ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF ไคโด้จำนวนนับ.

    ลำดับตอนที่ #10 : จำนวนนับที่แปด 'สาย'

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 874
      9
      27 ก.ย. 57

    จำนวนนับที่แปด สาย

    สำหรับคุณ..คำว่า สาย นี่ใช้ยังไงหรอ

    สายหนึ่งนาที...

    สายหนึ่งชั่วโมง...

    หรือสายเป็นวัน ๆ ?

     

    สำหรับโดคยองซูมันแค่หนึ่งวินาทีเท่านั้น..

    เป็นหนึ่งวินาทีที่เขาไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก

     

    ตลอดชีวิต.......

     

     

     คยองซูย่าส์ มาคนแรกเลยหรอ” เสียงของเพื่อนเรียกให้คนตัวเล็กตากลมมนหันไปมอง วันนี้เขามีนัดสังสรรค์กับเพื่อน ๆที่ร้านคาราโอเกะ และคนที่มาถึงร้านเป็นคนแรกก็คือเขา

    โดคยองซูเกลียดการมาสาย...

    “อือ คนอื่นล่ะ”

    “รถติดน่ะ งั้นเข้าไปกันก่อนเลยล่ะกัน” เพื่อนชายตัวสูงพูดพร้อมกับเดินนำเข้าไปในร้านโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าของอีกคน รถติดหรอ..ถ้ารู้ว่าติดทำไมไม่ออกเร็ว ๆล่ะ หาเหตุผลกันทั้งนั้น เหมือนกับหมอนั่น..

    คนตัวเล็กเดินตามเพื่อนไปพร้อมกับนึกถึงใครบ้างคนที่อยากจะลืมนักแต่ก็ลืมไม่ได้สักที พอภาพของหมอนั่นลอยเข้ามาในหัวเขาก็อยากจะอาละวาดหรือไม่ก็เอาอะไรสักอย่างมาทุบหัวตัวเอง

    “โฮ้ยย จงอิน ทางนี้”

    “...” คยองซูตาโตเมื่อได้ยินชื่อนั่น คนตัวเล็กหันไปมองห้องคาราโอเกะที่อยู่ข้าง ๆกับห้องที่เขาจองไว้ ผู้ชายประมาณสี่ถึงห้าคนกำลังโบกมือให้คนที่อยู่ข้างหลังเขา

    “ขอโทษ มาสายอีกแล้วแหะ”

     

    เสียงนี้..ไม่ผิดแน่

     

    “อ่า ขอทางหน่อยได้มั้ยครับ”

    “...” คยองซูไม่พูดอะไรแต่ยอมเขยิบให้อีกคนเดิน และจังหวะนั้นเองที่เขาทั้งสองคนประสานตากันพอดี คนตัวสูงผิวเข้มรูปร่างดีในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มกับยีนส์สีดำ “ไง ยังสายเหมือนเดิมนะ”

    “...คะ คยอง”

    “นึกว่าจะหัดเปลี่ยนแปลงตัวเองซะบ้างอีก สงสัยจะคิดผิด”

    “....”

    “ดีแล้วที่เลิกทัน”

    “คยองซู..ฉัน” คนโดนพูดทับถมพยายามพูดอธิบายแต่คยองซูก็หันหลังให้เขาก่อนจะเดินเข้าห้องคาราโอเกะข้าง ๆไปโดยไม่สนใจใยดี

    นี่..เราจำได้แต่เหตุผลที่เราเลิกรักกันหรอ

    แล้วตอนรักกันทำไมไม่จำบ้าง

     

     

    “ใครวะคยอง” เพื่อนตัวสูงหันมาถามตัวเล็กที่นั่งเลือกเพลงด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก

    “แฟนเก่า”

    “หา เฮ้ย !! หล่อนะนั่นน่ะ เลิกทำไมวะ

    “มาสาย” คยองซูตอบหน้าตาย

    “แค่นั้นน่ะนะ ?”

