คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : chapter6 อัศวินม้าขาว แฮร์รี่ สไตลส์ [แก้]
Chapter6
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่ม คุณและออสตินคิดถูกที่วิ่งหนีฝนกลับกันมาก่อน
ฝนยังตกต่อเนื่อง และเริ่มทวีคูณแรงขึ้นเรื่อยๆ แม้จะปิดหน้าต่าง แต่คุณก็ยังได้ยินเสียงสาดกระหน่ำของฝนที่กระทบลงกับบานหน้าต่าง ฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดสนิท มีเพียงแสงไฟสลัวๆจากเสาไฟฟ้าตามทางเดินเท่านั้น บรรยายกาศแบบนี้มันน่านอนก็จริง แต่คุณกลับรู้สึกตาสว่างและอยากจะหาอะไรทำแก้เซ็งแทน เหลือบมองไปเห็นขาตั้งวาดภาพและขวดสีน้ำทั้งหลายที่ยังดูใหม่เอี่ยมอยู่ราวกับรอให้คุณรีบๆใช้มันซะ
เมื่ออารมณ์ศิลปินพุ่งเข้าสิงร่างคุณก็จะไม่มีอะไรหยุดยั้งได้-- คุณตัดสินใจลุกขึนและไปนั่งอารมณ์เจิดอยู่หน้ากระดาษผ้าสีขาวแผ่นยักษ์ หลับตาเบาๆ การวาดภาพเป็นตัวช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม คุณจุ่มพู่กันลงบนสีน้ำและเริ่มวาดภาพราวกับร่ายมนต์
ใช้เวลาสักพัก ภาพวาดที่มาจากจินตนาการของคุณก็เสร็จสมบูรณ์ อืม...ใช้ได้แฮะ
“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะวาดรูปเป็นกับเขาด้วย”
คุณสะดุ้งเบาๆ “ออสติน นายไม่เคาะประตูห้องฉันอีกแล้วนะ”
“ช่วยไม่ได้นี่” เขายักไหล่ เดินเข้ามานั่งข้างๆคุณ “ฉันคิดว่าเธออาจจะหลับไปแล้ว” ออสตินเลื่อนสายตาไปมองผลงานชิ้นใหม่ของคุณ “เอาเถอะ ถึงจะประหลาดใจระดับสิบแต่มันก็..ไม่เลว ไว้ว่างๆมาวาดภาพเหมือนฉันให้หน่อยสิ”
“ฝันไปเถอะ”
ออสตินยักไหล่ก่อนจะวางสมุดปกอ่อนไว้บนเตียงของคุณ คุณจ้องมองพฤติกรรมของเขาแบบงงๆจนกระทั่งเขาเดินไปถึงหน้าประตู “ราตรีสวัสดิ์เมท แล้วก็เอ่อ...ฝากการบ้านฉันด้วย แค่นี้แหละ” ว่าจบก็รีบปิดประตูออกไป ทำได้ดีหนิออสติน-- คุณก่นด่าออสตินเบาๆในใจแต่ก็ยอมลงมือทำเพราะมันเป็นแค่ควิสง่ายๆเท่านั้น
กว่าคุณจะรู้ตัวอีกที ก็ปาไปสี่ทุ่มแล้ว คุณวางมือจากการบ้านของออสตินและไปนั่งจ๋อมลงบนเตียงกับโทรศัพท์คู่ใจเพราะมีอีเมลล์ปริศนาถูกส่งเข้ามา ไม่มีหัวข้อเรื่อง มีเพียงประโยคสั้นๆ ‘ดู เดี๋ยวนี้’ กับลิงค์ที่แนบมาพร้อม ไม่นานนัก หน้าที่ซาฟารีก็เด้งขึ้นเป็นเว็บเพ็จเว็บหนึ่ง สีสรรค์คัลเลอร์ฟูพิงกี้ปาร์ตี้สุดๆ คุณเริ่มเสียวสันหลังทันทีที่เห็นชื่อเว็บ แอบบริดจ์ คำถามหนึ่งผุดขึ้นในหัว อะไร...ไม่สิ ใครคือแอบบริดจ์ แต่ที่แน่ๆ มันไม่ใช่เว็บแจกของฟรีแน่นอน...
