คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : พี่ศิวะ?
----ปัจจุบัน----
“เท็น” เสียงพี่ท๊อปเรียกฉัน จากที่ไหน? ฉันมองไปรอบๆ ตัวไม่เห็นอะไรเลย ทุกอย่างมืดไปหมด
“เท็น” พี่ท๊อป เท็นอยู่นี่ เท็นอยู่ตรงนี้ พี่ท๊อปอยู่ที่ไหน เท็นไม่เห็นพี่ท๊อปเลย พี่ท๊อปมาพา
เท็นออกไปที เท็นอยากอยู่กับพี่ท๊อป! ฉันเดินไปรอบๆ แต่ก็ไม่เจอพี่ท๊อปสักที
“เท็น ” เสียงพี่ท๊อปค่อยๆ เบาลง! พี่ท๊อปอย่าเพิ่งไป พี่ท๊อป! พี่ท๊อปหายไปไหนแล้ว พี่
ท๊อปกลับมาก่อน พี่ท๊อปจะไปไหน กลับมาหาเท็นก่อนพี่ท๊อป ฉันทรุดตัวลงด้วยความหวาดกลัว อากาศที่นี่เย็นเหลือเกิน เท็นมองไม่เห็นใครเลย แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงใครอีกแล้วด้วย พี่ท๊อป พี่ท๊อปลืมเท็นแล้วจริงๆ เหรอ พี่ท๊อปไม่รักเท็นแล้ว
ปี๊น!!
แสงอะไรหนะ! กรี๊ดดดดดดด
“พี่ท๊อป!!!”
“เท็น! เท็น! พี่อยู่นี่เท็น เท็นอย่าร้องไห้นะ พี่อยู่นี่”
ฉันร้องไห้ ฉันกำลังร้องไห้ น้ำตาอาบแก้มฉันอีกแล้ว เมื่อกี้มีแสงไฟพุ่งตรงมาที่ฉัน มีเสียงแตรรถด้วย!
ตอนนี้มีคนเช็ดน้ำตาให้ฉันและมีมือหนาๆ ที่คุ้นเคยกำลังกุมมือฉันอยู่ พี่ท๊อป
“เท็น พี่อยู่นี่แล้ว”
“พี่ท๊อปเหรอ? พี่ท๊อป” ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ โอ้ย! แสบตา แสงผ่านเข้าม่านตาฉันเปรี้ยงใหญ่ ฉันรู้สึกเจ็บปวดตามเนื้อตัว รู้สึกเหมือนขยับตัวไม่ได้เลย โอ้ย! หัว หัวฉัน
“เท็นรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ภาพพี่ชายนั่งอยู่ข้างๆ เตียงพร่ามัวไปหมด ฉันมองอะไรไม่ชัดเลย
“พี่ท๊อป
เท็นกลัว พี่ท๊อป” พี่ชายที่แสนดีลุกขึ้นมาโอบตัวฉันและกุมหัวเอาไว้เนิ่นนาน
“ไม่ต้องกลัวแล้วนะ พี่อยู่นี่ จะไม่มีใครไปไหนอีกแล้ว” ฉันเอื้อมมือจะโอบพี่ท๊อปกลับแต่ว่า อะไรติดอยู่ที่หลังมือฉัน สายน้ำเกลือ?
“พี่ท๊อป
”
“หึ?” พี่ท๊อปผละตัวออกจากฉันแล้วนั่งลงที่เดิมพรางใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของฉันเบาๆ
“เท็นเป็นอะไร?”
“เราสลบไป 3 วันแล้วรู้มั้ย พี่เป็นห่วงแทบแย่” พี่ท๊อปกุมมือฉันเอาไว้ มือของพี่ท๊อปอบอุ่นที่สุดในโลกเลย
“ 3 วัน!” นี่ฉันสลบหรือว่าฉันตายกัน 3 วันเชียวเหรอ
“ใช่
แล้วพี่ก็ต้องขอโทษด้วยนะ ที่พี่ทำรุนแรงอย่างนั้นกับเท็น คือพี่ไม่ได้ตั้งใจ
พี่ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ พี่ต้องขอโทษเท็นจริงๆ นะ เพราะพี่เท็นถึงได้เป็นแบบนี้”
อ๋อ! ฉันนึกขึ้นได้ คงเรื่องเนล์หละสิ แล้วก็ที่ฉันข้ามถนนนั่นใช่มั้ย? นี่แสดงว่าฉันโดนชนเช้าเต็มๆ เลยใช่รึเปล่า?
