ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *stocks sale* {END} [Seventeen] Hybrid doll [MinWon JunHao ft.seveteen]

    ลำดับตอนที่ #21 : Hybrid :: The Fifteenth "Cleared" ( 100% ! ) - !!อ่านทอล์คด้วยนะคะ!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 785
      18
      12 ก.พ. 60



    Chapter XV




    เสียงการปะทะกันด้านนอกทำให้ร่างโปร่งบางสะดุ้งตื่น ชายสองคนที่เฝ้าเขาอยู่หายไปแล้ว เป็นโอกาสที่เหมาะมากหากต้องการจะหนี

    แขนเรียวกระชากเชือกที่เหลือติดอยู่เล็กน้อยออกอย่างง่ายดายก่อนจะใช้เศษแก้วชิ้นเดิมตัดเชือกที่มัดข้อเท้าออก เก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงดังเดิมแล้วลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก การนั่งท่าเดิมเป็นเวลาติดกันหลายชั่วโมงทำให้เกิดอาการทรงตัวไม่อยู่ จึงได้แต่เดินเกาะลังไม้ที่กองอยู่ออกไปเรื่อย ๆ จนสายตาเหลือบไปเห็นหลินหลิวนั่งหลบอยู่ด้านหลังถังน้ำมันทำหน้าตื่น มือสองข้างกำปืนไว้แน่น เขารีบหลบด้านหลังลังไม้ คอยดูสถานการณ์ก่อนแทนที่จะรีบบุ่มบ่ามออกไป

    ร่างสูงของใครบางคนในเสื้อแจ็คเก็ตสีดำตัวหนาวิ่งเข้ามาในโกดัง กระสุนพุ่งตรงไปเจาะอยู่ตรงปลายรองเท้าหนังสีดำขลับ จุนฮุยวิ่งตรงไปหลบหลังกองถังน้ำมัน ห่ากระสุนไล่ตามหลังไปเจาะเข้าที่ถังน้ำมันดังโป้งเป้งจนร่างเล็กต้องยกมือขึ้นอุดหูหลับตาปี๋ เสียงวัตถุกระทบเหล็กยังคงดังต่อเนื่องอยู่สักพักจนฟังเงียบลงจึงชะโงกหน้ามอง เห็นหลินหลิวที่กำลังหน้าซีด เพราะแผลที่ไหล่ซ้าย รวมถึงตัวเองอยู่ในช่วงกำลังเพลี่ยงพล้ำ กระสุนก็หมด ผิดกับฝ่ายหลานชายที่ดูเหมือนจะมีแบ็คอัพเข้ามาเสริม ผิดกับเธอที่ลูกน้องก็หายกันไปหมด

    ไอ้พวกเฮงซวย

    หญิงวัยกลางคนพึมพำอย่างหัวเสีย ในเมื่อถลำเข้ามาขนาดนี้ คงต้องสู้ต่อ

    เจ้าหล่อนหันมองหาสิ่งของที่จะพอเอามาเป็นอาวุธได้แต่ก็ไม่พบนั่นหมายความว่าเธอจนมุมอย่างสมบูรณ์ สะไภ้หวินคนที่สองของบ้านเหวินกัดฟันกรอดก่อนจะถูกตำรวจที่เข้ามาทางด้านหลงรวบตัวจับทันทีโดไม่เปิดโอกาสให้ขัดขืน เสียงกุญแจมือดังกริ๊กหมายถึงสัญญาณศึกที่สงบลง

    ตุ๊กตาที่หลบอยู่ด้านหลังถอนหายใจดังเฮือกแล้วลุกขึ้นเดินตรรงไปหาร่างสูงเพื่อทุกสิ่งจะได้จบลงอย่างสมบูรณ์

    หยุด

    แรงหนัก ๆ กระชากตัวเขาจากด้านหลังดึงเขาไปล็อกคอไว้ ปืนพกสีดำถูกจ่อเข้าที่ศีรษะ กดลที่ขมับจนรู้สึกถึงความร้นที่ปลายกระบอกปืน เรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี

    คุณโอซาเนะ

    จุนฮุยพูดเสียงเบาหวิว เมื่อมีคนที่ไม่คาดถึงปรากฏขึ้นอีกคน หวใจยิ่งตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นว่าปลายกระบอกอาวุธนั้นอยู่ที่ไหน

    ปล่อยคุณตง แล้วผมจะไม่ทำอะไรเขาโอซาเนะผู้พ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยจนน่ากลัวทำให้ตำรวจเริ่มลังเล หลินหลิวกระตุกยิ้มอย่างย่ามใจ ชายหนุ่มกัดฟันกรอดก่อนจะหันไปมองประมุขของบ้านอย่างขอความช่วยเหลือ ชุนฮวงมองภาพนั้นก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบยิ่งกว่า

    จะยิงก็ยิง

    สมองของจุนฮุยหมุนคว้างเมื่อผู้เป็นพ่อเอ่ยจบประโยค ก้อนเสียงที่กำลังจะเอ่ยถูกดูดกลืนหายไปในลำคอกลายเป็นบางสิ่งวิ่งจุกขึ้นมาแทน มือของเขาแทบจะถือปืนต่อไปไม่อยู่ ฝ่ายเคียวยะและหลินหลิวเริ่มหน้าเสียด้วยว่าแผนที่ผิดไปจากที่คิด

    หมิงฮ่าวกัดฟัน แขนสองข้างถูกรวบกำไว้ด้านหลังจึงขยับแขนขัดขืนไม่ได้ ด้วยส่วนสูงที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่นักทำให้เมื่อเหลือบมองคนข้างหลังจึงจ้องดวงตาคู่นั้นได้โดยตรง มันแข็งกร้าว หวาดกลัว ลังเล และอะไรอีกหลาย ๆ อย่างผสมปนเปกันไปจนกลายเป็นอะไรบางอย่างที่ดูมั่วซั่วคล้ายต้มจับฉ่าย เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหนื่อยที่จะขัดขืน ในเมื่อคนสุดท้ายที่คิดว่าช่วยได้กลับกลายเป็นว่าปล่อยมือเขาให้อยู่คนเดียวกับปืนที่จะลั่นไกออกมาเมื่อไหร่ก็ได้

    ผมพูดจริงนะ

    งั้นก็ทำสิ

    หมิงฮ่าวหลับตาลง ไม่อยากฟังอะไรเลยสักนิด รู้สึกเหมือนตัวเองไม่สำคัญ สำหรับคนในที่นี้เขาคงเป็นได้แค่ตุ๊กตา และอีกไม่กี่นาทีคงกลายเป็นแค่โครงสร้างพัง ๆ และกลับไปอยู่ในที่เดิมหรือว่าอาจแย่กว่านั้น

    มันก็ไม่ต่างจากตอนอยู่ในศูนย์สักเท่าไหร่หรอก

    ความเดียวดาย ความเหงา หลาย ๆ อย่างเริ่มประดังเข้ามาอีกครั้ง ความรู้สึกมากมายถูกปลดล็อกออกมาจนหมด ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นยังคงฉายชัด เสียงเบรค เสียงระเบิด ความเจ็บจากอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพกายหรือว่าจิตใจ

    จุนฮุยไม่ต้องการนายแล้ว ไม่ต้องการ

    นายมันไม่มีค่าอะไรเลยสวี่หมิงฮ่าว ไม่มี

    พอทีร่างโปร่งพึมพำเสียงเครือ ดวงตาชั้นเดียวเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอ มือสองข้างเริ่มสั่นเทา นัยน์ตาสั่นระริก หลายอย่างประดังเข้ามาในความคิดจนตีกันมั่วไปหมด

    แกมันก็แค่ของถูกทิ้ง

    ไม่

    แกมันไม่สำคัญ

    ไม่!