คุณค่อยๆเลื่อนลงมา
.
.
.
และพบกับหัวข้อป๊อปปูลาร์ที่มีสัญลักษณ์ new แปะอยู่ข้างบน
‘นักเรียนแลกเปลี่ยน’
ทันทีที่เปิดลิงค์ คลิปวิดีโอความยาวสองนาทีเศษๆก็ปรากฏขึ้น หน้าวิดีโอเป็นจังหวะที่คุณกำลังโดนตบเลือดกบปากอยู่นั่นเอง
นี่มันบ้า--
พวกนั้นคิดว่ากำลังเล่นอะไรอยู่งั้นหรอ รายการเกมโชว์หรือไง แล้วจะบอกให้ว่ามันไม่ตลกเลยนะ ไม่ตลกสักนิด คุณจ้องมองหน้าจอด้วยความงงปนโกรธ สาปแช่งสามสาวซาตานในใจขณะนั่งดูตัวเองในวิดีโอ...เยี่ยม ดูไม่จืดเลยแฮะ...พวกนั้นตัดตอนที่คุณลงมือไป (แหงล่ะ ใครจะโพสต์ประจานตัวเอง) ซึ่งคุณก็ได้แต่นึกเสียดายแต่ในใจก็ยิ้มเยาะ บอกตามตรงว่าไม่เคยมีใครกล้าจิกหัวแอชลีย์หรอก คุณเป็นคนแรก และเหมือนจะเป็นคนสุดท้าย ภูมิใจซะไม่แต่...แล้วไงล่ะผลที่ออกมา
วิดีโอเพิ่งจะถูกโพสต์ไม่กี่นาทีมานี้ แต่กลับมีคนดูเป็นร้อย คุณนั่งอ่านคอมเมนต์ในขณะที่ตัวเองลีบลงทุกที ไม่มีใครโพสต์ข้อความเห็นใจอย่าง ‘โอ้ แต่ดูเลือดที่ปากเธอสิ พวกหล่อนมันปิศาจ’ หรือข้อความที่แสดงให้เห็นว่าอยู่ข้างคุณแบบ ‘ฉันรู้ว่าพวกเธอขาดความอบอุ่นแต่ ทำแบบนี้ไม่มีใครชื่นชมหรอกนะ’ เปล่าเลย ส่วนนึงชื่นชมยัยสามซาตาน อีกส่วนขอฝากตบคุณคราวหน้าถ้าต้องเปิดฉากกันอีก
แหม ซึ้งใจหรอก...
แต่ที่ทำให้เป็นประเด็นมากทึ่สุด คงจะไม่พ้นเรื่องรักๆใคร่ๆ คุณรู้สึกว่าชีวิตคุณจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีไอ้หน้าโง่ผู้ซึ่งจุดชนวนคอมเมนต์ว่า
‘พูดก็พูดเถอะ เซล เธอยอมได้จริงๆหรือกับเรื่องนี้ ฉันจะไม่ก้าวก่ายเรื่องของพวกเธอหรอกนะแต่...ฉันคิดว่าฉันเห็นยายนี่กับจัสตินที่ร้านอาหารเมื่อคืนก่อน โรแมนติกกันสุดๆ แบบว่า ยายเอเชียนี่ให้ท่าเขาน่าดูล่ะ ยังไงก็เถอะ ฉันอยู่ข้างเธอนะ - เอ็น’
เอ็น...เอ็นไหนฟะ คุณใช้เวลาราวสองนาทีนึกถึงชื่อเพื่อนนักเรียนทุกคนที่คุณรู้จัก นาตาลี นีน่า...น่าเศร้าแต่ว่าใช่แล้วล่ะ คุณไม่รู้จักใครนอกเหนือจากสองคนนี้อีกแล้ว นาตาลีเป็นบรรณารักษ์ของห้องสมุด ไม่เคยมีคนได้ยินเธอพูดเกินห้าพยางค์ งั้นก็ตัดไป นีน่า...คุณไม่เห็นว่าเธอจะทำอะไรกับชีวิตนอกจากจมอยู่กับกองบทกวี นี่ก็ตัดอีก
คุณสะบัดความคิดบ้าๆออกจากหัว แล้วอ่านคอมเมนต์ที่เรียงต่อเป็นขบวนรถ
เยี่ยมเลยยัยเอ็น