ฉันก้มลงมองตัวเอง ขวาข้างขวาใส่เฝือกขึ้นมาถึงต้นขา แขนมีสะเก็ดเลือดเกาะตัวอยู่เต็มไปหมด ส่วนหัวมีผ้าพันเอาไว้ อย่าบอกนะว่าหัวแตกด้วย อึ๋ย~ ฉันไม่เคยเจ็บหนักขนาดนี้มากก่อนเลยนะให้ตายสิ
“เท็นอยากกินอะไรรึเปล่า? หิวมั้ย?” ฉันมองหน้าพี่ชายที่เพิ่งกลับมาใส่ใจฉัน กลับมาให้ความสำคัญกับฉันเหมือนเดิมแล้วสินะ
“พี่ท๊อป พ่อหละ?” พี่ชายผ่อนสายตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเลี่ยงสายตาไปรินน้ำเปล่าใส่แก้วให้แล้วส่งมาให้ฉัน
“เผาแล้วหละ เมื่อวานนี้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เท็นยังมีพี่ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” พี่ท๊อปใช้หมอนซ้อนที่หลังของฉัน ตอนนี้หัวของฉันมึนไปหมด มองไปรอบๆ ห้องมีตะกร้าผลไม้กับข้าวของวางอยู่เต็มโต๊ะ แถมมีกระเช้าดอกไม้ซะด้วยสิ อย่าบอกนะว่าพี่ชายฉันซื้อมาหนะ ไม่มีทางถ้าพี่ชายฉันจับดอกไม้มีหวังเฉาตายหมด
“พี่ท๊อปซื้อดอกไม้มาเหรอ?”
“เปล่าหรอก ของไอ้สิ่วหนะ”
“พี่ศิวะหนะเหรอ?” ยอมรับตรงๆ เลยว่าตกใจมากค่ะ เพราะพี่ศิวะจะซื้อกระเช้าดอกไม้พวกนี้มาทำไม เอ๊ะ! หรือว่าจะแอบปลื้มคุณพี่เถื่อนของฉัน
“ก็ไอ้หน้าสิ่วนั่นแหละที่มันขับรถชนเราหนะ! ดีนะที่ชนแล้วมันไม่ชิ่งหนะ รู้มั้ยว่าถ้าไม่ได้มันวันนั้นนะพี่ได้เสียเราไปอีกคนแน่” ดูสีหน้าพี่ท๊อปอยากจะโกรธอยู่เหมือนกัน แต่ว่าถ้าไม่ได้พี่ศิวะฉันก็ไม่รอดแน่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาหลังจากเสียงเคาะเงียบลง สายตาที่มองมาที่ฉันส่องประกายยิ้มแย้มและดูจะดีใจเป็นพิเศษ ในมือถือถุงเซเว่นที่บรรจุอาหารเข้ามาอย่างคุ้นเคย แต่ฉันไม่อยากเห็นหน้าคนๆ นี้ตอนนี้เลย
“เป็นไงบ้างเท็น? ฟื้นแล้วเหรอ?” เนล์ เธอกล้ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกเหรอ ฉันปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามและจะไม่เจรจากับเพื่อนคนนี้อีก ยังไงฉันก็ปักใจเชื่อว่าเป็นเพราะมันฉันถึงต้องเสียพ่อไป
“เท็นฟื้นนานรึยังพี่ท๊อป?” เนล์วางของลงที่โซฟาแล้วตรงเข้ามาหาฉัน สีหน้าเป็นห่วงเป็นใยแบบนี้ไม่ว่าจะเสแสร้งแกล้งทำหรือเป็นเรื่องจริงฉันก็ไม่ชอบใจทั้งนั้นแหละ
“เมื่อกี้นี้เอง” พี่ท๊อปตอบพรางจับสังเกตสีหน้าของฉันอย่างรู้ทัน ในมือฉันกำแก้วน้ำเปล่าที่เต็มไปด้วยน้ำ ขอเตือนในใจว่าอย่าเข้ามาใกล้ฉันมากกว่านี้นะยัยเนล์