    “แค่นั้น..เหอะ” มือเล็กเขวี้ยงรีโมทไปไกล ๆก่อนจะลุกขึ้นร้องเพลงปล่อยให้เพื่อนบ้าถามคำถามไร้สาระต่อไปเรื่อย ๆ แค่นั้น..คิมจงอินที่มาสายทุกงานไม่ว่าจะวันเกิด วันครบรอบหรือแม้กระทั่งนัดเที่ยว หนักสุดก็คือวันปีใหม่ หมอนั่นไม่ได้มาสายแต่ไปผิดที่เลยต่างหาก ข้ามจังหวัดซะด้วยนะ

    ทนต่อก็บ้าล่ะ

    ห้องคาราโอเกะสองห้องเต็มไปด้วยเสียงเพลง แต่โดคยองซูและคิมจงอินกลับกำลังนั่งคิดถึงสิ่งเดียวกัน เขารู้ดีว่าเวลามันย้อนไม่ได้ แต่เราให้อภัยกันได้นี่..

     

     

    เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมง เสียงเงียบลงแล้วเหลือเพียงคนที่ไม่ดื่นเท่านั้นที่ยังมีสติอยู่

    “ย่าส์..คยองซูววว”

    “นายเมานะ -_-” คนตัวเล็กทำหน้าเอือมระอาใส่เพื่อนพร้อมกับดันตัวออกไปไกล ๆ ตอนนี้ตรงหน้าเขามีคนประมาณสิบคนนอนตายกันเกลือนกลาด และในขณะที่กำลังคิดว่าจะทำยังไงต่อดีนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างที่แสนคุ้นตา

    “ให้ช่วยมั้ย”

    “...”

     

     

    หลังจากคิมจงอินเสนอตัวเข้ามาช่วยเขาทั้งคู่ก็ต้องพากันแบกร่างเพื่อนขึ้นรถของอีกคนเพื่อไปส่งที่บ้าน คยองซูขึ้นไปนั่งข้าง ๆคนขับด้วยความเคยชินทำเอาเจ้าของรถเผลอยิ้มออกมาทันที

    “ยังไม่ดื่มเหล้าเหมือนเดิมเลยนะ” คนตัวสูงทัก

    “บ้านของหมอนี่อยู่ซอยนั้น” และแน่นอนว่าคยองซูตัดบทอย่างไม่ใยดีเช่นกัน...

    รถทั้งคันไม่มีแม้กระทั่งเสียงหายใจ มือหนาทำท่าจะเปิดวิทยุแต่ก็ต้องเอามือกลับมาที่พวงมาลัยอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั้นก็อยู่ในสายตาของโดคยองซูเสมอ

    “ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ต้องแคร์หรอก” คนนั่งข้าง ๆพูดพร้อมกับหันไปมองนอกหน้าต่าง ทุกอย่างภายในรถคันนี้ยังเหมือนเดิม แม้กระทั่งเทปและแผ่นเสียงของนักร้องคนโปรด แต่ไม่เป็นที่โปรดสำหรับเขา คิมจงอินชอบเปิดเพลงนี่ไปขับรถไปโดยมีเขาเป็นคนสั่งให้ปิดตลอดทาง ก็เขาชอบนั่งแบบเงียบ ๆมากกว่านี่

    “ไม่เป็นไร เงียบ ๆแบบนี้ก็ได้”

    ไม่มีบทสนทนาต่อจากนั้น...

     

    คิมจงอินขับรถพาเพื่อนของตัวเล็กไปถึงที่บ้านทีละคน ทีละคนจนเวลาล่วงเลยมาถึงตีหนึ่งครึ่ง และเมื่อถึงบ้านหลังสุดท้ายเขาก็กลับขึ้นมานั่งที่คนขับก่อนจะหันไปหาคยองซู

    “หลับไปแล้วแหะ” ร่างสูงพูดเสียงเบาแล้วเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มที่เบาะหลังแล้วนำมาคลุมตัวอีกคนเบา ๆ คยองซูที่ได้กลิ่นผ้าที่แสนคุ้นเคยก็เอามือจับผ้าไว้แน่นแล้วขดตัวหันมาทางจงอิน

    เหมือนเดิมจริง ๆ...

