมได้ปลาติดไม้ติดมือมาเยอะเลยนะ"
    "นิดหน่อยนะป๋า วันนี้งานใหญ่น่ะ ผมขึ้นไปนอนก่อนนะ ฝากปลานี่ให้แม่ด้วยล่ะ"

    เพียซพูดตัดบทแล้วจึงวางถังปลาลงข้างเคาน์เตอร์ จากนั้นจึงเดินไปที่บันได ขณะที่เขากำลังจะขึ้นไปชั้น2นั้น ลูกค้าซึ่งใส่เสื้อคลุมหนังตัวใหญ่ๆและผมยาวท่าทางรุงรังซึ่งกำลังคุยอยู่กับเขาก็พูดขึ้นว่า

    "เฮ้ย! เพียซ ชั้นเห็นที่นายสู้กับปลายักษ์วันนี้แล้ว ไม่ธรรมดาเลยว่ะ! จะรีบไปไหนเล่า มาสิมา วันนี้นายต้องเลี้ยงไอ้ลูกชายของนายแล้วล่ะบาเร็ต"
    "ปลายักษ์ ปลายักษ์อะไร?" พ่อของเพียซพูดขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
    "เอ้า! นี่นายไม่รู้เหรอเนี่ย ไอ้หนูนี่มันเล่นปลายักษ์ตัวนึงซะเดี้ยงเลย ตอนนี้เขากำลังแล่เนื้อมันแจกอยู่ในหมู่บ้านน่ะ ตอนนี้นายดังแล้วว่ะเพียซ!"
    "ไม่เป็นไร ชั้นเหนื่อย จะไปนอนซะหน่อย"

    ว่าแล้วเขาก็เดินขึ้นบันไดไป เขาเปิดประตูห้องนอนของเขา สภาพห้องที่รกและไม่เป็นระเบียบ แสดงให้เห็นว่าเขานั้นก็ไม่ใช่คนที่มีรักระเบียบนัก เขาล้มตัวนอนลงบนเตียงซึ่งมีผ้าห่มทำจากขนแกะ จากนั้นก็หลับไป
    กลางดึกคืนนั้น ขณะที่เขากำลังหลับอยู่ ก็มีบางสิ่งกระแทกอย่างแรง ทะลุกำแพงใส่เขาจากด้านนอกจนทำให้ผนังนั้นแตกเป็นรูขนาดใหญ่ ส่วนตัวเขานั้นกระเด็นไปกระแทกกับผนังอีกฟากหนึ่งของห้อง หัวของเขานั้นฟาดกับกำแพงจนทำให้เลือดออก ทำให้เขาถึงกับเซ

    ขณะที่เขาค่อยๆยืนขึ้น เขาหยิบท่อนไม้ขนาดพอดีมือซึ่งเป็นส่วนที่กระเด็นออกมาจากกำแพง แล้วค่อยๆยันตัวขึ้นมายืนอย่างลำบาก จากนั้นเขาจึงพยายามเพ่งสายตาไปที่รูขนาดใหญ่บนผนังนั้น เขาเห็นเงารูปร่างคล้ายคน แต่เนื่องจากความมืดจึงทำให้เขามองเห็นไม่ชัดนัก

    "เฮ้ย! อะไรวะ แกเป็นใคร!" เพียซตะโกนไปหาเงานั้น แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ

    ทันใดนั้น เพียซถูกจับไว้โดยคลื่นพลังซึ่งมองไม่เห็น จากนั้นเขาก็ถูกโยนออกไปนอกห้อง เขากระเด็นไปไกลแล้วจึงหล่นลงบนพื้นทรายใกล้ท่าเรือ เขาค่อยๆยืนขึ้นอย่างยากลำบากแล้วจึงสอดส่ายสายตาหาร่างลึกลับนั้น ขณะที่เขาส่ายหัวหาอยู่นั้น ร่างมืดนั้นก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา เป็นชายหัวล้านผิวดำร่างใหญ่โต
    กล้ามเนื้อขนาดมหึมานั้น แสดงให้เห็นว่าพละกำลังของเขาไม่ธรรมดาแน่ ด้วยความตกใจ เพียซหวดไม้ใส่หน้าชายคนนั้นทันที 

    กร๊อบ!!! ทันทีที่ไม้หวดผ่านหน้าเขาไปนั้น ครึ่งบนของท่อนไม้ที่สัมผัสกับหน้าของเขาก็หักทันที ชายผิวดำนั้นไม่แสดงอาการสะทกสะท้านแต่อย่างได ชายคนนั้นจึงสวนกลับด้วยหมัดหนักอย่างไม่น่าเชื่อ เขาซัดหมัดนั้นเข้าท้องของเพียซอย่างแรง