‘ฉันรู้ เธอต้องไม่ชอบใจแน่เซเลน่า แต่ฉันต้องบอก ฉันต้องบอกความจริงกับทุกคน เริ่มจากไหนดี คืองี้นะ วันก่อนคาบพละหลังจากฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ทายซิ ว่าฉันเห็นอะไร...โอ้ พระเจ้า เธอคงจะรู้นะ คือฉันหมายถึง จัสตินดูร้อนแรงมากในสภาพไร้เสื้อน่ะ...กับหล่อน ยายเอเชียนั่น เธอจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้จริงๆหรือ ? - ผู้หวังดี’
‘ฉันได้ยินมาว่าคนไทยชอบ...อืม ชอบขายนี่ บางทีจัสตินอาจจะซื้อเธอ (ในราคาถูก) ก็ได้นะ เขาแค่เหงาล่ะมั้ง - คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
‘ไม่ใช่แค่จัสตินหรอกนะ ฉันแอบเห็นยายนี่ชอบไปกลั้วกับแฮร์รี่ด้วย - เอ’
เอาล่ะ นี่มันจะมากไปแล้วนะ คนพวกนี้สมองทึบกันไปหมด ให้ตายสิ หนึ่งเลยก็คือใช่ มันจริงที่คุณไปกินข้าวกับจัสตินครั้งนั้น แต่สาบานเลยว่าคุณไม่ได้อยากซักนิด และคุณก็ไม่ให้ท่า และเขาก็ไม่ได้โรแมนติก สองคือ...จัสตินในสภาพไร้เสื้อ? กับคุณ? ในห้องแต่งตัว? โคตรเพ้อเจ้อเลย คุณสบถในใจตัวเองหลายรอบ แต่สายตาก็ไม่วายเลื่อนอ่านจนกระทั่งถึงขีดสุด คุณกดออกหน้าต่างนั้น และเลื่อนไปดูส่วนอื่นๆของเว็บ...ทำอย่างกับว่ามันจะทำให้คุณสงบลงได้งั้นแหละ
เหมือนอย่างที่เคยบอก มีคลิปแกล้ง ไม่สิ...ประจานคนในโรงเรียนเป็นร้อยๆคลิปโดยมีเทย์เลอร์และเซเลน่าเป็นมือสังหารณ์ และแอชลีย์บันทึกภาพ ทุกคนเรียกพวกหล่อนว่า แอบบริดจ์ ไม่ว่ามันจะมีความหมายยังไง แต่ที่แน่ๆ ที่ไหนมีแอบบริดจ์ ที่นั่นมีความหายนะ
สมาชิกราวสามหมื่นคน บ้างก็อยู่ในโรงเรียน บ้างก็อยู่นอกโรงเรียน บอกเลยว่าสมาชิกเว็บนี้จะต้องเป็นพวกไร้แก่นสารหรือไม่ก็ปัญญาทึบ ใช่แน่ หนึ่งในพวกนี้
คุณกดปิดหน้าจอเซ็งๆ นึกในใจว่าโอเค คุณคิดไว้อยู่แล้วว่ามันต้องเลวร้าย แต่ว่านี่มันยิ่งกว่าเลวร้ายเสียอีก ทำไมคนอื่นที่แลกเปลี่ยนไม่เห็นจะมีปัญหาแบบคุณกันนะ รู้แบบนี้คุณอยากนึกย้อนเวลากลับไปแล้วร้องขอกับโครงการให้ย้ายคุณไปรัฐเท็กซัสทีเถอะ แต่นั่นคงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเท่าไหร่ นี่มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น
คุณสาปแช่งพวกแอบบริดจ์ในใจ พลางสงสัยว่าอาจารย์อย่างน้อยซักคน ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยหรือไงนะ แต่แล้วความคิดบ้าบิ่นก็แล่นเข้ามาในหัวคุณ...