    จงอินคิดในใจก่อนจะจัดการเอนเบาะให้ตัวเล็กหลับสบาย เอาจริง ๆเขาก็อยากให้คยองซูนอนสบายกว่านี้แต่ถ้าขืนไปอุ้มหรือโดนเนื้อต้องตัวสุ่มสี่สุ่มห้าต้องได้เป็นเรื่องแน่ ๆ

    “ตื่นมาแล้วมาว่าฉันไม่ได้นะ” ร่างสูงบ่นแล้วเริ่มออกรถมาทางบ้านตัวเองเพราะใกล้กว่า เมื่อเข้ามาในบ้านก็จัดการเปิดหน้าต่างรถให้อีกคนมีอากาศหายใจ ดีที่วันนี้อากาศเย็นสบายนะเนี่ย

    “ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงหอมแก้มนายแล้วบอกฝันดีไปแล้ว”

    “...”

    “ตอนนี้ก็ ฝันดีนะคยองซู” จงอินพูดกับตัวเองยิ้ม ๆแล้วล้มตัวนอนที่เบาะด้านคนขับเป็นเพื่อนอีกคน ทั้ง ๆที่คยองซูไม่คุยกับเขาเหมือนเมื่อก่อนแต่เขากลับรู้สึกดี แค่เห็นหน้าก็รู้สึกดีแล้ว

     

    แค่รู้ว่าสบายดีจงอินก็ดีใจ..

    คยองซูลืมตามองอีกคนที่หลับไปข้าง ๆเขาก่อนจะพูดอะไรสักอย่างออกมาแบบไม่มีเสียง ไม่มีใครได้ยินนอกจากเขาเท่านั้น

     

    ฝันดี

     

    และเช้าวันนั้นคยองซูก็หายไป..

    จงอินตื่นสายอีกแล้ว

     

     

    “คยองซู เมื่อวานกับแฟนเก่าเป็นไงวะ” เพื่อนตัวดีสะกิดไหล่ถามขณะเขากำลังเดินไปที่หอสมุดของมหาลัย ก็เมื่อคืนเล่นหายกันไปทั้งคู่ขนาดนั้น

    “ไม่มีอะไร ก็กลับบ้านนอน”

    “หรออออ” คนเป็นเพื่อนลากเสียงยาวจนคยองซูต้องมองด้วยหางตา ทั้งคู่แยกย้ายออกไปซื้ออาหารกลางวันก่อนจะกลับมานั่งกินด้วยกันตาประสาเพื่อนฝูง แต่ดูเหมือนเพื่อนของเขาจะสนใจคิมจงอินไม่น้อย “เขามาสายท่าไหนมึงถึงได้เลิกวะ”

    “นัดที่โซลไปโผล่ปูซานน่ะ”

    “โห นี่คุยกันยังไงวะน่ะ -_-;;” มันแทบออกนอกประเทศล่ะนะพี่

    “ไม่รู้ แถมวันเกิดก็มาสาย วันครบรอบก็มาสาย วันนั้นนู้นนี้ สาย สายไปหมดเลย” คยองซูพูดไปพร้อมกับภาพในหัวที่เขานั่งรอแฟนตัวเองเกือบชั่วโมงในทุก ๆวันจนบางวันต้องหนีกลับไปก่อนเพราะทนไม่ไหว พอถามว่าทำไมมาสายก็ไม่ยอมตอบแถมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกต่างหาก

    น่าเบื่อ..

    “นี่..แล้วตอนคบกันใครขอก่อนหรอ”

    “ฝ่ายนู้นดิ ถามแปลก ๆ”

    “แล้วตอนนั้นทำไมถึงตอบตกลงไปล่ะ ?”

