ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF ไคโด้จำนวนนับ.

    ลำดับตอนที่ #1 : จำนวนนับที่หนึ่ง 'ข้างหลัง'

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.31K
      27
      30 เม.ย. 57

    จำนวนนับที่หนึ่ง ข้างหลัง

     

    หากเขาเป็นพระราชาข้าจะเป็นทหาร

    หากเขาเป็นผู้หญิงข้าจะเป็นผู้ชาย

    หากเขาเป็นเจ้านายข้าจะเป็นลูกน้อง

    หากแค่ได้ปกป้องก็เพียงพอแล้ว...

     

    แลดูน้ำเน่าแต่นั่นคือนิยามความรักของโดคยองซู

    ไม่ได้อยากครอบครองแต่อยากปกป้องอย่างแท้จริง

    เจ็ดปวดแต่ก็สวยงาม

     
     

    เขาคิดแบบนั้น

    “ไค !!” เสียงตะโกนของเพื่อนต่างห้องทำร่างเล็ก ๆที่ยืนอ่านหนังสืออยู่สะดุ้ง ดวงตากลมโตสุกใสเหมือนกระจกเหลือบมองเจ้าของเสียง มือเล็กขยับหนังสือให้ปิดหน้าตัวเองนิดหนึ่ง ก่อนจะเห็นใครบางคนเดินเข้ามาในห้องสมุด

    ร่างสูงในผิวสีเข้ม ดวงตาคมเหมือนราชสีห์แต่ซ่อนแววสนุกสนานในบางครั้ง คนโดนเรียกชื่อหันมาหัวเราะให้เพื่อนอย่างอารมณ์ดี รอยยิ้มนั่นทำให้คยองซูยิ้มตามเหมือนทุกครั้ง

    “เป็นไงวะ เห็นเขาลือกันว่ามึงโดนแฟนคลับไล่ตามจนเกือบโดนรถชน”

    “อืม ประมาณนั้น”

     
     

    ไค.. หรือชื่อจริง ๆว่า ‘คิมจงอิน’

    หนุ่มน้อยอายุสิบแปดที่เป็นนักร้องชื่อดัง ใบหน้าหล่อเหลากับฝีมือในการเต้นทำให้เขาโด่งดังในชั่วข้ามคืน แต่ในความมีชื่อเสียงก็มีความชั่วร้าย เขาโดนแฟนคลับบ้าเลือดไร้สติวิ่งตามบ้างล่ะ อ้างว่าท้องกับเขาบ้างล่ะ ไคนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งในห้องสมุดก่อนจะท้าวแขนกับโต๊ะ พลางหัวสมองก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืน

    เขาโดนแฟนคลับประมาณสิบกว่าคนวิ่งตามตอนเลิกเรียน เพราะเรียนไม่ทันคนอื่นจึงต้องอยู่เรียนต่อในตอนเย็นจนถึงหนึ่งทุ่มกว่า ๆได้ ผู้หญิงพวกนั้นเหมือนซอมบี้อย่างไงอย่างงั้น เขาวิ่งสุดชีวิตจนมาถึงสี่แยกขณะนั้นก็มีรถบีเอ็มวิ่งมาพอดีจนเกือบจะชนเขา

    ย้ำว่า เกือบ

    เพราะอยู่ ๆก็มีร่างเล็กผลักเขาให้หลบรถคันนั้นได้ทัน หากตอนนั้นไม่ใช่ตอนกลางคืนและไฟข้างทางก็ริบหรี่เต็มทีเขาคงได้พูดขอบคุณใครคนนั้นไปแล้ว

    ทว่าร่างเล็กปริศนานั่นกลับหายไปราวกับสายลม

    ยิ่งคิดยิ่งสงสัย...

     

    “คยอง..กูกลับก่อนนะ” เสียงของใครบางคนเรียกสติจากคนที่กำลังเหม่อมองคิมจงอินอยู่ในตอนนี้

    “อะ อือ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะแบคฮยอนอ่า” ตัวเล็กหันไปตอบเพื่อนเบา ๆ ทันทีที่เพื่อนสนิทเดินออกไปทางประตูหลังของห้องสมุด มือเล็กก็จับแขนข้างซ้ายของตัวเอง แผลยังแสบอยู่..มันแสบทั้งวัน แผลจากการครูดไปกับพื้นถนนในช่วงทุ่มกว่า ๆของกรุงโซล

    คยองซูอาจเสียสติไปแล้วจริง ๆ

    “หนังสืออันนี้มันอยู่ตรงไหนฟะ”

     

    เฮือก

     

    คยองซูสะดุ้งโหยงก่อนจะหันขวับไปมองคนตัวสูงที่แวบจากเก้าอี้มายืนอยู่ข้าง ๆเขาแทน ตัวเล็กเขยิบห่างออกมานิดหน่อยแล้วทำท่าอ่านหนังสือในมือต่อ

    “ไอ้พวกอ่านหนังสือนี่ทำไมไม่เก็บเข้าที่ว่ะ จะได้หาง่าย ๆ” ไคกำลังโวยวายพร้อมถือกระดาษเล็ก ๆไว้ในมือ ในนั้นมีรายชื่อหนังสือที่ตัวเล็กรู้ดีว่าอยู่ส่วนไหนของห้องสมุด

    “..นะ นี่”

    “หือ ?”

