ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    love story in Asgard

    ลำดับตอนที่ #1 : แรกพบ สบตา

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 56


    “นั้นไง ๆ ท่านโลกิอนุชาของท่านธอร์ ช่างเป็นหนุ่มรูปงามนัก”

    เสียงสาว ๆ พากันมาแอบดูเทพโลกิเพราะอยากจะเห็นรูปลักษณ์ที่งดงามของเขา หญิงสาวชื่อ แซนเทีย อายุ 18 ปีได้แต่ชะเง้อมองตามเพราะเธออยากดูบ้าง ด้วยความที่เธอตัวเล็กสูง 155แค่นั้นเอง และก็โดนสาวคนอื่น ๆ ผลักออกมา

    อะไรกัน หญิงสาวนึกในใจ เชอะ ไม่ดูด้วยก็ได้ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะได้เห็นหนุ่มรูปงามกับเขาบ้าง เอ... แต่ท่านพ่อของเราทำงานเป็นนายทวารหน้าของเมืองแอสการ์ดนี้นา ท่านพ่อน่าจะเคยเห็นหน้าตาของท่านโลกิบ้างละ หญิงสาวคิดว่าถ้าเธอไปหาท่านพ่อเธอบ่อย ๆ อาจจะได้เจอกับท่านโลกิก็เป็นได้

    “เหลวไหลสิ้นดี เจ้ากลับไปทำงานบ้านกับแม่เจ้า แล้วทำตัวให้สมเป็นผู้หญิงกว่านี้ด้วย ถ้าข้ารู้ว่าเจ้ามาหาข้าด้วยเหตุผลนี้ ข้าจะให้แม่เจ้าจับตีเลย เจ้ายังไม่รู้ว่าโลกิเป็นคนยังไง รูปลักษณ์ภายในกับภายนอกช่างแตกต่างกันนัก”

    เฮมดัล บิดาของแซนเทียไล่ลูกสาวกลับบ้านเมื่อเจอกับลูกอ้อนของลูกสาวที่อยากจะเห็นหน้าของเทพโลกิสักครั้ง

    “โธ่ ท่านพ่อก็เพื่อน ๆ ของข้ามีแต่พูดเรื่องนี้กัน ข้าไม่มีเรื่องจะคุยกับเขานี้นา”

    “ไร้สาระ กลับไปได้แล้ว”

    เฮมดัลไล่สูกสาวกลับบ้าน แล้วหันกลับไปทำงานต่อ แซนเทียจำต้องเดินกลับด้วยความผิดหวัง ระหว่างทางมีทหารกำลังขี่ม้าผ่านมาบนสะพานไบรฟรอสอย่างเร็ว ทำเอาเธอตกใจสะดุดชายกระโปรงตัวเองล้มลง

    “โธ่เอ้ยย ขาดเลย เฮ้อ... วันนี้เป็นอะไรนะ ทำอะไรไม่ได้ดังหวังเลย”

    แซนเทียพูดพึมพำกับตัวเอง พลางดันตัวเองขึ้นยืนก็ได้มีเสียงฝีเท้าม้าวิ่งมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ แซนเทียมองขึ้นดูเห็นเพียงแต่ชายสวมมงกุฎรูปเขาแหลม เธอมองหน้าไม่ถนัดรู้เพียงว่าต้องเป็นคนที่มียศยิ่งใหญ่ในเมืองแอสการ์ดแห่งนี้แน่ เธอจึงรีบก้มหน้าคุกเข่าลง

           “เจ้ามาทำอะไรบนสะพานไบรพรอสแห่งนี้”

           เสียงของชายหนุ่มถามขึ้น แซนเทียไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรเธอจึงรีบตอบไปว่า

           “ฉันชื่อแซนเทีย บุตรีแห่งเฮมดัล นายทวารประตูหน้าแห่งเมืองแอสการ์ด ฉันเพียงแค่มาพบกับท่านพ่อคะ”

           “สะพานแห่งนี้ มิใช่ผู้ใดก็มาเดินเล่นได้นะ วันหลังหากข้าเห็นเจ้าอีก คงจะได้ลงโทษกันแล้วละ”

           “โลกิ ทำอะไรอยู่เรากำลังจะไปแล้วนะ”

           เสียงเรียกชายหนุ่มให้รีบไป เขาจึงควบม้าออกไปทันที

           โลกิงั้นหรือ แซนเทียรีบเงยหน้าขึ้นมอง แต่สายไปแล้วชายหนุ่มควบม้าออกไปอย่างเร็ว เธอจึงได้เห็นแค่แผ่นหลัง

           “โธ่เอ้ยย จะมัวก้มหน้าทำไมนะฉัน ท่านโลกิอยู่ข้างหน้าแล้วแท้ ๆ”

    .....................................