    “เอ๊ะ” คยองซูถึงกับชะงักกับคำถามนั้น ในหัวของเขามีแต่ภาพตอนที่ทะเลาะกัน

     

    นั่นสิ..ทำไมถึงได้ตกลงไปนะ...

    “ก่อนจะเลิกกัน ไม่คิดถึงตอนรักกันใหม่ ๆเลยหรอ”

    “...”

    “ความรู้สึกตอนนั้นมันบางเบาขนาดนั้นเลย ?”

     

    คำถามนั้นคยองซูไม่สามารถตอบได้....

     

     

    แล้วตอนนั้นทำไมถึงตอบตกลงไปล่ะ ?

     

    คำถามนั้นลอยอยู่ในหัวจนกระทั่งถึงเวลากลับบ้าน ร่างเล็กเดินออกมาจากตึกด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เสียงฟ้าร้องทำให้ต้องเอื้อมมือล้วงกระเป๋าสะพายใบเล็กเพื่อหาร่มแต่แล้วสองเท้าก็ต้องหยุดเดินเมื่อภาพตรงหน้าช่างคุ้นเหลือเกิน

    “คยองซู”

    “อะ..” เจ้าของชื่อนิ่งไปเมื่อหน้ามหาลัยมีผู้ชายตัวสูง ๆในชุดเสื้อกล้ามสีดำยีนส์สีเข้มยืนอยู่พร้อมร่มหนึ่งคัน

    จำได้แล้ว...

     

     

    ภาพของตัวเขาเองที่ยืนถือหนังสือห้าเล่มในมืออย่างยากลำบากแถมฝนก็เริ่มตกปรอย ๆฉายขึ้นมาในหัว วันนั้นเป็นวันอังคารของเดือนมิถุนายน ตอนนั้นฝนตกเกือบสองชั่วโมงได้และหอสมุดก็ปิดไปแล้วทำให้เขาต้องนั่งอยู่หน้าตึกโดยมีฝนกระเซ็นใส่ไม่ขาด

    ก่อนจะมีร่างสูง ๆของใครสักคนในสภาพตัวเปียกปอนไปทั้งตัววิ่งเข้ามาพร้อมกับร่มคันสีเหลืองสดใส

    “จะ..จงอิน”

    “ร่มน่ะ” คนโดนเรียกชื่อยิ้มกว้างพร้อมยื่นร่มในมือให้

    “แล้วทำไมนายเปียกแบบนี้ล่ะ..” คนตัวเล็กมองร่างสูงตั้งแต่หัวจรดเท้า มันเปียกไปหมดจนเหมือนเขาเล่นน้ำทะเลมาอย่างไงอย่างงั้น

    “ก็เห็นนายนั่งรออยู่ตรงนี้ แถมมีหนังสือด้วย..ก็เลยวิ่งไปเอาร่มที่บ้านมาให้”

    “...ที่บ้านเนี่ยนะ” คยองซูตาโต “บ้านนายมันถัดไปสี่เขตไม่ใช่หรอ ไกลขนาดนั้น...”

    “น่า เอาไปใช้เถอะ เดี๋ยวหนังสือเปียกหมด ฉันไปก่อนนะ”

    “ย่าส์ !! จงอิน !!” คยองซูพยายามเรียกอีกคนไว้แต่จงอินก็วิ่งออกไปพร้อมกับโบกมือโหยง ๆให้กลางสายฝน ตอนนั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรขำหรือขอบคุณก่อนดี

     

    ลืมไปได้ยังไงนะ...

     

     

    เปรี้ยง !

    “อ๊ะ ตกแล้ว ๆ” จงอินรีบวิ่งมาหาคยองซูที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ มือหนากางร่มคันสีเหลืองออกก่อนจะยิ้มให้คนตรงหน้าที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ “เหมือนตอนนั้นเลยนะ”

    “..นาย จำได้ ?”