แต่ก่อนที่คุณจะรู้ว่ามันคืออะไร เปลือกตาก็ค่อยๆปิดลง
คุณตื่นเช้าในวันถัดมา และจบลงด้วยการไปโรงเรียนคนเดียว
ออสตินไข้ขึ้นสูงแบบไม่น่าเชื่อ น่าแปลกที่ทั้งๆที่เมื่อคืนเขายังมีแรงต่อปากต่อคำกับคุณ แต่วันนี้กลับไม่มีแรงแม้แต่จะพูดด้วยซ้ำ ริซ่าคอยดูแลไม่ห่าง ก็นับว่าเป็นภาพที่น่ารักล่ะนะสำหรับผู้ชายอายุแบบเขา--
เดินไปโรงเรียนไม่ใช่เรื่องที่นักเรียนโรงเรียนนี้ส่วนใหญ่ทำกันนัก เพราะทุกทีมีออสตินมาด้วยคุณเลยไม่กังวลใจ และก็ไม่มีสายตาแปลกๆมองมาอย่างคราวนี้ด้วย แต่อาจไม่เกี่ยวกับออสตินหรอก คุณนึกย้อนไปยังเหตุการณ์เมื่อคืน-- คุณว่าที่มาของสายตาโลมเลียจากผู้ชายคงมาจากข้อความของคนที่รู้ว่าใครก็ได้ ส่วนสายตาชิงชังของนักเรียนหญิงไม่ใช่เรื่องแปลก มันเกิดขึ้นเป็นปกติแล้วหลังจากที่คุณได้นั่งกินมื้อกลางวันกับจัสติน
“หวัดดี” คุณสะดุ้งเบาๆ เสียงแหบพร่าของใครบางคนดึงคุณให้หันไปเผชิญหน้ากับเขา เขาตัวสูง ใบหน้าดูไม่เป็นมิตรมีแววประกายแปลกๆในตา ขอบตาดำคล้ำ เหมือนพวกติดยา
“คะ?”
คุณแทบไม่ได้เปล่งเสียงอะไรออกไปดังมากมายนัก ชายปริศนาตรงหน้ายิ้มน้อยๆ หากแตไม่ยื้อบทสนทนา เขาโน้มตัวลงมาใกล้จนได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ เสียงแหบไร้เสน่ห์กระซิบข้างๆหูของคุณเบาๆ “เท่าไหร่”
ต้องใช้เวลาห้าวินาทีกว่าคุณจะเข้าใจ
คุณผลักชายตรงหน้าเต็มแรง “ไอ้อุบาทว์!” คุณตะโกนลั่นแล้วเดินหนีออกมา แต่ก็ได้ยินเสียงสบถเบาๆของเขา ในใจเอาแต่คิดว่าถ้าย้อนกลับไปตบหน้าเขาซักฉาดจะโดนรุมไหมนะ ไม่ล่ะ...ไม่ดีกว่า คุณไม่อยากทำชีวิตให้วุ่นวายมากไปกว่านี้ แล้วตอนนี้เองที่คุณเหมือนเพิ่งจะตระหนักถึงอะไรบางอย่าง คุณต้องการเพื่อน ต้องการคนที่จะระบายอะไรต่างๆนาๆให้ฟัง โง่มาก ทำไมคุณไม่ตีซี้นาตาลีไปนะ อย่างน้อยคุยกันห้าประโยคก็ยังดีกว่าไม่มีให้คุยเลยไม่ใช่หรือ ระหว่างที่มองหานาตาลี สายตากับคุณป๊ะกับเรียวตาคมสวยสีเขียว เขายืนพิงล็อกเกอร์ และเหมือนจะมองมาทางคุณนานแล้ว คุณไม่ได้เดินหนีเหมือนเคย แต่กลับเป็นฝ่ายเดินเข้าไปทัก
“ไฮ”
“ไง” เขาตอบ “กาแฟซักแก้วไหม”
......................................................