“หิวมั้ยเท็น ฉันซื้อขนมมาเต็มเลยนะ” เนล์เดินมาข้างพี่ท๊อป ใกล้มากจนมือของคนเพิ่งฟื้นอย่างฉันสั่นไปหมด ความร้อนในร่างกายของฉันมันเดือดปุดๆ ทั้งๆ ที่แอร์ในห้องก็เปิดเสียจนเย็นฉ่ำ
“ออกไป” คำแรกที่หลุดออกจากริมฝีปากของฉัน ทำให้สีหน้าเพื่อนแย่ลงอย่างรวดเร็ว
“เท็น คือว่าฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่ามันจะ
”
“ออกไป!” มือฉันบีบแก้วน้ำแน่นจนรู้สึกช้าไปหมด ใบหน้าของฉันกำลังร้อนผ่าว
“แต่ว่าเท็น
”
“บอกให้ออกไปไง!”
------- ซ่า~ -------- เพล้ง! -------
ฉันตวัดแก้วน้ำในมือสาดหน้าเนล์ที่ยืนทำหน้าสำนึกผิดอยู่ข้างเตียง แล้วขว้างแก้วลงพื้น แก้วใบสวยแตกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งเพื่อนและพี่ชายต่างก็ตกตลึงกับการกระทำแย่ๆ ของฉันอยู่ครู่หนึ่ง ฉันโกรธ ฉันเกลียด ฉันแค้น ฉันไม่อยากเห็นหน้ามันอีก
ไอ้เนล์มันมองฉันตัวสั่นสะท้านไปหมด ฉันถลึงตาที่แดงก่ำใส่ผู้หญิงตรงหน้า อย่ามายุ่งกับพี่ฉันนะ!
“เนล์ ออกไปก่อนไป”
“ค่ะ” เนล์เดินออกจากห้องหน้าซีดเผือด หึ! แค่นี้กลัวรึไง ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าเธอมายุ่งกับพี่ชายฉันอีกเศษแก้วที่อยู่ที่พื้นมันอาจจะไปฝากรอยกรีดอยู่บนหน้าเธอก็ได้ ฉันเกลียดเธอ!
“ทำไมทำแบบนี้เท็น?” พี่ท๊อปหันมาถามฉันเสียงแข็งก่อนจะก้มลงไปเก็บเศษแก้วที่กระจายอยู่กับพื้นห้อง เสียงแก้วกระทบกันดังอยู่ชั่วขณะ ฉันมองออกไปด้านนอก ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันทำให้พ่อตายพี่ท๊อปยังให้มันเข้ามาเยี่ยมเท็นอีก
“เนล์เค้าไม่ได้ทำให้พ่อตายนะเท็น”
“เท็นไม่อยากฟัง”
“บางทีเราก็ต้องปล่อยวาง อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ควรจะให้มันแล้วไป
”
“เท็นอยากอยู่คนเดียว” เสียงพี่ชายฉันถอนหายใจข้างๆ หูแล้วหายออกนอกห้องไปพร้อมกับเศษแก้วในมือ ฉันอยากร้องไห้อีกแล้ว ตาที่มองไปด้านนอกพร่ามัวขึ้นเรื่อยๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ความเดือดดาลผายในตัวของฉันยังไม่ลดลงเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง ฉันหันควับกลับไปมองประตูที่มีกระเช้าดอกไม้ค่อยๆ โผล่เข้ามา ตามมาด้วยเจ้าของกระเช้า พี่ศิวะ! ถือกระเช้าดอกลิลลี่สีชมพูสดที่มีการ์ดใบเล็กๆ ปักเอาไว้ พอเห็นผู้ชายทีไรสบายใจทุกทีเลยฉัน
และเมื่อพี่ศิวะเข้ามาพบฉันที่นั่งทำหน้าโทรมอยู่บนเตียงก็ถึงกับชะงักเล็กน้อยก่อนที่จะส่งรอยยิ้มเล็กๆ ผ่านเคราบางๆ มาให้ฉัน นี่หน้าฉันเหมือนศพขนาดนั้นเลยเหรอ?