    เฮ้ย! เงียบ!เคียวยะตะคอก แแต่ดูเหมือนกับยิ่งทำให้ตัวประกันของตัวเองเริ่มลนลานและอยู่ไม่สุข

    ปล่อย! อย่ามายุ่งกับผมหมิงฮ่าวใช้เรี่ยวแรงที่เอามาจากไหนไม่รู้ผลักตัวชายวัยกลางคนออก ชายญี่ปุ่นเซล้มลงกับพื้น ด้วยความโกรธจึงหันปืนไปทางตุ๊กตาที่กำลังยืนเป็นเป้านิ่งด้วยกำลังจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง

    ปัง!!!

    เสียงกระสุนดีดตัวออกจากลำเพลิงตรงเข้าไปหาร่างโปร่งที่ตอนนี้กำลังยืนไม่ได้สติท่ามกลางความตกใจของทุกคนมันเกิดขึ้นพร้อมกับที่ใครบางคนวิ่งออกไปคว้าตัวของตุ๊กตาตัวเล็กมากอดเอาไว้แนบอกและลูกตะกั่วที่วิ่งเข้ามาฝังอยู่ในไหล่ซ้าย

    ไม่เป็นไรแล้วหมิงฮ่าว ไม่เป็นไร

    มือหนาลูบศีรษะของอีกคน แขนทั้งสองข้างยังคงโอบกอดตัวของใครที่เขารักไว้ เสียงทุ้มนุ่มกระซิบปลอบประโลมที่ข้างหูโดยไม่สนใจแผลที่อยู่ตรงไหล่ซ้ายของตัวเองเลยสักนิด ในขณะที่ตุ๊กตาในอ้อมกอดก็ร้องไห้ต่อไปไม่หยุด เสียงสะอื้นฮักคลอกับเสียงไซเรนและเสียงกดกุญแจมือลงบนของมือของนักธุรกิจต่างชาติที่บัดนี้กำลังกล่าวคำผรุสวาทออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดซึ่งไม่มีใครเข้าใจ

    จุนฮุยกัดฟันเมื่อความเจ็บแล่นปราดไปที่สมอง แต่ตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ควรจะเข้มแข็งเพื่ออีกคนก่อนจะนึกถึงเรื่องของตัวเอง เสียงกระซิบแผ่วอารียังคงแข่งกับคำบั่นทอนกำลังใจของใครบางคนที่ก้องอยู่ในโสตประสาทของหมิงฮ่าวต่อไป แม้กระทั่งตอนอยู่ในรถพยาบาล ตอนแพทย์ที่ทำปฐมพยาบาลก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเล็กที่เย็นเฉียบนั่นไปเลย


     


    คุณคงเป็นมยองโฮ

    เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองคนผิวซีดที่กำลังยืนค้ำศีรษะของตนอยู่ด้วยใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาและเสื้อที่ยังเปื้อนคราบเลือด ตอนนี้หมิงฮ่าวกลับมาได้สติแล้วและกำลังรอร่างสูงที่กำลังผ่าเอากระสุนออกอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลเดิมที่จุนฮุยเข้ามารักษาตัวตอนโดนผลักตกบันได

    ครับ ผมเองร่างเล็กพยักหน้า

    ผมนั่งด้วยได้ใช่ไหม

    ได้ครับ เชิญไฮบริดพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตประกอบกับคำพูด วอนอูจึงนั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ ดวงตาเรียวรีหลังแว่นตามองไฟสีเขียวเหนือประตูบานคู่สีขาวขุ่นอย่างไม่นึกกังวล เพื่อนของเขาอึดเกินคนทั่วไปอยู่แล้ว

    ผมชื่อวอนอู จอนวอนอู เพื่อนของจุนเขาพูดพลางหันไปมองตุ๊กตาของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ทำหน้าเป็นห่วงคนในห้องตรงหน้าอย่างไม่ปิดบัง

