ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีวิตร้ายๆของยัยเด็กNurse

    ลำดับตอนที่ #2 : แหกกฏห้ามทัก ห้ามถาม ห้ามสบตา

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 66


         https://image.dek-d.com/27/0929/2132/133129953

    ชีวิตนักศึกษาพยาบาลของเด็กบ้านนอกคนนึงที่จากบ้านมาไกลไม่มีอะไรตื่นเต้นเท่าเย็นวันศุกร์อีกแล้ว เพราะมันคือวันที่ได้กลับไปมีอิสระภาพในโลกกว้างภายนอกวิทยาลัย นางจ่อยหรือปูเป้ของเพื่อนๆ หรือลูลู่ของเพื่อนสนิท ( ลูลู่=ตอนนั้นยังไม่มีโปงลางสะออน ฉายานี้มาจากชื่อลูกหมาน้อยของอาจารย์ ที่น่ารักแต่กัดโคตรเจ็บ เห่าโคตรดัง ) ได้แต่มองเพื่อนๆเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน เพราะบ้านเพื่อนๆรูมเมทอยู่ในจังหวัดนั้นถึงจะต่างอำเภอแต่พ่อแม่ก็มารับกลับบ้านได้ มีเพียงนางจ่อยที่อยู่ต่างจังหวัด การเดินทางมารับของพ่อแม่ก็ยากลำบากเพราะทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายและค่อนข้างเดินทางไกล

    “แกอยู่คนเดียวล็อคประตูดีๆล่ะ วันอาทิตย์จะซื้อหนมมาฝากนะ แล้วอย่าแอบดูรถเข็นศพล่ะเดี๋ยวมีสิ่งแปลกปลอมตามมาห้องอีก” ยุ้ยสั่งไว้ด้วยความห่วงเพื่อน  การเข้ามาเรียนปี 1 ของพวกเราแม้จะเป็นคุณป้า gen x ของเด็กๆยุคนี้ แต่ในยุคเรา เราคือพวกปฏิวัติที่ไม่ยอมก้มหัวให้กฏไม่เป็นธรรม ห้ามกินขนมก็แอบกิน เพราะขอแล้วนี่ไม่อนุญาตเอง ฉะนั้นอย่าได้ย้อยแย้งว่าเอ้า อ่านตอนที่ 1 กฏก็ห้ามนี่ แล้วซื้อหนมฝากกันได้ไง แอบเอาเข้ามาค่าาา ซ่อนอย่างดีด้วนเวลาอาจารย์มาตรวจหอพัก

    “ถ้าเหงาแกหยอดเหรียญโทรหาชั้นได้นะ” ถุงแป้งพูดพรางโบกมือลา 

     ขอเท้าความชีวิตวัยรุ่นยุค 90 ยุคที่ใยแก้วนำแสงเพิ่งพัฒนา ยุคที่Internet Exporler 2G แบบหมุนติ้วๆจนโลกลืม โทรศัพท์เป็นรุ่นที่เราเรียกว่ากระติกน้ำ อุปกรณ์สื่อสารที่สะดวกสุดสำหรับวัยรุ่นยุคเราคือเพจเจอร์….ฮั่นแน่ เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักล่ะสิ ก็จะอารมณ์ประมาณหยอดเหรียญแล้วฝากข้อความสั้นๆได้ เช่น รักนะ คิดถึงนะ ข้อความยาวไปก็จะถูกโอเปอเรเตอร์ตัดสาย ราคาเพจเจอร์แพงหรือไม่ สำหรับเด็กบ้านนอกอย่างเรา ราคา900-1,000ก็แพงนะ ถามต่ออีกทำไมมีใช้ล่ะ จูนสิคะ ก็คือบับบว่าซื้อเครื่องเปล่าอันนี้ไม่แพง100-150ไม่เกินนี้ จะแพงตรงที่เปิดสัญญาน เราก็มีเพื่อนรวย 1คนเนาะ จากนั้นเพื่อนก็ปล่อยสัญญานให้เราจูน 5 คน ไปเลยสิคะ ข้อเสียมีเพียง ถ้าหนุ่มๆขอเบอร์เพจ ข้อความที่ส่งมานั้นมันจะเข้าทั้ง 5เครื่อง อย่าได้ริอาจมีความลับกับเพื่อนๆเชียว 