    เป็นการกระทำที่โง่มากคยองซู นี่นายจะระเบิดหัวใจตัวเองกองไว้ตรงนี้หรอ มือเล็กสั่นกึกกึกจนอีกคนขมวดคิ้วงง ร่างเล็กในชุดนักเรียนปักดาวชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกเหมือนเขากำลังยื่นหนังสือที่เขากำลังตามหามาให้

    “ขอบใจ” ทันทีที่คนตรงหน้ายิ้มกว้างแล้วเอื้อมมือมารับหนังสือ คยองซูก็ต้องเบิกตาโตก่อนจะก้าวเท้าห่างออกมาอีกก้าวหนึ่งโดยอัตโนมัติ “โอ๊ะ คยองซู ?”

    “หะ..” คนโดนเรียกชื่อเหลือบตามองช้า ๆ เมื่อกี้...ไคเรียกชื่อเขาหรอ

    “ฮะ ๆ ใช่จริง ๆด้วย ไม่เจอกันนานเลย นายเตี้ยเหมือนเดิมนะ” มือหนาของร่างสูงเอื้อมมายีผมนุ่มแรง ๆ ตอนนี้คยองซูตัวแข็ง แข็งมาก อาจเป็นศพไปแล้วก็ได้ ไคยีผมเขาหรอ ? เรียกชื่อเขาด้วยใช่ไหม ?

    “อะ..”

    “ไม่ได้เจอกันตั้งแต่ตอนไหนนะ.. มอสาม ? ตั้งแต่ฉันไปเป็นนักร้องจริงจังใช่ไหม นี่นายจำฉันได้ไหมเนี่ย เป็นไง หล่อขึ้นไหม ?” ไม่ให้จังหวะตัวเล็กได้พูดสักคำ ไคเป็นคนแบบนี้แหละ พูดมาก แต่พูดสนุก ทำให้ชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายของเขามีสีสันมากขึ้น “เป็นไงบ้าง เรียงความที่นายแต่งให้ตอนมอสามฉันยังจำได้นะ ฮ่า ๆๆ”

    คำพูดนี้ทำคยองซูหูผึ่ง เรียงความ..ใช่ เรียงความ ไคน่ะเป็นคนไม่ถนัดการเขียนเอามาก ๆ ต่างกับเขาที่ชอบอ่านหนังสือและเขียนเรื่องสั้นอยู่เสมอ เรียงความที่เขียนให้ตอนนั้นเขาจำมันได้ดี มันได้รางวัลชนะเลิศของโรงเรียน แต่ที่ฮาก็คือไคไม่ได้เป็นคนเขียน

    “ถ้ามีให้เขียนอีกฉันจะไปหาที่ห้องนะ”

    “อะ อือ” ตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อ ถ้ายังเห็นใบหน้าคม ๆนี่อยู่อีกประมาณหนึ่งนาทีหรือมากกว่านี้เขาคงได้เป็นลมจริง ๆ

    “...” คนตัวสูงกว่าไม่พูดอะไรต่อ ก่อนที่หางตาของคยองซูจะเห็นคนข้าง ๆกำลังยืนขยุกขยิกทำอะไรสั่งอย่าง กระดาษใบเล็ก ๆถูกวางไว้บนหนังสือที่เขากำลังอ่าน

     
     

    ‘มีเรื่องอะไรหรอ ทำไมไม่ค่อยพูดล่ะ’

     
     

    ดวงตากลมโตมองข้อความในกระดาษตาปริบ ๆ และกระดาษใบที่สองก็ถูกส่งมา

     
     

    ถ้าให้ทาย นายคงไม่ชอบพูดแต่ชอบเขียนมากกว่าแบบนั้นใช่ไหม

     
     

    คยองซูยิ้มออกมาบาง ๆ ไคมองคนเก่งกว่าที่เขาคิด คยองซูเป็นคนเงียบ ๆไม่ค่อยพูด หมอนี่ชอบนั่งเขียนเรียงความนิยายอะไรประมาณนี้ในขณะที่ไคซ้อมเต้นซ้อมร้องอยู่หลังห้องเรียน มือเล็กของคยองซูล้วงหยิบปากกาในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเขียนตอบลงไปในกระดาษแล้วยื่นไปให้คนตัวสูง

     
     

    ‘อือ มันน่าเบื่อใช่ไหม

     
     

    แล้วไคก็เริ่มเขียนต่อ

     

    ไม่ ฉันชอบ มันสบายใจดี’

     





     

    ...ฉันชอบ

    ...ฉันชอบ

    ...ฉันชอบ

     





     

    คำนี้ลอยอยู่ในหัวคยองซูแม้ไคจะเดินออกจากห้องสมุดไปกับเพื่อนแล้วก็ตาม...