    คุณจุนเขาก็พูดถึงคุณค่อนข้างบ่อยหมิงฮ่าวพูดโดยไม่สนใจจะมองใบหน้าของคู่สนทนา

    วอนอูพยักหน้าเล็กน้อยแล้วมองประตูห้องผ่าตัดอีกครั้ง ไฟสีเขียวยังคงสว่างอยู่และมันเป็นแบบนี้มาได้ประมาณสิบนาทีได้ เสียงพูดคุยระหว่างญาติผู้ป่วยในบริเวณนั้นอีกประมาณสองสามกลุ่ม เสียงเข็นรถทำความสะอาดของแม่บ้านช่วยให้บรรยากาศไม่เงียบจนเกินไป ที่หน้าห้องผ่าตัดนี้มีแค่คนหนึ่งคนกับไฮบริดอีกหนึ่งตัว

    แล้วคุณลุงคุณป้าล่ะเขาถามด้วยที่ว่าอยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนซือเฉิงที่ไม่อยากไปพบหน้าหลินหลิวตอนนี้ด้วยเพราะยังทำใจไม่ได้

    พวกเขามากันอีกคัน

    งั้นหรือ

    ชายหนุ่มพยักหน้าอีกครั้งพอดีกับที่พยาบาลเปิดประตูห้องผ่าตัดพร้อมกับรถเข็นที่มีใครบางคนนั่งยิ้มแป้นที่ดูซีดเซียวอยู่ในชุดคนไข้ของโรงพยาบาล วอนอูมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าหมั่นไส้เต็มทน

    คนไข้ต้องอยู่โรงพยาบาลเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อนะคะ สักสองสามวันนางพยาบาลในชุดผ่าตัดพูดก่อนจะเข็นนำไปที่ห้องพักห้องข้าง ๆ กับห้องเดิมที่เคยมารักษาตัว

    คล้อยหลังนางพยาบาล วอนอูมองจุนฮุยสลับกับหมิงฮ่าวในขณะที่คนหนึ่งมองอีกคนไม่วางตา แต่ว่าคนถูกมองกลับหลบสายตาคู่นั้นเสีย คนใส่แว่นถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เขาว่าเขาอ่านสายตาคู่นั้นออก มันสื่อความรู้สึกได้มากเกินกว่าที่คนอื่นจะอธิบายได้นอกจากเจ้าตัวเอง

    ฉันจะลงไปร้านกาแฟข้างล่าง เอาอะไรหรือเปล่า

    เอาเอส…”

    ของมึงให้แค่โกโก้

    แล้วจะถามทำไมวะ

    จุนฮุยพึมพำ วอนอูหัวเราะในคอเสียงเบาเมื่อเห็นใบหน้าบึ้งตึงของผู้เป็นเพื่อนก่อนจะหันไปมองไฮบริดร่างเล็กอย่างขอความคิดเห็น

    ไฮบริดส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่เจ้าของคำถามจะเปิดประตูออกจากห้องไปปล่อยให้คนที่เหลืออยู่ด้วยกันในห้องเพียงลำพังสองคน

    ความเงียบเริ่มกลับเข้ามามีพื้นที่ในห้องสี่เหลี่ยมห้องนี้ จุนฮุยมองร่างโปร่งบางที่นั่งนิ่งบนโซฟาด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่หลากหลาย ดีใจ โล่งใจ และอีกหลาย ๆ อย่าง

    นายโอเคใช่ไหม หมายความว่าไม่บาดเจ็บอะไร

    ไม่ครับ

    เปลี่ยนเสื้อก่อนไหม หรือว่าไปล้างหน้าสักหน่อย

    ผมโอเค ว่าแต่คุณเถอะ

    หมิงฮ่าวมองที่ไหล่ซ้ายที่มีผ้าคล้องแขนพาดอยู่เพื่อกันไม่ให้แผลถูกกระทบกระเทือนด้วยสายตาเป็นห่วง ร่างสูงมองตามสายตาก่อนจะก้าวลงจากเตียง มือซ้ายจับเสาน้ำเกลือแล้วเดินตรงไปหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว ทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ ร่างโปร่ง ส่งยิ้มบางให้เหมือนอย่างทุกที