“ฟื้นแล้วเหรอ? กินอะไรรึยัง? ยังเจ็บหัวอยู่รึเปล่า?” พี่ศิวะนั่งลงข้างเตียงพรางถือไอ้เจ้ากระเช้าไว้บนตัก ฉันมองหน้าพี่ศิวะที่เต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำบางๆ ที่เบ้าตา มุมปาก และหางคิ้วที่มีรอยแตกอยู่หลายรอย แต่ยังไงก็หล่อซะไม่มีหละ คนอะไรก็ไม่รู้ขอได้รึเปล่าค่ะคนนี้หนะ
“พี่ศิวะ
หน้าไปโดนอะไรมา ทำไมถึงได้ยับเยินขนาดนั้น” พี่ศิวะหลบสายตาของฉันเล็กๆ ก่อนจะค่อยๆ คลำแผลที่หางคิ้วของตนเบาๆ ต้าย~ น่ารัก
“อะ
เอ่อ ไม่มีอะไรครับ ว่าแต่ว่าพี่ท๊อปเล่าเรื่องที่เท็นโดนรถพี่ชนให้ฟังแล้วใช่มั้ย?”
“ค่ะ” ฉันมองกระเช้าดอกไม้สีสดใสที่อยู่ในมือ อยากจะกรี๊ด รู้สึกดีพิลึกที่มีผู้ชายหน้าตาดีเอาดอกไม้มาให้ข้างๆ เตียงแบบนี้ กรี๊ดๆๆ
“อ๋อ พี่ซื้อมาให้ไม่รู้ว่าเท็นจะชอบรึเปล่า อะ” พี่ศิวะส่งกระเช้าดอกไม้มาไว้บนตักฉัน ฉันไม่รอช้าที่จะหยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน
“เอ่อ! เท็น คือว่าพี่ขอการ์ดอันนั้นคืนนะ คือว่า
”
“เรื่องอะไร! ให้แล้วให้เลยดิ ไหนๆ เขียนว่าอะไร?” ฉันรีบจิ๊กการ์ดขึ้นมา จากสายตาของพี่ศิวะดูจะมีอะไรกังวนเป็นพิเศษ ฉันชักจะตื่นเต้นกับข้อความที่จะได้อ่านซะแล้ว
“อะแฮ่ม
อ่านละนะ ‘วันนี้ก็วันที่ 4 แล้วนะ เมื่อไหร่เท็นจะฟื้นขึ้นมาสักที พี่ต้องขอโทษที่พี่ไปชนเท็นเข้า รีบๆ ฟื้นขึ้นมานะครับ พี่ศิวะ’ โอว~”
ฉันลากเสียงซะยาวแล้วเหล่หางตามองหน้าพี่ศิวะที่กลอกลูกตาไปมาและมีใบหน้าซีดเผือด ตายแล้ว นี่พี่ศิวะกำลังทำให้ฉันหวั่นไหวครั้งแรกในรอบ 16 ปีนะเนี่ยะ
“พี่ศิวะเป็นคนขับรถชนเท็นจริงๆ เหรอ?”
“อืม
พี่ต้องขอโทษด้วยนะ”
“ไม่เป็นไร เท็นผิดเอง หึหึ” ฉันแสร้งหัวเราะเพื่อให้คนข้างๆ สบายใจขึ้น
“เท็นพี่ขอถามอะไรหน่อยสิ
”
“ว่ามาเลย”
“คือว่าทำไมวันนั้นเท็นต้องหลับตาเดินข้ามถนนด้วย?”