     










     

     
    ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊

     


     

    การเต้นเป็นสิ่งที่คิมจงอินรัก เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะเดินเส้นทางสายนี้แม้ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวในชีวิตตัวเอง

    แต่ตอนนี้เขากำลังเจอคนที่ให้ความส่วนตัวกับเขาได้

    “มาที่นี่ทุกวันเลยหรอ” ผมเอ่ยปากถามร่างเล็ก ๆที่นั่งอยู่บนดาดฟ้า เอาเป็นว่าผมเห็นคยองซูชอบมานั่งตรงนี้บ่อย ๆช่วงพักกลางวันแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเดินเข้ามาหา

    วันนี้ไคโดดซ้อมเต้นเพราะอยากเจอโดคยองซู

    “ไค..มาทำไม ?” ดูทำหน้าเข้าสิ ตาโต ๆนั่น คิดว่าดาดฟ้ามันเข้ามายากขนาดนั้นเลยหรอ นายเข้าได้ ฉันก็เข้าได้สิ

    “มาหานายไง โอ๊ะ..” ในขณะที่ขายาว ๆกำลังจะเดินไปนั่งข้างตัวเล็ก สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นห้องซ้อมเต้นของชมรม “มองจากตรงนี้เห็นห้องซ้อมชัดเลยแหะ นี่นายเป็นซาแซงฉันรึเปล่าน่ะ” แน่นอนว่าไคพูดเล่นโดยไม่คิดอะไรก่อนจะนั่งลงตรงที่ว่างข้าง ๆ เขารู้สึกได้ว่าตัวเล็กชะงักไปและเริ่มเขยิบหนี ทำไมหมอนี่ชอบสร้างระยะห่างอยู่เรื่อยเลยนะ

    “เปล่า..ฉันมาหาที่นั่งอ่านหนังสือเฉย ๆ” พอคยองซูตอบแบบนั้น สายตาคมก็มองหนังสือเล่มสีฟ้าในตักของตัวเล็กพร้อมเลิกคิ้วสงสัย

    “อ่า..” อีกแล้ว หมอนี่ชอบประหม่าตอนจะพูด มือเล็ก ๆนั่นสั่นไปหมดทำหยั่งกับว่าเขาเป็นผีร้ายอย่างงั้นแหละ ผมเอื้อมมือยีผมนุ่ม ๆด้วยความชอบใจ คยองซูหันมามองด้วยดวงตากลมโต ผมยิ้มกลับไปให้เพราะรู้สึกว่ามันน่ารักจริง ๆ

    “ไม่ต้องเครียด พูดสบาย ๆ นายกลัวเกินเหตุ” ไคพูดพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู สนุกสนาน และหล่อเหลาในเวลาเดียวกัน ตอนนี้คยองซูเหมือนถูกมนตร์สะกด สายตาเขาละออกจากคนคนนี้ไม่ได้เลยจริง ๆ “อ่ะ”

    “หือ” เป็นอีกครั้งที่ต้องแปลกใจ ร่างสูงยื่นหูฟังสีดำมาให้เขาหนึ่งข้าง

    “ฟังเพลงกัน แล้วเล่านิยายที่นายอ่านอยู่ให้ฟังหน่อย”

     
     

    ตอนนี้คยองซูรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในนิยายเล่มดี แต่เขาคิดตอนจบของตัวเองไม่ออกแม้แต่นิดเดียว

     
     

    “ทำไมพระเอกมันโง่เง่าอย่างงั้นล่ะ” ไคโวยวายเมื่อคยองซูเล่ามาได้ครึ่งเรื่อง นิยายนี่เป็นเรื่องราวของการแอบรักและได้ปกป้องใครคนนึง นางเอกคอยมองอยู่แต่ข้างหลังของพระเอก คอยปกป้องจนเจ็บตัวไปไม่รู้กี่หนต่อกี่หน ทำไมผู้ชายต้องโดนปกป้องโดยผู้หญิงตัวเล็ก ๆคนเดียวแบบนั้นล่ะ บ้าไปแล้ว

    “ความรักก็งี้แหละ ฉลาดแต่โง่”

    “นายพูดอะไรที่ฉันไม่เข้าใจนะ” คยองซูสะดุ้งเล็กน้อยตอนไคหันไปมอง ทั้งคู่ถูกเชื่อมกันด้วยหูฟังคนละข้าง สายตาคมของไคทอดมองท้องฟ้าแล้วพูดต่อ “ถ้าฉันเป็นพระเอกคงดีใจมาก ๆเลย”

    “ไม่หรอก ถ้านายไม่ได้ชอบเธอล่ะ..แบบ ไม่ใช่คนที่ใช่น่ะ”

    “ดีใจกับชอบใจมันไม่เหมือนกันนะ ถ้าถูกใครสักคนรักมากขนาดนั้นก็ต้องดีใจอยู่แล้ว แต่จะชอบใจแล้วตกลงใจไหมนั่นมันอีกเรื่องนึง”

     

    แสดงว่าไคดีใจที่มีคยองซูอยู่สินะ...

