คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
CAN WE LOVE.
0
“ขอทางด้วยครับ!”
เสียงครืดคราดของล้อรถเข็นบดเบียดไปตามพื้นขณะที่กำลังแล่นด้วยความเร็วของคณะทีมแพทย์และพยาบาลทั้งหลาย บนเตียงนั้นมีร่างของหญิงสาวตั้งครรภ์กำลังโอดร้องคร่ำครวญอย่างทรมานทั้งที่ยังสวมหน้ากากออกซิเจน ช่วงระหว่างขาของเธอทั้งสองข้างนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสดสีแดง
ครืดด....
ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของพยาบาลคนหนึ่ง ก่อนที่เตียงรถเข็นจะถูกส่งเข้าไป ระหว่างนั้นก็มีร่างสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นต์ในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดวิ่งตามเข้ามาด้วย แต่ก็ถูกพยาบาลหน้าห้องห้ามปรามไว้เสียก่อน
“บุคคลภายนอกเข้าไปไม่ได้นะค่ะ!”
‘ปาร์ค ชานยอล’ ก้มขอโทษพยาบาลลงเล็กน้อยก่อนจะเดินไปรอที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน ร่างสูงทรุดนั่งลงอย่างอ่อนล้า ร่างของหญิงสาวคนนั้นคือ ‘โด มินฮี’ ซึ่งเป็นน้องสาวของเขาเอง มินฮีเป็นลูกของพ่อหม้ายคนหนึ่งซึ่งแต่งงานกับแม่ของเขาเมื่อสิบปีก่อน ถึงแม้ว่าเขากับมินฮีจะไม่ใช่พี่น้องจากสายเลือดเดียวกันแท้ๆ แต่ด้วยช่วงอายุที่ห่างกันไม่มากและความผูกพันระหว่างเธอกับเขาตั้งแต่วัยเยาว์นั้นทำให้ชานยอลรักและเอ็นดูน้องสาวคนนี้เป็นอย่างมาก
มินฮีเธอเพิ่งอายุ 18 ปี จบมัธยมปลายเมื่อไม่นานมานี้และกำลังจะได้เตรียมสู่รั้วมหาวิทยาลัย แต่เธอดันพลาดตั้งครรภ์กับแฟนหนุ่มที่คบกันมาปีกว่าๆเพราะความคึกคะนองจนลืมป้องกัน ทำให้เธอพลาดโอกาสตรงนั้นไป ชานยอลเคยได้ยินน้องสาวทะเลาะกับแฟนของเธอบ่อยๆเรื่องลูก เพราะอีกฝ่ายไม่ต้องการภาระเพิ่มและปกป้องชื่อเสียงหน้าตาของตัวเอง จึงสั่งให้น้องสาวของเขาไปทำแท้งหลายครั้ง แต่ด้วยความรักความห่วงลูกของมินฮี เธอจึงปฏิเสธการกระทำชั่วร้ายพวกนั้นเสมอมา
แต่ทว่าการทะเลาะครั้งนี้..รุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ชานยอลนั่งรอด้วยความหวังเต็มเปี่ยมนานนับหลายนาที ในใจก็เฝ้าภาวนาให้น้องสาวที่รักและลูกของเธอพ้นขีดอันตราย
“ชานยอล น้องเป็นไงบ้าง?” เสียงของหญิงวัยสี่สิบปลายๆเดินมาถามอย่างรีบร้อน บนใบหน้าของเธอมีคราบน้ำตาอยู่ไม่น้อย ชานยอลทำได้เพียงส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“ผมไม่ทราบครับ พวกหมอเพิ่งพาเธอเข้าไปในห้องฉุกเฉินเมื่อไม่นานนี้เอง”
“ทำไมน้องถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ? น้องไปทำอะไรมา? ชานยอลบอกแม่ได้ไหม?” ‘ปาร์ค ซอนยอง’ รัวคำถามใส่ลูกชายพร้อมทั้งน้ำตา ทันทีที่แม่ถามจบมือหนาก็กำแน่นอย่างโกรธแค้นเมื่อได้นึกถึงสาเหตุที่ทำให้น้องสาวของเขาต้องตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้
“ไอ้เวรนั่นมันทำ! ไอ้อินซองมันผลักน้องตกบันได!” ความโทสะทำให้ชานยอลเผลอตะคอกเสียงดัง ซอนยองลูบหลังลูกชายให้ระงับอารมณ์ลง เพราะยังไงตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในสถานที่ที่ต้องการความสงบเงียบ
“ใจเย็นๆนะชานยอล แม่รู้ว่าเราเป็นห่วงน้อง แต่ตอนนี้เราอยู่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องนั้นเราค่อยไปจัดการกับเขาทีหลัง”
“ผมกลัว..กลัวว่าน้องจะเป็นอะไรไป ภาพที่เธอนอนจมกองเลือดยังติดตาผมอยู่เลย” สองมือยกขึ้นมาปิดใบหน้าอย่างเคร่งเครียด ถ้าน้องสาวของเขาเป็นอะไรอย่างที่เขาคิดล่ะก็ เขาจะไม่ให้อภัยไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นแน่ๆ
คนที่พยายามฆ่าภรรยาของตัวเองและลูกแท้ๆในไส้!
พลั่กก..