แฮร์รี่วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะเนิบๆ
เขายังมีสายตาและคำพูดที่เจ้าเล่ห์เหมือนเดิม แต่เหมือนจะกวนประสาทน้อยลงหน่อย
ตอนนี้ทั้งคุณและเขาตัดสินใจปักหลักที่โรงอาหาร มันไม่ใช่วิธีที่ดีนักหรอกเพราะจะมีแต่คนมอง เอามือป้องปาก และกระซิบนินทา แต่คุณไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ บอกตามตรงว่าเหตุการณ์เมื่อเช้าทำเอาคุณจุก มันเหมือนกับโดนผู้ชายบ้าดีเดือดตบหน้านั่นล่ะ คุณรู้สึกแย่ และคุณอยากกาแฟ
“เมื่อเช้า” คุณเปิดประเด็น “ไม่สิ...ถามอะไรหน่อยได้ไหม” เมื่อแฮร์รี่พยักหน้านิ่งๆ คุณก็เริ่มถาม “นายเคยโดนคนอื่นใส่ร้าย บอกว่าเราทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำหรือเปล่า”
“ไม่นะ ไม่มีใครกล้าใส่ร้ายฉันหรอก”
“เอาเถอะ” คุณตัดบท “เอาเป็นว่าครั้งนึงตอนฉันอยู่เมืองไทย ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้ คนที่นี้ จิตบกพร่องกันหมดหรือไงนะ” แฮร์รี่เลิกคิ้ว “บอกตามตรงนะ ฉันไม่เคยตะโกนด่าคนแปลกหน้ามาก่อน ไม่เคยตบใครด้วยซ้ำ ไม่แม้แต่จะนอนกับคนอื่น...ยังไงดีล่ะ ที่ประเทศฉันถือเรื่องแบบนี้น่ะ แต่พอมาอยู่ที่นี่ นรกชัดๆ ....เฮ้ นี่เรื่องใหญ่นะ!” คุณตะโกนเมื่อเห็นแฮร์รี่นั่งดื่มกาแฟพลางเล่นมือถือราวกับไม่ได้สนใจที่คุณพูดเท่าไหร่
“แล้ว เธออยากให้ฉันทำอะไร” เขาถามทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอ
“เปล่า” คุณตอบกลับเสียงค่อย “ฉันแค่อยากหาคนมาระบายเฉยๆ ถึงจะเป็นนายก็เถอะ”
แฮร์รี่ยิ้ม “ก็ว่ามาสิ บอกตามตรง ตอนนี้เธอทำฉันอยากจะซัดหน้าไอ้คนเมื่อเช้าแล้วล่ะ”
“ขอบใจนะ แต่นายนี่มันด้อยด้านสติจริงๆ”
“เธอเจริญทางปัญญามากสินะ” ตอนนี้เขาเงยหน้าจากจอโทรศัพท์แล้ว “คิดยังไงถึงไปมีเรื่องกับพวกนั้น” พวกนั้นคงไม่ได้หมายความเป็นอื่นใดนอกจากพวกแอบบริดจ์ เพราะนอกจากยายพวกนี้แล้วคุณก็ไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร (อาจจะเว้นแฮร์รี่ไว้คนนึง) และจากสถานการณ์ตอนนี้เหมือนว่าแฮร์รี่คงเพิ่งจะดูคลิปบรรลัยโลกาที่คุณโดนรุมจบไปกี่นาทีมานี้เอง อะไรกัน นั่นมันผ่านมาเป็นชาติแล้วนะเหตุการณ์ในคลิปนั้น แล้วเมื่อลองนึกย้อนไปดีๆ คนที่มาช่วยชีวิตคุณไว้ก็เป็นตานี่ไม่ใช่หรือ
คุณคิดได้ในใจ-- และตอบแฮร์รี่ไปอย่างชาญฉลาดทำนองว่า “อะไรนะ”
“แอบบริดจ์ไม่ใช่คนที่เธอจะเล่นด้วยได้นะ” อ้อหรอ อย่างกับว่าคุณอยากจะไปเล่นตบแปะกับยายพวกนั้นงั้นแหละ “ถ้าฉลาดพอ เธอควรเลิกยุ่งกับจัสติน”
คุณเลิกคิ้ว “พูดอะไรของนาย”
“เอาเป็นว่านี่เป็นคำเตือนแล้วกัน”