    อืม พอแล้วล่ะ

     

    “แต่นางเอกไม่คิดอะไรมากหรอกน่า เธอมีความสุขที่ได้มองแค่ข้างหลังนะ”

    “แล้วทำไมมายืนข้างหน้า บอกกันไปเลยจะได้รู้” ไคเถียง

    “ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่ได้ปกป้องสิ แถมอาจจะถูกเกลียดด้วย” ไม่รู้ว่าตัวเล็กนี่รู้สึกตัวไหม แต่คยองซูพูดมากขึ้นจนไคต้องแอบอมยิ้มคนเดียว

    “ถ้ายืนข้างหลังมันเจ็บ ยืนข้างหน้าก็เจ็บ งั้นก็มายืนข้าง ๆสิ”

    “...”

    “จะได้จับมือกันได้ด้วย” ไคถอนหายใจก่อนจะมองท้องฟ้าอย่างหงุดหงิด นี่มันนิยายอะไรกัน “อยากเป็นพระเอกจังแหะ”

    “...” คยองซูก้มหน้ามองหนังสือแล้วเริ่มเขียนอะไรบางอย่างในกระดาษแผ่นเล็กและยื่นให้คนตัวสูงข้าง ๆ

     

    ‘ก็เป็นอยู่แล้วนี่

     

    แล้วบทสนทนาของทั้งคู่ก็เงียบหายไป

     












     




    ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊




     

    เลิกเรียนวันนี้เหมือนทุก ๆวัน

    แต่ความรู้สึกไม่เหมือน

    คยองซูเดินอยู่บนถนนเส้นเดิมด้วยอาการเหม่อลอย ทัองฟ้ายามเย็นดูหม่นมากในสายตาเขารอบทางของถนนมีแม่น้ำสายเล็ก ๆและผู้คนที่ออกมาวิ่งเล่นพร้อมหมาตัวโปรด

    ไคไม่ได้พูดอะไรกับเขาต่อ พอถึงชั่วโมงเรียนทั้งคู่ก็แยกย้ายกันออกไป ไม่มีคำพูด ไม่มีเสียง ไม่มีแววตาสนุกสนาน

    คยองซูทำเรื่องแย่ ๆลงไปแล้ว

    “ไคเดินไปทางนั้นใช่ไหมแก” เสียงของกลุ่มนักเรียนหญิงสี่ถึงห้าคนเรียกสติจากคยองซู ดวงตากลมมองคนพวกนั้นก่อนจะคิดในใจ

     

    อีกแล้ว...

     

    ทำไมคนพวกนี้ไม่เคารพความเป็นส่วนตัวของชาวบ้านเขาบ้างเลยนะ

    แล้วเท้าเล็ก ๆก็ออกเดินตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรก คยองซูทำแบบนี้ตลอด ตั้งแต่ไคไปเป็นดาราหมอนั่นเก่งขึ้นมากก็จริง แต่เรื่องวุ่นวายก็มากเช่นกัน ทั้งโดนน้ำสาด โดนไล่ตาม แถมเมื่อวานก็เกือบโดนรถชน

    ดีที่เขาเข้าไปช่วยทัน

    และครั้งนี้คยองซูก็จะช่วยอีก

    “ฉันได้ยินว่าไคชอบลูกหมาแหละ เลยกะจะเอาหมาของฉันไปล่อ แล้วพอเขามาเจอฉันนะ มันก็ประดุจรักแรกพบ”

     

    ปัญญาอ่อน.. คยองซูคิด

     

    “แล้วถ้าไม่อ่ะแก”

    “ก็ล้อมไว้แล้วถ่ายรูปประจานซะเลย สร้างข่าวอะไรมั่ว ๆก็ได้แล้วเอาไปลงแฟนบอร์ด อย่างดาราไฟแรงทำร้ายลูกหมาตัวน้อยของนักเรียนชั้นมอห้า..”

    “มันผิดกฎหมายนะ แล้วไคก็ไม่ทำแบบนั้นแน่ !!” บ้า..คยองซูบ้าไปแล้วจริง ๆ อยู่ ๆเขาก็ตะโกนไปแบบนั้นโดยอัตโนมัติ

    “หา” เด็กหญิงท่าท่างแก่นเฟี้ยวดวงตาสีฟ้านั่นมาจากคอนแทคเลนส์ที่ผิดกฎโรงเรียน พ่วงด้วยการย้อมผมสีทองเหมือนหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่าอย่างไงอย่างงั้น “หมอนี่เป็นใคร มาเสือกทำไมน่ะ”

    “อ่ะ..” คยองซูได้แต่กำกระเป๋าสะพายข้างแน่น หนึ่งต่อห้าหรอ..แต่เขาเป็นผู้ชายนะ แต่จะไปทำร้ายผู้หญิงมันก็ผิดจรรยาบรรณเขาไปหน่อย

    เท้าเล็ก ๆถอยห่างออกมาเรื่อย ๆจนถึงริมแม่น้ำ นี่เขาอยู่ในหนังสู้ชีวิตหรอ ผู้ชายตัวเล็ก ๆคนนึงกำลังจะโดนผู้หญิงหุ่นเหมือนควายป่าผลักลงแม่น้ำ บ้าบอที่สุด

    “หน้าตาน่ารักอย่างกับผู้หญิง เป็นตุ๊ดรึไงนายน่ะ”

    “...”