    "อุ้ก!!" เพียซกระอักพร้อมกับทรุดลง ชายผิวดำเหวี่ยงเท้าแล้วเตะเข้าที่คางของเพียซอย่างเต็มแรง เขากระเด็นไปไกลด้วยความแรงของการเตะที่มหาศาล เพียซมีเลือดกลบปาก จากนั้นเขาก็ค่อยๆยืนขึ้น เขาวิ่งเข้าไปหาชายผิวดำ จากนั้นก็เริ่มเหวี่ยงหมัดออกไป ปึ้ก! หมัดนั้นถูกปล่อยเข้าไปที่ดั้งของชายผิวดำอย่างแรง แต่เขาก็ไม่มีอาการอะไรเช่นเคย กลับกลายเป็นมือของเพียซที่เจ็บเอง 

    จากนั้นชายคนนั้นตอบสนองด้วยการโหม่งอย่างแรงเข้าที่หน้าผากของเพียซ หัวของเขาแตก เลือดไหลออกมามาก จากนั้นเขาก็ล้มลงนอนกับพื้น

    "หึ เท่านี้เหรอ? ทายาทวีรบุรุษ นึกไม่ถึงเลย ว่าต้องมาฆ่าคนอ่อนแออย่างนี้"

    ชายผิวดำเอ่ยปากเป็นครั้งแรก จากนั้นเขาก็ยกตัวเพียซขึ้นมา แล้วก็หยิบเอามีดสั้นออกมาจากปลอกซึ่งติดอยู่ที่เข็มขัดจากนั้นก็แทงมันเข้าไปที่คอของเพียซ
    กึก! ทุกอย่างเงียบ... แกร๊ก มีดเล่มนั้นหักออก คอของเพียซถูกปกป้องโดยเกราะสีทองปริศนา ซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหน จากนั้นร่างของเขาก็ถูกห่อหุ้มด้วยเกราะสีทองรวมถึงตัวของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีทองด้วย ดวงตาของเขานั่น เปล่งประกายเป็นสีทองอร่าม จากนั้นที่มือของเขา ก็มีขวานขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น เข้าลืมตาขึ้น แต่ก็เห็นว่าร่างกายของเขาขยับไปเองโดยที่เขาไม่ได้เป็นคนควบคุม

    "นี่อะไรกันเนี่ย!" เขาตะโกนขึ้น จากนั้นก็มีเสียงตอบจากด้านหลังว่า
    "นี่คือวิชาองค์เทพจุติ ข้าเป็นผู้ลงวิชานี้ไว้ในตัวเจ้าเองแหละ ชื่อของร่างจุตินี้คือ Golden meteor อุกาบาตสีทอง"

    เพียซเหลียวหลังไปหาต้นตอของเสียง ต้นเสียงนั้นเป็นชายร่างใหญ่กำยำ ผมปลิวสยายราวกับอยู่ในน้ำตลอดเวลา เพียซกวาดสายตามองรอบตัว นี่เป็นห้องสีทองทรงกลมขนาดมหึมา มีสลักลายอักขระโบราณมากมาย ทำให้เพียซสงสัยขึ้น

    "คุณเป็นใคร แล้วนี่มันอะไร อธิบายให้ผมฟังหน่อย!"
    "ข้าชื่อ ยาโน่ ราชันย์นักสู้ทองคำ ข้าคือ1ใน7วีรบุรุษแห่งแวนเซลล์ ในศึกขับไล่ปีศาจนรก ข้าว่าเจ้าเคยได้ยินนะ"
    "ใช่ผมเคยได้ยิน แต่ทำไม คุณมาอยู่ที่นี่ แล้วนี่มันอะไรกัน!?" เพียซพูดขึ้นด้วยความฉงน

    "นี่ คือโถงจุติ เจ้าจะสามารถมองภาพการต่อสู้ได้จากที่นี่"
    "ทำไมผมต้องมอง! ไอ้หมอนั่นเป็นใคร! ส่งผมลงไปสู้กับมัน!"

    "ในตอนนี้เหรอ? เจ้าจะไปฆ่าตัวตายโดยแน่แท้หากคิดจะเข้าต่อสู้กับสาวกลัทธิดาบนรก ยิ่งชั้นแนวหน้าอย่างเจ้าเอ็ดการ์แล้ว อย่าหวังเลย ตอนนี้ที่ต่อสู้อยู่นั่น คือจุติของข้า ข้าให้มันต่อสู้แทนเจ้าอยู่ เจ้าจงมองการต่อสู้นี้ไว้ อย่าได้ละสายตา"
    "แต่ผม..."
    "ดูไป" ชายชื่อยาโน่ตัดตอนการสนทนา

    ร่างจุติเทพนั้นต่อสู้กับชายผิวดำที่ชื่อเอ็ดการ์อย่างดุเดือด การเหวี่ยงขวานทุกครั้งจะมีประกายสีทองวิ่งตามท้ายขวาน จากนั้นจะเกิดเป็นไฟลุกขึ้นชั่วพริบตาสั้นๆ เอ็ดการ์กัดนิ้วจนเลือดไหล จากนั้นสบัดมันลงไปบนพื้น จากนั้นก็มีมิโนทอร์  ปีศาจวัวครึ่งคนในตำนาน มันมีหัวและเท้าเป็นวัว แต่ลำตัวส่วนบนเป็นมนุษย์ แต่ตัวของมันนั้นใหญ่ยักษ์ ถือค้อนขนาดใหญ่โผล่ออกมา