ฉันไม่ได้ยุ่งกับเขาเลยนะ เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายเข้าหาฉัน แน่นอนว่าคุณจะไม่พูดแบบนั้นหรอก แล้วทำไมแฮร์รี่ต้องเตือนคุณเรื่องจัสตินด้วย เพราะหลังจากได้คุยกับเขาแล้ว ถึงจะเป็นบทสนทนาสั้นๆเพียงไม่กี่ประโยค แต่คุณก็รู้สึกได้ว่าจัสตินไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่หรอก (งั้นหรอ) เขาแค่ต้องการครอสฝึกพูดหน้ากระจกดีๆแค่นั้นเอง
และเมื่อเห็นคุณเงียบไป แฮร์รี่ก็กระแอมเบาๆ “ก็แค่หวังดีน่ะ เธอมาแลกเปลี่ยนนี่ใช่ไหม ฉันเลยคิดว่าเลี่ยงการมีเรื่องเป็นเรื่องดีที่สุด”
“รู้อะไรไหม ฉันว่านายควรไปบอกกับพวกแอบบริดจ์แทนที่จะเป็นฉันดีกว่านะ” คุณจิบกาแฟก่อนจะพูดต่อ “แบบว่ายังไงล่ะ นายคิดว่าฉันอยากหาเรื่องใส่ตัวนักหรือไง”
“สำหรับผู้หญิงที่ตบปากผู้ชายแปลกหน้าตั้งแต่มาเรียนวันแรกน่ะหรอ…อืม ไม่ล่ะ”
“อ๋อหรอ งั้นมันเป็นความผิดของฉันสินะ”
แฮร์รี่ยักไหล่น้อยๆ เขาดูดีในกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม คุณสามารถบอกได้เลยว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนเดินผ่านโดยไม่เหลือบมองเขา ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนมักจะทำและแฮร์รี่ก็ชินกับมันไปเสียแล้ว คุณไม่ปฏิเสธเรื่องนั้นหรอก และไม่สงสัยด้วยว่าทำไมเขาถึงควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันซักวัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่คุณสำรวจจ้องมองใบหน้าของแฮร์รี่ชัดๆ ผิวของเขาขาวเนียนละเอียด แทบจะไม่มีริ้วรอยตำหนิบนใบหน้า เว้นแต่รอยย่นบนหน้าผาก บางทีถ้าคุณหัดทำตัวดีกับเขาเข้าไว้ ถึงเวลานั้นจริงๆอาจจะหลอกถามยี่ห้อครีมที่เขาใช้มาก็ได้
เรียวตาคมกริบของเขาเลื่อนมองไปยังข้างหลังคุณ ดูจากสายตาของแฮร์รี่แล้วเหมือนจะมีแขกไม่ได้รับเชิญอยากเข้ามาร่วมวงสนทนาแฮะ
“ไฮ” คุณรู้สึกได้ว่ามีมือของใครบางคนแตะไหล่คุณเบาๆ “ทำอะไรกันอยู่”
“สภาพเธอไม่ได้ดูดีต่างไปจากวันแรกที่เราเจอกันเลยนี่” ผู้หญิงร่างสูงเอ่ยขึ้นเสียงสดใส
“อย่าคิดมากเลย เราแค่แวะมาทักทาย” สาวผมบลอนด์บีบไหล่ราวให้กำลังใจคุณเบาๆ
โอ้ ไฮ…แอบบริดจ์
“ว่าไงสาวๆ” แฮร์รี่เปิดคนเปิดฉากบทสนทนาหลังจากที่เงียบกันไปสามวินาที เขากลับมาใช้สายตาเจ้าเล่ห์แบบที่ชอบทำประจำอีกครั้ง เออนะ เอาเถอะคุณสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ปริปากพูดถ้าไม่จำเป็น คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแฮร์รี่ไป เขาพูดหว่านล้อมเก่ง บางทีแอบบริดจ์อาจจะลืมว่าคุณเคยนั่งอยู่ตรงนี้ แล้วบางที…คุณอาจจะแอบชิ่งออกไปก่อนจะมีใครรู้ก็ได้