    “อ่อ นายลืมของไว้บนรถน่ะ เลยเอามาคืน” จงอินไม่ได้ตอบคำถามนั้นแต่ยื่นพวงกุญแจลายหมีน้อยออกมาแทน

    “ขะ..ขอบใจ”

    “นายมีร่มแล้วใช่ไหม เมื่อกี้เหมือนจะหยิบนี่” ร่างสูงเอียงคอมองกระเป๋าใบเล็กของคยองซู ถ้าเอาของมาคืนเสร็จแล้วเขาก็ไม่อยากอยู่รบกวนนานกว่านี้

    “..ไม่ใช่”

    “...”

    “แค่โทรศัพท์สั่นน่ะ ขอกลับด้วยหน่อยสิ”

    “..อื้อ”

     

    คยองซูโกหกทำไมนะ

     

    “บ้านนายเลี้ยวซ้ายข้างหน้าใช่มั้ย ?” จงอินเอ่ยปากถามหลังจากเดินมาด้วยกันโดยไม่มีบทสนทนาซักนิดเกือบสิบห้านาทีได้ นี่ถ้าไม่มีเสียงฝนตกเขาต้องเป็นบ้าแน่

    “ขอบใจนะ” คยองซูพูดเสียงเบาเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านตัวเองด้วยความปลอดภัย จงอินไม่พูดอะไรแต่โบกมือและยิ้มกว้างให้ “นี่..”

    “หือ ?” คนตัวสูงเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม

    “ช่างเถอะ กลับดี ๆนะ” คยองซูยิ้มเจื่อน ๆให้ก่อนจะรีบวิ่งเข้าบ้านไป แต่แทนที่เขาจะรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ตัวเล็กกลับรีบวิ่งไปที่หน้าต่างและแอบมองอีกคนผ่านรูของผ้าม่าน

    เหมือนเดิมทุกอย่างจริง ๆ...

    จงอินกำลังยืนมองขึ้นมาที่ห้องของเขาโดยไม่มีท่าทีจะกลับ แม้ฝนจะตกหนักกว่าเดิมแค่ไหนหมอนี่ก็ยังคงยืนต่อไปเกือบสิบนาที เมื่อก่อนก็เมื่อกัน..หมอนี่จะมาส่งเขาที่บ้านและยืนพิงกำแพงรอจนกว่าเขาจะเข้าห้องและอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยถึงจะยอมกลับ

    บ้า...ไอ้บ้า

     

    นับแต่วันนั้นทุกอย่างก็ผ่านไปเหมือนเคย ไปเรียน เล่น กลับบ้าน อ่านหนังสือและก็นอน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็คือความคิดของเขา พลันคิดถึงจงอินขึ้นมาเขาก็ต้องทึ้งหัวตัวเองแรง ๆก่อนจะรีบไปล้างหน้าเรียกสติกลับมาไม่งั้นจะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว

    ราวกับว่าตกหลุมรักเป็นรอบที่สองงั้นแหละ...

     

    ทำไงดี

    คยองซูถอนหายใจขณะเดินกลับบ้านในเย็นวันศุกร์ เขาอยากจะกระโดดน้ำทะเลทุกทีที่ตัวเองเผลอไปมองหน้าตึกแล้วตามหาคนตัวสูงนั่นแทบเป็นแทบตาย จะไปมองหามันทำไมเล่า ._.

    “ไง หาใครอยู่หรอ”

    “เฮ้ย !! O_O !” คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงเมื่อคนที่ตัวเองมองหาโผล่มาข้างหลังแบบไม่ให้ปี่ให้ขลุ่ย

    “อะไรเล่า ตกใจเว่อร์ไปแล้ว”

    “นะ..นาย มาทำอะไร”

    “ทดลองมาตรงเวลาน่ะ”

    “...”