    “อย่ามาทำตาโตใส่นะ ไอ้บ้านี่” ไม่ใช่คยองซูไม่โมโห แต่เขาไม่ชอบการทะเลาะวิวาท

     

    ตู้ม !

     

    ไม่ต้องเดา ทันทีที่คยองซูเผลอ มือหนัก ๆของผู้หญิงห้าคนก็ผลักเขาลงไปนั่งจมปุ๊กอยู่ตรงแม่น้ำ เสื้อนักเรียนของเขาเปียกไปครึ่งตัวจนถึงหน้าท้องได้ ยัยผู้หญิงพวกนั้นยิ้มแสยะก่อนจะเดินหนีไป ทิ้งคนโง่นั่งมองปลาตัวเล็ก ๆที่ว่ายอยู่ข้าง ๆเขา

    ไหนเขาบอกว่าคนเราเกิดมาเพื่อมีความสุขไง

    เกิดมาใช้กรรมมากกว่า

     

    “จะนั่งจนกว่าเรือไททานิกจะมารับหรอโดคยองซู”

     

    เหมือนรอบข้างเป็นสีขาวอมชมพูเล็ก ๆ ดวงตากลมโตหันไปมองร่างสูงที่ใส่แว่นตาดำอำพรางตัว มือข้างนึงยื่นมาทางเขา คยองซูจำได้ดีแม้จะมีแว่นหนา ๆนั่นบังไว้

    เขาเห็นแววตามีน้ำโหนิดหน่อยซ่อนอยู่ใต้นั้นรึเปล่านะ

    “อะ อื้อ” มือเล็ก ๆยื่นไปจับมือหนาไว้ก่อนจะลุกขึ้นยืน ดวงตาคมใต้แว่นสีดำมองสภาพของคนตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน

    “ไม่เป็นไรไช่ไหม ?”

    “อือ..”

    “งั้นรอตรงนี้แปปนึงนะ”

    “เอ๊ะ” ตัวเล็กเลิกคิ้วแล้วมองตามแผ่นหลังของอีกคน ไคเดินไปหาผู้หญิงพวกนั้นก่อนจะผลักพวกนางลงน้ำไปหน้าตาเฉย “เฮ้ย !”

    “ป่ะ เดี๋ยวเป็นหวัด”

    “จะบ้าหรอ !! ไปผลักเขาทำไม !” คยองซูโวยวายทันทีที่ร่างสูงเดินมาจับมือเขา เป็นปกติตัวเล็กคงจะเขินแต่สิ่งที่ไคทำเมื่อกี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะ เขาเป็นดารามาทำแบบนี้ได้ไง

    “ไม่เห็นเป็นไร ทีพวกนั้นยังมาผลักแฟนฉันเลย”

    “...อะ อะไรนะ ?”

    “เพื่อน.. ทำไมหรอ ?”

    “อ่อ สงสัยหูฝาด” ตัวเล็กพูดพึมพำกับตัวเองแล้วเดินตามขายาว ๆนั่นไปเงียบ ๆ

     

    เป็นการหูฝาดที่ดีทีสุดในโลกเลย

     












     

     


    ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊




     

    “เสร็จแล้วมานั่งนี่สิ” เสียงคมเข้มที่สั่งทำร่างเล็กสะดุ้งอีกจนได้ ไคพาคยองซูมาที่บ้าน พามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้ออย่างดีแถมให้เข้าห้องเขาอีกด้วย

    คยองซูกำลังจะเป็นลม...

    กลิ่นของไคมันทำให้เขาปวดหัวตุ้บ ๆ

    “ถะ ถ้างั้นฉันขอกลับบ้าน..”

    “หนึ่งทุ่มแล้ว นอนนี่เลยก็ได้”

     

    หะ... O__O

     

    “จะทำตาโตขนาดนั้นทำไม -__-;;” ไคพูดก่อนจะนั่งลงบนเตียงขนาดสองคนนอน คยองซูเดินมานั่งด้วยแต่ก็ทิ้งระยะห่างพอสมควร สมกับเป็นโดคยองซูล่ะนะ

    ท่าทางต้องใช้เวลาเยอะหน่อยกว่าจะเข้าใกล้ได้มากกว่านี้

    แล้วไคก็เริ่มทำอะไรสักอย่างกับกระดาษแผ่นเล็ก มันถูกยื่นไปตรงหน้าคยองซูและตัวเล็กก็หยิบมันมาอ่าน

     