                “ขอบใจมากเฮมดัล วันหลังเราคงจะได้รบกวนเจ้าอีกครั้ง”

    ธอร์บอกกับเฮมดัลหลังพาเพื่อนและโลกิไปเยือนยังมิดการ์ด เพื่อประทานฝน ธอร์สังเกตเห็นขาหลังของม้าโลกิมีเศษผ้าพันอยู่ จึงร้องถามน้องชาย

    “โลกิน้องข้า ม้าของเจ้าบาดเจ็บหรือ ทำไมจึงได้พันผ้าที่ข้อเท้ามันเช่นนั้น”

    โลกิจึงหันมามองที่เท้าของม้าอย่างแปลกใจ

    “ไม่นี้นาพี่ข้า มันก็ยังวิ่งได้สบายอยู่”

    โลกิจึงลงจากม้ามาหยิบเอาเศษผ้าออกมาจากขาม้า แล้วเขาก็ต้องแปลกใจ

    “มีอะไรหรือปล่าว โลกิ”

    “ปล่าว ๆ ข้าเพียงแต่ไม่เคยเห็นผ้าแบบนี้ในเมืองแอสการ์ดเลย ลายของผ้าข้าไม่เคยพบ”

    “หรือว่าจะติดมาตอนที่เราไปยังเมืองมิดการ์ด”

    ธอร์กล่าว พร้อมกับควบม้าออกไป โลกิจึงเก็บผ้านั้นไว้ พร้อมกับควบม้าตามพี่ชายออกไป

    …………………………………………………

    โลกิเดินเล่นอยู่ในสวนเอลดาร์ก ซึ่งเป็นสวนอันโปรดปรานของเขา ช่วยให้เขาไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านและไม่ต้องวิตกกังวลกับเรื่องใด (จะคิดเรื่องอะไรนักหนาละ...) สวนเอลดาร์กดูมืดมนสมชื่อ เพราะในสวนนั้นร่ายรอบไปด้วยดอกกุหลาบสีดำที่ปลูกตามทางเดิน ซึ่งตอนนี้กำลังช่วยกันเบ่งบานเต็มที่และผืนหญ้าที่เป็นสีน้ำตาลคล้ายกับว่ามันขาดน้ำไปนาน ไม่มีแม้แต่นก กระรอก ผีเสื้อ หรือแม้แต่แมลงมาวนเวียน มีเพียงสายน้ำที่ไหลผ่านไปอย่างเอื่อย ๆ หากแต่น้ำนั้นออกจะใสจนเห็นก้อนกรวด ก้อนทรายอยู่ใต้น้ำ ในสวนนี้จึงมีเพียงเสียงน้ำที่ไหล โลกินั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่เขาชอบมานั่งประจำ พร้อมกับหลับตาปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับสายน้ำ

    “ตู้ม”

    เสียงเหมือนมีอะไรตกลงน้ำ คงจะเป็นวัตถุที่หนักมากเพราะน้ำกระเด็นเป็นวงกว้าง โลกิสะดุ้งโย่ง พร้อมกับกำหอกคู่กายแน่น (ตกใจมากไปละ...) แล้วเดินไปดูตรงริมสระน้ำ ทุกอย่างยังดูเงียบ จนกระทั่งเริ่มมีเงาโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ เป็นแซนเทียหญิงสาวที่มือยังมีแอปเปิ้ลอยู่เต็มมือ พร้อมกับตะเกียกตะกายขึ้นจากสระน้ำ เธอหันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่าไม่มีใครเห็น ทำให้โลกิต้องรีบซ่อนที่หลังต้นไม้ใกล้ ๆ แล้วเธอก็นำชายกระโปรงขึ้นมาเพื่อจะหอบเอาแอปเปิ้ล โลกิเห็นอย่างนั้นแรก ๆ เขานึกเคืองที่มีคนแอบมาขโมยแอปเปิ้ลในสวนแสนโปรดของเขา แต่คิดไปมาเขาก็นึกเรื่องสนุกขึ้นมาแทน

    “นี้ เจ้าทำอะไรน่ะ” โลกิตะเบ่งเสียงออกไป

    หญิงสาวได้ยินตกใจสุดขีด พร้อมนั่งลงก้มหน้างุด

    “ขอประทานโทษคะ ฉันไม่รู้ว่ามีคนอยู่ ฉัน...”

    โลกิเดินไปด้านหน้าแซนเทียพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ ๆ เธอก้มหน้าหลบ แต่แล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรยุกยิกอยู่แถวหน้าอก และกำลังไต่ขึ้นที่หน้าอกของเธอ มันคือหนอนแอปเปิ้ลนั้นเอง

    “ว้าย...”

    แซนเทียร้องเสียงหลง เธอลุกขึ้นพร้อมกับปัดหนอนแอปเปิ้ลออกจากอกจึงล้มคะมำไปล้มทับร่างโลกิเข้าอย่างจัง โลกิได้แต่กอดร่างของหญิงสาวเอาไว้ ใบหน้าหญิงสาวแนบติดกับแผงอกของโลกิ เธอค่อย ๆ มองหน้าขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าของโลกิอยู่ก่อนแล้ว

    ใบหน้าเขาช่างหมดจด ดวงตาสีเขียวมรกต เป็นประกาย จมูกโด่งเป็นสัน ปากเล็กรูปกระจับสีแดงระเรื่อ ใบหน้าเรียวยาว คล้ายกับใครบรรจงปั้นแต่งหน้าของเขาขึ้นมา

    “จะจ้องหน้าข้าอีกนานไหม ข้าหนักนะ”

    โลกิพูดขึ้น ทำเอาสติของแซนเทียลอยกลับมา ก็พอดีกับธอร์เดินผ่านมาพอดี

    “โลกิ น้องข้าเจ้าทำอะไรน่ะ นี้มันสวนกลางแจ้งนะ จะทำอะไร...”

    ธอร์ดูเหมือนจะตกใจกับภาพที่เห็น ก็ภาพที่เห็นมันช่างทำให้คิดไปไกลนี้นา หญิงสาวกำลังนอนคร่อมน้องชายของเขาอยู่

    “อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย มาช่วยข้าหน่อย”

    ....................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×