คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [OS / HopeGa] Limited Period (Hoseok's birthday)
Limited Period
ทั้ง ๆ ที่มีงานล้นมือทำไมเขาจะถึงได้เมาครียดกับเรื่องนี้แค่เรื่องเดียวด้วยนะ แต่เมื่อวานมันไม่มีเวลานี่นา เขาเข้าทำงานคณะตั้งแต่ก่อนห้างเปิด พอทำงานเสร็จ ก็ดันเกินเวลาที่คาดไว้ ห้างก็ปิดไปแล้ว จะเอาเวลาไหนไปซื้อของให้ล่ะ แล้วอีกไม่กี่นาทีโฮซอกกำลังจะเลิกซ้อมอยู่แล้ว
จริง ๆ ถ้าเขาจะหนีมันก็ทำได้อ่ะนะ แต่โฮซอกดันบอกว่า ‘ถ้าฉันเปิดห้องซ้อมออกมาแล้วไม่เจอหน้ายุนกิฉันโกรธจริง ๆ นะ’ แล้วตั้งแต่คบกันโฮซอกเคยโกรธเขาจริงจังที่ไหนล่ะ เขาจินตนาการภาพไม่ออกหรอก แล้วก็ไม่อยากจะเจอด้วย แต่มันต้องน่ากลัวอยู่แล้วเวลาคนที่ปกติใจดีมาก ๆ จะโกรธขึ้นมา
หัวใจของยุนกิกำลังเต้น และยิ่งเต้นหนักมากขึ้นสวนทางกับบีทของเพลงที่ค่อย ๆ ช้าลงจนดับไป เหลือแต่เสียงปรบมือในห้องซ้อม ชิบหายละ...
ประตูห้องซ้อมถูกผลักออกมาพร้อมด้วยเสียงเพลงวันเกิดจากเพื่อนในห้อง ยุนกิชะโงกหน้าเข้าไปดูแล้วก็ได้เห็นโฮซอกอยู่ตรงกลางเพื่อนร่วมคลาสที่กำลังยืนล้อมวง พร้อมกับเค้กก้อนโตที่อยู่ในมืออาจารย์ซน
ชิบหายละ... กูลืมแม้กระทั่งเค้กเลย
โฮซอกใช้เวลาอยู่ท่ามกลางความรักล้นหลามในห้องนั้นอยู่สักพักก่อนที่ทุกคนจะเริ่มแยกย้ายเหลือเพียงโฮซอกและเค้กก้อนโตในมือมุ่งหน้ามาทางยุนกิที่แกล้งทำท่าใส่หูฟังแล้วนั่งเล่นมือถือจนไม่ได้สังเกต
“อ้าว เลิกแล้วหรอ”
ยุนกิเอ่ยทักเมื่อเห็นรองเท้าคู่ที่คุ้นเคยมาหยุดอยู่ตรงหน้า แต่มองจากญี่ปุ่นก็รู้ว่าตอแหล... ควรลงเรียนแอคติ้งสักตัวไหมนะมินยุนกิ
“อื้อ กลับบ้านกัน วันนี้เลิกดึกเลยยังไม่ได้แบ่งเค้กเลยอ่ะ เราเอาไปกินที่บ้านดีกว่าเนอะ”
...