    มาคุยกันไหม ช่วงนี้ฉันโดนแฟนคลับวิ่งตามจนอยากบ้า ถ้ามีคนมาคุยด้วยก็คงดี

     

    ‘ฉันรู้ว่านายไม่ถนัดพูด งั้นเขียนเอาก็ได้’

     

    คยองซูพยักหน้างึกงักเหมือนเด็กอนุบาลก่อนจะวางกระดาษลงบนตัก “ไม่เป็นไร พูดก็ได้ ฉันรู้สึกไม่ค่อยประหม่าแล้ว”

    ประโยคนี้ทำให้ไคยิ้ม

    “คุยอะไรดีล่ะ..นิยายที่นายอ่านไหม”

    “ทำไมสนใจนักล่ะ”

    “ถ้าจะทำความรู้จักใครสักคนก็ต้องทำความรู้จักสิ่งที่เขาชอบก่อนสิ จริงไหม ?”

    “...อือ” คยองซูพยักหน้าน้อย ๆแล้วก้มหน้าลงจนมองไม่เห็นตา ไคคิดว่าคยองซูเขินเขา ไม่รู้คิดผิดรึเปล่า

    “ตอนนายอ่านอยู่ฉันเห็นกลอนอะไรสักอย่างสั้น ๆอยู่หลังหนังสือ พูดให้ฟังหน่อยสิ” ไคถามพร้อมกับเอื้อมไปเปิดเพลงที่วิทยุหัวเตียง แม้เขาจะชอบความเรียบง่ายของคยองซูแต่เขาก็ชอบเสียงเพลงเช่นกัน

    “อ่อ..นั่นน่ะหรอ” คยองซูทำท่าคิดก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ถูก

    ราวกับเป็นนางเอกนิยายซะเอง

     

      หากเขาเป็นพระราชาข้าจะเป็นทหาร

    หากเขาเป็นผู้หญิงข้าจะเป็นผู้ชาย

    หากเขาเป็นเจ้านายข้าจะเป็นลูกน้อง

    หากแค่ได้ปกป้องก็เพียงพอแล้ว...

     

    “เศร้าไปไหม ฉันชักโกรธพระเอกจริง ๆแล้วสิ” ไคโวยวาย

    “นายจริงจังไปนะ”

    “งั้นลองเปลี่ยนให้เป็นแบบของฉันไหม ?”

    “ยังไง ?”

     

    หากเขาเป็นทหารข้าจะลดตัวไปเป็นทหารด้วย

    หากเขาเป็นผู้ชายข้าจะเป็นผู้หญิงที่ดีและเพียบพร้อมที่สุด

    หากเขาเป็นลูกน้องข้าจะให้เขาทำงานน้อยที่สุด แต่ได้เงินเยอะที่สุด

    หากแค่ได้เคียงข้างกันเพียงพอแล้ว........

     

    “อะไรคือการทำงานน้อยสุดแล้วได้เงินเยอะสุด ไม่สมเหตุสมผลเลย” แม้คยองซูจะแอบชมในการแต่งอะไรมั่ว ๆของไคก็เถอะ แต่มันไร้เหตุไร้ผลไปหน่อย เอาแต่ใจนี่

    “แล้วนายคิดว่าไง ?”

    “อะไร”

    “อยากให้ฉันไปเป็นทหารด้วยไหม ?”

     

    คำถามนั้นคยองซูไม่ได้ตอบ

    เขาผล็อยหลับไปบนเตียงของดาราหนุ่มอย่างไม่น่าให้อภัย















     


     ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊ ♦ ◊


     

    ไคเดินมาที่ดาดฟ้าในช่วงพักกลางวันอีกครั้ง เมื่อวานคยองซูเผลอหลับไปในห้องของเขาและมีนัดกันที่ดาดฟ้าในตอนเที่ยง

    ไม่มีอะไรมากมายแต่ไคชอบมันมาก

    “หลับหรอ ?” ร่างสูงก้มมองตัวเล็กที่นั่งหลับคาหนังสือนิยายบนดาดฟ้า ลมอ่อน ๆพัดให้ผมนุ่มปลิวไสว ไคนั่งลงยอง ๆก่อนจะใช้มือปัดผมให้เบา ๆ เขาใช้เวลาทั้งคาบพักกลางวันในการสังเกตหน้าตาของตัวเล็ก เขาเพิ่งรู้ด้วยซ้ำว่าคยองซูมีริมฝีปากรูปหัวใจ

    และนั่นเป็นการยากมากที่จะห้ามใจไม่ให้จูบอย่างทะนุถนอม

    ไคขโมยจูบเพื่อนตัวเองตอนหลับ

     

    บ้าไปแล้ว เขาคิด

     

    “อื้อ..” เสียงครางในลำคอของคยองซูทำเขาสะดุ้ง ดวงตากลมโตจ้องเขาในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ก่อนที่ริมฝีปากรูปหัวใจนั่นจะเผยอออก “ไค..นี่ฉันหลับไปทั้งคาบเลยหรอ”