    ก็เอากระสุนออกไปแล้วแหละ โชคดีที่ยิงตรงไหล่ ถ้าเบี่ยงมาหน่อยนี่ได้ไปสบายแน่ร่างสูงพูดยิ้ม ๆ หมิงฮ่าวทำหน้าย่นมองคนข้างตัวด้วยสีหน้าติดไม่พอใจอยู่เล็กน้อย

    เรื่องนี้ใครเขาเอามาพูดเล่นกันล่ะคุณ

    ถ้าไม่พูดเล่นก็ไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก

    แล้วคุณก็บ้ามากเลยนะ ที่หนีออกจากโรงพยาบาลน่ะตุ๊กตาตัวเล็กพูดเสียงเขียว มือเรียวแตะท่อนแขนที่คล้องผ้าอยู่อย่างแผ่วเบาผมใจหายหมดเลย

    แล้วปล่อยให้นายเจ็บตัวน่ะหรือ

    ก็ดีกว่าคุณเจ็บแล้วกันร่างบางเบ้ปาก ดวงตากลมโตช้อนมองใบหน้าคมพร้อมน้ำตาที่เริ่มกลับมาไหลอีกรอบ

    ร้องไห้เพราะเป็นห่วงฉันเหรอจุนฮุยคลี่ยิ้มบางคิดว่าคงทำให้อีกฝ่ายเขินหรืออึ้งไปได้สักเล็กน้อย

    ใช่แต่แทนที่จะเป็นใบหน้าเล็กขึ้นสีและการหลุบตาต่ำ หมิงฮ่าวกลับพยักหน้าแทบจะในทันทีแล้วพูดประโยคต่อไปได้โดยไม่เก้อเขินสักนิด

    ผมเป็นห่วงคุณ

    “...”

    อย่าทำแบบนี้อีกนะเหวินจุนฮุย

    ร่างสูงนิ่ง กลับเป็นเขาเสียเองที่เป็นฝ่ายอึ้งไป เมื่อดึงสติกลับมาได้ก็ส่งยิ้มให้คนตรงหน้าอีกครั้ง มือข้างที่ไม่เจ็บเอื้อมไปคว้ามือเรียวมากำไว้หลวม ๆ ดวงตาคู่คมมองอีกฝ่ายด้วยแววตาที่เปิดเปลือยความรู้สึกทุกสิ่งอย่าง

    ก็ทำไงได้ล่ะ ก็เห็นใครยืนร้องไห้อยู่ไม่สนใจจะหลบปืนนี่ ถ้าไม่ช่วยก็ใจร้ายเกินไปหน่อยมั้ง

    ก็ผมกลัวนี่

    แล้วคิดว่าฉันไม่กลัวเหรอ

    จะจริงเหร้อ ถ้ากลัวคุณคงไม่เข้ามาช่วยผมหรอกหมิงฮ่าวทำปากยื่นมองคนข้างตัวด้วยท่าทางเหมือนเด็กกำลังเถียงผู้ใหญ่ตัวโต คนป่วยหัวเราะในลำคอแล้วก้มลงมองมือเล็กในมือของตน

    กลัวสิเขาเงยหน้าขึ้นสบเข้ากับดวงตาสีนิลด้านของตุ๊กตาตรงหน้าพลางใช้นิ้วเกลี่ยหลังมือเนียนเบา ๆแต่ฉันกลัวจะเสียนายไปมากกว่า ฉันไม่อยากเสี่ยงอะไรทั้งนั้น

    ทำไมล่ะครับ ยังไงผมก็เป็นแค่ตุ๊กตานี่ เป็นแค่ไฮบริดตัวนึง คุณไม่ต้องสนใจผมยังได้เลย แค่ส่งศูนย์ซ่อม

    ฉันรู้จุนฮุยเม้มปากแต่ฉันก็ไม่อยากเสี่ยง ฉันไม่อยากเสียนายไป

    ถ้าให้เทียบประเภทของผม ผมเป็นแค่ของเล่นด้วยซ้ำ ผมคิดว่าคุณแก่เกินกว่าจะเล่นของเล่นชิ้นนี้แล้วนะหมิงฮ่าวเอ่ยเสียงเรียบ