    มันใช้ค้อนของมันต่อสู้กับร่างจุติอย่างดุเดือด มันทุบค้อนลงมาอย่างแรง ร่างจุติหลบได้จากนั้นก็ง้างแล้วทุบอีกครั้ง ร่างจุติเห็นได้โอกาส 

    จึงพุ่งเข้ามาแล้วตั้งท่าจะหวดขวานใส่ท้องของมิโนทอร์ตัวนั้น แต่เอ็ดการ์ก็โผล่ขึ้นมา จากนั้นก็ใช้มือของเขาซึ่งเปลี่ยนเป็นเกล็ดมังกรสีแดงเข้ม ซัดเข้าไปที่หน้าของเทพจุติอย่างจัง จังหวะที่หมัดกระทบกับใบหน้านั้น มีสะเก็ดพลังสีแดงเข้มระเบิดออกมา ร่างของเทพจุติกระเด็นไปไกล จากนั้นจึงยืนขึ้น

    "หมัดเลือดนรกของข้า รุนแรงที่สุดในบรรดาวิชาศิลปะป้องกันตัวทั้งหมดของมนุษย์ โดนเข้าหนักขนาดนั้นคงจะลุกยากล่ะนะ"

    ร่างจุติยังคงนอนนิ่งอย่างนั้น จนเพียซต้องพูดขึ้นว่า

    "ทำอะไรซักอย่างสิ! เดี๋ยวก็ตายหรอก!" ยาโน่ไม่ตอบ แต่มองภาพนั้นอย่างนิ่งเฉย

    ขณะที่เอ็ดการ์กำลังเดินเข้าใกล้ มิโนทอร์ก็ง้างค้อน เตรียมจะทุบลงใส่ร่างจุตินั้นแล้ว
    "จบกันเสียที" เอ็ดการ์พูดขึ้น ขณะที่มิโนทอร์ทุบค้อนลงมา ร่างจุติก็พลิกตัวจากนั้นก็ควงขวานอย่างรวดเร็ว ทำให้ค้อนที่ทุบลงมานั้นกระจายไม่มีชิ้นดี มิโนทอร์คำรามลั่น ร่างจุติยืนหยัดขึ้นมา จากนั้นจึงกระโดดขึ้นไประดับหัวของมิโนทอร์ใช้ขวานสะบั้นคอของมันจน

    ขาด จากนั้นร่างมันก็หายไป ร่างจุติหล่นลงมาหาเอ็ดการ์ จากนั้นก็กระชากตัวเขาลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นง้างขวาน เตรียมสะบั้นตัวของเขาให้ขาดเป็นสองท่อน

    ทันใดนั้น ชาวบ้านเดินมาดูด้วยความสงสัยจากเสียงที่ดังสนั่นจากการต่อสู้ ร่างจุติหันมามองชาวบ้าน เอ็ดการ์เห็นทีได้โอกาส จึงผละตัวออกจากมือของเทพจุติ จากนั้นมีประตูมิติเปิดขึ้นด้วยวิชาลึกลับ เอ็ดการ์หันกลับมาพูดกับเทพจุติว่า

    "มันยังไม่จบ... แล้วข้าจะมาใหม่..." จากนั้นก็หายเข้าไปในประตูมิติ ทันทีที่เอ็ดการ์หายเข้าไปในประตูมิติ ร่างจุติก็เปล่งแสงเจิดจ้า จากนั้นทุกคนที่เดินมาเห็นก็เดินกลับไปนอนตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่เป็นวิชาลึกลับของเทพจุติแห่งแสง ซึ่งยังมีอยู่อีกหลายร้อย จากนั้นร่างของเทพจุติก็หายไป เพียซกลับมายืนด้วยตัวเองอีกครั้ง เช่นเดียวกับยาโน่ ยาโน่ยื่นสร้อยคอประหลาดซึ่งเป็นรูปใบหน้าเทพจุติเมื่อครู่ สีทองอร่ามให้กับเพียซ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า

    "แล้วเจอกันใหม่ จนถึงเวลานั้น เก็บสร้อยเส้นนี้ไว้ มันจะมีประโยชน์กับเจ้า เมื่อมีภัย ให้กุมมันไว้แน่นๆ จากนั้นตะโกนว่า องค์เทพจุติ ข้าจะส่งมันลงมาให้เจ้าโดยเร็วที่สุด ตอนนี้ข้าไปล่ะ..."
    "เดี๋ยวก่อน ท่าน..."

    ยาโน่เดินหายไปในความมืด ร่างของเขาสลายเป็นไอสีทองลอยหายไป ท่ามกลางความมืดและเงียบ ความเหนื่อยและเจ็บปวดที่สะสมถาโถมใส่เพียซ ทำให้เขาล้มลงแล้วก็หลับไปทันที...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×