บรรยากาศวันเกิดของโฮซฮกผ่านไปอย่างเรียบง่าย เรียกได้ว่าแทบไม่ต่างไปจากทุก ๆ วัน ทั้งคู่แวะร้านอาหารร้านประจำที่กินด้วยกัน เจ้าของร้านแถมของทานเล่นให้เขาทั้ง 2 คนก่อนจะกลับ โฮซอกจึงตัดสินใจไปค้างที่ห้องยุนกิเพื่อเปิดเค้กก้อนใหญ่ ดูหนังเรื่องใหม่ที่เขาทั้งสองคนเคยซื้อด้วยกันแต่ไม่มีเวลาน่ังดูมันด้วยกัน
ห้องของยุนกิได้กลายเป็นโลกของพวกเขาทั้ง 2 คน ช่วงที่เลิกงานหรือเลิกเรียนดึกโฮซอกก็มักจะมานอนค้างที่นี่เพราะไม่อยากให้พี่จีอูตื่นตอนย่องเข้าบ้าน ข้าวของเครื่องใช้บางอย่างของเจ้าตัวก็อยู่ที่นี่จนโฮซอกสามารถหิ้วตัวเปล่า ๆ มานอนค้างได้แล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวที่ยังไม่ได้ทำก็คือหารค่าเช่านี่แหละ
บรรยากาศไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากเดิม ทั้งสองคนนั่งแนบชิดกันอยู่บนโซฟาตัวเดิม ผ้าห่มผืนเดิม โฮซอกก็ทำตัวปกติมากจนคนตัวเล็กเริ่มกังวลแล้วเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามก่อนในระหว่างที่หนังกำลังอยู่ในจุดที่ดำเนินไปเรียบ ๆ เรื่อย ๆ
“โฮซอก”
“หืม”
โฮซอกติดการตอบรับแบบนี้ของยุนกิไปซะแล้ว มันไม่ดีเลยเพราะมันทำให้เราเดาอารมณ์ของคู่สนทนาไม่ออก ยุนกิกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอก่อนจะพูดต่อ
“จะไม่ทวงอะไรหน่อยหรอ”
“ของขวัญอ่ะหรอ”
“…”
“รู้แล้วล่ะ”
น้ำเสียงของโฮซอกเรียบเฉยจนน่าประหลาดใจ ทำให้ยุนกิไม่กล้าหันไปสบตาและดึงขาเข้ามาชิดลำตัว หดตัวให้มีขนาดเล็กที่สุดเหมือนกับจะแทรกลงไปในร่องโซฟาได้เดี๋ยวนั้น
“ไม่โกรธหรอ”
เขามองเห็นด้วยหางตาว่ามีรอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฎบนใบหน้าอีกฝ่าย ขัดกับปมบนคิ้วของยุนกิที่ยิ่งพันกันเป็นปมใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
“ฉันรู้จักนายดี ถ้านายมีของขวัญมาให้ฉันนายก็น่าจะให้กันตั้งแต่เจอหน้ากันแล้ว”
“…”
“อย่าเงียบสิ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตสักหน่อย ยุนกิไม่ว่างนี่นา”
ถึงจะมีเสียงหัวเราะหลุดออกมาจากคนข้างตัวแต่คนตัวเล็กยังคงทำหน้านิ่วคิ้วหมวดไม่ปล่อย
“โจทย์ยากเหมือนกันเนอะ ฉันไม่เคยพูดเลยนี่นาว่าตัวเองอยากได้อะไรยุนกิจะรู้ได้ยังไง”
“เป็นแฟนที่แย่เนอะ”
“ไม่หรอก แค่เป็นในแบบของยุนกิต่างหาก”
โฮซอกน่ะรู้เรื่องของเขาไปหมดเลย ในขณะที่ตัวเองไม่ค่อยร้องขออะไรและยุนกิก็มักจะใช้วิธีสังเกตมากกว่าเอ่ยปากถามแบบอีกฝ่าย
“ดาวอนเล่าให้ฉันฟังแล้วว่านายไปถามเขา พี่เขาตอบว่าเสื้อผ้าใช่ไหมล่ะ เพราะฉันเคยได้รับจากเขาแล้วชอบมันมากเลย
โฮซอกเหลือบตามามองคนตัวเล็กที่ยังคงก้มหน้างุดอยู่กับตัวเองแล้วใช้ฝ่ามือหนาลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบา ๆ