    “อะ อื้อ หลับเป็นตายเลย ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น” จะผิดไหมถ้าเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าแดง

    “อ่า..งั้นไปเรียนกันเถอะ” คยองซูลุกพรวดพราดแต่ทันทีที่จะออกเดิน กระดาษใบเล็ก ๆก็ถูกยื่นมาตรงหน้า

     

    นิตยสารเฮอึนฉบับล่าสุด ในห้องสมุดมี

     

    หือ ? คยองซูเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหันมามองใบหน้าคม ไม่มีแววตาสนุกสนานอยู่แล้วแต่เป็นความจริงจังที่อธิบายไม่ถูก

    แล้วกระดาษอีกใบก็ถูกส่งมา

     

    ‘เจอกันตอนเย็น ที่นี่ อย่าลืมอ่านนิตยสารมาก่อนนะ’

     

    ทันทีที่แยกจากไค คยองซูก็ตรงดิ่งมาที่ห้องสมุด นี่เป็นการโดดเรียนไม่กี่ครั้งในชีวิตของเขา สายตากลมสอดส่องไปที่ตู้นิตยสารก่อนจะหยิบสิ่งนั้นออกมา

    มือเล็กเปิดมันไปเรื่อย ๆ จนถึงบทสัมภาษณ์ดาราที่ท้ายเล่ม

     

    ‘คิมจงอิน’

     

    คยองซูเม้มปากถอนหายใจแล้วไล่อ่านทุกบรรทัด ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอะไรที่คยองซูรู้อยู่แล้ว ไคให้เขามาอ่านทำไมกัน แค่นี้หรอ  ? มีอะไรอีกรึเปล่า เขาอ่านไปหมดแล้วจริง ๆนะ ไคจะให้เขาอ่านอะไรกันแน่ มือเล็กปิดหนังสือลงอย่างเซ็ง ๆก่อนจะเอามันไปวางที่เดิม ทันใดนั้นหัวคยองซูก็เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่าน เขาดึงหนังสือกลับมาอีกครั้งแล้วเปิดดูอีกรอบ ถ้าดูดี ๆนี่คือหนังสือที่เขามายืมไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน คยองซูเปิดไปท้ายหนังสือด้วยความรวดเร็วก่อนจะเห็นชื่อของตัวเองอยู่ในบันทึกการยืมหนังสือ

    และอีกสามบรรทัดต่อมาคือชื่อของคิมจงอิน

    ตัวเล็กขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะวิ่งไปหาหนังสือเล่มอื่น เล่มที่เขาเคยยืมไปจากห้องสมุด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ หรือแม้กระทั่งนิยายรักปรัมปรา

    ทุกเล่มมีชื่อของคิมจงอินอยู่ติดกับชื่อของเขา

     

    ถ้าจะทำความรู้จักใครสักคนก็ต้องทำความรู้จักสิ่งที่เขาชอบก่อนสิ จริงไหม ?

     

    บางครั้งคยองซูอาจไม่ได้อยู่ข้างหลังคิมจงอิน

    แต่อยู่ข้าง ๆกันโดยไม่รู้ตัวแล้วก็ได้

     
     

     

    ตัวเขาลอยเหมือนอยู่ในห้วงอวกาศ

    เท้าสั่น

    คยองซูพยายามก้าวขึ้นไปบนดาดฟ้าอย่างยากเย็นก่อนจะเห็นร่างสูงที่คุ้นตากำลังนั่งฟังเพลงอยู่คนเดียว

    “มาเร็วจัง ฉันเพิ่งฟังเพลงจบไปเพลงเดียวเอง”

    “อื้อ” คยองซูไม่ยอมสบตากับคนตรงหน้า ตัวเล็กเดินเข้าไปหาก่อนจะนั่งลงใกล้ ๆแต่สร้างระยะห่างมากกว่าเดิม

    “ไง อ่านมาแล้วใช่มั้ย”

    “อือ”

    “นายเคยบอกฉันว่าฉันเป็นพระเอกนิยายอยู่แล้ว แต่ในทางกลับกันสำหรับฉันนายเป็นพระเอก”

    “...”

    “ไม่สมเหตุสมผลเลยนะ”

    “...คงงั้น” คยองซูตอบด้วยเสียงเบา เบามาก ๆ

    “แผลหายรึยัง ?”