“หวัดดีแฮซ” เทย์เลอร์ทำเสียงราวกับตกใจเสียจนเต็มประดา เธอดูเสแสร้งสุดๆไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูด เธอเดินเข้าไปกอดแฮร์รี่ด้วยความ (เคย) สนิทสนม “โทษทีที่ไม่เห็นหัวเธอนะ” หล่อนพูดกึ่งตลก “แล้วนี่ แฟนใหม่เธอหรอ”
“ว้าว มุขตลก” คุณแทรกขึ้นก่อนที่จะห้ามตัวเองได้เสียอีก “แต่ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่แฟนเขาหรอก”
“ตอนนี้น่ะยัง แต่ใครจะรู้ล่ะจริงไหม”
โอย— แฮร์รี่ คุณอยากจะฆ่าเขา
เทย์เลอร์เหยียดยิ้ม “ถึงนายมันจะพวกมั่ว แต่ฉันก็คิดมาตลอดว่ารสนิยมนายดีน่ะนะ”
“ไม่เอาน่าที่รัก พูดจาแบบนั้นมันไม่น่ารักเอาเสียเลยนะ”
“ฉันไม่ที่รักนายอีกต่อไปแล้วล่ะ ขอโทษนะ แต่ถ้าจะหาใหม่ คราวหลังช่วยหาให้ดีกว่านี้แล้วกัน มันจะถือว่าเป็นการดูถูกฉันน่ะ” เทย์เลอร์บอกนิ่งๆ เหลือบมองมาทางคุณด้วยสายตาดูถูก
คุณหน้าเจื่อนลงทันที เทย์เลอร์มีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งก็คือการพูดให้คนอื่นรู้สึกด้อยกว่าเธอ ความถนัดหล่อนเชียวล่ะ แล้วดูเหมือนทุกคนก็รู้ดี…ยกเว้นคุณ ก่อนจะห้ามตัวเองได้ทัน แก้วกาแฟในมือคุณก็กระเด็นไปเลอะชุดของเทย์เลอร์เสียแล้ว
“กาแฟอร่อยไหม” คุณขำ
ช่างเป็นวินาทีที่ยาวนานเหลือเกินเพราะทุกสายตาจ้องมองมาทางคุณแบบไม่นึกเชื่อ เซเลน่าหรี่ตามองคุณในขณะที่แอชลีย์กำลังประเมินสถานการณ์ คุณแอบเห็นแฮร์รี่กระตุกยิ้ม และเทย์เลอร์มองคุณที่ถ้าแปลจากสายตาได้ว่า ฉันจะฆ่าเธอ เอาล่ะ ถ้าคุณไม่ถูกเซเลน่ากับแอชลีย์ล้อมหน้าล้อมหลังแบบนี้ บางทีคุณอาจค่อยๆลุกขึ้น ส่งยิ้มนิดหน่อยแล้วเผ่นหนีก็อาจมีโอกาสรอด แต่นี่หมดทางไปแล้วนอกจากมุดโต๊ะ— นั่นเป็นวิธีที่ดีนะแต่ ไม่ล่ะ คุณไม่อยากเสี่ยง ไม่ทันให้คิดวิธีหลบหนีแบบชาญฉลาด ในจังหวะที่ไม่มีใครคาดถึง เทย์เลอร์ก็เข้ามาจิกหัวคุณอย่างรวดเร็วก่อนจะฟาดฝ่ามือลงบนแก้มของคุณทันที
เพียะ!
เพียะ!
คุณคิดว่าแอบบริดจ์น่าชื่นชมนะในเรื่องของทีมเวิร์ก เพราะทันทีที่เทย์เลอร์ลงมือ แอชลีย์ก็เข้ามาลงมือ เซเลน่าคว้าแก้วกาแฟของแฮร์รี่ในขณะที่เจ้าตัวกำลังพยายามจับภาพเหตุการณ์ณ์ตรงหน้า เขาเหมือนกับคนอื่นๆในโรงอาหาร คือมึนงงและยังไม่ทันตั้งตัว ขนาดคุณเองที่ถูกลงมือยังตามไม่ทันเลย คุณรู้สึกเสียการควบคุมตัวเองไปหมดเพราะยังไม่ทันตั้งสติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงของคนลุกจากเก้าอี้ที่กำลังมาเดินมาถึงตัวคุณ เซเลน่าส่งยิ้มมาให้คุณเล็กน้อย ก่อนจะสาดกาแฟใส่เต็มหน้า
“หยุดนะ!” แฮร์รี่วิ่งเข้ามาดึงตัวคุณไปอยู่ข้างตัว “อย่ายุ่งกับเธอ!”