“แต่ยุนกิรู้ไหม มันไม่ใช่ตัวเสื้อผ้าหรอกที่ฉันชอบ แต่เป็นเพราะพี่เขาทำขึ้นมาเพื่อฉันโดยเฉพาะต่างหาก”
เมื่อหนังบนจอทีวีไม่ได้มีความสำคัญกับพวกเขาอีกต่อไปโฮซอกจึงเอื้อมมือไปกดรีโมทปิดมันลงให้เหลือแต่เพียงเสียงลมหายใจของเขาทั้งสองคน
“ฉันแค่ชอบของ Limited ชอบของที่มีเพียงไม่กี่ชิ้นบนโลก มันไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงก็ได้ ฉันแค่ชอบความรู้สึกที่ว่าอะไรบางอย่างถูกสร้างมาเพื่อเป็นของฉัน”
มือหนาเลื่อนไปกุมมือของคนตัวเล็กที่กำแน่นอยู่บนหน้าตัก
“ฉันจะโกรธนายทำไมในเมื่อนายให้มันมาแล้ว”
ความสงสัยบนใบหน้าของคนตัวเล็กยิ่งขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนโฮซอกอดไม่ได้ที่จะ
“มินยุนกิที่มีแค่คนเดียวบนโลก และถูกสร้างมาเพื่อฉันเท่านั้น”
ยุนกิหยุดนิ่งหันไปมองไปหน้าที่มักจะส่งยิ้มให้เขาเสมอ ความเงียบถูกทำลายลงไปด้วยเสียงหัวเราะของโฮซอก
“มีเค้กติดอยู่บนหน้าอ่ะ”
โฮซอกว่าแล้วก็ชี้นิ้วลงบนแก้มของตัวเองให้ยุนกิดูตำแหน่งเทียบกับใบหน้าเขา แต่ความเคยชินของเด็กละครขวากับซ้ายไม่เคยตรงกับชาวบ้านอยู่แล้ว ยุนกิเลยยกแขนเสื้อมาเช็ดในด้านที่ตรงข้ามกัน ใบหน้าน่ารักแสดงความสับสนนิดหน่อยที่ไม่มีอะไรติดมา แต่ก่อนที่เขาจะได้ยกแขนเสื้อไปเช็ดอีกด้านโฮซอกก็คว้าข้อมือเล็กของเขาไว้
“เดี๋ยวเช็ดให้”
โฮซอกยิ้มกว้างในขณะที่ยุนกิเอียงคอมองแล้วหรี่ตาอย่างรู้ทันและรีบคว้าข้อมือที่กำลังยื่นออกมาของอีกฝ่ายให้หยุดอยู่กับที่
“จะสร้างโรแมนติกซีนก็บอกมาเถอะ”
“เดาถูก แต่ตามใจฉันหน่อยสิ ยุนกิเป็นของขวัญของฉันนี่นา”
ยุนกิพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ เหมือนเด็กน้อยที่โดนบังคับในขณะที่โฮซอกหัวเราะน้อย ๆ ให้กับภาพตรงหน้า
โฮซอกเอื้อมมือไปประคองใบหน้าของยุนกิและหันไปหน้าขาวกลับมาหาเขาช้า ๆ เลิกคิ้วเป็นคำถาม ยุนกิได้แต่กลอกตาไปมาก่อนจะพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“ตรงไหน”
คนตัวโตกว่าเผยยิ้มกว้างก่อนจะแกะมือของยุนกิออกจากท่อนแขนแล้วกุมมันเอาไว้แทน
“ตรงนี้”
แต่แทนที่จะเป็นนิ้วมือหรือทิชชู่ที่วางลงบนแก้มขาว ๆ โฮซอกกลับขยับหน้าเข้ามาใกล้แล้วประทับริมฝีปากลงบนแก้มด้านซ้าย ยุนกิมองหน้าเขาอย่างตกใจอยู่สักพักก่อนจะหลบตาไป
“ตรงไหนอีก”
ท่าทีที่จะปฏิเสธก็ไม่ใช่จะชอบใจก็ไม่เชิงของยุนกิยิ่งทำให้โฮซอกอยากแกล้งคนตัวเล็กมากขึ้น
“ตรงนี้อีก”
ที่แก้มอีกข้าง
“ตรงนี้ด้วย”
ที่หน้าผากเพื่อคลายปมบนคิ้วของยุนกิ
“แล้วก็...”
โฮซอกเลื่อนใบหน้าของเขามาตรงกัน แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวสวยคู่นั้น ลมหายใจที่ติดขัดของยุนกิรินรดอยู่บนริมฝีปากที่ห่างออกไปเพียงไม่กี่อึดใจ
“ตรงนี้”
ความคิดเห็น