    “หือ”

    “ที่ครูดไปกับพื้นถนนน่ะ”

    “...นายรู้” ดวงตากลมโตอีกครั้งเมื่อเจอเรื่องช็อค ๆ อยู่กับคนคนนี้ไม่มีครั้งไหนที่คยองซูจะไม่แปลกใจ

    “ไม่นานมานี้น่ะ ใครจะไปคิดว่าคนที่มองมาตลอดเขาก็มองเราตลอดอยู่เหมือนกัน” คำพูดนี้ทำตัวเล็กกลืนน้ำลายไม่สะดวก หมอนี่พูดตรงมาก แล้วเขาจะทำยังไงดีล่ะ “นายทำเกินไป ถ้านายโดนรถชนแทนล่ะ”

    “...ก็อาจจะคุ้ม”

    คำตอบของคยองซูทำไคเงียบกริบ ท้องฟ้าเริ่มมึดลงเรื่อย ๆ ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะพยุงตัวอีกคนลุกขึ้นด้วย

    “อ่านนิตยสารมาแล้วแน่นะ”

    “อือ”

    “งั้นรอแปปนึง” ไคพูดพร้อมยืนอยู่เฉย ๆ ลากตัวเล็กมายืนอยู่ตรงกลางของดาดฟ้า ก่อนที่เสียงเพลงจังหวะเบา ๆจะดังขึ้นมาจากทางห้องซ้อมเต้น กลุ่มของไคกำลังซ้อมกันอยู่ “อยากลองเต้นไหม ?”

    คำถามพร้อมกับมือหนาที่ถูกยื่นมาทำให้บทสัมภาษณ์ตอนนึงลอยเคว้งคว้าง

     

    ถาม : ถ้ามีแฟนจะทำอะไรกับเธอคะ ?

    ตอบ : ผมจะชวนเธอเต้นครับ

     

    บ้ามาก...

    “..อือ” มือเล็กยื่นออกไปจับไว้อย่างกล้า ๆกลัว ๆ ไคยิ้ม ก่อนจะพาร่างเล็ก ๆเต้นไปตามจังหวะช้า ๆ ไคเป็นผู้นำและคยองซูเป็นผู้ตาม ถึงตอนนี้คยองซูรู้สึกว่าไคเก่งมาก พอได้มาเต้นด้วยอย่างงี้แล้วเขาคิดแบบนั้นจริง ๆ

    “นายนี่พูดน้อยจริง ๆนะ”

    “ไม่ชอบหรอ”

    “ไม่ ฉันชอบ”

    ตอบตรงมาก..นี่คือสิ่งที่คยองซูต้องปรับตัวครั้งใหญ่หลวง

    “แล้วจะเต้นถึงเมื่อไหร่..”

    “ทำไม รำคาญหรอ”

    “ไม่” คยองซูตอบทันที ตาโตเหมือนกลัวว่าอีกคนจะรู้สึกไม่ดี ช่างแคร์เขาซะเหลือเกิน

    “นายถนัดเขียน แล้วรู้ไหมฉันถนัดอะไร ?”

    “พูดหรอ”

    “ไม่ใช่”

    “แล้วอะไร”

    “ฉันถนัดกระทำมากกว่า” สิ้นคำพูดนี้ร่างสูงก็ใช้มือหนาดันอีกคนเข้ามาใกล้ก่อนจะจูบที่ริมฝีปากเบา ๆ คยองซูจะนึกว่านี่เป็นจูบแรกของตัวเองซึ่งเขาไม่มีทางเล่าแน่ว่าขโมยจูบปากอิ่มนี่ไปตอนตัวเล็กหลับ

    !!!” ตอนแรกร่างบางทำท่าจะเขยิบหนีแต่ก็อ่อนแรงลงในไม่กี่นาทีต่อมา ตามที่ไคคิดไว้เป๊ะ

    “ไง ยังอยากเป็นทหารอยู่ไหม” ร่างสูงหยุดการขยับตามจังหวะเพลงแล้วมองหน้าแดง ๆของอีกคน เขาสุขใจกับความเรียบง่ายของคยองซู จนกลายเป็นติดใจ และเผลอใจไปในที่สุด

    “ไม่”

    “...”

    “ตอนนี้อยากเป็นราชินี”

    คำตอบนี้เรียกเสียงหัวเราะจากไคราวเสียงหัวเราะของเทวดาในยามกลางคืน แล้วริมฝีปากของเขาทั้งคู่ก็สัมผัสกันอีกครั้งและอีกครั้ง

    และตลอดไป

     

     

    มีใครคนนึงเคยบอกว่าให้มองแต่ทางข้างหน้าห้ามมองกลับมาทางข้างหลัง

    แต่บางทีข้างหลังของเราก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป

     

    ถ้าไม่มีทางข้างหลังก็ไม่มีทางข้างหน้าในวันนี้

    เหมือนกับคิมจงอินและโดคยองซู

    END.







     



    โอ้ยยย 55555555 (;゜ロ゜)ノ
    ไม่เคยแต่งแนวนี้เลย จะบ้าตาย
    คนแต่งแนวนี้สมองทำด้วยอารายยย ;--;
    เป็นไงบ้าง จะมีคนอ่านไหม ฮือ *ร้องไห้*

    แท็กในทวิตขออันเดียวเลยนะ #ไคโด้จำนวนนับ
    ขี้เกียจไปรีทีละเรื่อง เอาอันเดียวไปเลย 555555555

    ปล.ช็อทฟิคนี้มึทุกแนวนะคะ ตอนหน้าอาจจะเป็นผี ๆ(?)
    แฟนตาซี แล้วแต่อารมณ์ แต่เป็นไคโด้แน่นอนฮะ'
    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×