“ไป!” ประโยคของพี่ท๊อปก้องเข้ามาในหัวของฉัน ทำฉันปวดหัวไปหมด ฉันเก็บสีหน้าเอาไว้แล้วค่อยๆ กุมหัวช้าๆ
“คือว่าเท็นกับพี่ท๊อปทะเลาะกันนิดหน่อย”
“ถ้าพลาดขึ้นมาถึงขึ้นตายเลยนะเท็น” พี่ศิวะขมวดคิ้วแน่น
“ไม่เป็นไรหรอกน่า หากยากอย่างเท็นเค้าออกกฏหมายสงวนไว้แล้ว อีกอย่างพี่ศิวะก็คงไม่ชิ่งอยู่แล้วหละ ใช่มั้ย?”
“ถ้าวันนั้นไม่ใช่พี่หละเท็น” พี่ศิวะลุกพรวดจากเก้าอี้ ทำเอาฉันผงะด้วยความตกใจ อย่ามาแสดงท่าทางเป็นห่วงกันทั้งๆ ที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งที่สองได้มั้ย!
แอ้ด~
ทันทีที่พี่ท๊อปเปิดประตูเข้ามาก็ถลึงตาใส่พี่ศิวะที่ยืนอยู่ข้างๆ เตียง แล้วคว้าหมับเข้าที่ไหล่ก่อนจะกระชากจนตัวของพี่ศิวะหันหลังกลับไปตามแรงดึง
“ทำอะไรของมึงไอ้สิ่ว! กูบอกว่าไม่ต้องมาไง แค่มึงออกค่ายาให้ก็พอแล้ว นี่แม่งเล่นมาเฝ้าทุกคืน กูถามจริงมึงอยากโดนอีกหมัดใช่มั้ย?” พี่ท๊อปง้างหมัดขึ้น ถ้าอย่างนั้นแสดงว่ารอยช้ำบนหน้าก็เป็นรอยของพี่ท๊อปหนะสิ ฮึ่ม!
“พี่ท๊อป!” เสียงฉันพอที่จะหยุดความบ้ากำลังของพี่ชายเอาไว้ได้ แหมเก่งเหลือเกิน เอะอะมีเรื่องมีราวกับชาวบ้านเค้าตลอด
“ไปมึง ไปนั่งที่โซฟาโน่น ห่างๆ เลยมึง” พี่ท๊อปผลักพี่ศิวะซะแรง ฉันหันไปยิ้มให้พี่ศิวะที่นั่งหน้าช้ำอยู่ที่โซฟาจนปากของฉันปากแทบจะฉีกถึงรูหู
“ไอ้เท็น! หุบยิ้มเดี๋ยวนี้เลยนะ” อ่าว! ดูนิสัยพี่ชายฉันสิ แต่ฉันก็ยังคงยิ้มต่อไป ยิ้มพิมพ์ใจ ฉันจะยิ้มให้ตัวเองกลายเป็นนางสาวไทยไปเลยคอยดูเด้ แบบว่าประชดพี่ชายค่า!
“ไอ้สิ่ว! มึงออกไปเลยนะ”
“ครับ”
“ไม่! พี่ศิวะห้ามออกไปนะ”
“อะ
อือ”
“กูบอกให้มึงออกไปไง!”
“เอ่อ
ครับ”
“พี่ศิวะ!”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
การปะทะหลอดลมสงบลงเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกแล้ว นี่มันกี่รอบต่อวันแล้ว เคาะมันอยู่นั่นแหละ
พี่ท๊อปเดินตะบึงตะบอนไปเปิดประตู ส่วนพี่ศิวะก็นั่งทำหน้าไม่ถูกอยู่ที่โซฟา คงตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้วแน่ๆ เลย
“ผู้จัดการครับ พรุ่งนี้ผู้จัดการจะไปเปิดร้านกับพวกผมรึเปล่าครับ?” พ่อคุณหน้าอ่อนพูดจ้อทันทีเมื่อประตูเปิดออก ไม่เงยหน้าเงยหน้าขึ้นมาดูเลยนะพ่อคุณว่ากำลังพูดกับใครอยู่
“มึงพูดกับใคร?” ผู้ชายคนนั้นสร้างความมึนงงให้กับพี่ท๊อปได้พอสมควร พี่ชายฉันจ้องชายหน้าอ่อนด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ทำเอาเมื่อเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ
“เอ่อ
ขอโทษครับ ผู้จัดการอยู่ที่ไหน?”