    “ตั้งแต่วันนั้นฉันลองมาแล้วนะ แต่ไม่ทัน วันนี้เลยมาตั้งแต่บ่ายซะเลย”

    “จะบ้าหรอไง..” คยองซูมองหน้าอีกคนแบบไม่อยากจะเชื่อ มารอหน้าตึกตั้งแต่บ่ายเนี่ยนะ

    “นี่คยองซู”

    “..อะไร”

    “ขอโอกาสให้คิมจงอินคนนี้หน่อยไม่ได้หรอ”

    “...”

    “ฉันไม่ไปข้ามจังหวัดเป็นครั้งที่สองหรอกน่า”

    คยองซูมองหน้าคิมจงอินด้วยความรู้สึกมากมาย เอาจริง ๆตอนนี้เขาอยากจะกระโดดกอดแล้วด้วยซ้ำ ..แต่ใครจะไปกล้า “..กะ ก็ได้”

    “...”

    “พรุ่งนี้เจอกันที่เดิม ตอนสองทุ่ม”

    “ที่เดิม ?”

    “ไม่บอก ถ้าไปถูกก็จะคืนดีด้วย”

    “เฮ้ย !! คยองซู !!” คนตัวสูงโวยวายเมื่อโดนคำสั่งแบบนั้น แต่ดูเหมือนอีกคนจะชอบอกชอบใจมาก คยองซูแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขาก่อนจะวิ่งออกไป เอาจริง ๆเขาก็แอบกลัวว่าอีกคนจะไม่รู้เหมือนกันนะว่าหมายถึงที่ไหนน่ะ

     

    แต่เสียงตะโกนที่ไล่หลังมาทำให้เขาหุบยิ้มไม่ได้

    “ที่น้ำพุหน้าโรงหนังก็พูดมาสิ ซับซ้อนไปได้ เป็นผู้หญิงรึไง”

    “จงอิน..” คยองซูหันไปมองคนตัวสูงที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋าแบบกวนส้นเป็นที่สุด หมอนี่หันไปมองรอบ ๆตัวเองแล้วเดินมาหาเขา “อะไร ?”

    “มัดจำน่ะ” จงอินยิ้มแบบที่ชอบทำใส่เขาก่อนจะคว้าข้อมืออีกคนไว้แล้วยื่นหน้าไปจุ๊บเบา ๆที่ริมฝีปากรูปหัวใจของตัวเล็ก

    “ยะ..ย่าส์ !!”

    “แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ”

     

    บ้า บ้า บ้า ๆๆๆๆๆ ;//////////;

    “นี่มันหน้ามหาลัยนะ..” คยองซูลงไปนั่งยอง ๆกับพื้นแล้วเอามือปิดหน้าตัวเองที่แดงแจ๋ดแจ๋ หมอนั่นรีบวิ่งออกไปทันทีที่ขโมยจูบเขาเสร็จ บ้า ๆๆๆ ไหงทิ้งเขาไว้แบบนี้เล่า

    อยากให้ถึงพรุ่งนี้ใจจะขาดแล้ว...

     

     

    คยองซูขอถอนคำพูด

    19:58 นาฬิกา

    “โธ่ งี้ก็ไปสายกันพอดี” คนตัวเล็กบ่นพึมพำขณะอยู่บนรถไฟฟ้าที่แน่นเอี๊ยด ถ้ามันไม่มาขัดข้องจนค้างเติ่งอยู่เกือบสิบนาทีป่านนี้เขาคงไปถึงแล้ว

    หมอนั่นจะถึงรึยังนะ...

     

    19:59 นาฬิกา

    คยองซูวิ่งออกมาจากรถไฟฟ้า เท้าเล็ก ๆก้าวไปตามขั้นบันได จุดมุ่งหมายคือน้ำพุนั่น ทำไมต้องสองทุ่มน่ะหรอ ก็มันจะพุ่งขึ้นมาพร้อม ๆกันตอนนั้นไง แล้วก็เป็นตอนเดียวกันกับที่จงอินขอเขาเป็นแฟนด้วย..ภาพของไอ้คนตัวดำที่ทำท่าเขิน ๆนั่นยังอยู่ในหัวเขาอยู่เลยนะ

    ตลกเป็นบ้า...