    หมิงฮ่าว

    เหวินจุนฮุย ก่อนหน้านี้คุณทำเหมือนเด็กที่พยายามแย่งของเล่นมาจากคนที่แย่งของเล่นของตัวเองไปกลับคืนมาก็แค่นั้น

    คิดอย่างนั้นเหรอ

    ถ้าไม่คิดผมจะพูดไหมล่ะ

    ปากดีขึ้นเยอะนะเราน่ะชายหนุ่มส่งยิ้มบาง ๆ ให้ก่อนจะพิงหลังกับพนักโซฟา มือซ้ายยังกุมมือขวาของอีกฝ่ายอยู่ไว้อย่างนั้นแถมยังบีบแน่นขึ้นเสียอีกต่างหาก

    ไม่แปลกหรอกที่ฉันจะไปเอาของเล่นของฉันกลับมา เด็กทุกคนก็รักและหวงของเล่นของตัวเองทั้งนั้นนี่ จริงไหมล่ะ

    คุณ…”

    เหตุผลเท่านี้ก็คงพอแล้วใช่ไหมจุนฮุยคลี่ยิ้มให้อีกครั้งแล้วยกมือเรียวขึ้นจุมพิต เขาค้างริมฝีปากไว้เนิ่นนานและเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าใบหน้านวลขึ้นสีจนเรียกได้ว่าแดงก่ำเลยทีเดียวคราวนี้ตานายพูดบ้างแล้วแหละ

    หน้าแดงขนาดนี้ต้องให้ผมพูดอะไรอีกเหรอไงหมิงฮ่าวพึมพำเสียงเบาพลางรีบดึงมือออกจากการเกาะกุม

    ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าคิดยังไงกันแน่ถ้านายไม่ยอมบอกชายหนุ่มคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์

    ผมก็เขินเป็นไหมล่ะ

    แล้วคิดว่าฉันเขินไม่เป็นหรือไง

    ก็นึกว่าไม่เป็นน่ะสิ

    จะหาว่าหน้าด้านว่างั้น

    ก็ประมาณนั้น

    จะไม่แย้งสักนิดเลยเหรอ

    เรื่องจริงนี่

    จุนฮุยหลุดหัวเราะพรืดก่อนจะใช้มือบิดแก้มนุ่มด้วยความมันเขี้ยว

    ปากดี

    ตามเจ้าของนั่นแหละ

    แล้วรู้สึกเหมือนเจ้าของบ้างหรือเปล่าครับมือขวาที้ยังคงเป็นปรกติคว้ามือเรียวบางของอีกคนมาวางไว้แนบอก แรงกระเพื่อมถี่รัวส่งมาถึงฝ่ามือ

    ได้ยินไหมครับ

    ได้ยินอะไรครับร่างเล็กถามเสียงอ้อมแอ้ม พยายามข่มไม่ให้ใบหน้าขึ้นสีแต่ใบหูแหลมเล็กกลับขึ้นสีแดงระเรื่อ

    หัวใจเฮียมันเต้นเป็นคำว่า หมิงฮ่าว หมิงฮ่าว

    น้ำเน่า

    น้ำจะเน่าก็เห็นเงาจันทร์

    อยากเป็นจันทร์คือแรมไหมครับ

    ทำไมต้องขู่ด้วยเล่า เน่าเพราะรักนะเนี่ย

    ก็พูดทีเล่นททีจริงแบบนี้ใครจะเชื่อล่ะ

    โถ้ งั้นจะจริงจังแล้วนะจุนฮุยคลี่ยิ้มขันแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกในขณะที่หมิงฮ่าวรู้สึกถึงขังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่เร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม

     

    เหวินจุนฮุยรักสวี่หมิงฮ่าวได้ยินไหมครับ  แล้วเราล่ะ รู้สึกยังไง

     