“ใครผู้จัดการมึง?”
“พี่ศิวอักษรครับ?” ดูพ่อคุณมองหน้าชายฉันหวั่นๆ นะ
“อ๋อ ไอ้สิ่วอ่ะเหรอ นั่งหน้าช้ำอยู่ในห้อง”
“มีอะไรเหรอน่าน?” พี่ศิวะลุกออกไปหาเพื่อน ไม่สิ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นลูกน้องที่ร้านหนังสือซะมากกว่า พี่ศิวะไปหยุดอยู่ข้างๆ พี่ท๊อป อืม
ส่วนสูงไม่ต่างกัน พี่ชายฉันดูจะผิวสีเข้มกว่าเล็กน้อยนะแต่ว่าพี่ฉันทำไมถึงได้ดูป่าเถื่อนดงดิบขนาดนี้วะ? เฮ้อ~ กลุ้ม
“คือว่าพี่ชมภูให้ผมมาถามว่าพรุ่งนี้ผู้จัดการจะไปเปิดร้านกับพวกผมรึเปล่า?”
“พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง พรุ่งนี้เท็นออกจากโรงพยาบาลผมต้อง
”
“นี่ๆๆ น้องผมผมดูแลเองได้ คุณจะไปธุระที่ไหนก็ไปเถอะ แต่! ต้องจัดการค่ายา ค่าห้อง ค่ากิน ค่าอยู่ ค่า
”
“พี่ท๊อป” พี่ชายฉันยัดเยียดค่าโน้นค่านี่ให้พี่ศิวะเสียเต็มที อย่างนี้มันปล้นกันชัดๆ เลย ถึงพี่ศิวะเค้าจะเป็นคนขันรถชนฉัน แต่มาทำถึงขนาดนี้ฉันเองก็เริ่มรู้สึกเกรงใจซะแล้วสิ
“ไม่ได้หรอกครับพี่ท๊อป
”
“กูไม่ใช่พี่มึง” จะให้เค้าจ่ายเงินให้ แล้วดูทำหน้าเข้า
“คือว่ากำหนดเวลาเปิดร้านพรุ่งนี้กับกำหนดที่เท็นออกจากโรงพยาบาลมันตรงกันพอดี ผมให้เด็กๆ เค้าเปิดไปก่อนก็ได้”
“แต่พี่ชมภูอยากให้ผู้จัดการไปนะครับ”
“ฝากบอกชมภูด้วยนะ ว่าผมไปไม่ได้จริงๆ”
“ครับ”
“ขอบคุณ” จบการสนทนาที่เรียบง่ายแต่เด็ดขาดของพี่ศิวะ พี่น่านคนนั้นก็เดินจากไปด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กๆ ต่างจากพี่ชายฉันที่ดูจะอิ่มเอมกับการไถ่คนอื่นเหลือเกิน
“พี่ศิวะน่าจะไปนะ ยังไงพี่ท๊อปก็เอารถพ่อมารับเท็นอยู่แล้ว”
“มันคงอยากดูแลให้ถึงที่สุดแหละ ปล่อยมันเหอะเท็น” พี่ท๊อปเดินมานั่งข้างเตียง ทำตัวกร่างเป็นเจ้าถิ่นเฝ้าเตียง แต่ยังไงก็เถอะนะ พรุ่งนี้ฉันก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เย้ๆ จะได้กลับบ้านสักที
การที่ฉันสลบไปหลายวันมันไม่ทำให้ฉันรู้สึกว่าเวลาหายไปเลยแม้แต่น้อย กลับดีซะอีก ฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งคร่ำครวญเรื่องพ่อให้มันยืดยาว
^^ อ่าห้า อัพเร็วแบบนี้ไม่รู้ว่าจะดีเหมือนอัพช้าๆ รึเปล่าเนอะ ^^
ความคิดเห็น