“คุณหมอ!” ทั้งแม่และลูกชายลุกขึ้นเรียกบุคคลใหม่ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินพร้อมกันหลังจากที่นั่งรอมานานนับเกือบชั่วโมง
“พวกคุณเป็นญาติของผู้ป่วยเคสล่าสุดใช่ไหมครับ?”
“ครับ น้องสาวของผมเป็นยังไงบ้าง? ปลอดภัยไหมครับ? แล้วเด็กในท้องล่ะ?”
“เด็กในท้องปลอดภัยครับ แต่อาจจะต้องส่งไปที่แผนกสูตินรีเวชเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเด็กคลอดก่อนกำหนด ส่วนน้องสาวของคุณ...เธอตกเลือดในปริมาณมากจนทำให้เธอเสียชีวิต”
อะไรนะ...
“หมอเสียใจด้วยนะครับ”
สิ้นคำบอกของคุณหมอ ภายในสมองของชานยอลนั้นว่างเปล่า หยดน้ำตาใสที่คลออยู่เต็มเบ้าไหลออกมาตามใบหน้าโดยที่เขายังไม่รู้ตัว ข้างๆกันได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนักของผู้เป็นมารดา เธอทรุดลงอย่างเจ็บปวด
“ฮึกก...แม่ครับ” ชานยอลลงไปประคองแม่ให้ลุกขึ้นมาก่อนจะพาไปนั่งที่เก้าอี้เหมือนเดิม สองแม่ลูกกอดปลอบประโลมกันทั้งน้ำตาและความโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปอีกคนหลังจากที่เพิ่งเสียหัวหน้าครอบครัวไปเมื่อไม่กี่ปีมาก่อนนี้
ไม่นานเตียงรถเข็นซึ่งมีร่างผู้เป็นน้องสาวนอนสิ้นลมหายใจอยู่ก็ถูกขับเคลื่อนออกมา บนร่างนั้นถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว ร่างสูงลุกขึ้นตามไปดูพร้อมขออนุญาตให้บุรุษพยาบาลหยุดเข็นร่างนั้นสักครู่ มือหนาเปิดผ้าคลุมตรงช่วงบนออก เผยให้เห็นใบหน้าของมินฮีซึ่งขาวซีดไร้ความสดใสอย่างที่เคยเป็นมาก่อน เขาลูบที่หัวเธอด้วยความเอ็นดูเหมือนที่ชอบทำตอนอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าอย่างไรมินฮีก็เป็นน้องสาวที่น่ารักในสายตาของชานยอลเสมอ
“หลับให้สบายนะน้องสาวของพี่ ส่วนเรื่องลูกของเธอพี่กับแม่จะช่วยดูแลกันเอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่รักเธอเสมอ โด มินฮี...ฮึกก” เขายกมือขึ้นมาปาดน้ำตาบนใบหน้าที่ยังไหลไม่หยุด บุรุษพยาบาลพาร่างของมินฮีออกไป สองแม่ลูกที่อยู่จึงหันกลับมากอดพร้อมน้ำตาอีกครั้ง ความสูญเสียครั้งนี้ช่างหดหู่และเจ็บปวดที่สุดอย่างที่เคยเป็นมาก่อน
ชานยอลพาแม่ของเขาไปนั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล ส่วนเขานั้นจะไปทำธุระเรื่องเกิดลูกของมินฮี นางพยาบาลพาชานยอลมาที่แผนกสูตินรีเวชเพื่อให้เห็นเด็กน้อยที่เพิ่งคลอดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ ลูกของมินฮีนั้นเป็นผู้ชาย ตัวของเขายังเล็กและบอบบางเนื่องจากคลอดก่อนกำหนด พยาบาลบอกว่าเด็กชายยังมีสภาพร่างกายที่ยังอ่อนแอ จึงต้องอยู่ในการดูแลของหมอไปอีกสักระยะ
“คุณชานยอลมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับคุณ โด มินฮีคะ?” พยาบาลคนหนึ่งถามขณะที่เขียนบางอย่างในเอกสารแผ่นนึง
“เป็นพี่ชายครับ”
“แล้วพ่อของเด็ก—”
“ไม่ต้องหรอกครับ คนพรรค์นั้นไม่สมควรเป็นพ่อของเด็กซะด้วยซ้ำ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเจ็บใจทุกครั้งที่นึกถึงใบหน้าคนเลวที่พรากชีวิตน้องสาวของเขา นางพยาบาลชะงักเล็กน้อยก่อนจะเขียนข้อมูลต่อไปอย่างเงียบๆ
“เอ่อ..แล้วชื่อเด็กล่ะคะ คุณชานยอลจะตั้งให้เลยไหม?” จบคำถาม ร่างสูงก็นึกคิดอย่างหนัก เขาเคยได้เห็นมินฮีเปิดหนังสือเพื่อหาชื่อตั้งให้ลูกบ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะชอบชื่อไหน...
‘ชานยอลอา ถ้ามินฮีจะตั้งชื่อลูกว่าคยองซูนี่เพราะไหม’
“อ่า คยองซูครับ...
.
.
.
โด คยองซู”
ฟิคเรื่องนี้ไม่ใช่ฟิคดราม่านะ...
ถ้าชอบอย่าลืมเม้น+โหวต หรือ แฮชแท็ก
#ฟิคลุงชานของคยอง
ความคิดเห็น