    ดวงตาสีนิลเสมองพื้น ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วนั้นแดงขึ้นยิ่งกว่าเดิมจนดูคล้ายลูกมะเขือเทศสุก ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นจนไร้สีเลือดด้วยความเขินสุดขีด

    ว่ายังไงครับ

    มือหนาปล่อยออกจากมือเรียวแล้วเปลี่ยนมาแตะคางมนให้เชยขึ้นสบตา สายตาของร่างสูงทำให้ร่างเล็กรู้สึกเหมือนมีไฟมาลนตรงใบหน้าและใบหู

    ก็เหมือนกันนั่นแหละหมิงฮ่าวตอบเสียงเบา

    เหมือนกันนี่เหมือนยังไงครับ

    ก็เหมือนอย่างนั้นแหละ

    ไม่ชัดเจนเลย ขอพูดชัด ๆ เหมือนตอนว่าเฮียหน้าด้านได้มั้ยครับ

    ผมไม่ได้ว่าเสียหน่อยหมิงฮ่าวทำปากยู่ก็แค่พูดไปตามที่คิดเท่านั้นเอง

    งั้นบอกมาหน่อยสิครับ

    ถ้าไม่บอกล่ะ

    จุนฮุยหรี่ตามองตุ๊กตาข้างตัวอย่างเจ้าเล่ห์อีกครั้ง เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ประกบริมฝีปากค้างไว้สักพักโดยไร้การรุกล้ำใด ๆ แล้วผละออก ฝ่ายไฮบริดที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็ทำตาโตแล้วรีบผลักตัวอีกคนออกแล้วกระเถิบหนีไปจนชิดขอบโซฟาอีกข้างทันที

    ก็แบบนี้แหละครับ

    ฉวยโอกาสหมิงฮ่าวบ่นเสียงเบา

    ก็รู้แล้วจะเปิดโอกาสให้บ่อย ๆ ทำไมล่ะ

    ฮื่อ ไม่รู้จะด่ายังไงแล้ว

    ด่าเลยเหรอ

    เหมาะสมที่สุดแล้ว

    แต่ตอนนี้บอกมาได้แล้วครับ ไม่บอกจะไม่ใช่แค่แตะกันเฉย ๆ นะ

    ร่างบางเบ้ปากแล้วพูดเสียงเบาพอ ๆ กับกระซิบ

    รัก…”

    ดังกว่านี้อีกหน่อยได้ไหมครับ ไม่ได้ยินเลย

    เรื่องมาก

    ได้ยินนะ

    ชายหนุ่มพูดขึ้นแล้วกระเถิบตามไปนั่งเบียดกับอีกฝ่ายที่ตอนนี้หน้าแดงลามไปถึงคอและใบหู หมิงฮ่าวหลับตาปี๋แล้วก่อนจะตะโกนบอกไปเสียงดังลั่นห้องสี่เหลี่ยมสีขาว

    เออ! ผมก็รักคุณเหมือนกัน!

    แขนยาวรวบตัวอีกคนเข้าไปกอดไว้จนคนถูกกอดหายใจแทบไม่ออก ใบหน้าน่ารักซุกหาอีกฝ่าย จุนฮุยฉีกยิ้มกว้าง เพียงเท่านี้ก็รู้สึกคุ้มค่าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่มีให้อีกคน การที่เข้าไปเสี่ยงให้กระสุนเจาะหัว มันคุ้มค่ามากแล้วเมื่อได้ยินคำเพียงคำเดียวจากริมฝีปากคู่นั้น เท่านั้นก็เพียงพอ

    v

    v

    v

    (100%)

    เย่ จะจบแล้ววู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เรื่องนัดรับนี่ต้องบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าเราสะดวกแค่วันอาทิตย์ที่สยามแล้วตอนนี้ ; ----- ; ขอโทษสำหรับใครบางคนด้วยนะคะ 


    ♡ ด้วยรักและสปาเกตตี้ง่อยๆฝีมือเราเอง♡

    @yinde119

    #ฟิคไฮบริดมินวอน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×