     

     20:00

    โครม !!

    เอ๊ะ...

    คยองซูหยุดวิ่งเมื่อมีเสียงดังแปลก ๆเกิดขึ้น ผู้คนเริ่มแตกตื่นและเกิดการซุบซิบ

    “ทางน้ำพุนี่” คนตัวเล็กพูดกับตัวเองเอต้นทางของเสียงนั่นมาจากทางน้ำพุ ไวกว่าความคิด ร่างเล็ก ๆรีบกระเสือกกระสนไปที่นั่น สองมือผลักคนรอบข้างไปไกล ๆโดยไม่สนว่าจะโดนด่าทอแบบไหน

    “รถชนน่ะ เห็นว่าเบรกแตก”

     

    ไม่จริง...

     

    “ผู้ชายคนนี้ฉันเห็นมานั่งรอใครก็ไม่รู้ตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ”

     

    ขอให้ไม่ใช่...

     

    “ในกระเป๋ามีบัตรประชาชนด้วยครับ ชื่อคิมจงอิน มีใครรู้จักไหมครับ”

     

    คยองซูมาสายครั้งแรกในชีวิต..

     

    “ย่าส์ !!..จงอิน !” คยองซูที่ดันทุกคนเข้ามาได้เหมือนจะล้มไปกับพื้นแต่ก็ไม่ล้ม ขาที่แทบไม่มีแรงนั่นวิ่งเข้ามาให้คนตรงหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด

    แต่คยองซูมาสาย..มาสายก็คือมาสาย

    “จงอิน..จงอิน..จงอิน นี่..ฉันมาสายแค่วิเดียวเองนะ มาดุฉันก่อนสิ” มือเล็กแตะหน้าอีกคนที่ไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมา อะไรกัน ดูเหมือนกำลังหลับสบายอย่างงั้นแหละ

    “...”

    “จงอิน..ฮึก..จงอิน”

    “...”

    “ฉันไม่โกรธแล้วไง ลืมตาสิ”

    “...”

    “นี่ ฉันขอนายคืนดีอยู่นะ”

    “...”

     

    “อ๊ะ น้ำพุขึ้นแล้วนะครับ !” เสียงของผู้ชายข้าง ๆทำให้คยองซูต้องเงยหน้ามองรอบตัวเองทั้งน้ำตา เขาแยกไม่ออกแล้วด้วยซ้ำว่าอันไหนคือน้ำพุ อันไหนคือน้ำตา

    แต่สิ่งที่ชัดที่สุดก็คือภาพของคนสองคนที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้ที่ ๆเขานั่งอยู่เมื่อหลายปีก่อน

     

     

    ‘จะ..จงอินชอบคยองซู ถ้าไม่รังเกียจจะลองคบกันดูไหม’

    ‘….อื้อ คยองซูก็ชอบจงอินนะ คบกันไปร้อยปีพันปีเลย’

     

    The end.
     


    ไรท์ร้องไห้แหละ 55555555 #อินี่บ้า #อินฟิคตัวเอง
    หลายคนคงสาปแช่งไรท์อยู่ ก็บอกแล้วไงว่ามีทุกแนว ;--;
    ไคโด้จำนวนนับมีรูปแบบความรักมากมาย ความรักจะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับคนสองคน

    บางสิ่งบางอย่างถ้าไม่รีบทำมันก็จะสายเหมือนเรื่องนี้นะคะ
    เพราะอะไร ๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ ลืมตาอีกทีเขาอาจจะไม่อยู่กับเราแล้วก็ได้
    ทุกวันนี้มันสายไปแล้วรึยังคะ ?


    เป็นกำลังใจให้คนมีความรักทุกคนน้า อิอิ.
    #ไคโด้จำนวนนับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×