“อะไรกันแฮซ นายคงไม่เอาจริงหรอกใช่ไหม” เซเลน่าพูดกับแฮร์รี่ แต่เธอกลับส่งยิ้มอาบยาพิษมาให้คุณ
“อย่า ยุ่ง กับ เธอ” แฮร์รี่เน้นย้ำทีละคำชัดเจน “และฉันจะไม่พูดซ้ำ” เขาทำสิ่งที่สร้างความสับสนให้คนรอบข้างเพิ่มเข้าไปอีกโดยการโอบไหล่คุณอย่างเบามือ แก้มของคุณหายชาแล้ว ความแสบเริ่มกระจายแผ่ทั่วแก้ม กาแฟอุ่นๆยังคงเปรอะใบหน้า แฮร์รี่พาคุณเดินออกจากที่เกิดเหตุช้าๆ มีเสียงซุบซิบดังหึ่งเหมือนแมลง ทุกคนมองตามคุณและเขาโดยไม่ละสายตา คุณรู้ดีว่ายิ่งทำแบบนี้ดันแต่จะทำให้เรื่องยุ่งเข้าไปอีก เทย์เลอร์ไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ซึ้งใจกับน้ำใจของเขา คุณทั้งคู่ไม่มีใครพูดอะไรกัน แฮร์รี่พาคุณมานั่งลงตรงม้านั่งข้างๆบ่อน้ำพุขนาดใหญ่กลางสวน
“กาแฟอร่อยไหม” เขาถาม
และเป็นครั้งแรกที่คุณหัวเราะขึ้นพร้อมกัน แฮร์รี่ลุกขึ้นยืน เขาล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืสีน้ำเงินเข้มค่อยๆเช็ดหน้าคุณ ลูบแก้มที่บวมเป่งอย่างเบามือ “เจ็บมากหรือเปล่า”
คุณหน้าแดง พยายามก้มหน้า “เจ็บ ขอบใจ”
“จากตอนแรกดูไม่ได้แล้ว ตอนนี้เธอเหมือนลูกอ๊อดแก้มป่องเลย”
“ดีนะ รู้สึกดีขึ้นเยอะ” คุณประชด คว้าผ้าเช็ดหน้าจากมือของอีกคน “ฉันเช็ดเองได้ แล้วก็สำหรับเมื่อกี้…ขอบใจมากนะ”
“ยินดีครับ”
ครั้งแรกอีกครั้งที่คุณส่งยิ้มให้เขา ไม่ใช่รอยยิ้มจากความเสแสร้ง แต่เป็นความจริงใจ แฮร์รี่นั่งลงข้างๆคุณ ชวนคุยบทสนทนาที่เหมือนจะไม่มีวันจบ ในช่วงเวลาสั้นๆ คุณลืมความเจ็บปวดไปหมด เป็นสัญญาณที่ดีว่า…แฮร์รี่ทำลายกำแพงที่คุณตั้งกั้นเขาไว้ได้แล้ว
ในอีกมุมหนึ่ง จัสตินกำลังยืนพิงกำแพง เฝ้ามองดูคุณโดยไม่ละสายตา
talk: กลับมาแล้วค่า ขอโทษทุกคนจริงๆนะคะที่ค้างไว้นานพอดีไรท์เตอร์มีปัญหากับโน้ตบุ๊คเลยต้องแต่งใหม่หมดเลย กินเวลามา...ข้ามปี55555555ยังไงก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์นะคะทำให้มีกำลังใจมาอัพจริงๆ ขอบคุณมากๆค่ะ
ความคิดเห็น