    เพจเจอร์เครื่องมือสื่อสารยุค 90

        กลับมาที่กฏของการอยู่หอของเรา ห้ามทัก ห้ามถาม ห้ามสบตา ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ใช่กฎที่ทางวิทยาลัยตั้งมาหรอก แต่พี่ๆบอกมาเพื่อความสุขสงบในการเรียนที่นี่ ให้ผ่านไปด้วยดีทั้ง 4 ปี  หลังเพื่อนๆกลับบ้าน ความว่างและความเงียบมาพร้อมๆกัน ที่หอพักเรามีห้องดูทีวี มีทีวีแค่ 1 เครื่อง แต่….มันเป็นทีวีรุ่นพิเศษเปิดได้แต่ช่องที่รุ่นพี่อยากดูเท่านั้น ส่วนคอมพิวเตอร์เราเข้าใช้งานได้เฉพาะเวลาเรียน และอินเตอร์เนตยุคของเราก็เป็นรุ่นจูราสิค รุ่นบุกเบิก สมัยพระเจ้าเหา ที่ทำได้คืออ่านหนังสือบนห้อง ใครที่พอมีกำลังทรัพย์หน่อยก็จะมีซาวอะเบ้าท์ไว้ฟังเพลง 

    คอมพิวเตอร์อินเตอร์เนต 2G
    ซาวอะเบ้าท์+ม้วนเทป ยุค 90
    เทปคลาสสิค

    หลังจากกินๆนอนๆ อ่านหนังสือวนลูปจนเผลอหลับไป ปูเป้ต้องสะดุ้งตื่น เพราะเสียงนั้นอีกแล้ว

    “แกร็กๆๆๆๆๆๆ” 

    เอาวะวันนี้ขอส่องสักหน่อย หลังมองผ่านบานเกร็ดอยู่นานพอควรเจ้าของเสียงก็เริ่มมาใกล้ รถเข็นที่ล้อแทบไม่เหลือยางหุ้มมิน่าล่ะเสียงถึงดัง ผ้าขาวคลุมร่างนั้นซึ่งดูแล้วน่าจะผู้ชายเพราะดูยาวๆน่าจะชายร่างสูง เมื่อมาถึงหน้าห้องเราพอดี ขุ่นพระ!!!รถเข็นสะดุดก้อนหิน สะดุดได้ถูกที่จริงๆ คุณลุงเดินมาหยิบก้อนหินออก ทันใดนั้นลมเจ้ากรรมพัดผ้าขาวที่คลุมร่างให้เปิดขึ้นบริเวณเท้า มองเห็นป้ายเล็กๆข้อความบางอย่างมัดติดที่หัวแม่เท้า เราเหลือบไปดูนาฬิกา ตี 3 ในใจก็คิดใครกันนะมาตายตอนดึกๆญาติคงเสียใจน่าดู แค่คิดในใจแต่ดันมีเสียงตอบมาในสมอง

    https://image.dek-d.com/27/0929/2132/133132703

    “ญาติไม่มี เป็นญาติให้ที ทำบุญให้ด้วยนะ” 

    เสียงมันก้องในหัวเราจึงหันกลับไปมองลุงทันที ลุงไม่ได้พูดและเริ่มเข็นรถต่อไปแต่มีชายอีกคนเดินตามลุงมา ร่างสูงดูล่ำสันต์หน้าตาก็ดี คมเข้มแต่ซีดไปหน่อย อายุน่าจะราวๆ 30 - 40 ปี รองเท้าไม่ใส่ ที่สำคัญ เท้าเปล่าเปลือยนั้นตรงหัวแม่เท้าขวามีป้ายข้อความ ตรงข้อมือซ้ายมีด้ายสีแดงผูกข้อมือ แม่เจ้า !!!! นั่นมันเท้าที่เราเห็นบนรถเข็นนี่นา ไม่ทันจะหลบก้มตัวหลังบานเกร็ดที่แอบส่อง ร่างนั้นหยุดพร้อมเงยหน้าขึ้นมายิ้ม แล้วเดินตามลุงต่อไป

           ชีวิตนักศึกษาพยาบาลคงได้เริ่มต้นขึ้นจริงๆแล้วนับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป แล้วจะอธิบายกะรูมเมทยังไง หากวันดีคืนดีมีคนอยู่ในห้องเกิน 5 คนเพราะเราดันแหกกฏแอบมอง แอบส่อง แอบสบตา ชีวิตอีกตั้ง4ปี ที่ต้องทนอยู่ที่นี่จะเป็นไงต่อไป งื้อๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เครดิตภาพ วพบ นคราชสีมาถ่ายประมาณปี 2539

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×